หยางหนิงเฉิงกับเหล่าองครักษ์ที่ได้ยินถึงกับขมวดคิ้ว ฝีปากฮูหยินช่างน่ากลัวเสียจริงๆ จากนั้นก็ชวนไป๋จ้านกินข้าวไป๋ลู่ที่กำลังจะไปถูกอาหลี่รั้งมือเอาไว้
"ลู่ลู่ ที่นี่ไม่ตัดสินคนที่เปลือกเจ้ากินด้วยกันเถอะ หน้าตาไม่สำคัญเท่าจิตใจหรอก"อาหลี่บอกนาง ทุกคนพยักหน้าไป๋ลู่น้ำตาคลอนั่งลงกินข้าวต่อ
"รอท่านปู่จัดทะเบียนบ้านเรียบร้อยข้าจะหาสมุนไพรรักษาให้ท่านอาหญิงอย่าคิดมากเลยเจ้าค่ะ ท่านปู่รบกวนท่านนำเห็ดและผักสดเหล่านี้ส่งไปที่จวนนายอำเภอให้ใต้เท้าลู่หน่อยได้ไหมเจ้าคะ ข้าอยากขอบคุณเขาหากไม่ได้เขาข้าก็คงถูกคนจับใส่กรงถ่วงน้ำไปแล้ว" ไป๋ซู่ฮวาเอ่ยขึ้นไป๋จ้านรับปากนาง ทุกคนนั่งกินอาหารเงียบๆจนไป๋จ้านกลับไปแล้วจึงพาเด็กๆอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วกล่อมนอน
"พี่สะใภ้ พี่จะทิ้งท่านพีไปไหมเจ้าคะหรงหรงไม่อยากให้ท่านทิ้งพวกเราไป"
"นั่นสิขอรับ ข้าเองก็ไม่อยากให้ท่านทิ้งท่านพี่ไปเช่นกัน" เด็กทั้งสองกอดเอวนางร้องไห้ อืม ต้องร้องไหเยอะๆให้น่าสงสารที่สุดท่านพี่บอกแบบนั้น ถ้าไม่ทำเดี๋ยวพี่สะใภ้จะทิ้งพวกเขาไป ต้องอ้อนเก่งๆพี่อาหลี่บอกว่าพี่สะใภ้ชอบเด็ก พี่เสี่ยวจิ้งก็บอกว่าหากอยากมีน้องต้องทำให้พี่สะใภ้ใจอ่อนนางจะได้อยากมีลูกไวไว
หนิงจิน หนิงหรงเดิมทีแค่ทำตามที่พี่ชายบอก แต่พอได้รับความอบอุ่นจากไป๋ซู่ฮวาก็กลายเป็นร้องจริงจังจนต้องปลอบกว่าครึ่งคืนจึงหลับไป
ไป๋ซู่ฮวาเดินเบาๆกลัวคนนอนหลับอยู่จะตื่นขึ้นมา นางค่อยๆล้มตัวลงนอนใกล้เขาหยางหนิงเฉิงพลิกตัวขึ้นจูบนางหนักหน่วงทันที ไป๋ซู่ฮวาประท้วงแต่เขาไม่ฟัง ปลดชุดนางออกจนหมดก่อนจะดูดดื่มทรวงอกคู่นั่นอย่างหิวกระหาย มือหนาค่อยๆไต่ลงยังกลางกายสาวก่อนจะสำรวจทักทายไป๋ซู่ฮวาถูกเขาทักทายจนเสียวซ่าน หยางหนิงเฉิงค่อยๆเคล้าคลึงชักจุงจนในที่สุดนางแยกเรียวขาออกรอรับความรักของเขา
หยางหนิงเฉิงมอบความรักให้นางทันที ไป๋ซู่ฮวากอดแผ่นหลังเขาแน่นคนตัวโตขยับสะโพกใส่นางหนักหน่วงจนคนใต้ร่างครางรัญจวน เขาไม่ยอมให้นางพักสักนิดนางกระตุกครั้งแล้วครั้งเล่ากว่าบทรักจะจบลงก็ปาไปสองชั่วยามเกือบสว่างแล้ว กำปั้นน้อยๆทุบอกเขาน้ำตาคลอไป๋ซู่ฮวาสะอื้น
"ท่านผิดสัญญา ข้าขอเวลาท่านแล้วไม่ใช่หรือ เหตุใดยังรังแกข้าอีกฮือๆคนบ้า"
"ก็ ข้าหวงเจ้านี่วันนี้ก็ไอ้หน้าขาวจางชุนก็มาพัวพัน ไหนจะใต้เท้าลู่อะไรนั่นอีก เมียข้างามปานนี้แถมข้ายังขาเป๋อีก กลัวว่าเจ้าจะทิ้งข้าไป เมียจ๋าข้าขอโทษยกโทษให้ข้าได้ไหม ไม่ร้องนะคนดีหืม"
"ข้าจะไปไหนเล่า ข้าไม่ใช่สตรีมากรักหลายใจนะ ท่านใจร้ายเรียกร้องไม่นึกถึงข้าเลยฮือๆ"
"คนดี ไม่ร้องแล้วนะต่อไปสัญญาหากเจ้าไม่อนุญาตข้าจะนอนกอดเฉยๆได้ไหม เมียจ๋านะๆรักข้านะ อีกตั้งชั่วยามกว่าจะสว่างให้ข้ารักเจ้าอีกครั้งได้ไหมหืม"
"ขาท่านไม่เจ็บแล้วหรือไง"
"เวลารักเจ้า รู้สึกว่าไม่ค่อยเจ็บเท่าไหร่ สงสัยเมียข้าจะดีกว่ายาของหมอเทวดาเสียอีก นะๆขออีกนะ"
ไป๋ซู่ฮวาพยักหน้า หยางหนิงเฉิงจึงรักนางอีกรอบครั้งนี้เขารักนางถึงยามเฉินเลยทีเดียวจนได้ยินเสียงหนิงจินกับหนิงหรงเอ่ยขึ้น เขาจึงปล่อยร่างนุ่มนิ่มออกมา
" พี่ซูหยางข้าหิวข้าแล้ว พี่สะใภ้ป่วยหรือเปล่าเจ้าค่ะ"
"พวกเราไปดูกันดีไหม"ไม่นานเสี่ยวจิ้งกับอาหลี่ก็หิ้วซาลาเปาจากบ้านไป๋ฮวนกลับมา พวกเขารู้ดีว่าท่านแม่ทัพของพวกเขาไม่ยอมปล่อยอูหยินออกจากห้องแน่ๆจึงขนแป้งกับหมูและข้าวสารไปให้ท่านน้าไป๋ฮวนกับไป๋ลู่ช่วยทำมื้อเช้าแทน เฮ้อลำบากพวกข้าน้อยจริงๆ ท่านจะรักเมียก็ไม่ควรให้ผู้อื่นหิ้วท้องรอสิ
