โม่ซิวหย่วนได้ยินก็ไม่บังคับอีก เขาลุกขึ้นยืนและจากไป เมื่อเห็นโม่ซิวหย่วนเดินไปไกลแล้ว เฉียวสือเนี่ยนถึงรู้สึกว่าตอนนี้ตัวเธอผ่อนคลายลงแล้วไม่งั้นเธอคงคิดว่าโม่ซิวหย่วนจะแกล้งเธออยู่ตลอดเวลา จนรับประทานอาหารอย่างไม่เป็นสุขแน่ ๆ สมกับเป็นสถานที่ที่โม่ซิวหย่วนเลือก อาหารของร้านนี้อร่อยจริง ๆ ทั้ง
เฉียวสือเนี่ยนเชื้อเชิญออกไป “ป้าหวัง รอให้ฉันซื้อบ้านและสามารถเข้าไปอยู่ได้แล้ว ป้าค่อยลาออกและเข้าไปอยู่กับฉันสิคะ”ก่อนหน้านี้เฉียวสือเนี่ยนตั้งใจจะกลับไปบ้านของตระกูลเฉียวเพื่ออยู่กับคุณตาแต่ตอนนี้เธอใกล้จะต้องไป ‘โม่ กรุ๊ป’ แล้ว บ้านของคุณตาที่อยู่ห่างชานเมืองค่อนข้างไกลจริง ๆ ดังนั้นเธอจึงซื้
ฮั่วเยี่ยนฉือไม่ได้ตอบกลับคำถามของเฉียวสือเนี่ยน แต่เอ่ยด้วยเสียงเย็นชา “ให้เวลาเธอย้ายกลับไปสองชั่วโมง ไม่งั้นเงื่อนไขจะหมดอายุจนใช้ไม่ได้”อะไรคือหมดอายุจนใช้ไม่ได้ เฉียวสือเนี่ยนไม่ชินกับน้ำเสียงที่วางท่าแบบนี้ของฮั่วเยี่ยนฉือเธอหัวเราะเสียงเย็น “ไม่ต้องหรอก ฉันชอบเงิน แต่ถ้าทำให้ฉันกับคุณผูกมัด
เขาที่สวมชุดสูทอย่างเป็นทางการสีขาว และสวมเสื้อเชิ้ตสีดำไว้ด้านใน แถมยังสวมหูกระต่ายสีเงินอย่างเคร่งขรึม ผมก็ถูกหวีขึ้นไป คนทั้งคนดูไปแล้ว...มีเสน่ห์อย่างมากแน่นอนว่า ดูร้ายกาจมากเช่นกันการปรากฏตัวของโม่ซิวหย่วนดึงดูดสายตาของทุกคน พนักงานที่อยู่ทางเข้าออกโรงแรมต่างกำลังจ้องมองเขา แถมมีบางครั้งที่ค
“…” เฉียวสือเนี่ยนคืนนี้โม่ซิวหย่วนให้เธอแสดงกลองชุด ถือว่าเป็นช่วงที่ขาดไม่ได้อยู่แล้วเมื่อสัมผัสถึงไม้กลอง เฉียวสือเนี่ยนก็ผ่อนคลายขึ้น ตอนตีกลองก็ทำตามใจอย่างอิสระ ทั้งคนและเสียงดนตรีรวบเข้าด้วยกันเป็นหนึ่งเดียว รอยยิ้มที่อยู่บนใบหน้าก็มีความสุขทั้งเอาแต่ใจเมื่อจบเพลง เฉียวสือเนี่ยนก็เดินลงจาก
เมื่อป๋ายอีอีได้รับรูป ก็รู้ได้ทันทีว่าผู้ชายที่สวมใส่ชุดสูทสีขาวสะอาดตาคนนั้นคือ โม่ซิวหย่วนเห็นว่าเขากับเฉียวสือเนี่ยนพากันเดินเข้าโรงแรมไปด้วยท่าทางสนิทสนมแบบนั้น ทำเอาป๋ายอีอีตกตะลึงไม่น้อยถึงโม่ซิวหย่วนจะเป็นคนกินไม่เลือก ทว่าหมอนั่นเกลียดฮั่วเยี่ยนฉืออย่างกับอะไร เลยไม่เข้าใกล้คนที่สนิทชิดเช
“เพราะงั้น เธอจะทำได้แค่หาวิธีอื่นมาจัดการเรื่องนี้ ทำให้ฮั่วเยี่ยนฉือเชื่อว่าเธอมีชู้ให้ได้แบบนี้ ถึงจะทำให้หมอนั่นรีบหย่าขาดกับเธอได้เร็วที่สุด”แม้ว่าสิ่งที่โม่ซิวหย่วนพูดมาจะไม่สมเหตุสมผล ทว่าคำพูดของเขาก็ทำให้เฉียวสือเนี่ยนเกิดความลังเลขึ้นมาฮั่วเยี่ยนฉือเป็นคนหยิ่งทระนงและถือดี ทั้งยังขี้หวงข
“คุณตาคะ!”เพิ่งเข้าไปถึงลานบ้าน เฉียวสือเนี่ยนก็ตะโกนเรียกด้วยความดีใจ“เนี่ยนเนี่ยน เธอเองก็มาด้วยเหรอ”ทว่าคนที่ตอบเธอกลับไม่ใช่คุณตา แต่เป็นเฉิงหว่านซิน!เห็นเฉิงหว่านซินถือผลไม้ที่ปอกเปลือกไปแล้วครึ่งหนึ่ง เคียวเรียวงามของเฉียวสือเนี่ยนก็ขมวดทันที “มาที่นี่ได้ยังไง?”เฉิงหว่านซินยิ้มแย้มพร้อมตอ
เท่าที่เฉียวสือเนี่ยนจำความได้ แม่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและใช้ความรู้สึกร่วมกับเหตุผล ต่อให้ในตอนนั้นแม่จะโกรธมากแค่ไหน หลังจากนั้นก็ต้องไปถามหลีพัวถิงให้ชัดเจนดังนั้น เรื่องนี้สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการที่แม่ขอเลิกแน่ ๆอีกอย่างการที่แม่หา “คนรักเก่า” มาเป็นข้ออ้างเพื่อขอเลิก ต้องเป็นเพราะมีเหตุผลส
