เฉียวสือเนี่ยนมองฮั่วเยี่ยนฉือด้วยความงุนงง “คุณคิดจะทำอะไร?”“ดึกขนาดนี้แล้ว เธอนั่งรถไปคนเดียวไม่ปลอดภัย”ฮั่วเยี่ยนฉือมีท่าทีที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ง่าย ๆ “คนขับรถมารอด้านนอกแล้ว นั่งรถไปด้วยกัน”เฉียวสือเนี่ยนมองเวลา “เพิ่งจะสองทุ่ม ไม่ถือว่าดึก อีกอย่างที่นี่มีระบบการรักษาความปลอดภัยที่ดี ไม่มีอะไรที่อันตราย”สีหน้าของฮั่วเยี่ยนฉือไม่ดีนัก “เธอดูแลฉันที่ประเทศ M ตั้งหลายวัน ฉันไม่สามารถทิ้งเธอไว้ที่สนามบินได้หรอกนะ ถ้าคุณย่ารู้ขึ้นมาฉันจะถูกตำหนิอีก”เฉียวสือเนี่ยนอยากจะตอบกลับว่าคุณย่าตำหนิคุณแล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉันแต่ฮั่วเยี่ยนฉือกลับไม่ยอมปล่อยมือเธอไปง่าย ๆ มีคนไม่น้อยที่กำลังมองมาทางพวกเขา โจวเทียนเฉิงก้มหน้าลงเพื่อไม่ให้ใครสังเกตเห็นตัวเอง เฉียวสือเนี่ยนก็ไม่อยากขายหน้าอยู่ที่นี่เช่นกัน“ไปด้วยก็ได้ แต่ต้องพาฉันไปส่งที่โรงแรม”ฮั่วเยี่ยนฉือเม้มปากลง เขาไม่ได้พูดอะไรเพียงแต่จับมือเธอให้เดินไปข้างนอก ทำให้เฉียวสือเนี่ยนคว้าเอากระเป๋าเดินทางไว้ไม่ทัน“กระเป๋าฉัน!”เธออยากจะเดินกลับไปเอากระเป๋า แต่โจวเทียนเฉิงรีบพูดขึ้นก่อน “คุณผู้หญิง ผมเอาไปให้ก็ได้ครับ”เฉียวสือเนี่ยนหันไปโวยว
เมื่อได้ยินดังนั้น ฮั่วเยี่ยนฉือจึงดึงสายตากลับมา เขายกมือขึ้นมากุมหน้าผาก “กลับสิ”เมื่อเฉียวสือเนี่ยนนำกระเป๋าเข้าไปเก็บในห้องได้ไม่นาน ฟู่เถียนเถียนก็ส่งข้อความมาบอกว่าเธอถึงร้านเนื้อย่างแล้ว[รอเดี๋ยว ฉันใกล้จะถึงแล้ว!]เมื่อตอบกลับข้อความแล้ว เฉียวสือเนี่ยนจึงหยิบเซ็ทสกินแคร์บำรุงผิวที่ซื้อมาฝากฟู่เถียนเถียนไปยังร้านเนื้อย่างด้วยร้านนี้อยู่ข้าง ๆ โรงแรมใช้เวลาเดินทางไม่กี่นาที เมื่อเฉียวสือเนี่ยนมาถึง ฟู่เถียนเถียนก็ได้ทำการสั่งอาหารเรียบร้อยแล้ว ส่วนเนื้อก็กำลังถูกย่างบนกระดาษในเตาอยู่“มาแล้ว!” ฟู่เถียนเถียนเอ่ยทักทาย “ฉันสั่งของอร่อยให้เธอเยอะมากเลย”เมื่อได้กลิ่นหอมฉุยของเนื้อย่าง เฉียวสือเนี่ยนก็อดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย “ดีจัง ตอนที่อยู่ประเทศ M ฉันกินอะไรไม่สะใจเลย อยากกินเนื้ออยากกินชิ้นโต ๆ กับผัก”“งั้นวันนี้เธอเชิญทานตามสบาย วันนี้เจ๊เลี้ยงเอง กินให้หนำใจไปเลย!”“ขอบคุณคุณฟู่คนสวย”เฉียวสือเนี่ยนนั่งลงก่อนจะหยิบของฝากยื่นไปให้ฟู่เถียนเถียน “ฉันซื้อของฝากมาให้”“โอ้โห เซตนี้แพงมากด้วยนี่ ขอบคุณนะคุณเฉียวคนสวย”“เนื้อสุกแล้ว กินกันเถอะ!”เฉียวสือเนี่ยนไม่มีพิธีรีตองอะไรกับ
