ซ่งชิงชวนยิ้มออกมาอย่างจนใจ พลางเอ่ยออกมาด้วยความปวดเศียรเวียนเกล้า “ประธานฮั่ว คุณได้คุยกับอาหย่วนแล้วหรือยัง ถึงได้มาสงสัยผมแบบนี้?”ซ่งชิงชวนแสดงตนว่าเขาเป็นคนเดียวในครอบครัวที่เข้มงวดกับซ่งม่านที่สุด ไม่มีทางปกป้องซ่งม่านที่ทำเรื่องผิดกฎหมายเพราะความหุนหันพลันแล่นแน่นอน“ประธานฮั่ว คนแซ่ซ่งอย่าง
เฉียวสือเนี่ยนจงใจพูดถึง ‘ฝ่ามือ’ เดิมทีคิดว่าโม่ซิวหย่วนจะเถียงไม่ออกเพราะเรื่องนี้ แล้วบอกกับเธอว่า ต่อไปนี้เขาจะไม่พูดถึงฮั่วเยี่ยนฉือตามใจชอบอีกแล้วผลที่ได้กลับกลายเป็นว่า เมื่อโม่ซิวหย่วนได้ยินแบบนั้น เขาก็ยื่นใบหน้าหล่อเหลามาตรงหน้าเธอ “เธอตบได้เลย”เฉียวสือเนี่ยน “...”“หน้าฝั่งซ้ายฉันดูดีเก
“มาหาฉันดึกขนาดนี้ มีธุระอะไรเหรอ?” เฉียวสือเนี่ยนมุ่นคิ้วเล็กน้อยฮั่วเยี่ยนฉือไม่ได้พูดอะไร ดวงตาดำขลับของเขาเอาแต่จดจ้องมาที่เธอ หางตาของเขาแดงก่ำ นัยน์ตาเอ้อล้นไปด้วยความรู้สึกต่าง ๆ มากมายทั้งโกรธ ทั้งอิจฉา ทั้งเจ็บปวด ทั้งขัดเคืองผสมปนเปกันอยู่ในนั้นเกิดความตระหนกขึ้นมาในใจเฉียวสือเนี่ยนราง
เห็นท่าทางระแวดระวังของเฉียวสือเนี่ยนแล้ว อารมณ์ในดวงตาของฮั่วเยี่ยนฉือก็กระเพื่อมขึ้นลงไม่หยุดราวกับสายน้ำในฤดูใบไม้ร่วงแสนวุ่นวายเขาอ้าปากอยากจะพูดอะไรออกไป แต่สุดท้ายแล้วก็กลืนคำพูดทุกอย่างลงคอขณะที่เฉียวสือเนี่ยนคอยระวังตัวอยู่นั้น ฮั่วเยี่ยนฉือยื่นเอกสารชุดหนึ่งให้เธอทั้งที่สีหน้านิ่งเฉยเมื่
“ไม่ต้องละอายใจไปหรอก ต่อให้โม่ซิวหย่วนจะเป็นศัตรูกับคนในบ้าน แต่นั่นมันก็เป็นสิ่งที่เขาเลือก ไม่มีใครกำหนดสักหน่อยว่าเขาทุ่มเทให้เธอมากเท่าไร เธอก็ต้องทุ่มเทให้เขากลับไปมากเท่านั้น”ฟู่เถียนเถียนพูดราวกับว่าเป็นกูรูด้านความรัก “ถึงฉันจะเชียร์โม่ซิวหย่วน แต่สุดท้ายแล้ว เธอก็ต้องเป็นคนเลือกด้วยตัวเอง
ฟู่เถียนเถียนถูกเฉียวสือเนี่ยนพูดใส่จนไม่ได้โกรธอะไรแล้วมองลู่เฉินหนานในตอนนี้ที่มีสีหน้าท่าทางรักและห่วงใยแล้ว ใจของฟู่เถียนเถียนก็อ่อนยวบ“คราวหน้ายังจะทำอีกไหม?” ฟู่เถียนเถียนถามเสียงเข้มลู่เฉินหนานส่ายหน้าอย่างว่าง่ายระคนประหม่า “ไม่ทำแล้วครับ”“พรืด” ฟู่เถียนเถียนถึงกับหลุดหัวเราะออกมา “งั้นฉ
แม้ว่าเจ้าของเรื่องจะไม่ได้ยอมรับ แต่ทุกคนต่างเข้าใจเป็นมั่นเป็นเหมาะแล้วว่า คุณหมอเวินกำลังตามจีบฟู่เถียนเถียนตอนนี้ พอได้รู้ว่าฟู่เถียนเถียนมีแฟนแล้ว ทุกคนต่างเดาได้ว่าคุณหมอเวินจะมีท่าทางแบบไหน!หลังปรึกษาตกลงกันอยู่สักพัก ก็ได้มอบหมายหน้าที่ให้แพทย์ฝึกหัดของคุณหมอเวินนำเรื่องนี้ไปแจ้งแก่เขาวัน
ฟู่เถียนเถียนคิดไม่ถึงเลยว่าเวินจิ๋งหลี่จะถามคำถามแบบนี้ออกมา ทั้งที่คราวก่อนเธอก็พูดกับเขาไว้ชัดเจนแล้ว“อย่าพูดอะไรที่มันไม่เข้าท่าแบบนี้เลย” ฟู่เถียนเถียนกล่าวออกไปตามตรง “เวินจิ๋งหลี่ พวกเราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้วนะ”“ที่คุณทำใจปล่อยมือไปไม่ได้ นอกจากที่คุณบอกว่าชอบแล้ว เหตุผลสำคัญมากกว่านั้นก็เพร
เท่าที่เฉียวสือเนี่ยนจำความได้ แม่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและใช้ความรู้สึกร่วมกับเหตุผล ต่อให้ในตอนนั้นแม่จะโกรธมากแค่ไหน หลังจากนั้นก็ต้องไปถามหลีพัวถิงให้ชัดเจนดังนั้น เรื่องนี้สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการที่แม่ขอเลิกแน่ ๆอีกอย่างการที่แม่หา “คนรักเก่า” มาเป็นข้ออ้างเพื่อขอเลิก ต้องเป็นเพราะมีเหตุผลส
