ตอนที่ 13 ถือโอกาส กู้เฉียวจิงเดินกลับเรือนด้วยอาการเหม่อเล็กน้อย มือในแขนเสื้อกำเงินยี่สิบตำลึงที่พึ่งได้จากกัวเล่อเยี่ยนเบา ๆ สิ่งที่นางต้องการมิใช่เงิน เสิ่นเยี่ยหงมีทั้งพลังและอำนาจ หากนางจะสลัดบุรุษผู้นี้จะต้องอาศัยบารมีผู้อื่นร่วมด้วย ไม่อยากนั้นหากหนีออกไปโดยไม่วางแผนอาจจะถูกจับกลับมาไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวันอีก สร้างความสัมพันธ์กับผู้ที่มีวาสนาสูงสุดในที่นี่นับว่าเป็นหนทางที่ดีและสะดวก ตอนนี้นับได้ว่าเป้าหมายสำเร็จในระดับหนึ่ง เมื่อมาถึงเรือนสาวใช้ก็ช่วยกู้เฉียวจิงปรับเปลี่ยนชุด เสร็จแล้วนางก็หันไปบอกสาวใช้ทั้งสอง “ข้าอยากจะนอนพักสักครู่ พวกเจ้าออกไปเถอะ” เมื่อประตูปิดสนิท กู้เฉียวจิงจึงเริ่มออกกำลังกายแบบเสริมกล้ามเนื้อ “ถึงแม้จะไม่วรยุทธ์หรือวิชาตัวเบา อย่างไรก็ไม่อาจปล่อยให้กลายเป็นสตรีอ่อนแอได้” ทว่าร่างกายของกู้เฉียวจิงบอบบางยิ่งนัก แขนขาไร้เรี่ยวแรง จับไปส่วนใดก็ล้วนอ่อนนุ่ม กู้เฉียวจิงรู้สึกขัดใจ นางจึงหวังจะบริหารสร้างกล้ามเนื้อขึ้นมาใหม่ ทว่า ยืดแขนขาไม่กี่ท่า เสียงหายใจของนางก็กระชั้นถี่ เมื่อรู้สึกว่าไม่ไหว
ตอนที่ 14 ยอมรับข้อเสนอ ระหว่างเส้นทางกลับจวน กู้เฉียวจิงนิ่งเงียบไร้วาจาไปตลอดทาง นางครุ่นคิดถึงตัวละครชื่อหลีเซียวหยวน ผู้บัญชาการองค์รักษ์เสื้อแพร คนผู้นี้ไม่ใช่มิตรและศัตรูของเสิ่นเยี่ยหง แต่นับได้ว่าเป็นกำลังสำคัญขององค์รัชทายาท ฉากพบกันในวันนี้ในนิยายไม่ได้เอ่ยถึง จากการถูกหลีเซียวหยวนหยอกล้อ นี้คงเป็นสาเหตุที่ทำให้กู้เฉียวจิงกลายเป็นอนุ และคงเป็นนางที่บีบคั้นตนเองเสียมากกว่า เมื่อกลับมาถึงจวน กู้เฉียวจิงปรับเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเสร็จก็ไล่สาวใช้ออกไป บอกว่าต้องการอยู่คนเดียวนางเปิดมิติตู้ยากำลังจะหยิบยาล้างแผลสดพลันสายตามองไปเห็นขวดยาภารกิจ เป็นฮูหยินเอกเสิ่นเยี่ยหง ปรากฏชื่อยาขึ้นมาแล้ว ชะล้างไขกระดูก หญิงสาวขมวดครุ่นคิด แล้วหยิบขวดยาออกมาอ่านสรรพคุณ ช่วยล้างไขกระดูกสร้างพลังลมปราณ วิชาตัวเบาโฉบบินดั่งนกอินทรีย์ พลังเยี่ยงเจ้ายุทธภพ กู้เฉียวจิง เบิกตากว้างอ้าปากค้างไปชั่วขณะ นี้ยิ่งกว่าคำว่าโกงเสียอีก นับว่าคุณสมบัติของยาทำให้ กู้เฉียวจิง รู้สึกหวั่นไหวเป็นอย่างมากยิ่งเกิดเหตุการณ์เฉกวันนี้ยิ่งทำให้มีวรยุทธ์ติดกาย และในฐานะนักฆ่ามาก่อน ความฝัน
