หรงหรงเพียงพยักหน้าให้ชายชราผู้นี้ ในเมื่อเขาสำนึกผิด นางก็ต้องให้อภัยถึงจะถูก เทียบกับความผิดของแม่เฒ่าอิ๋น ช่างแตกต่างกัน ราวฟ้ากับเหว หรงหรงกำลังจะเดินออกไป นางหยุดชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหันกลับไปบอกลุงเหลียง "ท่านลุง...คนที่ท่านควรขอโทษมากที่สุด คือท่านป้า..ไม่ใช่ข้า ท่านควรรีบไปปรับความเข้า
หรงหรงรีบเร่งฝีเท้า กว่านางจะเดินกลับถึงเรือน ก็เป็นเวลาในยามซวี(19.00-21.00) แสงตะเกียงริบหรี่ ส่องสะท้อนออกมาตามบ้านเรือนแต่ละหลังคาเรือน ราวกับแสงของหิ่งห้อยระยิบระยับ สตรีร่างบางเดินมาหยุดที่ทางเข้าหน้าประตูเรือนของตนเอง ด้วยท่าทางที่เหนื่อยล้า ก่อนจะรีบปรับลมหายใจให้เป็นปกติที่สุด เพราะในระหว
"หรง....หรงเอ๋อร์....เอามันออกไป รีบนำมันออกไปทิ้งบัดเดี๋ยวนี้ รู้หรือไม่ ว่าเจ้านำตัวหายนะเจ้ามาในหมู่บ้านของเรา...." นางเมิงยังคงอกสั่นขวัญแขวน เอ่ยออกไปอย่างสั่นกลัว หรงหรงนึกขึ้นได้ในทันที ว่านางลืมบอกอะไรกับมารดาไป พอได้ยินมารดาเอ่ยเช่นนั้นออกมา นางจึงมีสีหน้าที่งุนงง สงสัยขึ้นมา "ข้าไม่เข้
หลังจากจัดการธุระเรื่องหมาป่าหิมะเสร็จลงได้ หรงหรงรีบจัดแจงเก็บสมุนไพรล้ำค่า กับโสมภูเขาเป็นที่เรียบร้อย ต่อมาจึงได้ทำการรักษาบาดแผลให้หมาป่าหิมะตัวน้อยในทันที "อาเฉิน...ตอนนี้มันเป็นสัตว์เลี้ยงของข้า แล้วยังเป็นสัตว์เลี้ยงตัวแรกของข้าอีกด้วย เรามาตั้งชื่อให้เจ้าขนปุกปุยตัวน้อยนี้กันเถอะ" หรงหรงยิ
โม่เฉินมองดูสตรีตรงหน้าด้วยแววตาที่ลึกซึ้ง ตั้งแต่เขาได้รู้จักว่านางเชี่ยวชาญด้านการแพทย์ เขาไม่เคยเคลือบแคลงการรักษาของนางแม้แต่น้อย แต่สตรีตรงหน้ากับทำให้เขาทึ่งยิ่งกว่า สตรีนางนี้ยังสามารถรู้จักวิธีใช้พิษได้อย่างน่าอัศจรรย์อีกด้วยหรือนี้....? นางช่างเก่งกาจเกินไปแล้วจริงๆ..... "ทำไมรึ....ท่า
"หรงเอ๋อร์!!!!!! ข้าพึ่งจะบอกไปอยู่หยกๆ ชายหญิงไม่ควรใกล้ชิดกัน เจ้าลูกคนนี้นี้จริงๆเลย..." โม่เฉินปล่อยให้สตรีตรงหน้ากระทำตามใจอย่างที่นางต้องการโดยมิได้ห้ามปราม เมื่อหรงหรงได้ยินเสียงนางเมิงตะคอกใส่ นางยังจะทนนิ่งเฉยอยู่ได้อย่างไร นางรีบวิ่งหายออกไปทางประตูอย่างรวดเร็วทันที โม่เฉินที่กำลังน
นางเมิงตื่นนอนก่อนเป็นคนแรก นางลุกขึ้นนั่งชันเข่าเพื่อบิดขี้เกียจซ้ายทีขวาที ก่อนจะเตรียมตัวออกไปก่อไฟหุงข้าว สายตานางพลันเหลือบไปเห็นอะไรสีขาวๆดูเลือนลาง คล้ายกำลังนอนคดตัวอยู่ในอ้อมกอดของบุตรสาวอย่างไม่รู้สึกรู้สา "ว้ายยย!!!...."นางเมิงตกใจร้องเสียงหลงออกมาในทันที เมื่อเห็นตัวอันตรายตรงหน้าเข้า
"เจ้าจะเอานมวัวไปทำอะไร...? ลุงเหย้ามองมาที่นาง ด้วยแววตาที่สงสัย "ข้าจะเอาไปให้ลูกแมวป่าที่พึ่งเกิดใหม่นะเจ้าคะ พอดีว่าแม่มันพึ่งจะตายจากไป จึงไม่มีนมให้ลูกแมวป่ากิน... " หรงหรงพูดออกไปด้วยท่าทีที่น่าสงสาร "ถ้าเช่นนั้น เจ้ารอลุงสักประเดี๋ยว" ลุงเหย้ารีบเดินหายไปจากทางหลังบ้าน ไม่นานเขาเดินกลับม
"ไม่ได้!!!...รีบกลับไปพักผ่อนเถิด อย่าได้ทำให้ข้าต้องเป็นห่วงเลยนะ.." กล่าวจบโม่เฉินรีบใช้วิชาตัวเบา อุ้มสตรีตรงหน้าหายไปกลางอากาศอย่างว่องไว "ว้ายยย....นับวันท่านช่างมีนิสัยคล้ายคลึงกับท่านแม่ของข้า กังวลไม่เข้าเรื่อง...." ถึงปากจะบ่นออกไป แต่หรงหรงก็ใช้มือกอดคอโม่เฉินเอาไว้แน่น "สำหรับข้า ร่าง
หมอหญิงคนงามรีบสวมใส่อาภรณ์แล้วเดินจั้มฝีเท้าตามอี้ฟูออกไปอย่างร้อนใจ แต่พอเดินไปถึงจุดเกิดเหตุ นางถึงกับขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างขุ่นเคือง เมื่อภาพที่เห็นตรงหน้า กับสิ่งที่คิดในหัว ช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว *......* "นี้มันอะไรกันเจ้าอ้วน เจ้ากลายเป็นเด็กเลี้ยงแกะไปตั้งแต่เมื่อไหร่....? "ปัดโธ่...
