ฟู่เถียนเถียนเอ่ย “คุณนายเวินหาคนเพื่อคิดจะเปิดโปงหนีม่านเหยาเหมือนกัน แต่หนีม่านเหยากล่าวเตือนกับพวกชาวเน็ตล่วงหน้าเสียก่อน บอกว่าตระกูลเวินจะใส่ร้ายหล่อนทุกวิถีทาง และหล่อนก็จะมอบหลักฐานส่งให้กับตำรวจ”เดิมทีการที่หนีม่านเหยาอยู่ที่โรงพยาบาลและการสูญเสียลูกก็เป็นเรื่องจริง บวกกับการที่หล่อนแสดงบาด
เมื่ออีกฝ่ายได้ยินเสียงเธอ จึงหันหน้ามาเป็นซ่งชิงชวนจริง ๆ ด้วยอาจเป็นเพราะซ่งชิงชวนเพิ่งจะได้สติ และยังไม่ทันเข้าใจสถานการณ์ดี น้ำเสียงของเขาถึงได้ฟังดูแปลกใจไม่น้อย “สือเนี่ยน?”“ค่ะ ฉันเอง” เฉียวสือเนี่ยนพูดเสียงเบา “เหมือนว่าพวกเราจะถูกจับตัวมา ซ่งชิงชวนตอนนี้คุณรู้สึกยังไงบ้าง บาดเจ็บตรงไหนหร
ได้ฟังแผนการของเฉียวสือเนี่ยนแล้ว สายตาของซ่งชิงชวนก็เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด “คุณรู้หรือเปล่าว่าตัวเองพูดอะไรออกมา? นี่มันเป็นการหนีเอาชีวิตรอดนะ ถ้าเกิดถูกจับได้ขึ้นมา คุณจะไปรับมือกับพวกนั้นได้ยังไง พวกนั้นมีกันตั้งสามคนนะ?”เฉียวสือเนี่ยนอธิบายอีกเล็กน้อย “ฉันเป็นผู้หญิง ถ้าทำท่าว่ายอมให้ พวกนั้
ซ่งชิงชวนไม่ได้ตอบออกมาในทันที ต้องให้เวลาผ่านไปครู่หนึ่งถึงจะพูดออกมาได้ด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง “เอวถูกกระแทกน่ะ ไม่เป็นอะไรมากหรอก”หินในบริเวณนี้เป็นตะปุ่มตะป่ำไม่เสมอกัน ดูเหมือนว่าที่เธอไม่เป็นอะไรเลยนั้น น่าจะเพราะซ่งชิงชวนทำตัวเป็นเบาะเนื้อมนุษย์รองให้เธอเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกผิดขึ้นมาเล็กน้อย แต่
“ว่าอะไรนะ?”แม้ว่าจะอยู่ใกล้กัน แต่เสียงของซ่งชิงชวนนั้นเบาอย่างกับเสียงยุง เฉียวสือเนี่ยนจึงได้ยินไม่ชัดเจนซ่งชิงชวนดูเหมือนจะเหนื่อยอ่อนมากแล้ว เขาจึงไม่ได้พูดอะไรอีกแต่ไหนแต่ไรมาเฉียวสือเนี่ยนก็ไม่เคยเข้าใจซ่งชิงชวนอยู่แล้ว และเธอเองก็คร้านจะถามต่ออีกทั้งคู่กำลังทิ้งน้ำหนักอยู่บนกองฟางบริเวณห
แตกต่างจากความอ่อนโยนตามปกติ ตอนนี้น้ำเสียงของซ่งชิงชวนเผยถึงความเย้ยหยันและไม่แยแสอย่างชัดเจน ราวกับไม่ใช่ครั้งแรกที่พบเจอเรื่องแบบนี้เฉียวสือเนี่ยนไม่รู้ว่าจะพูดอะไรได้บ้าง เธอจึงช่วยพยุงเขา “ไปหาที่ราบที่ใช้พักได้กันก่อนเถอะค่ะ”หลังจากช่วยให้ซ่งชิงชวนนอนลงด้านข้างอย่างยากลำบากแล้ว ทั้งคู่ก็แทบจ
เฉียวสือเนี่ยนไม่ได้เตรียมรับมือว่าซ่งชิงชวนจะดึงเธอ หลังจากส่งเสียงอุทานออกมาตามสัญชาตญาณ ก็ใช้ศอกทั้งสองข้างดันหน้าอกของซ่งชิงชวนไว้ซ่งชิงชวนรู้สึกเจ็บเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่ยอมปล่อยเฉียวสือเนี่ยน และพลิกตัวมากดทั้งร่างของเฉียวสือเนี่ยนไว้ใต้ร่าง!เฉียวสือเนี่ยนยกเท้าขึ้นหมายจะจู่โจมซ่งชิงชวน แต่ซ่ง
ความหนาวเย็นที่แล่นขึ้นมาจากปลายเท้า ทำให้เฉียวสือเนี่ยนซึ่งตัวเย็นอยู่แล้ว ก็ยิ่งรู้สึกหนาวขึ้นไปอีก แน่นอนว่าฮั่วเยี่ยนฉือสัมผัสได้ถึงความผิดปกติของเธอ เขาจึงใช้เสื้อคลุมของตัวเองคลุมตัวเธอเอาไว้“ซ่งชิงชวน พวกคุณพยายามทำเรื่องทั้งหมดนี้เพราะอยากจะเอาชีวิตฉันงั้นเหรอ?” เฉียวสือเนี่ยนถามซ่งชิงชวน
เท่าที่เฉียวสือเนี่ยนจำความได้ แม่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและใช้ความรู้สึกร่วมกับเหตุผล ต่อให้ในตอนนั้นแม่จะโกรธมากแค่ไหน หลังจากนั้นก็ต้องไปถามหลีพัวถิงให้ชัดเจนดังนั้น เรื่องนี้สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการที่แม่ขอเลิกแน่ ๆอีกอย่างการที่แม่หา “คนรักเก่า” มาเป็นข้ออ้างเพื่อขอเลิก ต้องเป็นเพราะมีเหตุผลส