ตอนที่ 15 แสร้งปล่อยเพื่อจับ รุ่งอรุณมาเยือนแต่กู้เฉียวจิงก็ยังไม่ได้สติ อี้เหมยรู้สึกผิดปกติจึงไปตามหมอตรวจอาการ หมอฟางลู่หลังจากจับชีพจรเสร็จก็เอ่ยพูดขึ้น “แม่นางกู้เพียงอ่อนล้าปล่อยให้นางพักผ่อนและดื่มยาบำรุง อาการก็จะดีขึ้น”อี้เหมยพยักหน้ารับคำ หลังจากท่านหมอกลับไปนางก็ไปกำชับห้องครัวตุ๋นน้ำแกงบำรุงร่างกายรอกู้เฉียวจิงตื่นเมื่อประตูปิดลง ดวงตาของกู้เฉียวจิงก็พลันลืมขึ้น ตั้งแต่ตอนที่หมอมาตรวจร่างกาย นางก็รู้สึกตัวแต่เสแสร้างหลับต่อ ดวงตาใสกระจ่างกะพริบถี่ เพื่อมองเบื้องหน้าอีกครั้งชัดมากทุกอย่างเห็นชัด แม้กระทั่งเสียงที่อยู่รอบนอกเรือน เสียงองค์รักษ์ตรวจเวรยามด้านข้าง ไกลออกไปหากตั้งใจฟังนางยังได้ยินเสียงบุตรชายของนาง มหัศจรรย์ยิ่งนัก กู้เฉียวจิงสะทกสะท้านใจ นี่คือความพิเศษของคนฝึกวรยุทธ์หรือ นางขยับกายลุกขึ้นรู้สึกถึงร่างกายที่เบาคล้ายจะล่องลอยได้ พอนางลุกขึ้นยืนฝีเท้าก็แผ่วเบาไร้เสียง กู้เฉียวจิงรู้สึกคอแห้ง กำลังจะรินน้ำดื่ม น้ำในกา เย็นเสียแล้ว จึงเอ่ยพูดขึ้น “ใครอยู่ข้างนอกบ้าง”อี้หลิงที่รอปรนนิบัติก็รีบพูดขึ้น “ข้าน้อยเองเจ้าค่ะ”จากนั้นก็
ตอนที่ 16 หน้ากากมนุษย์กัวเล่อเยี่ยนเงยหน้ามองระเบียงที่ทอดยาวด้านหน้า วันนี้คาดว่าคนผู้นั้นคงจะเอ่ยเรื่องนั้นอย่างแน่นอน นางลอบถอนหายใจเบา ๆ จากนั้นก็เร่งฝีเท้าจนกระทั่งมาถึงตำหนักบูรพา ขันทีหน้าประตูเมื่อมองเห็นนางก็รีบเดินเข้ามาทักทาย“คุณหนูกัวองค์รัชทายาทรับสั่งเอาไว้หากท่านมาแล้วให้เข้าไปได้เลยขอรับ”“ขอบคุณมู่กงกง” เสียงพูดคุยหน้าประตูทำให้ชิงโยวเหลียนวางพู่กันลง นัยน์ตาดอกท้อทอประกายอ่อนโยน “หม่อมฉันถวายพระพรองค์รัชทายาทเพคะ” “เล่อ เล่อ เจ้ามาแล้ว มานี่สิ เราได้ชาชิงเหลียนมาใหม่ ข้ารับรองว่าเจ้าต้องชอบแน่ๆ”องค์รัชทายาท ผู้ที่มีมีใบหน้าหล่อเหลาไร้ที่ติ เรียวคิ้วคมดุจกระบี่ นัยน์ตาพราวกลิ่นอายสูงศักดิ์เปี่ยมด้วยวาสนา แววตาที่จ้องมองมาก็กระชากวิญญาณของผู้คนได้ ทว่ากัวเล่อเยี่ยนกลับพินิจมองดูแค่สีหน้าของชายหนุ่มเท่านั้น “ขอบพระทัยพระองค์ วันนี้ทรงมีอาการเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ”ชิงโยวเหลียนพยักหน้าเบา ๆ “ดีขึ้นมาบ้างแล้ว ยาลูกกลอน ที่เจ้าให้มาใหม่ทำให้เราหายใจโล่งขึ้น อาการแน่นหน้าอกก็ลดลงด้วยนะ”กัวเล่อเยี่ยน เดินไปคุกเข่าด้านข้างชิงโยวเหยียน กำลังจะเอ่ยขออภัย ชา