ผลตรวจดีเอ็นเอไม่พลิกผัน หลีซูเหยียนกับหลีพัวไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดตั้งแต่นั้นมา หลีพัวถิงก็เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในเบื้องลึกของหัวใจ ป่าวประกาศกับคนภายนอกว่าหลีซูเหยียนคือลูกสาวของเขา และเลี้ยงดูเสมือนเป็นลูกแท้ ๆ “ในเมื่อคุณเชื่อว่าแม่ฉันโกหก เด็กก็ไม่ใช่ลูกของคุณ แล้วทำไมคุณยังต้องเลี้
หลีพัวถิงพยักหน้าเล็กน้อยและจมอยู่ในความทรงจำต่อไปหนุ่มสาวมากความสามารถที่อายุน้อย แถมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก หัวใจทั้งสองดวงจึงใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็วหลังรู้จักกันได้ไม่นาน ในวันที่แสงแดดเจิดจ้าเช่นเดียวกัน หลีพัวถิงสารภาพรักกับเมิ่งจินเหยียนท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม และทั้งสองก็กลายเป็นคู่รักอ
แม้หลีซูเหยียนจะพูดอย่างจริงใจ แต่หลีพัวถิงก็ยังคงปฏิเสธ “ซูเหยียน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว และทำตามที่พ่อบอก ลูกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศซะ”เดิมทีหลีซูเหยียนคิดว่าตัวเองมั่นใจต่อข้อเสนอนี้มาก ถึงอย่างไรทางด้านคุณลุงก็พร้อมจะลงมือ แถมครั้งนี้ยังเกิดเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นลักพาตัวอีก เธอยินยอมกลายเป็นเป้
พอเฉียวสือเนี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งสับสนมึนงงเข้าไปใหญ่ สิ่งที่ฮั่วเยี่ยนฉือพูดมามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?ไม่เคยมีคุณแม่แท้ ๆ ของหลีซูเหยียนอยู่ทั้งนั้น หลีซูเหยียนเข้าใจผิดไปเองว่ามารดาที่ให้กำเนิดตัวเองมีความรักลึกซึ้งกับหลีพัวถิง?คนที่หลีพัวถิงรักมาตลอดชั่วชีวิตมีเพียงคุณแม่ของเฉียวสือเนี
หลีซูเหยียนกับตระกูลรองของตระกูลหลีนั้นถือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันในเรื่องของผลประโยชน์ พวกเขาจะไปร่วมมือกันได้อย่างไร?บางทีฮั่วเยี่ยนฉือก็อาจจะคิดถึงจุดนี้เหมือนกันเลยไม่ได้พูดอะไรแต่พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็ฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปถ่ายของคุณแม่กับคุณผู้หญิง
พูดจบ หนิงเสี่ยวเยว่ก็ตัดสายวิดีโอคอลเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าหนิงเสี่ยวเยว่ดูแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่พอคิด ๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะหล่อนใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน เลยค่อนข้างเปิดเผยความรู้สึกไปบ้างสินะเวลาล่วงเลยไปอีกสองวันวิดีโอและรูปภาพเกี่ยวกับเฉียวสือเนี่ยนและซ่งชิงชวนทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ตนั้นค้
เฉียวสือเนี่ยนยิ้มพลางบอกว่าไม่ได้รบกวน ทั้งยังถามหนิงเสี่ยวเยว่ว่าโทรมาหาเธอมีธุระอะไรหรือเปล่าหนิงเสี่ยวเยว่ชี้แจงแถลงไขให้ฟังอย่างเก้อเขินเล็กน้อยว่า วันนี้เธอไปช็อปปิ้งที่ร้านน้ำหอมของ M•Q แล้วชอบน้ำหอมรุ่นลิมิเต็ดนั่นมาก แต่ก็ได้รับแจ้งว่าสินค้าหมดเสียแล้ว“ฉันได้ยินว่าคุณเป็นคำปรุงน้ำหอมรุ่นน
ซ่งชิงชวนแกะมือมารดาออกด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วหมุนตัวจากไป คล้อยหลังเขา หลีซูเหยียนก็กอบกุมลำคอที่เจ็บระบมของตนเอง ร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าว “ป้าเซิ่ง เมื่อกี้นี้ป้าเซิ่งไม่เห็นสายตาของประธานซ่งเหรอคะ? เขาคิดจะบีบคอหนูให้ตายจริง ๆ นะคะ เขาน่ะเกลียดที่หนูลงมือกับเฉียวสือเนี่ยนชัด ๆ !”เซิ่งจวงฮุ่ยหั