Share

บทที่ 2

last update Last Updated: 2025-01-18 03:33:42

บทที่ 2

“เสด็จแม่ ออกมาเถอะพ่ะย่ะค่ะ ลูกมิทำอันตรายท่านหรอก ออกมาเถิด ออกมา” ไท่จื่อลากกระบี่ที่เต็มไปด้วยโลหิตเกี่ยวผ้าม่านออกดูว่ามีคนแอบซ่อนอยู่ด้านหลังหรือไม่ เสียงกรีดร้องของเหล่านางกำนัลดังระงมไปทั้งตำหนัก

กลางดึกคืนหนึ่งพระจันทร์กลายเป็นสีเลือด องค์รัชทายาทนำทหารบุกเข้าวังหลวง สังหารฮองเต้กลางแท่นบรรทม

เจียวเอินจวิ้น นางเป็นฮองเฮาและเป็นมารดาผู้ให้กำเนิดไท่จื่อ นั่งเอาหน้าซุกตรงหว่างขาตัวสั่นงันงก กลั้นลมหายใจและเสียงสะอื้น เกรงกลัวคนที่ถือกระบี่สังหารจะได้ยิน

หีบใบโตถูกเปิดออก นัยน์ตาองค์ไท่จื่อวาววับ ในที่สุดก็เจอเป้าหมาย กระชากร่างสตรีสูงศักดิ์ลอยลิ่วออกมากระแทกพื้นด้านนอก

อั้ก “ฮื่อ หลงเอ๋อร์ เหตุใดจึงทำเช่นนี้” ร่างบางกระแทกพื้นลงอย่างแรง เจียวเอินจวิ้นทั้งเจ็บทั้งจุกไปทั้งร่างกาย แต่ที่เจ็บยิ่งกว่าคือใจของนาง นางช้อนตาแดงกล่ำเต็มไปด้วยน้ำและความเจ็บปวด มองโอรสเพียงคนเดียวของพระนาง

“ยังไงบัลลังก์ก็เป็นของเจ้า เปิ่งกงทำทุกอย่างเพื่อเจ้ามาตลอด”

ไท่จื่อยิ้มเยาะ สายตาเต็มไปด้วยความเหี้ยมเกรียม

“ข้ารอไม่ไหว เสด็จพ่อยังแข็งแรง ในเมื่อเสด็จแม่สร้างอำนาจมาให้ข้าแล้ว สงเคราะห์ข้าอีกอย่างเถิด มอบลมหายใจของท่านให้ข้าเถอะ” ไท่จื่อบักกระบี่คมลงบนอกฮองเฮาไม่ลังเลเลยซักนิด อำนาจ ความยิ่งใหญ่ ให้เขารออีกงั้นเหรอ ไม่มีวัน แค่เสด็จพ่อกับเสด็จแม่สิ้นลมหายใจไป ข้าก็ได้ขึ้นนั่งบนบัลลังก์มังกร ง่ายราวพลิกฝ่ามือ

“ข้าขอบคุณท่านที่ทำให้ข้ามีอำนาจ จนสามารถทำการใหญ่สำเร็จลุล่วง ลาก่อนเสด็จแม่” ไท่จื่อ ชักกระบี่ออกจากอกที่เคยดื่มกินนม ยืนมองร่างของสตรีสูงศักดิ์ที่ค่อยๆ หายใจรวยริน เขาจะยืนดูจนแน่ใจว่านางสิ้นใจแล้วจริงๆ

เจียวเอินจวิ้นกระอักเลือดทันทีที่ปลายกระบี่หลุดออกจากร่าง ไม่มีแม้แรงที่จะเอ่ยปากอ้อนวอนขอชีวิต เหตุใดโอรสที่นางอุ้มท้อง เลี้ยงมาด้วยสองมือ สร้างฐานอำนาจให้เขาบีนป่ายจึงลงมือสังหารนางโดยที่แววตามิรู้สึกผิดอันใดเลย

“ไม่! แฮ่กๆ “

“คุณหนูเจ้าค่ะ” ฮวาเจียวรีบพุ่งตัวจากฟูกนอนไปกอดร่างคุณหนูเล็กทันทีที่ได้ยินเสียงกรี๊ดร้อง

“ฝันร้าย แค่ฝันร้ายเจ้าค่ะ ข้าอยู่นี่แล้ว ข้าอยู่ข้างๆ คุณหนูแล้วเจ้าค่ะ” ฮวาเจียวโอบกอดร่างน้อยๆ ที่ตัวสั่นเทาเอาไว้ ลูบหลังแผ่วเบาๆ ปลอบประโลม

“อื่อ ข้าไม่เป็นไรแล้ว พี่ฮวาเจียวไปนอนต่อเถอะ” จูไป๋เสวี่ย ผละออกจากอ้อมกอดสาวใช้ เมื่อตั้งสติได้ว่าเมื่อกี้นางเพียงฝันไปเท่านั้น เด็กน้อยในวัย 10 หนาว ฝันร้ายบ่อยครั้ง จนสาวใช้ต้องปูฟูกนอนข้างเตียงมาตั้งแต่จำความได้

ฝันร้าย มันคือฝันร้ายที่ตามหลอกหลอน อดีตชาติก่อนของนาง ก่อนที่จะสิ้นใจ นางเกิดใหม่ แต่ยังจำชาติที่แล้วได้ทุกอย่าง จูไป๋เสวี่ยปาดน้ำตาออกจากใบหน้าน้อย

“คุณหนูนอนต่อนะเจ้าค่ะ ข้าจะนั่งตรงนี้จนกว่าท่านจะหลับ” ฮวาเจียวกดร่างน้อยลงกับเตียงนอน คุกเข่าลงข้างเตียง กุ้มมือคุณหนูของนางเอาไว้แน่น

จูไป๋เสวี่ย นอนลงตามแรงกดอย่างว่าง่าย ค่อยๆ หลับตา ลมหายใจสม่ำเสมอจนเข้าสู่ห้วงนิทราอีกครั้ง

บทที่3

เหมันต์ฤดู พัดผ่านอีกคร่า ดรุณีน้อยนั่งเท้าคางที่มุมหน้าต่างมองหิมะแรกยามเช้าตรู่

จูไป๋เสวี่ยเข้าสู่วัย 17 หนาว ที่ผ่านมาฝันร้ายตามมาหลอกหลอนไม่เลิกรา,เลิกร้าง เป็นนางเองที่ยังจำฝังใจ ใครเลยจะลืมสายตาเย็นชาจากเลือดในอกตนเองได้ลง ตราบาปที่นางเคยฆ่าชิงพรากพลาญชีวิตผู้อื่น ทำให้นางจำอดีตชาติเลวร้ายที่ตนเองทำเอาไว้ทั้งหมด