ตอนที่ 17 ข้าไม่ยินยอมเป็นอนุใกล้ที่จะกำหนดวันแต่งเกาเหยาชุนเข้าจวน เพื่อป้องกันความผิดพลาดและก่อนที่จะพูดคุยกับบุตรชาย เสิ่นฮูหยินจึงเรียกกู้เฉียวจิงเข้าไปพูดคุย“ข้าคารวะเสิ่นฮูหยินเจ้าค่ะ”กู้เฉียวจิงยังคงมีอัปกริยาเรียบร้อย แม้จะไม่ตรงแบบแต่ก็มิได้ดูเคอะเขินน่าขายหน้า เสิ่นฮูหยินหรี่ตามองพินิจอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้น“ลุกขึ้นเถอะ เจ้ามาอยู่ที่จวนได้หลายวันแล้ว เป็นอย่างไรบ้าง คุ้นเคยกับที่นี่บ้างแล้วหรือยัง”“เรียนฮูหยิน ข้าเริ่มคุ้นเคยบ้างแล้วเจ้าค่ะ”เสิ่นฮูหยินถอนหายใจเบา ๆ คล้ายมีเรื่องหนักใจบางอย่าง “ในเมื่อเริ่มคุ้นเคยแล้ว เจ้าคงพอรู้อยู่บ้างกระมังว่าท่านหงอี้โหวคือบรรดาศักดิ์ที่พระราชทาน มีฐานะสูงส่งฮูหยินเอกก็ต้องเพียบพร้อมในทุกๆ ด้าน...ข้าพูดเช่นนี้อย่าหาว่าข้าใจดำเลยนะ”กู้เฉียวจิง เงยหน้ามองเสิ่นฮูหยินคล้ายตกตะลึงอยู่บ้าง จากนั้นนางก็ก้มหน้าพูดตอบ“ข้าเข้าใจเจ้าค่ะ...ข้าตระหนักถึงฐานะของตนเองดี ตั้งแต่คืนแรกที่มาอยู่ที่นี่ ข้าก็ได้บอกเจตนากับท่านโหวไปแล้ว ว่าต้องกลับหมู่บ้านอี้หลาง แม้ว่าข้าจะเป็นหญิงชาวบ้าน ทว่าก็ไม่เคยคิดจะเป็นอนุผู้ใด” ดวงตาของเ
ตอนที่ 18 มีเงินเท่านั้น กู้เฉียวจิงเดินกลับเรือน ภายใจใจอดเยาะเย้ยตนเองไม่ได้ เมื่อไรกันนะที่นางกลายเป็นคนอ่อนไหวเช่นนี้ เมื่อถึงเรือนนางก็บอกให้อี้เหมยและอี้หลิงออกจากห้องไป แววตาเหม่อลอยสีหน้าเย็นชาไม่อยากจะคุยกับผู้ใดและต้องการจะอยู่คนเดียวทำให้บ่าวทั้งสองไม่เอ่ยถามสิ่งอื่นเพียงแต่ช่วยปิดประตู “ชิงชิง ชูชู” กู้เฉียวจิงเอ่ยเรียกองค์รักษ์เงา เพียงพริบตาภายในห้องก็ปรากฏร่างของสตรีสองคน การเคลื่อนไหวที่ไร้สุ้มเสียงเช่นนี้ สร้างความตื่นเต้นให้กับกู้เฉียวจิงไม่น้อย นางยิ้มบางพลางคิดในใจนางควรใส่ใจสิ่งนี้มากกว่า จึงพูดขึ้น “ข้าจะออกไปข้างนอก” จากนั้นนางก็ยื่นหน้ากากที่มีใบหน้าคล้ายคลึงกับนางออกไปให้ชิงชิง จากนั้นก็หยิบหน้ากากอีกอันสวมให้กับตนเอง หน้ากากหนังมนุษย์แม้จะรู้สึกระคายเคืองอยู่บ้างแต่ก็นับว่าใช้งานได้ดี ยากที่จะมีคนมองเห็นว่านางสวมหน้ากาก นางหมุนเอียงหน้าไปมามองดูความละเอียดอีกครั้งก่อนจะหันไปพยักหน้าให้กับชูชูแล้วเร่นกายออกไป กู้เฉียวจิงทะยานออกไปยังนอกเมืองเมื่อไปถึงเชิงเขา ไร้ผู้คน นางก็พูดขึ้น “ข้าอยากจะวัด
