Share

ตอนที่8.ริมบึงบัว

Penulis: Bunmeebooks
last update Terakhir Diperbarui: 2024-11-27 22:33:28

ณ ศาลาแปดเหลี่ยม ริมบึงบัว

เฟินหนิงกุ้ยเหรินก้าวเข้ามาในศาลาอย่างเงียบเชียบ นางยกมุมปากขึ้นนิด ๆ คาดไม่ถึงว่าหลังจากที่น้องสาวต่างมารดาผู้นี้ฟื้นขึ้นจากความตายแล้ว จะมีหัวคิดมากขึ้น รู้จักเลือกสถานที่สนทนาที่ไม่ให้ผู้ใดสงสัยและมีความปลอดภัยอย่างยิ่ง เพราะศาลาแห่งนี้ก็อยู่ในที่โล่ง จึงไม่ต้องกังวลว่าจะมีการลอบทำร้าย  อีกทั้ง ผู้ติดตามจากทั้งสองตำหนักล้วนยืนรอพวกนางอยู่ข้างนอกในรัศมีที่ไม่สามารถได้ยินการสนทนาของคนที่อยู่ในศาลาได้

“ถวายพระพร ว่าที่ฮองเฮาเพคะ”

กุ้ยเหรินยอบตัวลง จงใจออกเสียงฮองเฮาให้ดังมากกว่าปกติ เหน็บแนมในความได้ดีของน้องสาวร่วมสายเลือด แม้จะเกิดในตระกูลเดียวกัน แต่วาสนาของคนทั้งคู่กลับต่างกันลิบลับ

นางเป็นลูกภรรยาเอก เกิดจากฮูหยินที่มาจากตระกูลมีชื่อเสียง แต่กลับมีความงามสู้ลูกอนุภรรยาที่เป็นนางโลมชั้นต่ำไม่ได้ !  ทันทีที่ฟางเหรินลืมตาดูโลก ทุกคนในครอบครัวต่างลืมว่านางเป็นลูกสาวอีกคน เมื่อเติบโตขึ้นนางเพียรพยายามหัดเรียนเขียนอักษร เดินหมาก วาดภาพเพื่อแสวงหาความรุ่งโรจน์ในวังหลวง แต่น้องสาวผู้นี้ยังตามมาจองล้างจองผลาญนางถึงที่นี่ แย่งเอาความรุ่งโรจน์ที่นางปรารถนาไปครอบครองทั้งหมด แล้วจะไม่ให้นางเคียดแค้นได้อย่างไร !

เฟิ่งอี๋ในร่างของกุ้ยเฟยหันกลับมาช้า ๆ พร้อมกับพิจารณาเฟินหนิงกุ้ยเหริน สนมผู้นี้มีตำแหน่งเล็ก ๆ ในวังหลัง เมื่อก่อนไม่ได้ใส่ใจมากนัก นึกไม่ถึงจริง ๆ ว่าภายใต้กิริยาสงบเรียบร้อยนั้นจะแฝงด้วยพิษร้ายยิ่งนัก

“พี่หญิง ให้เกียรติน้องเกินไปแล้ว น้องยังไม่ได้ถูกแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ”

เฟิ่งอี๋ยิ้มน้อย ๆ น้ำเสียงแว่วหวานนั้นฟังดูคล้ายกระเซ้าเย้าแหย่ ไม่ถือสาที่อีกฝ่ายจงใจเหน็บแนมตน

“พี่ฝึกเรียกเอาไว้ก่อนจะได้ชินปาก น้องหญิงอาถือสา”

เฟินหนิงเหยียดกายลุกขึ้น แล้วนั่งลงบนเก้าอี้โดยไม่รอให้พระสนมที่มีตำแหน่งสูงกว่าอนุญาต

