Share

บทที่ 1106

Author: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
“ข้ากับท่านอ๋องตวนหรือ?” หงอิงที่ได้ยินคำกล่าวเอ่ยถามเฉินฝานด้วยความประหลาดใจทันที

เฉินฝานพยักหน้า เขาดึงจดหมายฉบับหนึ่งที่เพิ่งเขียนเสร็จตอนอยู่ในสถานพยาบาลออกมาจากในแขนเสื้อ ก่อนจะยื่นให้หงอิง

“เจ้าจงนำจดหมายฉบับนี้ มุ่งหน้าไปยังแคว้นหลู่พร้อมกับท่านอ๋องตวนแล้วมอบให้โอวหยางน่าหลันเดี๋ยวนี้เลย หลังจากที่เห็นจดหมายของข้าแล้ว โอวหยางน่าหลันจะรู้ว่าต้องทำอย่างไร”

“ข้าไม่ไป!”

เมื่อได้ยินคำพูดของเฉินฝาน หงอิงก็ปฏิเสธโดยไม่คิดเลยสักนิดเดียว

“เจ้าไม่มีอำนาจตัดสินใจ นี่คือคำสั่ง!” เฉินฝานตอบนางด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม

“เช่นนั้นก็ให้ท่านอ๋องตวนไปคนเดียวก็ได้!”

“ไม่ได้ พวกเจ้าสองคนต้องไปด้วยกัน!” เฉินฝานเอ่ยอย่างเฉียบขาดอีกครั้ง

อ๋องตวนมีนิสัยหุนหันพลันแล่น พูดจาตรงเกินไปไม่รู้จักอ้อมค้อม โดยเฉพาะยามที่ใจร้อน ล่วงเกินผู้คนได้ง่าย มักจะทำให้เรื่องดีกลายเป็นเรื่องแย่

หากให้หงอิงไปคนเดียว แต่หงอิงไม่คุ้นเคยกับแคว้นหลู่ อาจจะเดินทางอ้อมได้ มีอ๋องตวนไปด้วยก็ไม่ต้องกลัวแล้ว ถึงอย่างไรอ๋องตวนกับเขาก็อยู่ที่แคว้นหลู่มาครึ่งปี ติดตามเขาไปดับไฟทั่วทุกที่ คุ้นเคยกับสถานที่ทุกแห่งของแคว้นหลู่มาก

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1107

    “ไม่ ๆๆ” เฉินฝานยิ้มพลางส่ายหน้า “ข้าไม่หลงกลเจ้าหรอก แม่นางน้อยอย่างเจ้าหน้าตางดงาม แต่จัดการคนโหดนัก”นัยน์ตางดงามของหวงหวั่นเอ๋อร์เปลี่ยนเป็นดุดัน “ดังนั้นข้าแนะนำให้เจ้ารีบกลับเมืองหลวงไว ๆ แล้วทำลายหนังสือสัญญาหมั้นให้ข้าแต่โดยดีเสีย” เฉินฝานทำหน้าลำบากใจ “ข้าก็อยากรีบกลับเมืองหลวงไว ๆ แต่ตอนนี้ข้าไปไม่ได้ ข้าต้องแก้ปัญหาเรื่องที่คนที่โดนยาพิษนะ”หวงหวั่นเอ๋อร์ “ทำร้ายชาวบ้านมากมายถึงเพียงนั้น เจ้าต้องให้คำอธิบายกับพวกเขาจริง ๆ” “ใช่ ๆ ข้าย่อมให้คำอธิบายแก่พวกเขา แม่นางหวง” เฉินฝานชี้ไปยังทหารและชาวบ้านที่ต่อสู้กัน“หากเข้าอยากให้ข้าพาเจ้าออกไป ข้าบอกเจ้าเลยว่าไม่มีทาง” หวงหวั่นเอ๋อร์คิดว่าเฉินฝานอยากให้นางพาเขาออกไปเลยปฏิเสธทันที “ไม่ใช่ ตอนนี้ข้าคงไม่จากไปไหน แค่อยากรบกวนแม่นางช่วยพาคนผู้นั้นมาให้ข้าที” คนผู้นั้นที่เฉินฝานพูดถึงก็คือฟางต้าไห่ ผู้บัญชาการกองทหารคุ้มกันเมืองลู่ตู เวลานี้ฟางต้าไห่กำลังลุกลี้ลุกลนอยู่ท่ามกลางควา วุ่นวายฟางต้าไห่สามารถนำทัพไปรบได้ แต่ตอนนี้คนที่เผชิญหน้าด้วยคือชาวเมืองลู่ตู เขาไม่ลงออกคำสั่งโหดเหี้ยมได้ หรือบอกได้ว่าเขาไม่อยากโจมตีชาวบ้า

