บทที่14/3สือเหนียงกระโดดลงจากโขดหินกระทืบเท้าลงบนดินชุ่มน้ำอย่างคนเจ้าอารมณ์ "ข้าบอกแล้วข้าไม่ได้รวมอยู่กับนางพวกนั้น ท่านพี่เฟยอวี่รู้ดีว่าต้องถนอมข้า เขาจะร่วมหลับนอนกับข้าก็เมื่อแต่งงานกับข้าแล้วเท่านั้น""เขาอาจจะบอกว่าจะแต่งกับเจ้าให้เจ้ารออย่างมีความหวัง แต่เจ้ารู้ไหมสือเหนียง" เผยอิงได้ยินเสียงของตนโต้ตอบสตรีตรงหน้าอย่างฉะฉาน จนไม่คิดว่านั่นคือเสียงของนางเอง "ตั้งแต่แต่งงานกันเขานอนกอดก่ายข้าเอาไว้ทั้งคืน พร่ำบอกว่าอยากให้ข้าตั้งท้องลูกของเขาในเร็ววัน""สายเลือดจากสตรีชั้นต่ำ ต่อให้มีก็เท่านั้น คนอย่างท่านชายเฉิน โอรสพระองค์เดียวขององค์หญิงเหมยเจียง หรือจะยกสายเลือดชั้นต่ำขึ้นมาเชิดชู " สือเหนียงหวีดร้อง"แต่...อย่างน้อยๆ ตอนนี้ข้าก็คือคนที่ได้แต่งงานกับเขาและเป็นคนที่จะได้อุ้มท้องสายเลือดของท่านชายเฉิน หลานคนแรกขององค์หญิงเหมยเจียง""ก็แค่หลับนอนด้วยกันเท่านั้น ที่ผ่านมาท่านพี่เฟยอวี่ก็หลับนอนกับสตรีทั้งเมืองหลวง อย่าสำคัญตัวไปหน่อยเลย" สือเหนียงหันมาพูดเสียงแหลมปากสั่นดวงตาวาวโล้ด นางโกรธจนไม่อาจเก็บอารมณ์ไหว "เขา ..พี่เฟยอวี่อยากได้ลูกจากเจ้าเพราะอยากได้สิทธิ์ในเหมืองทองชิงห
บทที่15/1เมื่อรถม้าเคลื่อนเข้ามาถึงลานพิธีล่าสัตว์เฉินเฟยอวี่รีบลงจากรถม้ามาคนแรก กวักมือเรียกสาวใช้ประจำตัวของภรรยาของตน"ห้ามห่างนางเข้าใจหรือไม่" เขาสั่งเสียงเข้ม ก่อนที่คนอื่นจะตามลงมาจากรถม้า"เจ้าค่ะนายท่าน ข้าน้อยจะไม่ให้ฮูหยินคลาดสายตา" เมื่อรับคำสั่งเรียบร้อยลู่หลันรีบวิ่งไปประคองฮูหยินที่กำลังหย่อนเท้าลงบนบันไดรถม้าอย่างทุลักทุเล นางไม่แม้แต่ปรายตาไปมองสองพี่น้องสกุลกู้ที่ยืนรอลงจากรถม้าต่อจากนาง เผยอิงในตอนนี้รู้เหมือนร่างกายกำลังจะแตกเป็นเสี่ยง อยากพักเต็มทนแล้ว"ข้ามีหน้าที่ต้องไปทำ ข้าคงไม่ได้กลับกระโจมพัก" เฉินเฟยอวี่เห็นญาติผู้น้องทั้งสองกำลังเดินมาทางนี้ เขาจึงหันไปบอกภรรยาของเขาให้รู้ว่าเขามีงานที่จะต้องทำต่อจากนี้ และคืนนี้คงจะไม่ได้กลับ"ข้าเข้าใจ" นางรู้จากลู่หลันแล้วว่าเขาต้องทำสิ่งใด"ป้าจงจะช่วยเจ้าเอง หากมีเทียบเชิญจากฮูหยินสกุลอื่น เจ้าไม่ได้รู้จักใครอย่าตอบรับคำเชิญจะดีกว่า รู้จักก็ไม่ต้องไปเจ้ายังไม่พร้อมที่จะเข้าสังคมชั้นสูง" เขาไม่อยากปล่อยนางเขาไปในดงหมาป่าตัวเมียเพียงลำพังเผยอิงเม้มปากแน่น "ข้าเข้าใจ" นางคิดว่าเฉินเฟยอวี่คงจะไม่อยากให้นางสนิทชิดเชื้อกั
