เมื่อได้ยินคำพูดของฮั่วอวี่ซาน หัวใจของฮั่วเยี่ยนฉือก็สั่นไหวเล็กน้อยฮั่วอวี่ซานยังอายุน้อย แต่จิตใจของเธออ่อนไหวมากเธอมองออกว่าเฉียวสือเนี่ยนและโม่ซิวหย่วนมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกัน และรู้ว่าเฉียวสือเนี่ยนไม่อาจมาที่บ้านได้ตลอดเมื่อคิดว่าหลังจากนี้ข้างกายเฉียวสือเนี่ยนจะเคียงคู่กับผู้ชายคนอื่น
ท่าทางของโม่ซิวหย่วนเย็นชาอย่างมาก บวกกับน้ำเสียงที่ดูมีพลังของเขา หญิงสาวจึงคลายมือที่ปิดหน้าของเธอออก และในน้ำเสียงที่โศกเศร้ายังแฝงไปด้วยความอวดดีอยู่เล็กน้อย“คุณชายโม่ คุณปรักปรำฉันแล้วจริง ๆ เมื่อคืนแม้แต่เหล้าฉันยังไม่ได้ดื่มให้คุณเลย และฉันจะมีเวลาใส่ยาให้คุณได้อย่างไร!”“ฉันพยุงคุณก็เพราะว่
ปฏิกิริยาแรกของฮั่วเยี่ยนฉือคือ โจวเทียนเฉิงฟังผิดแล้วนับตั้งแต่ก่อนที่เฉียวสือเนี่ยนจะหย่าเคยมาหาเขาที่นี่ครั้งหนึ่ง หลังจากนั้นก็ไม่เคยเหยียบเข้ามาที่ ‘ฮั่ว กรุ๊ป’ อีกเลยในเวลานี้ เธอจะเข้ามาทำไม?“หรือว่าคุณผู้หญิงจะทราบที่ประธานฮั่วกำลังช่วยเธอสืบเรื่องของมณฑลหู จึงตั้งใจเข้ามาขอบคุณหรือเปล่าค
“ไม่ใช่คุณแล้วยังจะมีใครอีก!”ความโกรธของเฉียวสือเนี่ยนไม่ลดละ “เมื่อก่อนช่วงเวลาที่คุณพุ่งเป้ามาที่เขา ทะเลาะกับเขาด้วยอารมณ์ และเริ่มจัดการ หย่วนเจิงยังน้อยไปเหรอ?”“ฮั่วเยี่ยนฉือ ตกลงเมื่อไรคุณถึงจะหยุดพัวพันกับฉันสักที? ฉันเคยบอกแล้วว่า ไม่มีความรู้สึกต่อคุณแล้ว และคุณทำแบบนี้มันมีแต่จะทำให้ฉ
เพียงเพื่อการแก้แค้นอย่างเดียว ถึงกับเอาความบริสุทธิ์และชื่อเสียงของตัวเองเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยเนี่ยนะ?นอกจากนี้ตอนนั้นโม่ซิวหย่วนแค่ใช้น้ำเสียงห่างเหินและเย็นชาไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรที่ไม่น่าฟังหรือแฝงไปด้วยคำพูดด่าทอเลยหญิงสาวแค้นใจโม่ซิวหย่วนก็เพราะเรื่องเล็กอย่างพูดตีสนิทแต่ไม่สำเสร็จแบบนี้
“อีกอย่างแม้จะเข้าใจเขาผิดแล้วยังไง เมื่อก่อนเขาปรักปรำเธอยังน้อยไปเหรอ?”ฟู่เถียนเถียนเอ่ยอย่างเจ็บใจแทน “เรื่องไม่ดีที่เขาฟังคำพูดใส่ร้ายของป๋ายอีอีครั้งแล้วครั้งเล่า และเอากลยุทธ์ทุกข์กายต่าง ๆ นาๆ ของป๋ายอีอีล้วนตำหนิมาที่เธอ ตอนนี้ฉันคิด ๆ แล้วก็โมโห!”“ตอนนี้ก็ปล่อยให้เขาได้ลิ้มรสของการถูกคนปร
เมื่อได้ยินคำพูดของซ่งชิงชวน โม่ซิวหย่วนกลับไม่เชื่อเลยแม้แต่นิดเดียว“คุณชายใหญ่ซ่ง อย่าเอาคำพูดแบบนี้มาบิดพริ้วกับฉัน!”โม่ซิวหย่วนเอ่ยอย่างเย็นชา “ครั้งก่อนฉันรับประทานอาหารกับเฉียวสือเนี่ยนได้เจอนายกับซ่งม่าน ครั้งนี้ผู้หญิงแซ่เหยาที่ใส่ร้ายฉันปรากฏอยู่ในโรงน้ำชาแห่งเดียวกันกับนาย และเมื่อก่อนน
หลังจากสิ้นสุดสนทนา ซ่งชิงชวนก็เก็บโทรศัพท์ลงไปเมื่อเห็นรูปถ่ายที่อยู่บนโต๊ะเหล่านั้น เขากลับหยิบขึ้นมาดูโดยไม่ได้ตั้งใจ และจากนั้นก็โยนเข้าไปในเครื่องทำลายเอกสาร......หลังจากนั้นสามวัน เฉียวสือเนี่ยนตามหาจนเจอว่าโม่ซิวหย่วนอยู่ในห้องของคลับเฮ้าส์แห่งหนึ่งเขากับเพื่อนนิสัยไม่ดีหลายคนกำลังดื่มเหล
เท่าที่เฉียวสือเนี่ยนจำความได้ แม่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและใช้ความรู้สึกร่วมกับเหตุผล ต่อให้ในตอนนั้นแม่จะโกรธมากแค่ไหน หลังจากนั้นก็ต้องไปถามหลีพัวถิงให้ชัดเจนดังนั้น เรื่องนี้สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการที่แม่ขอเลิกแน่ ๆอีกอย่างการที่แม่หา “คนรักเก่า” มาเป็นข้ออ้างเพื่อขอเลิก ต้องเป็นเพราะมีเหตุผลส
