“ขอบคุณนะ” ฟู่เถียนเถียนพูดจากใจจริงลู่เฉินหนานมองเธอ “ฉันหวังว่าในสักวันหนึ่ง เธอจะไม่ขอบคุณฉันไม่ว่าฉันจะทำเรื่องอะไรหรือพูดอะไรกับเธอ”ฟู่เถียนเถียนมองคู่ตาที่ยาวเรียวและหางตายกเฉี่ยวของลู่เฉินหนาน เธอย่อมรู้ดีว่าคำพูดนี้ของเขาหมายความว่าอย่างไรมีเพียงคนที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันเท่านั้นจึงจะพ
ฟู่เถียนเถียนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ก็พบว่าเป็นข้อความที่ส่งมาจากเวินจิ๋งหลี่[เถียนเถียน ฉันอยู่ที่ร้านกาแฟคราวก่อน มาคุยกันหน่อยได้ไหม?]เฉียวสือเนี่ยนก็เห็นข้อความนี้เช่นกัน “อยากไปคุยกับเขาไหม?”ฟู่เถียนเถียนครุ่นคิด “ไปคุยสักหน่อยก็ได้”แม้จะพูดสิ่งที่อยากพูดไปหมดแล้ว แต่ก็จำเป็นต้องบอกเวินจิ๋งหล
ได้ยินเสียงฮั่วอวี่ซานเรียกว่าพี่สาวเบา ๆ เฉียวสือเนี่ยนก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อยคนที่ยืนอยู่ด้านข้างฮั่วอวี่ซานคือคุณนายฮั่ว พวกเธอยืนอยู่ไม่ไกล คงจะเห็นฉากที่เธอกับโม่ซิวหย่วนหยอกล้อกันแล้วเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกกระอักกระอ่วนอย่างอธิบายไม่ถูก เพราะความสัมพันธ์ของโม่ซิวหย่วนและฮั่วเยี่ยนฉือ เธอจึงไม่ต้
เฉียวสือเนี่ยนและทุกคนเบนความสนใจไปที่นอกประตูแม้จะไม่เห็นคน แต่ก็ได้ยินเสียงทักทายว่า “ประธานฮั่ว” หรือ “คุณฮั่ว” มาจากในสวนอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังมีเสียงดังอื้ออึงของคนจำนวนไม่น้อย ฟังดูมีชีวิตชีวาราวกับเจ้าบ้านกลับมาแล้ว“ว้าว คุณฮั่วมานี่เอง คุณหลี ได้ยินว่าคุณกับคุณฮั่วใกล้จะมีข่าวดีแล้ว วันนี้
ฮั่วเยี่ยนฉือรู้ว่า หากตัวเองเข้าไปก็มีแต่จะทำให้เฉียวสือเนี่ยนไม่มีความสุขเหมือนเมื่อครู่เธอมีรอยยิ้มประดับเต็มใบหน้าให้โม่ซิวหย่วน แต่เมื่อหันมามองเขาใบหน้าเล็กของเธอกลับเย็นชาลงทันที ทั้งยังเตือนเขาอย่างเย็นชาว่าอย่าทำให้โม่ซิวหย่วนไม่สบายใจหัวใจของฮั่วเยี่ยนฉือมีความขมขื่นวาบผ่าน สุดท้ายก็หัน
เมื่อได้ยินคำพูดของฮั่วอวี่ซาน หัวใจของฮั่วเยี่ยนฉือก็สั่นไหวเล็กน้อยฮั่วอวี่ซานยังอายุน้อย แต่จิตใจของเธออ่อนไหวมากเธอมองออกว่าเฉียวสือเนี่ยนและโม่ซิวหย่วนมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกัน และรู้ว่าเฉียวสือเนี่ยนไม่อาจมาที่บ้านได้ตลอดเมื่อคิดว่าหลังจากนี้ข้างกายเฉียวสือเนี่ยนจะเคียงคู่กับผู้ชายคนอื่น
ท่าทางของโม่ซิวหย่วนเย็นชาอย่างมาก บวกกับน้ำเสียงที่ดูมีพลังของเขา หญิงสาวจึงคลายมือที่ปิดหน้าของเธอออก และในน้ำเสียงที่โศกเศร้ายังแฝงไปด้วยความอวดดีอยู่เล็กน้อย“คุณชายโม่ คุณปรักปรำฉันแล้วจริง ๆ เมื่อคืนแม้แต่เหล้าฉันยังไม่ได้ดื่มให้คุณเลย และฉันจะมีเวลาใส่ยาให้คุณได้อย่างไร!”“ฉันพยุงคุณก็เพราะว่
ปฏิกิริยาแรกของฮั่วเยี่ยนฉือคือ โจวเทียนเฉิงฟังผิดแล้วนับตั้งแต่ก่อนที่เฉียวสือเนี่ยนจะหย่าเคยมาหาเขาที่นี่ครั้งหนึ่ง หลังจากนั้นก็ไม่เคยเหยียบเข้ามาที่ ‘ฮั่ว กรุ๊ป’ อีกเลยในเวลานี้ เธอจะเข้ามาทำไม?“หรือว่าคุณผู้หญิงจะทราบที่ประธานฮั่วกำลังช่วยเธอสืบเรื่องของมณฑลหู จึงตั้งใจเข้ามาขอบคุณหรือเปล่าค
เท่าที่เฉียวสือเนี่ยนจำความได้ แม่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและใช้ความรู้สึกร่วมกับเหตุผล ต่อให้ในตอนนั้นแม่จะโกรธมากแค่ไหน หลังจากนั้นก็ต้องไปถามหลีพัวถิงให้ชัดเจนดังนั้น เรื่องนี้สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการที่แม่ขอเลิกแน่ ๆอีกอย่างการที่แม่หา “คนรักเก่า” มาเป็นข้ออ้างเพื่อขอเลิก ต้องเป็นเพราะมีเหตุผลส