เฟิ่งอี๋เห็นท่าทีของกุ้ยเหรินผู้นี้ก็ได้แต่แค่นเสียงเย้ยหยันในใจ แม้วาจาจะนอบน้อมแต่การกระทำช่างตรงกันข้ามนัก ในเมื่อฝ่ายนั้นไม่รักษามารยาท นางก็ไม่จำเป็นต้องเห็นศีรษะผู้ใด จึงหันกลับไปยืนชมดอกบัวเบื้องล่าง แล้วเอ่ยอย่างไม่ได้สนใจว่า ณ ที่แห่งนี้ยังมีกุ้ยเหรินเล็ก ๆ อยู่ด้วย

“พี่หญิงมีธุระอันใดกับข้ารึ”

เมื่อนางไม่เห็นพระสนมอยู่ในสายตา เฟิ่งอี๋จึงไม่จำเป็นต้องพูดไพเราะด้วย

เฟินหนิงจ้องมองแผ่นหลังของฟางเหรินด้วยสายตาจงเกลียดจงชังอย่างไม่ปิดบัง เมื่อก่อนน้องสาวของนางคนนี้เพียงแค่หยิ่งผยองกับความงามของตนที่เป็นที่โปรดปราน แต่ตอนนี้กลับไม่เห็นนางอยู่ในสายตาแล้ว

“ในเมื่อที่นี่มีเราแค่สองคน งั้นข้าก็จะพูดให้กระจ่าง เรื่องลอบวางยาพิษเจ้า ฆ่าเป็นคนทำ”

ทันทีที่ทราบข่าวว่าฟางเหรินไม่ตาย อีกทั้งยังไปคุกหลวงเพื่อสอบถามผู้ต้องสงสัยด้วยตนเอง นางจึงเดาว่น้องสาวรู้แล้วว่านางเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังการลอบวางยาพิษนี้ จึงได้รีบเร่งมาขวางหน้าเกี้ยวของกุ้ยเฟยเอาไว้

“ทราบแล้ว”

คนที่หันหลังให้ตอบโดยไม่มีหันกลับมา แผ่นหลังนั้นตั้งตรงสง่าเช่นเคย คำพูดของเฟินหนิงไม่ทำให้นางสั่นสะท้านแม้แต่น้อย

เฟินหนิงกัดริมฝีปากแน่น รู้สึกประหลาดใจกับท่าทีที่แปลกไปของน้องสาว คนที่ชอบโวยวาย และขวัญอ่อนจะสงบนิ่งได้ถึงเพียงนี้หรือ นางรีบสลัดความสงสัยทิ้งไปแล้วรีบเอ่ยเรื่องสำคัญว่า

“รู้แล้วก็ดี ข้าต้องการให้เรื่องนี้จบลงโดยไม่ต้องสืบหาตัวคนร้ายอีก”

เฟิ่งอี๋แค่นหัวเราะขึ้นมาคำหนึ่งแล้วเอ่ยว่า

“พี่หญิงกำลังขอร้องให้ข้าไว้ชีวิตอย่างนั้นหรือ”

เฟินหนิงเม้มริมฝีปากแน่น ก่อนจะเผยอปากเอ่ยวาจาว่า

“ข้ารึจะขอร้องเจ้า นี่เป็นการเจรจาต่อรอง หากเจ้าปล่อยให้ข้าถูกประหารเพราะลอบวางยาเจ้า  ข้าก็จะลากเจ้าไปแดนประหารด้วยเช่นกัน !..... อย่าลืมสิ... เจ้าเองก็มีส่วนช่วยในการใส่ร้ายฮองเฮาว่าคบชู้ จนฮองเฮาต้องถูกประหาร”

นางขยับกายลุกขึ้น แล้วเดินเข้ามายืนเคียงข้างกุ้ยเฟย

เฟิ่งอี๋หันมาสบตานางด้วยแววตาวาวโรจน์ ดวงตาที่เต็มไปด้วยแรงอาฆาตนั้นทำให้เฟินหนิงถึงกับผงะถอยหลังหนึ่งก้าวโดยไม่รู้ตัว นางจึงกะพริบตาแล้วลืมตาขึ้นใหม่เพื่อมองให้ชัด แต่แววตาอาฆาตแค้นนั้นได้หายไปแล้ว เหลือเพียงแววตาไร้เดียงสาของสตรีวัยสิบแปดปี

