บทที่ 10 ข้าจะปลูกผักเจ้าค่ะ
หลังจากกินอาการอิ่มท่านอาก็พาเสี่ยวลี่เหมยมายังห้องนอนที่ถูกจัดเตรียมไว้ให้ได้ให้นางพักผ่อน เมื่อหัวถึงหมอนตัวนอนบนเตียงนอนนุ่มไม่นานเสี่ยวลี่เหมยก็ได้หลับลง
รุ่งเช้ามาเยือนเสียงนกน้อยร้องตอบโต้กันไปมาเจี๊ยวจ้าว เสียงกระดิ่งดังราวกับสำนวนเพียงไพเราะ เสี่ยวลี่เหมยตื่นเช้าเพราะแปลกที่มายืนมองดูดวงอาทิตย์ขึ้นอย่างงดงาม เช้า ๆ ที่นี่อากาศเย็นสบายแม้ว่านางจะตื่นเช้าแต่ชาวบ้านที่นี่ก็ตื่นเช้ากันมาก ๆ
"คุณหนูตื่นตั้งแต่เมื่อไหร่เจ้าคะ นี่ยังไม่สว่างเลย" ไป๋เซ่อที่นอนอยู่ข้าง ๆ ตื่นมาเพื่อดูแลก็ต้องตกใจที่เห็นลู่เพ่ยยืนอยู่หน้าระเบียงเสียแล้ว
"ข้านอนไม่หลับนะ แล้วลี่อินเล่าไม่มาพร้อมกับเจ้าหรือ" นางมองไปด้านหลังไม่พบลี่อินจึงได้เอ่ยถามด้วยความสงสัย
"ลี่อินไปที่ห้องครัวเจ้าค่ะ " เสี่ยวลี่เหมยพยักหน้ารับรู้
"เช่นนั้นเจ้าก็ตามข้ามาเถิด ข้าจะไปหาท่านอา "
"เจ้าค่ะ" เสี่ยวลี่เหมยเดินเล่นดูรอบ ๆ เรือน ก่อนจะมาพบท่านอาที่กำลังสั่งให้บ่าวไปทำหน้าที่ของตน เสี่ยวลี่เหมยไม่รอช้ารีบย้ำเท้าตรงเข้าไปหา
"ท่านอาทำอันใดอยู่หรือเจ้าคะ" ซีเหนี่ยวได้ยินเสียงหลานสาวหันขวับมามองอย่างรวดเร็ว
"ลู่เพ่ยเจ้ารีบตื่นมาทำไมกัน ตอนนี้น้ำค้างยังไม่แห้งเจ้ารีบเข้าไปอยู่ในเรือนก่อนเถิด เดี๋ยวจะไม่สบายเอาได้ " นางยกมือทั้งสองขึ้นเหนือหัวของเสี่ยวลี่เหมยอย่างเป็นกังวลว่าน้ำค้างจะหล่นลงมาใส่หัวของหลานสาว
"ท่านอาไม่ต้องห่วงเจ้าค่ะ ข้าแข็งแรงกว่าเมื่อก่อนว่าแต่เมื่อครู่ท่านอาสั่งให้บ่าวไปทำอันใดหรือเจ้าคะ" เสี่ยวลี่เหมยยิ้มกริ่มดีใจที่นางถูกรักและเป็นห่วงเช่นนี้ ก่อนจะประคองมือของท่านอาให้ลงมาเช่นเดิมพร้อมถามเรื่องที่ท่านอาทำเมื่อครู่
"ก็ไปดูแปลงผักนะสิ ท่านพ่อของเจ้าไม่ได้บอกเจ้าหรือว่าที่เรือนของอาปลูกพืชผักไว้ขายนะ "เสี่ยวลี่เหมยดวงตาเป็นประกายเมื่อได้ยินเพราะนี่คือหนทางนี่นางจะร่ำรวย
"รู้เจ้าค่ะ ว่าแต่ท่านอาปลูกอันใดบ้างหรือเจ้้าคะแล้วยังพอมีที่วางเหลือบ้างหรือไม่? " นางถามอย่างกระตือรือร้น
"ข้าปลูกผักกวางตุ้ง ผักบุ้งมะเขือ ส่วนที่วางเหลือมากมาย ว่าแต่ลู่เพ่ยเจ้าจะถามไปทำไม" ซีเหนี่ยวคิ้วขมวดด้วยความสงสัยแค่ปลูกพืชผักมีเรื่องอันใดนางตื่นเต้นกัน
"ก็เพราะว่าข้าจะมาปลูกผักอยู่กับท่านอาจนแก่เฒ่าอย่างไรเจ้าค่ะ"
"ห่ะ! นี่เจ้าล้อเล่นใช่หรือไม่ "ท่านอาร้องเสียงหลงเมื่อรู้ว่าเสี่ยวลี่เหมยถามเพื่อการใด
"ไม่เจ้าค่ะ ที่ข้าเอ่ยออกมาเรื่องจริงทั้งหมดข้าไม่อยากแต่งงานออกเรือนจึงยื่นข้อเสนอกับท่านพ่อ หากข้าร่ำรวยได้ท่านพ่อจะไม่ให้ข้าแต่งงานและจะอยู่เช่นดั่งท่านอาอย่างไรเจ้าค่ะ"
"ลู่เพ่ยเอ๋ยการปลูกผักมิใช่เรื่องง่ายเจ้ากลับไปแต่งกับท่านอ๋องเจียวหั่วเถิด "
"ท่านอายังไม่เห็นข้าทำเลย จะรู้ได้อย่างไรเจ้าคะว่าข้าทำไม่ได้ตลอดทางที่เดินทางมาที่นี่ข้าครุ่นคิดมาอย่างดีแล้ว เช่นนั้นหลังจากกินอาหารเช้าเสร็จแล้วข้าจะเข้าตลาดนะเจ้าคะ จะไปเลือกหาเมล็ดผักด้วยตนเองเจ้าค่ะ" ท่านอาส่ายหน้าไปมาอย่างเหน็ดเหนื่อยหากนางอยากทำ นางก็จะยอมให้นางได้ลงมือทำเช่นกันจะได้รู้ว่าคุณหนูที่สุขสบายมาตลอดมาเช่นนี้คงเหน็ดเหนื่อยจนย่อท้อไปเอง
"เช่นนั้นก็ทำอย่างที่เจ้าต้องการเถิด นี่เจ้าไปดูที่ห้องครัวตอนนี้อาหารเสร็จหรือยัง หากเสร็จแล้วก็ยกมาที่ห้องโถงเถิดจะได้รีบออกไปตลาดกัน ข้าจะพาเจ้าไปเอง " เสี่ยวลี่เหมยยิ้มกว้างที่ท่านอาตามใจให้นางได้ทำทุกอย่างโดยไม่ขัด