“คุณหนูเจ้าค่ะ ถูกหิมะจนผมชื้นหมดแล้ว เข้าไปอาบน้ำสระผมแช่น้ำให้ตัวอุ่นเถอะเจ้าค่ะ เดี๋ยวจะไม่สบาย”

ไป๋เสวี่ยเอี้ยวตัวมาส่งยิ้มหวานให้สาวใช้ประจำตัว ฮวาเจียวเป็นดั่งคนรู้ใจ เหมือนพี่สาวที่ดูแลนางมาตั้งแต่จำความได้ จูไป๋เสวี่ยมีพี่ชายทั้งหมดสี่คน พี่ใหญ่ อายุ21 เป็นองค์รักษ์เกราะทอง พี่รองอายุ 20เปิดโรงหมอรักษาคนเจ็บไข้ได้ป่วยอยู่ไม่ไกลจวนสกุลจูเท่าไหร่ ส่วนพี่สามและพี่สี่ช่วยบิดาดูแลโรงเตี้ยมและเหลาอาหาร อายุ18-19ตามลำดับ เกิดหัวปีท้ายปี เท่านี้ก็บ่งบอกแล้วว่าบิดาของนางรักมารดามากขนาดไหน หากไม่เพราะวันที่คลอดนาง จูฮูหยินตกเลือดจนเกือบเสียชีวิต นางคงมีน้องๆ วิ่งตามหลังอีกเป็นขบวณ

สกุลจู เป็นเพียงคนค้าขายเปิดโรงเตี้ยมและเหลาอาหาร อยู่หัวเมืองติดกับแคว้นฉู่ แม้จะห่างไกลเมืองจากเมืองหลวงแต่ก็เป็นเมืองค้าขายเพราะติดชายแดน ทำให้โรงเตี๊ยมและเหลามีผู้คนใช้บริการมากมาย

จูไป๋เสวี่ย ได้อยู่อย่างสงบสุขท่ามกลางพี่ชายทั้งสี่ บิดารมารดารักใคร่กลมเกลียว จวนสกุลจูไม่ใหญ่โตมากนักมีบ่าวรับใช้ไม่กี่คนเท่านั้นจึงง่ายต่อการควบคุมและดูแล งานในจวนก็ไม่ได้ยุ่งยากหรือมากมายเท่าไรเพราะนายแต่ล่ะคนก็ใช้ชีวิตเรียบง่าย หากใครว่างงานก็สามารถไปช่วยงานที่โรงเตี๊ยมได้เบี้ยหวัดเพิ่ม

“พี่ฮวาเจียว วันนี้ข้าจะไปโรงหมอของพี่รอง ให้คนเตรียมรถม้าให้ที” ไป๋เสวี่ยเดินเข้าห้องอาบน้ำที่สาวใช้คนสนิทเตรียมไว้รอ

“เจ้าค่ะ” ฮวาเจียว นำเสื้อผ้าชุดใหม่มาพาดเตรียมรอไว้ที่ราว มองแผ่นหลังคุณหนูเล็กเดินผ่านเข้าห้องอาบน้ำ ทุกย่างก้าวล้วนน่ามอง เวลาเยื้องกรายดุหงส์สยายปีก กริยางดงามจับตาราวสตรีสูงศักดิ์ ใบหน้าเล็กเพียงฝ่ามือ ผิวขาวเนียนราวหิมะ แก้มชมพูอิ่มเอิบรับกับริมฝีปากบางราวกลีบดอกไม้ ทุกครั้งที่นางออกไปช่วยงานที่โรงหมอของคุณชายรอง หรือไปที่โรงเตี๊ยมเพื่อนช่วยงานนายท่าน เหล่าคุณชายทั้งหลายจะมาแอบยืนมองไม่กันวางตา ก็ใครจะอดใจไหวกัน ขนาดนางเป็นหญิงเห็นกันมาตั้งแต่อยู่ในห่อผ้าอ้อม ยังอดตกตะลึงในความงามนี้ไม่ได้

เทียบหมั้นหมายมีมาไม่ขาดสายตั้งแต่วันเข้าพิธีปักปิ่น แต่นายท่านปฏิเสธไปหมด นายท่านทั้งรักทั้งหลงบุตรสาวคนเดียว ไม่ใช่แค่นายท่าย คุณชายทั้งสี่ก็หวงน้องสาวไม่ต่างกัน จึงไม่มีคุณชายบ้านใดได้เข้าใกล้ชิดหรือเข้ามาสานสัมพันธ์ได้โดยไม่ถูกขัดขวาง อีกทั้งคุณหนูของนางก็ไม่ได้สนใจใครเลย

‘ลูกสาวคนเดียวข้าเลี้ยงได้ ข้าจะให้นางแต่งกับคนที่นางรักเท่านั้น’ คือคำที่นายท่านประกาศ ตอนที่แม่สื่อมาค่อนแคะว่าอายุเริ่มมากหากเล่นตัวจะไม่มีชายใดมาสู่ขอ

Related chapters

  • เกิดใหม่ครานี้ ข้าจะถอยให้ทุกคน   บทที่ 3

    บทที่ 3เหมันต์ฤดู พัดผ่านอีกครา ดรุณีน้อยนั่งเท้าคางที่มุมหน้าต่างมองหิมะแรกยามเช้าตรู่จูไป๋เสวี่ยเข้าสู่วัย 17 หนาว ที่ผ่านมาฝันร้ายตามมาหลอกหลอนไม่เลิกรา,เลิกร้าง เป็นนางเองที่ยังจำฝังใจ ใครเลยจะลืมสายตาเย็นชาจากเลือดในอกตนเองได้ลง ตราบาปที่นางเคยฆ่าชิงพรากพลาญชีวิตผู้อื่น ทำให้นางจำอดีตชาติเลวร้ายที่ตนเองทำเอาไว้ทั้งหมด“คุณหนูเจ้าค่ะ ถูกหิมะจนผมชื้นหมดแล้ว เข้าไปอาบน้ำสระผมแช่น้ำให้ตัวอุ่นเถอะเจ้าค่ะ เดี๋ยวจะไม่สบาย”ไป๋เสวี่ยเอี้ยวตัวมาส่งยิ้มหวานให้สาวใช้ประจำตัว ฮวาเจียวเป็นดั่งคนรู้ใจ เหมือนพี่สาวที่ดูแลนางมาตั้งแต่จำความได้ จูไป๋เสวี่ยมีพี่ชายทั้งหมดสี่คน พี่ใหญ่ อายุ21 เป็นองครักษ์เกราะทอง พี่รองอายุ 20เปิดโรงหมอรักษาคนเจ็บไข้ได้ป่วยอยู่ไม่ไกลจวนสกุลจูเท่าไหร่ ส่วนพี่สามและพี่สี่ช่วยบิดาดูแลโรงเตี๊ยมและเหลาอาหาร อายุ18-19ตามลำดับ เกิดหัวปีท้ายปี เท่านี้ก็บ่งบอกแล้วว่าบิดาของนางรักมารดามากขนาดไหน หากไม่เพราะวันที่คลอดนาง จูฮูหยินตกเลือดจนเกือบเสียชีวิต นางคงมีน้องๆ วิ่งตามหลังอีกเป็นขบวนสกุลจู เป็นเพียงคนค้าขายเปิดโรงเตี๊ยมและเหลาอาหาร อยู่หัวเมืองติดกับแคว้นฉู่ แม้จะห่างไ