“พี่หญิงข่มขู่ข้ารึ”

เฟิ่งอี๋เอ่ยถามเสียงเย็น

“นี่เป็นหนทางเดียว ที่เราทั้งคู่จะรักษาชีวิตเอาไว้ได้”

เฟิ่งอี๋โกรธจนกล้ามเนื้อบนใบหน้ากระตุก คนที่ลอบวางร่างนี้จนตายก็คือ เฟินหนิง คนที่ใส่ร้ายนางจนตายก็ คือ เฟินหนิง แต่ตอนนี้ฆ่าตกรกำลังข่มขู่นางให้ยอมไว้ชีวิต น่าขันสิ้นดี !

หากว่าร่างนี้ยังคงเป็นฟางเหรินสตรีอายุสิบแปดก็คงจะยอมความได้ แต่ตอนนี้ร่างนี้มีวิญญาณของฮองเฮาเช่นนางอาศัยอยู่ ทำไมจะต้องยอมให้คนเลว ๆ เช่นนี้ขึ้นมานั่งอยู่บนศีรษะ !

“พี่หญิงพูดก็มีเหตุผล”

เฟิ่งอี๋ปั้นเสียงให้ดูราบเรียบที่สุด

เฟินหนิงหันกลับมามองน้องสาวอีกครั้ง วาจาที่เอ่ยเมื่อครู่ไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธ นางจึงเอ่ยอย่างคนที่ถือไพ่เหนือกว่าไว้ในมือว่า

“ข้าไม่รอให้เจ้ารับปากข้าตอนนี้หรอกนะ แต่เวลาที่มีอยู่น้อยนัก หากใต้เท้าจ้านสืบคดีมาถึงข้าเมื่อไหร่ เรื่องเจ้าลอบคบชู้ และร่วมกันใส่ร้ายฮองเฮาก็จะถูกเปิดเผยทันทันที !”

ทั้งสองมองสบตากัน ต่างคนต่างมีแผนการในใจ

ยามห้าย

ยามนี้.... ดวงจันทราจะลอยอยู่เหนือตำหนักไป่เหอพอดี แสงสีนวลของมันเล็ดลอดเข้าไปตามช่องลวดลายฉลุที่บรรจงสลักเป็นรูปบุปผาอันงดงาม แสงจันทร์นั้นอาบไล้ใบหน้างามกระจ่างใส เส้นผมสีดำขลับสลวยราวกับไหมเรียบลื่นมือยามนี้ถูกปล่อยเป็นแผ่รองรับศีรษะกับหมอน ขับเน้นผิวขาวของใบหน้าให้ดูผ่องแผ้วมากขึ้น

เกอหลาง ยืนอยู่ข้างเตียงบรรทมของฟางเฟรินกุ้นเฟยนานแล้ว เพราะจิตใจที่ยากจะสงบได้พาเขาลักลอบเข้ามาในตำหนักแห่งนี้ ทั้งเป็นห่วงหญิงคนรักถูกลอบวางยาพิษจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด ทั้งอยากรู้ว่าลูกในครรภ์ของนางที่เสียไปนั้นใช่ลูกเขาหรือไม่

การพบกันในครั้งก่อน นางทำราวกับว่าไม่เคยรู้จักเขามาก่อน เมื่อเห็นนางวางตัวสูงส่งห่างเหินเช่นนั้นภายในใจเขายิ่งร้อนรุ่ม อยากรู้ว่าช่วงเวลาที่เขารับพระบัญชาจากฝ่าบาทให้ไปจับกุมตระกูลชุนนอกวังหลวงเกิดอะไรขึ้นบ้าง เมื่อเขากลับมาก็ได้ยินข่าวว่าพระสนมกุ้ยเฟยถูกลอบวางยาพิษ