"เจ้าค่ะ " ไป๋เซ่อโค้งคำนับรับคำสั่งซีเหนี่ยวและเดินไปที่ห้องครัว ส่วนซีเหนียวก็พาเสี่ยวลี่เหมยเดินดูผักที่นางได้ปลูกไว้
"ส่วนเจ้ามาทางนี้ ข้าจะพาเดินดูแปลงผักของข้า"
"เจ้าค่ะ " เสี่ยวลี่เหมยรีบเดินตามไปติด ๆ อย่างกระตือรือร้น ท่านอาอธิบายการปลูกการดูแลผักจากแมลงและพวกหนอนดิน เสี่ยวลี่เหมยเรียนรู้อย่างง่ายดาย นางเดินดูจนทั่วก็พบว่ามีสิ่งหนึ่งที่ท่านป้าไม่มีคือแตงกวากับผักกาด นางจงคิดว่าตนเองจะปลูกทั้งสองสิ่งนี้ ทั้งสองเดินดูผักไม่นานนักไป๋เซ่อก็ได้มาตามไปกินอาการเช้า
หลังจากกินอาหารเช้าเสร็จแล้วทั้งสี่คนก็พากันเดินทางมาที่ตลาด ตลาดยามนี้มีผู้คนสัญจรขวักไขว้ เสียงร้องเรียกลูกค้าปะปนกับเสียงต่อราคาดังกันเซ็งแซ่ ร้านค้ามากมายให้เลือกซื้อเสี่ยวลี่เหมยตื่นตาตื่นใจเดินดูอย่างตื่นเต้น สาวใช้ของนางก็ไม่ต่างกันฝั่งด้านท่านอาต้องคอยเดินตามหลังเสี่ยวลี่เหมยจนเหนื่อย
"ท่านอาข้าจะหาซื้อเมล็ดพักธ์ุจากที่ใดหรือเจ้าคะ" แม้ในปากของนางยังเคี้ยวซาลาเปาเต็มปากก็ยังคงหันไปถามท่านอา
"เจ้าสำรวมหน่อยเถิด เดี๋ยวก็สำลักติดคอ หากเจ้าอยากได้เมล็ดพันธ์ุผักจงเดินไปด้านหน้าเจอโรงเตี๊ยมเลี้ยวขวาก็พบร้านขายเมล็ดพันธ์ุผักแล้ว เจ้าไปได้หรือไม่? " ซีเหนี่ยวชี้ไปด้านหน้าเสี่ยวลี่เหมยมองตามปลายนิ้วที่ชี้ไปก็เห็นโรงเตี๊ยมตามที่ท่านอาบอก
"ได้เจ้าค่ะ ว่าแต่ท่านอาจะไปที่ใดหรือเจ้าคะ"
"ข้าจะเดินไปหาซื้อเนื้อสัตว์ไปทำอาหารเย็นอย่างไล่ะ "
"อืม เช่นนั้นลี่อินเจ้าไปกับท่านอาช่วยท่านอาถือของส่วนไป๋เซ่อตามข้ามา" เสี่ยวลี่เหมยสั่งสาวใช้ก่อนจะเดินไปตามที่ท่านอาบอกเมื่อครู่
"รอด้วยเจ้าค่ะคุณหนู " ไป๋เซ่อรีบเดินตามเสี่ยวลี่เหมยที่เดินเร็วกลัวว่าจะพลัดหลงกัน เมื่อมาถึงร้านเฒ่าแก่ออกมาต้อนรับเป็นอย่างดี
"คุณหนูต้องการอันใดหรือขอรับ "
"เฒ่าแก่ร้านท่านมีเหล็ดแตงกวากับผักกาดขายหรือไม่? "
"โฮ๊ะ ๆ ท่านมาถูกที่แล้วไม่ว่าคุณหนูต้องการอันใดที่ร้านเรามีทุกอย่าง ท่านเดินดูรอข้าสักครู่ข้าจะนำเมล็ดพันธ์ุที่ท่านต้องการมาให้ขอรับ" ใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสของเฒ่าแก่ร้านขายเมล็ดผักช่างดูเป็นชายชราใจดี ไม่แปลกที่มีลูกค้าเข้ามามากมาย เสี่ยวลี่เหมยเดินดูเมล็ดพันธ์ุอย่างเพลิดเพลินสักพักชายชราก็เดินออกมาพร้อมเม็ลดพันธ์ุที่เสี่ยวลี่เหมยต้องการ
"คุณหนูเมล็ดแตงกวาที่ท่านตามหาอยู่นี่แล้วขอรับ มาเลือกดูเถิด" เขาวางถาดบนโต๊ะต่อหน้านางเพื่อให้นางได้เลือกดู เสี่ยวลี่เหมยกับไป๋เซ่อมองพินิจอยู่นานเมล็ดแตงกวาเมล็ดใหญ่ไม่ถูกแมลงกัดหรือเบาจนเกินไปแสดงให้เห็นว่านี่คือเมล็กพันธ์ุใหม่หากซื้อไปไม่ผิดหวังแน่นอน
"เช่นนั้นข้าจะเอาเมล็ดพันธุ์นี้หนึ่งถ้วยตวง ผักกาดอีกหนึ่งถ้วยตวง"
"ได้ขอรับ ข้าจะจัดให้คุณหนูเดี๋ยวนี้ สองอย่างนี้ราคาห้าเหรียญทองขอรับ" เฒ่าแก่หันไปหยิบถุงกระดาษที่เขาตักตวงเสร็จแล้วมายื่นให้แก่เสี่ยวลี่เหมย ไป๋เซ่อจึงรีบไปหยิบมาถือด้วยตนเองส่วนเสี่ยวลี่เหมยนางล้วงนำถุงเงินที่นางเตรียมมานับมอบให้แก่เฒ่าแก่
"นี่ห้าเหรียญทองที่ท่านต้องการ"
"ขอบคุณคุณหนูมาก ๆ ขอรับ" เมื่อได้ตามที่ต้องการทั้งสองก็พากันเดินออกมาพบร้านขายผักขนาดใหญ่นี่อาจจะเป็นร้านที่ใหญ่ที่สุดในหมู่บ้านก็ว่าได้
