ได้ยินคำถามของลู่เฉินหนาน เฉียวสือเนี่ยนก็รู้สึกประหลาดใจขึ้นมาบ้างเหมือนกันถ้ามีแค่เรื่องรายงานความเคลื่อนไหวอย่างเดียว เลขาห่าวคงไม่กลัวถึงขนาดนี้ถ้าอย่างนั้นเรื่องที่เธอเกี่ยวข้องอาจจะร้ายแรงอยู่บ้างเป็นไปดังคาด เมื่อเลขาห่าวเห็นท่าทางเย็นชาที่หาได้ยากของลู่เฉินหนาน ก็กลัวยิ่งกว่าเดิมเธอพูดเส
เห็นเบอร์ของฮั่วเยี่ยนฉือ เฉียวสือเนี่ยนก็ลังเลเล็กน้อยครั้งก่อนพวกเขาแยกกันอย่างไม่น่ายินดีนัก และตอนนี้เพื่อเรื่องของคุณลุง ฮั่วเยี่ยนฉือจึงเป็นฝ่ายถูกกระทำขนาดนี้วันนั้นเขายังได้รับบาดเจ็บเพราะเธอด้วยแต่เธอมาหาเขาเพียงเพราะจะทำเรื่องที่นายท่านฮั่วมอบหมายมาให้สำเร็จลุล่วงหลังจากนี้เธอต้องเผชิญ
เฉียวกั๋วเซิ่งเดินมาข้างหน้าเพื่อทักทายฮั่วเยี่ยนฉือ ถานซูหงก็มีรอยยิ้มประดับอยู่บนใบหน้า เฉียวเล่อเยียนไม่ได้เรียกคน และทำเพียงแค่ยิ้มบางอย่างสุภาพหลังจากฮั่วเยี่ยนฉือทักทายพวกเขา สายตาก็เบนมาทางเฉียวสือเนี่ยนโดยไม่ได้ตั้งใจเฉียวสือเนี่ยนสบสายตากับฮั่วเยี่ยนฉือ และพบความซับซ้อนในก้นบึ้งดวงตาของเข
ก่อนหน้านี้เฉียวสือเนี่ยนอยู่ในสภาพตึงเครียดที่สูงมาโดยตลอด จนไม่มีกระจิตกระใจจะสนใจความผิดปกติของตัวเองเลยตอนนี้เธอรู้สึกวิงเวียนศีรษะ ปากลิ้นแห้งไปหมด เฉียวสือเนี่ยนทนไม่ไหว จึงเดินเซและหยิบน้ำเย็นออกมาจากตู้เย็น จากนั้นตัวเธอก็ล้มฟุบลงไปบนเตียงอย่างมึน ๆ นอนเถอะ นอนหลับแล้วก็จะได้ไม่ต้องสนใจและ
แรงจากนิ้วมือของฮั่วเยี่ยนฉือนั้นหนักมาก สีหน้าก็เย็นยะเยือกอย่างมากเช่นกัน บางทีอาจจะนอนหลับได้ไม่ดีนัก ในสายตาที่โกรธเกรี้ยวของเขาถึงยังมีเส้นเลือดสีแดงอย่างเห็นได้ชัดเฉียวสือเนี่ยนอดไม่ได้ที่จะใจลอยเล็กน้อย ในฉากที่คลุมเครือของเมื่อคืนเหล่านั้น สิ่งที่ส่องประกายอยู่ตรงหน้าเธอก็เหมือนจะเป็นดวงตาค
ผู้ช่วยเฉินแจ้งให้ทราบว่าก่อนที่โม่ซิวหย่วนจะเกิดเรื่อง ก็ให้เขาส่งคนไปตรวจสอบสถานการณ์บางอย่างก่อนที่หลีซูเหยียนจะมาที่เมืองไห่เฉิง“เพราะตอนนี้ประธานโม่ตัวอยู่ต่างประเทศ เขาจำไม่ได้ว่าหลีซูเหยียนเป็นใคร และก็ไม่มีกระจิตกระใจจะสนใจเรื่องราวของเมืองไห่เฉิง ดังนั้นผลการตรวจสอบฉบับนี้ยังไม่ได้ส่งถึงมื
หญิงสาวยิ้มอย่างอ่อนโยนพลางเอ่ย “รู้จักแน่นอนอยู่แล้ว ได้ยินอยู่เสมอว่าอดีตภรรยาของคุณฮั่วสวยมาก พอวันนี้ได้มาเจอ ก็สมคำร่ำลือจริง ๆ เลยนะคะเนี่ย!”เฉียวสือเนี่ยนตอบกลับด้วยรอยยิ้มที่สุภาพ “ขอบคุณค่ะ”“คุณเฉียว สะดวกเพิ่มช่องทางติดต่อไหมคะ?”หญิงสาวถามเสร็จบนใบหน้าก็ปรากฏความเขินอายออกมา “ฉันรู้ว่าม
เมื่อได้คำพูดของเฉียวสือเนี่ยน เดิมฮั่วเยี่ยนฉือที่ยังถือโทรศัพท์และต้องการจะเรียกคนก็เหลือบมาทางเธอนัยน์ตาสีดำของฮั่วเยี่ยนฉือดูไม่ออกถึงอารมณ์ และใบหน้าที่หล่อเหลาก็ไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ ด้วยจู่ ๆ เฉียวสือเนี่ยนก็ไม่มีความกล้าที่จะขอโทษแล้ว “ถือเสียว่าฉัน...”“ธนาคารเพื่อการลงทุนป๋อโจว”คำว่า
เท่าที่เฉียวสือเนี่ยนจำความได้ แม่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและใช้ความรู้สึกร่วมกับเหตุผล ต่อให้ในตอนนั้นแม่จะโกรธมากแค่ไหน หลังจากนั้นก็ต้องไปถามหลีพัวถิงให้ชัดเจนดังนั้น เรื่องนี้สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการที่แม่ขอเลิกแน่ ๆอีกอย่างการที่แม่หา “คนรักเก่า” มาเป็นข้ออ้างเพื่อขอเลิก ต้องเป็นเพราะมีเหตุผลส
