“พี่ซิวหย่วน...” ซ่งม่านเอ่ยทักทายเขาอย่างกล้า ๆ กลัว ๆโม่ซิวหย่วนปิดประตูลงอย่างแรง “เฉียวสือเนี่ยน เธอทำบ้าอะไร ทำไมซ่งม่านถึงอยู่ที่นี่!”เห็นได้ชัดว่าโม่ซิวหย่วนโกรธจริง ๆ เขาถึงได้เรียกชื่อเต็มของเธอออกมาเฉียวสือเนี่ยนกระพริบตาปริบ ๆ อย่างใสซื่อ “รถของคุณซ่งเสียก็เลยอยากกลับไปพร้อมพวกเราด้วย ไม่ว่ายังไงเธอก็เป็นคู่หมั้นของคุณนะ จะให้ฉันทำเป็นเมินเฉยไม่ได้หรอก”โม่ซิวหย่วนโมโหยิ่งกว่าเดิม “เธอโกรธที่ฉันไม่ได้กลับมาด้วย เธอถึงทำแบบนี้กับฉันใช่ไหม! แต่เธอก็สัญญาแล้วว่าจะหย่ากับฮั่วเยี่ยนฉือ ผ่านมาตั้งหลายวันยังไม่ได้ทำเรื่องหย่าเลย มันก็เป็นธรรมดาที่ฉันจะไม่พอใจ!”“...” เรื่องราวมันมาถึงขั้นนี้ได้ยังไง?“เฉียวสือเนี่ยน ถ้าเธอกล้าพูดต่อหน้าซ่งม่านว่าจะไม่มีทางหย่า งั้นฉันก็จะไม่รักเธอ!”โม่ซิวหย่วนจงใจแกล้งเธอ เธอจะพูดแบบนี้ออกไปได้อย่างไร!เมื่อเห็นสายตาที่เต็มไปด้วยความหวัง เฉียวสือเนี่ยนจึงหันไปพูดกับโม่ซิวหย่วน “เป็นบ้าให้มันน้อย ๆ หน่อย เรื่องที่ฉันจะหย่ามันไม่เกี่ยวอะไรกับคุณเลยแม้แต่นิดเดียว”“ฉันรู้ว่าก่อนหน้านี้เธอรักฮั่วเยี่ยนฉือแค่ไหน ถ้าไม่ใช่เพราะเธอมีใจให้ฉัน เธอจะหย่า
“…”โม่ซิวหย่วนรู้จักที่กินที่เที่ยวมากมาย ไม่นานเขาก็หาโรงแรมซึ่งอยู่ไม่ไกลจากพวกเขาและมีรสชาติอาหารอร่อยมากแห่งหนึ่งเฉียวสือเนี่ยนหิวมากจริง ๆ จึงขับรถไปยังโรงแรมนั้นทันทีหลังจากทั้งสองมาถึง เฉียวสือเนี่ยนก็นำกุญแจรถฝากไว้ที่เด็กจอดรถ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องรับรองแขกในโรงแรมสุดหรูกับโม่ซิวหย่วน“คุณผู้หญิงฮั่ว?”เมื่อพนักงานเพิ่งจะเข้ามาต้อนรับพวกเขา จู่ ๆ ก็มีเสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังมาจากด้านหลังเฉียวสือเนี่ยนเงยหน้าขึ้นก็พบว่าเป็นป๋ายอีอีเธอสวมชุดทำงาน และข้าง ๆ มีผู้ชายสวมชุดสูทยืนอยู่สองสามคน รวมไปถึงฮั่วเยี่ยนฉือซึ่งอยู่ในชุดสูทสีดำพวกเขาเพิ่งจะเดินออกมาจากลิฟต์ เห็นได้ชัดว่าเพิ่งกินข้าวกันเสร็จเมื่อได้ยินเสียงเรียกทักของป๋ายอีอี คนที่กำลังพูดคุยกับคนข้าง ๆ อย่างฮั่วเยี่ยนฉือก็เงยหน้าขึ้นมามองทันทีเมื่อเห็นว่าเธอและโม่ซิวหย่วนอยู่ด้วยกัน สีหน้าของฮั่วเยี่ยนฉือก็เปลี่ยนเป็นไม่พอใจทันที“ประธานโม่ก็อยู่ด้วย บังเอิญจริง ๆ พวกคุณมาทานข้าวเหรอคะ?”ป๋ายอีอีราวกับไม่รู้ว่าบรรยากาศในตอนนี้ผิดปกติไป เธอเอ่ยทักทายโม่ซิวหย่วนโม่ซิวหย่วนตอบกลับเสียงเรียบ “เพิ่งกลับมาจากประเทศ M ก็เล
