เฉียวสือเนี่ยน “ก็กลัวนะ กลัวจะตายอยู่แล้ว”“ปอด——”โม่ซิวหย่วนยังไม่ทันพูดจบ รถของลู่เฉินหนานก็ขับเลยรถของพวกเขาไปแล้วขณะที่รถแล่นผ่านพวกเขา เฉียวสือเนี่ยนก็หันไปมองตามสัญชาตญาณ ลู่เฉินหนานยิ้มแหย ๆ ให้เธออย่างระมัดระวัง ใบหน้าด้านข้างของฮั่วเยี่ยนฉือก็ยังคงเย็นชาไม่เปลี่ยน แม้กระทั่งหางตาก็ยังไม่
หญิงสาวหน้าตาอ่อนหวาน น้ำเสียงก็อ่อนโยน ในดวงตารูปท้อเจือไปด้วยความกังวลหลายส่วน ทำให้คนที่ได้มองเกิดความรู้สึกอยากจะปกป้องขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่เฉียวสือเนี่ยนแย้มยิ้ม “ไม่เปลืองแรงเท่าไรหรอกค่ะ”“เกิดอะไรขึ้น?” โม่ซิวหย่วนรับโทรศัพท์เสร็จแล้วเดินเข้ามาหาหญิงสาวกำลังสนใจปลอบประโลมแมวน้อยอยู่ เฉียว
ซ่งชิงชวนไม่ได้โกรธขนาดนั้นเขาบอกว่าพี่เลี้ยงเฉินดูแลซ่งม่านมาหลายปี ดูแลประหนึ่งเป็นลูกสาว เห็นว่าซ่งม่านร้องห่มร้องไห้อย่างทนทุกข์ทรมานเพราะเรื่องลูกทุกวัน ด้วยใจที่รักอย่างสุดซึ้ง จึงกระทำการเสี่ยงส่วนรูปถ่ายที่ซ่งม่านพบเจอกับพยาบาลคนนั้น ก็เป็นเพราะว่าตอนที่พี่สาวเฉินนัดพบ ซ่งม่านเผลอเข้ามาโดย
เฉียวสือเนี่ยนเองก็ไม่ได้ปิดบังอะไร เธอเอาข้อความที่ฮั่วเยี่ยนฉือส่งมาให้โม่ซิวหย่วนดู“ทำไมฮั่วเยี่ยนฉือเตือนฉันแบบนี้ล่ะ เขาเองก็รู้จักกับซ่งชิงชวนเหมือนกันเหรอ?”โม่ซิวหย่วนพูดอย่างไม่ยี่หระ “คนเก่งสองคนที่มีอิทธิพลในแวดวงธุรกิจ รู้จักกันแล้วมันแปลกตรงไหน?”“...” เฉียวสือเนี่ยนกล่าวปลอบใจ “ไม่เป็
เสียง “ผลั่ก” ดังขึ้น จากการที่กระเป๋าของเฉียวสือเนี่ยนหล่นลงบนพื้น จนของข้างในกระจัดกระจายออกมา“ขอโทษครับ ๆ !” อีกฝ่ายรีบขอโทษและช่วยเก็บของให้เธอด้านเฉียวสือเนี่ยนก็เซถอยหลัง จนร่างกายตกอยู่ในอ้อมกอดกว้างใหญ่ของใครบางคนกลิ่นสนซีดาร์ที่คุ้นเคยพลันโชยเข้ามาในโพรงจมูก แผ่นหลังของเฉียวสือเนี่ยนอุ่น
ระหว่างที่ยังจัดการปัญหาเรื่องความสัมพันธ์ไม่ได้ ก็ไม่ควรมีลูกจะเป็นการดีที่สุด แบบนี้ถึงฟู่เถียนเถียนจะหลีกเลี่ยงความเจ็บปวดทางความรู้สึกไม่ได้ แต่ก็พอหลีกเลี่ยงความเจ็บปวดทางร่างกายได้ได้ยินแบบนั้น ฟู่เถียนเถียนก็ไม่ล้อที่อีกฝ่ายสนใจเรื่องส่วนตัวของเธอ แต่ตอบกลับไปด้วยอารมณ์ราบเรียบ “อืม ได้สิ”เ
แผ่นหลังของเฉียวสือเนี่ยนแนบชิดกับผนังเย็นเฉียบ ข้างหน้ามีฮั่วเยี่ยนฉือเข้ามากดดันเขายกมือทั้งสองข้างของเธอไว้ แล้วกดร่างกายแนบกับเธอคุณตายังจะบอกให้เธอใจเย็น ๆ กับฮั่วเยี่ยนฉือ เขาเป็นแบบนี้ แล้วจะให้เธอใจเย็นได้ยังไง!“ปล่อยฉัน ฉันไม่มีอะไรจะพูดกับคุณ แค่เห็นหน้าคุณฉันก็ขยะแขยงแล้ว” เฉียวสือเนี่
“ถ้าอยากละก็ พี่คิดว่าการทำแบบนี้นอกจากจะสร้างความลำบากให้พี่สะใภ้แล้ว ยังจะได้อะไรอีก?”ลู่เฉินหนานแขวะออกมายกใหญ่ กระนั้นก็ยังไม่ได้ยินเสียงฮั่วเยี่ยนฉือตอบกลับมา ปลายสายยังคงเงียบกริบเขาคิดว่าตัวเองคงพูดแรงเกินไปตอนแรกว่าจะปลอบใจสักหน่อย แต่ฮั่วเยี่ยนฉือกลับกดวางสายไปก่อนลู่เฉินหนานชะงักปกติพ
เท่าที่เฉียวสือเนี่ยนจำความได้ แม่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและใช้ความรู้สึกร่วมกับเหตุผล ต่อให้ในตอนนั้นแม่จะโกรธมากแค่ไหน หลังจากนั้นก็ต้องไปถามหลีพัวถิงให้ชัดเจนดังนั้น เรื่องนี้สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการที่แม่ขอเลิกแน่ ๆอีกอย่างการที่แม่หา “คนรักเก่า” มาเป็นข้ออ้างเพื่อขอเลิก ต้องเป็นเพราะมีเหตุผลส