ตอนที่ 19 หลบไปสักพัก กลับถึงเรือนกู้เฉียวจิงก็บอกอี้เหมยว่าต้องการอาบน้ำพร้อมสั่งคน มื้อเย็นนี้นางจะไปทานมื้อเย็นที่เรือนกู้ซวิน ภาพมารดาแต่งกายอย่างประณีตงดงามด้วยชุดผ้าไหมสีฟ้าครามปักขอบด้วยดิ้นเงินพลิ้วไหว ปักปิ่นหยกดูสง่างาม กลิ่นอายเฉียบคมกว่ายามดั่งผู้ฝึกวรยุทธ์ กู้ซวินรู้สึกว่าวันนี้มารดาไม่เหมือนเดิม กู้เฉียวจิงตักเนื้อเป็ดตุ๋นที่นางสั่งให้ครัวทำให้เป็นพิเศษ ใส่จานบุตรชายแล้วพูดขึ้น “เมื่อก่อนแม่เห็นว่าเจ้าอยากทานมาก เจ้าลองทานดูสิ ใช่รสชาติที่ซวินต้องการหรือไม่” เด็กหนุ่มรีบคีบเนื้อเป็ดเข้าปากทันที “อร่อยมากขอรับท่านแม่...ข้าชอบยิ่งนัก” “ชอบก็ต้องทานเยอะ ๆ” กลิ่นอายรอบกายสองแม่ลูกเต็มไปด้วยความสุขและอบอุ่น กู้เฉียวจิงสอบถามเรื่องเรียนบุตรชาย ได้ยินว่าเขาได้รับคำชมจากอาจารย์อยู่บ่อยครั้งก็ทำให้นางรู้สึกอิ่มเอมยิ่งนัก การมีบุตรมันเป็นแบบนี้เอง “เมื่อเช้านี้...ท่านพ่อมาหาข้าด้วยขอรับท่านแม่” กู้เฉียวจิงชะงักไปเล็กน้อย นางรู้ว่าเพราะหายไปหลายปีเสิ่นเยี่ยหงมีสิ่งที่ต้องจัดการมากมาย แม้กระทั่งเ
ตอนที่ 20 รับปากกันและกัน ใจของเสิ่นฮูหยินก็เหมือนถูกแขวนอยู่บนที่สูง มันแกว่งไปมาไม่สงบ จนกระทั่งรถม้าของกู้เฉียวจิงออกเดินทางไปแล้วเกือบสองชั่วยาม แล้วไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปลี่ยนแปลง นางถึงถอนหายลมหายใจวางใจลงได้ “วันนี้เจ้าไปเรียกกู้ซวินมารับมื้อเย็นที่เรือนใหญ่ด้วย” นางเอ่ยสั่งกับบ่าวคนสนิทด้วยเสียงผ่อนคลาย “เจ้าค่ะ ฟังจากแม่นมหลู่คุณชายน้อยทั้งสุภาพอ่อนโยน ขยันตั้งใจศึกษาเล่าเรียน แล้วยังได้รับคำชมว่าเป็นเด็กที่มีไหวพริบดีและปัญญาเฉียบแหลมอาจารย์เซี่ยเลยนะคะ เจ้าค่ะ” เสิ่นฮูหยินพยักหน้า “เด็กคนนี้ ได้เจอครั้งแรกเพียงแค่แววตาก็ฉายแววฉลาดเฉลียว แม้จะถูกเลี้ยงดูนอกจวนตั้งแต่เด็กก็ไม่สูญเสียคนของตระกูลเสิ่นแม้แต่น้อย” ลัวมามายิ้มพูดประจบ “ขนาดทั้งโหวสูญเสียความทรงจำ ยังสามารถเลี้ยงดูบุตรชายได้ดียิ่ง ต่อไปฮูหยินก็ไม่ต้องกังวลแล้วนะคะเจ้าค่ะ” เสิ่นฮูหยินยิ้มอย่างพอใจ เหมือนจะหลงลืมกู้เฉียวจิงผู้เป็นมารดาที่เลี้ยงดูและยังมีชีวิตอยู่พวกเขาลืมไปเสียแล้ว ก่อนหน้านี้ที่กรมกลาโหม แม้เสิ่นเยี่ยหงจะไม่ได้สั่งให้ค
