ตอนที่ 19 หลบไปสักพัก กลับถึงเรือนกู้เฉียวจิงก็บอกอี้เหมยว่าต้องการอาบน้ำพร้อมสั่งคน มื้อเย็นนี้นางจะไปทานมื้อเย็นที่เรือนกู้ซวิน ภาพมารดาแต่งกายอย่างประณีตงดงามด้วยชุดผ้าไหมสีฟ้าครามปักขอบด้วยดิ้นเงินพลิ้วไหว ปักปิ่นหยกดูสง่างาม กลิ่นอายเฉียบคมกว่ายามดั่งผู้ฝึกวรยุทธ์ กู้ซวินรู้สึกว่าวันนี้มารดาไม่เหมือนเดิม กู้เฉียวจิงตักเนื้อเป็ดตุ๋นที่นางสั่งให้ครัวทำให้เป็นพิเศษ ใส่จานบุตรชายแล้วพูดขึ้น “เมื่อก่อนแม่เห็นว่าเจ้าอยากทานมาก เจ้าลองทานดูสิ ใช่รสชาติที่ซวินต้องการหรือไม่” เด็กหนุ่มรีบคีบเนื้อเป็ดเข้าปากทันที “อร่อยมากขอรับท่านแม่...ข้าชอบยิ่งนัก” “ชอบก็ต้องทานเยอะ ๆ” กลิ่นอายรอบกายสองแม่ลูกเต็มไปด้วยความสุขและอบอุ่น กู้เฉียวจิงสอบถามเรื่องเรียนบุตรชาย ได้ยินว่าเขาได้รับคำชมจากอาจารย์อยู่บ่อยครั้งก็ทำให้นางรู้สึกอิ่มเอมยิ่งนัก การมีบุตรมันเป็นแบบนี้เอง “เมื่อเช้านี้...ท่านพ่อมาหาข้าด้วยขอรับท่านแม่” กู้เฉียวจิงชะงักไปเล็กน้อย นางรู้ว่าเพราะหายไปหลายปีเสิ่นเยี่ยหงมีสิ่งที่ต้องจัดการมากมาย แม้กระทั่งเ
ตอนที่ 20 รับปากกันและกัน ใจของเสิ่นฮูหยินก็เหมือนถูกแขวนอยู่บนที่สูง มันแกว่งไปมาไม่สงบ จนกระทั่งรถม้าของกู้เฉียวจิงออกเดินทางไปแล้วเกือบสองชั่วยาม แล้วไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปลี่ยนแปลง นางถึงถอนหายลมหายใจวางใจลงได้ “วันนี้เจ้าไปเรียกกู้ซวินมารับมื้อเย็นที่เรือนใหญ่ด้วย” นางเอ่ยสั่งกับบ่าวคนสนิทด้วยเสียงผ่อนคลาย “เจ้าค่ะ ฟังจากแม่นมหลู่คุณชายน้อยทั้งสุภาพอ่อนโยน ขยันตั้งใจศึกษาเล่าเรียน แล้วยังได้รับคำชมว่าเป็นเด็กที่มีไหวพริบดีและปัญญาเฉียบแหลมอาจารย์เซี่ยเลยนะคะ เจ้าค่ะ” เสิ่นฮูหยินพยักหน้า “เด็กคนนี้ ได้เจอครั้งแรกเพียงแค่แววตาก็ฉายแววฉลาดเฉลียว แม้จะถูกเลี้ยงดูนอกจวนตั้งแต่เด็กก็ไม่สูญเสียคนของตระกูลเสิ่นแม้แต่น้อย” ลัวมามายิ้มพูดประจบ “ขนาดทั้งโหวสูญเสียความทรงจำ ยังสามารถเลี้ยงดูบุตรชายได้ดียิ่ง ต่อไปฮูหยินก็ไม่ต้องกังวลแล้วนะคะเจ้าค่ะ” เสิ่นฮูหยินยิ้มอย่างพอใจ เหมือนจะหลงลืมกู้เฉียวจิงผู้เป็นมารดาที่เลี้ยงดูและยังมีชีวิตอยู่พวกเขาลืมไปเสียแล้ว ก่อนหน้านี้ที่กรมกลาโหม แม้เสิ่นเยี่ยหงจะไม่ได้สั่งให้ค
