นางเมิงตื่นนอนก่อนเป็นคนแรก นางลุกขึ้นนั่งชันเข่าเพื่อบิดขี้เกียจซ้ายทีขวาที ก่อนจะเตรียมตัวออกไปก่อไฟหุงข้าว สายตานางพลันเหลือบไปเห็นอะไรสีขาวๆดูเลือนลาง คล้ายกำลังนอนคดตัวอยู่ในอ้อมกอดของบุตรสาวอย่างไม่รู้สึกรู้สา "ว้ายยย!!!...."นางเมิงตกใจร้องเสียงหลงออกมาในทันที เมื่อเห็นตัวอันตรายตรงหน้าเข้า
"เจ้าจะเอานมวัวไปทำอะไร...? ลุงเหย้ามองมาที่นาง ด้วยแววตาที่สงสัย "ข้าจะเอาไปให้ลูกแมวป่าที่พึ่งเกิดใหม่นะเจ้าคะ พอดีว่าแม่มันพึ่งจะตายจากไป จึงไม่มีนมให้ลูกแมวป่ากิน... " หรงหรงพูดออกไปด้วยท่าทีที่น่าสงสาร "ถ้าเช่นนั้น เจ้ารอลุงสักประเดี๋ยว" ลุงเหย้ารีบเดินหายไปจากทางหลังบ้าน ไม่นานเขาเดินกลับม
เมื่อได้ยินบุตรสาวเอ่ยคำขอร้อง มารดาจึงยอมรับปากแต่โดยดี ก่อนจะเอ่ยบอกกับบุตรสาวขึ้นต่อ "หรงเอ๋อร์....ลูกนำเอาบุรุษที่ไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้าที่ไหนก็ไม่รู้ เข้ามาอยู่ในเรือนของเรา แม่ก็ว่าแย่แล้ว แต่นี้ยังจะเอาตัวอันตรายเข้ามาอยู่ในเรือนเพิ่ม เจ้าอยากจะเห็นแม่ตายก่อนวัยอันควรไปก่อนอย่างนั้นหรือ...
"โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง" เสี่ยวเพ้ารีบเห่าขึ้นมา ท่าทีมันเหมือนกำลังตอบโต้กลับ ยิงทำให้หรงหรงรู้สึกขบขัน "พวกท่านทำราวกับเป็นคู่กัดกันมาแต่ชาติปางก่อน.." "เจ้าไม่เห็นมันทำท่าขู่ข้าหรอกหรือ ข้าก็เป็นเจ้านายมันครึ่งหนึ่งเหมือนกัน แต่ดูมันทำกับข้าสิ ทำราวกับข้าเป็นโจรผู้ร้าย ที่กำลังจะมาลักพาตัวเจ้าไป..."
แสงแดดเริ่มสาดส่องในยามสาย บรรยากาศยังคงเย็นอยู่ไม่จางหาย ไม่นานเกวียนรถก็มาหยุดอยู่ที่หน้าประตูเมืองอีกครั้ง "นางหนู....ตื่นได้แล้ว พวกเรามาถึงหน้าประตูแล้ว" ลุงจางตะโกนปลุกหรงหรงทันที่เมื่อจอดเทียบเกวียน "หือ.....ฮ้าววว.....ถึงแล้วรึเจ้าค่ะท่านลุง...? หรงหรงตื่นขึ้นมานั่งก่อน นางหาวออกมาสองสาม
"เจ้าหนึ่ง...เจ้าน่าจะอายุมากสุด ต่อไปเรื่องการซื้อจ่ายอาหารการกิน รวมถึงสิ่งของทุกอย่างต้องผ่านมือเจ้าเป็นคนแรก และรวมไปถึงค่าใช้จ่ายทุกอย่างภายในเรือน เจ้าต้องเป็นคนดูแลเองทั้งหมด" หรงหรงเอ่ยออกไปเมื่อคิดขึ้นมาได้ "แต่....ข้า.....ไม่รู้หนังสือ..." เจ้าหนึ่งพูดจาตะกุกตะกักขึ้น "เรื่องนั่นมิใช่ป
หรงหรงเริ่มจัดเเจงกับห่อยาสมุนไพร แยกออกเป็นหมวดหมู่ เพื่อให้หยิบจับได้ง่ายเวลาแจกจ่ายยา นี้ถือว่าเป็นประสบการณ์ครั้งแรกของนาง ตั้งแต่ได้ข้ามภพมา ลุงหมิ่งพึ่งจะกลับมาจากจ่ายตลาด เขาเดินถือของพะรุงพะรังเข้ามาในเรือน เมื่อสายตาพลันเหลือบไปเห็นหรงหรงกำลังจัดเตรียมสิ่งของอยู่ เขาจึงรีบเอ่ยถามอย่างดีใจ
"ขอบคุณท่านหมอกับพ่อหนุ่มทั้งสามมากเจ้าคะ.." ยายเฒ่ารีบขอบคุณอย่างจริงใจ ก่อนจะเดินจากไป "คนต่อไป..." น้ำเสียงเจ้าหนึ่งดูกระตือรือร้นดูตั้งอกตั้งใจทำหน้าที่เป็นอย่างมาก นี้เป็นครั้งแรกที่เขาถือว่าตัวเองทำตัวมีประโยชน์ขึ้นมา "เสียงไอสั่นและมีกลิ่นสาบ เสมหะข้นมาก น่าจะเป็นไข้หวัดร้อนชื้น เอายากลับ
"ยินดีด้วย..." "ยินดีด้วยนะหรงหรง..." "ยินดีด้วยขอรับท่านหมอ.." "หรงหรง...ป้าขอแสดงความยินดีด้วยนะ.." "ยินดีด้วยนะขอรับพี่สาว.." "พวกข้าทุกคน ขอแสดงความยินดีด้วยนะลูกพี่ใหญ่..." เสียงแขกเหรื่อในงาน ต่างแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาวกันอย่างคับคั่ง ตอนนี้บรรยากาศภายในงานเริ่มคึกครื้น ด้วยเสีย
"ข้า...จะเฝ้ารอวันนั้น..." โม่เฉินก้มลงไปใกล้เพื่อกระซิบบอกหรงหรง คำพูดเขาไม่ได้รู้สึกเกรงกลัวนางเลยสักนิด "ชิ....เหตใดข้าถึงรู้สึกว่า ข้าเสียเปรียบท่านอยู่ฝ่ายเดียว" หรงหรงพูดไปตามที่คิด "เสียเปรียบ ข้าต่างหากที่เป็นฝ่ายเสียเปรียบ ทั่วทั้งร่างกายของข้า มีแต่ฝีมือของหรงเอ๋อร์ทั้งสิ้น มิใช่รึ....
ช่วงสายของอีกวัน หรงหรงตื่นออกมาพร้อมกับโม่เฉิน ทำให้อี้ฟูที่กำลังจะเดินผ่านไปอีกทาง หันไปเห็นเข้าพอดี เขาจึงรีบเอ่ยออกไปอย่างหมั่นไส้ "เฮ้ออ....พวกเจ้าสองคนจะตัวติดกันไปถึงไหน เห็นใจคนโสดอย่างข้าบ้างเถอะ ข้าเห็นแล้วจะอ้วก..." อี้ฟูทำท่าทีราวกับคนแพ้ท้อง "หุบปาก..." โม่เฉินหันไปกล่าวเสียงแข็งใส่
แววตาของบุรุษร่างสูง มองดูสตรีทั้งสองตรงหน้าอย่างขบขัน หากบุตรสาวของหญิงชรารู้ว่าตนเองยังบริสุทธิ์อยู่ นางคงต้องหาเรื่องละเลยทิ้งเขาไปอีกเป็นแน่ โม่เฉินจึงทำเพียงแค่ไหลไปตามน้ำ ปล่อยให้หรงหรงคิดแบบนั้นไป นี้ถือว่าเป็นเรื่องดีที่สุดสำหรับโม่เฉิน "เอาละๆ แม่ก็หลงดีใจว่าแม่จะได้อุ้มหลานซะอีก..." "แต่
หรงหรงและโม่เฉิน ทั้งสองคนนั่งคุกเข่าลงไปพร้อมกัน ก่อนที่หญิงชราจะหันไปมองโม่เฉิน ที่กำลังวางกล่องสี่เหลี่ยมที่ถืออยู่ในมือ วางลงไว้ ณ เบื้องหน้าของหญิงชราด้วยสีหน้าจริงจัง หญิงชราเมื่อเห็นทั้งสองคนกำลังคุกเข่าหันมาทางนาง หญิงชราก็ได้แต่ขมวดคิ้วเป็นปมเข้าหากันอย่างนึกแปลกใจ "ท่านแม่ นี้คือเงินค่
"ไม่ได้!!!...รีบกลับไปพักผ่อนเถิด อย่าได้ทำให้ข้าต้องเป็นห่วงเลยนะ.." กล่าวจบโม่เฉินรีบใช้วิชาตัวเบา อุ้มสตรีตรงหน้าหายไปกลางอากาศอย่างว่องไว "ว้ายยย....นับวันท่านช่างมีนิสัยคล้ายคลึงกับท่านแม่ของข้า กังวลไม่เข้าเรื่อง...." ถึงปากจะบ่นออกไป แต่หรงหรงก็ใช้มือกอดคอโม่เฉินเอาไว้แน่น "สำหรับข้า ร่าง
หมอหญิงคนงามรีบสวมใส่อาภรณ์แล้วเดินจั้มฝีเท้าตามอี้ฟูออกไปอย่างร้อนใจ แต่พอเดินไปถึงจุดเกิดเหตุ นางถึงกับขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างขุ่นเคือง เมื่อภาพที่เห็นตรงหน้า กับสิ่งที่คิดในหัว ช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว *......* "นี้มันอะไรกันเจ้าอ้วน เจ้ากลายเป็นเด็กเลี้ยงแกะไปตั้งแต่เมื่อไหร่....? "ปัดโธ่...
โม่เฉินเงียบไปชั่วขณะ ก็จะเอ่ยออกมาเพื่อให้สตรีตรงหน้าคลายกังวล "ข้าก็อยู่แต่ในห้องตำรา จะออกไปที่ไหนได้ หมู่บ้านแห่งนี้ข้าไม่รู้จักมักคุ้นกับใครเลยสักคน เจ้าเองก็น่าจะรู้ดี..." "ให้มันจริงเถอะ อาเฉิน....หากท่านกล้าโกหกข้า ท่านก็น่าจะรู้ผลที่จะตามมาว่าเป็นเช่นไร...? หรงหรงจดจ้องมองปฎิกริยาของคนตร
ฤดูเหมันต์ผ่านพ้นไป ฤดูกาลใหม่หมุนเปลี่ยนเข้ามาแทนที่ หมอหญิงคนงามกำลังนอนแช่น้ำอยู่ในอ่างอาบน้ำภายในห้องอย่างสบายใจ "หรงเอ๋อร์...อยู่หรือไม่...? เสียงเรียกแผ่วเบาตะโกนเข้ามา แต่อีกคนภายในห้องกับกำลังนอนหลับตาพริ้มแช่อยู่ในอ่างน้ำอย่างผ่อนคลาย พร้อมทั้งกำลังฮัมเพลง โดยที่ไม่ได้สนใจเสียงรอบข้าง เ