เมื่อเดินเข้าไปด้านใน ฮั่วเยี่ยนฉือก็เห็นสิ่งของเครื่องใช้ของเฉียวสือเนี่ยนไม่มากเครื่องสำอางบนโต๊ะเครื่องแป้งถูกหยิบไปเกินครึ่ง และยังมีที่คาดผมที่เธอมักสวมใส่ โคมไฟส่องหน้ารูปทรงแปลกประหลาดก็หายไปแล้วเช่นกันในห้องแต่งตัว เดิมทีถูกแขวนไว้ด้วยเสื้อผ้าสีสดใสมากมาย แต่ตอนนี้กลับว่างเปล่า ชั้นรองเท้าและกระเป๋าก็ว่างไปหลายชั้นความรู้สึกว่างเปล่าเมื่อครู่กลับมาครอบงำอีกครั้งฮั่วเยี่ยนฉือยุ่งอยู่กับการทำงานที่ประเทศ M ทั้งวัน ตอนที่นั่งเครื่องบินกลับมาเขาก็ไม่ได้พักผ่อน ตอนนี้จึงรู้สึกเหนื่อยล้าเป็นอย่างมากเขาล้มตัวลงนอนบนเตียงหมอนและผ้าห่มยังคงมีกลิ่นของเฉียวสือเนี่ยนฮั่วเยี่ยนฉือนนึกถึงตอนที่อยู่ประเทศ M เขากลัวว่าตัวเองจะอดใจไม่ไหวที่จะรังแกเฉียวสือเนี่ยนในตอนกลางคืนจนทำให้เธอโกรธและกลับไป เขาจึงบังคับตัวเองให้นอนแยกกับเฉียวสือเนี่ยน แต่ในตอนนี้เขากลับรู้สึกเสียดายเป็นอย่างมากเขาควรจะนอนอยู่ที่ห้องนอน ต่อให้จะต้องอุ้มเธอมานอนในกลางดึก แต่ก็สามารถได้ใกล้ชิดกับเธอสองสามชั่วโมงเห็นได้ชัดว่าเขาทั้งเหนื่อยทั้งเพลีย แต่ไม่สามารถเข้านอนได้ ฮั่วเยี่ยนฉือจึงโทรศัพท์ไปหาเฉียวสือเนี่ยนเสีย
ฮั่วเยี่ยนฉือพูดเสียงเรียบ “ออกไปแจ้งแก่ทีมโปรเจกต์ว่าจะประชุมในอีกสิบห้านาที““ค่ะ ประธานฮั่ว”หลังจากที่เลขาออกไปแล้ว ลู่เฉินหนานก็โวยวายขึ้นอย่างไม่พอใจอีกครั้ง “พี่ฉือ ผมตั้งใจมาหาพี่เลยนะ แต่พี่กลับให้ผมพูดกับพี่แค่สิบห้านาทีเนี่ยนะ?”ฮั่วเยี่ยนฉือ “นายชอบพูดเรื่องไร้สาระ ฟังแค่สิบห้านาทีก็พอแล้ว““...” ลู่เฉินหนาน “พี่ฉือ ทำไมพี่ต้องใส่ร้ายผมขนาดนี้ด้วย! ผมพูดไร้สาระตรงไหน ที่ผมช่วยวิเคราะห์เรื่องพี่สะใภ้ มีจุดไหนที่ไม่ตรงบ้าง?”เมื่อพูดถึงเฉียวสือเนี่ยน ฮั่วเยี่ยนฉือก็รู้สึกหงุดหงิดใจ “คำแนะนำของนายใช้ไม่ได้ผลแม้แต่อย่างเดียว”ไม่ว่าจะเป็นขอโทษ อธิบายให้เธอฟัง หรือลดศักดิ์ศรีตัวเอง ก็ไม่ทำให้เฉียวสือเนี่ยนเปลี่ยนใจได้เลย“ทำไม พี่สะใภ้ยังอยากหย่าอีกเหรอ?” ลู่เฉินหนานถามฮั่วเยี่ยนฉือเม้มริมฝีปาก และสุดท้ายเขาก็เล่าให้ลู่เฉินหนานฟัง “ฉันตกลงกับเธอไปแล้วว่าหากจัดการโปรเจกต์นี้เสร็จ จะไปดำเนินการเรื่องหย่าให้”“ทำไมต้องตกลงล่ะ” ลู่เฉินหนานไม่เข้าใจความคิดของฮั่วเยี่ยนฉือ “พี่สะใภ้พูดอะไรที่ทำให้พี่โกรธ พี่ถึงตอบตกลงอย่างหุนหันพลันแล่นงั้นเหรอ?”ฮั่วเยี่ยนฉือมีสีหน้าอ่านได้ยาก “เธอบ