เมื่อได้ยินฮั่วเยี่ยนฉือพูดดังนั้น ยิ่งทำให้เฉียวสือเนี่ยนมั่นใจว่าเขาเป็นคนทำให้โม่ซิวหย่วนต้องกลับไปฮั่วเยี่ยนฉือเดินมาตรงหน้าเธอ “เธอไปรับโม่ซิวหย่วนที่สนามบินเหรอ?”“มีปัญหาอะไร?” เฉียวสือเนี่ยนถามกลับฮั่วเยี่ยนฉือจ้องเธอด้วยสายตาเย็นชา “เธอไปตั้งไกลเพื่อเป็นคนขับรถงั้นเหรอ?”เฉียวสือเนี่ยน “...” ประชดประชันใครกันขณะนั้นเองพนักงานก็นำอาหารมาเสิร์ฟพอดี เฉียวสือเนี่ยนคร้านจะสนใจเขา จึงหยิบตะเกียบขึ้นมาคีบอาหารเมื่อฮั่วเยี่ยนฉือถูกเฉียวสือเนี่ยนเมิน เขาก็ยิ่งโกรธมากขึ้น “ในเมื่อเธอไม่ใช่คนขับรถของเขา ทำไมตอนไปร้านอาหารคราวก่อนถึงไปขับรถให้เขา วันนี้ก็ไปรับเขาที่สนามบินด้วยตัวเองอีก?”“เขาไม่มีคนขับรถ หรือเธอชอบเขาจริง ๆ แม้แต่สถานะตัวเองยังไม่สนใจ คิดแต่จะหาเวลาไปหาเขา!”เฉียวสือเนี่ยนเงยหน้าขึ้น เธอยิ้มบาง ๆ “ใช่ ถ้าคุณเข้าใจความคิดของฉันขนาดนี้ งั้นก็ช่วยรีบตัดความสัมพันธ์ของเราเสียทีสิ”ฮั่วเยี่ยนฉืออึ้งไป สีหน้าและน้ำเสียงของเขาแข็งกร้าว “เฉียวสือเนี่ยน เธอใช้ข้ออ้างว่าการใช้ชีวิตคู่ของเราทำให้เธอไม่มีความสุขจนอยากจะหย่ากัน ฉันก็อดทนยอมรับ”“แต่ถ้าเธอทำให้ฉันเป็นคนโง่ มองการแต
ฮั่วเยี่ยนฉือพยักหน้าลงเล็กน้อย ก่อนจะเดินเข้าไปในลิฟต์ป๋ายอีอีกำโทรศัพท์ในมือแน่น ก่อนจะเดินเข้าไปในลิฟต์อีกตัว……เมื่อฮั่วเยี่ยนฉือเดินมาถึงห้องทำงาน ลู่เฉินหนานก็มารออยู่ก่อนแล้วลู่เฉินหนานไม่ได้พูดอะไรมาก ก่อนจะหยิบเอกสารออกมาส่งไปให้เขา “พี่ฉือ ผมสืบมาแล้ว เพื่อนของพี่สะใภ้คนนั้นชื่อเฉิงหว่านซิน และมีความสัมพันธ์ส่วนตัวกับป๋ายอีอีจริง ๆ ในนี้มีบันทึกการโทรของพวกเธอ และรูปจากกล้องวงจรปิดร้านกาแฟ”ฮั่วเยี่ยนฉือดึงเอกสารออกมาดูและเป็นดังที่ลู่เฉินหนานพูด ในนั้นมีบันทึกการโทรและรูปที่แคปออกมาจากวิดีโอ“ไม่มีหลักฐานการโอนเงินเข้าออกเหรอ“ ฮั่วเยี่ยนฉือถามลู่เฉินหนานส่ายหน้า “ผมให้คนไปสืบแล้วไม่มี แต่ช่วงนี้คุณเฉิงใช้เงินเป็นน้ำ เธอซื้อกระเป๋ารองเท้าแบรนด์เนมมากมาย ล้วนใช้เงินตัวเองซื้อทั้งหมด”“ก่อนหน้านี้พี่สะใภ้มักจะเป็นคนซื้อของพวกนี้ให้เธอ” ลู่เฉินหนานอธิบาย “ช่วงนี้ไม่รู้ว่าเธอและพี่สะใภ้ทะเลาะอะไรกัน เหมือนกับว่าพี่สะใภ้บล็อกเบอร์โทรศัพท์ของเธอไป”“จริงสิ เดือนที่แล้วพ่อของคุณเฉิงได้ชักชวนให้ตระกูลเฉียวมาทำธุรกิจใหญ่ร่วมกัน แต่พี่สะใภ้ไม่เห็นด้วย” ลู่เฉินหนานพูดเสริม——ถึงแม้