บทที่15/2"ทำไมเจ้าตามสามีเจ้าไปด้วยล่ะอิงอิง" กู้เฉิงกงที่เดินตามมาติด รีบถามก่อนที่นางจะเข้าไปในกระโจมพักผ่อน หากพ้นตรงนี้ไปเขาก็ไม่อาจตามนางเข้าไปได้อีก"ท่านก็รู้ว่าข้าชอบอ่านหนังสือมากกว่าถืออาวุธ" นางคิดว่าหลุดพ้นคนพวกนี้ได้แล้ว หลุดจากเฉินเฟยอวี่และกู้สือเหนียงได้ ก็ยังเหลือกู้เฉิงกง นางเป่าปากอย่างเบื่อหน่าย"นั่นสิ ข้ารู้ดีกว่าใครว่าเจ้าชอบสิ่งใดไม่ชอบสิ่งใด หากเป็นข้าที่แต่งกับเจ้า ป่านนี้เจ้ากับข้าคงมีความสุขไปแล้ว" เขาเอ่ยเสียงเศร้ายืนก้มหน้า"ข้าว่าข้าพูดเรื่องนี้กับท่านไปแล้ว แม้ในอดีตข้าจะเคยสนิทสนมกับท่าน นั่นก็เพราะท่านเป็นเพียงคนเดียวที่ข้าได้คุยด้วยโดยที่ท่านพ่อไม่ได้ห้าม แต่ตอนนี้ข้าแต่งงานแล้วข้าหวังว่าท่านจะทิ้งระยะห่างและไม่พูดเรื่องนี้อีก หากท่านหวังดีกับข้าด้วยใจจริงคงไม่อยากให้ผู้ใดมาได้ยินแล้วเอาข้าไปเอ่ยถึงเสีย ๆ หาย ๆ ใช่หรือไม่ท่านพี่เฉิงกง" เผยอิงหันขวับมา นางทนมามากพอแล้วกับการพูดจากสองแง่สองง่ามราวกับว่าเขาและนางมีสายสัมพันธ์อื่นนอกจากพี่น้องของกู้เฉิงกง ที่ผ่านมานางผิดเองไม่เคยทวงยามเขาพูดเช่นนี้ เพราะไม่อยากหักหน้าเขา อย่างไรที่ผ่านมาเขาก็ดีกับนางเสมอ
บทที่16/1"นางจะหายไปได้อย่างไร" เฉินเฟยอวี่ตวาดลั่นทั้งตัวของเขาโชกไปด้วยเลือด หลังจากเก็บซากศพกบฏและรายงานฮ่องเต้เรียบร้อย เขาก็รีบกลับมาหาภรรยาที่กระโจม แต่เมื่อกลับมาเมื่อเดินเข้ามาใกล้ที่พัก ป้าจงและสาวใช้รีบวิ่งหน้าตื่นเข้ามาหา ดวงใจเขาหายไปลู่หลันน้ำตานองอาบสองแก้ม นางเฝ้าฮูหยินไม่ห่าง ไม่ให้คลาดสายตาสักนิด อีกทั้งตอนที่นายท่านไม่อยู่ เมื่อคืนนางก็นอนเฝ้าหน้ากระโจมไม่ได้กลับไปนอนที่พักของตน แต่จนสายก็ยังไม่เห็นฮูหยินเรียกใช้ นางจึงตะโกนเรียกก็ไร้เสียงตอบกลับ ป้าจงที่เดินมาพอดี นางและป้าจงจึงขอเข้าไปด้านใน แต่เมื่อเข้าไปกลับไม่พบผู้ใดอยู่ข้างใน ด้านข้างกระโจมถูกกรีดเป็นแนวยาว ทหารที่เฝ้าอยู่รอบ ๆ ตายจนหมด ลู่หลันเล่าทั้งน้ำตา นางเล่าเสริมอีกว่าหลังจากทานอาหารเย็นก็ผล็อยหลับไปตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้สึกตัวอีกทีตื่นมาก็เช้าแล้ว"ใคร! ใครมันบังอาจทำเยี่ยงนี้" เฉินเฟยอวี่ขบกล้ามแน่น "หาให้เจอ""พี่อวี่ใจเย็นก่อน ทำแผลก่อน คนที่พาตัวพี่สะใภ้ไปน่าจะยังไปไม่ไกล""พี่เฟยอวี่ หรือว่าท่านพี่อิงอิงจะหนีไปกับพี่ชายของข้า ข้าตื่นมาก็ไม่พบเขาเช่นกัน" นางรีบวิ่งมาเมื่อเห็นเฉินเฟยอวี่และคนของเขากลับ
