แม้ว่าซ่งม่านกับซ่งชิงชวนจะเป็นพี่น้องกัน แต่การไปทำอะไรกับคอมพิวเตอร์เขาในห้องทำงานก็ไม่เหมาะสมอยู่ดีซ่งม่านได้ยินแบบนั้น ใบหน้าได้รูปก็เผยรอยยิ้มซุกซนออกมา “ฉันอยากทดสอบอะไรหน่อย”เฉียวสือเนี่ยนไม่เข้าใจ “ทดสอบอะไร?”“พี่ชายฉันมักจะรอบคอบทุกเรื่อง ปกติจะตั้งรหัสผ่านเข้าคอมกับโทรศัพท์ไว้ตลอด แค่จะ
ซ่งม่านพูดด้วยน้ำเสียงล้อเลียน แน่นอนว่าเฉียวสือเนี่ยนเข้าใจสิ่งที่เธอต้องการจะสื่อโดยอัตโนมัติ ซ่งม่านคงจะคิดว่าซ่งชิงชวนแอบช่วยเธอสืบข้อมูลเพราะเขารู้สึกดีต่อเธอ แต่เฉียวสือเนี่ยนกลับคิดว่ามันไม่ง่ายขนาดนั้นเธอกับซ่งชิงชวนไม่ได้พูดคุยกันมากขนาดนั้น หากจะบอกว่าซ่งชิงชวนรู้สึกดีต่อเธอ มันคงจะฟังดู
เมื่อได้ยินคำถามของฮั่วเยี่ยนฉือ เฉียวสือเนี่ยนก็พยักหน้า “ไปสิ แล้วก็บังเอิญเจอกับพวกเราพอดี”เฉียวสือเนี่ยนสงสัยเป็นอย่างมากว่าหลีซูเหยียนรู้ว่าเธออยู่ที่ไหนและจงใจไปที่นั่นด้วยฮั่วเยี่ยนฉือบอกว่า หลีซูเหยียนได้ยื่นข้อเสนอให้บริษัทเกม wor แต่ถูกผู้รับผิดชอบปฏิเสธไปแล้วหลีซูเหยียนช่างกล้าจริง ๆ ท
เมื่อเห็นว่าเฉียวสือเนี่ยนมีแผนในใจแล้ว ฮั่วเยี่ยนฉือก็ไม่ได้เสนอความคิดเห็นอะไรเพิ่มเติม เพียงแต่เตือนเฉียวสือเนี่ยนให้ระวังตัวเมื่อพูดคุยกันเสร็จ เฉียวสือเนี่ยนก็มองดูเวลา “ดึกแล้ว คุณกลับไปพักผ่อนเถอะ”แม้ว่าฮั่วเยี่ยนฉือยังไม่อยากกลับ แต่ก็ไม่ได้หาข้ออ้างเพื่ออยู่ต่อ เขาลุกขึ้นจากโซฟาทันใดนั้น
เฉียวตงไห่และเฉียวกั๋วเซิ่งต่างรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดีตระกูลฮั่วแห่งไห่เฉิง ตระกูลซ่งและตระกูลโม่แห่งเป่ยเฉิง ล้วนแต่เป็นตระกูลใหญ่“ก็ต้องรู้จักอยู่แล้วสิ!”ยังไม่ทันที่สามีและพ่อสามีจะได้พูด ถานซูหงรีบพูดแทรก “ฉันยังรู้ด้วยว่าผู้นำตระกูลซ่งหล่อและเก่งมาก แถมยังเป็นหนุ่มโสดที่มีชื่อเสียงด้วยละ!”“
เฉียวสือเนี่ยนได้ยินแล้วก็ตกใจยิ่งขึ้น แม่ไม่เพียงแต่จะมีลูกก่อนแต่ง แต่ยังเคยมีรักแรกที่เมืองเป่ยเฉิงอีกงั้นเหรอ? ชีวิตรักของแม่ช่างซับซ้อนเกินไปหรือเปล่า?“ฉันก็แค่เดานะ อาจไม่ใช่คนรัก แต่อาจเป็นเพื่อนที่ทำร้ายจิตใจเธอก็ได้!” ถานซูหงถือกระเป๋าเอาไว้ ก่อนจะเตือนเฉียวสือเนี่ยน “ที่ฉันพูดไปเมื่อกี
เฉียวสือเนี่ยนตอบปฏิเสธ พร้อมกับอธิบายด้วยว่า “คุณท่านหลีได้ให้เกียรติมาเป็นประธานตัดริบบิ้นให้ในงานเปิดบริษัทอี้หมิง ตอนนั้นคุณตากับคุณลุงล้วนอยู่ในงานด้วย พวกท่านไม่ได้บอกว่ารู้จักกันนะ”เฉียวสือเนี่ยนกล่าว “คุณก็รู้ว่าลุงฉันน่ะ ขอแค่มีโอกาสเข้าไปตีสนิทกับคนมีอำนาจได้ เขาก็ไม่มีทางปล่อยผ่านไปอย่าง
ฮั่วเยี่ยนฉือพูดแก้ไขใหม่ “ผู้อาวุโสฝั่งผม มีคุณย่ากับคุณแม่ที่ไม่อยากให้ผมแต่งงาน มันจึงเป็นแค่ความต้องการฝ่ายเดียวของคุณพ่อเท่านั้น”“และผมก็เคยบอกคุณหลีไปแล้วว่าผมไม่ได้วางแผนจะแต่งงานอีกรอบ”หลีซูเหยียนยังคงแสดงท่าทางอ่อนหวานและน่ารักเหมือนเดิม “ฉันก็ไม่ได้บอกว่าฉันจะแต่งกับคุณเดี๋ยวนี้เลยสักหน่
เท่าที่เฉียวสือเนี่ยนจำความได้ แม่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและใช้ความรู้สึกร่วมกับเหตุผล ต่อให้ในตอนนั้นแม่จะโกรธมากแค่ไหน หลังจากนั้นก็ต้องไปถามหลีพัวถิงให้ชัดเจนดังนั้น เรื่องนี้สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการที่แม่ขอเลิกแน่ ๆอีกอย่างการที่แม่หา “คนรักเก่า” มาเป็นข้ออ้างเพื่อขอเลิก ต้องเป็นเพราะมีเหตุผลส