    Last Updated : 2025-01-18
  • เกิดใหม่ครานี้ ข้าจะถอยให้ทุกคน   บทที่ 4

    บทที่ 4จูไป๋เสวี่ยมาช่วยงานที่โรงหมอ สลับกลับไปช่วยงานที่โรงเตี๊ยม ชีวิตนางมีความสุขมากเหลือเกิน ไม่ต้องคิดแผนการ ไม่ต้องกลัวนางสนมคนไหนจะช่วงชิงความโปรดปรานของฮองเต้ไปจากนาง ไม่ต้องค่อยผลักดันตระกูลเจียวให้ยิ่งใหญ่ ไม่ต้องหาเงินทองมากมายมาเลี้ยงกองทัพให้ไท่จื่อระหว่างที่สาละวนเตรียมห่อยาตามเทียบที่ญาติคนป่วยส่งมาให้นางจัดยาให้อยู่นั้น“ได้ข่าวจากเมืองหลวง ฮองเต้จะคัดนางสนมเข้าวัง”“ที่มีอยู่มากมายยังไม่พออีกหรือ”“พระองค์เพิ่งจะอายุ 40 ปีเอง ปีแรกที่ครองราชย์ก็เกณฑ์คุณหนูตะกูลขุนนางเข้าเป็นสนม สงสัยคราวนี้จะเกณฑ์หญิงสาวตามหัวเมืองต่างๆ” พูดแล้วก็เมี่ยงมองมาทางคุณหนูจูที่กำลังห่อเทียบยาอยู่ หากถูกเกณฑ์เข้าวัง ดูแล้วคุณหนูจูคงมีรายชื่ออยู่ในนั้นเป็นแน่ได้ยินเสียงคุยตรงหน้าทำเอาจูไป๋เสวี่ยกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอ ฮองเต้องค์ปัจจุบันไม่ใช่ใครอื่น คือโอรสองค์เดียวของฮองเฮาเจียวเอินจวิ้น อดีตของนางในชาติภพเก่าฮองเต้หลงขึ้นครองราชย์ได้ 20 ปีแล้วหลังจากทำการกบฏ สังหารเชื้อพระวงศ์ในวังหลังทุกคนไม่เหลือแม้แต่ชีวิตเดียว องค์ชายที่อยู่ต่างเมืองหรือเชื้อพระวงศ์ที่ไม่ได้อยู่ในรั้ววังก็ถูกสังหารจน

    Last Updated : 2025-01-18
  • เกิดใหม่ครานี้ ข้าจะถอยให้ทุกคน   บทที่ 5

    บทที่ 5zuó yè xiaǒ lóu yóu dōng fēngเมื่อลมบูรพาผัดผ่านอีกครั้งsi shi nián jiā guó sān qiān li di shōu rú shui náng zhōngสี่สิบปีแห่งอาณาจักรบ้านเกิด ดินแดนสามพันลี่ ถูกผู้อื่นยึดครองแล้วnán gē zi li chàng yà shēng duàn le pi pá huà zhēngบทเพลงแห่งแดนใต้ ถูกขับร้องด้วยเสียงแหบแห้ง สายผีผาและกู่เจิงขาดสะบั้นxian shàng xiè hóng wú suô shi cóngสายนั้นอาบไปด้วยโลหิต จนไม่รู้ต้องทำอย่างไรyī yàng wu xiù huàn tàng gōngนักคีตร่ายรำเช่นเดียวกับในวังถังyân kàn tā rú wǒ jiāng shān zuò yōngมองดูเขาเช่นที่ข้าเคยมี นั่งบัลลังก์ปกครองแผ่นดินนี้wǒ què rù fēi péngบัดนี้ข้าเป็นเพียงหญ้าป่าที่ล่อลอยอยู่เสียงดีดกู่เจิงและขับร้องบทเพลงจากคุณหนูจูบุตรสาวของเจ้าของเหลา เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้เหลาอาหารขึ้นชื่อผู้คนมากมายต่างรู้จัก หากใครมายื่นเมืองหยิ่งตู่ แล้วไม่มาฟังคุณหนูจูไป๋เสวี่ยขับร้องย่อมมาไม่ถึง นางจะมาเพียงสัปดาห์ล่ะ 1 วันเท่านั้น ทำให้ยิ่งเป็นจุดขายให้เหลาอาหาร ผู้คนนักเดินทางต่างพากันจับจองล่วงหน้านับเดือนเพื่อจะมาฟังนางร้องซักครั้ง“คุณหนู คุณชายของข้าอยากเชิญท่านร่วมโต๊ะอาหาร”“