ตอนที่ 21 โอสถเซียนในขณะที่จวนตระกูลเสิ่นกำลังวุ่นวายกับการจัดเตรียมงานแต่งของเสิ่นเยี่ยหง กู้เฉียวจิงกลับกำลังอิ่มเอิมกับธรรมชาติป่าและภูเขา หญิงสาวยืนอยู่บนภูผาและชำเลืองมองไปเบื้องหน้าแล้วพูดขึ้น “เย็นนี้เราจะไปเที่ยวในเมืองดู” “แม่นางกู้ คงมิใช่จะเข้าไปเพียงลำพังนะเจ้าค่ะ” ซูซูเอ่ยถาม“ก็ต้องเป็นเช่นนั้น แล้วใครจะปลอมตัวเป็นข้าอยู่ที่นี่เล่า” ซูซูลังเลเล็กน้อยก่อนจะกล่าว “แม่นางกู้เหตุใด ท่านไม่เอ่ยขอองค์รักษ์เพิ่มจากคุณหนูกัวสักจำนวนเล่าเจ้าคะ” กู้เฉียวจิงหลุบตาต่ำลง กล่าว“ข้ายังไม่แน่ใจ...เอ่อ อีกอย่างก็ตั้งใจจะหาคนเพิ่มเอง เอ่ยปากขอคนอื่นบ่อย ๆ ก็ละอายปากอยู่บ้าง”สีหน้าของซูซูดูโล่งอก แล้วพูดต่อ“แม่นางกู้ ท่านดูถูกตัวเองเกินไป..ยาของท่านช่วยบรรเทาอาการของผู้สูงศักดิ์ยิ่งกว่าโอสถเซียน ฐานะท่านย่อมสูงส่ง ข้าขอกล่าวตามตรงท่านจะเอ่ยปากขอคนอีกสิบคน ท่านผู้นั้นก็ไม่ขมวดคิ้วอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ.. เพราะความปลอดภัยของท่านนับว่าเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งเจ้าค่ะ”สิ้นวาจาของซูซู กู้เฉียวจิงพลันตระหนักได้ ยาสามัญประจำบ้านเหล่านั้นน่าจะมิใช่ยาธรรมดาแล้ว ดั่งโอสถเซียน คำน
ตอนที่ 22 สตรีธรรมดาสามัญ ราตรีแรกกู้เฉียวจิงนอนพักในวัดชิงเยี่ยงอย่างว่าง่าย เมื่อถึงใกล้ตะวันทอแสงนางก็เรียก อี้เหมย อี้หลิงมาปรนนิบัติล้างหน้าล้างตา ทานมื้อเช้าบริเวณศาลาบริเวณหน้าผาดูวิวหมอก แสงแดดทอประกายระยิบระยับ กู้เฉียวจิงยกชาขึ้นจิบเบา ๆ อี้เหมยปรายตามองดูกู้เฉียงจิง ใบหน้าของหญิงสาวสดใสไร้ความกังวล ดูท่างานที่ฮูหยินสั่งความคงจะผ่านพ้นไปด้วยดี แม่นางกู้เฉียวจิงคงจะยินยอมจะอยู่ที่นี่หลายวัน “ข้าควรจะนั่งภาวนาในวัดสักชั่วยามหรือไม่” อี้เหมยถูกถามโดยไม่ทันตั้งตัว พลันสะดุ้ง ตอบอย่างตะกุกตะกัก “เอ่อ...ถ้าแม่นางกู้ต้องการข้าจะไปเตรียมสถานที่สักครู่เจ้าค่ะ” กู้เฉียวจิงพลันยิ้มขำ ๆ “เอาล่ะ ข้าไม่ล้อเล่นแล้ว เรามาคุยกันตรงๆ เจ้ากับข้าต่างก็รู้ว่าเหตุใดข้าถ้าถึงได้มาพำนักที่นี่ เจ้าไม่ต้องกังวลข้ารู้ฐานะตนเองดี ข้าจะอยู่จนกระทั่งทางโน้นเรียบร้อย ที่ข้าเอ่ยพูดยาวมาขนาดนี้ จะเป็นไปได้หรือไม่หากข้าอยากจะไปลงเขาไปเดินเล่นในเมืองสักหน่อย” อี้เหมยจนคำตอบไปชั่วขณะ คำพูดของกู้เฉียวจิงดูสงบไร้อารมณ์ตัดพ้อ
