บทที่ 10 ข้าจะปลูกผักเจ้าค่ะ
หลังจากกินอาการอิ่มท่านอาก็พาเสี่ยวลี่เหมยมายังห้องนอนที่ถูกจัดเตรียมไว้ให้ได้ให้นางพักผ่อน เมื่อหัวถึงหมอนตัวนอนบนเตียงนอนนุ่มไม่นานเสี่ยวลี่เหมยก็ได้หลับลง
รุ่งเช้ามาเยือนเสียงนกน้อยร้องตอบโต้กันไปมาเจี๊ยวจ้าว เสียงกระดิ่งดังราวกับสำนวนเพียงไพเราะ เสี่ยวลี่เหมยตื่นเช้าเพราะแปลกที่มายืนมองดูดวงอาทิตย์ขึ้นอย่างงดงาม เช้า ๆ ที่นี่อากาศเย็นสบายแม้ว่านางจะตื่นเช้าแต่ชาวบ้านที่นี่ก็ตื่นเช้ากันมาก ๆ
"คุณหนูตื่นตั้งแต่เมื่อไหร่เจ้าคะ นี่ยังไม่สว่างเลย" ไป๋เซ่อที่นอนอยู่ข้าง ๆ ตื่นมาเพื่อดูแลก็ต้องตกใจที่เห็นลู่เพ่ยยืนอยู่หน้าระเบียงเสียแล้ว
"ข้านอนไม่หลับนะ แล้วลี่อินเล่าไม่มาพร้อมกับเจ้าหรือ" นางมองไปด้านหลังไม่พบลี่อินจึงได้เอ่ยถามด้วยความสงสัย
"ลี่อินไปที่ห้องครัวเจ้าค่ะ " เสี่ยวลี่เหมยพยักหน้ารับรู้
"เช่นนั้นเจ้าก็ตามข้ามาเถิด ข้าจะไปหาท่านอา "
"เจ้าค่ะ" เสี่ยวลี่เหมยเดินเล่นดูรอบ ๆ เรือน ก่อนจะมาพบท่านอาที่กำลังสั่งให้บ่าวไปทำหน้าที่ของตน เสี่ยวลี่เหมยไม่รอช้ารีบย้ำเท้าตรงเข้าไปหา
"ท่านอาทำอันใดอยู่หรือเจ้าคะ" ซีเหนี่ยวได้ยินเสียงหลานสาวหันขวับมามองอย่างรวดเร็ว
"ลู่เพ่ยเจ้ารีบตื่นมาทำไมกัน ตอนนี้น้ำค้างยังไม่แห้งเจ้ารีบเข้าไปอยู่ในเรือนก่อนเถิด เดี๋ยวจะไม่สบายเอาได้ " นางยกมือทั้งสองขึ้นเหนือหัวของเสี่ยวลี่เหมยอย่างเป็นกังวลว่าน้ำค้างจะหล่นลงมาใส่หัวของหลานสาว
"ท่านอาไม่ต้องห่วงเจ้าค่ะ ข้าแข็งแรงกว่าเมื่อก่อนว่าแต่เมื่อครู่ท่านอาสั่งให้บ่าวไปทำอันใดหรือเจ้าคะ" เสี่ยวลี่เหมยยิ้มกริ่มดีใจที่นางถูกรักและเป็นห่วงเช่นนี้ ก่อนจะประคองมือของท่านอาให้ลงมาเช่นเดิมพร้อมถามเรื่องที่ท่านอาทำเมื่อครู่
"ก็ไปดูแปลงผักนะสิ ท่านพ่อของเจ้าไม่ได้บอกเจ้าหรือว่าที่เรือนของอาปลูกพืชผักไว้ขายนะ "เสี่ยวลี่เหมยดวงตาเป็นประกายเมื่อได้ยินเพราะนี่คือหนทางนี่นางจะร่ำรวย
"รู้เจ้าค่ะ ว่าแต่ท่านอาปลูกอันใดบ้างหรือเจ้้าคะแล้วยังพอมีที่วางเหลือบ้างหรือไม่? " นางถามอย่างกระตือรือร้น
"ข้าปลูกผักกวางตุ้ง ผักบุ้งมะเขือ ส่วนที่วางเหลือมากมาย ว่าแต่ลู่เพ่ยเจ้าจะถามไปทำไม" ซีเหนี่ยวคิ้วขมวดด้วยความสงสัยแค่ปลูกพืชผักมีเรื่องอันใดนางตื่นเต้นกัน
"ก็เพราะว่าข้าจะมาปลูกผักอยู่กับท่านอาจนแก่เฒ่าอย่างไรเจ้าค่ะ"
"ห่ะ! นี่เจ้าล้อเล่นใช่หรือไม่ "ท่านอาร้องเสียงหลงเมื่อรู้ว่าเสี่ยวลี่เหมยถามเพื่อการใด
"ไม่เจ้าค่ะ ที่ข้าเอ่ยออกมาเรื่องจริงทั้งหมดข้าไม่อยากแต่งงานออกเรือนจึงยื่นข้อเสนอกับท่านพ่อ หากข้าร่ำรวยได้ท่านพ่อจะไม่ให้ข้าแต่งงานและจะอยู่เช่นดั่งท่านอาอย่างไรเจ้าค่ะ"
"ลู่เพ่ยเอ๋ยการปลูกผักมิใช่เรื่องง่ายเจ้ากลับไปแต่งกับท่านอ๋องเจียวหั่วเถิด "
"ท่านอายังไม่เห็นข้าทำเลย จะรู้ได้อย่างไรเจ้าคะว่าข้าทำไม่ได้ตลอดทางที่เดินทางมาที่นี่ข้าครุ่นคิดมาอย่างดีแล้ว เช่นนั้นหลังจากกินอาหารเช้าเสร็จแล้วข้าจะเข้าตลาดนะเจ้าคะ จะไปเลือกหาเมล็ดผักด้วยตนเองเจ้าค่ะ" ท่านอาส่ายหน้าไปมาอย่างเหน็ดเหนื่อยหากนางอยากทำ นางก็จะยอมให้นางได้ลงมือทำเช่นกันจะได้รู้ว่าคุณหนูที่สุขสบายมาตลอดมาเช่นนี้คงเหน็ดเหนื่อยจนย่อท้อไปเอง
"เช่นนั้นก็ทำอย่างที่เจ้าต้องการเถิด นี่เจ้าไปดูที่ห้องครัวตอนนี้อาหารเสร็จหรือยัง หากเสร็จแล้วก็ยกมาที่ห้องโถงเถิดจะได้รีบออกไปตลาดกัน ข้าจะพาเจ้าไปเอง " เสี่ยวลี่เหมยยิ้มกว้างที่ท่านอาตามใจให้นางได้ทำทุกอย่างโดยไม่ขัด