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1108

    “เวลาเช่นนี้ยังจะอธิบายเหตุผลบ้าอะไรอีก!”เฉินฝานชักปืนกลมือออกมาจากหลัง ถลกชายเสื้อขึ้น แบกปืนกลมือสาวเท้าเดินอย่างฉับไวไปหาชาวบ้านเหล่านั้นที่กรูกันเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง “ใต้เท้า ใต้เท้าขอรับ!” พานอีเฟยทำหน้าตกใจแล้ววิ่งตามไป แต่เขาจะตามเฉินฝานทันได้อย่างไรเฉินฝานที่เดินเข้าไปแล้วก็ชูปืนขึ้นมาก่อนจะเหนี่ยวไกทันที“ปัง ๆ!”เสียงปืนดังขึ้นสองนัด “ใต้เท้า...”พานอีเฟยอยากรีบมาอ้อนวอนขอให้หยุดแต่ก็ช้าไปเสียแล้วร่างสองร่างล้มลงกับพื้นต่อหน้าพานอีเฟยสองคนนั้นที่ล้มลงไปศีรษะแตกกระจาย เลือดกับสมองไหลออกมาที่พื้นไม่ขาดสาย นัยน์ตาของทั้งคู่เบิกกว้างมากที่สุด ตายไปโดยที่มองไปทางด้านหน้าสองคนนี้เป็นทหารคุ้มกันเมือง ผู้บัญชาการฟางต้าไห่ให้พวกเขาขัดขวางชาวบ้านที่กรูกันเข้ามา ทั้งสองไม่เพียงไม่เชื่อฟังคำสั่งของฟางต้าไห่ที่ให้ขัดขวางผู้คน ตรงกันข้ามพวกเขากลับปล่อยคนเข้ามา“อ๊า~”เสียงแหลมร้องตกใจทำลายความเงียบงัน“ฆะ ฆ่าคนแล้ว!”ชาวบ้านเหล่านั้นเคยเห็นฉากนองเลือดเช่นนี้ที่ไหนกัน แต่ละคนทั้งแตกตื่นทั้งอลหม่านทั้งหวาดกลัว ตะโกนเสียงดังลั่น“สวรรค์ เขาเป็นมารร้ายจริง ๆ ทหารสองคนนี้

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1109

    “พวกเจ้าฟังสิ ขุนนางชั่วพูดอะไรกัน เขาวางยาพิษทำร้ายญาติพี่น้องของพวกเรา ตอนนี้ยังบอกว่าพวกเราเป็นผู้ก่อการร้ายอีก”“พี่น้องทั้งหลาย บุกเลย วันนี้ถ้ามันไม่ตาย ก็เป็นพวกเราที่ตาย!”“มัวอึ้งอะไร จัดการสิ!” เฉินฝานยกเท้าขึ้นมาเตะก้นของฟางต้าไห่อย่างแรงเฉินฝานมีพละกำลังเยอะมาก เตะฟางต้าไห่ไปถึงเบื้องหน้าชาวบ้านที่กรูกันเข้ามาพวกนั้นในคราวเดียว อีกทั้งยังทำให้ชาวบ้านพวกนั้นตกใจกลัวจนถอยหลังไป แต่ก็แค่นี้เท่านั้น ชาวบ้านเหล่านั้นถือจอบบุกเข้ามาราวกับสุนัขคลั่งอีกครั้งฟางต้าไห่ตกอยู่ในสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกเบื้องหน้าคือชาวบ้านที่กรูกันเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง ด้านหลังคือท่านอัครเสนาบดีที่อยู่ใต้หนึ่งเหนือหมื่น พวกชาวบ้านที่อยู่เบื้องหน้านี้ต่างใช้ชีวิตอยู่ภายใต้สายตาของเขาทุกวัน โดยปกติแล้วพวกเขาล้วนอ่อนโยนจิตใจดี หากลงมือกับพวกเขาอย่างรุนแรง เขาก็ทำใจเหี้ยมไม่ได้แต่คนที่อยู่ด้านหลังผู้นี้กุมความเป็นความตายของเขาไว้“ปัง ๆๆ!” เฉินฝานยกปืนกลมือขึ้นมากราดยิงไปยังพื้นที่ว่างด้านหลังของฟางต้าไห่เป็นชุด!ฟางต้าไห่ตกใจกลัวกระสุนจนสะดุ้งโหยง ออกคำสั่งตามสัญชาตญาณว่า “เร็วเข้า ขวางพวก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1110

