เมื่อได้ยินคำขอร้องของเฉียวสือเนี่ยน สีหน้าของฮั่วเยี่ยนฉือพลันดูขมขื่นขึ้นเล็กน้อย “นี่ก็ดึกมากแล้ว เธอพักผ่อนก่อนเถอะ”เฉียวสือเนี่ยนยืนกราน “คุณเอามือถือมาให้ฉัน ฉันจะโทรเอง”ฮั่วเยี่ยนฉือจึงทำได้เพียงบอกเธอว่า “มือถือของโม่ซิวหย่วนอยู่ที่พี่ชายของเขา ถึงเธอโทรไป เขาก็รับไม่ได้อยู่ดี”“...” เฉียว
หากเป็นเมื่อชาติก่อน นี่คงเป็นภาพที่เธอไม่กล้าแม้แต่จะคิดวาดฝันด้วยซ้ำเฉียวสือเนี่ยนจึงหลับตาลงวันที่สี่ของการพักฟื้นอยู่ในโรงพยาบาล อาการเวียนหัวของเฉียวสือเนี่ยนในที่สุดก็ทุเลาลงบ้างแล้ว บาดแผลที่แขนและหลังของเธอก็ดีขึ้นมากแล้วเช่นกัน มีแค่แผลบริเวณท้ายทอยที่ค่อนข้างสาหัส เธอจึงยังไม่สามารถแกะผ้
ครอบครัวของโม่ซิวหย่วนมากันหมดทุกคน!เสียงของเฉียวสือเนี่ยนสั่นเครือมากขึ้น “ฟู่เถียนเถียน เธอบอกความจริงฉันมาเถอะ ว่าคืนนั้นเกิดอะไรขึ้นกับฉันและโม่ซิวหย่วน?”ถ้าเป็นเพียงอุบัติเหตุทางรถยนต์ธรรมดา โม่ซิวหย่วนจะได้รับบาดเจ็บสาหัสขนาดนั้นได้อย่างไร อีกทั้งทำไมฮั่วเยี่ยนฉือต้องส่งบอดี้การ์ดมาคุ้มกันที
ร่างของโม่ซิวหย่วนอยู่ในชุดผู้ป่วยสะอาดสะอ้าน บาดแผลบนศีรษะถูกพันแผลไว้เรียบร้อยแล้ว นอกจากสีหน้าที่ซีดเซียวเล็กน้อย ก็ดูไม่ต่างอะไรจากการหลับอยู่เฉียวสือเนี่ยนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าโม่ซิวหย่วนจะแค่แกล้งหลับเพื่อหลอกเธอเล่นรอจนเธอร้อนรน เขาก็จะลืมตาขึ้นมาอย่างกะทันหันและบอกเธอว่า จงใจหลอกเธอแต่เธอย
เสียงกรีดร้องดังออกมาจากในห้องด้านหน้า ฟังดูคล้ายเสียงป๋ายอีอีหลังจากลู่เฉินหนานได้ยินสีหน้าก็มืดครึ้มในทันที “พี่ฉือ!”ขณะที่พูดเขาก็วิ่งไปอย่างรวดเร็วเฉียวสือเนี่ยนขมวดคิ้ว นึกถึงโกดังร้างที่ประเทศ T ป๋ายอีอีก็กรีดร้องออกมาคล้ายแบบนี้ หลังจากนั้นก็เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นกับหยวนหงจื้อหรือป๋ายอีอ
ขณะที่ป๋ายอีอีกรีดร้อง เฉียวสือเนี่ยนก็แทงกระเบื้องเข้าไปในเนื้อของเธออย่างไม่ลังเล!ชาติก่อนคุณตาก็ถูกป๋ายอีอีทำให้ถึงแก่ความตาย ชาตินี้ป๋ายอีอีก็ยังกล้ามาสาปแช่ง ความโกรธแค้นจากก้นบึ้งในใจของเฉียวสือเนี่ยนจึงปะทุออกมาทันที!ชุดผู้ป่วยของป๋ายอีอีถูกแทง ส่วนแหลมคมของกระเบื้องทะลุผิวหนังของเธอจนเลือด
ฮั่วเยี่ยนฉือมองป๋ายอีอีอย่างเย็นชา “เธอไม่มีสิทธิ์มาต่อรองเงื่อนไขกับฉัน”แม้จะรู้ว่าระหว่างตัวเองกับฮั่วเยี่ยนฉือเป็นไปไม่ได้ ทั้งยังรู้ว่าเขาไม่มีความรู้สึกอะไรกับตัวเองเลย แต่ป๋ายอีอีก็ยังถูกคำพูดนี้ของฮั่วเยี่ยนฉือทำให้เจ็บปวดในดวงตาของป๋ายอีอีมีความเย้ยหยัน “ฮั่วเยี่ยนฉือ ไม่ว่าฉันจะทำอะไรก็ไ
เวลานี้ไม่ใช่ช่วงที่หมอต้องตรวจห้องผู้ป่วย แต่เพราะเคาน์เตอร์พยาบาลของฟู่เถียนเถียนเกิดปัญหานิดหน่อย เธอจึงออกไปจัดการทางโทรศัพท์แล้ว แม้จะเข้ามาก็ไม่ตั้งใจเคาะประตูเป็นใครที่อยู่ด้านนอกกัน?หลังเฉียวสือเนี่ยนบอกคุณตาว่าจะวางสายแล้ว เธอก็ถามไปทางประตูว่านั่นใครกลับมีเสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น “ฉั
เท่าที่เฉียวสือเนี่ยนจำความได้ แม่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและใช้ความรู้สึกร่วมกับเหตุผล ต่อให้ในตอนนั้นแม่จะโกรธมากแค่ไหน หลังจากนั้นก็ต้องไปถามหลีพัวถิงให้ชัดเจนดังนั้น เรื่องนี้สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการที่แม่ขอเลิกแน่ ๆอีกอย่างการที่แม่หา “คนรักเก่า” มาเป็นข้ออ้างเพื่อขอเลิก ต้องเป็นเพราะมีเหตุผลส
