บอกว่าจะตั้งชื่อให้เป็นที่เลื่องลือ แต่เฉียวสือเนี่ยนคิดอยู่นาน ก็คิดชื่อที่มีความยิ่งใหญ่และน่าทึ่งไม่ออกเลยสุดท้ายเธอจึงเลือกตามหัวใจตัวเอง โดยตั้งชื่อมันว่าจูจู“มันก็คือไข่มุกในสายตาของฉัน แม้ชื่อนี้จะไม่ได้ฟังดูยิ่งใหญ่อลังการขนาดนั้น แต่ชื่อนี้ก็เรียบง่าย และจะได้จำง่ายดี และอีกอย่างมันก็เป็น
เฉียวสือเนี่ยนเอ่ยตามจริง “ฉันต้องมีความสุขอยู่แล้วล่ะ แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่นทำให้ ฉันก็จะรู้สึกมีความสุขอยู่ดี ส่วนเรื่องหวั่นไหวน่ะเหรอ ช่างมันเถอะ”พอพูดจบ ก็มีขวดน้ำปรากฏขึ้นตรงหน้าเธอ เป็นฮั่วเยี่ยนฉือที่ยื่นส่งมาก็ไม่รู้เป็นเพราะได้ยินสิ่งที่เธอพูดหรือเปล่า ดวงตาของเขาจึงดูหม่นหมองลงอย่างเห็
ข้อความถูกส่งมาโดยซ่งชิงชวน เพื่อแจ้งเธอว่าเรื่องที่เธอให้เขาไปจัดการเกี่ยวกับธุรกิจตระกูลป๋ายก่อนหน้านี้ เขาจัดการเรียบร้อยแล้วแม้เฉียวสือเนี่ยนได้ยินมาจากทางโม่ซิวหย่วนแล้ว แต่เมื่อเผชิญหน้ากับข่าวคราวจากซ่งชิงชวน เธอก็ยังคงแสดงความขอบคุณต่ออีกฝ่าย[เป็นผมมากกว่าที่ต้องขอบคุณ ได้ยินจากม่านม่าน เธ
“เสี่ยวซื่อก็มีชีวิตเหมือนกันนะคะ ฉันต้องช่วยเสี่ยวซื่อค่ะ!” หลีซูเหยียนยังคงดิ้นรนจะเข้าไปให้ได้ตอนที่เธอกระโจนไปข้างหน้า ก็แทบจะลากตัวเฉียวสือเนี่ยนให้ล้มลงไปด้วย ยังคงเป็นฮั่วเยี่ยนฉือที่หูตาว่องไว จึงคว้าตัวเฉียวสือเนี่ยนไว้ได้ และถือโอกาสคว้าตัวหลีซูเหยียนไว้เช่นกัน“นักดับเพลิงมาถึงแล้ว พวกเข
เฉียวสือเนี่ยนมองไปที่หลีซูเหยียน “มีอะไรเหรอคะ?”“ฉันต้องขอโทษด้วยนะคะที่สร้างปัญหาให้พวกคุณมากขนาดนี้” หลีซูเหยียนเอ่ยด้วยความรู้สึกผิดเล็กน้อย “ได้ยินว่าประธานฮั่วได้รับบาดเจ็บ เขาปูผ้านอนบนพื้นคงไม่ค่อยสะดวก ถ้าคุณไม่ถือสาละก็ เรามาพักห้องเดียวกันก็ได้นะคะ”เฉียวสือเนี่ยนมองหลีซูเหยียนที่ยังคงตื
พวกเขารับของที่อยู่ในมือของหลีซูเหยียนไป ก่อนที่ทุกคนจะเดินออกไปยังด้านนอกโรงแรมพร้อมกัน“ประธานฮั่ว บังเอิญจังเลยนะคะ นี่คุณเพิ่งออกไปซื้อของกินกลับมาเหรอคะ?”หลีซูเหยียนมองเห็นฮั่วเยี่ยนฉือด้วยสายตาอันเฉียบแหลม และเป็นฝ่ายกล่าวทักทายก่อนฮั่วเยี่ยนฉือถามเสียงเรียบ “นี่คุณหลีกำลังจะไปไหนเหรอ?”หลีซ
ฮั่วเยี่ยนฉือเห็นความผิดปกติของเฉียวสือเนี่ยน เขาจึงยื่นมือมาประคองเธอ “เป็นอะไรไป?”เฉียวสือเนี่ยนสลัดฮั่วเยี่ยนฉือออก และจ้องเขาอย่างระวังตัว “คุณหลอกฉันใช่ไหม ความจริงเหล้าหมักผลไม้นี้ดีกรีสูงมากใช่ไหม?”ฮั่วเยี่ยนฉือพูดเสียบราบเรียบ “เถ้าแก่ที่ขายให้ฉันบอกว่าดีกรีไม่สูง แถมยังดื่มง่ายด้วย เด็กผู
เมื่อเผชิญหน้ากับคำถามของเฉียวสือเนี่ยน ฮั่วเยี่ยนฉือก็มีสีหน้าสงบ “เธอดื่มมากเกินไป จนเอาแต่เรียกฉันว่าพี่เยี่ยนฉือ และไม่ยอมให้ฉันไป”เฉียวสือเนี่ยนได้ยินก็ขมวดคิ้ว เมื่อคืนเธอเพลียเกินไป พอถูกนวดจนผ่อนคลายจึงหลับลึก หลังจากนั้นกลับมาที่ห้องได้อย่างไร และพูดอะไรไปบ้างล้วนจำไม่ได้แล้ว“ถึงยังไงฉันก
เท่าที่เฉียวสือเนี่ยนจำความได้ แม่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและใช้ความรู้สึกร่วมกับเหตุผล ต่อให้ในตอนนั้นแม่จะโกรธมากแค่ไหน หลังจากนั้นก็ต้องไปถามหลีพัวถิงให้ชัดเจนดังนั้น เรื่องนี้สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการที่แม่ขอเลิกแน่ ๆอีกอย่างการที่แม่หา “คนรักเก่า” มาเป็นข้ออ้างเพื่อขอเลิก ต้องเป็นเพราะมีเหตุผลส