ตอนที่ 60 บทบาทต่อไป...พี่สาวจงหงวน “คุณหนูหวัง...ถึงโรงเตี้ยมแล้วขอรับ” เสียงพ่อบ้านเฉิงเอ่ยเรียกอยู่นอกรถม้าด้วยเสียงนอบน้อม พอหวังเว่ยซินเลิกผ้าม่านออกมา ก็เจอป้ายขนาดใหญ่หอสุราชิงเห่อ โรงเตี้ยมใหญ่ที่สุดในเมืองหลวง หวังเว่ยซินถอนหายใจ มิต้องสงสัย คงไม่ได้เริ่มต้นแบบชีวิตสตรีชาวบ้านทั่วไปเสียแล้ว นางก้าวลงรถม้า พ่อบ้านเฉิงก็เอ่ยบอก “นี่คือเอกสารของท่านขอรับ เมื่อสักครู่คนเอามาส่งแล้ว” “รบกวนแล้ว ขอบคุณพ่อบ้านเฉิงมาก” “มิกล้า มิกล้า โรงเตี้ยมนี้ท่านจะอยู่กี่คืนก็ได้ขอรับ ข้าได้สั่งเถ้าแก่เอาไว้ ให้ไปเก็บที่จวน” หวังเว่ยซินยิ้มแห้ง ๆ จากนั้นก็เอ่ย “ท่านพ่อบ้านมีภารกิจมากมาย ขอมิอาจรบกวนนาน ส่งข้าเท่านี้พอ” พ่อบ้านเฉิงถูกกำชับว่าอย่าขัดใจคนเบื้องหน้าเด็ดขาด ก็รีบขานรับทันที “มิกล้า มิกล้า เช่นนั้นบ่าวขอตัว” “เดินทางดี ๆ เจ้าค่ะ” จากนั้นเสี่ยวเอ้อก็มารับหน้าต่อ “คุณหนูเชิญด้านในเจ้าค่ะ ตอนนี้ท่านจะไปยังห้องพักหรือว่านั่งผ่อนคลายที่ระเบียงชั้นสองก่อนดีเจ้าคะ”
ตอนที่ 59 เรื่องราวสามปีที่ผ่านมา รถม้าจวนหงอี้กงเคลื่อนผ่านพร้อมกับเสียงกระซิบแผ่วเบา “นี่...รู้ไหมฮูหยินหงอี้กง จัดหาอนุให้กับท่านหงอี้กงอีกแล้วนะ ...ได้ยินว่าเป็นเด็กสาววัยแรกแย้มงดงามที่สุดที่หอซิงเซียงอุตสาหามาได้ แต่จวนหงอี้กงก็ยังมาแย่งคนไป” “จริงหรือ” น้ำเสียงที่เอ่ยถามดูตื่นเต้นประหลาดที่สุด ทำให้คนเล่ายิ่งรู้สึกสนุกอยากเล่าต่อ “แน่นอน...ข้าได้เห็นกลับตา ว่าไปแล้วก็อิจฉาหงอี้กงยิ่งนัก ได้ฮูหยินที่ใจกว้างดั่งมหาสมุทรเช่นนี้ หากเป็นข้าก็อยากจะกลับเรือนทุกวัน” “คริ คริ” เสียงสตรีผู้หนึ่งหัวเราะขบขันพลางกล่าว “ท่านมีเงินเลี้ยงพวกนางหรือข้าได้ยินว่า ฮูหยินหงอี้กงใช้เงินเดือนละหลายหมื่นตำลึงหมดไปกับอาภรณ์เครื่องประดับของเหล่าอนุเชียวนะ” บุรุษผู้นั้นรู้สึกละอาย ตอนนี้แค่นี้ภรรยากับบุตรสองคนก็แสนอัตคัดจะมีปัญญาที่ไหนไปเลี้ยงอนุเพิ่มบุรุษผู้หนึ่ง หมุนจอกชาในมือไปมาคิดไปแล้วก็แปลกใจดูเหมือนว่า อยู่ ๆ เขาก็ตัดใจจากกู้เฉียวจิงได้ ส่วนฮูหยินอันดับหนึ่งที่ทุกคนให้ตำแหน่งมา “ฮื้อ ฮื้อ ท่านไปไหนมา
ตอนที่ 58 ฮูหยินกู้..ถามข่าวท่านทุกวัน ซูซูมอง เด็กสาวประครองหีบขึ้นมา เมื่อเปิดดูข้างในก็เจอตั๋วเงินหลายแผ่นพร้อมเครื่องประตับจำนวนหนึ่ง ดวงตาโตของเด็กสาวเจิดจ้าใต้แสงดาว ได้ยินเสียงนางพึมพำ“เงินของข้า เงินของข้า”นางประคองหีบออกมาอย่างประคบประหงม ลุกขึ้นปัดฝุ่นเล็กน้อยแล้วหันมากล่าว “ซูซู ขอบคุณท่านมากนะที่เฝ้าให้ข้า ข้าไปล่ะ”ในขณะที่กำลังจะทะยานออกไป ซูซูก็เอ่ย“คุณหนูช้าก่อน” จากนั้นก็ไปขวางหน้าเด็กสาว เห็นสีหน้าที่ดูแตกตื่นแววตาสังหารประกายวาบขึ้น นางก็รีบอธิบาย “ป่ะ...