ผลตรวจดีเอ็นเอไม่พลิกผัน หลีซูเหยียนกับหลีพัวไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดตั้งแต่นั้นมา หลีพัวถิงก็เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในเบื้องลึกของหัวใจ ป่าวประกาศกับคนภายนอกว่าหลีซูเหยียนคือลูกสาวของเขา และเลี้ยงดูเสมือนเป็นลูกแท้ ๆ “ในเมื่อคุณเชื่อว่าแม่ฉันโกหก เด็กก็ไม่ใช่ลูกของคุณ แล้วทำไมคุณยังต้องเลี้
หลีพัวถิงพยักหน้าเล็กน้อยและจมอยู่ในความทรงจำต่อไปหนุ่มสาวมากความสามารถที่อายุน้อย แถมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก หัวใจทั้งสองดวงจึงใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็วหลังรู้จักกันได้ไม่นาน ในวันที่แสงแดดเจิดจ้าเช่นเดียวกัน หลีพัวถิงสารภาพรักกับเมิ่งจินเหยียนท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม และทั้งสองก็กลายเป็นคู่รักอ
แม้หลีซูเหยียนจะพูดอย่างจริงใจ แต่หลีพัวถิงก็ยังคงปฏิเสธ “ซูเหยียน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว และทำตามที่พ่อบอก ลูกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศซะ”เดิมทีหลีซูเหยียนคิดว่าตัวเองมั่นใจต่อข้อเสนอนี้มาก ถึงอย่างไรทางด้านคุณลุงก็พร้อมจะลงมือ แถมครั้งนี้ยังเกิดเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นลักพาตัวอีก เธอยินยอมกลายเป็นเป้
พอเฉียวสือเนี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งสับสนมึนงงเข้าไปใหญ่ สิ่งที่ฮั่วเยี่ยนฉือพูดมามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?ไม่เคยมีคุณแม่แท้ ๆ ของหลีซูเหยียนอยู่ทั้งนั้น หลีซูเหยียนเข้าใจผิดไปเองว่ามารดาที่ให้กำเนิดตัวเองมีความรักลึกซึ้งกับหลีพัวถิง?คนที่หลีพัวถิงรักมาตลอดชั่วชีวิตมีเพียงคุณแม่ของเฉียวสือเนี
หลีซูเหยียนกับตระกูลรองของตระกูลหลีนั้นถือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันในเรื่องของผลประโยชน์ พวกเขาจะไปร่วมมือกันได้อย่างไร?บางทีฮั่วเยี่ยนฉือก็อาจจะคิดถึงจุดนี้เหมือนกันเลยไม่ได้พูดอะไรแต่พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็ฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปถ่ายของคุณแม่กับคุณผู้หญิง
พูดจบ หนิงเสี่ยวเยว่ก็ตัดสายวิดีโอคอลเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าหนิงเสี่ยวเยว่ดูแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่พอคิด ๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะหล่อนใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน เลยค่อนข้างเปิดเผยความรู้สึกไปบ้างสินะเวลาล่วงเลยไปอีกสองวันวิดีโอและรูปภาพเกี่ยวกับเฉียวสือเนี่ยนและซ่งชิงชวนทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ตนั้นค้
เฉียวสือเนี่ยนยิ้มพลางบอกว่าไม่ได้รบกวน ทั้งยังถามหนิงเสี่ยวเยว่ว่าโทรมาหาเธอมีธุระอะไรหรือเปล่าหนิงเสี่ยวเยว่ชี้แจงแถลงไขให้ฟังอย่างเก้อเขินเล็กน้อยว่า วันนี้เธอไปช็อปปิ้งที่ร้านน้ำหอมของ M•Q แล้วชอบน้ำหอมรุ่นลิมิเต็ดนั่นมาก แต่ก็ได้รับแจ้งว่าสินค้าหมดเสียแล้ว“ฉันได้ยินว่าคุณเป็นคำปรุงน้ำหอมรุ่นน
ซ่งชิงชวนแกะมือมารดาออกด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วหมุนตัวจากไป คล้อยหลังเขา หลีซูเหยียนก็กอบกุมลำคอที่เจ็บระบมของตนเอง ร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าว “ป้าเซิ่ง เมื่อกี้นี้ป้าเซิ่งไม่เห็นสายตาของประธานซ่งเหรอคะ? เขาคิดจะบีบคอหนูให้ตายจริง ๆ นะคะ เขาน่ะเกลียดที่หนูลงมือกับเฉียวสือเนี่ยนชัด ๆ !”เซิ่งจวงฮุ่ยหั