เฉียวสือเนี่ยนกับหลีซูเหยียนยังไม่ได้ในอยู่ระดับจะเม้าท์มอยถึงคนที่อีกฝ่ายชื่นชอบเธอจึงยิ้มพลางเอ่ย “คุณหลีคุณสมบัติดีขนาดนี้ จะชื่นชอบใครต่างก็เป็นความโชคดีของอีกฝ่ายแหละค่ะ”“อาจจะนะคะ” หลีซูเหยียนเอ่ยอย่างอ่อนหวาน “แต่เขายังไม่รู้ถึงความรู้สึกที่ฉันมีต่อเขาเลยค่ะ!”นี่กลับทำให้เฉียวสือเนี่ยนรู้ส
ลู่เฉินหนานทั้งหัวเราะ และทั้งพยุงฮั่วเยี่ยนฉือที่ก้าวเดินอย่างไม่มั่นคงเดินเข้ามา“คุณเฉียว พวกเราดื่มเหล้ามา และก็ไม่ได้ขับรถมา จะขอติดรถของพี่ไปด้วยได้ไหมครับ?”เฉียวสือเนี่ยนปฏิเสธ “พวกนายเรียกรถเองก็ได้ไม่ใช่เหรอ?”“เฮ้อ พี่ฉือดื่มเยอะมาก แถมเมื่อกี้ยังบอกว่าปวดสะบัก และบอกว่าปวดกระเพาะอีก จะรอ
“ปล่อยฉันนะ!”เฉียวสือเนี่ยนถองศอกใส่หน้าอกฮั่วเยี่ยนฉือ“ซี๊ด” ฮั่วเยี่ยนฉือถึงกับครวญครางออกมาครั้นคิดถึงคืนนั้นที่เมือง S ที่เขาต้องแผลฉีกอีกครั้งเพราะปกป้องเธอแล้ว เฉียวสือเนี่ยนจึงชะงักไปทว่าฮั่วเยี่ยนฉือกลับฉวยโอกาสนี้กอดรัดเธอแน่นขึ้นไปเอง แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง “เนี่ยนเนี่ยน เธออย่าปฏ
ยามนี้ฮั่วเยี่ยนฉือไม่อาจหักห้ามความปรารถนาในใจของตัวเองได้อีกต่อไป เขาคว้ามือของเธอไว้ พลางดึงไปยังบริเวณหนึ่งบนกาย น้ำเสียงแหบแห้งจนพูดแทบฟังไม่ได้ศัพท์ “เนี่ยนเนี่ยน ฉันคิดถึงเธอเหลือเกิน คิดถึงจนแทบจะระเบิดออกมาอยู่แล้ว...”ดวงหน้าของเฉียวสือเนี่ยนแดงเถือกขึ้นมา ทันทีที่ไปแตะต้องโดนส่วนที่แข็งขื
เฉียวสือเนี่ยนรับรู้ได้จากกระแสความหยอกเอินในน้ำเสียงและสายตาของฮั่วเยี่ยนฉือ ว่าตอนนี้ตัวเธอเองตกอยู่ในที่นั่งลำบากเสียแล้ววันนี้เธอใส่เสื้อเชิ้ตทับด้วยเสื้อสูทตัวเล็ก เมื่อครู่ที่เธอกับฮั่วเยี่ยนฉือพัลวันกันอยู่นั้น กระดุมเสื้อก็ถูกเขาดึงออกไปแล้วหลายเม็ด ไม่ใช่แค่เสื้อชั้นในเท่านั้นที่ออกมาอวดโฉ
“ใช่แล้ว” ลู่เฉินหนานรู้สึกภูมิใจเล็กน้อย “เถียนเถียน เธอรู้ไหมว่าของขวัญงานแต่งงานที่พี่สะใภ้พูดถึงหมายความว่ายังไง? ฉันถามพี่ฉือแล้ว แต่เขาไม่บอกอะไรเลย”ฟู่เถียนเถียนเล่าเรื่องสร้อยข้อมือสั่งทำเส้นนั้นที่เกี่ยวข้องกับเฉียวสือเนี่ยนให้ลู่เฉินหนานฟัง“จากเท่าที่ฉันดูนะ เฉียวสือเนี่ยนน่ะผ่อนปรนให้ฮั
ได้รับการให้กำลังผ่านสายตาของเฉียวสือเนี่ยน ฟู่เถียนเถียนจึงรับสายโทรศัพท์“เถียนเถียน แม่ได้โทรไปหาเธอหรือเปล่า?” คุณหมอเวินถามฟู่เถียนเถียนไม่ตอบ แต่เป็นฝ่ายถามกลับ “พรุ่งนี้คุณว่าตอนไหนบ้าง? เราสองคนมาคุยกันสักหน่อยดีไหม”คุณหมอเวินหยุดคิดเล็กน้อย “ถ้าเป็นพรุ่งนี้ก็ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไร แต่ตอนนี้ฉั
แม้ว่าทางพ่อแม่จะบ่นว่าเรื่องการแต่งงานสายฟ้าแลบของพวกเขาไปบ้าง แต่ก็หาข้อบกพร่องอะไรมาติเตียนฟู่เถียนเถียนไม่ได้เดิมทีเขาคิดว่าจะใช้ชีวิตราบรื่นแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ ได้ แต่นึกไม่ถึงเลย ว่าฟู่เถียนเถียนจะเป็นคนขอหย่าคุณหมอเวินพูดขึ้นด้วยความอดทน “แน่นอนว่าคำพูดพวกนี้ของแม่ไม่ถูกเลยสักนิด ฉันจะบอกแม
เท่าที่เฉียวสือเนี่ยนจำความได้ แม่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและใช้ความรู้สึกร่วมกับเหตุผล ต่อให้ในตอนนั้นแม่จะโกรธมากแค่ไหน หลังจากนั้นก็ต้องไปถามหลีพัวถิงให้ชัดเจนดังนั้น เรื่องนี้สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการที่แม่ขอเลิกแน่ ๆอีกอย่างการที่แม่หา “คนรักเก่า” มาเป็นข้ออ้างเพื่อขอเลิก ต้องเป็นเพราะมีเหตุผลส