บทที่16/2"เดินไว ๆ หน่อย" กู้เฉิงกงฉุดกระชากแขนบางจนเป็นรอยแดง"ข้าเดินไม่ไหวแล้ว เรากำลังจะไปไหนกัน" เผยอิงถามอย่างกลัดกลุ้ม นางเดินมาทั้งคืนแล้ว"เข้าไปในป่าลึกอีกนิด ไม่ต้องห่วงอิงอิง เดินไปอีกไม่ไกล พ้นป่านี้ไปก็ถึงหมู่บ้านแล้ว" เขาตอบอย่างเอาใจเผยอิงพยักหน้ารับ ช่วงกลางดึกนางได้ยินเสียงคนต่อสู้กัน เมื่อตะโกนถามลู่หลันก็ไร้เสียงตอบกลับ นางกำลังจะลุกขึ้นไปดู กลับต้องตกใจจนหวีดร้องออกมาเมื่อถูกตะครุบจับตัวจากด้านหลัง กลุ่มชายในชุดดำจับตัวนางและพาตัวออกมาจากกระโจม นางพยายามต่อสู้ขัดขืนสุดกำลัง แต่สุดท้ายก็ถูกจับมัดมือมัดเท้า โชคดีที่กู้เฉิงกงมาช่วยนางเอาไว้และพานางวิ่งหนีเข้าป่ามานางและกู้เฉิงกงเดินเท้ามาทั้งคืน แต่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหลุดพ้นจากป่า ถึงกระนั้นก็ไม่อาจหยุดฝีเท้าลงได้เพราะเกรงว่าชายชุดดำกลุ่มนั้นจะตามมาทัน"พี่เฉิงกง ไม่ใช่ว่าเราเข้ามาลึกเกินไปหรือเจ้าคะ""ข้าว่า ข้าหลงทาง" กู้เฉิงกงตอบเสียงห้วนก็สารภาพตามจริง ใบหน้าที่เคยยิ้มแย้มอารมณ์ดีอยู่ตลอดบึ้งตึง เขารู้จากบิดาว่าคืนนี้อ๋องอวั๋นซีจะก่อกบฏบิดาของเขาก็เข้าร่วมด้วยสนับสนุนเงินทุนเล็กน้อย หากสำเร็จสกุลกู้จะได้ร้านค้
บทที่17/1กู้เฉิงกง เดินวนไปเวียนมาอยู่พักใหญ่ สุดท้ายเขาก็เลือกที่จะเดินจากไป"พี่เฉิง.. กง" เผยอิงปรือตาขึ้นมองอีกครั้งก็ไร้ร่างของบุรุษที่นางเคยเชื่อใจ ในป่าลึกเช่นนี้ความหวังที่จะมีคนผ่านมาแทบจะริบหรี่ มือบางลูบคลำข้อเท้าเล็ก ๆ ของตนที่บูดบวม สภาพนางในตอนนี้ไม่คงไม่อาจบีนผานั่นขึ้นไปเองได้ และกู้เฉิงกงก็คงไม่บีนลงมาช่วยนางหรอก หากลงมาก็คงไม่ต่างอะไรกับการเอาชีวิตของตนลงมาทิ้ง เผยอิงไม่ได้ขุ่นเคืองใจแม้แต่น้อยที่เขาละทิ้งนางเอาไว้เช่นนี้ ชีวิตของเขาที่ท่องไปทั่วแคว้นพบปะผู้คนมากมายแลกเปลี่ยนซื้อขายสินค้าที่นำไปใส่รถม้าไป นางเคยนึกอิจฉาชีวิตอิสระของกู้เฉิงกง รอคอยวันที่เขาจะมาเยือนสกุลเผย เพื่อจะได้ฟังว่าครานี้เขาไปที่ใดมาบ้าง เมื่อตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้จึงไม่ผิดที่เขาจะเลือก ทิ้งภาระอย่างนางเสยในทันใดนั้นเองสายตาของเผยอิงก็เริ่มเลือนราง ร่างกายร้อนผ่าวราวกับกำลังจับไข้ ตอนนี้เสียงหวีดหวิวภายในหูเงียบไปแล้ว นางไม่ได้ยินเสียงใด ๆ นอกจากเสียงลมที่พัดขึ้นมาจากหุบเหวด้านล่างชีวิตคนก็เป็นเช่นนี้ในขณะที่กำลังจมดิ่ง เจ้าอาจต้องชนหลายสิ่งกว่าจะถึงก้นเหวใครว่าถ้ากระโดดลงหุบเหวแล้วจะสิ้น
บทที่17/2เผยอิงลืมตาขึ้นในความมืด ตอนที่อยู่ที่หน้าผานั่นนางไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดทางร่างกายแม้แต่น้อย แต่ตอนนี้เพียงกระดิกนิ้วก็รวดร้าวไปทั้งกาย"เอ๊ะ" เสียงหวานอุทานในความมืด ไม่ใช่แค่ขาที่หัก แก้วหูที่ฉีก แต่ร่างบางฟกช้ำไปทั้งตัว"รู้สึกอย่างไรบ้าง" เสียงทุ้มถามในความมืด เอื้อมมือหนาไปจุดตะเกียง เฉินเฟยอวี่นั่งเฝ้าภรรยาของตนตั้งแต่หมอหลวงทำแผลเสร็จเรียบร้อยแล้วกลับออกไป