ตอนที่ 23 เป็นสหาย บรรยากาศยามค่ำคืนภายในป่าเขาอันเงียบสงบมันมืดมิดเวิ้งว้างมีเพียงเสียงหรีดหริ่งเรไร ฝีเท้าของหลีเซียวหยวนชะงักเล็กน้อยเมื่อเห็น กู้เฉียวจิงที่กำลังยืนภายใต้รัศมีแสงจันทร์ เส้นผมของนางกับแขนเสื้อปลิวไสวล้อสายลมราตรี ทั้งงดงามและลึกลับน่าหวั่นเกรง เขาหรี่ตาพินิจสตรีตรงหน้าอย่างไตร่ตรอง การที่เขาสามารถก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว มิเพียงแต่มีวรยุทธ์สูงแต่เขายังเป็นคนที่ความพิเศษ สามารถจดจำผู้คนอย่างแม่นยำ ช่วงแขนขา ร่างกายสัดส่วนส่วนสูง หลายครั้งแม้คนผู้นั้นจะปกปิดใบหน้า เพียงแค่เห็นร่างกายเขาก็จดจำได้ทันทีว่าเป็นผู้ใด รูปร่างอรชนสูงโปร่งเช่นนี้ ยิ่งมองก็ยิ่งคลับคล้ายคลับคลานคุ้นตายิ่งนัก แล้วภาพหนึ่งก็ผุดขึ้น เป็นสตรีในคืนนั้น จากประสบการณ์ที่ผ่านมา เขาไม่มีทางจำผิด หลีเซียวหยวนมั่นใจเป็นอย่างมาก เขาไม่ชอบการหยั่งเชิงจึงตั้งใจสอบถามโดยตรง กู้เฉียวปรายสายตามองหลีเซียวหยวนที่กำลังก้าวเท้าเข้ามาด้วยฝีเท้าอันเนิบช้า คล้ายกำลังครุ่นคิดบางอย่าง พลันชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมา ในยามมืดมิดดวงตาของเขายั
ตอนที่ 24 นึกว่าตนเองไร้สามีกู้เฉียวจิงและหลีเซียวหยวนต่างยกสุราดื่ม รสสุราเข้มข้นหลอมละลายแพร่กระจายไปทั่วลำคอ ทั้งสองคนเหม่อมองไปยังเบื้องล่าง ไร้เสียงพูดคุยไปชั่วขณะ บรรยากาศปรองดองอย่างที่ไม่ควรเป็น กู้เฉียวจิงหมุนจอกสุราพลางใจลอยไปพลาง หลีเซียวหยวนหรี่ตามองหญิงสาวที่กำลังผ่อนคลาย อดเอ่ยถามไม่ได้“กู้เฉียวจิง เจ้าแต่งเข้าตระกูลหลีดีหรือไม่” คำถามที่ไม่มีที่มาที่ไปเช่นนี้ ชวนให้คนตกตะลึงเป็นอย่างมาก เดิมทีกู้เฉียวจิงควรมีอารมณ์ขุนเคืองบ้าง ทว่าปะทะฝีปากกันมาหลายครั้งคำพูดเช่นนี้นางเริ่มชินกับหลีเซียวหยวนแล้ว จึงทำเพียงแค่นหัวเราะ “ข้าหาใช่สตรีตัวเปล่า เป็นทั้งฮูหยินหงอี้โหวแล้วยังมีบุตรชายด้วย” คำพูดคำจาโอ้อวดใหญ่โต หลีเซียวหยวนส่ายหน้าพลางหัวเราะเบาๆ“เจ้ากล่าวผิดแล้ว ตอนนี้ฐานะของเจ้าหาใช่ฮูหยินเอก เจ้าตอนนี้ไม่ต่างจากสาวใช้อุ่นเตียงแม้แต่น้อย”คำพูดดูหมิ่นเช่นนี้ กลับทำให้กู้เฉียวจิงยิ้มอย่างเป็นต่อ“ข้าจะได้เป็นฮูหยินอย่างแน่นอน”หัวคิ้วของหลีเซียวหยวนขมวดเอ่ยถาม “เจ้ามั่นใจยิ่งนัก”“แน่นอน ข้าย่อมมั่นใจ...ท่านอย่าล้อเล่นกับข้าอีกเลยเรื่องน
