เฉียวสือเนี่ยนมองไปที่หลีซูเหยียน “มีอะไรเหรอคะ?”“ฉันต้องขอโทษด้วยนะคะที่สร้างปัญหาให้พวกคุณมากขนาดนี้” หลีซูเหยียนเอ่ยด้วยความรู้สึกผิดเล็กน้อย “ได้ยินว่าประธานฮั่วได้รับบาดเจ็บ เขาปูผ้านอนบนพื้นคงไม่ค่อยสะดวก ถ้าคุณไม่ถือสาละก็ เรามาพักห้องเดียวกันก็ได้นะคะ”เฉียวสือเนี่ยนมองหลีซูเหยียนที่ยังคงตื
พวกเขารับของที่อยู่ในมือของหลีซูเหยียนไป ก่อนที่ทุกคนจะเดินออกไปยังด้านนอกโรงแรมพร้อมกัน“ประธานฮั่ว บังเอิญจังเลยนะคะ นี่คุณเพิ่งออกไปซื้อของกินกลับมาเหรอคะ?”หลีซูเหยียนมองเห็นฮั่วเยี่ยนฉือด้วยสายตาอันเฉียบแหลม และเป็นฝ่ายกล่าวทักทายก่อนฮั่วเยี่ยนฉือถามเสียงเรียบ “นี่คุณหลีกำลังจะไปไหนเหรอ?”หลีซ
ฮั่วเยี่ยนฉือเห็นความผิดปกติของเฉียวสือเนี่ยน เขาจึงยื่นมือมาประคองเธอ “เป็นอะไรไป?”เฉียวสือเนี่ยนสลัดฮั่วเยี่ยนฉือออก และจ้องเขาอย่างระวังตัว “คุณหลอกฉันใช่ไหม ความจริงเหล้าหมักผลไม้นี้ดีกรีสูงมากใช่ไหม?”ฮั่วเยี่ยนฉือพูดเสียบราบเรียบ “เถ้าแก่ที่ขายให้ฉันบอกว่าดีกรีไม่สูง แถมยังดื่มง่ายด้วย เด็กผู
เมื่อเผชิญหน้ากับคำถามของเฉียวสือเนี่ยน ฮั่วเยี่ยนฉือก็มีสีหน้าสงบ “เธอดื่มมากเกินไป จนเอาแต่เรียกฉันว่าพี่เยี่ยนฉือ และไม่ยอมให้ฉันไป”เฉียวสือเนี่ยนได้ยินก็ขมวดคิ้ว เมื่อคืนเธอเพลียเกินไป พอถูกนวดจนผ่อนคลายจึงหลับลึก หลังจากนั้นกลับมาที่ห้องได้อย่างไร และพูดอะไรไปบ้างล้วนจำไม่ได้แล้ว“ถึงยังไงฉันก
“เพราะฉันฝัน!” เฉียวสือเนี่ยนยิ้มเย็นชาพลางพูด “ในฝัน ฉันคอยเอาใจคุณอยู่เสมอ แต่กลับเห็นคุณกับป๋ายอีอียิ่งใกล้ชิดกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ต่อหน้าต่อตา”“ฉันขอร้องคุณย่า เพื่อให้ได้ไปต่างประเทศกับคุณตามลำพัง ฉันอยากจะพยายามเป็นครั้งสุดท้าย แต่คืนแรกที่ต่างประเทศ ป๋ายอีอีถูกคนบุกบ้านปล้นทั้งยังถูกวางเพลิง ค
ฮั่วเยี่ยนฉือคิดมาตลอดว่าเป็นเพราะเขาไม่มาฉลองวันครบรอบเป็นเพื่อนเฉียวสือเนี่ยน จึงทำให้เธอโกรธจนกระโดดลงจากตึกและยกเรื่องหย่าขึ้นมาพูดเขาคิดว่าเฉียวสือเนี่ยนเพียงแค่เปลี่ยนวิธีก่อกวน เขารู้สึกว่าไม่ช้าก็เร็วเธอจะต้องนึกเสียใจภายหลังแน่นอนแต่ยิ่งเวลาผ่านไป ความตั้งใจของเฉียวสือเนี่ยนก็หนักแน่นขึ้น
แต่เฉียวสือเนี่ยนแสดงออกอย่างชัดเจนว่า ไม่คิดจะผ่อนคลายความตึงเครียดที่มีต่อเขาลง และเธอยังเลือกใช้คำพูดที่เสียดแทงใจของเขาเป็นพิเศษด้วยเมื่อเรียกให้แอร์โฮสเตสนำผ้าห่มผืนบางมาให้เขา ฮั่วเยี่ยนฉือก็ถือโอกาสหลับตางีบหลับเฉียวสือเนี่ยนเห็นท่าทีแบบนั้นก็ไม่ได้โกรธเคือง “ถ้าอย่างนั้นก็ขอขอบคุณสำหรับของ
เฉียวสือเนี่ยนปฏิเสธไปตรง ๆโม่ซิวหย่วนก็ไม่ได้ดื้อดึง เขาพูดว่า “ในเมื่อจะเอาแบบนั้น งั้นพรุ่งนี้เธอก็หาเวลาว่าง มาเจอหน้าพี่ชายฉันด้วย”เฉียวสือเนี่ยน “??”“ทำไมฉันต้องไปเจอพี่ชายคุณด้วย พี่คุณจะมาหาฉันทำไม!” เฉียวสือเนี่ยนตกใจโม่ซิวหย่วนพูดอย่างเกียจคร้าน “คงเพราะสงสัยว่าผู้หญิงแบบไหนกันที่ทำให้
เท่าที่เฉียวสือเนี่ยนจำความได้ แม่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและใช้ความรู้สึกร่วมกับเหตุผล ต่อให้ในตอนนั้นแม่จะโกรธมากแค่ไหน หลังจากนั้นก็ต้องไปถามหลีพัวถิงให้ชัดเจนดังนั้น เรื่องนี้สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการที่แม่ขอเลิกแน่ ๆอีกอย่างการที่แม่หา “คนรักเก่า” มาเป็นข้ออ้างเพื่อขอเลิก ต้องเป็นเพราะมีเหตุผลส