โม่เฉินเงียบไปชั่วขณะ ก็จะเอ่ยออกมาเพื่อให้สตรีตรงหน้าคลายกังวล "ข้าก็อยู่แต่ในห้องตำรา จะออกไปที่ไหนได้ หมู่บ้านแห่งนี้ข้าไม่รู้จักมักคุ้นกับใครเลยสักคน เจ้าเองก็น่าจะรู้ดี..." "ให้มันจริงเถอะ อาเฉิน....หากท่านกล้าโกหกข้า ท่านก็น่าจะรู้ผลที่จะตามมาว่าเป็นเช่นไร...? หรงหรงจดจ้องมองปฎิกริยาของคนตร
ฤดูเหมันต์ผ่านพ้นไป ฤดูกาลใหม่หมุนเปลี่ยนเข้ามาแทนที่ หมอหญิงคนงามกำลังนอนแช่น้ำอยู่ในอ่างอาบน้ำภายในห้องอย่างสบายใจ "หรงเอ๋อร์...อยู่หรือไม่...? เสียงเรียกแผ่วเบาตะโกนเข้ามา แต่อีกคนภายในห้องกับกำลังนอนหลับตาพริ้มแช่อยู่ในอ่างน้ำอย่างผ่อนคลาย พร้อมทั้งกำลังฮัมเพลง โดยที่ไม่ได้สนใจเสียงรอบข้าง เ
หลังจากพูดคุยกับหญิงชรานานพอสมควร โม่เฉินก็มุ่งหน้าเดินกลับไปห้องของตนเอง แต่เมื่อเปิดประตูห้องเข้าไป เขาก็เห็นสตรีร่างบาง กำลังนั่งรอเขาพร้อมกับสัตว์เลี้ยงตัวน้อย อย่างใจจดใจจ่อ "ตกลงท่านคุยเรื่องอะไรตั้งครึ่งค่อนวันกับท่านแม่กันแน่...? โม่เฉินยังไม่ทันจะปิดประตูห้อง สตรีร่างบางก็ยิงคำถามขึ้นอย่า
หรงหรงเดินนำหน้าเข้ามาก่อน ยังไม่ทันที่นางจะเอ่ยปากพูด หญิงชราก็รีบออกคำสั่ง ด้วยน้ำเสียงที่แข็งกร้าวขึ้นทันที "คุกเข่า..." บุตรสาวทำตามคำสั่งมารดาโดยไม่ปริปาก พร้อมกับบุรุษต้นเรื่อง ทั้งสองคนคุกเข่าลงพร้อมกัน โดยไม่ปริปากแม้แต่คนเดียว..... "ท่านพี่ ท่านจงมองดูลูกสาวตัวดีของท่านเอาเถิด พวกเขาส
"ไปเถอะน๊า....เดี๋ยวพอถึงก็รู้เองแหละ..." เสียงถกเถียงของทั้งสองคนดังอยู่ภายในห้อง พลันมีเสียงเคาะประตูแทรกขึ้นมา ทำให้ทั้งสองคนหันไปมองทางเดียวกัน อย่างลุ้นระทึก พูดถึงโจโฉ โจโฉก็มา..... "หรงเอ๋อร์...นั้นลูกตื่นแล้วรึ....? เสียงหญิงชราตะโกนเรียก เมื่อเห็นว่าได้เวลาไปตรวจคนไข้ แต่ยังไม่เห็นแม
"ยังจะมีหน้ามายิ้มอีก ท่านเกิดปีหมาหรืออย่างไร ร่องรอยพวกนี้ท่านจงใจฝากไว้บนเรือนร่างข้าชัดๆ...." หรงหรงค่อยๆเลื่อนสายตามองไปทั่วเรือนรางของตนเองอย่างอ่อนระทวย ก่อนจะหันไปมองโม่เฉิน ฉายแววตาเขียวปั๊ดใส่เขา "ข้าเกิดปีกระต่าย มิได้เกิดปีหมาเสียหน่อย..." "โม่เฉิน....นี้ท่านกำลังยอกย้อนคำพูดข้าอยู่ส
"อ่ะ...." หรงเอ๋อร์ส่งเสียงร้องครางออกมาเบาๆด้วยความเจ็บ ริมฝีปากหนาเลื่อนลงจากคอไปที่กระดูกไหปลาร้า ร่างกายหรงหรงเหมือนถูกกระตุ้น ก่อนจะใช้มือทั้งสองข้างกอดรัดเขาเอาไว้แน่น "หรงเอ๋อร์ รีบปล่อยมือออกบัดเดี๋ยวนี้.." โม่เฉินกำลังจะพูดต่อ แต่ถูกหรงหรงดึงเขาลงมาจูบแทน พลันมุมปากของบุรุษยกยิ้มขึ้นม