    Last Updated : 2025-01-18
  • เกิดใหม่ครานี้ ข้าจะถอยให้ทุกคน   บทที่ 6

    บทที่6แม่ทัพหลิวเสวียอี้ สั่งให้รองแม่ทัพแฝงตัวออกไปหาข่าวรอบๆ เหลาอาหาร ทุกครั้งที่คุณหนูจูไป๋เสวี่ยมาขับร้องเพลงที่เหลา มักจะมีขุนนางและพ่อค้าจากต่างเมืองมาฟังนางมากมาย ส่วนตัวเขาจะไปซุ่มดูว่าองค์ชายสามคุยอะไรกับคุณหนูจูบ้าง เผื่อเอาไปใช้ประโยชน์ได้“ให้ข้าไปซุ่มดูองค์ชายสามเถิด” ไป๋ชู่แกล้งขัด เฮอะให้ข้าไปลอบฟังคนอื่น ส่วนท่านไปลอบฟังองค์ชาย ไม่ได้คิดการอื่นแน่หรอ ไม่ใช่ไปแอบดูหน้าแม่นางจูซะมากกว่า“ตกลงข้าเหรอเจ้าที่เป็นแม่ทัพ”“แน่นอนว่าท่าน” รองแม่ทัพไป๋ชู่รีบลุกจากโต๊ะตัวปลิวออกจากห้องรับรองทันที ก่อนทีอย่างอื่นจะปลิวลงหัวเขาแทนหลิวเสวียอวี้ใช้วรยุทธเร้นกายไปหลบซ่อนข้างๆ น้ำตก ทุกครั้งที่มองใบหน้ากระจ่างใสของแม่นางจู หัวใจของเขาเต้นกระหน่ำอย่างรุนแรงจนเจ็บต้องยกมือมากดแนบหน้าอกเพื่อบรรเทาความเจ็บปวด นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาพบนาง และที่มายืนตรงนี้เพราะเขากลัวนางจะถูกองค์ชายสามล่วงเกินแม้จะอยู่ในที่โล่งแจ้ง มีบ่าวรับใช้ยืนข้างๆ อีก3คน แต่ชื่อเสียขององค์ชายสามก็มีไม่น้อย หากเกิดอะไรขึ้นเขาจะได้เข้าไปช่วยนางทัน แม้นางจะเป็นวรยุทธเขาก็ไม่ไว้ใจ“แม่นางจู ข้ายังไม่ได้แนะนำตัวอย่างเป็

    Last Updated : 2025-01-18
  • เกิดใหม่ครานี้ ข้าจะถอยให้ทุกคน   บทที่7

    บทที่7“ข้าไม่ล้มเลิกความตั้งใจง่ายๆ" องค์ชายสะบัดชายเสื้อคลุมแล้วขึ้นรถม้าไป เขาไม่ยอมแพ้ง่ายๆ หรอกจูไป๋เสวี่ยเดินออกมาส่งองค์ชายสามที่หน้าเหลาอาหารหลังจากครบเวลา 1ชั่วยาม ได้เงิน 200 ตำลึง วันนี้ถือว่าไม่เมื่อยแก้มฟรี ยิ้มทั้งวันก็เหนื่อยเหมือนกัน“หยุดมาช่วยงานที่เหลาซักระยะดีไหมน้องห้า” คุณหนูชายสี่แห่งสกุลจู จูหรงจี เดินตามออกมาสมทบที่หน้าเหลา โต๊ะที่น้องห้ากับองค์ชายนั่ง เขาจัดทำเป็นพิเศษ ไม่รับจองหรือเปิดให้ใครนั่ง เอาไว้ให้น้องสาวรับรองแขกเท่านั้น ไม่ให้รับรองที่ห้องส่วนตัวเพราะเกรงจะเกิดอันตรายกับน้อง จะต้องมองเห็นและอยู่ในสายตาของพวกเขาทั้งสองคน“หากทำแบบนั้น คนที่จองโต๊ะเอาไว้ในวันที่ข้ามาขับร้อง ย่อมต้องไม่พอใจ พี่สี่ไม่ต้องกังวลข้าพอมีทางออกสำหรับเรื่องนี้ รับรองว่าจะไม่ให้กระทบกับกิจการของท่านพ่อ”จูไป๋เสวี่ยเดินเข้าไปคล้องแขนพี่ชายกึ่งจูงกึ่งลากให้เข้าไปด้านใน ยังมีงานอีกมากมายที่ต้องสะสาง เชื่อว่าตลอด 1ชั่วยามที่นางนั่งดีดกู่เจิงให้องค์ชายฟัง พี่ชายทั้งสองคงไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากนั่งมองนางผ่านทางหน้าต่างชั้นสามของเหลา พวกเขาเป็นห่วงนางเพียงไรนางย่อมรู้ดีจูหลงฉี่เดินตา

    Last Updated : 2025-01-22
  • เกิดใหม่ครานี้ ข้าจะถอยให้ทุกคน   บทที่8

    บทที่8หลิวเสวียอวี้ ลูบไล้ผ้าเช็ดหน้าสีน้ำเงิน มุมผ้ามีลายปักรูปดอกโบตั๋นสีขาวขุ่น เดิมมันเคยขาวสะอาดมาก่อน แต่เป็นเพราะเขาเองที่พกติดตัวเสมอ ไม่ว่าจะออกศึกที่ใดเขาจะนำมันมาผูกไว้ที่ข้อมือ รู้สึกเหมือนได้รับกำลังใจจากนางเสมอ7 ปีที่แล้วหน้าเหลาอาหารของสกุลจู มีขอทานขาพิการ นั่งอยู่หน้าเหลา เนื้อตัวสกปรกกลิ่นเน่าเหม็นโซยมาจากขาข้างที่พิการคละคลุ้ง ทำให้ผู้คนที่เดินทางมากินอาหารมองด้วยสายตารังเกียจ บางคนใช้เท้าเขี่ยให้พ้นทางบางคนถ่มน้ำลายใส่ บางคนด่าทอ จนเสี่ยวเอ้อทนไม่ไหวเดินออกมาเอาน้ำสาดไล่จนเปียกปอนไปทั้งตัวหลิวเสวียอวี้สะดุ้งสุดตัว ทนความเปียกและเหม็นจากน้ำเช็ดพื้นไม่ไหว จึงค่อยๆ คลานไปยังตรอกข้างๆ เหลา เขาไม่ได้ขาพิการ แต่พลาดท่าให้ศัตรูจนบาดเจ็บรุนแรงที่ขา ขยับขาข้างนั้นไม่ได้ เขาเพิ่งเข้ามารับราชเป็นทหาร ตระกูลเขาเป็นนักรบมาทุกสมัย เขาได้ความไว้ใจจากบิดาที่เป็นแม่ทัพ รับคำสั่งให้มาสืบข่าวที่แคว้นเว่ย เขาและกองกำลังลับบุกแฝงตัวเข้าไปถึงในเมืองหลวง ไม่คิดว่า บิดาของเขาที่คิดว่าฮองเต้หลงน่าจะเสียสติถึงได้ก่อนกบฏสังหารทุกชีวิตในวัง หลังจากสถานการณ์ในแคว้นเว่ยสงบเขาและกองกำลังจึง