เขาไม่ได้จุดตะเกียงให้แสงสว่างภายในกระโจมนี้เพราะเกรงว่าจะรบกวนการพักผ่อนของนาง"อย่าเพิ่งลุกขึ้น" มือหนาจับหัวไหล่บางให้นอนลงที่เดิน เมื่อเห็นนางพยายามยกกายตนเองขึ้นจากเตียง "ยังเจ็บอยู่ไหม"เผยอิงพยักหน้าน้อย ๆ แต่เมื่อเห็นเขารินน้ำใส่จอกป้อนให้โดยโอบศีรษะของนางให้เผยอยกขึ้นเล็กน้อย นางจิบน้ำนั่นแต่โดยดี นางมองตามมือที่จับจอกนั้นเลื่อนไปจนถึงใบหน้าคมเข้ม แววตาที่เขามองนางช่างห่วงหาอาทร"น้ำอะไรเจ้าคะ" นางถามเสียงแหบพร่า"น้ำอ้อยผสมยาสงบใจ" เขาตอบเสียงนุ่มเหตุใดเขาถึงตอบนางเสียงนุ่มนวลเช่นนั้น เพราะนางบาดเจ็บสาหัสเจียนตายหรือเปล่าเขาถึงได้ดีกับนางเพียงนี้"เฉินเฟยอวี่"เขารีบวางจอกน้ำแล้วหันมาถามทันที"เป็นอะไร
บทที่18/1 จบบริบูรณ์เผยอิงมองสามีของนางที่ก้ม ๆ เงยหน้าขึ้นลงอย่างเก้ ๆ กัง ๆ จุ่มผ้าผืนเล็กลงในอ่างน้ำเย็น บิดผ้าจนผ้าเกือบแห้งสนิทแล้วนำมาเช็ดตามผิวกายของนางหลังจากกลับมาจากลานพิธีล่าสัตว์เฉินเฟยอวี่เขาก็ไม่เคยอยู่ห่างนางเลย คอยดูแลนางเช็ดเนื้อตัวที่ไหม้แดดอย่างไม่รังเกียจ จนตอนนี้ลู่หลันแทบไม่เคยเข้ามาในเรือนกุ้ยฮวานางเพิ่งรู้ว่าเขาเองก็บาดเจ็บที่หัวไหล่ จากคมดาบในการปราบกบฏที่พิธีล่าสัตว์ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังลงไปอุ้มนางขึ้นมาจากหน้าผานั่น"เฟยอวี่""ท่านพี่ เมื่อใดเจ้าจะเรียกข้าท่านพี่" เขาหันมาถามเสียงนุ่ม ตลอดสามวันที่นั่งเฝ้าข้างเตียงนาง เขารับรู้ได้ว่าสายตาที่นางมองเขาแปรเปลี่ยนไป แต่นางก็ยังคงสงวนท่าทีที่มีต่อเขาเอาไว้"ท่าน.. พี่" ใบหน้าขาวนวลขึ้นสี นางเขินอายไม่น้อยที่ต้องเรียกขานเขาเช่นนี้"ว่าอย่างไรฮูหยินรัก เจ้าต้องการสิ่งใด" เขาก้มลงมาถามเสียงนุ่มบีนเตียงขึ้นไปนอนเคียงข้างหน้าตาเฉย"แล้วท่านจะขึ้นมานอนทำไม" นางหันไปเอ็ด พวงแก้มนวลสุกปลั่ง"ข้าก็บาดเจ็บเจ้าลืมไปแล้วหรือ" เขารั้งเอวบางมากอดไว้หลวม ๆ เพราะเกรงจะกระทบขาของนางที่ด้ามไม้เอาไว้"ข้าอยากออกไปข้างนอก ได้ห
บทที่18/2"นั่น" เผยอิงตาเบิกกว้างเมื่อถูกอุ้มเข้ามายังเรือนหนังสือ นางไม่เคยเข้ามาที่แห่งนี้สักครั้ง เพราะมีเวรยามคอยคุ้มกันตลอด เรือนแห่งนี้เป็นสถานที่ต้องห้ามของทุกคนในจวนสกุลเฉินเฉินเฟยอวี่สาวเท้าเข้าไปภายใน วางร่างภรรยาของตนลงบนตั่งเขียนหนังสือ"ตกใจอะไรเสี่ยวอิง" เขาถามภรรยาเสียงกลั้วหัวเราะ"กะ ก็ นั่น มัน" ใช่ภาพที่ลู่หลันบอกว่าเป็นภาพของสตรีที่อยู่ในใจของเฉินเฟยอวี่ เด็กน้อยเกล้าจุกสองข้างแก้มแดงนัยน์ตากลมโตในภาพวาดนั่น มันเป็นข้าเองไม่ใช่หรือ แล้วยังภาพอื่น ๆ ที่เรียงรายอยู่จนเต็มผนังทุกด้าน