หยางหนิงเฉิงแต่งตัวให้ไป๋ซู่ฮวาย่างเบามือ เขาไม่คิดไม่ฝันว่าเขาต่อต้านสตรีมาตลอดไทเฮาประทานมากี่คนก็ถูกไล่ตะเพิดไปหมด ใครที่พยายามยั่วยวนเขาก็จับโยนให้ทหารในกองทัพเสีย สตรีเป็นสิ่งน่ารังเกียจอย่างยิ่ง
แต่ไม่ใช่กับไป๋ซู่ฮวา เขาอยากใกล้ชิดอยากสัมผัสอยากรักนางอย่างเรียกร้องให้นางรักตอบเขาหยางหนิงเฉิงไม่เข้าใจตนเองเหตุใดคนเราถึงตกหลุมรักได้ง่ายเพียงนี้
"อื้อพอแล้ว ต้องไปดูเขาเก็บเกี่ยวเสบียงใต้เท้าลู่จะมาด้วย ข้าต้องมีพยานในการส่งมอบเสบียงที่พวกเขาติดค้างอีกทั้งจ่ายภาษีให้ทางการด้วย"
"เงินจ่ายค่ายาไปแล้ว เอาที่ไหนมาจ้างคนเล่าเมียจ๋าข้าไม่รักษาขาแล้วกลัวเจ้าลำบาก"
"ข้ามี ข้าไม่ได้โง่อย่างที่ใครๆคิดก่อนหน้า ข้าคิดหาทางแยกบ้ายออกมาแล้วค่อยถอนหมั้น มีเงินเก็บอยู่เกือบยี่สิบตำลึง แต่เพราะจางชุนคนสาวเลวนั่น"
"แต่ก็ทำให้เราได้อยู่ด้วยกันไม่ใช่หรือ คนๆนั้นต้องจัดการแต่ว่าเมียจ๋าเจ้าต้องไปจริงหรือข้าคิดถึง"
หยางหนิงเฉิงออดอ้อนมือไม้เริ่มซุกซนทั้งๆที่เพิ่งแต่งตัวให้นาง ไป๋ซู่ฮวาอ่อนใจจับมือปลาหมึกเขาออกก่อนจะดุเสียงเข้ม
"อย่ารุ่มร่าม ข้าจะได้รีบทำงานเป็นเด็กดีว่าง่ายๆแล้วคืนนี้จะตามใจท่านตกลงไหม"
"ได้สัญญาแล้วนะว่าคืนนี้จะให้ ห้ามบิดพลิ้วนะหืม" ไป๋ซู่ฮวางับปลายจมูกเขาเบาๆ ช่างมันเถอะไหนๆก็ไหนๆแล้วมาอาศัยร่างนี้ก็ต้องรับผิดชอบแทนนาง อีกอย่างบุรุษตรงหน้าก็ไม่เลวร้ายเท่าไหร่ ที่สำคัญรูปงามนักถ้าบอกว่างามเหนือผู้คนก็ว่าได้ รองลงมาคงเป็นใต้เท้าลู่คนนั้น คนโบราณนี่เขากินอะไรกันนะถึงหน้าตาดีขนาดนี้
คนตัวเล็กไปทำงานแล้วได้ยินเสียงชาวบ้านและคนของทางการมา เขามองไปลอดประตูก็เห็นไอ้เด็กน้อยนั่นหัวเราะต่อกระซิกกับเมียเขาอยู่ หึ ลู่เปียวที่กำลังคุยกับไป๋ซู่ฮวารู้สึกเหมือนมีไอเย็นแผ่ออกมาจากในบ้านตลอดเวลา
"แม่นางไป๋ บ้านท่านเย็นยะเยือกนักข้ารู้สึกขนลุกเช่นไรไม่รู้"
"ใต้เท้าอย่าคิดมากเลยเจ้าค่ะ บ้านอยู่ติดเชิงเขาอากาศมักจะเย็นเป็นธรรมดา ไปดูพวกเขาเริ่มเก็บเกี่ยวกันเถอะเจ้าค่ะ"
เดิมทีไป๋ซู่ฮวาจะเลี้ยงอาหารพวกเขาแต่คิดอีกทีไม่ดีกว่า จึงทำอาหารเฉพาะแค่ลู่เปียวและหวังเฮ่ากับคนติดตามไม่กี่คน
"แม่นางไป๋ เห็ดและผักของเจ้าช่างรสชาติดียิ่งนัก ข้าชอบมากไม่คิดว่าวันนี้จะได้กินอีก" เสียงกระแอมไม่หยุดดังออกมาจากในบ้าน ไป๋ซู่ฮวาอ่อนใจ
"เดี๋ยวข้ามานะเจ้าคะ ท่านพี่คงสำลักหรือหิวน้ำขอตัวไปดูก่อน"
ไป๋ซู่ฮวาเดินมาถึงก็เห็นคนตัวโตนั่งหน้างอ ไม่สบอารมณ์อย่างยิ่ง จึงไปนั่งข้างเขาก่อนจะเอนตัวซบกับอกแกร่งมือบางลูบหน้าอกเขาอย่างเอาใจ
"อย่างอแงสิ เขามาธุระเรื่องงาน ข้าแต่งงานแล้วใครจะมาชอบกันเขาเป็นถึงผู้ตรวจการเชียวนะข้าเป็นแค่สาวชาวบ้าน อีกอย่างสามีข้ารูปงามออกปานนี้ ใครจะสิ้นคิดไปเลือกคนอื่นหืม อื้อ"
หยางหนิงเฉิงจูบนางดูดดื่มเรียกร้อง ไป๋ซู่ฮวาตามใจเขาไม่งั้นวันนี้ไม่ต้องกินดี กระดูกคงติดคอเขาทั้งวันคงกระแอมจนลูกกระเดือกหลุด หยางหนิงเฉิงปล่อยนางอย่างเสียดาย ไป๋ซู่ฮวาจัดเสื้อผ้าเข้าที่โน้มคอเขาลงมาจูบอีกครั้งก่อนจะเดินออกมา ลู่เปียวเงยหน้ามองไหนว่าเป็นสามีตกกระไดพลอยโจน เหตุใดถึงเอิ่ม ปากบวมขนาดนี้ดูท่าไม่พลอยโจนเสียกระมัง
