“ไม่ต้องละอายใจไปหรอก ต่อให้โม่ซิวหย่วนจะเป็นศัตรูกับคนในบ้าน แต่นั่นมันก็เป็นสิ่งที่เขาเลือก ไม่มีใครกำหนดสักหน่อยว่าเขาทุ่มเทให้เธอมากเท่าไร เธอก็ต้องทุ่มเทให้เขากลับไปมากเท่านั้น”ฟู่เถียนเถียนพูดราวกับว่าเป็นกูรูด้านความรัก “ถึงฉันจะเชียร์โม่ซิวหย่วน แต่สุดท้ายแล้ว เธอก็ต้องเป็นคนเลือกด้วยตัวเอง
ฟู่เถียนเถียนถูกเฉียวสือเนี่ยนพูดใส่จนไม่ได้โกรธอะไรแล้วมองลู่เฉินหนานในตอนนี้ที่มีสีหน้าท่าทางรักและห่วงใยแล้ว ใจของฟู่เถียนเถียนก็อ่อนยวบ“คราวหน้ายังจะทำอีกไหม?” ฟู่เถียนเถียนถามเสียงเข้มลู่เฉินหนานส่ายหน้าอย่างว่าง่ายระคนประหม่า “ไม่ทำแล้วครับ”“พรืด” ฟู่เถียนเถียนถึงกับหลุดหัวเราะออกมา “งั้นฉ
แม้ว่าเจ้าของเรื่องจะไม่ได้ยอมรับ แต่ทุกคนต่างเข้าใจเป็นมั่นเป็นเหมาะแล้วว่า คุณหมอเวินกำลังตามจีบฟู่เถียนเถียนตอนนี้ พอได้รู้ว่าฟู่เถียนเถียนมีแฟนแล้ว ทุกคนต่างเดาได้ว่าคุณหมอเวินจะมีท่าทางแบบไหน!หลังปรึกษาตกลงกันอยู่สักพัก ก็ได้มอบหมายหน้าที่ให้แพทย์ฝึกหัดของคุณหมอเวินนำเรื่องนี้ไปแจ้งแก่เขาวัน
ฟู่เถียนเถียนคิดไม่ถึงเลยว่าเวินจิ๋งหลี่จะถามคำถามแบบนี้ออกมา ทั้งที่คราวก่อนเธอก็พูดกับเขาไว้ชัดเจนแล้ว“อย่าพูดอะไรที่มันไม่เข้าท่าแบบนี้เลย” ฟู่เถียนเถียนกล่าวออกไปตามตรง “เวินจิ๋งหลี่ พวกเราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้วนะ”“ที่คุณทำใจปล่อยมือไปไม่ได้ นอกจากที่คุณบอกว่าชอบแล้ว เหตุผลสำคัญมากกว่านั้นก็เพร
“ฉันจะไม่มารบกวนเธออีก”สุดท้าย เวินจิ๋งหลี่ก็ให้คำมั่นแบบนั้นออกไปเห็นเวินจิ๋งหลี่มีสีหน้าหงอยเหงาและเสียใจแล้ว ในใจของฟู่เถียนเถียนเลยรู้สึกปวดใจเล็ก ๆ ขึ้นมาใช้ชีวิตอยู่กินกับเขามาสองปี รักเขามาสองปี สุดท้ายแล้วก็กลายเป็นคนแปลกหน้าต่อกัน“ขอบคุณค่ะ คุณหมอเวิน”......วันต่อมา เฉียวสือเนี่ยนเดิน
โม่ซิวหลินชงชาให้ตัวเอง“อาหย่วนเป็นลูกคนสุดท้อง ตอนที่แม่ฉันยังอยู่ เขาถูกตามใจเป็นพิเศษ จนทำให้เขามีนิสัยไม่เกรงกลัวใคร และไม่ชอบทำตามกฎระเบียบ”โม่ซิวหลินพูดอย่างเนิบ ๆ “ในสายตาของเขา เขาจะทำแค่สิ่งที่เขาพึงพอใจเท่านั้น ไม่ค่อยสนใจสายตาชาวบ้านเท่าไร”“เพราะงั้นต่อให้เขาจะรู้ว่าตอนนั้นคุณเฉียวยังไ
บริเวณไม่ไกลโม่ซิวหย่วนกำลังคุยธุรกิจอยู่กับคนรับผิดชอบของบริษัทยาเหรินจี้อย่างฉะฉาน ซ่งม่านอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นมาว่า “เมื่อไม่กี่วันก่อนไม่เห็นแม้แต่เงา แต่วันนี้กลับดูมีชีวิตชีวาซะงั้น เรื่องไม่กี่วันก่อนเธอให้อภัยเขาแล้วเหรอ?”เฉียวสือเนี่ยน “จะพูดว่าให้อภัยไม่ได้สิ ก็ในเมื่อโม่ซิวหย่วนถูกใส่ร้าย
เฉียวสือเนี่ยนหัวเราะ ไม่ตอบแต่ย้อนถามว่า “คุณคิดว่าฉันจะปิดบังคุณเรื่องอะไร?”โม่ซิวหย่วนส่งเสียงหึ “เธอกำลังคิดว่าทำไมฮั่วเยี่ยนฉือไม่มาเซ็นสัญญาใช่ไหม?”การที่ป๋อโจวยื่นมือเข้ามาในครั้งนี้ ใคร ๆ ต่างก็ดูออกว่าฮั่วเยี่ยนฉือจงใจ ซึ่งโม่ซิวหย่วนเก็บมาใส่ใจตลอดเฉียวสือเนี่ยนรู้ทันทีว่าโม่ซิวหย่วนอยา
เท่าที่เฉียวสือเนี่ยนจำความได้ แม่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและใช้ความรู้สึกร่วมกับเหตุผล ต่อให้ในตอนนั้นแม่จะโกรธมากแค่ไหน หลังจากนั้นก็ต้องไปถามหลีพัวถิงให้ชัดเจนดังนั้น เรื่องนี้สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการที่แม่ขอเลิกแน่ ๆอีกอย่างการที่แม่หา “คนรักเก่า” มาเป็นข้ออ้างเพื่อขอเลิก ต้องเป็นเพราะมีเหตุผลส