ล้วนเป็นภาพของนางทั้งสิ้น"ภาพวาดของเจ้า" เขาต่อประโยคให้"มะ หมายความว่าอย่างไร ข้า.. งงไปหมดแล้ว"เฉินเฟยอวี่ปลดภาพวาดภาพหนึ่งลงจากผนังนำมันมาวางบนตั่งเขียนหนังสือที่ภรรยาของเขานั่งอยู่ "ข้าขอให้ท่านพ่อบุญธรรมให้คนวาดมาให้ ทุกครั้งที่ท่านมาเมืองหลวงจะต้องมีภาพเจ้ามาฝากข้าหนึ่งภาพ""ทำไม""ทำไมข้าถึงแขวนมันไว้เช่นนี้น่ะหรือ ท่านพ่อบุญธรรมเอามาอวดข้าว่าบุตรสาวของเขาเติบโตขึ้นอย่างงดงามมากเพียงไรในแต่ละปี และข้าก็รับมันไว้ด้วยความเต็มใจ""ข้านึกว่าท่านเกลียดเข้า""ข้าไม่เคยเกลียดเจ้า สัก
บทที่18/1 จบบริบูรณ์เผยอิงมองสามีของนางที่ก้ม ๆ เงยหน้าขึ้นลงอย่างเก้ ๆ กัง ๆ จุ่มผ้าผืนเล็กลงในอ่างน้ำเย็น บิดผ้าจนผ้าเกือบแห้งสนิทแล้วนำมาเช็ดตามผิวกายของนางหลังจากกลับมาจากลานพิธีล่าสัตว์เฉินเฟยอวี่เขาก็ไม่เคยอยู่ห่างนางเลย คอยดูแลนางเช็ดเนื้อตัวที่ไหม้แดดอย่างไม่รังเกียจ จนตอนนี้ลู่หลันแทบไม่เคยเข้ามาในเรือนกุ้ยฮวานางเพิ่งรู้ว่าเขาเองก็บาดเจ็บที่หัวไหล่ จากคมดาบในการปราบกบฏที่พิธีล่าสัตว์ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังลงไปอุ้มนางขึ้นมาจากหน้าผานั่น"เฟยอวี่""ท่านพี่ เมื่อใดเจ้าจะเรียกข้าท่านพี่" เขาหันมาถามเสียงนุ่ม ตลอดสามวันที่นั่งเฝ้าข้างเตียงนาง เขารับรู้ได้ว่าสายตาที่นางมองเขาแปรเปลี่ยนไป แต่นางก็ยังคงสงวนท่าทีที่มีต่อเขาเอาไว้"ท่าน.. พี่" ใบหน้าขาวนวลขึ้นสี นางเขินอายไม่น้อยที่ต้องเรียกขานเขาเช่นนี้"ว่าอย่างไรฮูหยินรัก เจ้าต้องการสิ่งใด" เขาก้มลงมาถามเสียงนุ่มบีนเตียงขึ้นไปนอนเคียงข้างหน้าตาเฉย"แล้วท่านจะขึ้นมานอนทำไม" นางหันไปเอ็ด พวงแก้มนวลสุกปลั่ง"ข้าก็บาดเจ็บเจ้าลืมไปแล้วหรือ" เขารั้งเอวบางมากอดไว้หลวม ๆ เพราะเกรงจะกระทบขาของนางที่ด้ามไม้เอาไว้"ข้าอยากออกไปข้างนอก ได้ห
บทที่17/2เผยอิงลืมตาขึ้นในความมืด ตอนที่อยู่ที่หน้าผานั่นนางไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดทางร่างกายแม้แต่น้อย แต่ตอนนี้เพียงกระดิกนิ้วก็รวดร้าวไปทั้งกาย"เอ๊ะ" เสียงหวานอุทานในความมืด ไม่ใช่แค่ขาที่หัก แก้วหูที่ฉีก แต่ร่างบางฟกช้ำไปทั้งตัว"รู้สึกอย่างไรบ้าง" เสียงทุ้มถามในความมืด เอื้อมมือหนาไปจุดตะเกียง เฉินเฟยอวี่นั่งเฝ้าภรรยาของตนตั้งแต่หมอหลวงทำแผลเสร็จเรียบร้อยแล้วกลับออกไป เขาไม่ได้จุดตะเกียงให้แสงสว่างภายในกระโจมนี้เพราะเกรงว่าจะรบกวนการพักผ่อนของนาง"อย่าเพิ่งลุกขึ้น" มือหนาจับหัวไหล่บางให้นอนลงที่เดิน เมื่อเห็นนางพยายามยกกายตนเองขึ้นจากเตียง "ยังเจ็บอยู่ไหม"เผยอิงพยักหน้าน้อย ๆ แต่เมื่อเห็นเขารินน้ำใส่จอกป้อนให้โดยโอบศีรษะของนางให้เผยอยกขึ้นเล็กน้อย นางจิบน้ำนั่นแต่โดยดี นางมองตามมือที่จับจอกนั้นเลื่อนไปจนถึงใบหน้าคมเข้ม แววตาที่เขามองนางช่างห่วงหาอาทร"น้ำอะไรเจ้าคะ" นางถามเสียงแหบพร่า"น้ำอ้อยผสมยาสงบใจ" เขาตอบเสียงนุ่มเหตุใดเขาถึงตอบนางเสียงนุ่มนวลเช่นนั้น เพราะนางบาดเจ็บสาหัสเจียนตายหรือเปล่าเขาถึงได้ดีกับนางเพียงนี้"เฉินเฟยอวี่"เขารีบวางจอกน้ำแล้วหันมาถามทันที"เป็นอะไร
บทที่17/1กู้เฉิงกง เดินวนไปเวียนมาอยู่พักใหญ่ สุดท้ายเขาก็เลือกที่จะเดินจากไป"พี่เฉิง.. กง" เผยอิงปรือตาขึ้นมองอีกครั้งก็ไร้ร่างของบุรุษที่นางเคยเชื่อใจ ในป่าลึกเช่นนี้ความหวังที่จะมีคนผ่านมาแทบจะริบหรี่ มือบางลูบคลำข้อเท้าเล็ก ๆ ของตนที่บูดบวม สภาพนางในตอนนี้ไม่คงไม่อาจบีนผานั่นขึ้นไปเองได้ และกู้เฉิงกงก็คงไม่บีนลงมาช่วยนางหรอก หากลงมาก็คงไม่ต่างอะไรกับการเอาชีวิตของตนลงมาทิ้ง เผยอิงไม่ได้ขุ่นเคืองใจแม้แต่น้อยที่เขาละทิ้งนางเอาไว้เช่นนี้ ชีวิตของเขาที่ท่องไปทั่วแคว้นพบปะผู้คนมากมายแลกเปลี่ยนซื้อขายสินค้าที่นำไปใส่รถม้าไป นางเคยนึกอิจฉาชีวิตอิสระของกู้เฉิงกง รอคอยวันที่เขาจะมาเยือนสกุลเผย เพื่อจะได้ฟังว่าครานี้เขาไปที่ใดมาบ้าง เมื่อตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้จึงไม่ผิดที่เขาจะเลือก ทิ้งภาระอย่างนางเสยในทันใดนั้นเองสายตาของเผยอิงก็เริ่มเลือนราง ร่างกายร้อนผ่าวราวกับกำลังจับไข้ ตอนนี้เสียงหวีดหวิวภายในหูเงียบไปแล้ว นางไม่ได้ยินเสียงใด ๆ นอกจากเสียงลมที่พัดขึ้นมาจากหุบเหวด้านล่างชีวิตคนก็เป็นเช่นนี้ในขณะที่กำลังจมดิ่ง เจ้าอาจต้องชนหลายสิ่งกว่าจะถึงก้นเหวใครว่าถ้ากระโดดลงหุบเหวแล้วจะสิ้น
บทที่16/2"เดินไว ๆ หน่อย" กู้เฉิงกงฉุดกระชากแขนบางจนเป็นรอยแดง"ข้าเดินไม่ไหวแล้ว เรากำลังจะไปไหนกัน" เผยอิงถามอย่างกลัดกลุ้ม นางเดินมาทั้งคืนแล้ว"เข้าไปในป่าลึกอีกนิด ไม่ต้องห่วงอิงอิง เดินไปอีกไม่ไกล พ้นป่านี้ไปก็ถึงหมู่บ้านแล้ว" เขาตอบอย่างเอาใจเผยอิงพยักหน้ารับ ช่วงกลางดึกนางได้ยินเสียงคนต่อสู้กัน เมื่อตะโกนถามลู่หลันก็ไร้เสียงตอบกลับ นางกำลังจะลุกขึ้นไปดู กลับต้องตกใจจนหวีดร้องออกมาเมื่อถูกตะครุบจับตัวจากด้านหลัง กลุ่มชายในชุดดำจับตัวนางและพาตัวออกมาจากกระโจม นางพยายามต่อสู้ขัดขืนสุดกำลัง แต่สุดท้ายก็ถูกจับมัดมือมัดเท้า โชคดีที่กู้เฉิงกงมาช่วยนางเอาไว้และพานางวิ่งหนีเข้าป่ามานางและกู้เฉิงกงเดินเท้ามาทั้งคืน แต่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหลุดพ้นจากป่า ถึงกระนั้นก็ไม่อาจหยุดฝีเท้าลงได้เพราะเกรงว่าชายชุดดำกลุ่มนั้นจะตามมาทัน"พี่เฉิงกง ไม่ใช่ว่าเราเข้ามาลึกเกินไปหรือเจ้าคะ""ข้าว่า ข้าหลงทาง" กู้เฉิงกงตอบเสียงห้วนก็สารภาพตามจริง ใบหน้าที่เคยยิ้มแย้มอารมณ์ดีอยู่ตลอดบึ้งตึง เขารู้จากบิดาว่าคืนนี้อ๋องอวั๋นซีจะก่อกบฏบิดาของเขาก็เข้าร่วมด้วยสนับสนุนเงินทุนเล็กน้อย หากสำเร็จสกุลกู้จะได้ร้านค้