“ฮ่าฮ่า อย่าเพิ่งเข้าใจผิดนะ ผมไม่ได้มาช่วยพี่ฉือพูดหรอก!”ลู่เฉินหนานหัวเราะ “ก็แค่อยากถามพี่ว่าชินหรือยัง ได้ยินมาว่าพี่อยากซื้อบ้านใหม่ ผมมีบ้านอยู่ในเมืองหลายที่ เดี๋ยวจะส่งข้อมูลไปให้ พี่ลองดูนะว่าชอบที่ไหน ผมยกให้!”“เฉียวสือเนี่ยนปฏิเสธอย่างไม่คิด “ไม่ต้อง หากไม่ได้ทำประโยชน์ให้ ก็ไม่ควรจะรับรางวัลตอบแทน ฉันซื้อเองได้“เฉียวสือเนี่ยนไม่มีอารมณ์มาคุยเล่นกับเขา ลู่เฉินหนานลูบท้ายทอยตัวเองเบา ๆ “พี่สะใภ้ ถึงแม้ผมจะเป็นน้องพี่ฉือ แต่เรื่องปัญหาความสัมพันธ์ของพวกพี่ ผมและคุณฟู่ต่างสนับสนุนพี่นะ!”แม้แต่จะสนับสนุนเธอ เขาก็ต้องแสดงให้เห็นว่าตัวเองได้จุดยืนเดียวกับฟู่เถียนเถียนเฉียวสือเนี่ยนอดไม่ได้ที่จะถาม “นายคงไม่ได้คิดอะไรกับเถียนเถียนใช่ไหม?”ลู่เฉินหนานตอบอย่างร้อนรน “พี่สะใภ้จะพูดมั่ว ๆ แบบนี้ไม่ได้นะ พวกเราเป็นเพื่อนกัน ถึงแม้ผมและคุณฟู่จะเพิ่งรู้จักกันแต่พวกเราก็เหมือนเพื่อนที่สนิทกันมานาน ผมไม่มีทางคิดอะไรกับเธอแน่!”เธอเองก็มีความคิดว่าฟู่เถียนเถียนอาจไม่ชอบเขาเช่นกัน“พี่สะใภ้ ถึงแม้ผมจะสนับสนุนการกระทำของพี่ แต่ถ้าพี่คิดว่าพี่ฉือไม่สนใจ จึงอยากหย่าเพราะว่าโกรธเขา ผมอยากช่ว
เมื่อได้ยินดังนั้น ฮั่วเยี่ยนฉือจึงนำเอกสารที่อยู่บนโต๊ะยื่นมาให้ป๋ายอีอีป๋ายอีอีหยิบขึ้นมาดูด้วยสีหน้างุนงง“นี่เป็นบันทึกการโทรของฉันและพี่เฉิง และรูปที่ไปร้านกาแฟกับเธอก่อนหน้านี้ มีปัญหาอะไรงั้นเหรอ?”ฮั่วเยี่ยนฉือถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “ที่คืนนั้นเฉิงหว่านซินไปสร้างเรื่องวุ่นวายในที่พักของเธอ เธอเป็นคนวางแผนงั้นเหรอ?”ป๋ายอีอีดูเหมือนจะไม่เข้าใจว่าทั้งสองเรื่องนี้มีความเกี่ยวข้องกันยังไงหลังจากที่นิ่งอึ้งไป เธอก็ดึงสติตัวเองกลับมา“เยี่ยนฉือ คุณหมายความว่าเพราะฉันเคยติดต่อกับคุณเฉิง เพราะฉะนั้นฉันเลยสั่งให้คุณเฉิงมาขายหน้าตัวเองเหรอ?”