ผลตรวจดีเอ็นเอไม่พลิกผัน หลีซูเหยียนกับหลีพัวไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดตั้งแต่นั้นมา หลีพัวถิงก็เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในเบื้องลึกของหัวใจ ป่าวประกาศกับคนภายนอกว่าหลีซูเหยียนคือลูกสาวของเขา และเลี้ยงดูเสมือนเป็นลูกแท้ ๆ “ในเมื่อคุณเชื่อว่าแม่ฉันโกหก เด็กก็ไม่ใช่ลูกของคุณ แล้วทำไมคุณยังต้องเลี้
หลีพัวถิงพยักหน้าเล็กน้อยและจมอยู่ในความทรงจำต่อไปหนุ่มสาวมากความสามารถที่อายุน้อย แถมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก หัวใจทั้งสองดวงจึงใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็วหลังรู้จักกันได้ไม่นาน ในวันที่แสงแดดเจิดจ้าเช่นเดียวกัน หลีพัวถิงสารภาพรักกับเมิ่งจินเหยียนท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม และทั้งสองก็กลายเป็นคู่รักอ
แม้หลีซูเหยียนจะพูดอย่างจริงใจ แต่หลีพัวถิงก็ยังคงปฏิเสธ “ซูเหยียน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว และทำตามที่พ่อบอก ลูกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศซะ”เดิมทีหลีซูเหยียนคิดว่าตัวเองมั่นใจต่อข้อเสนอนี้มาก ถึงอย่างไรทางด้านคุณลุงก็พร้อมจะลงมือ แถมครั้งนี้ยังเกิดเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นลักพาตัวอีก เธอยินยอมกลายเป็นเป้
พอเฉียวสือเนี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งสับสนมึนงงเข้าไปใหญ่ สิ่งที่ฮั่วเยี่ยนฉือพูดมามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?ไม่เคยมีคุณแม่แท้ ๆ ของหลีซูเหยียนอยู่ทั้งนั้น หลีซูเหยียนเข้าใจผิดไปเองว่ามารดาที่ให้กำเนิดตัวเองมีความรักลึกซึ้งกับหลีพัวถิง?คนที่หลีพัวถิงรักมาตลอดชั่วชีวิตมีเพียงคุณแม่ของเฉียวสือเนี
หลีซูเหยียนกับตระกูลรองของตระกูลหลีนั้นถือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันในเรื่องของผลประโยชน์ พวกเขาจะไปร่วมมือกันได้อย่างไร?บางทีฮั่วเยี่ยนฉือก็อาจจะคิดถึงจุดนี้เหมือนกันเลยไม่ได้พูดอะไรแต่พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็ฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปถ่ายของคุณแม่กับคุณผู้หญิง
พูดจบ หนิงเสี่ยวเยว่ก็ตัดสายวิดีโอคอลเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าหนิงเสี่ยวเยว่ดูแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่พอคิด ๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะหล่อนใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน เลยค่อนข้างเปิดเผยความรู้สึกไปบ้างสินะเวลาล่วงเลยไปอีกสองวันวิดีโอและรูปภาพเกี่ยวกับเฉียวสือเนี่ยนและซ่งชิงชวนทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ตนั้นค้
เฉียวสือเนี่ยนยิ้มพลางบอกว่าไม่ได้รบกวน ทั้งยังถามหนิงเสี่ยวเยว่ว่าโทรมาหาเธอมีธุระอะไรหรือเปล่าหนิงเสี่ยวเยว่ชี้แจงแถลงไขให้ฟังอย่างเก้อเขินเล็กน้อยว่า วันนี้เธอไปช็อปปิ้งที่ร้านน้ำหอมของ M•Q แล้วชอบน้ำหอมรุ่นลิมิเต็ดนั่นมาก แต่ก็ได้รับแจ้งว่าสินค้าหมดเสียแล้ว“ฉันได้ยินว่าคุณเป็นคำปรุงน้ำหอมรุ่นน
ซ่งชิงชวนแกะมือมารดาออกด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วหมุนตัวจากไป คล้อยหลังเขา หลีซูเหยียนก็กอบกุมลำคอที่เจ็บระบมของตนเอง ร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าว “ป้าเซิ่ง เมื่อกี้นี้ป้าเซิ่งไม่เห็นสายตาของประธานซ่งเหรอคะ? เขาคิดจะบีบคอหนูให้ตายจริง ๆ นะคะ เขาน่ะเกลียดที่หนูลงมือกับเฉียวสือเนี่ยนชัด ๆ !”เซิ่งจวงฮุ่ยหั