ตอนที่ 25 ท่านแม่อีกคน กู้เฉียวจิงดื่มกับหลีเซียวหยวนจนดึก จึงเลือกค้างคืนที่หอสุราที่ชั้นสามจัดทำเป็นโรงเตี้ยมไว้บริการ และถึงแม้ภายในใจจะคาดเดาเจตนาที่แฝงของหลีเซียวหยวน นางไม่ใส่ใจ นับว่านางตัดสินใจไม่ผิด ยามเช้าอรุ่ณที่ตื่นขึ้นมาพบกับกลิ่นอายธรรมชาติ เมื่อมองไปเบื้องหน้าเห็นภูเขาที่สูงเสียดฟ้าถูกปกคลุมไปด้วยไปหมอกและก้อนเมฆกำลังลอยอ้อยอิ่ง ใต้แผ่นฟ้าสุดลูกหูลูกตางดงามดั่งสรวงสวรรค์ นางยกชาจิบเบา ๆ หลับตาพริ้มคล้ายกำลังรับพลังงานจากฟ้าดิน นางได้ยินเสียงกระซิบบางอย่างจึงลืมตาขึ้น เอ่ยถาม “มีอะไร” ซูซู ก้าวเดินเข้ามาน้อมกายยื่นจดหมายออกไป “นายหญิง นายน้อยส่งจดหมายมาเจ้าค่ะ” กู้เฉียวจิงยื่นมือมารับพร้อมเปิดอ่านทันที พอกวาดตามองรอบหนึ่ง นางก็รู้ทันทีว่ามีเพียงคำขึ้นต้นและลงท้ายที่เป็นลายมือของกู้ซวิน ส่วนเนื้อหาในจดหมายคงจะให้ชิงชิงเป็นผู้เขียนแทน สายไออุ่นวาบเลื่อนจากปลายนิ้วมือที่สัมผัสจดหมายไล่มาถึงหัวใจแผ่ไปถึงดวงตาร้อนผ่าว หญิงสาวยิ้มบางแล้วเอ่ย “เด็กคนนี้เรื่องราวแค่นี้ก็ละเอียดนัก” ภายในเนื้
ตอนที่ 26 รักมาเป็นสิบสิบปีวัดชิงเยี่ยง นอกจากฝึกคัดอักษรแล้ว กู้เฉียวจิงยังใช้เวลาในช่วงดึกออกมาฝึกวิชากระบี่ มีสายลมวูบหนึ่งไหวผ่านกายไป นางรับรู้การมาของคนผู้หนึ่ง หรี่ตาเล็กน้อยจากนั้นก็พูดขึ้น “ในเมื่อท่านมาแล้ว เช่นนั้นมาฝึกกระบี่ด้วยกันสิ” ในเงามือก็ปรากฏบุรุษรูปร่างสูงโปร่งผู้หนึ่ง นัยน์ตาจิ้งจอกของเขาสว่างวาบเห็นเด่นชัดในความมืดมิดยามราตรี “เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่แม่นางกู้เชิญ” สิ้นวาจาหลีเซียวหยวนก็ทะยานพุ่งเข้าหากู้เฉียวจิงอย่างรวดเร็ว พริบตากระบี่ก็เกือบมาถึงตัวหญิงสาว นางสามารถหลบหลีกได้อย่างท่วงทีนางว่องไวดั่งบินได้ ตวัดแกว่งกระบี่ในมือต้านการโจมตีที่เข้ามาอย่างรวดเร็ว กระนั้นก็เหมือนจะเป็นรองหลีเซียวหยวนอยู่ขั้นหนึ่ง ในขณะที่กู้เฉียวจิงเหมือนต้องทุ้มเต็มแรงเพื่อรับแรงปะทะ หลีเซียวหยวนกลับฟาดกระบี่ไปมาอย่างปลอดโปร่ง เพียงเท่านี้ก็เห็นถึงความเหนือชั้น ไม่นานกู้เฉียวจิงก็หมดแรง นางยกมือประสาน “ขอบคุณท่านที่ออมแรง ข้าแพ้แล้ว” หลีเซียวหยวนยกปากยิ้มบาง “แพ้ให้ข้าไม่เสียหน้ามากหร