    “รับคำสั่ง!”“ย่าห์!”หลี่ชิ่งที่รับคำสั่งแล้วก็ควบม้ามุ่งหน้าไปทันที โดยมีทหารม้าสวมชุดเกราะสีดำกลุ่มใหญ่ติดตามอยู่ด้านหลังของเขา“กุบกับ ๆ!”เสียงกีบเหล็กเหยียบย่ำพื้นดังเป็นชุด ฝุ่นควันที่มากับกีบเหล็กสูงสองจั้ง ม้าตัวผู้ที่แข็งแรงกำยำโผล่ขึ้นเลือนรางท่ามกลางฝุ่นควันโขมงทหารม้าผ่านตัวพานอีเฟยไปอย่างรวดเร็ว ฝุ่นดินตลบใส่ตัวพานอีเฟย แต่พานอีเฟยไม่สนใจฝุ่นดินบนร่างกายตนเอง เขารีบปาดใบหน้าของตนเองทีหนึ่ง เบิกตาโตมองทหารม้าพุ่งผ่านกายของเขาไป แววตาเปลี่ยนจากความสงสัยมาเป็นความแน่ใจ“ทหารม้าทมิฬ พวกเขาคือทหารม้าทมิฬ!” ทหารม้าทมิฬเป็นทหารม้าที่อดีตฮ่องเต้ทรงฝึกฝนออกมา ปกติแล้วมีแค่ตอนที่กวาดล้างขุนนางกบฏเท่านั้นถึงจะใช้ทหารม้าทมิฬหลังจากที่อดีตฮ่องเต้กับซูซิวฉีจากไปแล้ว เสิ่นหมิงหยวนก็ควบคุมกองทหารม้าทมิฬไว้“ใต้เท้าเฉิน ระวังทหารม้าทมิฬทางด้านหลัง!”พานอีเฟยตะโกนเสียงดังใส่เฉินฝานตามสัญชาตญาณเพื่อเตือนเขาทหารม้าทมิฬ!ทุกคนต่างก็ตกตะลึงผู้คนทั่วทั้งต้าชิ่งต่างรู้ว่าเมื่อทหารม้าทมิฬเคลื่อนไหวก็คือคำสั่งจากมัจจุราชมาถึงแล้ว ไม่มีใครสามารถรอดชีวิตจากภายใต้กีบเหล็กของทหารม้าท

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1111

    ช่างเป็นปราณกระบี่ที่แข็งแกร่งเสียจริงหลี่ชิงควบคุมม้าให้ทรงตัวมั่นคง มองไปทางหวงหวั่นเอ๋อร์ลมอ่อนๆโชยมา ทำให้ชุดกระโปรงสีครามลอยพลิ้ว ปอยผมบนหน้าผากหวงหวั่นเอ๋อร์สั่นไหวเบา ๆ เรือนร่างที่สูงโปร่งใบหน้าที่งดงาม แววตาที่เล่ห์เหลี่ยมเย็นชา“แม่นาง ข้าแค่ต้องการชีวิตโจรขายชาติด้านหลังเจ้าเท่านั้น ขอเพียงแค่เจ้าหลีกทางให้ ข้าก็จะไม่ถือโทษอันใด”“คนของเจ้าทำให้ข้าตกใจ เจ้ายังมิได้ขอโทษข้าเลย ข้ามีความจำเป็นอันใดที่ต้องหลีกทางให้เจ้า” หวงหวั่นเอ๋อร์กะพริบตากลมโต เสียงใสกังวานก็ยังไพเราะเสนาะหู สีหน้าของหลี่ชิ่งถมึงทึงขึ้นมาทันที “แม่นาง อย่าแข็งขืนมิดื่มสุราคารวะ แต่ดึงดันจะดื่มสุราลงทัณฑ์”“สุราคารวะ? สุราลงทัณฑ์งั้นรึ? มันคือสิ่งใดกัน?” หวั่นเอ๋อร์เอียงศีรษะเล็กน้อย ถามเฉินฝานอย่างจริงจัง “สิ่งใดเลิศรสกว่ากัน”“เอ่อ...” เฉินฝานเอามือกุมขมับ ตาเฒ่าหวงคงจะสอนลูกสาวเพียงศิลปะการต่อสู้เท่านั้น มิได้สอนความรู้ทั่วไปให้นางแน่ ๆ“ช่างเถอะ เจ้าไม่ต้องบอกข้าหรอก สุราลงทัณฑ์!” หวงหวั่นเอ๋อร์เงยหน้าสบตากับหลี่ชิ่ง “ข้าชอบดื่ม!”ระหว่างที่พูด สะบัดกระบี่ในมือ ปราณกระบี่แผ่พลังออกมาอีกครั

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1112

    เสียงฝีเท้าม้าที่ไล่ล่าหวงหวั่นเอ๋อร์เข้ามาใกล้เรื่อย ๆ ฉินเย่ว์เหมยยังคงถือกระบี่อ่อนที่มีรังสีเย็นยะเยือกเปล่งประกายอยู่ ทั้ง ๆที่ตอนนี้มีผู้คนมากมายแท้ ๆ ทว่ากลับมิมีผู้ใดกล้าปริปากพูดลมโชยมาทำให้ใบไม้เสียดสีกันดังพึ่บพั่บ เป็นความรู้สึกอึดอัดใจที่น่าหวาดกลัวคนอื่นมิกล้าปริปากพูดเพราะเกรงว่าฉินเย่ว์เหมยจะลงมือสังหาร แต่ที่พ่อลูกตระกูลเสิ่นมิพูด เพราะสงสัยตัวตนของฉินเย่ว์เหมยแววตาเย็นยะเยือกเข้มงวดของฉินเย่ว์เหมย มีความกระวนกระวายที่ยากจะสังเกตได้อยู่ มือถือกระบี่อ่อนอยากจะเก็บดาบทว่าไม่รู้วิธีก่อนที่ซูซิวฉีจะตายก็สั่งเสียย้ำแล้วย้ำอีกว่าฉินหย่งคังมิรู้วิชากระบี่ใดๆทั้งสิ้น มิว่าจะเวลาใดก็อย่าใช้วิชากระบี่เด็ดขาด มิเช่นนั้นเสิ่นหมิงหยวนจะต้องสงสัยว่าเขามิใช่ฉินหย่งคังเป็นแน่หากภารกิจวันนี้มิสำเร็จ ตัวตนถูกเปิดเผยอย่างรวดเร็วปานนั้น ก็คงจะเป็นเรื่องยุ่งยากอย่างมากเป็นแน่“ฝ่าบาท ท่านรู้วิชากระบี่ด้วยรึ?” เสิ่นหมิงหยวนจ้องกระบี่ในมือฉินเย่ว์เหมยพลางกล่าวถาม น้ำเสียงและท่าทางมิเหมือนขุนนางพูดกับจักรพรรดิ แต่เหมือนผู้พิพากษาพูดกับผู้ทำผิดเสียมากกว่า“บังอาจ!”เสียงที