"นี่ๆเสี่ยวฮวามานี่หน่อย ไป๋ซิ่วพี่สาวเจ้าพาพี่ชายเจ้ากับคนงานร้านเขามาก่อกวนแหนะ"ไป๋ซู่ฮวาไปตามแรงลากของเซียวผิงผิง จนนางลับตาลู่เปียวที่กำลังจะนำอาหารเข้าปากอยู่ๆประตูบ้านก็เปิดเขาถูกหอบมานั่งแอ้งแม้งบนพื้น สามารถหอบเขามาได้ฝีมือเช่นนี้มีคนเดียว เสด็จพี่หยางหนิงเฉิงก่อนจะเงยหน้า ใช่จริงๆ"โอ๊ยเสด็จพี่ ทรงทำอะไรหม่อมฉันเจ็บนะ แล้วนี่สามีของแม่นางไป๋คือท่านหรือ ห๊า คนที่เกลียดสตรีเข้าไส้ไม่จริงมั้งข้าคงเข้าใจผิด""ไม่ผิดหรอกแล้วเลิกเกาะแกะเมียข้าด้วยว่าแต่มาที่นี่ทำไม เมืองหลวงไกลเพียงนั้นท่านชายเช่นเจ้าไม่อยู่ในจวนดีๆมาเร่ร่อนที่กันดาร หรือถูกเสด็จอาหรือเสนาบดีลู่เนรเทศมาล่ะ""เสด็จพี่ ข้ามาเพราะได้ข่าวว่าโอรสของฉินกุ้ยเฟยยังมีชีวิตอยู่ จึงอยากหาข่าวคนของฮองเฮาเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว ถ้าเด็กยังอยู่เรื่องรัชทายาทของแคว้นอู่ก็ยังมีหวัง""ได้ข่าวว่าอยู่ที่ใดหรือ บุตรของนางเป็นผู้ชายหรือจึงมั่นใจนัก" หยางหนิงเฉิงหลับตาโชคดีที่ให้เสี่ยวจิ้งกับอาหลี่พาเด็กๆไปเล่นที่อื่นแล้ว ลู่เปียวเป็นเด็กดีแต่หูตาสกุลกัวนั่นมากมายต้องระวัง"ข้าก็ไม่รู้ ได้ข่าวว่านางคลอดเด็กแล้วฝากเจ้าอาวาสวัดไท้ส่วยเลี้ยงดู
ลู่เปียวขานรายชื่อคนที่ติดหนี้พี่สะใภ้เขาทีละคน ข้าวและถั่วอย่างละกระสอบถูกวางตรงหน้า โชคดีที่ไป๋ซู่ฮวาเลือกห้องใหญ่จึงเก็บได้พอดี ส่วนที่เกินมานั้นใส่ไว้ในห้องเก็บเสียงเดิมนางมีถั่วเหลืองเจ็ดสิบกระสอบ ถั่วลิสงห้าสิบกระสอบ ข้าวเปลือกหนึ่งร้อยห้าสิบกระสอบ พ่อเฒ่าไป๋แทบจะกระโดดมาฆ่านาง อีเด็กอกตัญญู น่าโมโหนักหันไปเห็นหลานชายนอนอยู่ก็เอ่ยขึ้น"นี่เจ้าสาม ต่อหน้าใต้เท้าท่านนี้เจ้าทุบตีพี่ชายกับคนของเขาบาดเจ็บจะชดเชยอย่างไร""ใช่ท่านพ่อพูดถูก นังเด็กสารเลวนั่นพี่ชายเจ้านะลงมือหนักถึงเพียงนี้ ยังมีความเป็นคนอยู่ไหม"ลุงใหญ่กับท่านปู่ช่างเข้ากันได้ดีไป๋ซู่ฮวาคิดในใจ ไหล่น้อยๆเริ่มสั่น เหมือนคนกลั้นสะอื้นจนน่าสงสาร ร่างระหงในชุดสีฟ้าอ่อนบอบบางเหลือเกิน ใครเห็นก็อยากเข้าไปปลอบใจ น้ำตาค่อยๆไหลช้าๆก่อนจะเงยหน้าสบตาชาวบ้าวแล้วเอ่ย"ข้าไม่เข้าใจ ทุกท่านใต้เท้ารบกวนให้ความกระจ่างแก่ข้าน้อยด้วย มีโจรมาขโมยของบ้านท่านๆต้องคำนับหรือไม่ ที่ดินของข้าผลผลิตในแปลงนาของข้าต้องยกให้ผู้อื่นหรือไม่ พาคนมาจะทำร้ายข้าๆต้องขอบคุณเช่นนั้นหรือ ฮือๆสามีข้าก็ขาเจ็บ ตอนนี้ยังป่วยอยู่เลยจะบีบคั้นให้พวกเราอดตายจริงหร
หยางหนิงเฉิงกอดคนตัวเล็กอย่างรักใคร่ เขาเกลียดสตรี พวกนางชอบวุ่นวายเรือนเสด็จพ่อมีสนมมากมายที่เสด็จปู่ประทานมาให้ ตบตีแย่งความโปรดปรานกันจนน่ารำคาญเสด็จพ่อไม่ได้มีเสด็จแม่คนเดียว เขารู้ดีว่าเสด็จพ่อมิไยดีเสด็จแม่เท่าไหร่นัก เขารักใคร่อยู่กับหลิงเซียงอดีตฮูหยินของใต้เท้าสุย หลังจากสูยกว่างผิงตายเสด็จพ่อก็ไม่สนใจคำวิจารณ์ กลับรับนางเข้าตำหนักแต่งตั้งเป็นชายารอง ไทเอาเองก็เอ่ยไม่ได้เพราะคนที่แต่งเสด็จแม่มาให้เสด็จพ่อของเขาก็คือไทเฮาเอง เสด็จย่าเป็นคนพรากคู่รักของเขา จนพอสามีนางตายลงเสด็จพ่อก็กลับไปหารักแรกทันที เสด็จแม่ทุกข์ใจจนล้มป่วย ฮ่องเต้รู้ว่าเขาเกลียดบิดาจึงแต่งตั้งเป็นอ๋องตั้งแต่อายุสิบห้า พระราชทานตำหนักคังหมิงให้ เขาปลูกไผ่ปล้องม่วงเต็มไปหมด จึงตั้งชื่อว่าตำหนักไผ่ อยู่ห่างจากเมืองหลวงสิบลี้ตอนนี้ให้เสด็จแม่ประทับอยู่กับแม่นม หยางหญิงเฉิงเสนอตัวเป็นแม่ทัพไปชายแดน ชายารองคนนั้นของบิดาเร่งเร้าอยากหากพระชายาให้เขา นางเอาหลานสาวตนเองมาเสนอ เขาส่งหลานสาวนางไปค่ายทหารเป็นนางบำเรอของกองทัพตั้งแต่วันแรก ทำให้ทะเลาะกันกับหยางเยี่ยนอ๋องยกใหญ่ จนถึงขั้นไม่เหยียบเมืองหลวงไป๋ซู่ฮวาหลับอยู