"เจ้าค่ะ " ไป๋เซ่อโค้งคำนับรับคำสั่งซีเหนี่ยวและเดินไปที่ห้องครัว ส่วนซีเหนียวก็พาเสี่ยวลี่เหมยเดินดูผักที่นางได้ปลูกไว้
"ส่วนเจ้ามาทางนี้ ข้าจะพาเดินดูแปลงผักของข้า"
"เจ้าค่ะ " เสี่ยวลี่เหมยรีบเดินตามไปติด ๆ อย่างกระตือรือร้น ท่านอาอธิบายการปลูกการดูแลผักจากแมลงและพวกหนอนดิน เสี่ยวลี่เหมยเรียนรู้อย่างง่ายดาย นางเดินดูจนทั่วก็พบว่ามีสิ่งหนึ่งที่ท่านป้าไม่มีคือแตงกวากับผักกาด นางจงคิดว่าตนเองจะปลูกทั้งสองสิ่งนี้ ทั้งสองเดินดูผักไม่นานนักไป๋เซ่อก็ได้มาตามไปกินอาการเช้า
หลังจากกินอาหารเช้าเสร็จแล้วทั้งสี่คนก็พากันเดินทางมาที่ตลาด ตลาดยามนี้มีผู้คนสัญจรขวักไขว้ เสียงร้องเรียกลูกค้าปะปนกับเสียงต่อราคาดังกันเซ็งแซ่ ร้านค้ามากมายให้เลือกซื้อเสี่ยวลี่เหมยตื่นตาตื่นใจเดินดูอย่างตื่นเต้น สาวใช้ของนางก็ไม่ต่างกันฝั่งด้านท่านอาต้องคอยเดินตามหลังเสี่ยวลี่เหมยจนเหนื่อย
"ท่านอาข้าจะหาซื้อเมล็ดพักธ์ุจากที่ใดหรือเจ้าคะ" แม้ในปากของนางยังเคี้ยวซาลาเปาเต็มปากก็ยังคงหันไปถามท่านอา
"เจ้าสำรวมหน่อยเถิด เดี๋ยวก็สำลักติดคอ หากเจ้าอยากได้เมล็ดพันธ์ุผักจงเดินไปด้านหน้าเจอโรงเตี๊ยมเลี้ยวขวาก็พบร้านขายเมล็ดพันธ์ุผักแล้ว เจ้าไปได้หรือไม่? " ซีเหนี่ยวชี้ไปด้านหน้าเสี่ยวลี่เหมยมองตามปลายนิ้วที่ชี้ไปก็เห็นโรงเตี๊ยมตามที่ท่านอาบอก
"ได้เจ้าค่ะ ว่าแต่ท่านอาจะไปที่ใดหรือเจ้าคะ"
"ข้าจะเดินไปหาซื้อเนื้อสัตว์ไปทำอาหารเย็นอย่างไล่ะ "
"อืม เช่นนั้นลี่อินเจ้าไปกับท่านอาช่วยท่านอาถือของส่วนไป๋เซ่อตามข้ามา" เสี่ยวลี่เหมยสั่งสาวใช้ก่อนจะเดินไปตามที่ท่านอาบอกเมื่อครู่
"รอด้วยเจ้าค่ะคุณหนู " ไป๋เซ่อรีบเดินตามเสี่ยวลี่เหมยที่เดินเร็วกลัวว่าจะพลัดหลงกัน เมื่อมาถึงร้านเฒ่าแก่ออกมาต้อนรับเป็นอย่างดี
"คุณหนูต้องการอันใดหรือขอรับ "
"เฒ่าแก่ร้านท่านมีเหล็ดแตงกวากับผักกาดขายหรือไม่? "
"โฮ๊ะ ๆ ท่านมาถูกที่แล้วไม่ว่าคุณหนูต้องการอันใดที่ร้านเรามีทุกอย่าง ท่านเดินดูรอข้าสักครู่ข้าจะนำเมล็ดพันธ์ุที่ท่านต้องการมาให้ขอรับ" ใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสของเฒ่าแก่ร้านขายเมล็ดผักช่างดูเป็นชายชราใจดี ไม่แปลกที่มีลูกค้าเข้ามามากมาย เสี่ยวลี่เหมยเดินดูเมล็ดพันธ์ุอย่างเพลิดเพลินสักพักชายชราก็เดินออกมาพร้อมเม็ลดพันธ์ุที่เสี่ยวลี่เหมยต้องการ
"คุณหนูเมล็ดแตงกวาที่ท่านตามหาอยู่นี่แล้วขอรับ มาเลือกดูเถิด" เขาวางถาดบนโต๊ะต่อหน้านางเพื่อให้นางได้เลือกดู เสี่ยวลี่เหมยกับไป๋เซ่อมองพินิจอยู่นานเมล็ดแตงกวาเมล็ดใหญ่ไม่ถูกแมลงกัดหรือเบาจนเกินไปแสดงให้เห็นว่านี่คือเมล็กพันธ์ุใหม่หากซื้อไปไม่ผิดหวังแน่นอน
"เช่นนั้นข้าจะเอาเมล็ดพันธุ์นี้หนึ่งถ้วยตวง ผักกาดอีกหนึ่งถ้วยตวง"
"ได้ขอรับ ข้าจะจัดให้คุณหนูเดี๋ยวนี้ สองอย่างนี้ราคาห้าเหรียญทองขอรับ" เฒ่าแก่หันไปหยิบถุงกระดาษที่เขาตักตวงเสร็จแล้วมายื่นให้แก่เสี่ยวลี่เหมย ไป๋เซ่อจึงรีบไปหยิบมาถือด้วยตนเองส่วนเสี่ยวลี่เหมยนางล้วงนำถุงเงินที่นางเตรียมมานับมอบให้แก่เฒ่าแก่
"นี่ห้าเหรียญทองที่ท่านต้องการ"
"ขอบคุณคุณหนูมาก ๆ ขอรับ" เมื่อได้ตามที่ต้องการทั้งสองก็พากันเดินออกมาพบร้านขายผักขนาดใหญ่นี่อาจจะเป็นร้านที่ใหญ่ที่สุดในหมู่บ้านก็ว่าได้
บทที่ 11 คุณชายฮุ่ยเจิน“ไป๋เซ่อเจ้าดูสิร้านขายผักร้านนี้ดูจะใหญ่ที่สุดในตลาดเลยก็ว่าได้”"นั้นสิเจ้าคะ หากคุณหนูปลูกผักขายเข้าไปถามดูราคาดูมั้ยเจ้าคะ เผื่อผักที่คุณหนูปลูกเติบใหญ่จะได้นำมาขาย""นั้นสิงั้นเราเข้าไปถามกันเถิด " เสี่ยวลี่เหมยเดินย่างเท้าเข้ามาในร้านขายผักไม่ว่าจะมองไปทางใดก็มีทุกอย่างราวกับว่าที่นี่คือที่รับซื้อผักจากชาวบ้านมาวางขายอีกที"คุณหนูหาสิ่งใดหรือขอรับ" เฒ่าแก่ร้านขายเมล็ดพันธ์ุผู้เดิมก็เดินเข้ามาหาเสี่ยวลี่เหมยอีกรอบ"เอ๊ะ! นี่เฒ่าแก่ร้านเมื่อครู่มิใช่หรือ? ""อ้อ นี่ก็คืออีกร้านของข้าขอรับผู้คนแถวนี้รู้จักกันดี คุณหนูคงไม่ใช่คนแถวนี้ใช่หรือไม่ขอรับ" เสี่ยวลี่เหมยกวาดตามองอีกรอบก็พบว่าร้านทั้งสองร้านอยู่ติดกันแถมยังมีทางเข้าออกเชื่อมกันอีกด้วย"ใช่แล้วเฒ่าแก่ คุณหนูของข้าเดินทางมาจากที่อื่น จะมาอยู่ที่นี่สักระยะจะมาปลูกผักไม่ทราบว่าที่ร้านเฒ่าแก่นอกจะขายผักแล้วท่านรับซื้อผักจากชาวบ้านด้วยหรือไม่เจ้าคะ" ไป๋เซ่อได้เอ่ยถามเฒ่าแก่เพราะนางเป็นคนช่างพูดช่างจาเป็นที่ชอบใจของเสี่ยวลี่เหมยยิ่งนัก"แน่นอนอยู่แล้ว ร้านของข้าทั้งขายและรับซื้อขอรับหากผักของคุณหนูโตพอจนเก็บ
บทที่ 12 เรื่องแปลก ๆวันเวลาผ่านพ้นไปครึ่งเดือนที่เสี่ยวลี่เหมยมาอยู่กับท่านอา นางเหน็ดเหนื่อยอยู่กับการปลูกผักแต่ก็ทำให้นางมีความสุขมาก ๆ ที่ได้ลงมือทำด้วยตนเองจนตอนนี้ผักที่นางได้ลงมือหว่านเมล็ดเติบโตขึ้นมาเขียวขจี"ท่านอาเจ้าคะ ในเรือนของท่านอามีบ่าวที่เป็นชายกี่คนเจ้าคะ"เมื่อเช้าเสี่ยวลี่เหมยไปรดน้ำผักกับสาวใช้เห็นว่าตอนนี้แตงกวาของนางกำลังจะหาไม้เพื่อปีนป่ายจึงกลับมาหาท่านอาที่เรือนเพื่อถามหาบ่าวที่เป็นบุรุษ"ก็เพียงไม่กี่คน ทำไมหรือ"ซีเหนี่ยวกำลังตากผ้าอยู่หันมาถามหลานอย่างสงสัย"ข้าต้องการไม้ไผ่บนเขามาทำค้างให้กับแตงกวาเจ้าค่ะ ""เช่นนั้นข้าจะให้บ่าวนเรือนไปจัดการให้เจ้าเอง ว่าแต่เจ้าเถิดมาอยู่ที่นี่ก็หลายวันแล้วรู้สึกคิดถึงเรือนตระกูลลู่หรือไม่ ""ก็มีบ้างเจ้าค่ะ แต่อยู่ที่นี่ข้ามีความสุขมากนะเจ้าคะ ได้ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมากมายแถมยังได้กินอาหารฝีมือท่านอาทุกวันแต่มีเรื่องหนึ่งที่ข้าไม่เข้าใจเลยเจ้าตค่ะเมื่อตะวันตกดินทุกคนในหมู่บ้านทำไมถึงรีบเข้านอนกันเจ้าคะ หากจะบอกว่าเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานแต่ว่าจะเหนื่อยทุกวันทุกเรือนก็คงมิใช่นะเจ้าคะ "นางมาอยู่ที่นี้สักพักสังเกตเห็นชาวบ้าน
บทที่ 13 ไม่เชื่อว่าเป็นฝีมือปีศาจรุ่งเช้ามาเยือนเสี่ยวลี่เหมยตื่นแต่เช้ารีบไปหาท่านอาที่ห้องพร้อมคำถามเต็มหัวไปหมด นางเดินเข้ามาในเรือนพร้อมเรียกท่าอาจากด้านนอก"ท่านอาเจ้าคะ ข้าขอเข้าไปด้านในได้หรือไม่" นางเงียบฟังคำตอบไม่นานเสียงด้านในก็ดังออกมา"เข้ามาสิ" นางเปิดประตูเข้าไปด้านในห้องของท่านป้าตอนนี้นางกำลังแต่งกายอยู่ก็หันมาถามหลานสาวเหตุใดนางถึงมาหานางแต่เช่าตรู่"เจ้ามาหาแต่เช้ามีเรื่องอันใดหรือไม่""ท่านอาช่างรู้ใจข้าเสียจริง ก็เรื่องที่ท่านอาเล่าให้ข้าฟัง ข้าไปนอนครุ่นคิดทั้งคืนก็ยังค้างคาในใจอยากจะมาถามท่านอาให้รู้แจ้งเจ้าค่ะ""เรื่องอันใดอย่างนั้นหรือ""ท่านอาว่าเป็นฝีมือปีศาจจริง ๆ เช่นนั้นหรือเจ้าคะ แล้วเหตุใดถึงพึ่งมาปรากฎตัว ข้าคิดว่านี่น่าจะเป็นฝีมือของมนุษย์เสียมากกว่าเจ้าค่ะ""แล้วมนุษย์จะทำเช่นนี้ทำไมกันไม่เห็นจะได้ผลประโยชน์อันใด""แล้วปีศาจจะทำเรื่องนี้ทำไมเจ้าคะ ไม่เห็นจะได้ผลประโยชน์อันใดเช่นกัน " เสี่ยวลี่เหมยแย้งคำพูดของท่านอาจนเขานิ่งเงียบเพราะคิดตามที่เสี่ยวลี่เหมยเอ่ยออกมา"นั้นสิ เช่นนั้นเจ้าก็ออกไปกินอาหารเช้าเถิดเดี๋ยวข้าจะเข้าไปในหมู่บ้านสักครู่ " ท่าน