ตอนที่ 57 หวังเว่ยซิน..ได้ตามที่ขอในถนนเส้นหนึ่งในอำเภอเล็ก ๆ มีรถม้าคันนี้กำลังเดินทางเข้าสู่เมืองหลวง ภายในรถม้ามีเด็กสาววัยแรกแย้มอยู่ประมาณห้าหกคน ทุกคนล้วนมีผิวพรรณละเอียดใบหน้าหมดจด เค้าโครงรูปหน้าชัดโตขึ้นย่อมเป็นหญิงงามอย่างไม่ต้องสงสัย“ฮื้อ ฮื้อ...ข้าไม่อยากเชื่อเลยว่าครอบครัวข้าจะขายข้า” เสียงเด็กสาวร้องไห้สะอื้นจนตัวโยก บางคนร้องจนหมดแรงหลับไป กู้เฉียวจิงตอนนี้อยู่ในร่างของ หวังเว่ยซิน หนึ่งในสาวงามที่ถูกครอบครัวขายมา เด็กสาวตรอมใจตายยกร่างให้กู้เฉียวจิง อย่างไม่อาลัยอาวรณ์พร้อมขอไปเกิดใหม่ทันทีนางนิ่งเงียบสนิทพยายามทบทวนเรื่องราวของตนเองจากความทรงจำเจ้าของร่างพร้อมกับตรวจสอบพรว่าได้ครบหรือไม่ ในข้อที่หนึ่งขอไปเกิดใหม่พร้อมความทรงจำและวรยุทธ์ ข้อนี้ผ่านไม่มีข้อผิดพลาดถูกต้องตามเจตนา ข้อสอง เกิดในครอบครัวที่นางสามารถเลือกใช้ชีวิตด้วยตนเองได้ทันที นับว่าใช่ ตอนนี้นางมีมารดาและน้องชายแต่นางถูกขายออกมาโดยผู้ที่ได้ว่าเป็นย่าแท้ ๆ อำมหิตสุด ๆ แต่ก็ยังถูกต้องตามที่ขอ หวังเว่ยซินยิ้มแห้ง ๆ ส่วนข้อสาม คงต้องรอสักระยะ ได้ยินคนขับรถม้า
ตอนที่ 56 พรหนึ่งข้อกับตัวละครลับ ในที่สุดกู้เฉียวจิงก็ทนความง่วงไม่ไหว คล้อยหลับไปในตอนดึก ค่ำคืนในฤดูหนาวสายลมพัดเย็นยะเยือก ในห้วงคลับคล้ายเหมือนฝัน นางได้พบกับคนผู้หนึ่งยืนอยู่กลางหิมะ ใบหน้าเหมือนกับนางในตอนนี้ไม่ผิดเพี้ยน “เจ้าคือ กู้เฉียวจิงคนนั้น?” หญิงสาวคนนั้นยิ้มละมุนตอบ “ใช่ข้าเอง...ข้ามาขอบคุณท่าน หากไม่มีท่านทุกอย่างคงไม่ลงเอ่ยเช่นนี้...ข้าซึ้งใจท่านนัก” กล่าวตามจริง กู้เฉียวจิงก็รู้สึกว่าตนเองไม่ได้ทำอันใดมากนัก แค่ทำตามคำสั่งและระงับอารมณ์ให้มากเท่านั้นเอง จึงกล่าว “ข้าทำตามภารกิจ...เจ้ามิต้องขอบคุณ” นางส่ายหน้า “ถึงอย่างไรก็ต้องขอบคุณ” กู้เฉียวจิงมองคนเบื้องหน้าอย่างครุ่นคิดแววตาฉายความสงสัย “ท่านไปอยู่ที่ไหนมาเหตุใดพึ่งปรากฏกาย” “ข้าก็อยู่กับท่าน...หนึ่งร่างสองวิญญาณ”กู้เฉียวจิงเบิกตากว้างอย่างตกตะลึง ความเข้าใจหนึ่งผุดขึ้นใช่แล้ว..กู้เฉียวจิงเจ้าของร่างไม่ได้บอกว่านางตาย มิน่า ๆ หลายครั้งนางก็มีความรู้สึกลึกซึ้งกับเสิ่นเยี่ยหง คงจะเป็นความรู้สึกของสตรีคนนี้ นางเอ่ยถ
ตอนที่ 55 หลบหน้า “ซื่อจือ” กู้เฉียวจิงเอ่ยเรียกกู้ซวินด้วยน้ำเสียงเปี่ยมไปด้วยความยินดี รอยยิ้มของเด็กชายหันมามองมารดาอบอุ่นเป็นพิเศษ ชวนให้ใบหน้าระบายด้วยรอยยิ้มอิ่มเอมกับความสุขที่ล้นออกมาทั้งใจ ความสุขนี้มากเกินบรรยาย หลังจากออกกำลังไป ฝึกกระบี่ไปหลายกระบวนท่าแล้ว กู้ซวินก็มานั่งข้างมารดา รับน้ำมาดื่มพลางเอ่ยถามมารดา “ท่านแม่...