ป๋ายอีอีสีหน้าเปลี่ยนไปทันที “ฉันไม่รู้นะว่าทำไมคุณถึงสงสัยเรื่องนี้ แต่ฉันกับคุณเฉิงเคยเจอกันจริง ๆ คุณเฉิงยังมีไลน์ฉันด้วย แต่ฉันไม่ได้ทำเรื่องนี้นะคะ”ป๋ายอีอีเล่าว่า ในงานเลี้ยงไม่กี่เดือนก่อน เฉิงหว่านซินเป็นคนเข้ามาขอเบอร์โทรศัพท์ และเพิ่มเพื่อนในไลน์เองและเมื่อดูจากอินสตาแกรมของอีกฝ่าย จึงทำให้เธอรู้ว่าเฉิงหว่านซินและเฉียวสือเนี่ยนเป็นเพื่อนรักกันทุก ๆ ครั้งที่เฉิงหว่านซินโพสต์รูปภาพ คอมเมนต์จะเต็มไปด้วยคำเย้ยหยันถากถาง ทำให้เธอรู้ว่าเฉี
แต่เรื่องนี้ ป๋ายอีอีไม่คิดว่าจะต้องอธิบายให้พ่อฟัง“พ่อ วันไหนที่พ่อจะไปหาเยี่ยนฉืออีกครั้ง พ่อต้องขอโทษเขาในเรื่องที่พ่อบุ่มบ่ามเข้าไปต่อว่าเฉียวสือเนี่ยน”“อืม พ่อเข้าใจแล้ว” ป๋ายซื่ออวี้ทอดถอนใจ “อีอี เห็นได้ชัดว่าความสัมพันธ์ของลูกกับเยี่ยนฉือก่อนหน้านี้ดีจะตายไป ทำไมลูกถึงต้องไปต่างประเทศ ถ้าไม่ไปละก็ ไม่แน่ว่าพวกลูกอาจได้อยู่ด้วยกันนานแล้ว คงไม่มีเรื่องเฉียวสือเนี่ยนเข้ามา”เมื่อพูดเรื่องนี้ขึ้นมา สีหน้าของป๋ายอีอีก็เปลี่ยนไป “พ่อ เลิกพูดเรื่องในอดีตเถอะ คิดว่าพวกเราไร้วาสนาต่อกันก็พอ”“ไม่ต้องกังวล ไม่ช้าก็เร็วเยี่ยนฉือจะต้องรู้ว่าลูกเป็นคนที่เหมาะสมกับเขาที่สุด” ป๋ายซื่ออวี้ปลอบใจ“หวังว่าจะเป็นแบบนั้น” ป๋ายอีอีตอบ “พ่อ ฉันกำลังขับรถอยู่ วางสายก่อนนะ”เมื่อวางสายแล้ว ป๋ายอีอีก็ได้หาไลน์ของใครคนหนึ่ง ก่อนจะส่งคำขอบคุณไปให้อีกฝ่าย [เรื่องครั้งนี้ต้องขอบคุณเธอนะ][ประธานป๋ายไม่ต้องเกรงใจฉันก็ได้ เรื่องเล็กน้อย]ป๋ายอีอีเก็บโทรศัพท์ลง สีหน้าของเธอเย็นชาเป็นอย่างมากหากจะสืบเรื่องเฉิงหว่านซินเพราะมีหลักฐานก็พอเข้าใจได้ แต่ทำไมฮั่วเยี่ยนฉือถึงสืบเรื่องผู้ชายสองคนนั้นที่มณฑลหู?……เ
เขามาได้อย่างไร?“คุณตาเรียกฮั่วเยี่ยนฉือมาเหรอคะ?” เฉียวสือเนี่ยนถามเฉียวตงไห่ยิ้ม “ตอนบ่ายเขาโทรมาหาตา ถามเรื่องสุขภาพช่วงนี้ ตาเลยพูดขึ้นเฉย ๆ ว่าอีกเดี๋ยวหนูจะมา เขาอยากจะมาทานข้าวไหม และเขาก็ตอบตกลง”เฉียวสือเนี่ยนรู้ว่าคุณตาไม่อยากให้เธอหย่ากับฮั่วเยี่ยนฉือ ไม่อย่างนั้นผ่านวันเกิดคุณย่าฮั่วมาตั้งครึ่งเดือนแล้ว เขากลับไม่ได้ถามถึงเรื่องระหว่างเธอและฮั่วเยี่ยนฉือแม้แต่ครั้งเดียวที่เรียกให้ฮั่วเยี่ยนฉือมาก็อาจเป็นเพราะคิดว่าพวกเขายังพอมีความหวังอยู่น่ารำคาญจริง ๆ เมื่อไรแล้วฮั่วเยี่ยนฉือจะเซ็นหย่าให้เธอสักที ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป กลัวว่านับวันจะยิ่งหย่ายากขึ้นเรื่อย ๆ เฉียวสือเนี่ยนเริ่มรู้สึกอยากทำสัญญาร่วมกับโม่ซิวหย่วนซะแล้วไม่นานนัก ฮั่วเยี่ยนฉือก็เดินเข้ามาดูเหมือนเขาจะเพิ่งกลับมาจากงานเลี้ยงทางการที่ไหนสักแห่ง เขาสวมชุดสูทสีดำทั้งตัว ด้านในสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวที่ประณีต ถึงแม้จะแต่งตัวเหมือนกับปกติทุกวัน แต่รัศมีที่ส่งผ่านออกมาจากตัวเขา ล้วนสุขุมและทรงพลังจนไม่สามารถมองข้ามได้ฮั่วเยี่ยนฉือเหลือบมองเธอก่อนจะเอ่ยทักทายผู้อาวุโสอย่างสุภาพ เขาหันไปถามอวี๋จิ่งเฉิงด้วยน้ำเสียงเรียบ
เท่าที่เฉียวสือเนี่ยนจำความได้ แม่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและใช้ความรู้สึกร่วมกับเหตุผล ต่อให้ในตอนนั้นแม่จะโกรธมากแค่ไหน หลังจากนั้นก็ต้องไปถามหลีพัวถิงให้ชัดเจนดังนั้น เรื่องนี้สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการที่แม่ขอเลิกแน่ ๆอีกอย่างการที่แม่หา “คนรักเก่า” มาเป็นข้ออ้างเพื่อขอเลิก ต้องเป็นเพราะมีเหตุผลส
ผลตรวจดีเอ็นเอไม่พลิกผัน หลีซูเหยียนกับหลีพัวไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดตั้งแต่นั้นมา หลีพัวถิงก็เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในเบื้องลึกของหัวใจ ป่าวประกาศกับคนภายนอกว่าหลีซูเหยียนคือลูกสาวของเขา และเลี้ยงดูเสมือนเป็นลูกแท้ ๆ “ในเมื่อคุณเชื่อว่าแม่ฉันโกหก เด็กก็ไม่ใช่ลูกของคุณ แล้วทำไมคุณยังต้องเลี้
หลีพัวถิงพยักหน้าเล็กน้อยและจมอยู่ในความทรงจำต่อไปหนุ่มสาวมากความสามารถที่อายุน้อย แถมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก หัวใจทั้งสองดวงจึงใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็วหลังรู้จักกันได้ไม่นาน ในวันที่แสงแดดเจิดจ้าเช่นเดียวกัน หลีพัวถิงสารภาพรักกับเมิ่งจินเหยียนท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม และทั้งสองก็กลายเป็นคู่รักอ
แม้หลีซูเหยียนจะพูดอย่างจริงใจ แต่หลีพัวถิงก็ยังคงปฏิเสธ “ซูเหยียน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว และทำตามที่พ่อบอก ลูกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศซะ”เดิมทีหลีซูเหยียนคิดว่าตัวเองมั่นใจต่อข้อเสนอนี้มาก ถึงอย่างไรทางด้านคุณลุงก็พร้อมจะลงมือ แถมครั้งนี้ยังเกิดเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นลักพาตัวอีก เธอยินยอมกลายเป็นเป้