บทที่ 14 หนีไม่พ้นหลังจากนั้นท่านอาได้เข้าครัวทำอาหารพร้อมกับลี่อินปล่อยให้ไป๋เซ่ออยู่กับเสี่ยวลี่เหมย นางเก็บเรื่องที่ท่านอามาเล่าให้ฟังอย่างถ้วนทีก็ไม่เข้าใจสักนิด ทำไมชาวบ้านถึงหูเบาเชื่อเรื่องเช่นนี้ด้วย ปีศาจเหตุใดถึงต้องการพืชผักแทนที่จะเป็นเงินทอง ยิ่งคิดยิ่งทำให้ปวดหัว เสี่ยวลี่เหมยจึงได้ออกมาเดินรับลมด้านนอกไม่นานลี่อินก็ได้ตามไปกินอาหารเย็น หลังจากกินอาหารเย็นเสร็จทานอาก็ได้กำชับไม่ให้เสี่ยวลี่เหมยออกมาด้านนอกอีก เพราะนางเกรงว่าหลานสาวจะเสียสติหากได้พบปีศจจอย่างชายฉกรรจ์ที่เคยลบหลู่ราตรีมืดมิดเสียงทุกอย่างเงียบสงัดมีเพียงเสียงสายลมที่พัดผ่านกระพวนเสียงดังกระทบกันไปมา เสี่ยวลี่เหมยนอนอยู่บนเตียงนอนหนานุ่มด้วยปุ๋ยฝ้าย นางลืมตาพลิกตัวมาด้านขวาก็ต้องชะงักตกใจเมื่อเห็นท่านอ๋องมานอนเคียงคู่แถมยังมองนางด้วยสายตาหยาดเยิ้มยิ้มกว้างอ่อนหวาน อย่างไม่เคยพบเห็นมาก่อน"กรี๊ด! นี่ท่านอ๋องมาอยู่ในห้องหม่อมฉันได้อย่างไรเพคะ แถมไม่ใช่มาอยู่ธรรมดาแต่มานอนร่วมเตียงกับหม่อมฉัน ออกไปเดี๋ยวนี้นะเพคะ" เสี่ยวลี่เหมยกรี๊ดร้องใช้มือผลักไสให้ใบหน้าของจวิ้นอ๋องออกห่างตนพรางขยับกายหนี แต่ทว่าจวิ้นอ๋องจ
บทที่ 15 ไม่ต้อนรับ"ท่านอ๋องรอหม่อมฉันอยู่ที่นี่กับลู่เพ่ยสักครู่นะเจ้าคะ หม่อมฉันจะเข้าไปดูที่ห้องครัวสักครู่ ""ท่านอาอยู่ที่นี่กับท่านอ๋องเถอะเจ้าค่ะ ข้าจะเข้าไปดูที่ห้องครัวเอง" เสี่ยวลี่เหมยไม่อยากอยู่กับท่านอ๋องเพียงลำพังจึงรีบเสนอเข้าไปดูที่ห้องครัวเอง แต่เหมือนท่านอาจะไม่เข้าใจหลานรัก"เจ้าอยู่ดูแลปรนนิบัติท่านอ๋องนะดีแล้ว ส่วนเรื่องอาหารการกินข้าจะจัดการเอง ท่านอ๋องเดี๋ยวหม่อมฉันมานะเพคะ" เจียวหั่วยิ้มกว้าง พร้อมพยักหน้าให้แก่ซีเหนี่ยว นางโค้งคำนับพร้อมเดินออกไป ภายในห้องโถงตอนนี้เหลือเพียงท่านอ๋องกับเสี่ยวลี่เหมย บรรยากาศช่างอึดอัดเหลือทน"เจ้าคิดจะหนีข้าอย่างนั้นหรือ ข้าบอกแล้วอย่างไรว่าเจ้าหนีข้าไม่พ้นหรอกนะยอมกลับไปพร้อมกับข้าเถอะจะทนลำบากอย่างนี้อยู่ทำไมกัน " เขาเอ่ยพร้อมเดินเข้ามาใกล้นางเรื่อย ๆ'หนีมาไกลขนาดนี้ยังหาเจอ ท่านอ๋องบ้านี่ต้องเป็นเจ้ากรรมนายเวรของฉันแน่ ๆ' เสี่ยวลี่เหมยบ่นในใจก่อนจะยิ้มกว้างตอบท่านอ๋องอย่างชัดเจน"หม่อมฉันไม่ได้หนีเพคะ และหม่อมฉันจะไม่ยอมกลับไปกับท่านอ๋องหรอกนะเพคะ ตอนนี้หม่อมฉันมีความสุขไม่มีเรื่องอันใดให้ทุกข์ใจเท่าตอนที่เฝ้าตามถวายความรั
บทที่ 16 เสียงปริศนา"คุณหนูเจ้าคะ ท่านอ๋องมาที่นี่ได้อย่างไรเจ้าคะ ข้าได้ยินจากบ่าวรับใช้ว่าท่านอ๋องมาเพื่อตามคุณหนูกลับหรือว่าตอนนี้ท่านอ๋องคงมีใจให้คุณหนูขึ้นมาบ้างแล้วนะเจ้าคะ คุณหนูดีใจมั้ยเจ้าคะท่านอ๋องรักคุณหนูเหมือนที่คุณหนูต้องการแล้ว ข้าล่ะดีใจแทนคุณหนูที่สุดเลย หรือว่าที่คุณหนูถอนหมั้นแล้วมาอยู่ที่นี่เป็นแผนของคุณหนูเพื่อดูใจของท่านอ๋องเจ้าคะ ช่างเป็นความคิดที่ดีมาก ๆ เลย " ลี่อินที่เดินตามหลังเสี่ยวลี่เหมยได้เอ่ยขึ้น เมื่อนางได้ยินสาวใช้เอ่ยออกมาเช่นนั้นยิ่งไม่ชอบใจหงุดหงิดจนแทบเป็นบ้าหยุดเดินทันที ทำให้ลี่อินที่เดินมาติด ๆ ชนเข้าที่แผ่นหลังของนางอย่างจัง"โอ๊ย! คุณหนูหยุดเดินทำไมเจ้าคะ " ลี่อินใช้มือจับที่หัวลูบไปมาด้วยความเจ็บ เสี่ยวลี่เหมยถอนหายใจหันกลับมามองพร้อมเปล่งเสียงอย่างไม่พอใจกับสาวใช้"ข้าดูดีใจอย่างนั้นหรือ ข้าหนีมาเพื่อไม่อยากพบเจอท่านอ๋องอีก เพราะข้าเกลียดขี้หน้าท่านอ๋อง ไม่อยากพูดคุยพบเจอมีหรือที่ข้าจะดีใจที่จู่ ๆ เขาโผล่มาเช่นนี้ ข้าจะบอกเจ้าให้ได้รู้เอาไว้ต่อให้ใต้หล้านี้มีบุรุษเพียงผู้เดียวคือท่านอ๋องข้าก็ไม่สนใจ ฮึ! " เสี่ยวลี่เหมยปลดปล่อยอารมณ์ที่เก็บ