ผู้ที่ตัดเส้นแขนขา จะสามารถฝึกฝนวรยุทธ์ได้อีกหรือไม่ขอรับ” กู้เฉียวจิงกระพริบตาเล็กน้อยสายตาอ่อนโยน มองบุตรชายเป็นกังวลนางก็รู้สึกใจอ่อน “ไม่ต้องห่วง...แม่มีหนทางช่วยพ่อเจ้า” ดวงตาบุตรชายเป็นประกายขึ้นมา “จริงหรือขอรับ” “แม่มิเคยโกหกเจ้า” “ป่ะ..เปล่าขอรับ ลูกแค่ตื่นเต้นเกินไป” “เอาล่ะ ไปอาบน้ำเสียก่อน...ทานอาหารให้เรียบร้อยอย่าได้ให้อาจารย์ต้องรอ” เด็กชายตอบรับทันที “ขอรับท่านแม่”ผลัดออกจากบุตรชาย กู้เฉียวจิงก็กลับไปที่เรือนไปหยอกล้อเสิ่ยซูเวยสักพักก่อนจะออกจากจวนไป โรงหมอฮุ๋ยหวง กัวเล่อเยี่ยนชำเลืองมองกู้เฉียวจิง ใบหน้าของนางคล
ตอนที่ 54 เบื้องหน้าเบื้องหลัง กู้เฉียวจิงอ่านสารจากชิงชิงด้วยความรู้สึกหลากหลายทั้งปลื้มปิติกับเด็กน้อย ทั้งโมโหที่เสิ่นเยี่ยหงเสียท่าให้ผู้อื่น ภายในใจกระวนกระวายอารมณ์ปั่นป่วนอึดอัดไม่รู้ด้วยเหตุใด แม้นางจะเข้าใจว่าเหตุใดเสิ่นเยี่ยหงต้องชิงรีบตัดเส้นเอ็นสร้างความตระหนกเพื่อเบี่ยงเบนให้อีกฝ่ายมีเวลาไตร่ตรองน้อยลง แล้วส่งมอบกู้ซวินออกมาให้เร็วที่สุด กระนั้นนางก็ยังอยากจะฟาดกระบี่ใส่อีกฝ่ายเช่นเคย นางสูดลมหายใจเข้าระงับอารมณ์ ยื่นสารไปยังตะเกียงดูมันมอดไหม้พลางเอ่ยถาม ซูซู “คาดว่าพวกเขาจะถึงเมืองหลวงเมื่อไร” “น่าจะไม่เกินสิบวันเจ้าค่ะ ทว่าท่านบัญชาการน่าจะถึงภายในห้าวันนี้” กู้เฉียวจิงผงกศีรษะ แล้วส่งสัญญาให้ซูซูออกไป ในสถานการณ์เช่นนี้ นางคาดเดาว่าตู้ยาต้องมีภารกิจ จึงเปิดขึ้นมาดู ภารกิจที่ห้า มอบยาต่อเส้นเอ็นให้เสิ่นเยี่ยหง เหอะ เหอะ คาดไม่ผิด ผลตอบแทนที่จะได้รับยังไม่ปรากฏ กู้เฉียวจิงยิ้มที่มุมปาก จะเป็นอะไรนะ สิ่งที่นางจะได้รับในครั้งนี้ เงิน อำนาจ ความสามารถ นางล้วนมีค
ตอนที่ 53 นับว่าก้าวหน้าขึ้น กู้ซวินกวัดแกร่งกระบี่ในมืออย่างรวดเร็ว หลังจากใช้กระบี่ปกป้องตนเอง พลิกพลิ้วกายฟาดฝ่ามือใส่อย่างแรง หักแขนขากลุ่มโจรเสียงร้องโหยหวนดังไม่ขาดสาย เหล่าทหารองค์รักษ์ต่างยืนตะลึงนิ่งอึ้งงันไป พลันได้สติกลับมาก็ชูกระบี่ขึ้นเตรียมกระโจนเข้าไปร่วมต่อสู้ ทว่าพวกเขา ต่างหยุดชะงัก หลังจากเห็นฝ่ามือของเสิ่นเยี่ยหงยกมือขึ้นห้าม ชายหนุ่มปรายสายตามองดูบุตรชาย ตัวเล็ก ๆ ของเขาถูกโอบล้อมด้วยจำนวนที่มากกว่ายี่สิบคน กระนั้นเด็กชายกลับดูปลอดโปร่งไร้ความกังวล แค่นี้ก็เห็นถึงความเหนือชั้น ดูรับมือได้ไม่ยาก ชายหนุ่มยกปากยิ้มเย้ยหยันในตอนนี้เขาไม่รู้ว่าตนเองควรมีสีหน้ายังไง