ผลตรวจดีเอ็นเอไม่พลิกผัน หลีซูเหยียนกับหลีพัวไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดตั้งแต่นั้นมา หลีพัวถิงก็เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในเบื้องลึกของหัวใจ ป่าวประกาศกับคนภายนอกว่าหลีซูเหยียนคือลูกสาวของเขา และเลี้ยงดูเสมือนเป็นลูกแท้ ๆ “ในเมื่อคุณเชื่อว่าแม่ฉันโกหก เด็กก็ไม่ใช่ลูกของคุณ แล้วทำไมคุณยังต้องเลี้
หลีพัวถิงพยักหน้าเล็กน้อยและจมอยู่ในความทรงจำต่อไปหนุ่มสาวมากความสามารถที่อายุน้อย แถมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก หัวใจทั้งสองดวงจึงใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็วหลังรู้จักกันได้ไม่นาน ในวันที่แสงแดดเจิดจ้าเช่นเดียวกัน หลีพัวถิงสารภาพรักกับเมิ่งจินเหยียนท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม และทั้งสองก็กลายเป็นคู่รักอ
แม้หลีซูเหยียนจะพูดอย่างจริงใจ แต่หลีพัวถิงก็ยังคงปฏิเสธ “ซูเหยียน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว และทำตามที่พ่อบอก ลูกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศซะ”เดิมทีหลีซูเหยียนคิดว่าตัวเองมั่นใจต่อข้อเสนอนี้มาก ถึงอย่างไรทางด้านคุณลุงก็พร้อมจะลงมือ แถมครั้งนี้ยังเกิดเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นลักพาตัวอีก เธอยินยอมกลายเป็นเป้
พอเฉียวสือเนี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งสับสนมึนงงเข้าไปใหญ่ สิ่งที่ฮั่วเยี่ยนฉือพูดมามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?ไม่เคยมีคุณแม่แท้ ๆ ของหลีซูเหยียนอยู่ทั้งนั้น หลีซูเหยียนเข้าใจผิดไปเองว่ามารดาที่ให้กำเนิดตัวเองมีความรักลึกซึ้งกับหลีพัวถิง?คนที่หลีพัวถิงรักมาตลอดชั่วชีวิตมีเพียงคุณแม่ของเฉียวสือเนี
หลีซูเหยียนกับตระกูลรองของตระกูลหลีนั้นถือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันในเรื่องของผลประโยชน์ พวกเขาจะไปร่วมมือกันได้อย่างไร?บางทีฮั่วเยี่ยนฉือก็อาจจะคิดถึงจุดนี้เหมือนกันเลยไม่ได้พูดอะไรแต่พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็ฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปถ่ายของคุณแม่กับคุณผู้หญิง
พูดจบ หนิงเสี่ยวเยว่ก็ตัดสายวิดีโอคอลเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าหนิงเสี่ยวเยว่ดูแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่พอคิด ๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะหล่อนใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน เลยค่อนข้างเปิดเผยความรู้สึกไปบ้างสินะเวลาล่วงเลยไปอีกสองวันวิดีโอและรูปภาพเกี่ยวกับเฉียวสือเนี่ยนและซ่งชิงชวนทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ตนั้นค้
เฉียวสือเนี่ยนยิ้มพลางบอกว่าไม่ได้รบกวน ทั้งยังถามหนิงเสี่ยวเยว่ว่าโทรมาหาเธอมีธุระอะไรหรือเปล่าหนิงเสี่ยวเยว่ชี้แจงแถลงไขให้ฟังอย่างเก้อเขินเล็กน้อยว่า วันนี้เธอไปช็อปปิ้งที่ร้านน้ำหอมของ M•Q แล้วชอบน้ำหอมรุ่นลิมิเต็ดนั่นมาก แต่ก็ได้รับแจ้งว่าสินค้าหมดเสียแล้ว“ฉันได้ยินว่าคุณเป็นคำปรุงน้ำหอมรุ่นน
ซ่งชิงชวนแกะมือมารดาออกด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วหมุนตัวจากไป คล้อยหลังเขา หลีซูเหยียนก็กอบกุมลำคอที่เจ็บระบมของตนเอง ร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าว “ป้าเซิ่ง เมื่อกี้นี้ป้าเซิ่งไม่เห็นสายตาของประธานซ่งเหรอคะ? เขาคิดจะบีบคอหนูให้ตายจริง ๆ นะคะ เขาน่ะเกลียดที่หนูลงมือกับเฉียวสือเนี่ยนชัด ๆ !”เซิ่งจวงฮุ่ยหั