เรื่องที่ฟู่เถียนเถียนจะพูดเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับป๋ายอีอีเช่นกันตอนที่ฟ่านซู่ฉินไปเก็บของของหยวนหงจื้อ เธอเห็นคลิปวิดีโอหนึ่งในโทรศัพท์ของเขา——เป็นคลิปที่หยวนหงจื้อและผู้ชายอีกจำนวนหนึ่งกำลังขืนใจป๋ายอีอีหยวนหงจื้ออาจจะทำไปเพื่อแก้แค้น หรือไม่ก็คิดที่จะบันทึกคลิปนี้เอาไว้เพื่อเป็นประโยชน์ในการหาท
สายตาของฮั่วเยี่ยนฉือเหลือบมองกระดาษอันบางเฉียบแผ่นนั้นที่อยู่ตรงหน้า แล้วเขาก็นิ่งไปราวกับถูกบางอย่างสะกดไว้ โดยไม่ขยับเขยื้อนเลยฟู่เถียนเถียนแค่นเสียงเย็นอีกครั้ง ก่อนจะบอกกับฮั่วเยี่ยนฉือวันที่เฉียวสือเนี่ยนโดนทำร้ายจนต้องแท้งลูก เธอวานให้เพื่อนร่วมงานช่วยเก็บตัวอย่างเส้นผมบนผ้าเช็ดตัวที่เขาใช้
ฮั่วเยี่ยนฉือกำผลตรวจดีเอ็นเอไว้ แล้วก้มมองลงไปอ่านตัวอักษรที่เขียนไว้ว่า ‘ตัวอย่างดีเอ็นเอทั้งสองมีความสัมพันธ์เป็นบิดาและบุตรกัน โดยมีความใกล้เคียงของลำดับดีเอ็นเอ 99.99 %’ จากนั้นเขาก็รู้สึกคาวขึ้นมาในลำคอ เนื่องจากเขาได้กระอักเลือดออกมาแล้ว“ประธานฮั่ว คุณเป็นอะไรไปครับ!”โจวเทียนเฉิงที่เพิ่งเข้
เฉียวสือเนี่ยนไม่ได้มีสติสัมปชัญญะมากนักเธอรู้สึกเพียงว่าอ้อมกอดจากด้านหลังนี้อบอุ่นมากเป็นพิเศษ ทำให้ร่างกายของเธอที่หนาวเย็นเนื่องจากความอ่อนเพลียเริ่มสัมผัสถึงความสบายคนที่อยู่ด้านหลังโอบรัดเธอไว้ด้วยความระมัดระวัง ซ้ำยังแนบชิดติดกับแผ่นหลังของเธอด้วย พร้อมกับแนบใบหน้าจรดลำคอของเธอเบา ๆเมื่ออุ
ฟู่เถียนเถียนกล่าว “เปล่านี่ ฉันแค่บอกกับเขาว่า เด็กที่อยู่ในท้องเธอเป็นของเขา”เรื่องนี้เฉียวสือเนี่ยนได้เคยบอกกับฮั่วเยี่ยนฉือในตอนที่เธอใช้วิธีกระโดดตึกเพื่อบีบให้เขาหย่าไปแล้ว แต่ฮั่วเยี่ยนฉือกลับไม่เชื่อฟู่เถียนเถียนทำอย่างไร เขาถึงยอมเชื่อได้?เฉียวสือเนี่ยนเอ่ยถามความสงสัยของตัวเองออกไปฟู่เ
โม่ซิวหย่วนใช้สายตารังเกียจแทนคำปฏิเสธในทันทีเฉียวสือเนี่ยนพูดโน้มน้าว “ฉันเพิ่งกินอะไรไปนิดหน่อยเลยยังอิ่มอยู่ คุณกินเถอะนะ อย่าสิ้นเปลืองไปเลย”โม่ซิวหย่วนมองเธอ ก่อนจะพูดอย่างมีจุดประสงค์บางอย่าง “ถ้าเธอป้อนฉัน ฉันก็จะลองพิจารณาดูสักหน่อย”เฉียวสือเนี่ยนถลึงตาใส่เขาอย่างไม่พอใจ “บาดแผลของคุณไม่ไ
เฉียวสือเนี่ยนไม่เชื่อ “ตอนอยู่ที่ประเทศ M คุณยังไปเดทกับสาวแซ่บคนหนึ่งด้วยนี่ กับคนนี้คุณก็ไม่ได้มีอะไรด้วยเหรอ?”รอยยิ้มบนใบหน้าหล่อเหลาของโม่ซิวหย่วนขยายใหญ่ขึ้น ดวงตารูปกลีบดอกท้อของเขาก็เริ่มเปล่งประกายแสงวาววับเฉียวสือเนี่ยนทำหน้าสงสัยเรื่องนี้มันน่าภูมิใจนักเหรอ ทำไมโม่ซิวหย่วนถึงได้ฉีกยิ้ม
โม่ซิวหย่วนในตอนนี้มีสีหน้าจริงจัง ดวงตาเปล่งประกายแสงระยิบระยับ แม้จะเป็นเฉียวสือเนี่ยนที่ออกตัวว่าจะไม่ขอข้องเกี่ยวกับเรื่องความสัมพันธ์อีก ทว่าบัดนี้เธอก็เริ่มรู้สึกหวั่นไหวขึ้นมาบ้างแล้วเช่นกันเฉียวสือเนี่ยนรู้ว่าโม่ซิวหย่วนดูเป็นคนขี้เล่นแค่ภายนอก เมื่อลงมือทำเรื่องใดก็จะมีหลักการมาก และยิ่งไม
เท่าที่เฉียวสือเนี่ยนจำความได้ แม่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและใช้ความรู้สึกร่วมกับเหตุผล ต่อให้ในตอนนั้นแม่จะโกรธมากแค่ไหน หลังจากนั้นก็ต้องไปถามหลีพัวถิงให้ชัดเจนดังนั้น เรื่องนี้สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการที่แม่ขอเลิกแน่ ๆอีกอย่างการที่แม่หา “คนรักเก่า” มาเป็นข้ออ้างเพื่อขอเลิก ต้องเป็นเพราะมีเหตุผลส