ผลตรวจดีเอ็นเอไม่พลิกผัน หลีซูเหยียนกับหลีพัวไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดตั้งแต่นั้นมา หลีพัวถิงก็เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในเบื้องลึกของหัวใจ ป่าวประกาศกับคนภายนอกว่าหลีซูเหยียนคือลูกสาวของเขา และเลี้ยงดูเสมือนเป็นลูกแท้ ๆ “ในเมื่อคุณเชื่อว่าแม่ฉันโกหก เด็กก็ไม่ใช่ลูกของคุณ แล้วทำไมคุณยังต้องเลี้
หลีพัวถิงพยักหน้าเล็กน้อยและจมอยู่ในความทรงจำต่อไปหนุ่มสาวมากความสามารถที่อายุน้อย แถมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก หัวใจทั้งสองดวงจึงใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็วหลังรู้จักกันได้ไม่นาน ในวันที่แสงแดดเจิดจ้าเช่นเดียวกัน หลีพัวถิงสารภาพรักกับเมิ่งจินเหยียนท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม และทั้งสองก็กลายเป็นคู่รักอ
แม้หลีซูเหยียนจะพูดอย่างจริงใจ แต่หลีพัวถิงก็ยังคงปฏิเสธ “ซูเหยียน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว และทำตามที่พ่อบอก ลูกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศซะ”เดิมทีหลีซูเหยียนคิดว่าตัวเองมั่นใจต่อข้อเสนอนี้มาก ถึงอย่างไรทางด้านคุณลุงก็พร้อมจะลงมือ แถมครั้งนี้ยังเกิดเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นลักพาตัวอีก เธอยินยอมกลายเป็นเป้
พอเฉียวสือเนี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งสับสนมึนงงเข้าไปใหญ่ สิ่งที่ฮั่วเยี่ยนฉือพูดมามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?ไม่เคยมีคุณแม่แท้ ๆ ของหลีซูเหยียนอยู่ทั้งนั้น หลีซูเหยียนเข้าใจผิดไปเองว่ามารดาที่ให้กำเนิดตัวเองมีความรักลึกซึ้งกับหลีพัวถิง?คนที่หลีพัวถิงรักมาตลอดชั่วชีวิตมีเพียงคุณแม่ของเฉียวสือเนี
หลีซูเหยียนกับตระกูลรองของตระกูลหลีนั้นถือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันในเรื่องของผลประโยชน์ พวกเขาจะไปร่วมมือกันได้อย่างไร?บางทีฮั่วเยี่ยนฉือก็อาจจะคิดถึงจุดนี้เหมือนกันเลยไม่ได้พูดอะไรแต่พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็ฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปถ่ายของคุณแม่กับคุณผู้หญิง
พูดจบ หนิงเสี่ยวเยว่ก็ตัดสายวิดีโอคอลเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าหนิงเสี่ยวเยว่ดูแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่พอคิด ๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะหล่อนใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน เลยค่อนข้างเปิดเผยความรู้สึกไปบ้างสินะเวลาล่วงเลยไปอีกสองวันวิดีโอและรูปภาพเกี่ยวกับเฉียวสือเนี่ยนและซ่งชิงชวนทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ตนั้นค้
เฉียวสือเนี่ยนยิ้มพลางบอกว่าไม่ได้รบกวน ทั้งยังถามหนิงเสี่ยวเยว่ว่าโทรมาหาเธอมีธุระอะไรหรือเปล่าหนิงเสี่ยวเยว่ชี้แจงแถลงไขให้ฟังอย่างเก้อเขินเล็กน้อยว่า วันนี้เธอไปช็อปปิ้งที่ร้านน้ำหอมของ M•Q แล้วชอบน้ำหอมรุ่นลิมิเต็ดนั่นมาก แต่ก็ได้รับแจ้งว่าสินค้าหมดเสียแล้ว“ฉันได้ยินว่าคุณเป็นคำปรุงน้ำหอมรุ่นน
ซ่งชิงชวนแกะมือมารดาออกด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วหมุนตัวจากไป คล้อยหลังเขา หลีซูเหยียนก็กอบกุมลำคอที่เจ็บระบมของตนเอง ร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าว “ป้าเซิ่ง เมื่อกี้นี้ป้าเซิ่งไม่เห็นสายตาของประธานซ่งเหรอคะ? เขาคิดจะบีบคอหนูให้ตายจริง ๆ นะคะ เขาน่ะเกลียดที่หนูลงมือกับเฉียวสือเนี่ยนชัด ๆ !”เซิ่งจวงฮุ่ยหั