จะปลาบปลื้มชื่นชมหรือตกตะลึงคาดไม่ถึงกันแน่ เห็นเหล่าทหารต่างหยุดชะงักมองดูตาค้าง กู้ซวินก็ตะโกนลั่นมา “พวกท่านชักช้าอันใด ไยไม่รีบตามหมอมาดูอาการท่านพ่อเดี๋ยวนี้” เสิ่นเยี่ยหงยิ้มดูแคลนตนเอง หมอทหารที่เตรียมมาเพื่อช่วยเหลือกู้ซวินกลับมาต้องรักษาตัวเขาแทน เหล่าโจรภูเขามองกู้ซวินอย่างตะลึงพรึงเพริด เด็กคนหนึ่งใบหน้าไร้เดียงสา แต่กลับแข็ง
ตอนที่ 52 ซ้อนซ้อนแผน ชิงชิงติดตามขึ้นภูเขาจนกระทั่งจุดทางลับ กลุ่มคนร้ายค่อย ๆ ทยอยหายเข้าไปให้โพร่งไม้นางกำลังจะตามเข้าไปก็ถูก หลีเซียวหยวนสะกัดเอาไว้ “ข้าจะตามเข้าไปเอง เจ้าจงไปตามคนของข้ามา” ชิงชิงพยักหน้าจากนั้นก็เร้นกายออกไปภายในโพร่งมืดสนิท มีเพียงแสงจากโคมไฟเล็ก ๆ ที่นำทางด้านหน้า ส่วนคนที่อยู่ข้างหลัง แม้กระทั่งมือตนเองก็มองไม่เห็น กู้ซวินถูกคนร้ายคนหนึ่งแบกอยู่ช่วงกลางขบวน เด็กชายถูกจี้สะกัดจุดนิทราแต่เขาคลายจุดด้วยตนเองไปแล้ว จึงรับรู้ของการติดตามมาของอาจารย์กู้ซวินลอบฟังเสียงลมหายใจของแต่ละคน หนึ่งหรือสองคนในนี้มียอดฝีมืออยู่ เด็กชายจึงหลับแสร้งหลับต่อไป พวกมันพาเด็กชายไปขังไว้ในห้องหนึ่ง “ต้องมัดมือมัดเท้าหรือไม่”“เด็กตัวแค่นี้ไม่ต้องหรอก ให้มันได้นอนหลับสบายสุดท้ายในชีวิต” จากนั้นพวกมันก็ออกไปเฝ้าหน้าห้อง กู้ซวินจึงลุกขึ้นนั่งดูสำรวจรอบกาย หลีเซียวหยวนรอจังหวะแล้วลอบเข้าไป เอ่ยถามเสียงเบา “หวาดกลัวหรือไม่”เด็กชายส่ายหน้า “ไม่กลัวขอรับ ยิ่งรู้ว่าอาจารย์ติดตามมายิ่งไม่มีสิ่งใดให้กลัว”หลีเซียวหยวนนั่งล
ตอนที่ 51 งานเลี้ยงต้อนรับ ตลอดการเดินทางของเสิ่นเยี่ยหงต้องผ่านหลากหลายหมู่บ้านหลากหลายอำเภอ ชายหนุ่มไม่เพียงไม่ปกปิดฐานะยังเข้าร่วมงานเลี้ยงที่เหล่าขุนนางท้องถิ่นจัดเตรียมไว้ให้อย่างสำราญ “ฮ่า ฮ่า ชายแดนบูรพาได้แม่ทัพกลับมาดูแลย่อมสงบไปหลายอีกปีอย่างแน่นอนขอรับ” นายอำเภอแห่งหนึ่งกล่าวยกย่ออย่างไม่ขัดเขิน “มิกล้า มิกล้า ท่านกล่าวหนักเกินไปแล้ว” จากนั้นนายอำเภอก็ชำเลืองมองไปยังเกาเหยาชุนที่ยังนั่งเด่นสง่าร่วมงานเลี้ยงไม่มีท่าทีว่าจะกลับ เขาปรายส่งสายตาให้คนตนเอง เสิ่นเยี่ยหงชำเลืองมองเห็นก็หันไปกล่าว “ฮูหยินเดินมาเหน็ดเหนื่อย...เจ้าไปพักเสียเถอะ...” ชาในมือของเกาเหยาชุนชะงักเพียงเล็กน้อย แววตาฉายความกรุ่นโกรธผุดขึ้นมาเพียงแวบหนึ่งก็หายไป นางก้มหน้าพลางกล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “เจ้าค่ะ...วันนี้เหนื่อยล้าไม่น้อย เช่นนั้นข้าต้องเสียมารยาทกับใต้เท้าทุกท่านด้วยนะเจ้าคะ” ในเมื่อเกาเหยาชุนลุก ฮูหยินใต้เท้าผู้อื่นก็ต่างลุกขอตัวพอสตรีออกไปหมดแล้วนายอำเภอก็ส่งสัญญาณ เสียงดนตรีบรรเลงก็ดังขึ้นพร้อมนางรำที