อาจเป็นเพราะเฉียวสือเนี่ยนจ้องอีกฝ่ายนานเกินไป ซ่งม่านจึงหันหน้ามามองเธอเมื่อพวกเธอสบตากัน ใบหน้าประดับไปด้วยรอยยิ้มของซ่งม่านก็แข็งทื่อทันที“คุณเฉียว บังเอิญจัง คุณก็มารับพี่ซิวหย่วนเหรอ”ซ่งม่านเดินมาหาเธออย่างไม่ลังเลเฉียวสือเนี่ยนไม่รู้จริง ๆ ว่าจะต้องทำตัวอย่างไรต่อซ่งม่านก่อนที่เธอจะไปต่างประเทศ โม่ซิวหย่วนตั้งใจสร้างความเข้าใจผิดเอาไว้ไม่น้อย แถมเขายังไปหาเธอที่ประเทศ M อีกด้วย ซ่งม่านคงจะเกลียดเธอเข้าไส้แล้วตอนที่ถูกโม่ซิวหย่วนหลอกให้ไปเจอซ่งม่านที่ร้านอาหารครั้งก่อน เธอได้อธิบายไปแล้วว่าไม่มีอะไรระหว่างเธอกับโม่ซิวหย่วน และเคยพยายามเกลี้ยกล่อมซ่งม่านอีกด้วยแต่เห็นได้ชัดว่าซ่งม่านไม่คิดจะถอยห่างจากโม่ซิวหย่วนเลยแม้แต่นิดเดียวตอนนี้ เมื่อเฉียวสือเนี่ยนต้องเผชิญหน้ากับน้ำเสียงซักถามอย่างไม่ค่อยพอใจของซ่งม่าน เธอจึงทำได้เพียงนิ่งสู้ “ฉันติดบุญคุณโม่ซิวหย่วนไว้ครั้งหนึ่ง เขาจึงให้ฉันมารับเขา ถ้าเป็นเหตุผลนี้คุณจะเชื่อไหม?”จู่ ๆ ซ่งม่านก็ตอบกลับเสียงสูง แววตาของเธอเต็มไปด้วยความโมโห “เธอไม่ต้องเล่นละครตบตาฉันอีกแล้ว พี่ซิวหย่วนชอบเธอข้างเดียว! ไม่ว่าพวกเธอจะทำยังไง ฉันก็จะไม
“พี่ซิวหย่วน...” ซ่งม่านเอ่ยทักทายเขาอย่างกล้า ๆ กลัว ๆโม่ซิวหย่วนปิดประตูลงอย่างแรง “เฉียวสือเนี่ยน เธอทำบ้าอะไร ทำไมซ่งม่านถึงอยู่ที่นี่!”เห็นได้ชัดว่าโม่ซิวหย่วนโกรธจริง ๆ เขาถึงได้เรียกชื่อเต็มของเธอออกมาเฉียวสือเนี่ยนกระพริบตาปริบ ๆ อย่างใสซื่อ “รถของคุณซ่งเสียก็เลยอยากกลับไปพร้อมพวกเราด้วย ไม่ว่ายังไงเธอก็เป็นคู่หมั้นของคุณนะ จะให้ฉันทำเป็นเมินเฉยไม่ได้หรอก”โม่ซิวหย่วนโมโหยิ่งกว่าเดิม “เธอโกรธที่ฉันไม่ได้กลับมาด้วย เธอถึงทำแบบนี้กับฉันใช่ไหม! แต่เธอก็สัญญาแล้วว่าจะหย่ากับฮั่วเยี่ยนฉือ ผ่านมาตั้งหลายวันยังไม่ได้ทำเรื่องหย่าเลย มันก็เป็นธรรมดาที่ฉันจะไม่พอใจ!”“...” เรื่องราวมันมาถึงขั้นนี้ได้ยังไง?“เฉียวสือเนี่ยน ถ้าเธอกล้าพูดต่อหน้าซ่งม่านว่าจะไม่มีทางหย่า งั้นฉันก็จะไม่รักเธอ!”โม่ซิวหย่วนจงใจแกล้งเธอ เธอจะพูดแบบนี้ออกไปได้อย่างไร!เมื่อเห็นสายตาที่เต็มไปด้วยความหวัง เฉียวสือเนี่ยนจึงหันไปพูดกับโม่ซิวหย่วน “เป็นบ้าให้มันน้อย ๆ หน่อย เรื่องที่ฉันจะหย่ามันไม่เกี่ยวอะไรกับคุณเลยแม้แต่นิดเดียว”“ฉันรู้ว่าก่อนหน้านี้เธอรักฮั่วเยี่ยนฉือแค่ไหน ถ้าไม่ใช่เพราะเธอมีใจให้ฉัน เธอจะหย่า