ไป๋ซู่ฮวารู้ดีว่าเรื่องนี้เจ็บปวดเพียงใด คุณพ่อมีเมียน้อยโดยที่ไม่มีใครรู้ น้องสาวคนละแม่อ่อนกว่านางแค่ปีเดียว จนเรื่องแดงตอนมหาลัยบังเอิญได้เข้าเรียนที่เดียวกัน เด็กคนนั้นเดินมาหาแล้วบอกตรงๆว่าพวกเรามีพ่อคนเดียวกัน จากนี้ถ้าเจอกันก็ทักทายหน่อยในน้ำเสียงมีความเยาะเย้ย เธอจึงเข้าใจหัวอกผู้ชายตรงหน้าดี"ท่านพี่ไม่ต้องสาบานหรอก ข้าเชื่อท่านอย่าคิดถึงอดีตเหล่านั้นอีกเลยหากจัดการทุกอย่างเรียบร้อยท่านพาข้าไปเยี่ยมมารดาท่านดีหรือไม่เจ้าคะ"หยางหนิงเฉิงกระชับอ้อมกอดกดคางกับศีรษะของนางก่อนจะพลิกตัวขึ้นด้านบน"ข้าหิวอีกแล้ว อยากกินเจ้าอีกครั้งขึ้นเขาพรุ่งนี้เถอะได้ไหมหืม"ไป๋ซู่ฮวาคล้องคอเขาแล้วพยักหน้า ผู้ชายคนนี้เจ็บปวดเหมือนที่นางเคยเจ็บคุณแม่ร้องไห้ทุกวันจนเธอเรียนจบมีงานทำ มีรายได้มากมายไม่ง้อคุณพ่อออกตระเวนทำวิจัยอายุยี่สิบแปดคุณแม่อยากให้แต่งงานแต่ท่านก็จากไปก่อนด้วยโรคร้าย ก่อนจะมาที่นี่ทางองค์กรกำลังจะเลื่อนคนขึ้นตำแหน่งหัวหน้าภาคหลังจากที่ลงเขาเรียบร้อย เพื่อนรักของเธอเอลิก้าเองก็เป็นตัวเต็งครั้งนี้ ตอนตกเขาเธอรู้สึกถึงแรงผลักจากด้านหลัง ชาติที่แล้วมีทั้งพ่อทรยศกับเพื่อนทรยศชาตินี้เธอ
ไป๋ซู่ฮวาเตรียมอาหารสำหรับสองคนเพื่อขึ้นเขา จากนั้นก็นั่งกินข้าวกับเด็กๆ หยางหนิงเฉิงกินเองนางจึงไม่ต้องยุ่งวันนี้ เดิมทีหยางหนิงเฉิงไม่อยากให้นางขึ้นเขา สมุนไพรหรือเนื้อกวางเนื้อหมูป่าแค่สั่งคำเดียวก็ได้แล้ว แต่เพาะวันนี้คนของเขาจะมาส่งข่าวจึงจำเป็นต้องยอมไป๋ซู่ฮวายามเฉินไป๋ซู่ฮวาเข้าไปหาเขานำยาไปให้ก่อนจะออกเดินทาง อาหลี่กับนางสะพายตะกร้าคนละใบ ข้าลำธารเล็กๆ ทางขึ้นเขาไม่ลำบากนักสมัยทำวิจัยนางสามารถเดินข้ามเขาเป็นลูกๆได้ แต่ยุคนี้ต่างกันสัตว์ป่าค่อยข้างั้นดุร้ายมากกว่านัก ไป๋ซู่ฮวาต้องการหาเมล็ดพันธุ์และเครื่องเทศเช่นโป๊ยกั๊ก พริกไทย หรือเถามัน สมุนไพรสำหรับรักษาหน้าให้อาหญิงอาหลี่กับไปซู่ฮวาได้สมุนไพรมามากมาย ทั้งแก้หวัดแกไข้ แก้ปวดท้องอีกทั้งยังได้ผลไม้ป่าหลายชนิด อยากเดินเข้าไปลึกอีกหน่อยเผื่อจะได้สัตว์บ้าง เงินที่รีดไถมาจากชาวบ้านกับจางชุน หากซื้อทุกมื้อคงไม่ไหว"อาหลี่ นั่นต้นพริกนี่ไปเด็ดกันเถอะ อะ ตรงนั้นมีโป๊ยกั๊กด้วย อืมบนเขามีของดีจริงๆ นี่อาซ้อว่าจะทำเต้าหู้หากทำเสร็จแล้วจะให้เจ้าไปจับปลามาสักสองตัว อาซ้อจะทำหัวปลาหม้อไฟให้กิน มีเต้าหู้ขาวๆเด้งๆด้วยอร่อยมากนะ ใส่พริกให
ไป๋ซู่ฮวาเดินเข้าบ้านก็เห็นหยางหนิงเฉิงนอนหลับอยู่ น่าจะเพราะยาลดไข้ที่ให้กิน ข้าวกลางวันที่วางไว้ให้เขาไม่แตะเลยไป๋ซู่ฮวาเลยต้องปลุกเขาแต่ปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ตื่นเอาแต่งึมงำ นางจึงงัดไม้เด็ดออกมา"ท่านพี่ ไม่กินข้าวไม่ชอบอาหารที่ข้าทำถ้างั้นคืนนี้ข้าไปนอนกับน้องๆนะเจ้าคะ ท่านอยากอยู่คนเดียวข้าเข้าใจ"ได้ผลคนตัวโตลืมตาคว้าเอวบางเข้าหาพลิกนางขึ้นเตียงตัวเขาคร่อมนางไว้จุมพิตดูดดื่มทันที จนเริ่มแหวกสาบเสื้อดูดกลืนทรวงอกนางไป๋ซู่ฮวาใช้มือดันหน้าอกเขาออกแล้วจ้องด้วยสายตาจริงจัง"ท่านพี่ ท่านลงจากเตียงไม่ได้ ต้องอยู่บนนี้แต่เหตุใดเวลาเอาเปรียบข้าท่านไม่เหมือนคนเจ็บสักนิด อย่าให้รู้นะว่าหลอกลวงข้าๆเอาท่านตายแน่""หืม เจ้าจะฆ่าพี่เหรอเด็กดี พี่เจ็บขาจริงๆ แถมยังถูกธนูยิงอีกเป็นไข้ด้วยแต่เจ้าน่ากินนักแถมยังดีกว่ายาท่านหมออีกนะ หืมมม""ข้าไม่มีแรงจะเชือดไก่ ฆ่าท่านไม่ได้หรอกแต่ข้าจะไปนอนกับหนิงจินและหนิงหรง ให้ท่านนอนคนเดียว""ไม่ได้สิ เมียจ๋าขาข้าเจ็บจริงๆไม่ได้หลอกลวง แต่หมอหยุนบอกว่าข้าต้องขยับร่างกายบ้าง จะให้ทำอย่างไรเล่าออกแรงมากๆก็เจ็บ นอกจากขยับเวลาที่พี่อยู่ในกายเจ้านั่นรู้สึกไม่เจ็บเท่าไ