ตอนที่ 50 ไม่หนีตอนนี้จะหนีตอนไหน ยามเช้าในช่วงฤดูหนาวยังคงเจิดจ้า กู้เฉียวจิงที่ยืนนิ่งอยู่บนต้นไม้ใหญ่ ชุดคลุมสีดำปลิวไสวไปกับสายลมดวงหน้างดงามแววตาฉายความเย็นชาความกังวลฉายในแววตา บุรุษที่ปรากฏกายข้างกายนางปราดสายตามองนางครู่หนึ่งแล้วกล่าว “ไม่ต้องห่วง อย่างไรกู้ซวินก็เป็นลูกศิษย์ของข้า” กู้เฉียวจิงเบนหน้าออกจากขบวนรถม้าของหงอี้โหว ที่กำลังเคลื่อนออกจากตัวเมือง สบตาหลีเซียวหยวนพลางโค้งศีรษะกล่าว “รบกวนท่านแล้ว” “อืม..เรื่องที่เจ้าให้ข้าสืบ หลายอย่างคาดเดาได้ไม่ลำบาก ไปครั้งนี้ต้องการไปหาหลักฐานเพิ่มเท่านั้น” “ข้าเป็นหนี้บุญคุณท่านอีกแล้ว”นัยน์ตาจิ้งจอกประกายไหว จ้องมองแล้วตอบ “เจ้าช่วยงานข้าเสียมากกว่า..นับว่าเป็นเบาะแสที่ดี” กู้เฉียวจิงยิ้มมุมปากเรียว ทอดหายใจเบาบาง “หวังว่าจะไม่ร้ายแรงเกินไป” ชายหนุ่มพยักหน้าครั้งหนึ่งให้หญิงสาว กู้เฉียวจิงโค้งศีรษะจากนั้นเขาก็จะทะยานออกไปรวมกลุ่มกับองค์รักษ์แล้วควบม้าออกเดินทาง หลังจากนั้นกู้เฉียวจิงเองก็เร้นกายหายออกไปจากตรงนั้น ไ
ตอนที่ 49 ภารกิจที่สี่ที่แสนอันตราย เสิ่นเยี่ยหงไม่มากวนใจกู้เฉียวจิงมากนัก อาจจะเป็นเพราะถูกผู้อาวุโสห้ามปราม เพราะนางกำลังถูกย่างกู้เฉียวจิงคล้ายกำลังจะตายทั้งเป็นนาง ทั้งความเจ็บปวดในการคลอด ทั้งอยู่ไฟหลังคลอด นางผู้ที่เป็นฮูหยินเอกหงอี้โหว มีบ่าวไพร่ดูแลมากมายยังรู้สึกเหนื่อยล้าเพียงนี้ ความอดทนอดกลั้นทั้งชีวิตเหมือนถูกใช้ไปหมดแล้วในคราวนี้ นี่คือคอร์สฝึกฝนนักฆ่าชัด ๆ มิน่าเล่าเหล่าฮูหยินเรือนหลังถึงได้โหดเหี้ยมกันเหลือเกิน นางเข้าใจแล้ว กู้เฉียวจิงเปิดตูยาหยิบ ยาหอมออกมาสูดดมอย่างแรง พลันสายตาก็มองเห็น ภารกิจที่สี่ ให้กู้ซวินติดตามเสิ่นเยี่ยหงไปชายแดน ความเหนื่อยล้าเมื่อสักครู่หายไปจนหมดสิ้น กู้เฉียวจิงเบิกตากว้าง มองด้วยความรู้สึกตื่นตระหนก เป็นไปไม่ได้ ภารกิจนี้ หัวใจของนางสั่นสะท้าน กู้ซวินตายเพราะติดตามบิดาไปยังชายแดน เป็นไปไม่ได้ที่นางจะยินยอม ข้อแลกเปลี่ยนคืออะไรกันเหตุใดตู้ยาถึงกล้าเสนอเงื่อนไขเช่นนี้ หลังจากนั้นเรื่องนี้ก็ค้างคาใจ