ผลตรวจดีเอ็นเอไม่พลิกผัน หลีซูเหยียนกับหลีพัวไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดตั้งแต่นั้นมา หลีพัวถิงก็เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในเบื้องลึกของหัวใจ ป่าวประกาศกับคนภายนอกว่าหลีซูเหยียนคือลูกสาวของเขา และเลี้ยงดูเสมือนเป็นลูกแท้ ๆ “ในเมื่อคุณเชื่อว่าแม่ฉันโกหก เด็กก็ไม่ใช่ลูกของคุณ แล้วทำไมคุณยังต้องเลี้
หลีพัวถิงพยักหน้าเล็กน้อยและจมอยู่ในความทรงจำต่อไปหนุ่มสาวมากความสามารถที่อายุน้อย แถมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก หัวใจทั้งสองดวงจึงใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็วหลังรู้จักกันได้ไม่นาน ในวันที่แสงแดดเจิดจ้าเช่นเดียวกัน หลีพัวถิงสารภาพรักกับเมิ่งจินเหยียนท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม และทั้งสองก็กลายเป็นคู่รักอ
แม้หลีซูเหยียนจะพูดอย่างจริงใจ แต่หลีพัวถิงก็ยังคงปฏิเสธ “ซูเหยียน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว และทำตามที่พ่อบอก ลูกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศซะ”เดิมทีหลีซูเหยียนคิดว่าตัวเองมั่นใจต่อข้อเสนอนี้มาก ถึงอย่างไรทางด้านคุณลุงก็พร้อมจะลงมือ แถมครั้งนี้ยังเกิดเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นลักพาตัวอีก เธอยินยอมกลายเป็นเป้
พอเฉียวสือเนี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งสับสนมึนงงเข้าไปใหญ่ สิ่งที่ฮั่วเยี่ยนฉือพูดมามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?ไม่เคยมีคุณแม่แท้ ๆ ของหลีซูเหยียนอยู่ทั้งนั้น หลีซูเหยียนเข้าใจผิดไปเองว่ามารดาที่ให้กำเนิดตัวเองมีความรักลึกซึ้งกับหลีพัวถิง?คนที่หลีพัวถิงรักมาตลอดชั่วชีวิตมีเพียงคุณแม่ของเฉียวสือเนี
หลีซูเหยียนกับตระกูลรองของตระกูลหลีนั้นถือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันในเรื่องของผลประโยชน์ พวกเขาจะไปร่วมมือกันได้อย่างไร?บางทีฮั่วเยี่ยนฉือก็อาจจะคิดถึงจุดนี้เหมือนกันเลยไม่ได้พูดอะไรแต่พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็ฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปถ่ายของคุณแม่กับคุณผู้หญิง
พูดจบ หนิงเสี่ยวเยว่ก็ตัดสายวิดีโอคอลเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าหนิงเสี่ยวเยว่ดูแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่พอคิด ๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะหล่อนใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน เลยค่อนข้างเปิดเผยความรู้สึกไปบ้างสินะเวลาล่วงเลยไปอีกสองวันวิดีโอและรูปภาพเกี่ยวกับเฉียวสือเนี่ยนและซ่งชิงชวนทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ตนั้นค้
เฉียวสือเนี่ยนยิ้มพลางบอกว่าไม่ได้รบกวน ทั้งยังถามหนิงเสี่ยวเยว่ว่าโทรมาหาเธอมีธุระอะไรหรือเปล่าหนิงเสี่ยวเยว่ชี้แจงแถลงไขให้ฟังอย่างเก้อเขินเล็กน้อยว่า วันนี้เธอไปช็อปปิ้งที่ร้านน้ำหอมของ M•Q แล้วชอบน้ำหอมรุ่นลิมิเต็ดนั่นมาก แต่ก็ได้รับแจ้งว่าสินค้าหมดเสียแล้ว“ฉันได้ยินว่าคุณเป็นคำปรุงน้ำหอมรุ่นน
ซ่งชิงชวนแกะมือมารดาออกด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วหมุนตัวจากไป คล้อยหลังเขา หลีซูเหยียนก็กอบกุมลำคอที่เจ็บระบมของตนเอง ร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าว “ป้าเซิ่ง เมื่อกี้นี้ป้าเซิ่งไม่เห็นสายตาของประธานซ่งเหรอคะ? เขาคิดจะบีบคอหนูให้ตายจริง ๆ นะคะ เขาน่ะเกลียดที่หนูลงมือกับเฉียวสือเนี่ยนชัด ๆ !”เซิ่งจวงฮุ่ยหั