บทที่ 17 เมินเฉย"เจ้าเมินข้าอย่างนั้นหรือไม่ได้ยินที่ข้าเอ่ยกับเจ้าหรืออย่างไร" เจียวหั่วคว้ามือของเสี่ยวลี่เหมยให้หยุดเดิน ส่วนลี่อินกับไป๋เซ่อมองหน้ากันและไม่ขอเดินตามอยากให้ทั้งสองได้อยู่เพียงลำพัง ในใจของนางทั้งสองอยากให้คุณหนูของนางมีความสุข เพราะที่ผ่านมาคุณหนูของนางเฝ้ารักเฝ้าคะนึงหาท่านอ๋องอยู่ทุกค่ำวัน ในเมื่อตอนนี้ท่านอ๋องหันกลับมาสนใจคุณหนูของพวกนางจึงอยากให้คุณหนูสมหวังกับท่านอ๋องดั่งที่ใจปรารถนา"ต่อให้ท่านอ๋องจะอยู่ที่นี่จนแก่เฒ่าหม่อมฉันก็ไม่กลับไปกับท่านอ๋องหรอกนะเพคะ ล้มเลิกความตั้งใจนี่เถิด หม่อมฉันเองก็ไม่เข้าใจท่านอ๋องยิ่งนักเมื่อก่อนท่านอ๋องไม่เห็นสนใจหม่อมฉันเลยสักนิด แล้วทำไมตอนนี้ถึงได้อยากต้องาการให้หม่อมฉันไปเป็นพระชายาล่ะเพคะ น่าเบื่อเสียจริง" เสี่ยวลี่เหมยสบัดแขนของเขาเพื่อให้หลุดออก ในตอนแรกนางจะกลับไปที่เรือน แต่ทว่าตอนนี้นางรู้สึกไม่อยากอยู่ในที่ที่มีท่านอ๋องผู้นี้จึงเดินไปที่ตลาดโดยไม่รู้เลยว่าตอนนี้สาวใช้ไม่ได้ตามนางออกมา มีเพียงเจียวหั่วที่เดินตามนางมาติด ๆ"เดี๋ยวสิแล้วเจ้าจะให้ข้าทำเช่นใดถึงจะได้ความรักของเจ้าเช่นเดิม ""กลับจวนท่านอ๋องไปสิเพคะ แล้
บทที่ 18 หงุดหงิดหัวใจระหว่างรออาหารฮุ่ยเจินกับสี่ยวลี่เหมยพูดคุยกันอย่างถูกคอ ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยรอยยิ้มทำให้เจียวหั่วไม่พอใจ เวลาที่นางอยู่กับเขามีเพียงใบหน้าบูดบึึ้งไร้อารมณ์ เขาวางจอกน้ำชาที่ฮุ่ยเจินรินให้จนเกิดเสียงดัง ทำให้ทั้งสองมองมายังเจียวหั่ว"ท่านอ๋องน้ำชาร้อนไปหรือขอรับ""ใช่! น้ำชาที่นี่ช่างจืดชืดกลิ่นหอมของชาไม่มีสักนิด" เขาไม่ถูกชะตากับฮุ่ยเจินจึงเอ่ยอย่างไม่รักษาน้ำใจ ทำให้เสี่ยวลี่เหมยหมั่นไส้หยิบจอกน้ำชาของเจียวหั่วพร้อมกระดกเข้าปากอึก!"ท่านอ๋องหม่อมฉันว่าลิ้นของท่านน่าจะมีปัญหานะเพคะ น้ำชาไม่ได้ร้อนเลยสักนิดแถมยังหอมกลิ่นชาอ่อน ๆ ไม่เห็นเป็นเช่นที่ท่านอ๋องเอ่ยมาเลยอท่านอ๋องลองชิมน้ำชาของหม่อมฉันอีกรอบสิเพคะ""ไม่! ไม่ว่าน้ำชาจอกใดก็รสชาติเหมือนกัน ""เช่นนั้นก็แล้วแต่ท่านอ๋องเลยเพคะ คุณชายฮุ่ยเจินอาหารที่โรงเตี๊ยมแห่งนี้อร่อยมากเลยถูกใจข้าที่สุด ""หากลู่เพ่ยถูกใจวันหลังข้าจะพาท่านมาอีก ว่าแต่ลู่เพ่ยท่านมาอยู่ที่หมู่บ้านเล็ก ๆ รู้สึกเบื่อบ้างหรือไม่ ""ไม่เลย วัน ๆ ข้าต้องไปดูผักที่ปลูกไว้ไม่มีเวลาให้เบื่อหรอกนะ""ท่านปลูกผักด้วยหรือ ข้าชักอยากเห็นแล้วสิสตรีท
บทที่ 20 กลุ่มคนน่าสงสัยเจียวหั่วเมื่อมาถึงห้องเขาได้แต่งกายเพื่อออกไปด้านนอกสืบหาเรื่องที่น่าชวนสงสัยนี้กับองครักษ์"กระหม่อมเดินตรวจตราทุกคนในเรือนนอนหมดแล้วพ่ะย่ะค่ะ ""เช่นนั้นก็ดีเราจะได้ออกไปด้านนอกโดยที่ีไม่มีผู้ใดสงสัย ไปกันเถิด" ว่าจบเจียวหั่วเดินจากห้องอย่างคล่องแคล้วก่อนจะกระโดดออกทางกำแพงด้านหลังเรือนเพื่อไม่ให้ผู้ใดสังเกตการณ์ได้ เมื่อออกมาก็ไม่พบผู้ใดเลยบ้านเรือนพากันดับโคมไฟมืดสนิท ไม่นานนักก็ได้ยินเสียงโหยหวนตามสายลมมาอย่างต่อเนื่อง"เสียงนั้นมาจากที่ใดกัน""กระหม่อมได้ยินมาจากทางเหนือของต้นลมพ่ะย่ะค่ะ ""เช่นนั้นเราแยกกันเถิด หากเจ้าพบเรื่องน่าสงสัยก็รีบมาแจ้งข้า ข้าจะไปดูอีกทางยามโฉ่ว (01.00) ค่อยกลับไปพบกันที่เรือน ""พ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋องทรงระวังตัวด้วย""ไม่ต้องห่วงข้า"องครักษ์พยักหน้าสักพักก็หายวับไปอย่างรวดเร็วส่วนเจียวหั่วเขาดึงผ้าปิดผ้าที่ปกปิดไม่ให้ผูู้ใดรู้ว่าเป็นใครก่อนจะเดินตรวจตราทุกซอกมุมของหมู่บ้านแห่งนี้ เมื่อเดินมาได้ไม่นานเจียวหั่วก็ได้พบเข้ากับชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่งแต่งกายชุดดำน่าสงสัย กำลังทำสิ่งใดอยู่อย่างรีบร้อน เจียวหั่วพรางตัวเดินเข้าไปอย่างเบาตัวเพ
บทที่ 19 เสียงร้องของปีศาจฝั่งด้านเจียวหั่วเมื่อกลับมาถึงห้องเขาพบว่าองครักษ์ได้รออยู่ด้านในแล้ว"เป็นเช่นไรบ้างเรื่องที่ข้าให้เจ้าไปจัดการ ""กระหม่อมไปสืบตามชาวบ้านบอกว่าเสียงนี้คือเสียงของปีศาจพ่ะย่ะค่ะ เมื่อท้องฟ้ามืดมัวทุกคนในหมู่บ้านต้องพากันเข้าเรือนห้ามออกมาด้านนอกมิเช่นนั้นจะถูกปีศาจเล่นงาน แถมยังมีผู้คนพบเจอมาแล้วด้วยชาวบ้านจึงหวาดกลัวดับไฟตั้งแต่หัวค่ำพ่ะย่ะค่ะ" เจียวหั่วหันหลังมองไปยังหน้าต่างครุ่นคิดตามที่องครักษ์ได้บอก ช่างเป็นเรื่องที่น่าแปลกเสียจริง"แล้วเสียงที่ดังตามกระแสลมนั้นเล่าคือเสียงอันใดกัน ""น่าจะเป็นเสียงของปีศาจที่ดังมาตามกระแสลมเพื่อให้ชาวบ้านมิกล้าออกมาจากเรือน เสมือนข่มขู่ให้หวาดกลัว ""อืม ..เช่นนั้นวันนี้เมื่อตะวันตกดินเจ้ามาหาข้าที่ห้อง ข้าจะออกไปข้างนอกกับเจ้า ข้าไม่เชื่อหรอกว่านี่คือฝีมือปีศาจต้องมีผู้ใดสร้างเหตุการณ์นี้ขึ้นมาแน่นอน ""น้อมรับคำสั่งพ่ะย่ะค่ะ " องครักษ์โน้มตัวน้อมรับคำสั่งก่อนจะเดินออกไป เจียวหั่วครุ่นคิดไม่ตกกับสิ่งที่ได้ยิน เขามั่นใจว่านี่คือฝีมือของมนุษย์แน่ ๆ และต้องรู้ให้ได้ว่าเป็นฝีมือของผู้ใดต้องการอะไรจากชาวบ้านฝั่งด้านเสี
บทที่ 18 หงุดหงิดหัวใจระหว่างรออาหารฮุ่ยเจินกับสี่ยวลี่เหมยพูดคุยกันอย่างถูกคอ ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยรอยยิ้มทำให้เจียวหั่วไม่พอใจ เวลาที่นางอยู่กับเขามีเพียงใบหน้าบูดบึึ้งไร้อารมณ์ เขาวางจอกน้ำชาที่ฮุ่ยเจินรินให้จนเกิดเสียงดัง ทำให้ทั้งสองมองมายังเจียวหั่ว"ท่านอ๋องน้ำชาร้อนไปหรือขอรับ""ใช่! น้ำชาที่นี่ช่างจืดชืดกลิ่นหอมของชาไม่มีสักนิด" เขาไม่ถูกชะตากับฮุ่ยเจินจึงเอ่ยอย่างไม่รักษาน้ำใจ ทำให้เสี่ยวลี่เหมยหมั่นไส้หยิบจอกน้ำชาของเจียวหั่วพร้อมกระดกเข้าปากอึก!"ท่านอ๋องหม่อมฉันว่าลิ้นของท่านน่าจะมีปัญหานะเพคะ น้ำชาไม่ได้ร้อนเลยสักนิดแถมยังหอมกลิ่นชาอ่อน ๆ ไม่เห็นเป็นเช่นที่ท่านอ๋องเอ่ยมาเลยอท่านอ๋องลองชิมน้ำชาของหม่อมฉันอีกรอบสิเพคะ""ไม่! ไม่ว่าน้ำชาจอกใดก็รสชาติเหมือนกัน ""เช่นนั้นก็แล้วแต่ท่านอ๋องเลยเพคะ คุณชายฮุ่ยเจินอาหารที่โรงเตี๊ยมแห่งนี้อร่อยมากเลยถูกใจข้าที่สุด ""หากลู่เพ่ยถูกใจวันหลังข้าจะพาท่านมาอีก ว่าแต่ลู่เพ่ยท่านมาอยู่ที่หมู่บ้านเล็ก ๆ รู้สึกเบื่อบ้างหรือไม่ ""ไม่เลย วัน ๆ ข้าต้องไปดูผักที่ปลูกไว้ไม่มีเวลาให้เบื่อหรอกนะ""ท่านปลูกผักด้วยหรือ ข้าชักอยากเห็นแล้วสิสตรีท