บทที่16/1"นางจะหายไปได้อย่างไร" เฉินเฟยอวี่ตวาดลั่นทั้งตัวของเขาโชกไปด้วยเลือด หลังจากเก็บซากศพกบฏและรายงานฮ่องเต้เรียบร้อย เขาก็รีบกลับมาหาภรรยาที่กระโจม แต่เมื่อกลับมาเมื่อเดินเข้ามาใกล้ที่พัก ป้าจงและสาวใช้รีบวิ่งหน้าตื่นเข้ามาหา ดวงใจเขาหายไปลู่หลันน้ำตานองอาบสองแก้ม นางเฝ้าฮูหยินไม่ห่าง ไม่ให้คลาดสายตาสักนิด อีกทั้งตอนที่นายท่านไม่อยู่ เมื่อคืนนางก็นอนเฝ้าหน้ากระโจมไม่ได้กลับไปนอนที่พักของตน แต่จนสายก็ยังไม่เห็นฮูหยินเรียกใช้ นางจึงตะโกนเรียกก็ไร้เสียงตอบกลับ ป้าจงที่เดินมาพอดี นางและป้าจงจึงขอเข้าไปด้านใน แต่เมื่อเข้าไปกลับไม่พบผู้ใดอยู่ข้างใน ด้านข้างกระโจมถูกกรีดเป็นแนวยาว ทหารที่เฝ้าอยู่รอบ ๆ ตายจนหมด ลู่หลันเล่าทั้งน้ำตา นางเล่าเสริมอีกว่าหลังจากทานอาหารเย็นก็ผล็อยหลับไปตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้สึกตัวอีกทีตื่นมาก็เช้าแล้ว"ใคร! ใครมันบังอาจทำเยี่ยงนี้" เฉินเฟยอวี่ขบกล้ามแน่น "หาให้เจอ""พี่อวี่ใจเย็นก่อน ทำแผลก่อน คนที่พาตัวพี่สะใภ้ไปน่าจะยังไปไม่ไกล""พี่เฟยอวี่ หรือว่าท่านพี่อิงอิงจะหนีไปกับพี่ชายของข้า ข้าตื่นมาก็ไม่พบเขาเช่นกัน" นางรีบวิ่งมาเมื่อเห็นเฉินเฟยอวี่และคนของเขากลับ
บทที่15/2"ทำไมเจ้าตามสามีเจ้าไปด้วยล่ะอิงอิง" กู้เฉิงกงที่เดินตามมาติด รีบถามก่อนที่นางจะเข้าไปในกระโจมพักผ่อน หากพ้นตรงนี้ไปเขาก็ไม่อาจตามนางเข้าไปได้อีก"ท่านก็รู้ว่าข้าชอบอ่านหนังสือมากกว่าถืออาวุธ" นางคิดว่าหลุดพ้นคนพวกนี้ได้แล้ว หลุดจากเฉินเฟยอวี่และกู้สือเหนียงได้ ก็ยังเหลือกู้เฉิงกง นางเป่าปากอย่างเบื่อหน่าย"นั่นสิ ข้ารู้ดีกว่าใครว่าเจ้าชอบสิ่งใดไม่ชอบสิ่งใด หากเป็นข้าที่แต่งกับเจ้า ป่านนี้เจ้ากับข้าคงมีความสุขไปแล้ว" เขาเอ่ยเสียงเศร้ายืนก้มหน้า"ข้าว่าข้าพูดเรื่องนี้กับท่านไปแล้ว แม้ในอดีตข้าจะเคยสนิทสนมกับท่าน นั่นก็เพราะท่านเป็นเพียงคนเดียวที่ข้าได้คุยด้วยโดยที่ท่านพ่อไม่ได้ห้าม แต่ตอนนี้ข้าแต่งงานแล้วข้าหวังว่าท่านจะทิ้งระยะห่างและไม่พูดเรื่องนี้อีก หากท่านหวังดีกับข้าด้วยใจจริงคงไม่อยากให้ผู้ใดมาได้ยินแล้วเอาข้าไปเอ่ยถึงเสีย ๆ หาย ๆ ใช่หรือไม่ท่านพี่เฉิงกง" เผยอิงหันขวับมา นางทนมามากพอแล้วกับการพูดจากสองแง่สองง่ามราวกับว่าเขาและนางมีสายสัมพันธ์อื่นนอกจากพี่น้องของกู้เฉิงกง ที่ผ่านมานางผิดเองไม่เคยทวงยามเขาพูดเช่นนี้ เพราะไม่อยากหักหน้าเขา อย่างไรที่ผ่านมาเขาก็ดีกับนางเสมอ
