เธอเคยตักเตือนเขาไปแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าอย่าเรียกร้องความสนใจจากเฉียวเล่อเยียน หยวนหงจื้อก็รู้ว่าไม่มีความหวังแล้วแต่ทำไมถึงอยากจะเจอเฉียวเล่อเยียน และขอโอกาสจากเธอ?เฉียวสือเนี่ยนปลอบใจเฉียวเล่อเยียนไม่กี่ประโยค และให้เธอต่อไปไม่ต้องทำตัวเป็นคู่รักกับหยวนหงจื้อแล้ว แค่พยายามไม่สนใจก็พอหลังจากวางสาย
“เฉียวสือเนี่ยน นี่เธอลำบากใจมากเลยเหรอ?”เมื่อเห็นว่าเฉียวสือเนี่ยนยังคงเงียบเป็นเวลานาน โม่ซิวหย่วนจึงถามอย่างไม่พอใจเฉียวสือเนี่ยนคิดอยู่ครู่หนึ่ง แม้เงื่อนไขนี้จะไร้เหตุผล แต่ก็ไม่ถือว่ามากจนเกินไป“ไม่มีการกำหนดราคากับของขวัญใช่ไหม?” เฉียวสือเนี่ยนยืนยันถ้าแพงเกินไปเธอก็ไม่อยากจะมอบให้หรอก“ไ
คำพูดนี้ของฟู่เถียนเถียนพูดได้ว่าจริงใจมากแล้ว แต่เฉียวสือเนี่ยนก็ไม่ได้เอามาใส่ใจโม่ซิวหย่วนคนคนนั้นปกติไม่จริงจังอะไร การทำงานล้วนขึ้นอยู่กับอารมณ์ แม้จะเป็นความชอบ แต่ก็แค่ความคิดชั่ววูบเท่านั้น และรู้สึกว่าเธอน่าสนใจ คิดอยากล้อเล่นขำ ๆ ด้วยสักครั้งเฉียวสือเนี่ยนไม่อยากถูกเขาหัวเราะเยาะอย่างโง่
มารดาของเวินจิ๋งหลี่คิดว่าตัวเองเข้าใจลูกชายดีเขามีนิสัยถือตัว ไม่เคยโอนอ่อนเพื่อคนอื่นและทำเรื่องที่รู้สึกผิดต่อตัวเองเลยหรือจะบอกว่า ไม่มีใครสามารถทำให้ลูกชายขาดสติแบบนี้ได้ดังนั้น ที่ลูกชายย้ายงานในครั้งนี้ไม่มีทางเป็นเพราะฟู่เถียนเถียนเขาแค่เบื่อหน่ายเรื่องที่เธอกำลังวางแผนให้เขาแต่งงานอีกคร
แต่ตอนนี้ ฟู่เถียนเถียนเลื่อนขั้นเป็นหัวหน้าพยาบาลสำเร็จ และสามารถย้ายมาทำงานที่โรงพยาบาลของเขาได้แล้ว แต่พวกเขากลับหย่ากันและในตอนที่เขาตัดสินใจไปโรงพยาบาลของฟู่เถียนเถียน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลของเขาต่างผลัดกันมาทำงานให้เขา เพื่อแสดงให้เห็นว่าพวกเขาสามารถตอบตกลงตามเงื่อนไขที่สมเหตุสมผลของเขาได้ทุกอ
ฟู่เถียนเถียนไม่ตอบคำตอบใด ๆ ของเวินจิ๋งหลี่ส่วนเวินจิ๋งหลี่ก็รู้ตัวแล้วว่า ตนเองเป็นคนที่ล้ำเส้นตอนที่เขาและเธอยังเป็นคู่สามีภรรยากันอยู่ เขาไม่เคยถามฟู่เถียนเถียนเลยว่าจะไปไหนมาไหน ตอนนี้พวกเขาหย่ากันแล้ว เขามีสิทธิ์อะไรไปถามล่ะ?“ขอโทษนะ ฉันก็แค่คิดว่าพวกเราไม่ได้ทานข้าวด้วยกันนานแล้ว เลยอยากชว
ฟู่เถียนเถียนกล่าววาจาถากถาง “ขอโทษนะคะ ตอนนี้ฉันลาออกแล้ว จะพูดยังไงหรือจะพูดอะไรมันก็เรื่องของฉัน คุณอยากฟังก็ฟัง ไม่อยากฟังก็ไปซะ!”พูดจบ ฟู่เถียนเถียนก็เปิดประตูรถเข้าไปนั่ง แล้วพูดกับลู่เฉินหนาน “เราไปกันเถอะ”ในสถานการณ์แบบนี้ ลู่เฉินหนานไม่มีทางพูดอะไรมากอยู่แล้ว เขานั่งประจำที่คนขับเวินจิ๋ง
จากกลิ่นคุ้นจมูกที่ใกล้เข้ามา เฉียวสือเนี่ยนไม่ต้องหันไปมองก็รู้ได้ทันทีว่าใครเดินเข้ามาในครึ่งเดือนนี้ นอกจากเมื่อวานที่บ้านใหญ่แล้ว ฮั่วเยี่ยนฉือก็ไม่เคยมาปรากฏตัวต่อหน้าเธอเลยสักครั้งเธอยังคิดอยู่เลยว่า เขาคงจะคิดได้แล้วไม่อยากมาวุ่นวายอีก ไหนเลยจะไปมีใครรู้ได้ว่าเขาจะเข้ามาในร้านนี้“ประธานฮั่