“…”โม่ซิวหย่วนรู้จักที่กินที่เที่ยวมากมาย ไม่นานเขาก็หาโรงแรมซึ่งอยู่ไม่ไกลจากพวกเขาและมีรสชาติอาหารอร่อยมากแห่งหนึ่งเฉียวสือเนี่ยนหิวมากจริง ๆ จึงขับรถไปยังโรงแรมนั้นทันทีหลังจากทั้งสองมาถึง เฉียวสือเนี่ยนก็นำกุญแจรถฝากไว้ที่เด็กจอดรถ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องรับรองแขกในโรงแรมสุดหรูกับโม่ซิวหย่วน“คุณผู้หญิงฮั่ว?”เมื่อพนักงานเพิ่งจะเข้ามาต้อนรับพวกเขา จู่ ๆ ก็มีเสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังมาจากด้านหลังเฉียวสือเนี่ยนเงยหน้าขึ้นก็พบว่าเป็นป๋ายอีอีเธอสวมชุดทำงาน และข้าง ๆ มีผู้ชายสวมชุดสูทยืนอยู่สองสามคน รวมไปถึงฮั่วเยี่ยนฉือซึ่งอยู่ในชุดสูทสีดำพวกเขาเพิ่งจะเดินออกมาจากลิฟต์ เห็นได้ชัดว่าเพิ่งกินข้าวกันเสร็จเมื่อได้ยินเสียงเรียกทักของป๋ายอีอี คนที่กำลังพูดคุยกับคนข้าง ๆ อย่างฮั่วเยี่ยนฉือก็เงยหน้าขึ้นมามองทันทีเมื่อเห็นว่าเธอและโม่ซิวหย่วนอยู่ด้วยกัน สีหน้าของฮั่วเยี่ยนฉือก็เปลี่ยนเป็นไม่พอใจทันที“ประธานโม่ก็อยู่ด้วย บังเอิญจริง ๆ พวกคุณมาทานข้าวเหรอคะ?”ป๋ายอีอีราวกับไม่รู้ว่าบรรยากาศในตอนนี้ผิดปกติไป เธอเอ่ยทักทายโม่ซิวหย่วนโม่ซิวหย่วนตอบกลับเสียงเรียบ “เพิ่งกลับมาจากประเทศ M ก็เล
เมื่อได้ยินฮั่วเยี่ยนฉือพูดดังนั้น ยิ่งทำให้เฉียวสือเนี่ยนมั่นใจว่าเขาเป็นคนทำให้โม่ซิวหย่วนต้องกลับไปฮั่วเยี่ยนฉือเดินมาตรงหน้าเธอ “เธอไปรับโม่ซิวหย่วนที่สนามบินเหรอ?”“มีปัญหาอะไร?” เฉียวสือเนี่ยนถามกลับฮั่วเยี่ยนฉือจ้องเธอด้วยสายตาเย็นชา “เธอไปตั้งไกลเพื่อเป็นคนขับรถงั้นเหรอ?”เฉียวสือเนี่ยน “...” ประชดประชันใครกันขณะนั้นเองพนักงานก็นำอาหารมาเสิร์ฟพอดี เฉียวสือเนี่ยนคร้านจะสนใจเขา จึงหยิบตะเกียบขึ้นมาคีบอาหารเมื่อฮั่วเยี่ยนฉือถูกเฉียวสือเนี่ยนเมิน เขาก็ยิ่งโกรธมากขึ้น “ในเมื่อเธอไม่ใช่คนขับรถของเขา ทำไมตอนไปร้านอาหารคราวก่อนถึงไปขับรถให้เขา วันนี้ก็ไปรับเขาที่สนามบินด้วยตัวเองอีก?”“เขาไม่มีคนขับรถ หรือเธอชอบเขาจริง ๆ แม้แต่สถานะตัวเองยังไม่สนใจ คิดแต่จะหาเวลาไปหาเขา!”เฉียวสือเนี่ยนเงยหน้าขึ้น เธอยิ้มบาง ๆ “ใช่ ถ้าคุณเข้าใจความคิดของฉันขนาดนี้ งั้นก็ช่วยรีบตัดความสัมพันธ์ของเราเสียทีสิ”ฮั่วเยี่ยนฉืออึ้งไป สีหน้าและน้ำเสียงของเขาแข็งกร้าว “เฉียวสือเนี่ยน เธอใช้ข้ออ้างว่าการใช้ชีวิตคู่ของเราทำให้เธอไม่มีความสุขจนอยากจะหย่ากัน ฉันก็อดทนยอมรับ”“แต่ถ้าเธอทำให้ฉันเป็นคนโง่ มองการแต