ผลตรวจดีเอ็นเอไม่พลิกผัน หลีซูเหยียนกับหลีพัวไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดตั้งแต่นั้นมา หลีพัวถิงก็เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในเบื้องลึกของหัวใจ ป่าวประกาศกับคนภายนอกว่าหลีซูเหยียนคือลูกสาวของเขา และเลี้ยงดูเสมือนเป็นลูกแท้ ๆ “ในเมื่อคุณเชื่อว่าแม่ฉันโกหก เด็กก็ไม่ใช่ลูกของคุณ แล้วทำไมคุณยังต้องเลี้
หลีพัวถิงพยักหน้าเล็กน้อยและจมอยู่ในความทรงจำต่อไปหนุ่มสาวมากความสามารถที่อายุน้อย แถมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก หัวใจทั้งสองดวงจึงใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็วหลังรู้จักกันได้ไม่นาน ในวันที่แสงแดดเจิดจ้าเช่นเดียวกัน หลีพัวถิงสารภาพรักกับเมิ่งจินเหยียนท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม และทั้งสองก็กลายเป็นคู่รักอ
แม้หลีซูเหยียนจะพูดอย่างจริงใจ แต่หลีพัวถิงก็ยังคงปฏิเสธ “ซูเหยียน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว และทำตามที่พ่อบอก ลูกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศซะ”เดิมทีหลีซูเหยียนคิดว่าตัวเองมั่นใจต่อข้อเสนอนี้มาก ถึงอย่างไรทางด้านคุณลุงก็พร้อมจะลงมือ แถมครั้งนี้ยังเกิดเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นลักพาตัวอีก เธอยินยอมกลายเป็นเป้
พอเฉียวสือเนี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งสับสนมึนงงเข้าไปใหญ่ สิ่งที่ฮั่วเยี่ยนฉือพูดมามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?ไม่เคยมีคุณแม่แท้ ๆ ของหลีซูเหยียนอยู่ทั้งนั้น หลีซูเหยียนเข้าใจผิดไปเองว่ามารดาที่ให้กำเนิดตัวเองมีความรักลึกซึ้งกับหลีพัวถิง?คนที่หลีพัวถิงรักมาตลอดชั่วชีวิตมีเพียงคุณแม่ของเฉียวสือเนี
หลีซูเหยียนกับตระกูลรองของตระกูลหลีนั้นถือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันในเรื่องของผลประโยชน์ พวกเขาจะไปร่วมมือกันได้อย่างไร?บางทีฮั่วเยี่ยนฉือก็อาจจะคิดถึงจุดนี้เหมือนกันเลยไม่ได้พูดอะไรแต่พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็ฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปถ่ายของคุณแม่กับคุณผู้หญิง
พูดจบ หนิงเสี่ยวเยว่ก็ตัดสายวิดีโอคอลเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าหนิงเสี่ยวเยว่ดูแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่พอคิด ๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะหล่อนใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน เลยค่อนข้างเปิดเผยความรู้สึกไปบ้างสินะเวลาล่วงเลยไปอีกสองวันวิดีโอและรูปภาพเกี่ยวกับเฉียวสือเนี่ยนและซ่งชิงชวนทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ตนั้นค้
เฉียวสือเนี่ยนยิ้มพลางบอกว่าไม่ได้รบกวน ทั้งยังถามหนิงเสี่ยวเยว่ว่าโทรมาหาเธอมีธุระอะไรหรือเปล่าหนิงเสี่ยวเยว่ชี้แจงแถลงไขให้ฟังอย่างเก้อเขินเล็กน้อยว่า วันนี้เธอไปช็อปปิ้งที่ร้านน้ำหอมของ M•Q แล้วชอบน้ำหอมรุ่นลิมิเต็ดนั่นมาก แต่ก็ได้รับแจ้งว่าสินค้าหมดเสียแล้ว“ฉันได้ยินว่าคุณเป็นคำปรุงน้ำหอมรุ่นน
ซ่งชิงชวนแกะมือมารดาออกด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วหมุนตัวจากไป คล้อยหลังเขา หลีซูเหยียนก็กอบกุมลำคอที่เจ็บระบมของตนเอง ร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าว “ป้าเซิ่ง เมื่อกี้นี้ป้าเซิ่งไม่เห็นสายตาของประธานซ่งเหรอคะ? เขาคิดจะบีบคอหนูให้ตายจริง ๆ นะคะ เขาน่ะเกลียดที่หนูลงมือกับเฉียวสือเนี่ยนชัด ๆ !”เซิ่งจวงฮุ่ยหั