พอเฉียวสือเนี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งสับสนมึนงงเข้าไปใหญ่ สิ่งที่ฮั่วเยี่ยนฉือพูดมามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?ไม่เคยมีคุณแม่แท้ ๆ ของหลีซูเหยียนอยู่ทั้งนั้น หลีซูเหยียนเข้าใจผิดไปเองว่ามารดาที่ให้กำเนิดตัวเองมีความรักลึกซึ้งกับหลีพัวถิง?คนที่หลีพัวถิงรักมาตลอดชั่วชีวิตมีเพียงคุณแม่ของเฉียวสือเนี
หลีซูเหยียนกับตระกูลรองของตระกูลหลีนั้นถือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันในเรื่องของผลประโยชน์ พวกเขาจะไปร่วมมือกันได้อย่างไร?บางทีฮั่วเยี่ยนฉือก็อาจจะคิดถึงจุดนี้เหมือนกันเลยไม่ได้พูดอะไรแต่พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็ฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปถ่ายของคุณแม่กับคุณผู้หญิง
พูดจบ หนิงเสี่ยวเยว่ก็ตัดสายวิดีโอคอลเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าหนิงเสี่ยวเยว่ดูแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่พอคิด ๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะหล่อนใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน เลยค่อนข้างเปิดเผยความรู้สึกไปบ้างสินะเวลาล่วงเลยไปอีกสองวันวิดีโอและรูปภาพเกี่ยวกับเฉียวสือเนี่ยนและซ่งชิงชวนทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ตนั้นค้
เฉียวสือเนี่ยนยิ้มพลางบอกว่าไม่ได้รบกวน ทั้งยังถามหนิงเสี่ยวเยว่ว่าโทรมาหาเธอมีธุระอะไรหรือเปล่าหนิงเสี่ยวเยว่ชี้แจงแถลงไขให้ฟังอย่างเก้อเขินเล็กน้อยว่า วันนี้เธอไปช็อปปิ้งที่ร้านน้ำหอมของ M•Q แล้วชอบน้ำหอมรุ่นลิมิเต็ดนั่นมาก แต่ก็ได้รับแจ้งว่าสินค้าหมดเสียแล้ว“ฉันได้ยินว่าคุณเป็นคำปรุงน้ำหอมรุ่นน
ซ่งชิงชวนแกะมือมารดาออกด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วหมุนตัวจากไป คล้อยหลังเขา หลีซูเหยียนก็กอบกุมลำคอที่เจ็บระบมของตนเอง ร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าว “ป้าเซิ่ง เมื่อกี้นี้ป้าเซิ่งไม่เห็นสายตาของประธานซ่งเหรอคะ? เขาคิดจะบีบคอหนูให้ตายจริง ๆ นะคะ เขาน่ะเกลียดที่หนูลงมือกับเฉียวสือเนี่ยนชัด ๆ !”เซิ่งจวงฮุ่ยหั