บทที่ 11 คุณชายฮุ่ยเจิน“ไป๋เซ่อเจ้าดูสิร้านขายผักร้านนี้ดูจะใหญ่ที่สุดในตลาดเลยก็ว่าได้”"นั้นสิเจ้าคะ หากคุณหนูปลูกผักขายเข้าไปถามดูราคาดูมั้ยเจ้าคะ เผื่อผักที่คุณหนูปลูกเติบใหญ่จะได้นำมาขาย""นั้นสิงั้นเราเข้าไปถามกันเถิด " เสี่ยวลี่เหมยเดินย่างเท้าเข้ามาในร้านขายผักไม่ว่าจะมองไปทางใดก็มีทุกอย่างราวกับว่าที่นี่คือที่รับซื้อผักจากชาวบ้านมาวางขายอีกที"คุณหนูหาสิ่งใดหรือขอรับ" เฒ่าแก่ร้านขายเมล็ดพันธ์ุผู้เดิมก็เดินเข้ามาหาเสี่ยวลี่เหมยอีกรอบ"เอ๊ะ! นี่เฒ่าแก่ร้านเมื่อครู่มิใช่หรือ? ""อ้อ นี่ก็คืออีกร้านของข้าขอรับผู้คนแถวนี้รู้จักกันดี คุณหนูคงไม่ใช่คนแถวนี้ใช่หรือไม่ขอรับ" เสี่ยวลี่เหมยกวาดตามองอีกรอบก็พบว่าร้านทั้งสองร้านอยู่ติดกันแถมยังมีทางเข้าออกเชื่อมกันอีกด้วย"ใช่แล้วเฒ่าแก่ คุณหนูของข้าเดินทางมาจากที่อื่น จะมาอยู่ที่นี่สักระยะจะมาปลูกผักไม่ทราบว่าที่ร้านเฒ่าแก่นอกจะขายผักแล้วท่านรับซื้อผักจากชาวบ้านด้วยหรือไม่เจ้าคะ" ไป๋เซ่อได้เอ่ยถามเฒ่าแก่เพราะนางเป็นคนช่างพูดช่างจาเป็นที่ชอบใจของเสี่ยวลี่เหมยยิ่งนัก"แน่นอนอยู่แล้ว ร้านของข้าทั้งขายและรับซื้อขอรับหากผักของคุณหนูโตพอจนเก็บ
บทที่ 12 เรื่องแปลก ๆวันเวลาผ่านพ้นไปครึ่งเดือนที่เสี่ยวลี่เหมยมาอยู่กับท่านอา นางเหน็ดเหนื่อยอยู่กับการปลูกผักแต่ก็ทำให้นางมีความสุขมาก ๆ ที่ได้ลงมือทำด้วยตนเองจนตอนนี้ผักที่นางได้ลงมือหว่านเมล็ดเติบโตขึ้นมาเขียวขจี"ท่านอาเจ้าคะ ในเรือนของท่านอามีบ่าวที่เป็นชายกี่คนเจ้าคะ"เมื่อเช้าเสี่ยวลี่เหมยไปรดน้ำผักกับสาวใช้เห็นว่าตอนนี้แตงกวาของนางกำลังจะหาไม้เพื่อปีนป่ายจึงกลับมาหาท่านอาที่เรือนเพื่อถามหาบ่าวที่เป็นบุรุษ"ก็เพียงไม่กี่คน ทำไมหรือ"ซีเหนี่ยวกำลังตากผ้าอยู่หันมาถามหลานอย่างสงสัย"ข้าต้องการไม้ไผ่บนเขามาทำค้างให้กับแตงกวาเจ้าค่ะ ""เช่นนั้นข้าจะให้บ่าวนเรือนไปจัดการให้เจ้าเอง ว่าแต่เจ้าเถิดมาอยู่ที่นี่ก็หลายวันแล้วรู้สึกคิดถึงเรือนตระกูลลู่หรือไม่ ""ก็มีบ้างเจ้าค่ะ แต่อยู่ที่นี่ข้ามีความสุขมากนะเจ้าคะ ได้ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมากมายแถมยังได้กินอาหารฝีมือท่านอาทุกวันแต่มีเรื่องหนึ่งที่ข้าไม่เข้าใจเลยเจ้าตค่ะเมื่อตะวันตกดินทุกคนในหมู่บ้านทำไมถึงรีบเข้านอนกันเจ้าคะ หากจะบอกว่าเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานแต่ว่าจะเหนื่อยทุกวันทุกเรือนก็คงมิใช่นะเจ้าคะ "นางมาอยู่ที่นี้สักพักสังเกตเห็นชาวบ้าน
บทที่ 13 ไม่เชื่อว่าเป็นฝีมือปีศาจรุ่งเช้ามาเยือนเสี่ยวลี่เหมยตื่นแต่เช้ารีบไปหาท่านอาที่ห้องพร้อมคำถามเต็มหัวไปหมด นางเดินเข้ามาในเรือนพร้อมเรียกท่าอาจากด้านนอก"ท่านอาเจ้าคะ ข้าขอเข้าไปด้านในได้หรือไม่" นางเงียบฟังคำตอบไม่นานเสียงด้านในก็ดังออกมา"เข้ามาสิ" นางเปิดประตูเข้าไปด้านในห้องของท่านป้าตอนนี้นางกำลังแต่งกายอยู่ก็หันมาถามหลานสาวเหตุใดนางถึงมาหานางแต่เช่าตรู่"เจ้ามาหาแต่เช้ามีเรื่องอันใดหรือไม่""ท่านอาช่างรู้ใจข้าเสียจริง ก็เรื่องที่ท่านอาเล่าให้ข้าฟัง ข้าไปนอนครุ่นคิดทั้งคืนก็ยังค้างคาในใจอยากจะมาถามท่านอาให้รู้แจ้งเจ้าค่ะ""เรื่องอันใดอย่างนั้นหรือ""ท่านอาว่าเป็นฝีมือปีศาจจริง ๆ เช่นนั้นหรือเจ้าคะ แล้วเหตุใดถึงพึ่งมาปรากฎตัว ข้าคิดว่านี่น่าจะเป็นฝีมือของมนุษย์เสียมากกว่าเจ้าค่ะ""แล้วมนุษย์จะทำเช่นนี้ทำไมกันไม่เห็นจะได้ผลประโยชน์อันใด""แล้วปีศาจจะทำเรื่องนี้ทำไมเจ้าคะ ไม่เห็นจะได้ผลประโยชน์อันใดเช่นกัน " เสี่ยวลี่เหมยแย้งคำพูดของท่านอาจนเขานิ่งเงียบเพราะคิดตามที่เสี่ยวลี่เหมยเอ่ยออกมา"นั้นสิ เช่นนั้นเจ้าก็ออกไปกินอาหารเช้าเถิดเดี๋ยวข้าจะเข้าไปในหมู่บ้านสักครู่ " ท่าน