ผลตรวจดีเอ็นเอไม่พลิกผัน หลีซูเหยียนกับหลีพัวไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดตั้งแต่นั้นมา หลีพัวถิงก็เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในเบื้องลึกของหัวใจ ป่าวประกาศกับคนภายนอกว่าหลีซูเหยียนคือลูกสาวของเขา และเลี้ยงดูเสมือนเป็นลูกแท้ ๆ “ในเมื่อคุณเชื่อว่าแม่ฉันโกหก เด็กก็ไม่ใช่ลูกของคุณ แล้วทำไมคุณยังต้องเลี้
หลีพัวถิงพยักหน้าเล็กน้อยและจมอยู่ในความทรงจำต่อไปหนุ่มสาวมากความสามารถที่อายุน้อย แถมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก หัวใจทั้งสองดวงจึงใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็วหลังรู้จักกันได้ไม่นาน ในวันที่แสงแดดเจิดจ้าเช่นเดียวกัน หลีพัวถิงสารภาพรักกับเมิ่งจินเหยียนท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม และทั้งสองก็กลายเป็นคู่รักอ
แม้หลีซูเหยียนจะพูดอย่างจริงใจ แต่หลีพัวถิงก็ยังคงปฏิเสธ “ซูเหยียน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว และทำตามที่พ่อบอก ลูกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศซะ”เดิมทีหลีซูเหยียนคิดว่าตัวเองมั่นใจต่อข้อเสนอนี้มาก ถึงอย่างไรทางด้านคุณลุงก็พร้อมจะลงมือ แถมครั้งนี้ยังเกิดเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นลักพาตัวอีก เธอยินยอมกลายเป็นเป้
พอเฉียวสือเนี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งสับสนมึนงงเข้าไปใหญ่ สิ่งที่ฮั่วเยี่ยนฉือพูดมามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?ไม่เคยมีคุณแม่แท้ ๆ ของหลีซูเหยียนอยู่ทั้งนั้น หลีซูเหยียนเข้าใจผิดไปเองว่ามารดาที่ให้กำเนิดตัวเองมีความรักลึกซึ้งกับหลีพัวถิง?คนที่หลีพัวถิงรักมาตลอดชั่วชีวิตมีเพียงคุณแม่ของเฉียวสือเนี
หลีซูเหยียนกับตระกูลรองของตระกูลหลีนั้นถือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันในเรื่องของผลประโยชน์ พวกเขาจะไปร่วมมือกันได้อย่างไร?บางทีฮั่วเยี่ยนฉือก็อาจจะคิดถึงจุดนี้เหมือนกันเลยไม่ได้พูดอะไรแต่พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็ฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปถ่ายของคุณแม่กับคุณผู้หญิง
พูดจบ หนิงเสี่ยวเยว่ก็ตัดสายวิดีโอคอลเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าหนิงเสี่ยวเยว่ดูแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่พอคิด ๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะหล่อนใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน เลยค่อนข้างเปิดเผยความรู้สึกไปบ้างสินะเวลาล่วงเลยไปอีกสองวันวิดีโอและรูปภาพเกี่ยวกับเฉียวสือเนี่ยนและซ่งชิงชวนทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ตนั้นค้
เฉียวสือเนี่ยนยิ้มพลางบอกว่าไม่ได้รบกวน ทั้งยังถามหนิงเสี่ยวเยว่ว่าโทรมาหาเธอมีธุระอะไรหรือเปล่าหนิงเสี่ยวเยว่ชี้แจงแถลงไขให้ฟังอย่างเก้อเขินเล็กน้อยว่า วันนี้เธอไปช็อปปิ้งที่ร้านน้ำหอมของ M•Q แล้วชอบน้ำหอมรุ่นลิมิเต็ดนั่นมาก แต่ก็ได้รับแจ้งว่าสินค้าหมดเสียแล้ว“ฉันได้ยินว่าคุณเป็นคำปรุงน้ำหอมรุ่นน
ซ่งชิงชวนแกะมือมารดาออกด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วหมุนตัวจากไป คล้อยหลังเขา หลีซูเหยียนก็กอบกุมลำคอที่เจ็บระบมของตนเอง ร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าว “ป้าเซิ่ง เมื่อกี้นี้ป้าเซิ่งไม่เห็นสายตาของประธานซ่งเหรอคะ? เขาคิดจะบีบคอหนูให้ตายจริง ๆ นะคะ เขาน่ะเกลียดที่หนูลงมือกับเฉียวสือเนี่ยนชัด ๆ !”เซิ่งจวงฮุ่ยหั