ฟู่เถียนเถียนรีบกดหมายเลขเฉียวสือเนี่ยนอย่างรวดเร็ว“ฮั่วเยี่ยนฉือขึ้นไปหาเธออีกแล้ว ฉันอยากห้ามก็ห้ามไม่อยู่!”ฟู่เถียนเถียนรู้สึกพะว้าพะวงในใจ “เฉียวสือเนี่ยน สีหน้าของฮั่วเยี่ยนฉือแย่มาก เธออย่าดื้อรั้นนักเลย และอย่าไปเป็นปฏิปักษ์ต่อเขาด้วย ฉันจะไปเดี๋ยวนี้!”พอวางสายโทรศัพท์แล้ว ฟู่เถียนเถียนก็ไ
เฉียวสือเนี่ยนกัดกรามแน่น “ฮั่วเยี่ยนฉือ คุณคิดจะกักขังหน่วงเหนี่ยวฉันเหรอ?”ได้ยินดังนั้น ฮั่วเยี่ยนฉือก็เอ่ยด้วยเสียงเย็นชาจากในลำคอ “ถ้าเธอจะคิดแบบนั้นก็ได้”“แบบนี้มันผิดกฎหมายนะ!”“ฉันให้ภรรยาตัวเองพักฟื้นที่บ้าน มันผิดกฎหมายตรงไหน?”“คุณ! สารเลว!” เฉียวสือเนี่ยนกัดฟันเค้นคำเหล่านี้“เฉียวสือเน
เฉียวสือเนี่ยนอดกลั้นไม่ไหวแล้วจริง ๆ เธอโยนโทรศัพท์ไปทางฮั่วเยี่ยนฉือ “ฉันจะโทรหาใครก็เรื่องของฉัน เอาโทรศัพท์ของฉันคืนมานะ!”โทรศัพท์กระแทกร่างของฮั่วเยี่ยนฉือ และร่วงลงบนพื้นฮั่วเยี่ยนฉือเหลือบมองโทรศัพท์ ก่อนก้มลงเก็บมาถือไว้ในมือ ใบหน้าหล่อเหลาของเขามองเฉียวสือเนี่ยนด้วยสีหน้าที่ดูไม่ได้ “อยาก
เห็นได้ชัดว่าบอดี้การ์ดลังเลเล็กน้อย“งั้นฉันจะออกไป!” เฉียวสือเนี่ยนพูดพลางทำท่าจะเดินไปด้านนอกป้าหวังไม่กล้าห้าม ทำได้แค่เดินตามหลังเธออย่างร้อนใจ “คุณผู้หญิง ค่อย ๆ เดินสิคะ ไม่ต้องรีบขนาดนี้ก็ได้!”เฉียวสือเนี่ยนเดินมาถึงหน้าคฤหาสน์อย่างรีบเร่ง ฟู่เถียนเถียนรอเธออยู่ด้านนอกจริงด้วย“เฉียวสือเนี
“เธอมีคลิปไหม ให้ฉันดูหน่อย!” เฉียวสือเนี่ยนพูดอย่างร้อนใจฟู่เถียนเถียนเปิดโทรศัพท์ แล้วกดเล่นคลิปหนึ่งในนั้น ก็เห็นเป็นคลิปที่เฉียวกั๋วเซิ่งถูกเจ้าหน้าที่ในเครื่องแบบหลายคนพาตัวไปจริง ๆด้านหลังของเขานอกจากคุณป้าที่ร้องไห้คร่ำครวญเสียงดังแล้ว ยังมีอวี๋จิ่งเฉิงที่หน้าตาคร่ำเคร่งอีกคน“เห็นว่าด้านภา
ป้าหวังถามเสร็จก็รีบพูดอธิบาย “คุณผู้หญิง ป้าไม่ได้อยากยุ่งเรื่องส่วนตัวของคุณนะคะ ป้าแค่กลัวคุณผู้ชายถามน่ะค่ะ”เฉียวสือเนี่ยนนอนลงบนเตียงอาบแดด “ไม่เป็นไรค่ะ ป้าแค่บอกเขาไปว่าฉันโวยวายหนักมาก และให้เขารีบกลับมาก็พอ”“แต่ว่า...” ป้าหวังมองเฉียวสือเนี่ยนที่นอนเหยียดแขนขาแล้วรู้สึกลังเลเล็กน้อยคุณผู
ตอนที่เฉียวสือเนี่ยนตื่นขึ้นมา เธอได้นอนอยู่ในห้องนอนแล้วคนที่เฝ้าเธออยู่คือ คุณตาและลุงอู๋คุณตานั่งอยู่ที่เก้าอี้ข้างเตียงของเธอ ผมบนศีรษะหงอกขาว สีหน้าดูอ่อนล้าเล็กน้อย ใบหน้าที่เต็มไปด้วยร่องรอยของความชราเจือด้วยความคร่ำเคร่งและวิตกกังวลลุงอู๋ส่งยาและแก้วน้ำให้เขา “คุณท่านเฉียว ท่านอย่าเป็นกัง
คุณนายใหญ่ฮั่วกับคุณแม่ฮั่วเหลือบมองฮั่วเยี่ยนฉือ ต่างก็ไม่ได้พูดอะไร“คุณตา ผมอยากจะขอคุยกับเฉียวสือเนี่ยนก่อนครับ” ฮั่วเยี่ยนฉือเอ่ยปากเฉียวสือเนี่ยนขมวดคิ้วเข้าหากัน “อะไรที่ควรพูดก็พูดไปหมดแล้ว เราไม่มีอะไรต้องคุยกันแล้ว”“ฮั่วเยี่ยนฉือ คุณรับปากฉันนานแล้วว่าจะหย่าหลังวันเกิดของคุณย่า ตอนนี้ยืด
เท่าที่เฉียวสือเนี่ยนจำความได้ แม่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและใช้ความรู้สึกร่วมกับเหตุผล ต่อให้ในตอนนั้นแม่จะโกรธมากแค่ไหน หลังจากนั้นก็ต้องไปถามหลีพัวถิงให้ชัดเจนดังนั้น เรื่องนี้สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการที่แม่ขอเลิกแน่ ๆอีกอย่างการที่แม่หา “คนรักเก่า” มาเป็นข้ออ้างเพื่อขอเลิก ต้องเป็นเพราะมีเหตุผลส