ไป๋ซู่ฮวาเดินมาถึงบ้านของเซียวผิงผิงก่อนจะตะโกนเรียก"ผิงผิง เจ้าอยู่หรือไม่ข้าเองเสี่ยวฮวา" ไม่นานสตรีวัยกลางคนก็เดินมาเปิดประตูรั้ว นางคือป้าโจวมารดาของเซียวผิงผิง"อ้าว นังหนูฮวาหรือ ผิงผิงไม่อยู่หรอกป้าให้ไปในเมืองน่ะ มีอะไรหรือเปล่า" ป้าโจวเอ่ยถามไปซู่ฮวา"ข้ามาขอซื้อผักเจ้าค่ะท่านป้า บ้านสามีรกนักยังไม่ได้ดายหญ้าถางดิน เลยไม่มีผักให้กิน""เฮ้อ เขาดีกับเจ้าหรือไม่เสี่ยวฮวาเอ๊ย จางชุนคนนั้นสารเลวนัก กับสตรีคนนึงแถมยังเห็นกันมาแต่เด็กกับทำร้ายทำลายกันลงคอ"ไปซู่ฮวารู้ดีว่าท่านป้าโจวห่วงใยนางอย่างจริงใจ จึงไม่อยากให้นางกังวล"ท่านป้า ท่านพี่ดีกับข้ายิ่งนัก อีกอย่างขาของเขาใกล้หายดีแล้ว ไม่นานคงกลับไปเรียนได้อีกอย่างเขาบอกว่าทุกอย่างเขาไม่ถือสา จะรับข้าเป็นภรรยาคนเดียวทั้งชีวิตเจ้าค่ะ" ไป๋ซู่ฮวาบอกแก่ป้าโจว แต่ป้าโจวนางก็ไม่วางใจ"เสี่ยวฮวาเอ๊ย เงินทองหากเก็บหอมรอมริบไว้ได้ก็เก็บเถอะนะ ใจบุรุษไม่แน่นอนดูอย่างไป๋ฮวนสิ เอ่อได้ข่าวว่าไปอยู่บ้านเก่าพ่อแม่เจ้าที่ท้ายหมู่บ้านหรือ""ขอบคุณท่านป้าที่หวังดีเจ้าค่ะส่วนอาไป๋ฮวนข้าทนเห็นนางถูกทุบตีไม่ได้ เรื่องที่ท่านสั่งสอนวันนี้ข้าจะจำไว้ ท่าน
ไป๋เจินลูบหลังหลานสาม ก่อนจะพากันไปยังบ้านเชิงเขาไป๋ซู่ฮวาแนะนำให้เขารู้จักกับหยางหนิงเฉิง ทั้งคู่คุยกันถูกคอ ไป๋เจินมีฝีมือไม่น้อยแต่เพราะล่าสัตว์มาก็ขายนำเงินให้บิดามารดาจนหมด กระทั่งเขาถูกหมาป่าทำร้าย บิดามารดาไม่ออกเงินสักบาทเป็นหลานสาวที่เอาปิ่นปักผมไปจำนำ เพื่อเงินให้เขาไปรักษาไป๋เจินจึงล้มเลิกล่าสัตว์หันไปรับจ้างในเมืองแทน เพื่อรวบรวมเงินไถ่ถอนปิ่นมาคืนหลานสาวหากล่าสัตว์ต้องเสี่ยงบาดเจ็บ อีกทั้งเงินยังตกอยู่กับมารดาทุกอีแปะ อาหลี่เข้ามาในห้องนำเงินมาให้หยางหนิงเฉิงไว้ก่อน เพราะไป๋ซู่ฮวาวยังอยู่ในครัว"ท่านอ๋องพระชายาเก่งยิ่งนัก กระดูกเสือนั่นขายได้ถึงห้าร้อยตำลึง เลือดเสืออีกสองร้อยตำลึง ท่านหมอหยุนบอกว่ามันเป็นของหายาก เสือล่าไม่ได้ง่ายๆ"หยางหนิงเฉิงรับตั๋วเงินจากองครักษ์ของตนมาก่อนจะได้ยินเสียงหวานๆของภรรยา"ท่านอา ทานข้าวได้แล้วเจ้าค่ะอีกสักครู่ผู้ใหญ่บ้านจะมา ข้าเชิญเขาเอาไว้ด้วย"ไป๋ซู่ฮวาทำเนื้อย่าง น้ำแกงไชเท้ากับกระดูกหมู ถั่วฝักยาวผัดใส่เนื้อหมูกับพริก มีข้าวสวย ส่วนของเด็กสามคนเป็นไข่ผัดกับเห็ดที่เก็บมา ถั่วผัดไม่ใส่พริกแยกไว้ให้ ผู้นำหมู่บ้านมาแล้ว ทั้งหมดนั่งลงก
หยางหนิงเฉิงจัดการกองทัพเข้าที่เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้พวกเขามาอยู่ที่นี่ได้ห้าปีแล้ว ไป๋ซู่ฮวาคลอดบุตรชายให้เขาอีกสองคนบุตรสาวอีกหนึ่งคนตอนนี้ผลผลิตจากแดนใต้ราคาดีมาก โดยเฉพาะกุ้งแห้งกับผงปรุงรสที่ทำจากปลาและกุ้งตากแห้งนำมาบดผสมกับเครื่องเทศเป็นสินค้าขายดีจริงๆ ส่งเข้าเมืองหลวงและเหลาอาหารต่างๆ ชาวประมงที่ตอนนี้ลืมตาอ้าปากได้ไป๋ซู่ฮวาตามหาต้นปาล์มจนเจอ ในที่สุดก็ปลุกต้นปาล์มได้กว่าสองพันต้น ตามพื้นที่ต่างๆ ต้นไหนโตแล้วให้ผลผลิตแล้วนางก็ปล่อยไว้ตอนนี้ผลผลิตของจวนอ๋องก็คืออาหารทะเลแบบแห้ง ผงปรุงรส น้ำมันปาล์ม นางเสาะหาพื้อที่น้ำเค็มจนเจอ แคว้นอู่ไม่ขาดแคลนเกลือแล้ว เพราะพระชายาหนิงอ๋องรู้วิธีทำเกลือได้ไป๋ซู่ฮวากำลังคำนวณบัญชีอยู่ นางเพิ่งให้นมเจ้าตัวเล็กไป ตอนนี้หยางหยางได้แปดเดือนแล้ว สวามีไม่มีทีท่าจะหยุดทำลูกเลยจริงๆ เหตุผลที่ฟังไม่ขึ้นเอาเสียเลย"คนงามของพี่ สมบัติไม่รู้กี่ร้อยล้านตำลึงทองนับไม่ไหว หากลูกน้อยอีกหน่อยใครจะรักษาเล่าทูนหัว""แล้วลูกไม่ออกเรือนแต่งงานหรือเพคะ พระองค์ถึงจะขยันทำอยู่คนเดียว อื้อ"หยางหนิงเฉิงจูบนางเรียกร้อง ปลดสายรัดเอวก่อนจะฝังใบหน้าหล่อเหลาลงเต้าอวบอิ่
จนมื้อค่ำเรียบร้อย ไป๋ซู่ฮวาที่ตอนนี้กำลังอยู่ในอ่างอาบน้ำ กำลังนั่งหลับตาผ่อนคลายนางเหนื่อยมาก จนกระทั่งน้ำกระเพื่อม นางจึงลืมตาขึ้นมองก็เห็นคนตัวโตลงมานั่งในอ่างกับนาง พร้อมเนื้อตัวล่อนจ่อน"ท่านอ๋อง ยิ่งนับวันยิ่งหน้าด้านหรือไม่เพคะ""สองเดือนแล้วเด็กดี ยังไม่ได้รักเจ้าเลยนะคืนนี้ไม่ยอมแล้ว มาพี่ช่วยอาบน้ำดีกว่าจะได้เสร็จไวๆ""อย่ามาเจ้าเล่ห์พระองค์ทรง อื้ออออ" หยางหนิงเฉิงไม่ฟังรั้วนางมาจูบดูดดื่ม กดท้ายทอยนางไว้ไม่ให้หนีเขา มือหนากอบกุมทรวงอกขยำรุนแรงเพราะอารมณ์คิดถึงก่อนจะดันแผ่นหลังนางขึ้นก้มลงมาดูดปลายถันสีหวานจนไป๋ซู่ฮวาที่ตอนแรกดุเขาเสียงเข้ม ตอนนี้กลับกลายเป็นครางเสียงหวานรัญจวน"อ๊าๆๆๆ ท่านอ๋องเมียเสียว อื้อดูดเบาๆสิเพคะ หัวนมจะหลุดติดปากแล้ว""ไม่ไหวแล้วคิดถึงเหลือเกินคนดี ฮวาเอ๋อร์ยืนขึ้นให้พี่หน่อย หันหลังมาโน้มตัวไปข้างหน้าเอามือเกาะขอบอ่างไว้"ไป๋ซู่ฮวาทำตามที่เขาบอก หยางหนิงเฉิงจับแก่นกายร้อนผ่าวถูไถกลีบบอบบางที่มีน้ำหวานใสๆหลั่งออกมาเคลือบจากนั้นก็กดลงไปในร่องสีชมพูสวย"อื้อ แน่นจังเด็กดี เสียวจังฮวาเอ๋อร์พี่รักเจ้าเหลือเกิน""อื้อ ท่านแม่ทัพทวนของท่านช่างใหญ่โตนัก
นี่จึงเป็นเหตุผลที่ซ่งไทเฮากับสกุลกัวหาเด็กทั้งสามเลิกแล้วมคนไม่เจอ งานเลี้ยงเลิกแล้วเรียบร้อย ทุกคนต่างกลับไปเพื่อพักผ่อน วันพรุ่งนี้ต้องออกเดินทางไกล เมื่ออยู่ในห้อง หยางหนิงเฉิงที่นอนให้เมียรักหนุนแขนอยู่มืออีกข้างลูบไหล่มนเบาๆ ไปซู่ฮวาเอ่ยถามเขาเพราะอยากรู้ถึงดินแดนทางใต้"ท่านอ๋อง ดินแดนทางใต้ติดทะเลหรือเพคะ""อืม อยากไปดูหรือ น้องหญิงของพี่รู้จักทะเลด้วยหรือ ที่นี่อยู่ไกลที่นั่นตั้งสองพันลี้นะ""เอ่อ เคยได้ยินคนคุยกันนะเพคะ ว่าทะเลสวยมากแต่เวลามีพายุก็น่ากลับมากเช่นกัน หม่อมฉันอยากเห็นสักครั้งเพคะ""ได้ พี่จะพาเจ้าไป ตอนนี้นอนก่อนเถอะคนงามของพี่ดึกมากแล้วนะ"ไป๋ซู่ฮวาที่กระเถิบเข้าหาอ้อมกอดสามี หยางหนิงเฉิงกอดนางแนบแน่นสตรีที่เขาไม่เคยคิดว่าจะรัก สตรีที่ได้มาด้วยเล่ห์กลของผู้อื่น สุดท้ายนางคือสตรีที่คู่ควรกับเขาที่สุด ลมหายใจของนางสม่ำเสมอหยางหนิงเฉิงจุมพิตเรือนผมนาง กระซิบเบาๆก่อนจะหลับตามไป"ฮวาเอ๋อร์พี่รักเจ้า"ยามซื่อทุกคนมารวมตัวกันที่ลานกลางหมู่บ้านเพื่อเตรียมออกเดินทาง ไป๋เข่อซินร้องไห้กอดบิดากับมารดาแน่น หยางตงชิงกอดไป๋จิงถิงกับโจวซิ่วเหม่ยร้องไห้"เสี่ยว