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1113

    “ต้าเฉียง เจ้าจากไปทั้งแบบนี้ พวกเราสามแม่ลูกจะทำเช่นใดเล่า?”“ลูกชายของข้า อย่าห้ามข้า ลูกชายข้าตายแล้ว ชีวิตที่เหลืออยู่จะมีความหมายอันใด”“พ่อ พ่อ พ่อข้ายังมิตาย พวกเจ้าจงขวางไว้อย่าให้เขาเอาไปฝัง เขายังมิตาย เขายังมิตาย!”ยังมิทันถึงศูนย์บรรเทาทุกข์ ก็ได้ยินเสียงโวยวายเสียงร้องไห้เป็นบ้าเป็นหลังมาจากที่ไกล ๆ เฉินฝานและฉินเย่ว์เหมยมองหน้ากันไปมา ในขณะเดียวกันก็เร่งฝีเท้าไปด้วยทางเข้าศูนย์บรรเทาทุกข์ เหล่าพลทหารทยอยขนศพไปด้านนอกอย่างต่อเนื่อง ญาติของคนตายเหล่านั้นร้องไห้ตะโกนอยู่ข้างกาย คิดจะขวางมิให้เหล่าทหารขนศพญาติที่เสียชีวิตไปแล้วของพวกเขาออกไปเหล่าพลทหารเมินเฉยต่อคำขอของญาติเหล่านั้น ทำตามคำสั่งที่ได้รับมอบหมายอย่างเคร่งครัด หากจัดการคนตายมิทันเวลาจะทำให้คนอีกจำนวนมากต้องพลอยเสียชีวิตไปด้วยคนที่เสียชีวิตส่วนใหญ่ล้วนเป็นชายหนุ่มที่ร่างกายกำยำ คนที่วิ่งตามศพเหล่านั้นล้วนเป็นคนแก่สตรีและเด็กเล็ก ตั้งปากทางเข้าศูนย์บรรเทาทุกข์จนไปถึงสุดทาง ล้วนเป็นภาพร่ำไห้กู่ร้องอย่างสิ้นหวัง ราวกับนรกบนดินมิมีผิด“พ่อ พ่อ ปล่อยพ่อข้าเดี๋ยวนี้!” มีเด็กสาวเสื้อผ้าขาดรุ่งริ่งคนหนึ่งหกล้มต

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1114

    ราษฎรที่เดือดดาลพากันปิดล้อมอีกครั้ง เรื่องครั้งนี้เกี่ยวกับความเป็นความตาย เฉินฝานมิมีเวลามาอธิบายเหตุผลกับคนเหล่านี้ จึงยิงปืนออกไปนัดสองนัด หลังจากที่ทำให้ราษฎรตกใจจนล่าถอยไปแล้ว ก็สั่งให้พลทหารเหล่านั้นขนย้ายคนกลับมาที่ศูนย์บรรเทาทุกข์ทันทีราษฎรถูกเฉินฝานทำให้ตกใจกลัวจนล่าถอย เหล่าพลทหารทำตามที่เฉินฝานสั่ง“นี่กำลังทำอันใดกัน หากมิจัดการศพให้ทันเวลา ผลที่ตามมาก็จะ...”หมอหลี่วิ่งออกมาจากด้านในศูนย์บรรเทาทุกข์มากล่าวถาม ถูกเฉินฝานดึงคอเสื้อโยนร่างไปด้านหน้าทันที “รักษาได้ก็ต้องรักษาสิ หากรักษามิได้ก็ไสหัวหลบไป“ท่านพ่อ ท่านคิดว่าเขาขนคนเหล่านั้นกลับมาทำอันใด?”เสิ่นหยวนเลี่ยงที่ตามมากล่าวถามเสิ่นหมิงหยวน“คนเหล่านั้นล้วนเสียชีวิตไปแล้ว เฉินฝานคงจะมิได้คิดว่าตนเองเป็นเทพเจ้าจริงๆ เพียงเพราะถูกเหล่าราษฎรเมืองเฟิ่งหวงเรียกว่าท่านเทพเจ้าไม่กี่คำกระมัง”พรรคพวกข้างกายเสิ่นหมิงหยวนเยาะเย้ยเฉินฝาน ได้ทั้งเยาะเย้ยและถือโอกาสประจบประแจงพ่อลูกตระกูลเสิ่นไปด้วยเสิ่นหมิงหยวนถลึงตามองคนที่เยาะเย้ยเฉินฝานเจ้าโง่ มิรู้จักดูสถานการณ์“ท่านพ่อ เรื่องราษฎรเป็นเรื่องใหญ่หลวง พวกเราก็ไปดู