บทที่ 14 หนีไม่พ้นหลังจากนั้นท่านอาได้เข้าครัวทำอาหารพร้อมกับลี่อินปล่อยให้ไป๋เซ่ออยู่กับเสี่ยวลี่เหมย นางเก็บเรื่องที่ท่านอามาเล่าให้ฟังอย่างถ้วนทีก็ไม่เข้าใจสักนิด ทำไมชาวบ้านถึงหูเบาเชื่อเรื่องเช่นนี้ด้วย ปีศาจเหตุใดถึงต้องการพืชผักแทนที่จะเป็นเงินทอง ยิ่งคิดยิ่งทำให้ปวดหัว เสี่ยวลี่เหมยจึงได้ออกมาเดินรับลมด้านนอกไม่นานลี่อินก็ได้ตามไปกินอาหารเย็น หลังจากกินอาหารเย็นเสร็จทานอาก็ได้กำชับไม่ให้เสี่ยวลี่เหมยออกมาด้านนอกอีก เพราะนางเกรงว่าหลานสาวจะเสียสติหากได้พบปีศจจอย่างชายฉกรรจ์ที่เคยลบหลู่ราตรีมืดมิดเสียงทุกอย่างเงียบสงัดมีเพียงเสียงสายลมที่พัดผ่านกระพวนเสียงดังกระทบกันไปมา เสี่ยวลี่เหมยนอนอยู่บนเตียงนอนหนานุ่มด้วยปุ๋ยฝ้าย นางลืมตาพลิกตัวมาด้านขวาก็ต้องชะงักตกใจเมื่อเห็นท่านอ๋องมานอนเคียงคู่แถมยังมองนางด้วยสายตาหยาดเยิ้มยิ้มกว้างอ่อนหวาน อย่างไม่เคยพบเห็นมาก่อน"กรี๊ด! นี่ท่านอ๋องมาอยู่ในห้องหม่อมฉันได้อย่างไรเพคะ แถมไม่ใช่มาอยู่ธรรมดาแต่มานอนร่วมเตียงกับหม่อมฉัน ออกไปเดี๋ยวนี้นะเพคะ" เสี่ยวลี่เหมยกรี๊ดร้องใช้มือผลักไสให้ใบหน้าของจวิ้นอ๋องออกห่างตนพรางขยับกายหนี แต่ทว่าจวิ้นอ๋องจ
บทที่ 15 ไม่ต้อนรับ"ท่านอ๋องรอหม่อมฉันอยู่ที่นี่กับลู่เพ่ยสักครู่นะเจ้าคะ หม่อมฉันจะเข้าไปดูที่ห้องครัวสักครู่ ""ท่านอาอยู่ที่นี่กับท่านอ๋องเถอะเจ้าค่ะ ข้าจะเข้าไปดูที่ห้องครัวเอง" เสี่ยวลี่เหมยไม่อยากอยู่กับท่านอ๋องเพียงลำพังจึงรีบเสนอเข้าไปดูที่ห้องครัวเอง แต่เหมือนท่านอาจะไม่เข้าใจหลานรัก"เจ้าอยู่ดูแลปรนนิบัติท่านอ๋องนะดีแล้ว ส่วนเรื่องอาหารการกินข้าจะจัดการเอง ท่านอ๋องเดี๋ยวหม่อมฉันมานะเพคะ" เจียวหั่วยิ้มกว้าง พร้อมพยักหน้าให้แก่ซีเหนี่ยว นางโค้งคำนับพร้อมเดินออกไป ภายในห้องโถงตอนนี้เหลือเพียงท่านอ๋องกับเสี่ยวลี่เหมย บรรยากาศช่างอึดอัดเหลือทน"เจ้าคิดจะหนีข้าอย่างนั้นหรือ ข้าบอกแล้วอย่างไรว่าเจ้าหนีข้าไม่พ้นหรอกนะยอมกลับไปพร้อมกับข้าเถอะจะทนลำบากอย่างนี้อยู่ทำไมกัน " เขาเอ่ยพร้อมเดินเข้ามาใกล้นางเรื่อย ๆ'หนีมาไกลขนาดนี้ยังหาเจอ ท่านอ๋องบ้านี่ต้องเป็นเจ้ากรรมนายเวรของฉันแน่ ๆ' เสี่ยวลี่เหมยบ่นในใจก่อนจะยิ้มกว้างตอบท่านอ๋องอย่างชัดเจน"หม่อมฉันไม่ได้หนีเพคะ และหม่อมฉันจะไม่ยอมกลับไปกับท่านอ๋องหรอกนะเพคะ ตอนนี้หม่อมฉันมีความสุขไม่มีเรื่องอันใดให้ทุกข์ใจเท่าตอนที่เฝ้าตามถวายความรั
บทที่ 16 เสียงปริศนา"คุณหนูเจ้าคะ ท่านอ๋องมาที่นี่ได้อย่างไรเจ้าคะ ข้าได้ยินจากบ่าวรับใช้ว่าท่านอ๋องมาเพื่อตามคุณหนูกลับหรือว่าตอนนี้ท่านอ๋องคงมีใจให้คุณหนูขึ้นมาบ้างแล้วนะเจ้าคะ คุณหนูดีใจมั้ยเจ้าคะท่านอ๋องรักคุณหนูเหมือนที่คุณหนูต้องการแล้ว ข้าล่ะดีใจแทนคุณหนูที่สุดเลย หรือว่าที่คุณหนูถอนหมั้นแล้วมาอยู่ที่นี่เป็นแผนของคุณหนูเพื่อดูใจของท่านอ๋องเจ้าคะ ช่างเป็นความคิดที่ดีมาก ๆ เลย " ลี่อินที่เดินตามหลังเสี่ยวลี่เหมยได้เอ่ยขึ้น เมื่อนางได้ยินสาวใช้เอ่ยออกมาเช่นนั้นยิ่งไม่ชอบใจหงุดหงิดจนแทบเป็นบ้าหยุดเดินทันที ทำให้ลี่อินที่เดินมาติด ๆ ชนเข้าที่แผ่นหลังของนางอย่างจัง"โอ๊ย! คุณหนูหยุดเดินทำไมเจ้าคะ " ลี่อินใช้มือจับที่หัวลูบไปมาด้วยความเจ็บ เสี่ยวลี่เหมยถอนหายใจหันกลับมามองพร้อมเปล่งเสียงอย่างไม่พอใจกับสาวใช้"ข้าดูดีใจอย่างนั้นหรือ ข้าหนีมาเพื่อไม่อยากพบเจอท่านอ๋องอีก เพราะข้าเกลียดขี้หน้าท่านอ๋อง ไม่อยากพูดคุยพบเจอมีหรือที่ข้าจะดีใจที่จู่ ๆ เขาโผล่มาเช่นนี้ ข้าจะบอกเจ้าให้ได้รู้เอาไว้ต่อให้ใต้หล้านี้มีบุรุษเพียงผู้เดียวคือท่านอ๋องข้าก็ไม่สนใจ ฮึ! " เสี่ยวลี่เหมยปลดปล่อยอารมณ์ที่เก็บ