ผลตรวจดีเอ็นเอไม่พลิกผัน หลีซูเหยียนกับหลีพัวไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดตั้งแต่นั้นมา หลีพัวถิงก็เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในเบื้องลึกของหัวใจ ป่าวประกาศกับคนภายนอกว่าหลีซูเหยียนคือลูกสาวของเขา และเลี้ยงดูเสมือนเป็นลูกแท้ ๆ “ในเมื่อคุณเชื่อว่าแม่ฉันโกหก เด็กก็ไม่ใช่ลูกของคุณ แล้วทำไมคุณยังต้องเลี้
หลีพัวถิงพยักหน้าเล็กน้อยและจมอยู่ในความทรงจำต่อไปหนุ่มสาวมากความสามารถที่อายุน้อย แถมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก หัวใจทั้งสองดวงจึงใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็วหลังรู้จักกันได้ไม่นาน ในวันที่แสงแดดเจิดจ้าเช่นเดียวกัน หลีพัวถิงสารภาพรักกับเมิ่งจินเหยียนท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม และทั้งสองก็กลายเป็นคู่รักอ
แม้หลีซูเหยียนจะพูดอย่างจริงใจ แต่หลีพัวถิงก็ยังคงปฏิเสธ “ซูเหยียน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว และทำตามที่พ่อบอก ลูกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศซะ”เดิมทีหลีซูเหยียนคิดว่าตัวเองมั่นใจต่อข้อเสนอนี้มาก ถึงอย่างไรทางด้านคุณลุงก็พร้อมจะลงมือ แถมครั้งนี้ยังเกิดเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นลักพาตัวอีก เธอยินยอมกลายเป็นเป้
พอเฉียวสือเนี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งสับสนมึนงงเข้าไปใหญ่ สิ่งที่ฮั่วเยี่ยนฉือพูดมามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?ไม่เคยมีคุณแม่แท้ ๆ ของหลีซูเหยียนอยู่ทั้งนั้น หลีซูเหยียนเข้าใจผิดไปเองว่ามารดาที่ให้กำเนิดตัวเองมีความรักลึกซึ้งกับหลีพัวถิง?คนที่หลีพัวถิงรักมาตลอดชั่วชีวิตมีเพียงคุณแม่ของเฉียวสือเนี
หลีซูเหยียนกับตระกูลรองของตระกูลหลีนั้นถือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันในเรื่องของผลประโยชน์ พวกเขาจะไปร่วมมือกันได้อย่างไร?บางทีฮั่วเยี่ยนฉือก็อาจจะคิดถึงจุดนี้เหมือนกันเลยไม่ได้พูดอะไรแต่พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็ฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปถ่ายของคุณแม่กับคุณผู้หญิง
พูดจบ หนิงเสี่ยวเยว่ก็ตัดสายวิดีโอคอลเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าหนิงเสี่ยวเยว่ดูแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่พอคิด ๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะหล่อนใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน เลยค่อนข้างเปิดเผยความรู้สึกไปบ้างสินะเวลาล่วงเลยไปอีกสองวันวิดีโอและรูปภาพเกี่ยวกับเฉียวสือเนี่ยนและซ่งชิงชวนทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ตนั้นค้
เฉียวสือเนี่ยนยิ้มพลางบอกว่าไม่ได้รบกวน ทั้งยังถามหนิงเสี่ยวเยว่ว่าโทรมาหาเธอมีธุระอะไรหรือเปล่าหนิงเสี่ยวเยว่ชี้แจงแถลงไขให้ฟังอย่างเก้อเขินเล็กน้อยว่า วันนี้เธอไปช็อปปิ้งที่ร้านน้ำหอมของ M•Q แล้วชอบน้ำหอมรุ่นลิมิเต็ดนั่นมาก แต่ก็ได้รับแจ้งว่าสินค้าหมดเสียแล้ว“ฉันได้ยินว่าคุณเป็นคำปรุงน้ำหอมรุ่นน
ซ่งชิงชวนแกะมือมารดาออกด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วหมุนตัวจากไป คล้อยหลังเขา หลีซูเหยียนก็กอบกุมลำคอที่เจ็บระบมของตนเอง ร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าว “ป้าเซิ่ง เมื่อกี้นี้ป้าเซิ่งไม่เห็นสายตาของประธานซ่งเหรอคะ? เขาคิดจะบีบคอหนูให้ตายจริง ๆ นะคะ เขาน่ะเกลียดที่หนูลงมือกับเฉียวสือเนี่ยนชัด ๆ !”เซิ่งจวงฮุ่ยหั