Latest chapter

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1315

    “อะไรนะ!?”“ตอนนี้องค์หญิงเสี่ยวฉู่พาฝ่าบาทไปที่ประตูอู่แล้วขอรับ เจ้าสิ่งนั้น ปะ ปะ...”“ปืนไรเฟิล”“ใช่ ๆ ปืนไรเฟิล ปากกระบอกปืนไรเฟิลจ่อพระเศียรของฝ่าบาทอยู่เลยขอรับ!”“หา นี่เป็นเพราะอะไรกัน?”บรรดาพี่สาวน้องสาวตระกูลฉินได้ยินข่าวขึ้นมา“กราบทูลบรรดาองค์หญิง ข้อเรียกร้องขององค์หญิงเสี่ยวฉู่คืออยากให้ท่านอัครเสนาบดีกับฝ่าบาทอภิเษกสมรสกันเดี๋ยวนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ”“เหลวไหล!”เฉินฝานพุ่งตัวออกไปราวกับพายุเวลานี้บรรดาพี่น้องตระกูลฉินที่เพิ่งแสดงท่าทีรีบร้อนทำหน้าร้อนใจกลับมีสีหน้าแจ่มใส ถึงขนาดที่นั่งลงปรึกษาหารือกันฉินเย่ว์โหรว “พี่หญิงรอง ท่านมีฝีมือดี ท่านรีบไปขวางอยู่ที่หอด้านบนประตูอู่ อย่าให้นายท่านลงมา” ฉินเย่ว์เจียว “ไม่มีปัญหา พอถึงเวลานั้นข้าจะเรียกน้องหวั่นเอ๋อร์ นายท่านหนีไม่รอดแน่”ฉินเย่ว์ฉิน “เช่นนั้นข้าจะให้พี่น้องในวังเซียวเหยาก่อนหน้านี้ไปเดินเล่นแถว ๆ ประตูอู่ให้หมดเลย จะต้องครึกครื้นเป็นแน่ รับรองว่าพี่น้องทหารองครักษ์พวกนั้นจะต้องมองสาวงามอย่างไม่หวาดไม่ไหว”สามพี่น้อง “ความปรารถนาของเสี่ยวฉู่ พวกเราในฐานะพี่สาวจะต้องช่วยอย่างเต็มที่!”เมื่อมองถนนละแวกป

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1314

    “ข้าไม่ได้ขัดขืนจริง ๆ” เย่ลวี่เลี่ยก้มหน้าลง ชายสูงแปดฉื่อทำสีหน้าที่เต็มไปด้วยความท้อแท้ใจ เขาอยากขัดขืนอยู่แล้ว แต่ฉินเย่ว์ฉู่ไม่ได้ให้โอกาสนั้นกับเขาเลยตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่บุกเข้ามาในกระโจมใหญ่ของเย่ลวี่เลี่ย ก็ยิงปืนกำจัดองครักษ์ของเย่ลวี่เลี่ยก่อนพูดแล้วก็น่าอับอาย เย่ลวี่เลี่ยที่เคยผ่านศึกมาอย่างโชกโชนตกใจกลัวรูเลือดตรงกลางหน้าผากขององครักษ์ เขาไม่เคยเห็นอาวุธที่รวดเร็วขนาดนี้มาก่อนเลยได้ยินแค่เสียงดังปัง หน้าผากขององครักษ์ก็มีรูเลือดใหญ่ขนาดนี้แล้ว ความเร็วที่แม้แต่เทพเซียนก็ทำไม่ได้ ความแม่นยำที่แม้แต่เทพเซียนก็ยังทำไม่ได้ในตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่ยกปืนขึ้นแล้วลั่นไกอีกครั้ง เมื่อเย่ลวี่เลี่ยได้ยินเสียง เขาก็ตกใจจนสลบไปทันที หลับไปตื่นหนึ่งถึงค่อยพบว่าฉินเย่ว์ฉินยิงใส่หมวกเล็กของเขาเท่านั้นตกใจสาวน้อยจนสลบไป ไม่ว่าสือจิ่งซานผู้นี้จะถามอย่างไร เย่ลวี่เลี่ยก็ไม่บอกเขา .....ในคืนที่เย่ลวี่เลี่ยถูกจับ ข่าวก็ไปถึงเมืองหลวงแล้ว “เครื่องอัดเสียงพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องเสียง...” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยอ่านคำเหล่านี้ก็ถามเฉินฝานด้วยความมึนงงว่า “จดหมายของเสี่ยวฉู่บอกว่า นางแค่อาศ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1313