บทที่15/1เมื่อรถม้าเคลื่อนเข้ามาถึงลานพิธีล่าสัตว์เฉินเฟยอวี่รีบลงจากรถม้ามาคนแรก กวักมือเรียกสาวใช้ประจำตัวของภรรยาของตน"ห้ามห่างนางเข้าใจหรือไม่" เขาสั่งเสียงเข้ม ก่อนที่คนอื่นจะตามลงมาจากรถม้า"เจ้าค่ะนายท่าน ข้าน้อยจะไม่ให้ฮูหยินคลาดสายตา" เมื่อรับคำสั่งเรียบร้อยลู่หลันรีบวิ่งไปประคองฮูหยินที่กำลังหย่อนเท้าลงบนบันไดรถม้าอย่างทุลักทุเล นางไม่แม้แต่ปรายตาไปมองสองพี่น้องสกุลกู้ที่ยืนรอลงจากรถม้าต่อจากนาง เผยอิงในตอนนี้รู้เหมือนร่างกายกำลังจะแตกเป็นเสี่ยง อยากพักเต็มทนแล้ว"ข้ามีหน้าที่ต้องไปทำ ข้าคงไม่ได้กลับกระโจมพัก" เฉินเฟยอวี่เห็นญาติผู้น้องทั้งสองกำลังเดินมาทางนี้ เขาจึงหันไปบอกภรรยาของเขาให้รู้ว่าเขามีงานที่จะต้องทำต่อจากนี้ และคืนนี้คงจะไม่ได้กลับ"ข้าเข้าใจ" นางรู้จากลู่หลันแล้วว่าเขาต้องทำสิ่งใด"ป้าจงจะช่วยเจ้าเอง หากมีเทียบเชิญจากฮูหยินสกุลอื่น เจ้าไม่ได้รู้จักใครอย่าตอบรับคำเชิญจะดีกว่า รู้จักก็ไม่ต้องไปเจ้ายังไม่พร้อมที่จะเข้าสังคมชั้นสูง" เขาไม่อยากปล่อยนางเขาไปในดงหมาป่าตัวเมียเพียงลำพังเผยอิงเม้มปากแน่น "ข้าเข้าใจ" นางคิดว่าเฉินเฟยอวี่คงจะไม่อยากให้นางสนิทชิดเชื้อกั
บทที่14/3สือเหนียงกระโดดลงจากโขดหินกระทืบเท้าลงบนดินชุ่มน้ำอย่างคนเจ้าอารมณ์ "ข้าบอกแล้วข้าไม่ได้รวมอยู่กับนางพวกนั้น ท่านพี่เฟยอวี่รู้ดีว่าต้องถนอมข้า เขาจะร่วมหลับนอนกับข้าก็เมื่อแต่งงานกับข้าแล้วเท่านั้น""เขาอาจจะบอกว่าจะแต่งกับเจ้าให้เจ้ารออย่างมีความหวัง แต่เจ้ารู้ไหมสือเหนียง" เผยอิงได้ยินเสียงของตนโต้ตอบสตรีตรงหน้าอย่างฉะฉาน จนไม่คิดว่านั่นคือเสียงของนางเอง "ตั้งแต่แต่งงานกันเขานอนกอดก่ายข้าเอาไว้ทั้งคืน พร่ำบอกว่าอยากให้ข้าตั้งท้องลูกของเขาในเร็ววัน""สายเลือดจากสตรีชั้นต่ำ ต่อให้มีก็เท่านั้น คนอย่างท่านชายเฉิน โอรสพระองค์เดียวขององค์หญิงเหมยเจียง หรือจะยกสายเลือดชั้นต่ำขึ้นมาเชิดชู " สือเหนียงหวีดร้อง"แต่...อย่างน้อยๆ ตอนนี้ข้าก็คือคนที่ได้แต่งงานกับเขาและเป็นคนที่จะได้อุ้มท้องสายเลือดของท่านชายเฉิน หลานคนแรกขององค์หญิงเหมยเจียง""ก็แค่หลับนอนด้วยกันเท่านั้น ที่ผ่านมาท่านพี่เฟยอวี่ก็หลับนอนกับสตรีทั้งเมืองหลวง อย่าสำคัญตัวไปหน่อยเลย" สือเหนียงหันมาพูดเสียงแหลมปากสั่นดวงตาวาวโล้ด นางโกรธจนไม่อาจเก็บอารมณ์ไหว "เขา ..พี่เฟยอวี่อยากได้ลูกจากเจ้าเพราะอยากได้สิทธิ์ในเหมืองทองชิงห