แววตาของฟู่เถียนเถียนฉายความประหลาดใจเฉียวสือเนี่ยนถามถึงแค่โม่ซิวหย่วน?เมื่อเห็นความหวาดหวั่นบนหน้าของเฉียวสือเนี่ยน ฟู่เถียนเถียนก็ไม่ได้พูดขัดอะไรออกไป แต่บอกเธอว่า“โม่ซิวหย่วนน่าจะตรวจอาการอยู่ ฉันเองก็ไม่รู้ว่าเขาบาดเจ็บยังไงบ้าง แต่มั่นใจได้ว่าไม่อันตรายถึงชีวิต”ได้ยินแบบนั้น เฉียวสือเนี่ย
คนที่มาคือฮั่วเยี่ยนฉือเขานั่งอยู่บนวีลแชร์ ใส่ชุดผู้ป่วย ใบหน้าหล่อเหลาซีดเซียวไม่ต่างจากโม่ซิวหย่วนดวงตาดำขลับเต็มไปด้วยอารมณ์หลากหลาย เหมือนจะเสียใจ เหมือนจะหวาดกลัว เหมือนจะตื่นตระหนก ทุกอย่างผสมปนเปอยู่ด้วยกันหมด ทำให้เฉียวสือเนี่ยนนิ่งชะงักไปอย่างห้ามไม่ได้ฟู่เถียนเถียนบอกว่า “พวกเขาได้รับบ
เมื่อได้ยินคำถามของฟู่เถียนเถียน เฉียวสือเนี่ยนก็กลอกตาเพื่อแสดงให้เห็นว่าไม่อยากสนใจอีกฝ่าย“งั้นฉันเปลี่ยนคำถาม ก่อนหน้านี้เธอตื่นมาก็ถามถึงโม่ซิวหย่วนทันที ไม่เป็นห่วงฮั่วเยี่ยนฉือบ้างเหรอ?” ฟู่เถียนเถียนถามอีกครั้งมุมปากเฉียวสือเนี่ยนยกยิ้มขึ้นเบา ๆ ราวกับกำลังหัวเราะเยาะตัวเอง จะเป็นห่วงหรือไม
เมื่อเห็นสีหน้าเย็นชาและแข็งกร้าวของฮั่วเยี่ยนฉือ ป๋ายอีอีก็รู้สึกถึงลางสังหรณ์ไม่ดีเรื่องนี้มีช่องโหว่งั้นเหรอ?เฉียวสือเนี่ยนพาหยวนหงจื้อไปประเทศ T และโครงการนั้นมีอยู่จริงและเหตุผลที่เธอมาประเทศ T ก็ฟังขึ้นเช่นกันแถมเธอยังถูกทำร้ายขนาดนี้ตอนนี้หยวนหงจื้อตายไปแล้ว ทำไมฮั่วเยี่ยนฉือถึงมั่นใจว่า
โม่ซิวหย่วนตามความคิดของเฉียวสือเนี่ยนไม่ทัน “อะไร?”เฉียวสือเนี่ยนเงยหน้าขึ้น แววตาของเธอเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ “พวกเรารู้จักกันแค่ไม่กี่เดือน และฉันก็ยอมรับว่าตัวเองไม่ได้ดีไปกว่าใครมากนัก ทำไมคุณถึงมีความรู้สึกรักฉันจริง ๆ ขึ้นมาล่ะ?”โม่ซิวหย่วนอึ้งกับคำพูดของเฉียวสือเนี่ยนไปสองวินาที“อะไรคือ
ฮั่วเยี่ยนฉือไม่ได้ตอบคำถามของลู่เฉินหนานทันทีเขายังคงคิดเรื่องความฝันเมื่อเช้าทุกอย่างในฝันเหมือนจริงมากเฉียวสือเนี่ยนสวมชุดของโรงพยาบาลจิตเวช เธอผอมกระหร่อง ใบหน้าซีดเซียว แววตาที่เคยชุ่มฉ่ำกลับเต็มไปด้วยความว่างเปล่าและสิ้นหวังริมฝีปากของเธอแสยะยิ้มราวกับกำลังหัวเราะเยาะตัวเอง เมื่อเธอหยิบมีด
เรื่องที่ฟู่เถียนเถียนจะพูดเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับป๋ายอีอีเช่นกันตอนที่ฟ่านซู่ฉินไปเก็บของของหยวนหงจื้อ เธอเห็นคลิปวิดีโอหนึ่งในโทรศัพท์ของเขา——เป็นคลิปที่หยวนหงจื้อและผู้ชายอีกจำนวนหนึ่งกำลังขืนใจป๋ายอีอีหยวนหงจื้ออาจจะทำไปเพื่อแก้แค้น หรือไม่ก็คิดที่จะบันทึกคลิปนี้เอาไว้เพื่อเป็นประโยชน์ในการหาท
สายตาของฮั่วเยี่ยนฉือเหลือบมองกระดาษอันบางเฉียบแผ่นนั้นที่อยู่ตรงหน้า แล้วเขาก็นิ่งไปราวกับถูกบางอย่างสะกดไว้ โดยไม่ขยับเขยื้อนเลยฟู่เถียนเถียนแค่นเสียงเย็นอีกครั้ง ก่อนจะบอกกับฮั่วเยี่ยนฉือวันที่เฉียวสือเนี่ยนโดนทำร้ายจนต้องแท้งลูก เธอวานให้เพื่อนร่วมงานช่วยเก็บตัวอย่างเส้นผมบนผ้าเช็ดตัวที่เขาใช้
เท่าที่เฉียวสือเนี่ยนจำความได้ แม่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและใช้ความรู้สึกร่วมกับเหตุผล ต่อให้ในตอนนั้นแม่จะโกรธมากแค่ไหน หลังจากนั้นก็ต้องไปถามหลีพัวถิงให้ชัดเจนดังนั้น เรื่องนี้สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการที่แม่ขอเลิกแน่ ๆอีกอย่างการที่แม่หา “คนรักเก่า” มาเป็นข้ออ้างเพื่อขอเลิก ต้องเป็นเพราะมีเหตุผลส