    Last Updated : 2025-01-23
  • เกิดใหม่ครานี้ ข้าจะถอยให้ทุกคน   บทที่9

    บทที่9“รูปเหมือนของนาง พ่ะย่ะค่ะ”จางกงกงนำม้วนห่อผ้าวางลงหน้าพระพักตร์ฮองเต้หลงยกยิ้ม ในที่สุดของที่เขารอก็มาถึงเสียที เขาให้นักวาดภาพเหมือนในวังเดินทางไปถึงหยิ่งตู่เพื่อวาดภาพนางกลับมา พระองค์เดินไปยังมุมห้องทรงอักษร คลี่ม้วนภาพวาดกางออกแล้วแขวนไว้ข้างๆ ภาพเหมือนของฮองเฮาเจียวเอินจวิ้น พระมารดาที่ล่วงลับไปแล้วกริ๊ก! เสียงกระบี่ตกกระทบพื้นพระองค์หันไปมองตามเสียงเพียงเล็กน้อย พอเห็นว่าเป็นใครทำเสียงรบกวนก็ยกยิ้ม แล้วโบกพระหัตถ์ให้องค์รักษ์ทั้งหมดออกไป เหลือไว้เพียงจางกงกงเท่านั้น“เสด็จแม่ นางงดงามมากใช่ไหมพ่ะย่ะค่ะ”ปีก่อนเขาลอบออกจากวังเพราะมีข่าวเรื่องกองกำลังจากแคว้นฉู่จึงเดินทางไปด้วยตนเองแบบลับๆ มีเพียงองค์รักษ์ติดตามไป2คนเท่านั้น และที่นั่นเขาได้พบกับนาง สาวงามที่ทำให้หัวใจเขาเต้น แม้จะเคยพบพาหญิงสาวงดงามมากมายแต่สำหรับเขานั้นความงามของสตรีไม่ต่างอะไรจากดอกไม้ให้เด็ดดม ต่อให้กลิ่นหอมเย้ายวนใจมากแค่ไหนไม่ช้าก็เบื่อแล้วก็ทิ้งให้เหี่ยวเฉาร่วงโรยบนแจกัน แต่นางเป็นหญิงงามคนแรกที่ทำให้เขาใจเต้นได้ อาจเพราะใบหน้านั้นคล้ายเสด็จแม่ถึงเก้าส่วน กริยาการวาดนิ้วดีดกู่เจิงไม่ผิดเพี้ยน ทว

    Last Updated : 2025-01-23
  • เกิดใหม่ครานี้ ข้าจะถอยให้ทุกคน   บทที่10

    บทที่10ยามโฉ่ว (01.00 – 02.59 น.) จูล่งออกกะเวรยาม เดินกลับที่พัก ระหว่างยืนอารักษ์ขาเขาไม่มีแม้สมาธิจดจ่อกับสิ่งรอบกายใดๆ ทั้งสิ้น ในหัวคิดหาแผนการเพื่อวางแผนให้น้องสาวหลุดจากเงื้อมมือฮองเต้ ไม่ว่าทางใดก็มองไม่เห็นจริงๆ เขาอยู่ใกล้ชิดฮองเต้ขนาดนี้ยังไม่รู้ว่าพระองค์สนพระทัยที่ตัวน้องห้าได้อย่างไร จึงตัดสินใจไม่นอนพักเร่งเขียนจดหมายให้ม้าเร็วไปส่งให้ถึงมือสหายให้ช่วยเหลือเป็นการด่วนในเวลานั้นที่หยิ่งตู่ก็มีเหตุการณ์คล้ายๆ กันเกิดขึ้น หลิวเสวียอวี้เรียกสายลับที่แฝงตัวในเมืองหยิ่งตู่ออกมาพบ“ทำไมเจ้าไม่รายงานข้าว่านางหมั้นหมายแล้ว” จอกเหล้าปลิวลอยมากระทบหน้าต่างทันทีที่มีสายเงาร่างหนึ่งปรากฎเฉิงตงเกือบหลบไม่พ้นไม่คาดคิดว่าจะถูกโจมตีในระยะประชิด โชคดีที่เขาเปิดประสาทการรับรู้ตลอดเวลา ไม่งั้นได้มีหัวแตก ปาจอกมาด้วยพลังยุทธขนาดนั้น โดนจังๆ หนังหนาแค่ไหนก็ไม่รอด“หากข้าบาดเจ็บใครจะหาข่าวให้เจ้า” เฉิงตงทรุดกายลงนั่งเก้าอี้ตรงกันข้ามกับสหายอย่างแรงกึ่งประชดประชัน เขาแฝงตัวเป็นพ่อค้าอยู่ในเมืองหยิ่งตู่มา 5ปี นำสินค้าจากหยิ่งตู่เข้าไปขายในเมืองหลวง คอยนำข่าวจากเมืองหลวงออกมาด้านนอก และมีภารก

    Last Updated : 2025-01-23

Latest chapter

  • เกิดใหม่ครานี้ ข้าจะถอยให้ทุกคน   ตอนพิเศษ2

    ตอนพิเศษ2“โอ๊ยๆ เบาฮูหยิน เบาๆ เดี๋ยวเนื้อข้าหลุด” แม่ทัพที่คุมทหารนับแสน ถูกภรรยาหยิบเข้าที่สีข้างก็ร้องโอดโอย ราวกับถูกกระบี่ฟันเขาแค่ล้อเล่นไหม ใครจะยกลูกให้คนอื่นยืมได้อย่างไรเล่า ตั้งใจปั้นมาขนาดนี้“เจ้าจะเดินทางไปรับเสด็จจูล่งฮองเต้ที่เมืองหน้าด่านที่ลี่เจียงหรือเปล่า” หลังจากฟัดพุงกลมๆ แก้มนิ่มๆ จนพอใจ ก็ส่ง ทารกน้อยหลิวไป๋อิงคืนให้บิดาของนางหลิวเสวี่ยอวี้รับบุตรสาวมานั่งลงบนตักแกร่ง“ไม่ล่ะ ข้าไม่อยากให้เสวี่ยเอ๋อร์อยู่กับเด็กๆ ตามลำพัง อีกอย่างนางตั้งครรภ์อยู่ เกิดเจ้าสามแสบชนหกล้มไปจะทำอย่างไร ข้าไม่ไว้ใจคนอื่นให้ดูแลแทน”เฉิงตงกลอกตามองบน เหตุผลมันก็พอฟังขึ้นอยู่ แต่ไม่ใช่เพราะความรักฮูหยิน ที่มากจนเกินไปหรืออย่างไร ทำให้เสี่ยวไป๋ท้องไม่เคยว่าง ตั้งแต่เดินทางมาอยู่แคว้นฉู่ จนย่างเข้าปีที่ 5 แล้วไม่เคยได้กลับไปเยี่ยมครอบครัวที่แคว้นเว่ยเลย จนทำให้จูล่งฮองเต้ถึงกับต้องเสด็จมาเยี่ยมพระขนิษฐาด้วยพระองค์เองถึงแคว้นฉู่“ข้าอยู่ได้ สามแสบก็ใช่ไม่รู้ความ ข้าปรามอะไรก็ฟังตลอด มีเพียงตอนอยู่กับท่านพี่เท่านั้น ที่พูดอะไรก็ทำเป็นหูทวนลม” ตลอด 5 ปีที่อยู่แคว้นฉู่ นางไม่เคยได้กลับบ้า