ไป๋ซู่ฮวาที่ถูกเขาเคี่ยวกรำทุกคืนตั้งแต่วันที่นางยอมให้เขาคืนนั้น ตอนนี้ไม่มีแรงจะสั่งงานบ่าวไพร่แล้ว หยางหนิงเฉิงเดินผิวปากมาหาแต่เมียนั่งบนเตียงมองมาตาเขียวปั้ด "ทูนหัว เมื่อคืนพี่ไม่ตั้งใจจะกวนจริงๆนะ สงสัยจะมาจากสุราสมุนไพรที่เสด็จพี่ให้ชิม แค่สองจอกเท่านั้นเอง ยังดีที่พี่ไม่ชิมเยอะ""อย่ามาหาข้ออ้างหยางหนิงเฉิง ท่านหื่นกามเช่นนี้ต้องแยกเรือนแล้ว ตั้งแต่ยามไฮ่จนยามเหมามีใครเขาลามกหื่นกามเท่าท่านบ้าง ข้าปวดเอวไปหมดแล้วคนบ้า งานการไม่ต้องทำแล้ว หากคู่แฝดไม่ถึงขวบแล้วข้าตั้งครรภ์อีกล่ะก็แยกห้องนอนถาวรจนกว่าพวกเขาจะสิบขวบ""ไม่ได้สิเมียจ๋าต่อไปขอคืนละหนึ่งชั่วยามพอไม่มากกว่านั้นแล้วคนดี นะๆ น้องหญิงพี่สัญญาวันหลังจะไม่ดื่มสุรานั่นอีก""หนิงอ๋อง ออกไปเลยนะคนบ้า นี่แน่ะ"ตุ๊บๆ เสียงวัตถุตกกระทบพื้น หยางหนิงเฉิงโดดหลบทันที เมียปาหมอนใส่เขาแทบจะทุกใบที่อยู่เตียง ก่อนจะตัดสินใจรวบนางกักไว้ในอ้อมกอด พลิกนางลงใต้ร่างจูบนางดูดดื่ม ไป๋ซู่ฮวารักเขามากนางรักเขาไม่คิดว่าชีวิตนี้จะรักคนๆหนึ่งได้ อยู่ด้วยกันมาปีกว่าเขาไม่เคยให้นางเจ็บช้ำน้ำใจสักครั้ง นอกจากเรื่องนี้เรื่องเดียวเขากินเก่งก
วันต่อมาไม่นานรถม้าก็เคลื่อนที่จนมาถึงอารามที่ฉินกุ้ยเฟยถือศิลบวชอยู่ ฮ่องเต้ให้คนไปแจ้งว่ามีคาราวาสมาขอพบนาง ไม่นานแม่ชีคนนึงก็เดินออกมา นางเดินหลังตรงแต่ยังคงสำรวมมีความเป็นคนสูงศักดิ์แม้จะอยู่ในชุดนักบวชทันทีที่ทั้งคู่พบกันหยางตงอวี้ยิ้มให้นาง ฉินกุ้ยเฟยไม่คิดว่าจะเจอกับเขาที่นี่จึงทำความเคารพ แต่เขาจับข้อศอกนางไว้ก่อนจะพูดคุย"ซวงเอ๋อร์ไม่พบเจ้าหลายปีสบายดีหรือไม่""ซวงเอ๋อร์สบายดีเพคะ ฝ่าบาททรงมาไกลถึงเพียงนี้ไทเฮาจะทรงทำเรื่องลับหลังตอนไม่ประทับอยู่วังหรือไม่เพคะ""วางใจเถอะ นางชดใช้กรรมแล้วล่ะ วันนี้ข้าพาคนๆนึงมาพบเจ้าด้วย ชิงเอ๋อร์มาพบเสด็จแม่เจ้าได้แล้ว"หยางตงอวี้หันไปเรียกหยางตงชิงไม่นานเขาก็ดินออกมาจากห้องรับรอง ทันทีที่ฉินกุ้ยเฟยเห็นหน้าเขานางก็ร้องไห้ เดินไปกอดเขาแน่น"ชิงเอ๋อร์ๆลูกแม่ เจ้ายังสบายดี แม่กังวลว่าพวกเขาจะพบเจอเจ้าหรือไม่ เพราะเจ้าคล้ายฝ่าบาทมากนัก ฮืฮๆๆลูกแม่""ส เสด็จแม่ อย่าร้องไห้เลยพ่ะย่ะค่ะ ลูกสบายดีท่านพ่อท่านแม่เลี้ยงดูอย่างดีไม่เคยให้ลำบากพ่ะย่ะค่ะ""แม่รู้ๆ พวกเขาผัวเมียเป็นคนดียิ่งนัก แม่เองก็คิดว่าฝากไม่ผิดคน"หยางตงอวี้อยากให้แม่ลูกได้คุยกันมา
ยามเฉินทุกคนต่างเตรียมรถม้าวันนี้ฮ่องเต้กับรัชทายาทจะเสด็จไปเยี่ยมหมู่บ้านกันดารหาทางแก้ปัญหาอีกหลายที่ เมื่อเสร็จธุระแล้วก็ขึ้นรถเตรียมออก รถม้าวิ่งมาไกลมากแล้ว ไป๋ซูหยางนึกถึงคำพูดบิดามารดาและพี่สาว จึงตัดสินใจไปเข้าเฝ้าพระบิดาก่อนจะตกลงไปเยี่ยมมารดาผู้ให้กำเนิด"พี่ใหญ่ ข้าอยากปรึกษาท่านเรื่องมารดาของข้าขอรับ""ทำไมหรือ เสี่ยวหยางเจ้าสับสนว่าตนเองอยากไปเยี่ยมนางหรือไม่ ควรไปดีหรือเปล่าใช่ไหม""ขอรับ ข้าไม่อยากให้ท่านพ่อกับท่านแม่เสียใจ แต่ใจหนึ่งก็อยากไปเห็นนางสักครั้งขอรับ""เสี่ยวหยาง นางเป็นมารดาให้กำเนิดนับว่ามีบุญคุณ อีกอย่างนางใช้ทั้งชีวิตปกป้องเจ้าจนได้มาเจอท่านพ่อกับท่านแม่ ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาบ้านใหญ่จะทำไม่ดีกับเจ้าไว้มาก แต่อย่างน้อยก็คงดีกว่าเจ้าต้องถูกคนพยายามฆ่าทุกวัน ควรไปขอบคุณนางด้วยตนเองสักครั้ง ให้นางได้เห็นว่าเจ้าเติบใหญ่เพียงใดในตอนนี้""ขอรับพี่ใหญ่ ข้าจะไปบอกท่านพ่อกับท่านแม่ก่อน""อืม ท่านแม่พ่อกับท่านแม่จิตใจโอบอ้อมไม่มีทางขัดขวางเจ้าหรอก ไปเถอะ"้ไป๋ซูหยางออกไปแล้ว เขารู้สึกสบายใจที่ได้คุยกับพี่สาว ไม่รู้ว่าไปอยู่วังหลวงจะเป็นเช่นไร แม้จะมีพี่เข่อซินจะไปอยู่