ผลตรวจดีเอ็นเอไม่พลิกผัน หลีซูเหยียนกับหลีพัวไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดตั้งแต่นั้นมา หลีพัวถิงก็เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในเบื้องลึกของหัวใจ ป่าวประกาศกับคนภายนอกว่าหลีซูเหยียนคือลูกสาวของเขา และเลี้ยงดูเสมือนเป็นลูกแท้ ๆ “ในเมื่อคุณเชื่อว่าแม่ฉันโกหก เด็กก็ไม่ใช่ลูกของคุณ แล้วทำไมคุณยังต้องเลี้
หลีพัวถิงพยักหน้าเล็กน้อยและจมอยู่ในความทรงจำต่อไปหนุ่มสาวมากความสามารถที่อายุน้อย แถมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก หัวใจทั้งสองดวงจึงใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็วหลังรู้จักกันได้ไม่นาน ในวันที่แสงแดดเจิดจ้าเช่นเดียวกัน หลีพัวถิงสารภาพรักกับเมิ่งจินเหยียนท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม และทั้งสองก็กลายเป็นคู่รักอ
แม้หลีซูเหยียนจะพูดอย่างจริงใจ แต่หลีพัวถิงก็ยังคงปฏิเสธ “ซูเหยียน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว และทำตามที่พ่อบอก ลูกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศซะ”เดิมทีหลีซูเหยียนคิดว่าตัวเองมั่นใจต่อข้อเสนอนี้มาก ถึงอย่างไรทางด้านคุณลุงก็พร้อมจะลงมือ แถมครั้งนี้ยังเกิดเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นลักพาตัวอีก เธอยินยอมกลายเป็นเป้
พอเฉียวสือเนี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งสับสนมึนงงเข้าไปใหญ่ สิ่งที่ฮั่วเยี่ยนฉือพูดมามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?ไม่เคยมีคุณแม่แท้ ๆ ของหลีซูเหยียนอยู่ทั้งนั้น หลีซูเหยียนเข้าใจผิดไปเองว่ามารดาที่ให้กำเนิดตัวเองมีความรักลึกซึ้งกับหลีพัวถิง?คนที่หลีพัวถิงรักมาตลอดชั่วชีวิตมีเพียงคุณแม่ของเฉียวสือเนี
หลีซูเหยียนกับตระกูลรองของตระกูลหลีนั้นถือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันในเรื่องของผลประโยชน์ พวกเขาจะไปร่วมมือกันได้อย่างไร?บางทีฮั่วเยี่ยนฉือก็อาจจะคิดถึงจุดนี้เหมือนกันเลยไม่ได้พูดอะไรแต่พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็ฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปถ่ายของคุณแม่กับคุณผู้หญิง
พูดจบ หนิงเสี่ยวเยว่ก็ตัดสายวิดีโอคอลเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าหนิงเสี่ยวเยว่ดูแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่พอคิด ๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะหล่อนใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน เลยค่อนข้างเปิดเผยความรู้สึกไปบ้างสินะเวลาล่วงเลยไปอีกสองวันวิดีโอและรูปภาพเกี่ยวกับเฉียวสือเนี่ยนและซ่งชิงชวนทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ตนั้นค้
เฉียวสือเนี่ยนยิ้มพลางบอกว่าไม่ได้รบกวน ทั้งยังถามหนิงเสี่ยวเยว่ว่าโทรมาหาเธอมีธุระอะไรหรือเปล่าหนิงเสี่ยวเยว่ชี้แจงแถลงไขให้ฟังอย่างเก้อเขินเล็กน้อยว่า วันนี้เธอไปช็อปปิ้งที่ร้านน้ำหอมของ M•Q แล้วชอบน้ำหอมรุ่นลิมิเต็ดนั่นมาก แต่ก็ได้รับแจ้งว่าสินค้าหมดเสียแล้ว“ฉันได้ยินว่าคุณเป็นคำปรุงน้ำหอมรุ่นน
ซ่งชิงชวนแกะมือมารดาออกด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วหมุนตัวจากไป คล้อยหลังเขา หลีซูเหยียนก็กอบกุมลำคอที่เจ็บระบมของตนเอง ร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าว “ป้าเซิ่ง เมื่อกี้นี้ป้าเซิ่งไม่เห็นสายตาของประธานซ่งเหรอคะ? เขาคิดจะบีบคอหนูให้ตายจริง ๆ นะคะ เขาน่ะเกลียดที่หนูลงมือกับเฉียวสือเนี่ยนชัด ๆ !”เซิ่งจวงฮุ่ยหั