    “นางไม่รู้หรือว่าพวกเราไม่อยากลงมือจริงจัง?” “พอไปถึงค่ายทหารของชาวหู ไม่ใช่แค่โดนฆ่าธรรมดาแบบนั้นหรอกนะ” ชาวหูไม่มีทางปล่อยสตรีชาวต้าชิ่งใด ๆ ที่ตกอยู่ในมือพวกเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสตรีชาวต้าชิ่งที่หน้าตางดงามฐานะสูงศักดิ์อย่างฉินเย่ว์ฉู่ พฤติกรรมของพวกเขาใช้คำว่าเดรัจฉานมาอธิบายยังไม่พอเลย สือจิ่งซานสะบัดแขนเสื้อ “พอได้แล้ว สตรีนางเดียวไม่มีค่าพอให้เราต้องใส่ใจหรอก นางอยากตายก็ปล่อยนางไปเถิด โจวจวี่ เจ้าส่งคนไปบอกเยลวี่เลี่ยว่าให้พวกเขาเหลือศพไว้ครบถ้วน ข้าจะซื้อศพไว้ใช้ประโยชน์” ไม่ต้องให้สือจิ่งซานรอนานเกินไป วันรุ่งขึ้นทหารลาดตระเวนก็มารายงาน “ว่าไงนะ? เยลวี่เลี่ยมาด้วยตนเอง?”“ท่านแม่ทัพใหญ่ หากพูดให้ตรงคือเยลวี่เลี่ยโดนฮูหยินเล็กของท่านอัครเสนาบดีจับกุมมาขอรับ”“เจ้าพูดอีกทีสิ?”ทหารลาดตระเวนพูดซ้ำถึงสามรอบเต็ม ๆ สือจิ่งซานก็ยังไม่เชื่อไม่ใช่แค่สือจิ่งซานที่ไม่เชื่อ ต่อให้เป็นผู้ถูกจับกุมอย่างเยลวี่เลี่ยก็ไม่เชื่อเช่นกัน เขาจะโดนสตรีนางเดียวจับกุมได้อย่างไรยิ่งไปกว่านั้นสตรีผู้นี้ยังอายุน้อย พาทหารหญิงรุ่นราวคราวเดียวกันมาแค่ร้อยกว่าคนเมื่อฉินเย่ว์ฉู่พาเยลวี่เล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1312

    สือจิ่งซานยกมุมปากยิ้มคลุมเครือ “แปรพักตร์อันใดกัน ฝ่าบาทกับท่านอัครเสนาบดีเห็นอกเห็นใจกองทัพหมาป่าเรา จึงส่งสะใภ้คนเล็กมา เช่นนั้นกองทัพหมาป่าเราย่อมต้องต้อนรับสะใภ้ท่านนี้ให้ดี ๆ”“แม่ทัพใหญ่กล่าวถูกต้อง พวกเราต้อง ‘ต้อนรับ’ ให้ดี ๆ!” โจวจวี่พูดคล้อยตามทันที ไม่นานนักก็มีคำสั่งจากในกระโจมใหญ่ ให้ทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนยุคโบราณที่จารีตเคร่งครัดอย่างยิ่ง การเปลือยท่อนบนเช่นนี้เป็นพฤติกรรมดูหมิ่นไม่ให้ความกียรติสตรีอย่างรุนแรงยิ่งกว่านั้นฉินเย่ว์ฉู่เป็นภรรยาเอกของอัครเสนาบดีขั้นหนึ่ง องค์หญิงแห่งต้าชิ่ง พระขนิษฐาแท้ๆ ของฮ่องเต้หญิงหากฉินเย่ว์ฉู่เป็นเพียงสตรีทั่วไปในยุคนี้ เกรงว่ามีแต่จะตกใจจนมือไม้อ่อนไปหมดทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนออกจากกระโจม รอดูท่าทางตกใจกลัวจนร้องไห้โฮยกใหญ่ของฉินเย่ว์ฉู่“ผู้ชายมากมายถึงเพียงนี้ข่มขู่เด็กสาวคนเดียวจะไม่เกินไปหน่อยหรือ” มีบางคนรู้สึกว่าแบบนี้ไม่ค่อยดีนัก แต่คำพูดของเขาก็โดนคนอื่นสวนกลับทันที “เกินไปอันใดเล่า เฉินฝานเป็นคนส่งมา ให้เขาหยามพวกเราได้เท่านั้น แต่ไม่ยอมให้พวกเราตอบโต้คืนหรือ? เปลือย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1311