ผลตรวจดีเอ็นเอไม่พลิกผัน หลีซูเหยียนกับหลีพัวไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดตั้งแต่นั้นมา หลีพัวถิงก็เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในเบื้องลึกของหัวใจ ป่าวประกาศกับคนภายนอกว่าหลีซูเหยียนคือลูกสาวของเขา และเลี้ยงดูเสมือนเป็นลูกแท้ ๆ “ในเมื่อคุณเชื่อว่าแม่ฉันโกหก เด็กก็ไม่ใช่ลูกของคุณ แล้วทำไมคุณยังต้องเลี้
หลีพัวถิงพยักหน้าเล็กน้อยและจมอยู่ในความทรงจำต่อไปหนุ่มสาวมากความสามารถที่อายุน้อย แถมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก หัวใจทั้งสองดวงจึงใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็วหลังรู้จักกันได้ไม่นาน ในวันที่แสงแดดเจิดจ้าเช่นเดียวกัน หลีพัวถิงสารภาพรักกับเมิ่งจินเหยียนท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม และทั้งสองก็กลายเป็นคู่รักอ
แม้หลีซูเหยียนจะพูดอย่างจริงใจ แต่หลีพัวถิงก็ยังคงปฏิเสธ “ซูเหยียน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว และทำตามที่พ่อบอก ลูกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศซะ”เดิมทีหลีซูเหยียนคิดว่าตัวเองมั่นใจต่อข้อเสนอนี้มาก ถึงอย่างไรทางด้านคุณลุงก็พร้อมจะลงมือ แถมครั้งนี้ยังเกิดเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นลักพาตัวอีก เธอยินยอมกลายเป็นเป้
พอเฉียวสือเนี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งสับสนมึนงงเข้าไปใหญ่ สิ่งที่ฮั่วเยี่ยนฉือพูดมามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?ไม่เคยมีคุณแม่แท้ ๆ ของหลีซูเหยียนอยู่ทั้งนั้น หลีซูเหยียนเข้าใจผิดไปเองว่ามารดาที่ให้กำเนิดตัวเองมีความรักลึกซึ้งกับหลีพัวถิง?คนที่หลีพัวถิงรักมาตลอดชั่วชีวิตมีเพียงคุณแม่ของเฉียวสือเนี
หลีซูเหยียนกับตระกูลรองของตระกูลหลีนั้นถือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันในเรื่องของผลประโยชน์ พวกเขาจะไปร่วมมือกันได้อย่างไร?บางทีฮั่วเยี่ยนฉือก็อาจจะคิดถึงจุดนี้เหมือนกันเลยไม่ได้พูดอะไรแต่พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็ฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปถ่ายของคุณแม่กับคุณผู้หญิง
พูดจบ หนิงเสี่ยวเยว่ก็ตัดสายวิดีโอคอลเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าหนิงเสี่ยวเยว่ดูแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่พอคิด ๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะหล่อนใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน เลยค่อนข้างเปิดเผยความรู้สึกไปบ้างสินะเวลาล่วงเลยไปอีกสองวันวิดีโอและรูปภาพเกี่ยวกับเฉียวสือเนี่ยนและซ่งชิงชวนทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ตนั้นค้
เฉียวสือเนี่ยนยิ้มพลางบอกว่าไม่ได้รบกวน ทั้งยังถามหนิงเสี่ยวเยว่ว่าโทรมาหาเธอมีธุระอะไรหรือเปล่าหนิงเสี่ยวเยว่ชี้แจงแถลงไขให้ฟังอย่างเก้อเขินเล็กน้อยว่า วันนี้เธอไปช็อปปิ้งที่ร้านน้ำหอมของ M•Q แล้วชอบน้ำหอมรุ่นลิมิเต็ดนั่นมาก แต่ก็ได้รับแจ้งว่าสินค้าหมดเสียแล้ว“ฉันได้ยินว่าคุณเป็นคำปรุงน้ำหอมรุ่นน
ซ่งชิงชวนแกะมือมารดาออกด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วหมุนตัวจากไป คล้อยหลังเขา หลีซูเหยียนก็กอบกุมลำคอที่เจ็บระบมของตนเอง ร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าว “ป้าเซิ่ง เมื่อกี้นี้ป้าเซิ่งไม่เห็นสายตาของประธานซ่งเหรอคะ? เขาคิดจะบีบคอหนูให้ตายจริง ๆ นะคะ เขาน่ะเกลียดที่หนูลงมือกับเฉียวสือเนี่ยนชัด ๆ !”เซิ่งจวงฮุ่ยหั