  • เกิดใหม่ครานี้ ข้าจะถอยให้ทุกคน   ตอนพิเศษ1

    ตอนพิเศษ1เสียงเจี๊ยวจ๊าวดังลั่นไปทั้งสวนดอกไม้ สี่พ่อลูกกำลังวิ่งปลุกปล้ำกันมันมาอย่างสนุกสนาน“ท่านพี่ ถ้าต้นดอกไม้ข้าหัก ข้าจะให้ท่านไปนอนที่เรือนรับรอง” ฮูหยินเล็ก จูไป๋เสวี่ย ตะโกนปรามแม่ทัพและเด็กชายแฝดทั้งสาม ตอนนี้เด็กแฝดทั้งสามอายุได้ 4 หนาวแล้ว ชอบเล็กกันรุนแรงจนบ่าวไพร่ พี่เลี้ยงสู้แรงไม่ไหว นอกจากบิดาเท่านั้นที่รับมือนั้นได้ วันหยุดจึงมักจะมาเล่นกันที่สวนปลดปล่อยพลังกันอย่างอย่างบ้าคลั่งหลิวเสวี่ยอวี้ผินหน้ามามองภรรยาด้วยความรู้สึกผิด แต่จะให้เขาทำยังไง เด็กทั้งสามคนซนเหลือเกิน วิ่งจับคนนั้นคนนี้วิ่งหนี วิ่งจับคนนี้คนนั้นวิ่งหนี พอจับสองคนอีกคนก็กระโดดขี่คอ แฝดสามยังเด็กนักบางครั้งจึงไม่รู้น้ำหนักมือของตนเอง พลั้งมือลงแรงมากเกินไปทำเอาบ่าวไพร่เจ็บตัว จนไม่มีใครกล้าเล่นด้วย มีเพียงเขาคนเดียวที่รับมือไหว“สมน้ำหน้า อยากมีสิบคนใช่ไหม ข้าจะคลอดให้ท่านเลี้ยงให้ครบเลย” จูไป๋เสวี่ยขำเครือ เมื่อเห็น สามีถูกเด็กแสบทั้งสามคนตะลุมบอน“ข้าว่าอีกไม่นานหรอกสวนดอกไม้ของเจ้าต้องเหลือแต่ชื่อ” เฉิงตง สอดมือใต้รักแร้ทารกน้อยวัย 1 ขวบเศษ หลิวไป๋อิง นางช่างน่ารักน่าชังเหลือเกิน จนเฉิงตงอดไม่ไ

  • เกิดใหม่ครานี้ ข้าจะถอยให้ทุกคน   บทที่37

    บทที่37ขุนนางทั้งหลายจากเดิมไม่คิดที่จะให้บุตรสาวแต่งกับแม่ทัพหลิวเพราะคิดว่าภายใต้หน้ากากเหล็กนั้นคือบุรุษอัปลักษณ์ อีกทั้งองค์หญิงฉู่เฉียวหมายปองอยู่คิดกันแค่เพียงว่าองค์หญิงอยากแต่งเพราะเป็นสหายมาตั้งแต่เยาว์วัยและอำนาจทหารที่สกุลหลิวถืออยู่ จึงไม่มีขุนนางคนไหนมาทาบทามไปเป็นเขย แต่หลังจากงานเลี้ยง พอได้เห็นใบหน้าและความมั่นคงของสกุลหลิวแล้ว ก็อยากให้บุตรสาวแต่งเข้าจวนแม่ทัพ ส่งเทียบเชิญไปงานเลี้ยงมาไม่ได้หยุดหย่อน หรือไม่ก็สั่งให้บุตรสาวไปเดินผ่านให้แม่ทัพเห็นสักครั้ง หากแม่ทัพถูกตาต้องใจก็จะได้แต่งเข้าจวน ยิ่งข่าวลือที่ว่าแม่ทัพรักมั่นต่อองค์หญิงเท่าไร สาวงามในเมืองหลวงยิ่งเพ้อฝันอยากแต่งเข้าจวนแม่ทัพ เพราะอยากได้สามีที่รักมั่นกับตนเองแบบนั้นบ้าง แต่ก็ถูกแม่ทัพพูดจาหักหน้าตรงๆ จนเสียหน้าไปหลายราย“ท่านพี่ไม่คิดที่จะไปตามเทียบเชิญบ้างเลยเหรอ ข้าเห็นวันก่อนเสนาบดีฝ่ายขวาก็ส่งเทียบเชิญให้ท่านไปงานเลี้ยงวันเกิด”“ไม่ล่ะ ข้าขี้เกียจปั้นหน้า เดิมแต่ก่อนตัวข้าก็แทบไม่เคยอยู่เมืองหลวงนาน ไม่ตรวจตราตามหัวเมืองชายแดน ก็ไปแอบดูเจ้าที่เมืองหยิ่งตู่” ริมฝีปากหนาก้มลงจุมพิตหน้าท้องขาวนวลที่ขึ้