เปล่า ข้ามิได้ห้ามที่ท่านจะนำหีบไป เพียงแต่ฮูหยินสั่งเอาไว้ หากท่านมาก็ให้เชิญท่านไปพบ”เด็กสาวพยักหน้าเข้าใจยิ้มตอบ “ฝากบอกนางว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี เอาไว้ทุกอย่างลงตัวแล้วข้าจะไป”หวังเว่ยซินกำลังจะก้าวเท้าออกไปก็ถูกซูซูขวางอีกรอบ “คุณหนูจะบอกข้าได้หรือไม่...ว่าท่านพักอยู่ที่ใด เผื่อหากว่าฮูหยินถามข้าจะได้มีข้อมูล...ฮูหยินถามข่าวท่านทุกวันเลยนะเจ้าคะ สีหน้านางดูเป็นกังวลและห่วงใยท่านมาก” แววตาของหวังเว่ยซินมีประกายอบอุ่นขึ้นมา นางคลี่ยิ้มตอบ “ข้าถูกนำมาขายที่หอซิงเซียง ตอนนี้ให้ข้าไปไถ
ตอนที่ 57 หวังเว่ยซิน..ได้ตามที่ขอในถนนเส้นหนึ่งในอำเภอเล็ก ๆ มีรถม้าคันนี้กำลังเดินทางเข้าสู่เมืองหลวง ภายในรถม้ามีเด็กสาววัยแรกแย้มอยู่ประมาณห้าหกคน ทุกคนล้วนมีผิวพรรณละเอียดใบหน้าหมดจด เค้าโครงรูปหน้าชัดโตขึ้นย่อมเป็นหญิงงามอย่างไม่ต้องสงสัย“ฮื้อ ฮื้อ...ข้าไม่อยากเชื่อเลยว่าครอบครัวข้าจะขายข้า” เสียงเด็กสาวร้องไห้สะอื้นจนตัวโยก บางคนร้องจนหมดแรงหลับไป กู้เฉียวจิงตอนนี้อยู่ในร่างของ หวังเว่ยซิน หนึ่งในสาวงามที่ถูกครอบครัวขายมา เด็กสาวตรอมใจตายยกร่างให้กู้เฉียวจิง อย่างไม่อาลัยอาวรณ์พร้อมขอไปเกิดใหม่ทันทีนางนิ่งเงียบสนิทพยายามทบทวนเรื่องราวของตนเองจากความทรงจำเจ้าของร่างพร้อมกับตรวจสอบพรว่าได้ครบหรือไม่ ในข้อที่หนึ่งขอไปเกิดใหม่พร้อมความทรงจำและวรยุทธ์ ข้อนี้ผ่านไม่มีข้อผิดพลาดถูกต้องตามเจตนา ข้อสอง เกิดในครอบครัวที่นางสามารถเลือกใช้ชีวิตด้วยตนเองได้ทันที นับว่าใช่ ตอนนี้นางมีมารดาและน้องชายแต่นางถูกขายออกมาโดยผู้ที่ได้ว่าเป็นย่าแท้ ๆ อำมหิตสุด ๆ แต่ก็ยังถูกต้องตามที่ขอ หวังเว่ยซินยิ้มแห้ง ๆ ส่วนข้อสาม คงต้องรอสักระยะ ได้ยินคนขับรถม้า
ตอนที่ 56 พรหนึ่งข้อกับตัวละครลับ ในที่สุดกู้เฉียวจิงก็ทนความง่วงไม่ไหว คล้อยหลับไปในตอนดึก ค่ำคืนในฤดูหนาวสายลมพัดเย็นยะเยือก ในห้วงคลับคล้ายเหมือนฝัน นางได้พบกับคนผู้หนึ่งยืนอยู่กลางหิมะ ใบหน้าเหมือนกับนางในตอนนี้ไม่ผิดเพี้ยน “เจ้าคือ กู้เฉียวจิงคนนั้น?” หญิงสาวคนนั้นยิ้มละมุนตอบ “ใช่ข้าเอง...ข้ามาขอบคุณท่าน หากไม่มีท่านทุกอย่างคงไม่ลงเอ่ยเช่นนี้...ข้าซึ้งใจท่านนัก” กล่าวตามจริง กู้เฉียวจิงก็รู้สึกว่าตนเองไม่ได้ทำอันใดมากนัก แค่ทำตามคำสั่งและระงับอารมณ์ให้มากเท่านั้นเอง จึงกล่าว “ข้าทำตามภารกิจ...