    เย่ว์หนูได้รับบาดเจ็บในระหว่างที่ปกป้องเฉินฝานครั้งหนึ่ง ร่างกายของนางตอนนี้จึงไม่แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อน เดิมทีเฉินฝานอยากให้หวงหวั่นเอ๋อร์ตามฉินเย่ว์ฉู่ไป มีหวงหวั่นเอ๋อร์อยู่ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยของฉินเย่ว์ฉู่ ผลปรากฏว่าฉินเย่ว์ฉู่ปฏิเสธแม้กระทั่งหวงหวั่นเอ๋อร์ด้วยฉินเย่ว์ฉู่พาทหารหญิงไปหนึ่งร้อยกว่าคน มุ่งตรงสู่ทางเหนือ บุกไปยังกองทัพหมาป่าอย่างกล้าหาญ “เจ้าปล่อยให้นางไปเช่นนี้หรือ?” คนที่ตำหนิเฉินฝาน ไม่ใช่แค่พี่น้องตระกูลฉินทั้งสามคนในจวนสกุลเฉิน แม้แต่ฉินเย่ว์เหมยที่อยู่ในวังหลวงก็รีบออกมาเช่นกันนางคิดว่าไม่ว่าอย่างไร อย่างน้อยที่สุดเฉินฝานต้องให้ฉินเย่ว์ฉู่นำกองพลมือปืนไป“เย่ว์ฉู่เป็นน้องเล็กของพวกเจ้า น้องเล็กของพวกเจ้ามีนิสับแบบไหน พวกเจ้าไม่รู้เลยหรือไร?” คำพูดประโยคเดียวของเฉินฝานทำให้พวกนางสำลักแล้วแม้ว่าฉินเย่ว์ฉู่จะเป็นน้องเล็กสุดในตระกูลฉิน ทว่าตั้งแต่เด็กจนโต นางมีความคิดของตัวเองมากที่สุด ขอเพียงเป็นเรื่องที่นางตัดสินใจแล้ว ไม่มีใครสามารถทำให้นางเปลี่ยนใจได้“แต่ว่า...” ฉินเย่ว์โหรวที่เป็นคนกังวลใจมากที่สุด ขมวดคิ้วมุ่น ดูกลัดกล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1310

    การปรากฏตัวของนาง ทำให้ทุกคนรู้สึกปีติยินดีกันมากแต่ฉินเย่ว์เจียวกลับถลึงมองสตรีผู้นั้น “พอได้แล้ว เสี่ยวฉู่เจ้าเด็กตัวแสบ แสร้งทำตัวเป็นผู้ใหญ่อันใด ยังไม่รีบเข้ามาอีก?” ฉินเย่ว์ฉู่ขี่ม้าเข้ามา ขณะที่นางผ่านฉินเย่ว์เจียวยังไม่ลืมเถียงกลับว่า “พี่หญิงรอง ข้าอายุยี่สิบแล้ว เป็นผู้ใหญ่ตั้งนานแล้วนะ”ฉินเย่ว์เจียวเชิดหน้าขึ้นสูง “ไม่ว่าเจ้าจะอายุเท่าไหร่ ถึงอย่างไรในสายตาข้า เจ้าก็เป็นเด็กตลอดกาล” ฉินเย่ว์ฉู่ควบม้าตรงมาหาเฉินฝาน แล้วฟ้องเขาว่า “นายท่านดูสิเจ้าคะ พี่หญิงรองรังแกข้าอีกแล้ว นางรังแกข้ามาตลอด ท่านไม่จัดการนางบ้างหรือ?”เฉินฝานมองฉินเย่ว์ฉู่ที่สดใสมั่นใจในตัวเองตรงหน้า ภาพที่เขาเห็นฉินเย่ว์ฉู่ครั้งแรกเมื่อสิบปีก่อนฉายขึ้นมาในสมอง เกิดความรู้สึกราวกับว่าเวลาผ่านไปชาติหนึ่งเด็กสาวที่ขี้กลัวในวันวาน บัดนี้กลายเป็นโฉมสะคราญที่มีสง่าราศี เฉินฝานรู้สึกภาคภูมิใจเล็กน้อย“เหตุใดที่กลับมาตอนนี้ ไม่ต้องเข้าเรียนแล้วหรือ?” เฉินฝานถามตั้งแต่ฉินเย่ว์ฉู่อายุสิบห้า เฉินฝานก็ส่งนางไปเรียนที่โรงเรียนสตรีในเมืองเซียนตู“นายท่าน ข้าน้อยเรียนจบแล้วเจ้าค่ะ”“เรียนจบแล้ว?”“ข้าน้อยเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1309

    วันนี้เป็นวันหยุดพักผ่อน ซึ่งทั้งเดือนจะมีเพียงวันเดียวเท่านั้น นี่เป็นวันที่หาได้ยาก ในฐานะที่ฉินเย่ว์โหรวเป็นภรรยาเอกที่ดูแลบ้านย่อมไม่ปล่อยให้หลุดมือไปง่าย ๆ นางได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าหลายวันแล้วว่าวันนี้พวกเขาจะไปเที่ยวเล่นกินอาหารที่ชานเมืองกันทั้งครอบครัวนี่เป็นสิ่งที่เฉินฝานเสนอขึ้นเมื่อหลายปีก่อน หลังจากครั้งนั้น ฉินเย่ว์โหรวก็หลงใหลอยู่สุดซึ้ง ขอเพียงเฉินฝานมีวันหยุด นางจะต้องออกไปให้ได้สถานที่เที่ยวเล่นกินอาหารกันในครั้งนี้มีทิวทัศน์งดงามราวกับภาพวาดเหมือนเช่นเคยเฉินฝานนั่งอยู่บนเก้าอี้พนักพิง กินผลไม้มองบุตรชายบุตรสาวเล่นกันอย่างสนุกสนานบนทุ่งหญ้า ส่วนบรรดาภรรยาก็ยุ่งอยู่กับการเตรียมอาหารกลางวันกลิ่นอาหารที่เฉินฝานชอบลอยอยู่ในอากาศอาหารของพวกเขาทั้งหมดเป็นรูปแบบยุคปัจจุบัน เนื้อแกะย่างทั้งตัว สเต๊กซี่โครงย่าง หมูสามชั้นย่าง ปีกไก่ย่าง กระดูกอ่อนย่าง... ยังมีหม้อไฟทะเล และผลไม้แช่เย็นต่าง ๆ นานา“อืม~” เฉินฝานสูดจมูก แล้วแค่นเสียงเบา ๆ ด้วยความพึงพอใจ เขาหลับตาพักผ่อน พักผ่อนสักพักก็เริ่มกินได้แล้ว“ฮี่!”เฉินฝานเพิ่งจะนอนหลับก็ตกใจตื่นกับเสียงร้องฮี่ของม้า “