บทที่ 17 เมินเฉย"เจ้าเมินข้าอย่างนั้นหรือไม่ได้ยินที่ข้าเอ่ยกับเจ้าหรืออย่างไร" เจียวหั่วคว้ามือของเสี่ยวลี่เหมยให้หยุดเดิน ส่วนลี่อินกับไป๋เซ่อมองหน้ากันและไม่ขอเดินตามอยากให้ทั้งสองได้อยู่เพียงลำพัง ในใจของนางทั้งสองอยากให้คุณหนูของนางมีความสุข เพราะที่ผ่านมาคุณหนูของนางเฝ้ารักเฝ้าคะนึงหาท่านอ๋องอยู่ทุกค่ำวัน ในเมื่อตอนนี้ท่านอ๋องหันกลับมาสนใจคุณหนูของพวกนางจึงอยากให้คุณหนูสมหวังกับท่านอ๋องดั่งที่ใจปรารถนา"ต่อให้ท่านอ๋องจะอยู่ที่นี่จนแก่เฒ่าหม่อมฉันก็ไม่กลับไปกับท่านอ๋องหรอกนะเพคะ ล้มเลิกความตั้งใจนี่เถิด หม่อมฉันเองก็ไม่เข้าใจท่านอ๋องยิ่งนักเมื่อก่อนท่านอ๋องไม่เห็นสนใจหม่อมฉันเลยสักนิด แล้วทำไมตอนนี้ถึงได้อยากต้องาการให้หม่อมฉันไปเป็นพระชายาล่ะเพคะ น่าเบื่อเสียจริง" เสี่ยวลี่เหมยสบัดแขนของเขาเพื่อให้หลุดออก ในตอนแรกนางจะกลับไปที่เรือน แต่ทว่าตอนนี้นางรู้สึกไม่อยากอยู่ในที่ที่มีท่านอ๋องผู้นี้จึงเดินไปที่ตลาดโดยไม่รู้เลยว่าตอนนี้สาวใช้ไม่ได้ตามนางออกมา มีเพียงเจียวหั่วที่เดินตามนางมาติด ๆ"เดี๋ยวสิแล้วเจ้าจะให้ข้าทำเช่นใดถึงจะได้ความรักของเจ้าเช่นเดิม ""กลับจวนท่านอ๋องไปสิเพคะ แล้
บทที่ 16 เสียงปริศนา"คุณหนูเจ้าคะ ท่านอ๋องมาที่นี่ได้อย่างไรเจ้าคะ ข้าได้ยินจากบ่าวรับใช้ว่าท่านอ๋องมาเพื่อตามคุณหนูกลับหรือว่าตอนนี้ท่านอ๋องคงมีใจให้คุณหนูขึ้นมาบ้างแล้วนะเจ้าคะ คุณหนูดีใจมั้ยเจ้าคะท่านอ๋องรักคุณหนูเหมือนที่คุณหนูต้องการแล้ว ข้าล่ะดีใจแทนคุณหนูที่สุดเลย หรือว่าที่คุณหนูถอนหมั้นแล้วมาอยู่ที่นี่เป็นแผนของคุณหนูเพื่อดูใจของท่านอ๋องเจ้าคะ ช่างเป็นความคิดที่ดีมาก ๆ เลย " ลี่อินที่เดินตามหลังเสี่ยวลี่เหมยได้เอ่ยขึ้น เมื่อนางได้ยินสาวใช้เอ่ยออกมาเช่นนั้นยิ่งไม่ชอบใจหงุดหงิดจนแทบเป็นบ้าหยุดเดินทันที ทำให้ลี่อินที่เดินมาติด ๆ ชนเข้าที่แผ่นหลังของนางอย่างจัง"โอ๊ย! คุณหนูหยุดเดินทำไมเจ้าคะ " ลี่อินใช้มือจับที่หัวลูบไปมาด้วยความเจ็บ เสี่ยวลี่เหมยถอนหายใจหันกลับมามองพร้อมเปล่งเสียงอย่างไม่พอใจกับสาวใช้"ข้าดูดีใจอย่างนั้นหรือ ข้าหนีมาเพื่อไม่อยากพบเจอท่านอ๋องอีก เพราะข้าเกลียดขี้หน้าท่านอ๋อง ไม่อยากพูดคุยพบเจอมีหรือที่ข้าจะดีใจที่จู่ ๆ เขาโผล่มาเช่นนี้ ข้าจะบอกเจ้าให้ได้รู้เอาไว้ต่อให้ใต้หล้านี้มีบุรุษเพียงผู้เดียวคือท่านอ๋องข้าก็ไม่สนใจ ฮึ! " เสี่ยวลี่เหมยปลดปล่อยอารมณ์ที่เก็บ
บทที่ 15 ไม่ต้อนรับ"ท่านอ๋องรอหม่อมฉันอยู่ที่นี่กับลู่เพ่ยสักครู่นะเจ้าคะ หม่อมฉันจะเข้าไปดูที่ห้องครัวสักครู่ ""ท่านอาอยู่ที่นี่กับท่านอ๋องเถอะเจ้าค่ะ ข้าจะเข้าไปดูที่ห้องครัวเอง" เสี่ยวลี่เหมยไม่อยากอยู่กับท่านอ๋องเพียงลำพังจึงรีบเสนอเข้าไปดูที่ห้องครัวเอง แต่เหมือนท่านอาจะไม่เข้าใจหลานรัก"เจ้าอยู่ดูแลปรนนิบัติท่านอ๋องนะดีแล้ว ส่วนเรื่องอาหารการกินข้าจะจัดการเอง ท่านอ๋องเดี๋ยวหม่อมฉันมานะเพคะ" เจียวหั่วยิ้มกว้าง พร้อมพยักหน้าให้แก่ซีเหนี่ยว นางโค้งคำนับพร้อมเดินออกไป ภายในห้องโถงตอนนี้เหลือเพียงท่านอ๋องกับเสี่ยวลี่เหมย บรรยากาศช่างอึดอัดเหลือทน"เจ้าคิดจะหนีข้าอย่างนั้นหรือ ข้าบอกแล้วอย่างไรว่าเจ้าหนีข้าไม่พ้นหรอกนะยอมกลับไปพร้อมกับข้าเถอะจะทนลำบากอย่างนี้อยู่ทำไมกัน " เขาเอ่ยพร้อมเดินเข้ามาใกล้นางเรื่อย ๆ'หนีมาไกลขนาดนี้ยังหาเจอ ท่านอ๋องบ้านี่ต้องเป็นเจ้ากรรมนายเวรของฉันแน่ ๆ' เสี่ยวลี่เหมยบ่นในใจก่อนจะยิ้มกว้างตอบท่านอ๋องอย่างชัดเจน"หม่อมฉันไม่ได้หนีเพคะ และหม่อมฉันจะไม่ยอมกลับไปกับท่านอ๋องหรอกนะเพคะ ตอนนี้หม่อมฉันมีความสุขไม่มีเรื่องอันใดให้ทุกข์ใจเท่าตอนที่เฝ้าตามถวายความรั