บทที่ 17 เมินเฉย"เจ้าเมินข้าอย่างนั้นหรือไม่ได้ยินที่ข้าเอ่ยกับเจ้าหรืออย่างไร" เจียวหั่วคว้ามือของเสี่ยวลี่เหมยให้หยุดเดิน ส่วนลี่อินกับไป๋เซ่อมองหน้ากันและไม่ขอเดินตามอยากให้ทั้งสองได้อยู่เพียงลำพัง ในใจของนางทั้งสองอยากให้คุณหนูของนางมีความสุข เพราะที่ผ่านมาคุณหนูของนางเฝ้ารักเฝ้าคะนึงหาท่านอ๋องอยู่ทุกค่ำวัน ในเมื่อตอนนี้ท่านอ๋องหันกลับมาสนใจคุณหนูของพวกนางจึงอยากให้คุณหนูสมหวังกับท่านอ๋องดั่งที่ใจปรารถนา"ต่อให้ท่านอ๋องจะอยู่ที่นี่จนแก่เฒ่าหม่อมฉันก็ไม่กลับไปกับท่านอ๋องหรอกนะเพคะ ล้มเลิกความตั้งใจนี่เถิด หม่อมฉันเองก็ไม่เข้าใจท่านอ๋องยิ่งนักเมื่อก่อนท่านอ๋องไม่เห็นสนใจหม่อมฉันเลยสักนิด แล้วทำไมตอนนี้ถึงได้อยากต้องาการให้หม่อมฉันไปเป็นพระชายาล่ะเพคะ น่าเบื่อเสียจริง" เสี่ยวลี่เหมยสบัดแขนของเขาเพื่อให้หลุดออก ในตอนแรกนางจะกลับไปที่เรือน แต่ทว่าตอนนี้นางรู้สึกไม่อยากอยู่ในที่ที่มีท่านอ๋องผู้นี้จึงเดินไปที่ตลาดโดยไม่รู้เลยว่าตอนนี้สาวใช้ไม่ได้ตามนางออกมา มีเพียงเจียวหั่วที่เดินตามนางมาติด ๆ"เดี๋ยวสิแล้วเจ้าจะให้ข้าทำเช่นใดถึงจะได้ความรักของเจ้าเช่นเดิม ""กลับจวนท่านอ๋องไปสิเพคะ แล้
บทที่ 18 หงุดหงิดหัวใจระหว่างรออาหารฮุ่ยเจินกับสี่ยวลี่เหมยพูดคุยกันอย่างถูกคอ ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยรอยยิ้มทำให้เจียวหั่วไม่พอใจ เวลาที่นางอยู่กับเขามีเพียงใบหน้าบูดบึึ้งไร้อารมณ์ เขาวางจอกน้ำชาที่ฮุ่ยเจินรินให้จนเกิดเสียงดัง ทำให้ทั้งสองมองมายังเจียวหั่ว"ท่านอ๋องน้ำชาร้อนไปหรือขอรับ""ใช่! น้ำชาที่นี่ช่างจืดชืดกลิ่นหอมของชาไม่มีสักนิด" เขาไม่ถูกชะตากับฮุ่ยเจินจึงเอ่ยอย่างไม่รักษาน้ำใจ ทำให้เสี่ยวลี่เหมยหมั่นไส้หยิบจอกน้ำชาของเจียวหั่วพร้อมกระดกเข้าปากอึก!"ท่านอ๋องหม่อมฉันว่าลิ้นของท่านน่าจะมีปัญหานะเพคะ น้ำชาไม่ได้ร้อนเลยสักนิดแถมยังหอมกลิ่นชาอ่อน ๆ ไม่เห็นเป็นเช่นที่ท่านอ๋องเอ่ยมาเลยอท่านอ๋องลองชิมน้ำชาของหม่อมฉันอีกรอบสิเพคะ""ไม่! ไม่ว่าน้ำชาจอกใดก็รสชาติเหมือนกัน ""เช่นนั้นก็แล้วแต่ท่านอ๋องเลยเพคะ คุณชายฮุ่ยเจินอาหารที่โรงเตี๊ยมแห่งนี้อร่อยมากเลยถูกใจข้าที่สุด ""หากลู่เพ่ยถูกใจวันหลังข้าจะพาท่านมาอีก ว่าแต่ลู่เพ่ยท่านมาอยู่ที่หมู่บ้านเล็ก ๆ รู้สึกเบื่อบ้างหรือไม่ ""ไม่เลย วัน ๆ ข้าต้องไปดูผักที่ปลูกไว้ไม่มีเวลาให้เบื่อหรอกนะ""ท่านปลูกผักด้วยหรือ ข้าชักอยากเห็นแล้วสิสตรีท
บทที่ 40 ให้โอกาสความรักอีกครั้งหลายวันต่อมาเสี่ยวลี่เหมยยังคงไม่ฟื้นนางนอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงอย่างไม่รู้สึกตัว ไป๋เซ่อลี่อินคอยพลัดเปลี่ยนกันมาเปลี่ยนเสื้อผ้าเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้ตลอด"เมื่อไหร่เจ้าจะฟื้นเสียที รีบฟื้นมาเถิดต่อให้เจ้าจำข้าไม่ได้หรือชิงชังข้าเพียงใดข้าก็ยอม "เจียวหั่วจับมือของนางแน่นมองใบหน้าที่หลับสนิทพร้อมอ้อนวอนให้นางฟื้น ตอนนี้เข้าสู่ฤดูหนาวแล้วลมพัดเข้ามาทางหน้าต่างให้ความรู้สึกหนาวเย็น เจียวหั่ววางมือของนางไว้แนบกายนางก่อนจะเดินไปปิดหน้าต่างเพื่อไม่ให้ลมเข้ามาได้ ก่อนจะเดินมาที่เตียงพร้อมดึงผ้าห่มมาห่มกายให้นาง"เจ้ารีบฟื้นมาเสียที ต่อให้เจ้าอวบอ้วนเช่นดั่งเมื่อก่อน ข้าสัญญาว่าข้าจะไม่เฉยชาเมินเฉยต่อเจ้า เจ้ารอคอยให้ข้าสนใจเจ้ามาตลอดมิใช่หรือ? และข้าก็มีเรื่องอีกเรื่องที่ยังไม่ได้บอกเจ้าเลย ว่าตอนนี้ข้ารักเจ้าเพียงใด แม้ว่าข้าจะรู้ตัวช้าแต่ตอนนี้ทั้งหัวใจของข้ามีเพียงเจ้า เจ้าได้ยินหรือไม่พระชายาของข้า""จริงหรือ แล้วรักหม่อมฉันเมื่อไหร่กันเพคะ" น้ำเสียงแหบพร่าได้เอ่ยขึ้นเสี่ยวลี่เหมยนางรู้สึกตัวในตอนแรกนางคิดว่าตนเองจะตายไปแล้วเสียอีกแต่ทว่านางได้ไปพบกับลู่เพ่ยตั
บทที่ 39 เสี่ยวลี่เหมยได้รับบาดเจ็บฝั่งด้านซีเหนี่ยวกับสาวใช้ที่ร้อนรนหัวใจเป็นห่วงเสี่ยวลี่เหมยนานมากแล้วที่นางกับท่านอ๋องหายตัวไปไม่กลับมาเสียที ซีเหนี่ยวไม่อาจจะนั่งติดเก้าอี้เดินไปมาอย่างร้อนใจ ไม่นานนักเสียงฝีเท้าของม้าได้วิ่งเข้ามาในเรือนทุกคนรีบเดินออกไปดูก็พบว่าบัดนี้ท่านอ๋องได้อุ้มร่างของเสี่ยวลี่เหมยที่หมดสติเสื้อผ้าเปื้อนไปด้วยเลือด ซีเหนี่ยวทรุดตัวลงเป็นลมที่เห็นหลานสาวของตนเองได้รับบาดเจ็บ"ซีเหนี่ยว ซีเหนี่ยวเจ้าคะลี่อินรีบพาซีเหยี่ยวไปนั่งก่อนข้าจะรีบไปดูคุณหนู" แม้ว่าพวกนางแตกตื่นแต่ตอนนี้นายหญิงของตนต่างดูแลตนเองไม่ได้ไป๋เซ่อรีบตั้งสติเรียกลี่อินที่ยืนตัวสั่นเทาดวงตาเริ่มสั่นคลอนคล้ายจะร้องให้ตั้งสติ"คุณหนู คุณหนูของข้า ฮื้อ ๆ""นี่ลี่อินเจ้าจั้งสติพาซีเหนี่ยวเข้าไปด้านในก่อนเร็วเข้า ""อื้อ ๆ " ลี่อินปาดน้าตาประคองร่างซีเหนี่ยวเข้าไปด้านในส่วนไป๋เซ่อรีบวิ่งมาหาเสี่ยวลี่เหมย"ท่านอ๋องเกิดอะไรขึ้นกับคุณหนูเพคะ""ลู่เพ่ยได้รับบาดเจ็บ เจ้ารีบไปเตรียมน้ำพร้อมกับผ้าเช็ดเลือดมาให้ข้าโดยเร็ว " เจียวหั่วอุ้มร่างของเสี่ยวลี่ไปที่ห้องพักของนาง ไป๋เซ่อรีบไปทำตามที่ท่านอ๋องบอกอ
บทที่ 38 ข้าไม่ได้ตั้งใจทั้งสองต่อสู้ฟาดฟันเพลงดาบกันอย่างดุเดือดฝุ่นคละคลุ้งเต็มอากาศ เจียวหั่วแม้จะมีฝีมือเก่งกาจแต่ทว่าฮุ่ยเจินมีแรงเหลือมากกว่า ทำให้เขาได้พลาดท่าโดนฟันเข้าที่แขนข้างขวาจนล้มลงกับพื้น ดาบกระเด็นออกไปไกลห่างตัว"แฮ่ก ๆ! " เสียงเหนื่อยหอบของทั้งสองดังระงม"ฮุ่ยเจินต่อให้เจ้าจะฆ่าพวกข้าได้แต่เจ้าเปลี่ยนแปลงทุกอย่างไม่ได้หรอกนะ ตอนนี้ทางการได้จับกุมท่านพ่อของเจ้ายึดของที่เจ้าได้ขโมยจากชาวบ้านเพื่อเป็นหลักฐานแล้ว อีกไม่นานทหารของข้ากำลังตาม เจ้าหนีไม่พ้นหรอกนะ" เพราะเห็นว่ามีเพียงฮุ่ยเจินเพียงคนเดียวเจียวหั่วจึงสั่งให้องครักษ์พร้อมกำลังทหารไปที่เรือนของท่านพ่อฮุ่ยเจินเพราะเกรงกลัวว่าเขาจะหนีไปเสียก่อน"หยุดปากไปซ่ะ หากข้าถูกจับอย่างไรก็ต้องตายสู้ฆ่าพวกท่านทั้งสองให้ตายไปพร้อมกับข้าไม่ดีกว่าหรือ?? " เสี่ยวลี่เหมยเห็นเจียวหั่วได้รับบาดเจ็บรีบวิ่งเข้ามาห้ามฮุ่ยเจินทันที"คุณชายฮุ่ยเจิน!! หยุดเถอะนะข้าไม่เชื่อหรอกว่าท่านเป็นคนไม่ดี ข้ารู้ว่าที่ผ่านมาท่านไม่ได้แสร้งเป็นคนดีความรู้สึกที่ท่านมีต่อพวกเรานั้นเป็นความรู้สึกของท่านจริง ๆ ไหนท่านเคยบอกรักข้า ความรู้สึกที่ท่านมีต่อ