เจ้ามิต้องขอบคุณ” นางส่ายหน้า “ถึงอย่างไรก็ต้องขอบคุณ” กู้เฉียวจิงมองคนเบื้องหน้าอย่างครุ่นคิดแววตาฉายความสงสัย “ท่านไปอยู่ที่ไหนมาเหตุใดพึ่งปรากฏกาย” “ข้าก็อยู่กับท่าน...หนึ่งร่างสองวิญญาณ”กู้เฉียวจิงเบิกตากว้างอย่างตกตะลึง ความเข้าใจหนึ่งผุดขึ้นใช่แล้ว..กู้เฉียวจิงเจ้าของร่างไม่ได้บอกว่านางตาย มิน่า ๆ หลายครั้งนางก็มีความรู้สึกลึกซึ้งกับเสิ่นเยี่ยหง คงจะเป็นความรู้สึกของสตรีคนนี้ นางเอ่ยถ
ตอนที่ 55 หลบหน้า “ซื่อจือ” กู้เฉียวจิงเอ่ยเรียกกู้ซวินด้วยน้ำเสียงเปี่ยมไปด้วยความยินดี รอยยิ้มของเด็กชายหันมามองมารดาอบอุ่นเป็นพิเศษ ชวนให้ใบหน้าระบายด้วยรอยยิ้มอิ่มเอมกับความสุขที่ล้นออกมาทั้งใจ ความสุขนี้มากเกินบรรยาย หลังจากออกกำลังไป ฝึกกระบี่ไปหลายกระบวนท่าแล้ว กู้ซวินก็มานั่งข้างมารดา รับน้ำมาดื่มพลางเอ่ยถามมารดา “ท่านแม่...ผู้ที่ตัดเส้นแขนขา จะสามารถฝึกฝนวรยุทธ์ได้อีกหรือไม่ขอรับ” กู้เฉียวจิงกระพริบตาเล็กน้อยสายตาอ่อนโยน มองบุตรชายเป็นกังวลนางก็รู้สึกใจอ่อน “ไม่ต้องห่วง...แม่มีหนทางช่วยพ่อเจ้า” ดวงตาบุตรชายเป็นประกายขึ้นมา “จริงหรือขอรับ” “แม่มิเคยโกหกเจ้า” “ป่ะ..เปล่าขอรับ ลูกแค่ตื่นเต้นเกินไป” “เอาล่ะ ไปอาบน้ำเสียก่อน...ทานอาหารให้เรียบร้อยอย่าได้ให้อาจารย์ต้องรอ” เด็กชายตอบรับทันที “ขอรับท่านแม่”ผลัดออกจากบุตรชาย กู้เฉียวจิงก็กลับไปที่เรือนไปหยอกล้อเสิ่ยซูเวยสักพักก่อนจะออกจากจวนไป โรงหมอฮุ๋ยหวง กัวเล่อเยี่ยนชำเลืองมองกู้เฉียวจิง ใบหน้าของนางคล
ตอนที่ 54 เบื้องหน้าเบื้องหลัง กู้เฉียวจิงอ่านสารจากชิงชิงด้วยความรู้สึกหลากหลายทั้งปลื้มปิติกับเด็กน้อย ทั้งโมโหที่เสิ่นเยี่ยหงเสียท่าให้ผู้อื่น ภายในใจกระวนกระวายอารมณ์ปั่นป่วนอึดอัดไม่รู้ด้วยเหตุใด แม้นางจะเข้าใจว่าเหตุใดเสิ่นเยี่ยหงต้องชิงรีบตัดเส้นเอ็นสร้างความตระหนกเพื่อเบี่ยงเบนให้อีกฝ่ายมีเวลาไตร่ตรองน้อยลง แล้วส่งมอบกู้ซวินออกมาให้เร็วที่สุด กระนั้นนางก็ยังอยากจะฟาดกระบี่ใส่อีกฝ่ายเช่นเคย นางสูดลมหายใจเข้าระงับอารมณ์ ยื่นสารไปยังตะเกียงดูมันมอดไหม้พลางเอ่ยถาม ซูซู “คาดว่าพวกเขาจะถึงเมืองหลวงเมื่อไร” “น่าจะไม่เกินสิบวันเจ้าค่ะ ทว่าท่านบัญชาการน่าจะถึงภายในห้าวันนี้” กู้เฉียวจิงผงกศีรษะ แล้วส่งสัญญาให้ซูซูออกไป ในสถานการณ์เช่นนี้ นางคาดเดาว่าตู้ยาต้องมีภารกิจ จึงเปิดขึ้นมาดู ภารกิจที่ห้า มอบยาต่อเส้นเอ็นให้เสิ่นเยี่ยหง เหอะ เหอะ คาดไม่ผิด ผลตอบแทนที่จะได้รับยังไม่ปรากฏ กู้เฉียวจิงยิ้มที่มุมปาก จะเป็นอะไรนะ สิ่งที่นางจะได้รับในครั้งนี้ เงิน อำนาจ ความสามารถ นางล้วนมีค