ผลตรวจดีเอ็นเอไม่พลิกผัน หลีซูเหยียนกับหลีพัวไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดตั้งแต่นั้นมา หลีพัวถิงก็เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในเบื้องลึกของหัวใจ ป่าวประกาศกับคนภายนอกว่าหลีซูเหยียนคือลูกสาวของเขา และเลี้ยงดูเสมือนเป็นลูกแท้ ๆ “ในเมื่อคุณเชื่อว่าแม่ฉันโกหก เด็กก็ไม่ใช่ลูกของคุณ แล้วทำไมคุณยังต้องเลี้
หลีพัวถิงพยักหน้าเล็กน้อยและจมอยู่ในความทรงจำต่อไปหนุ่มสาวมากความสามารถที่อายุน้อย แถมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก หัวใจทั้งสองดวงจึงใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็วหลังรู้จักกันได้ไม่นาน ในวันที่แสงแดดเจิดจ้าเช่นเดียวกัน หลีพัวถิงสารภาพรักกับเมิ่งจินเหยียนท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม และทั้งสองก็กลายเป็นคู่รักอ
แม้หลีซูเหยียนจะพูดอย่างจริงใจ แต่หลีพัวถิงก็ยังคงปฏิเสธ “ซูเหยียน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว และทำตามที่พ่อบอก ลูกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศซะ”เดิมทีหลีซูเหยียนคิดว่าตัวเองมั่นใจต่อข้อเสนอนี้มาก ถึงอย่างไรทางด้านคุณลุงก็พร้อมจะลงมือ แถมครั้งนี้ยังเกิดเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นลักพาตัวอีก เธอยินยอมกลายเป็นเป้
พอเฉียวสือเนี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งสับสนมึนงงเข้าไปใหญ่ สิ่งที่ฮั่วเยี่ยนฉือพูดมามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?ไม่เคยมีคุณแม่แท้ ๆ ของหลีซูเหยียนอยู่ทั้งนั้น หลีซูเหยียนเข้าใจผิดไปเองว่ามารดาที่ให้กำเนิดตัวเองมีความรักลึกซึ้งกับหลีพัวถิง?คนที่หลีพัวถิงรักมาตลอดชั่วชีวิตมีเพียงคุณแม่ของเฉียวสือเนี
หลีซูเหยียนกับตระกูลรองของตระกูลหลีนั้นถือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันในเรื่องของผลประโยชน์ พวกเขาจะไปร่วมมือกันได้อย่างไร?บางทีฮั่วเยี่ยนฉือก็อาจจะคิดถึงจุดนี้เหมือนกันเลยไม่ได้พูดอะไรแต่พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็ฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปถ่ายของคุณแม่กับคุณผู้หญิง
พูดจบ หนิงเสี่ยวเยว่ก็ตัดสายวิดีโอคอลเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าหนิงเสี่ยวเยว่ดูแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่พอคิด ๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะหล่อนใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน เลยค่อนข้างเปิดเผยความรู้สึกไปบ้างสินะเวลาล่วงเลยไปอีกสองวันวิดีโอและรูปภาพเกี่ยวกับเฉียวสือเนี่ยนและซ่งชิงชวนทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ตนั้นค้
เฉียวสือเนี่ยนยิ้มพลางบอกว่าไม่ได้รบกวน ทั้งยังถามหนิงเสี่ยวเยว่ว่าโทรมาหาเธอมีธุระอะไรหรือเปล่าหนิงเสี่ยวเยว่ชี้แจงแถลงไขให้ฟังอย่างเก้อเขินเล็กน้อยว่า วันนี้เธอไปช็อปปิ้งที่ร้านน้ำหอมของ M•Q แล้วชอบน้ำหอมรุ่นลิมิเต็ดนั่นมาก แต่ก็ได้รับแจ้งว่าสินค้าหมดเสียแล้ว“ฉันได้ยินว่าคุณเป็นคำปรุงน้ำหอมรุ่นน
ซ่งชิงชวนแกะมือมารดาออกด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วหมุนตัวจากไป คล้อยหลังเขา หลีซูเหยียนก็กอบกุมลำคอที่เจ็บระบมของตนเอง ร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าว “ป้าเซิ่ง เมื่อกี้นี้ป้าเซิ่งไม่เห็นสายตาของประธานซ่งเหรอคะ? เขาคิดจะบีบคอหนูให้ตายจริง ๆ นะคะ เขาน่ะเกลียดที่หนูลงมือกับเฉียวสือเนี่ยนชัด ๆ !”เซิ่งจวงฮุ่ยหั