  • เกิดใหม่ครานี้ ข้าจะถอยให้ทุกคน   บทที่36

    บทที่36ขบวนราชบุตรเขยและองค์หญิงแห่งแคว้นเว่ยเดินทางมาถึงเมืองหลวงของแคว้นฉู่ในที่สุด ชาวเมืองออกมายืนขนาบสองข้างถนนจนแน่นขนัด ถนนสองข้างทางประดับประดาไปด้วยกระดาษสีแดงและสีทองขบวนรถขับเคลื่อนไปถึงประตูวังหลวง ฮองเต้แคว้นฉู่ และเหล่าขุนนางเตรียมงานเลี้ยงรอไว้ต้อนรับอย่างดีเป็นครั้งแรกที่ทุกคนได้เห็นใบหน้าของแม่ทัพหลิวเสวี่ยอวี้ชัดๆ เพราะที่ผ่านมาเห็นแค่ครึ่งหน้าเท่านั้น แต่พอล่ะสายตามายังสตรีที่เดินเคียงข้างมาแม้กระทั่งฮองเต้ยังตกตลึงไม่คิดว่าองค์หญิงจูไป๋เสวี่ยจะงดงามได้ถึงเพียงนี้ด้านองค์หญิงฉู่เฉียวที่แต่งตัวงดงามกว่าวันไหนๆ รีบมายืนประจำตำแหน่งของตนเอง ลอบเยาะยิ้มสตรีผู้นั้นบังอาจลงมือทำร้ายพระองค์แถมข่มขู่ไม่ให้บอกใคร แล้วเป็นอย่างไรสุดท้ายก็ถูกแม่ทัพหลิวทิ้งไปแต่งงานกับองค์หญิงต่างแคว้น อยากจะเห็นใบหน้าองค์หญิงจูไป๋เสวี่ยนัก ว่าจะต่อกรกับสตรีหยาบช้าอย่างฮูหยินเอกของหลิวเสวี่ยอวี้ได้หรือไม่“ถวายบังคมฝ่าบาท” แม่ทัพหลิวพาองค์หญิงแห่งแคว้นเว่ยเข้าเฝ้าหน้าพระพักตร์เมื่อได้ยินเสียงองค์หญิงฉูเฉียวรีบเงยหน้าขึ้นมอง ขนกายลุกชู่ไปทั้งร่าง รอยยิ้มบนใบหน้าค่อยๆ เลื่อนหายไป สีหน้าคล้า

  • เกิดใหม่ครานี้ ข้าจะถอยให้ทุกคน   บทที่35

    บทที่35“น้องเขยมาๆ ดื่มอีกจอก” คุณชายสี่ จูหรงจียกกาสุรามารินเติมให้น้องเขยไม่ให้ขาดตอน จูหรงจีคือคนที่หวงน้องห้ามากที่สุด เดิมทีคิดว่างานจบจะคุยกับพี่ใหญ่ให้ถอนหมั้นกับยกเลิกงานแต่งซะ แต่เพราะความรักและเสียสละของแม่ทัพหลิวทำให้เขายอมปล่อยมือให้น้องแต่งงานในครั้งนี้ คงไม่มีใครดูแลน้องห้าได้ดีเท่าหลิวเสวี่ยอวี้อีกแล้ว“ดื่มๆ” เฉิงตงช่วยดันจอกสุราเข้าปากราชบุตรเขยอีกแรงราชบุตรเขยเดินโซซัดโซเซ เขาโดนมอมสุรา คงกะให้เข้าหอคืนนี้ไม่ไหว พี่ชายทั้งสี่ของฮูหยินเล่นงานเขาแล้ว สหายสุดที่รักก็ร่วมมือด้วย ทั้งๆ ที่เฉิงตงเป็นคนที่รู้ดีที่สุดว่าเขาคาดหวังกับคืนนี้มากแค่ไหน มันน่าตัดเพื่อนทิ้งจริงๆ ได้แต่คิดในใจ ยกจอกเหล้าขึ้นดื่มอย่างเสียไม่ได้ ทั้งพี่ชายจูไป๋เสวี่ยและสหายคงไม่ปล่อยให้เข้าหอง่ายๆ แน่คืนนี้“ถึงฤกษ์เข้าหอแล้ว พอเถอะท่านแม่ทัพยืนแทบจะไม่ไหวแล้ว” รองแม่ทัพไป๋ชูได้รับสัญญาณมือจากแม่ทัพหลิวก็รีบเข้ามาประคอง เดินประคองร่างคนเมาแทบจะหิ้วปีกไปส่งถึงประตูห้องหอที่เจ้าสาวรออยู่เมื่อประตูห้องหอปิดลง คนที่ต้องให้รองแม่ทัพหิ้วปีกมาเมื่อสักครู่ ก็เดินตัวตรงอย่างมั่นคงไปยังเตียงที่เจ้าสาวนั่งรอ

  • เกิดใหม่ครานี้ ข้าจะถอยให้ทุกคน   บทที่34

    บทที่34หลิวเสวี่ยอวี้อาการดีวันดีคืนด้วยการดูแลอย่างใกล้ชิดของฮูหยิน จูไป๋เสวี่ยตัดสินใจรับตำแหน่งจากพี่ชาย ในฐานะพระขนิษฐาของฮองเต้อีกทั้งยังเป็นฮูหยินของแม่ทัพแห่งแคว้นฉู่ จะช่วยเสริมสร้างฐานอำนาจจูล่งฮองเต้ได้อย่างมาก ใครจะกล้านางได้รู้ความจริงอันเจ็บปวดอีกอย่างจากเจียวเจี้ย ตอนที่เจียวก้านยังมีชีวิตอยู่เคยคิดพลักดันน้องสาวต่างมารดาของฮองเฮาเจียวเอินจวิ้นเข้าวัง ฮองเต้หลงในตอนนั้นยังดำรงตำแหน่งเป็น ไท่จื่อ รู้เรื่องนี้เป็นอย่างดีเพราะเจียวก้านมาขอให้ช่วยไปพูดกับฮองเฮาให้ นั้นคงเป็นสาเหตุที่ทำให้ไทจื่อไม่อาจรอได้อีกต่อไป เพราะหากมีองค์ชายจากตระกูลฮองเฮาเพิ่มขึ้น ตำแหน่งของตนย่อมสั่นคลอนวันนี้เป็นวันที่หลิวเสวี่ยอวี้รอคอย พออาการเริ่มดีขึ้นเขาก็เขียนจดหมายให้บิดามารดาเดินทางมายังวังหลวงแคว้นเว่ย เพราะต้องการจัดพิธีแต่งงานกับพระขนิษฐาของจูล่งฮองเต้ ไม่อยากรอหายแล้วกลับไปแต่งที่แคว้นฉู่แล้ว อยากเข้าหอกับนางสักทีราชบุตรเขยในชุดสีแดง ยืนชะเง้อคอยาวรอเกี้ยวเจ้าสาวที่ตำหนักรับรอง งานแต่งงานครั้งนี้จัดขึ้นในวังหลวง บิดามารดาของเขาขนสินสอดทองหมั้นมาจากแคว้นฉู่ถึง 100 เกวียน บอกแล้วงานแต่