ตอนที่ 53 นับว่าก้าวหน้าขึ้น กู้ซวินกวัดแกร่งกระบี่ในมืออย่างรวดเร็ว หลังจากใช้กระบี่ปกป้องตนเอง พลิกพลิ้วกายฟาดฝ่ามือใส่อย่างแรง หักแขนขากลุ่มโจรเสียงร้องโหยหวนดังไม่ขาดสาย เหล่าทหารองค์รักษ์ต่างยืนตะลึงนิ่งอึ้งงันไป พลันได้สติกลับมาก็ชูกระบี่ขึ้นเตรียมกระโจนเข้าไปร่วมต่อสู้ ทว่าพวกเขา ต่างหยุดชะงัก หลังจากเห็นฝ่ามือของเสิ่นเยี่ยหงยกมือขึ้นห้าม ชายหนุ่มปรายสายตามองดูบุตรชาย ตัวเล็ก ๆ ของเขาถูกโอบล้อมด้วยจำนวนที่มากกว่ายี่สิบคน กระนั้นเด็กชายกลับดูปลอดโปร่งไร้ความกังวล แค่นี้ก็เห็นถึงความเหนือชั้น ดูรับมือได้ไม่ยาก ชายหนุ่มยกปากยิ้มเย้ยหยันในตอนนี้เขาไม่รู้ว่าตนเองควรมีสีหน้ายังไง จะปลาบปลื้มชื่นชมหรือตกตะลึงคาดไม่ถึงกันแน่ เห็นเหล่าทหารต่างหยุดชะงักมองดูตาค้าง กู้ซวินก็ตะโกนลั่นมา “พวกท่านชักช้าอันใด ไยไม่รีบตามหมอมาดูอาการท่านพ่อเดี๋ยวนี้” เสิ่นเยี่ยหงยิ้มดูแคลนตนเอง หมอทหารที่เตรียมมาเพื่อช่วยเหลือกู้ซวินกลับมาต้องรักษาตัวเขาแทน เหล่าโจรภูเขามองกู้ซวินอย่างตะลึงพรึงเพริด เด็กคนหนึ่งใบหน้าไร้เดียงสา แต่กลับแข็ง
ตอนที่ 52 ซ้อนซ้อนแผน ชิงชิงติดตามขึ้นภูเขาจนกระทั่งจุดทางลับ กลุ่มคนร้ายค่อย ๆ ทยอยหายเข้าไปให้โพร่งไม้นางกำลังจะตามเข้าไปก็ถูก หลีเซียวหยวนสะกัดเอาไว้ “ข้าจะตามเข้าไปเอง เจ้าจงไปตามคนของข้ามา” ชิงชิงพยักหน้าจากนั้นก็เร้นกายออกไปภายในโพร่งมืดสนิท มีเพียงแสงจากโคมไฟเล็ก ๆ ที่นำทางด้านหน้า ส่วนคนที่อยู่ข้างหลัง แม้กระทั่งมือตนเองก็มองไม่เห็น กู้ซวินถูกคนร้ายคนหนึ่งแบกอยู่ช่วงกลางขบวน เด็กชายถูกจี้สะกัดจุดนิทราแต่เขาคลายจุดด้วยตนเองไปแล้ว จึงรับรู้ของการติดตามมาของอาจารย์กู้ซวินลอบฟังเสียงลมหายใจของแต่ละคน หนึ่งหรือสองคนในนี้มียอดฝีมืออยู่ เด็กชายจึงหลับแสร้งหลับต่อไป พวกมันพาเด็กชายไปขังไว้ในห้องหนึ่ง “ต้องมัดมือมัดเท้าหรือไม่”“เด็กตัวแค่นี้ไม่ต้องหรอก ให้มันได้นอนหลับสบายสุดท้ายในชีวิต” จากนั้นพวกมันก็ออกไปเฝ้าหน้าห้อง กู้ซวินจึงลุกขึ้นนั่งดูสำรวจรอบกาย หลีเซียวหยวนรอจังหวะแล้วลอบเข้าไป เอ่ยถามเสียงเบา “หวาดกลัวหรือไม่”เด็กชายส่ายหน้า “ไม่กลัวขอรับ ยิ่งรู้ว่าอาจารย์ติดตามมายิ่งไม่มีสิ่งใดให้กลัว”หลีเซียวหยวนนั่งล