บทที่ 37 ผู้อยู่เบื้องหลังแต่ทันใดนั้นเองก่อนที่ดาบจะฟาดลงมาที่บ่าของเสี่ยวลี่เหมยมีดาบอีกด้ามมาขวางเสียก่อน เจียวหั่วดีใจที่เสี่ยวลี่เหมยปลอดภัยแม้ไม่รู้ว่าบุรุษที่โผล่เข้ามาช่วยนั้นคือผู้ใด เขาสวมชุดสีดำคล้าย ๆ คนกลุ่มนี้ปกปิดใบหน้าด้วยเช่นกันแต่ก็มองออกเพราะชุดเนื้อผ้าคนละแบบ"ทำไมต้องมาขวางด้วย ข้าจจะจัดการสตรีนางนี้" ชายที่จะฆ่าเสี่ยวลี่เหมยเอ่ยถามชายที่ปรากฏตัว แต่ทว่าเขาไม่ตอบอันใดฟาดดาบไม่ยั้งจนชายชุดดำล้มลงพลาดท่า เขารีบคว้าตัวเสี่ยวลี่เหมยขึ้นมาจะพาหนี เสี่ยวลี่เหมยลืมตาเพราะได้ยินเสียงต่อสู้กันนางมองอย่างแน่ชัดผู้ที่มาช่วยคือคุณชายฮุ่ยเจินไม่ผิดแน่ เมื่อเขาคว้าตัวของนางมาประคองจะให้นางขึ้นหลังจะได้หลบหนีทัน เสี่ยวลี่เหมยยอมขึ้นหลังเขาแต่โดยดี เจียวหั่วจึงตะโกนมาบอกเขา"ข้าไม่รู้ว่าท่านเป็นใครแต่ท่านหวังดีกับนางข้าฝากให้ท่านดูแลนางอย่าให้ได้รับบาดเจ็บ" เขาจับเสี่ยวลี่เหมยขึ้นหลังพยักหน้าให้เจียวหั่วก่อนจะวิ่งหนี้ไปโดยเร็ว ส่วนเจียวหั่วก็ยังคงต่อสู้กับชายที่เหลืออีกคน จนในที่สุดเจียวหั่วก็ได้จัดการจนไม่เหลือสักคนไม่นานกลุ่มขององครักษ์พร้อมทหารที่ตามมาจากวังหลวงได้เดินทางมาอ
บทที่ 36 ตามคนร้ายเสี่ยวลี่เหมยวิ่งสุดแรงจนตามไปพบกลุ่มชายที่ปกปิดใบหน้าพูดคุยกันเพื่อแยกย้ายเพราะตอนนี้ถูกจับได้เสียแล้ว"ตอนนี้พวกเราต้องแยกย้ายก่อน เมื่อครู่ข้าถูกคุณหนูของเรือนนั้นจับได้""ทำไมเจ้าถึงทำงานพลาดเช่นนี้งั้นเอาตามนี้แยกย้ายก่อนจะถูกจับได้อีก" เสี่ยวลี่เหมยจะออกไปยืนกรานแต่ก็ต้องถูกองครักษ์ของเจียวหั่วเข้ามาห้ามเสียก่อน"คุณหนูอย่าทำอันใดบุ่มบ่ามคนพวกนี้มีมากกว่าที่เราเห็นขอรับ จะเกิดอันตรายได้""แล้วเจ้าจะให้ข้าทำเช่นใดจะให้ปล่อยไปอย่างนั้นหรือแล้วก็ไปทำเช่นนี้กับชาวบ้านอีกอย่างนั้นหรือ""ลู่เพ่ยเจ้าใจเย็นก่อน องครักษ์ของข้าได้ตรวจตราดูคนพวกนี้มีมากกว่าเรา ข้าว่าเรากลับเรือนไปตั้งหลักเสียก่อน ตอนนี้ท่านอาของเจ้าเป็นห่วงเจ้ามากเลยรู้หรือไม่!! " เจียวหั่วที่ตามมาถึงคว้ามือของเสี่ยวลี่เหมยให้หยุดตามคนพวกนั้น"ไม่เพคะ หากท่านอ๋องเกรงกลัวคนพวกนั้นก็ทรงปล่อยหม่อมฉัน เพราะหม่อมฉันไม่กลัวเลยสักนิดการตายเจ็บเพียงตอนที่เรายังไม่หมดลม แต่เมื่อเราหมดสติเมื่อไหร่ก็ไม่เจ็บปวดอันใดแล้วเพคะ " สายตาดุดันน้ำเสียงแข็งกร้าวของเสี่ยวลี่เหมยเปล่งออกมาจนเจียวหั่วต้องตกใจ เขาไม่เคยเห็นสีหน้
บทที่ 35 แปลงผักถูกทำลายมาถึงเรือนท่านอารีบปิดประตูเรือนอย่างเร่งรีบ ก่อนจะจับเสี่ยวลี่เหมยให้นั่งที่เก้าอี้เพื่อพูดให้หลานสาวตนเองเปลี่ยนใจ"ลู่เพ่ยเจ้าเห็นหรือไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น ข้าว่าเจ้าเปลี่ยนใจเก็บผักไปขายที่ตลาดหมู่บ้านเราเถอะนะ แม้จะได้ไม่มากแต่ยังดีกว่าไม่ได้ข้ากลัวว่าเจ้าจะเจอเช่นดั่งท่านลุง" ซีเหนี่ยวอ้อนวอนขอให้เสี่ยวลี่เหมยเปลี่ยนใจแต่มีหรือที่นางจะกลัวและยอมเปลี่ยนใจอย่างที่ท่านอาขอ"ไม่เจ้าค่ะ ข้าไม่เปลี่ยนใจข้าไม่เชื่อหรอกนะเจ้าคะว่าเรื่องนี้เป็นฝีมือของปีศาจบ้าบออะไรนั่น คนที่ได้ประโยชน์มากที่สุดในเรื่องนี้คือเฒ่าแก่เจ้าของร้านรับซื้อผักมิใช่หรือเจ้าคะ ไม่แน่นี่อาจจะเป็นฝีมือของเขาก็ได้ ข้าจะทำให้ชาวบ้านได้เห็นเองว่าหากข้าไปขายที่อื่นจะไม่มีอันใดเกิดขึ้น" เสี่ยวลีเหมยโมโหแทนชายชราที่ถูกทำลายแปลงผัก และนางก็ไม่กลัวที่ท่านผู้เฒ่าข่มขู่อีกด้วย "ไม่ได้นะ!!! หากเกิดเรื่องขึ้นกับเจ้าข้าจะเอาหน้าที่ไหนไปพบท่านพี่""ซีเหนี่ยวท่านเบาใจเถิด หากนางอยากจะนำผักไปขายที่หมู่บ้านอื่นข้าจะไปเป็นเพื่อนนางเองท่านไม่ต้องห่วง หากมีข้าอยู่เคียงข้างข้าไม่ให้นางได้รับอันตรายแน่นอน " เสี่ยว