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1308

    หลังจากสือจิ่งซานควบคุมกองทัพหมาป่า เขาก็เปลี่ยนตัวแม่ทัพก่อนหน้านี้ทั้งหมด ตอนนี้ทหารเหล่านี้ล้วนเชื่อฟังสือจิ่งซานเท่านั้น“ใครบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทและท่านอัครเสนาบดีที่นี่?”สือจิ่งซานตวาดอย่างเย็นชา เขาเดินแหวกแม่ทัพเหล่านั้นพร้อมกับเอ่ยวาจา หลังจากนั้นก็หันกาย สายตากวาดมองไปบนร่างแม่ทัพเหล่านั้นห“ข้าน้อยไม่บังอาจวิจารณ์ เดิมทีสิ่งที่ข้าน้อยพูดก็เป็นความจริง หากไม่มีกองทัพหมาป่าของเรา ไม่มีท่านแม่ทัพใหญ่ ต้าชิ่งจะสงบสุขเหมือนทุกวันนี้ได้อย่างไร เวลานี้กลับให้เฉินฝานผู้นั้นยึดความดีความชอบทั้งหมดไว้เพียงผู้เดียว” “ถูกต้อง พวกเรารู้สึกว่าไม่ยุติธรรมกับท่านแม่ทัพใหญ่เลย”แม้ว่าเสียงของพวกแม่ทัพจะเบาลงแล้ว แต่ความโกรธเกรี้ยวและความไม่พอใจในคำพูดกลับยิ่งรุนแรงขึ้น “เหลวไหล เดิมทีความสงบสุขของต้าชิ่งก็เป็นหน้าที่ของกองทัพหมาป่าเรา ในฐานะที่ข้าเป็นแม่ทัพใหญ่ของกองทัพหมาป่ายิ่งต้องทำเช่นเดียว ต่อไปหากมีใครกล้าบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทกับอัครเสนาบดีอีก ลงโทษโบยด้วยไม้พลองทหาร!”“ท่านแม่ทัพใหญ่...”“ทหาร!” สือจิ่งซานตัดบทคนผู้นั้น “นำตัวสวี่ต๋าออกไปโบยด้วยไม้พลองทหารห้าสิบที!” ไม่นานนัก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1307

    ตอนนี้น่าจะถือว่ารักษาสัญญาแล้วกระมังฉินเย่ว์เหมยรับประทานอาหารค่ำที่จวนสกุลเฉิน พี่น้องทั้งห้าคุยเล่นกันในห้องจนดึกดื่น หลี่เต๋อฉวนเร่งอยู่หลายครั้ง ฉินเย่ว์เหมยถึงค่อยอำลาบรรดาน้องสาวของตนด้วยความอาลัยอาวรณ์“พี่หญิงใหญ่ ท่านถอนรับสั่งได้หรือไม่?”เมื่อเห็นฉินเย่ว์เหมยกำลังจะจากไป ฉินเย่ว์ฉินก็รีบเอ่ยขึ้นมา“รับสั่งใดเล่า?” ฉินเย่ว์เหมยหันหน้ากลับมาถาม“ก็เรื่อง ก็เรื่อง...” เสียงของฉินเย่ว์ฉินแผ่วเบา หน้าแดงเล็กน้อย “เข้าหอในวันนี้”แม้ยามนี้ฉินเย่ว์ฉินไม่รังเกียจเฉินฝานแล้ว แต่นางยังไม่ได้เตรียมใจแต่งงานกับเฉินฝาน “เหตุใดต้องถอนคืนด้วย เจ้าเองก็อายุไม่น้อยแล้ว ควรจะมีทายาทให้สามีของเจ้าได้แล้ว เช้านี้ข้าตรวจดูปฏิทินโหรแล้ว วันนี้เป็นวันดี ไม่อนุญาตให้ปฏิเสธอีก”นี่ก็คือการปราบปรามโดยสายเลือด ก่อนที่ฉินเย่ว์เหมยจะมา พวกฉินเย่ว์เจียวไม่อาจเอ่ยถึงเรื่องเข้าหอได้เลย เวลานี้เมื่อฉินเย่ว์เหมยเอ่ย ฉินเย่ว์ฉินไม่อาจโต้แย้งได้แม้แต่คำเดียว “ยังจะว่าข้าอีก ท่านก็เหมือนกันไม่ใช่หรือ ไม่ใช่ว่าท่านเองก็หาเหตุผลต่าง ๆ เพื่อหนีนายท่านหรือไร” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยหันกายเดินจากไป ฉินเย่ว์ฉ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status