ผลตรวจดีเอ็นเอไม่พลิกผัน หลีซูเหยียนกับหลีพัวไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดตั้งแต่นั้นมา หลีพัวถิงก็เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในเบื้องลึกของหัวใจ ป่าวประกาศกับคนภายนอกว่าหลีซูเหยียนคือลูกสาวของเขา และเลี้ยงดูเสมือนเป็นลูกแท้ ๆ “ในเมื่อคุณเชื่อว่าแม่ฉันโกหก เด็กก็ไม่ใช่ลูกของคุณ แล้วทำไมคุณยังต้องเลี้
หลีพัวถิงพยักหน้าเล็กน้อยและจมอยู่ในความทรงจำต่อไปหนุ่มสาวมากความสามารถที่อายุน้อย แถมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก หัวใจทั้งสองดวงจึงใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็วหลังรู้จักกันได้ไม่นาน ในวันที่แสงแดดเจิดจ้าเช่นเดียวกัน หลีพัวถิงสารภาพรักกับเมิ่งจินเหยียนท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม และทั้งสองก็กลายเป็นคู่รักอ
แม้หลีซูเหยียนจะพูดอย่างจริงใจ แต่หลีพัวถิงก็ยังคงปฏิเสธ “ซูเหยียน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว และทำตามที่พ่อบอก ลูกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศซะ”เดิมทีหลีซูเหยียนคิดว่าตัวเองมั่นใจต่อข้อเสนอนี้มาก ถึงอย่างไรทางด้านคุณลุงก็พร้อมจะลงมือ แถมครั้งนี้ยังเกิดเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นลักพาตัวอีก เธอยินยอมกลายเป็นเป้
พอเฉียวสือเนี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งสับสนมึนงงเข้าไปใหญ่ สิ่งที่ฮั่วเยี่ยนฉือพูดมามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?ไม่เคยมีคุณแม่แท้ ๆ ของหลีซูเหยียนอยู่ทั้งนั้น หลีซูเหยียนเข้าใจผิดไปเองว่ามารดาที่ให้กำเนิดตัวเองมีความรักลึกซึ้งกับหลีพัวถิง?คนที่หลีพัวถิงรักมาตลอดชั่วชีวิตมีเพียงคุณแม่ของเฉียวสือเนี
หลีซูเหยียนกับตระกูลรองของตระกูลหลีนั้นถือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันในเรื่องของผลประโยชน์ พวกเขาจะไปร่วมมือกันได้อย่างไร?บางทีฮั่วเยี่ยนฉือก็อาจจะคิดถึงจุดนี้เหมือนกันเลยไม่ได้พูดอะไรแต่พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็ฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปถ่ายของคุณแม่กับคุณผู้หญิง
พูดจบ หนิงเสี่ยวเยว่ก็ตัดสายวิดีโอคอลเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าหนิงเสี่ยวเยว่ดูแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่พอคิด ๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะหล่อนใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน เลยค่อนข้างเปิดเผยความรู้สึกไปบ้างสินะเวลาล่วงเลยไปอีกสองวันวิดีโอและรูปภาพเกี่ยวกับเฉียวสือเนี่ยนและซ่งชิงชวนทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ตนั้นค้
เฉียวสือเนี่ยนยิ้มพลางบอกว่าไม่ได้รบกวน ทั้งยังถามหนิงเสี่ยวเยว่ว่าโทรมาหาเธอมีธุระอะไรหรือเปล่าหนิงเสี่ยวเยว่ชี้แจงแถลงไขให้ฟังอย่างเก้อเขินเล็กน้อยว่า วันนี้เธอไปช็อปปิ้งที่ร้านน้ำหอมของ M•Q แล้วชอบน้ำหอมรุ่นลิมิเต็ดนั่นมาก แต่ก็ได้รับแจ้งว่าสินค้าหมดเสียแล้ว“ฉันได้ยินว่าคุณเป็นคำปรุงน้ำหอมรุ่นน
ซ่งชิงชวนแกะมือมารดาออกด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วหมุนตัวจากไป คล้อยหลังเขา หลีซูเหยียนก็กอบกุมลำคอที่เจ็บระบมของตนเอง ร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าว “ป้าเซิ่ง เมื่อกี้นี้ป้าเซิ่งไม่เห็นสายตาของประธานซ่งเหรอคะ? เขาคิดจะบีบคอหนูให้ตายจริง ๆ นะคะ เขาน่ะเกลียดที่หนูลงมือกับเฉียวสือเนี่ยนชัด ๆ !”เซิ่งจวงฮุ่ยหั