ผลตรวจดีเอ็นเอไม่พลิกผัน หลีซูเหยียนกับหลีพัวไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดตั้งแต่นั้นมา หลีพัวถิงก็เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในเบื้องลึกของหัวใจ ป่าวประกาศกับคนภายนอกว่าหลีซูเหยียนคือลูกสาวของเขา และเลี้ยงดูเสมือนเป็นลูกแท้ ๆ “ในเมื่อคุณเชื่อว่าแม่ฉันโกหก เด็กก็ไม่ใช่ลูกของคุณ แล้วทำไมคุณยังต้องเลี้
หลีพัวถิงพยักหน้าเล็กน้อยและจมอยู่ในความทรงจำต่อไปหนุ่มสาวมากความสามารถที่อายุน้อย แถมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก หัวใจทั้งสองดวงจึงใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็วหลังรู้จักกันได้ไม่นาน ในวันที่แสงแดดเจิดจ้าเช่นเดียวกัน หลีพัวถิงสารภาพรักกับเมิ่งจินเหยียนท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม และทั้งสองก็กลายเป็นคู่รักอ
แม้หลีซูเหยียนจะพูดอย่างจริงใจ แต่หลีพัวถิงก็ยังคงปฏิเสธ “ซูเหยียน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว และทำตามที่พ่อบอก ลูกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศซะ”เดิมทีหลีซูเหยียนคิดว่าตัวเองมั่นใจต่อข้อเสนอนี้มาก ถึงอย่างไรทางด้านคุณลุงก็พร้อมจะลงมือ แถมครั้งนี้ยังเกิดเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นลักพาตัวอีก เธอยินยอมกลายเป็นเป้
พอเฉียวสือเนี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งสับสนมึนงงเข้าไปใหญ่ สิ่งที่ฮั่วเยี่ยนฉือพูดมามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?ไม่เคยมีคุณแม่แท้ ๆ ของหลีซูเหยียนอยู่ทั้งนั้น หลีซูเหยียนเข้าใจผิดไปเองว่ามารดาที่ให้กำเนิดตัวเองมีความรักลึกซึ้งกับหลีพัวถิง?คนที่หลีพัวถิงรักมาตลอดชั่วชีวิตมีเพียงคุณแม่ของเฉียวสือเนี
หลีซูเหยียนกับตระกูลรองของตระกูลหลีนั้นถือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันในเรื่องของผลประโยชน์ พวกเขาจะไปร่วมมือกันได้อย่างไร?บางทีฮั่วเยี่ยนฉือก็อาจจะคิดถึงจุดนี้เหมือนกันเลยไม่ได้พูดอะไรแต่พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็ฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปถ่ายของคุณแม่กับคุณผู้หญิง
พูดจบ หนิงเสี่ยวเยว่ก็ตัดสายวิดีโอคอลเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าหนิงเสี่ยวเยว่ดูแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่พอคิด ๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะหล่อนใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน เลยค่อนข้างเปิดเผยความรู้สึกไปบ้างสินะเวลาล่วงเลยไปอีกสองวันวิดีโอและรูปภาพเกี่ยวกับเฉียวสือเนี่ยนและซ่งชิงชวนทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ตนั้นค้
เฉียวสือเนี่ยนยิ้มพลางบอกว่าไม่ได้รบกวน ทั้งยังถามหนิงเสี่ยวเยว่ว่าโทรมาหาเธอมีธุระอะไรหรือเปล่าหนิงเสี่ยวเยว่ชี้แจงแถลงไขให้ฟังอย่างเก้อเขินเล็กน้อยว่า วันนี้เธอไปช็อปปิ้งที่ร้านน้ำหอมของ M•Q แล้วชอบน้ำหอมรุ่นลิมิเต็ดนั่นมาก แต่ก็ได้รับแจ้งว่าสินค้าหมดเสียแล้ว“ฉันได้ยินว่าคุณเป็นคำปรุงน้ำหอมรุ่นน
ซ่งชิงชวนแกะมือมารดาออกด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วหมุนตัวจากไป คล้อยหลังเขา หลีซูเหยียนก็กอบกุมลำคอที่เจ็บระบมของตนเอง ร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าว “ป้าเซิ่ง เมื่อกี้นี้ป้าเซิ่งไม่เห็นสายตาของประธานซ่งเหรอคะ? เขาคิดจะบีบคอหนูให้ตายจริง ๆ นะคะ เขาน่ะเกลียดที่หนูลงมือกับเฉียวสือเนี่ยนชัด ๆ !”เซิ่งจวงฮุ่ยหั