ผลตรวจดีเอ็นเอไม่พลิกผัน หลีซูเหยียนกับหลีพัวไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดตั้งแต่นั้นมา หลีพัวถิงก็เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในเบื้องลึกของหัวใจ ป่าวประกาศกับคนภายนอกว่าหลีซูเหยียนคือลูกสาวของเขา และเลี้ยงดูเสมือนเป็นลูกแท้ ๆ “ในเมื่อคุณเชื่อว่าแม่ฉันโกหก เด็กก็ไม่ใช่ลูกของคุณ แล้วทำไมคุณยังต้องเลี้
หลีพัวถิงพยักหน้าเล็กน้อยและจมอยู่ในความทรงจำต่อไปหนุ่มสาวมากความสามารถที่อายุน้อย แถมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก หัวใจทั้งสองดวงจึงใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็วหลังรู้จักกันได้ไม่นาน ในวันที่แสงแดดเจิดจ้าเช่นเดียวกัน หลีพัวถิงสารภาพรักกับเมิ่งจินเหยียนท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม และทั้งสองก็กลายเป็นคู่รักอ
แม้หลีซูเหยียนจะพูดอย่างจริงใจ แต่หลีพัวถิงก็ยังคงปฏิเสธ “ซูเหยียน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว และทำตามที่พ่อบอก ลูกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศซะ”เดิมทีหลีซูเหยียนคิดว่าตัวเองมั่นใจต่อข้อเสนอนี้มาก ถึงอย่างไรทางด้านคุณลุงก็พร้อมจะลงมือ แถมครั้งนี้ยังเกิดเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นลักพาตัวอีก เธอยินยอมกลายเป็นเป้
พอเฉียวสือเนี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งสับสนมึนงงเข้าไปใหญ่ สิ่งที่ฮั่วเยี่ยนฉือพูดมามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?ไม่เคยมีคุณแม่แท้ ๆ ของหลีซูเหยียนอยู่ทั้งนั้น หลีซูเหยียนเข้าใจผิดไปเองว่ามารดาที่ให้กำเนิดตัวเองมีความรักลึกซึ้งกับหลีพัวถิง?คนที่หลีพัวถิงรักมาตลอดชั่วชีวิตมีเพียงคุณแม่ของเฉียวสือเนี
หลีซูเหยียนกับตระกูลรองของตระกูลหลีนั้นถือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันในเรื่องของผลประโยชน์ พวกเขาจะไปร่วมมือกันได้อย่างไร?บางทีฮั่วเยี่ยนฉือก็อาจจะคิดถึงจุดนี้เหมือนกันเลยไม่ได้พูดอะไรแต่พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็ฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปถ่ายของคุณแม่กับคุณผู้หญิง
พูดจบ หนิงเสี่ยวเยว่ก็ตัดสายวิดีโอคอลเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าหนิงเสี่ยวเยว่ดูแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่พอคิด ๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะหล่อนใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน เลยค่อนข้างเปิดเผยความรู้สึกไปบ้างสินะเวลาล่วงเลยไปอีกสองวันวิดีโอและรูปภาพเกี่ยวกับเฉียวสือเนี่ยนและซ่งชิงชวนทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ตนั้นค้
เฉียวสือเนี่ยนยิ้มพลางบอกว่าไม่ได้รบกวน ทั้งยังถามหนิงเสี่ยวเยว่ว่าโทรมาหาเธอมีธุระอะไรหรือเปล่าหนิงเสี่ยวเยว่ชี้แจงแถลงไขให้ฟังอย่างเก้อเขินเล็กน้อยว่า วันนี้เธอไปช็อปปิ้งที่ร้านน้ำหอมของ M•Q แล้วชอบน้ำหอมรุ่นลิมิเต็ดนั่นมาก แต่ก็ได้รับแจ้งว่าสินค้าหมดเสียแล้ว“ฉันได้ยินว่าคุณเป็นคำปรุงน้ำหอมรุ่นน
ซ่งชิงชวนแกะมือมารดาออกด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วหมุนตัวจากไป คล้อยหลังเขา หลีซูเหยียนก็กอบกุมลำคอที่เจ็บระบมของตนเอง ร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าว “ป้าเซิ่ง เมื่อกี้นี้ป้าเซิ่งไม่เห็นสายตาของประธานซ่งเหรอคะ? เขาคิดจะบีบคอหนูให้ตายจริง ๆ นะคะ เขาน่ะเกลียดที่หนูลงมือกับเฉียวสือเนี่ยนชัด ๆ !”เซิ่งจวงฮุ่ยหั