บทที่ 14 หนีไม่พ้นหลังจากนั้นท่านอาได้เข้าครัวทำอาหารพร้อมกับลี่อินปล่อยให้ไป๋เซ่ออยู่กับเสี่ยวลี่เหมย นางเก็บเรื่องที่ท่านอามาเล่าให้ฟังอย่างถ้วนทีก็ไม่เข้าใจสักนิด ทำไมชาวบ้านถึงหูเบาเชื่อเรื่องเช่นนี้ด้วย ปีศาจเหตุใดถึงต้องการพืชผักแทนที่จะเป็นเงินทอง ยิ่งคิดยิ่งทำให้ปวดหัว เสี่ยวลี่เหมยจึงได้ออกมาเดินรับลมด้านนอกไม่นานลี่อินก็ได้ตามไปกินอาหารเย็น หลังจากกินอาหารเย็นเสร็จทานอาก็ได้กำชับไม่ให้เสี่ยวลี่เหมยออกมาด้านนอกอีก เพราะนางเกรงว่าหลานสาวจะเสียสติหากได้พบปีศจจอย่างชายฉกรรจ์ที่เคยลบหลู่ราตรีมืดมิดเสียงทุกอย่างเงียบสงัดมีเพียงเสียงสายลมที่พัดผ่านกระพวนเสียงดังกระทบกันไปมา เสี่ยวลี่เหมยนอนอยู่บนเตียงนอนหนานุ่มด้วยปุ๋ยฝ้าย นางลืมตาพลิกตัวมาด้านขวาก็ต้องชะงักตกใจเมื่อเห็นท่านอ๋องมานอนเคียงคู่แถมยังมองนางด้วยสายตาหยาดเยิ้มยิ้มกว้างอ่อนหวาน อย่างไม่เคยพบเห็นมาก่อน"กรี๊ด! นี่ท่านอ๋องมาอยู่ในห้องหม่อมฉันได้อย่างไรเพคะ แถมไม่ใช่มาอยู่ธรรมดาแต่มานอนร่วมเตียงกับหม่อมฉัน ออกไปเดี๋ยวนี้นะเพคะ" เสี่ยวลี่เหมยกรี๊ดร้องใช้มือผลักไสให้ใบหน้าของจวิ้นอ๋องออกห่างตนพรางขยับกายหนี แต่ทว่าจวิ้นอ๋องจ
บทที่ 13 ไม่เชื่อว่าเป็นฝีมือปีศาจรุ่งเช้ามาเยือนเสี่ยวลี่เหมยตื่นแต่เช้ารีบไปหาท่านอาที่ห้องพร้อมคำถามเต็มหัวไปหมด นางเดินเข้ามาในเรือนพร้อมเรียกท่าอาจากด้านนอก"ท่านอาเจ้าคะ ข้าขอเข้าไปด้านในได้หรือไม่" นางเงียบฟังคำตอบไม่นานเสียงด้านในก็ดังออกมา"เข้ามาสิ" นางเปิดประตูเข้าไปด้านในห้องของท่านป้าตอนนี้นางกำลังแต่งกายอยู่ก็หันมาถามหลานสาวเหตุใดนางถึงมาหานางแต่เช่าตรู่"เจ้ามาหาแต่เช้ามีเรื่องอันใดหรือไม่""ท่านอาช่างรู้ใจข้าเสียจริง ก็เรื่องที่ท่านอาเล่าให้ข้าฟัง ข้าไปนอนครุ่นคิดทั้งคืนก็ยังค้างคาในใจอยากจะมาถามท่านอาให้รู้แจ้งเจ้าค่ะ""เรื่องอันใดอย่างนั้นหรือ""ท่านอาว่าเป็นฝีมือปีศาจจริง ๆ เช่นนั้นหรือเจ้าคะ แล้วเหตุใดถึงพึ่งมาปรากฎตัว ข้าคิดว่านี่น่าจะเป็นฝีมือของมนุษย์เสียมากกว่าเจ้าค่ะ""แล้วมนุษย์จะทำเช่นนี้ทำไมกันไม่เห็นจะได้ผลประโยชน์อันใด""แล้วปีศาจจะทำเรื่องนี้ทำไมเจ้าคะ ไม่เห็นจะได้ผลประโยชน์อันใดเช่นกัน " เสี่ยวลี่เหมยแย้งคำพูดของท่านอาจนเขานิ่งเงียบเพราะคิดตามที่เสี่ยวลี่เหมยเอ่ยออกมา"นั้นสิ เช่นนั้นเจ้าก็ออกไปกินอาหารเช้าเถิดเดี๋ยวข้าจะเข้าไปในหมู่บ้านสักครู่ " ท่าน
บทที่ 12 เรื่องแปลก ๆวันเวลาผ่านพ้นไปครึ่งเดือนที่เสี่ยวลี่เหมยมาอยู่กับท่านอา นางเหน็ดเหนื่อยอยู่กับการปลูกผักแต่ก็ทำให้นางมีความสุขมาก ๆ ที่ได้ลงมือทำด้วยตนเองจนตอนนี้ผักที่นางได้ลงมือหว่านเมล็ดเติบโตขึ้นมาเขียวขจี"ท่านอาเจ้าคะ ในเรือนของท่านอามีบ่าวที่เป็นชายกี่คนเจ้าคะ"เมื่อเช้าเสี่ยวลี่เหมยไปรดน้ำผักกับสาวใช้เห็นว่าตอนนี้แตงกวาของนางกำลังจะหาไม้เพื่อปีนป่ายจึงกลับมาหาท่านอาที่เรือนเพื่อถามหาบ่าวที่เป็นบุรุษ"ก็เพียงไม่กี่คน ทำไมหรือ"ซีเหนี่ยวกำลังตากผ้าอยู่หันมาถามหลานอย่างสงสัย"ข้าต้องการไม้ไผ่บนเขามาทำค้างให้กับแตงกวาเจ้าค่ะ ""เช่นนั้นข้าจะให้บ่าวนเรือนไปจัดการให้เจ้าเอง ว่าแต่เจ้าเถิดมาอยู่ที่นี่ก็หลายวันแล้วรู้สึกคิดถึงเรือนตระกูลลู่หรือไม่ ""ก็มีบ้างเจ้าค่ะ แต่อยู่ที่นี่ข้ามีความสุขมากนะเจ้าคะ ได้ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมากมายแถมยังได้กินอาหารฝีมือท่านอาทุกวันแต่มีเรื่องหนึ่งที่ข้าไม่เข้าใจเลยเจ้าตค่ะเมื่อตะวันตกดินทุกคนในหมู่บ้านทำไมถึงรีบเข้านอนกันเจ้าคะ หากจะบอกว่าเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานแต่ว่าจะเหนื่อยทุกวันทุกเรือนก็คงมิใช่นะเจ้าคะ "นางมาอยู่ที่นี้สักพักสังเกตเห็นชาวบ้าน