บทที่ 34 เพราะไม่เชื่อฟังเจียวหั่วเดินมาถึงห้องโถงเห็นเสี่ยวลี่เหมยจัดโต๊ะรินน้ำสำหรับทุกคนเขารอยยิ้มบนใบหน้าช่างทำให้เขามีความสุขเป็นอย่างมากที่เห็นรอยยิ้มของนางเช่นนี้ "วันนี้มีเรื่องอันใดดี ๆ หรือไม่เจ้าถึงได้จัดเตรียมทุกอย่างด้วยตนเองเช่นนี้" "ท่านอ๋องมาแล้วหรือเพคะ เชิญนั่งที่เก้าอี้ก่อนนะเพคะ""เจ้าไม่สบายหรืออย่างไรถึงได้เอ่ยวาจาดี ๆกับข้าเช่นนี้ข้าชักไม่ชินแล้วสิ" "เฮ้อ!! นี่ท่านอ๋องวันนี้หม่อมฉันอารมณ์ดี แถมยังดีมากท่านอ๋องช่วยอย่าเอ่ยวาจากวนใจให้หม่อมฉันมีอารมณ์ขุ่นมัวได้มั้ยเพคะ""ก็ได้ ๆ ข้าชักอยากรู้แล้วสิว่าเจ้าอารมณ์ดีเรื่องอะไรกัน""รอท่านอามาก่อนเพคะหม่อมฉันจะได้เล่าครั้งเดียว"พูดจบท่านอาได้เดินมาพอดี "ข้ามาแล้ว เจ้ามีเรื่องอันใดดี ๆ รีบเล่ามาเถิดข้าเองก็อยากรู้เช่นกัน"ซีเหนี่ยวนั่งลงที่เก้าอี้ของตนเอง เสี่ยวลี่เหมยตักข้าวใส่ถ้วยให้ทุกคนนั่งลงที่ตนเองพร้อมเอ่ยปากเล่าให้ทุกคนฟัง"เช่นนั้นกินไปด้วยเล่าไปด้วยแล้วกัน วันนี้ข้าได้ออกหาร้านรับซื้อผักมาเจ้าค่ะ มีร้านที่ให้ราคาดีกว่าที่ตลาดของหมู่บ้านเราเสียอีกนะเจ้าคะท่านอา ข้าว่าจะนำไปขายที่นั่นเจ้าค่ะ""ดี! นับว่าเป็
บทที่ 33 หาตลาดสองวันผ่านมา เสี่ยวลี่เหมยเดินหาตลาดจนทั่วแต่ในหมู่บ้านนี้มีเพียงที่เดียวที่รับซื้อคือร้านที่นางไปซื้อเมล็ดพันธุ์นั้นเอง แต่ทว่าราคาเอาเปรียบคนปลูกเหลือเกิน "เฮ้อ ! สงสัยวันรุ่งขึ้นข้าคงต้องเดินทางไปที่หมู่บ้านข้าง ๆแล้วล่ะ""ทำไมเจ้าคะ " ลี่อินสงสัยได้เอ่ยถามขึ้นมา"เจ้าไม่เห็นหรือไงว่าเฒ่าแก่ให้ราคาเราเพียงเล็กน้อย การที่เราจะขายของเราต้องหาตลาดร้านที่รับซื้อในราคาที่สูงกว่าเราถึงจะคุ้มค่าได้กำไร ""อืม คุณหนูของข้าช่างรอบรู้เรื่องกำไรด้วยหรือเจ้าคะ""ของเช่นนี้ต้องรู้อยู่แล้วสิ" "คุยเรื่องอันใดกันอยู่หรือใบหน้าของท่านถึงได้ดูเคร่งเครียดเช่นนี้" ฮุ่ยเจินเดินเข้ามาหาเสี่ยวลี่เหมยที่นั่งอยู่ศาลารับลมในเรือนในมือเต็มไปด้วยผักมากมาย "โอ๊ะ ! คุณชายฮุ่ยเจินมาตั้งแต่เมื่อไหร่กันแล้วในมือนั้นคืออะไรหรือเจ้าคะ""ที่เรือนของข้าตอนนี้มีผักมากมายจึงนำมาฝากท่านนะขอรับ"พูดจบเขาก็ยื่นตะกร้าผักให้กับลี่อิน "ต้องขอบน้ำใจคุณชาย เชิญนั่งก่อนเถอะเจ้าคะไป๋เซ่อเจ้าเข้าไปที่ห้องครัวนำน้ำชามาต้อนรับคุณชายสิ" "เจ้าค่ะ " ทั้งลี่อินกับไป๋เซ่อเดินไปทางห้องครัวฮุ่ยเจินนั่งลงที่เก้าอี้พร้อ
บทที่ 32 ข้าเป็นห่วงเจ้าฝั่งด้านเสี่ยวลี่เหมยกำลังชื่นชมผักของนางที่ตอนนี้เติบโตจนใกล้จะเก็บเกี่ยว "ไป๋เซ่อเจ้าดูสิตอนนี้ผักของข้าเติบโตมากพอที่จะเก็บเกี่ยวแล้ว อื้มเช่นนั้นวันพรุ้งนี้เราออกไปที่ตลาดเพื่อหาที่ขายผักกันเถิด ""ได้เจ้าค่ะ " ไป๋เซ่อดีใจกับคุณหนูจริง ๆ ที่นางปลูกผักสำเร็จและงดงามขนาดนี้แต่แล้วสายตาของนางก็มองไปเห็นเจียวหั่วที่กำลังเดินตรงมาทางนี้ "คุณหนูท่านอ๋องมาเจ้าค่ะ""มาทำไมกันนะ คนกำลังอารมณ์ดี" เสี่ยวลี่เหมยหุบยิ้มทันทีพร้อมลุกขึ้นเดินไปหาเจียวหั่ว"ท่านอ๋องมาที่นี่ทำไมกันเพคะ ""ข้ามีเรื่องต้องคุยกับเจ้าไป๋เซ่อเจ้ากลับไปรอที่เรือนก่อน ""เพคะท่านอ๋อง" ไป๋เซ่อน้อมรับคำสั่งโค้งคำนับลงพร้อมเดินจากไปปล่อยให้ทั้งสองได้อยู่ด้วยกัน "ท่านอ๋องมีเรื่องสำคัญอันใดจะเอ่ยกับหม่อมฉันหรือเพคะ""เมื่อคืนนี้เจ้าออกไปที่ใดมา เป็นเพียงสตรีร่างเล็กอย่างเจ้าไม่รู้จักเกรงกลัวเลยอย่างนั้นหรือ" เสี่ยวลี่เหมยชะงักในคำพูดของเจียวหั่วเล็กน้อยเขารู้ได้อย่างไรว่านางออกจากเรือนไป นางเริ่มเอะใจเดินเข้ามาใกล้จ้องใบหน้าของเจียวหั่วมองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า ใช้มือวัดความสูงจนเขาแปลกใจการกระทำของน