ผลตรวจดีเอ็นเอไม่พลิกผัน หลีซูเหยียนกับหลีพัวไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดตั้งแต่นั้นมา หลีพัวถิงก็เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในเบื้องลึกของหัวใจ ป่าวประกาศกับคนภายนอกว่าหลีซูเหยียนคือลูกสาวของเขา และเลี้ยงดูเสมือนเป็นลูกแท้ ๆ “ในเมื่อคุณเชื่อว่าแม่ฉันโกหก เด็กก็ไม่ใช่ลูกของคุณ แล้วทำไมคุณยังต้องเลี้
หลีพัวถิงพยักหน้าเล็กน้อยและจมอยู่ในความทรงจำต่อไปหนุ่มสาวมากความสามารถที่อายุน้อย แถมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก หัวใจทั้งสองดวงจึงใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็วหลังรู้จักกันได้ไม่นาน ในวันที่แสงแดดเจิดจ้าเช่นเดียวกัน หลีพัวถิงสารภาพรักกับเมิ่งจินเหยียนท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม และทั้งสองก็กลายเป็นคู่รักอ
แม้หลีซูเหยียนจะพูดอย่างจริงใจ แต่หลีพัวถิงก็ยังคงปฏิเสธ “ซูเหยียน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว และทำตามที่พ่อบอก ลูกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศซะ”เดิมทีหลีซูเหยียนคิดว่าตัวเองมั่นใจต่อข้อเสนอนี้มาก ถึงอย่างไรทางด้านคุณลุงก็พร้อมจะลงมือ แถมครั้งนี้ยังเกิดเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นลักพาตัวอีก เธอยินยอมกลายเป็นเป้
พอเฉียวสือเนี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งสับสนมึนงงเข้าไปใหญ่ สิ่งที่ฮั่วเยี่ยนฉือพูดมามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?ไม่เคยมีคุณแม่แท้ ๆ ของหลีซูเหยียนอยู่ทั้งนั้น หลีซูเหยียนเข้าใจผิดไปเองว่ามารดาที่ให้กำเนิดตัวเองมีความรักลึกซึ้งกับหลีพัวถิง?คนที่หลีพัวถิงรักมาตลอดชั่วชีวิตมีเพียงคุณแม่ของเฉียวสือเนี
หลีซูเหยียนกับตระกูลรองของตระกูลหลีนั้นถือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันในเรื่องของผลประโยชน์ พวกเขาจะไปร่วมมือกันได้อย่างไร?บางทีฮั่วเยี่ยนฉือก็อาจจะคิดถึงจุดนี้เหมือนกันเลยไม่ได้พูดอะไรแต่พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็ฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปถ่ายของคุณแม่กับคุณผู้หญิง
พูดจบ หนิงเสี่ยวเยว่ก็ตัดสายวิดีโอคอลเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าหนิงเสี่ยวเยว่ดูแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่พอคิด ๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะหล่อนใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน เลยค่อนข้างเปิดเผยความรู้สึกไปบ้างสินะเวลาล่วงเลยไปอีกสองวันวิดีโอและรูปภาพเกี่ยวกับเฉียวสือเนี่ยนและซ่งชิงชวนทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ตนั้นค้
เฉียวสือเนี่ยนยิ้มพลางบอกว่าไม่ได้รบกวน ทั้งยังถามหนิงเสี่ยวเยว่ว่าโทรมาหาเธอมีธุระอะไรหรือเปล่าหนิงเสี่ยวเยว่ชี้แจงแถลงไขให้ฟังอย่างเก้อเขินเล็กน้อยว่า วันนี้เธอไปช็อปปิ้งที่ร้านน้ำหอมของ M•Q แล้วชอบน้ำหอมรุ่นลิมิเต็ดนั่นมาก แต่ก็ได้รับแจ้งว่าสินค้าหมดเสียแล้ว“ฉันได้ยินว่าคุณเป็นคำปรุงน้ำหอมรุ่นน
ซ่งชิงชวนแกะมือมารดาออกด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วหมุนตัวจากไป คล้อยหลังเขา หลีซูเหยียนก็กอบกุมลำคอที่เจ็บระบมของตนเอง ร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าว “ป้าเซิ่ง เมื่อกี้นี้ป้าเซิ่งไม่เห็นสายตาของประธานซ่งเหรอคะ? เขาคิดจะบีบคอหนูให้ตายจริง ๆ นะคะ เขาน่ะเกลียดที่หนูลงมือกับเฉียวสือเนี่ยนชัด ๆ !”เซิ่งจวงฮุ่ยหั