  • เกิดใหม่ครานี้ ข้าจะถอยให้ทุกคน   บทที่33

    บทที่33ร่างบางเฝ้าคนที่นอนสลบไสลอยู่บนเตียงไม่ห่าง ค่อยป้อนยา เช็ดเนื้อเช็ดตัวให้ตลอด ผ่านมาเกือบอาทิตย์แล้ว บาดแผลเริ่มดีขึ้นมากแล้ว แต่แม่ทัพหลิวก็ยังไม่ฟื้น พี่ใหญ่หรือจูล่งฮองเต้ส่งราชทูตและสารกระชับไมตรีไปยังแคว้นฉู่ คนที่ถือสารไปไม่ใช่คนอื่นไกล เฉิงตงนั้นเอง เฉิงตงเดินทางกลับแคว้นพร้อมขบวนทหารที่รอดชีวิต จูล่งฮองเต้ตกรางวัลให้ทุกคนแม้กระทั่งครอบครัวของผู้เสียชีวิตก็ได้รับรางวัล อีกทั้งยังฝากจดหมายแจ้งข่าวการบาดเจ็บของแม่ทัพไปยังสกุลหลิวด้วย รับปากจะดูแลรักษาหลิวเสวี่ยอวี้อย่างดีที่สุด“ข้ากับท่านยังได้เข้าหอกันเลย ตอนนี้ทุกคนรู้กันหมดแล้วว่าข้าคือองค์หญิง หากท่านไม่ฟื้น ข้าจะแต่งงานใหม่คอยดู” น้ำเสียงสั่นเครือต่อว่าคนที่หลับไหลไม่จริงจังนัก มือยังกุมมือหนาเอาไว้ตลอด แม้ยามหลับนางก็นอนเตียงเดียวกัน ยามตื่นก็ดูแลไม่ห่างราวกับปาฏิหาริย์แรงบีบโต้ตอบเบาๆ ของคนที่นอนอยู่ ทำเอาร่างบางสะดุ้งจนตาโตจูไป๋เสวี่ยผละออก วิ่งออกจากห้องบรรทมของฮองเต้ไปตามคุณชายรองมาดูอาการทันที“เจ้าแน่ใจน่ะว่าแม่ทัพหลิวฟื้นแล้ว” จูเหวินจาง รีบวิ่งมาจนชายเสื้อปลิว แต่คนที่อยู่บนเตียงก็ยังนอนไม่ไหวติ่ง“ข้าแน

  • เกิดใหม่ครานี้ ข้าจะถอยให้ทุกคน   บทที่32

    บทที่32จูล่งสถาปนาตนเองขึ้นเป็นจูล่งฮองเต้ โดยใช้ยังคงใช้พระนามเดิมที่บิดามารดาตั้งให้ ขึ้นนั่งบัลลังก์มังกรโดยที่ขุนนางไม่มีใครคิดที่จะจะขัดขวาง วังหลังก็ถูกกวาดล้าง จูล่งฮองเต้สั่งให้ถอดถอนสนมทุกนางให้กลับบ้านเก่าพร้อมจ่ายเบี้ยรายปีให้เป็นครั้งสุดท้าย ส่วนองค์หญิงองค์ชายทุกคนถูกถอดถอนบรรดาศักดิ์พร้อมเบี้ยรายปีครั้งสุดท้ายเช่นเดียวกัน ทุกคนโชคดีที่จำนวนเหล่าองค์หญิงองค์ชายมีจำนวนไม่มาก เพราะฮองเต้หลงมีรับสั่งให้สนมตั้งแต่ขั้นผินลงไปดื่มยาห้ามครรภ์ทุกครั้งที่ทำการรับใช้พระองค์ ทรงไม่โปรดให้สนมชั้นต่ำตั้งครรภ์มังกรจูไป๋เสวี่ยขี่ม้าตามหลังคุณชายสี่และรองแม่ทัพไป๋ชู่จากเมืองลี่เจียงกลับเมืองหลวงแคว้นเว่ยทันทีหลังจากพี่สี่รีบควบม้ากลับมาส่งข่าวด่วน การยึดบัลลังก์คืนจากฮองเต้หลงสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี พี่ๆ ทั้งสี่คนได้แผลกันคนละเล็กละน้อยเท่านั้น แต่แม่ทัพหลิวเสวี่ยอวี้ บาดเจ็บสาหัสเป็นตายเท่ากัน หลังจากที่คุณชายรองดึงกระบี่ออกจากอก จนวันนี้ก็ยังไม่ฟื้นขึ้นมาจูกูกัดกิ่นและจูฮูหยินตัดสินใจขอเดินทางแยกกับบุตรชายและบุตรสาวเพราะทั้งสองเดินทางด้วยรถม้าต้องใช้เวลา จูไปเสวี่ยขี่ม้าไปคงเดินทางถึงไ

  • เกิดใหม่ครานี้ ข้าจะถอยให้ทุกคน   บทที่31

    บทที่31แม้จะต้องสังหารคนที่เคยยืนเคียงบ่าเคียงไหล่มาก่อน จูล่งก็ไม่ลังเล เขารู้ฝีมือองครักษ์ของฮองเต้ทุกคนเป็นอย่างดี แต่องครักษ์ทุกคนก็รู้ฝีมือเขาเช่นกันเมื่อถูกลุมล้อม จูล่งจึงพลาดพรั้ง ถูกปลายกระบี่จองฮองเต้แทงเข้าที่หัวไหล่ขวา ฮองเต้หลงหมายจะซ้ำอีกดาบสังหารกบฏแท่ทัพหลิวเห็นจูล่งพลาดพลั้ง จึงกระโดดเอาตัวเข้าบังจูล่งเอาไว้ แทงกระบี่สวนออกไปยังทิศทางที่ฮองเต้แทงหมายจะสังหารจูล่งกระบี่ทั้งสองเล่นจึงปักที่อกข้างซ้ายของทั้งสองฝ่ายพอดี ทั้งคู่ตึงทรุดลงไปนั่งกับพื้น“อย่าอาฆาตแค้นกันเลย คิดซะว่ามันคือเวรกรรมที่พระองค์สังหารคนที่เลี้ยงดูพระองค์” จูล่งตวัดปลายกระบี่ตัดศีรษะของฮองเต้หลงหลุดจากบ่าในกระบี่เดียวรีบไปประคองแม่ทัพหลิวเพื่อดูอาการและให้คนไปตามน้องรองมาดูอาการแม่ทัพทันทีส่วนองครักษ์ที่ยังเหลือรอดชีวิตอยู่ เมื่อเห็นฮองเต้สิ้นพระชนม์จึงวางดาบยอมจำนวน ไม่มีประโยชน์ที่จะสู้ต่อไปอีกแล้วคุณชายรองจูเหวินจางรีบฝ่าเข้ามาดูอาการแม่ทัพหลิวในทันที“แม่ทัพเอาตัวบังให้ข้า ไม่งั้นคนที่นอนอยู่ตรงนั้นอาจเป็นข้าเอง” จูล่งกล่าวบอกน้องชายเสียงเบา เขาเป็นหนี้ชีวิตแม่ทัพหลิวแล้ว หากไม่ได้แม่ทัพ คง

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status