หยางหนิงเฉิงที่ตอนนี้กอดไป๋ซู่ฮวาอยู่บนเตียง คู่แฝดเป็นเด็กรู้ความยิ่งนัก กินเสร็จก็นอนไม่เคยงอแงสักนิด เมื่อวานรัชทายาทมาหาพี่สาวพี่น้องพูดคุยกันสักพัก เขาอยากให้ทั้งคู่มีเวลาส่วนตัวมากกว่านี้เพราะหยางหนิงเฉิงจะไม่กลับวังหลวง แต่จะเลยไปดินแดนทางใต้ทันที เขาเป็นห่วงภรรยาหากเดินทางไปๆมาๆนางอาจไม่ไหวอีกอย่างเขาทิ้งทัพใหญ่มาปีกว่าแล้วต้องกลับไปจัดการ จิ้งหยวนไปดูแลให้แล้วทิ้งเซียวอ้ายเย่วไว้ที่นี่ นางตั้งครรภ์อยู่เดินทางไม่ไหวอีกอย่างในกองทัพอาหารการกินสำหรับคนท้องย่อมลำบากก่อนไปไป๋ซู่อวา จัดการเสบียงให้พวกเขาหนึ่งต้าน นับว่าเยอะไม่น้อยในช่วงที่ไม่มีสงครามเช่นนี้ การเจรจาชายแดนเป็นไปได้ด้วยดี รับทายาทเสนอให้คุยกันเรื่องแลกเปลี่ยนอาหาร ราษฎรอยู่ดีมีสุขก็ไม่ต้องแย่งที่ทำมาหากินกันให้เดือดร้อน"วันนี้ไท่จื่อเก่งมากนัก สามารถแก้ปัญหาที่ดินเมืองกว่างสุยสำเร็จ อีกทั้งยังทรงจัดการทรัพยากรน้ำได้ดี จัดสรรพันธ์พืชให้เหมาะกับฤดูกาล ฝ่าบาททรงเอ่ยชมไม่น้อย""เสี่ยวหยางเป็นเด็กหัวดีเรียนรู้ได้ไวนักเจ้าค่ะ เมื่อวานเขามาปรึกษาเรื่องจะไปพบมารดาบังเกิดเกล้าดีหรือไม่ เขาไม่อยากให้ท่านพ่อท่านแม่รู้สึกเสี
หยางตงชิงหลับไปแล้วคอพับไปมา หยางตงอวี้จับบุตรชายนอนหนุนตัก ฉุ่กงกงที่หันมาหาจะเอ่ยเรียกฮ่องเต้เห็นภาพนั้นก็น้ำตาไหล พลันคิดถึงภาพที่องค์ชายนอนหนุนตักเสด็จแม่ สนมจางมักลูบหัวฝ่าบาทเสมอสมัยที่ยังเป็นองค์ชายน้อยภาพนั้นหายไปหลังจากจางกุ้ยเฟยประชวรแล้วจากไป ฝ่าบาทจึงเหลือเพียงความว้าเหว่อ้างว้างในใจตลอดมาหลายปี จนกระทั่งเด็กสาวที่ชื่อไป๋เข่อซินเข้ามาถึงมีร้อยแย้มพระสรวลอีกครั้ง ตอนนี้ภาพนั้นกำลังกลับมา ภาพองค์ชายที่ทรงยิ้มแย้มกับเขาทรงห่วงใยบ่าวไพร่เสมอเขากับเย่กงกงรับใช้ข้างกานมาตั้งแต่ยังเป็นองค์ชายตัวน้อยๆ"ท่านอาฉู่ ข้าได้ขนมมาฝากท่านด้วยขนมงาที่ร้านจินเซียง""ท่านอาเย่ว ข้าไม่อยากอยู่ตำหนักบูรพาเลยท่านพาข้าไปเที่ยวนอกวังหน่อยนะ ๆๆท่านอาเย่นะๆ ""ท่านอาฉู่ วันนี้ข้าหนีเสด็จพ่อออกไปเที่ยวตลาดมาคนเยอะแยะเลย มีสุราดอกท้อให้ท่านหนึ่งกาด้วย"หยางต้งอวี้เงยหน้าจากใบหน้าบุตรชายก่อนจะสบตาคนสนิทที่ติดตามเขาตั้งแต่เขาสี่ขวบตั้งแต่เสด้จแม่ยังเป็นเป็นเฟยด้วยซ้ำ"ท่านอาฉู่ เขาช่างเหมือนข้าในวัยเด็กจริงๆท่านว่าไหม""พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท ไท่จื่อคล้ายพระองค์มากนัก เฉลียวฉลาดรูปงาม""แวะตลาดด้านหน้าสักหน่
หยางเสวียนเยี่ยนกับหยางเสียนรุ่ยกับเมืองหลวงไปได้ครึ่งเดือนกว่าแล้ว ตอนนี้ฮ่องเต้เสด็จประพาสไปยังหมู่บ้านต่างๆที่ไป๋ซู่ฮวาได้ไปบุกเบิกเส้นทางการค้าและการเกษตรเอาไว้หยางตงอวี้เป็นอัจฉริยะไม่เกินจริง เพียงไม่นานก็เข้าใจโครงสร้างและปัญหาทั้งหมดของสภาพดิน ฟ้า อากาศและเริ่มแก้ปัญหาได้แล้ว สมแล้วที่ถูกเลือกให้เป็นฮ่องเต้ ราษฎรแคว้นอู่ไม่ต้องมาทนอดอยากอีกต่อไปวันนี้เขาเรียกบุตรชายมาด้วยเพื่อไปหมู่บ้านที่ทำสุราหมัก ส่วนหมู่บ้านข้างๆกันทำสุราขม(น้ำส้มสายชู) ถั่วเหลืองที่ผลผลิตเคยมีมากจนต้องมาเททิ้งกลับนำมาแปรรูปได้หลายอย่างนักไป๋ซูหยางนั่งอยู่บนรถม้า รอฟังคำสั่งบิดาอย่างเดียวเหมือนปกติ บางครั้งเสด็จพ่อก็ให้เขาเสนอความคิดเห็นบ้าง บรรยากาศในรถม้าเงียบเกินไปจนกระทั่งผู้เป็นบิดาเอ่ยขึ้นก่อน"ชิงเอ๋อร์ที่ผ่านมาพ่อทอดทิ้งเจ้า ไร้ความสามารถในการปกป้องเจ้าลูกโกรธพ่อหรือไม่""ไม่พ่ะย่ะค่ะ""มาสั่งข้างๆพ่อหน่อย วันนี้ไม่มีฮ่องเต้ ไม่มีรัชทายาทมีเพียงบิดากับบุตรชายที่กำลังคุยเรื่องครอบครัว"ไป๋ซูหยางที่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นแซ่ราชวงศ์เรียบร้อยแล้ว องค์รัชทายาทหยางตงชิง เขาเขยิบมานั่งใกล้กับบิดา หยางตงอวี้โ