หัวหน้าองครักษ์ยื่นมือออกไปช้า ๆ อยากจะสัมผัสพวงแก้มอุ่นนิ่มของนางอีกสักครา แต่เมื่อเสียงหนึ่งในสมองดังขึ้นว่า อีกไม่นานเทพธิดาในใจเขานางนี้กำลังจะถูกแต่งตั้งขึ้นเป็นแม่ของแผ่นดิน  ฮองเฮาของใต้หล้า ฝ่ามือเขาก็ชะงักค้างกลางอากาศ บางทีการที่นางทำตัวแปลกไปอาจจะเป็นเพราะเหตุผลนี้  นางต้องการยุติความสัมพันธ์อันผิดศีลธรรมที่แอบซ่อนมานานนี้ !

Bab terkait

  • ฮองเฮา ขย่มบัลลังก์   ตอนที่9. หลับตาลง

    เขาหลับตาลง ยากนักที่จะตัดใจจากโฉมสะคราญล่มเมืองเช่นนี้ นางเปรียบเสมือนน้ำผึ้งในแดนสวรรค์ยิ่งกินก็ยิ่งหวาน ยิ่งชวนให้ติดตรึงในรสนั้นจนยากจะตัดใจในขณะที่เขาตกอยู่ในห้วงคำนึงของตน ก็รู้สึกถึงสัมผัสอุ่นนุ่มประทับลงที่ริมฝีปากตน เขาจึงรีบลืมตาขึ้นแล้วก็พบกับใบหน้างดงามอยู่ห่างจากเขาเพียงแค่ 1 ชุ่น เขาร้องออกมาคำหนึ่ง แล้วขยับตัวหมายจะถอยหลังตามสัญชาตญาณ“อ๊ะ !”แต่ร่างสวยกลับโอบรัดเขาไว้อย่างรวดเร็ว แล้วทิ้งน้ำหนักทั้งหมดลงบนเตียง บุรุษที่ถูกเนื้อนิ่มของนางเบียดเสียดร่างกายก็กลับรู้สึกปั่นป่วนขึ้นมาฉับพลัน เป็นผลให้เขาไม่ทันระวังตัว จึงถูกดึงให้ล้มลงไปกับเตียงพร้อมนางตุบ !“เบา ๆ อย่าส่งเสียง.... ท่านอยากให้พวกนางกำนัลในตำหนักเข้ามาเห็นเราสองคนในท่าทีแบบนี้รึ”เสียงกังวานใสของดรุณีวัยแรกแย้มนั้น ช่างชวนให้ลุ่มหลงคิ้วดาบที่พาดเฉียงบนใบหน้าคมคายอาจหาญของหัวหน้าองครักษ์ย่นเข้าหากันในแสงสลัว เมื่อวานเขาประหลาดใจที่นางทำตัวคล้ายคนไม่รู้จักกัน แต่คืนนี้ฟางเหรินกลับทำให้เขาประหลาดใจยิ่งกว่า จากดรุณีน้อยหวานหยดย้อยคล้ายกับลูกแมวช่างออดอ้อน กลายเป็นปีศาจจิ้งจอกแสนเร่าร้อนไปได้อย่างไร !“ฟางเหริ

    Terakhir Diperbarui : 2024-11-27
  • ฮองเฮา ขย่มบัลลังก์   ตอนที่10.  ร่ำสุรา

    เขาครางในอกคล้ายคนที่กำลังร่ำสุราจนมัวเมา ปักจมูกลงที่ผิวกายนางสูดกลิ่นหอมอ่อนเฉพาะตัวของสตรีชาววังชั้นสูงเข้าเต็มอก จากนั้นก็ใช้ปลายลิ้นร้อนไล้วนเลียรอบสะดือ“ท่านพี่....”นางเผยอปากร้องเรียกเขาเอาไว้ สองมือผวาจับบ่าแกร่งของเขาไว้แน่น ยิ่งเขาเคลื่อนปากร้าย และปลายลิ้นร้อนเข้าใกล้จุดอ่อนไหวของนางมากเท่าไหร่ นางยิ่งบิดกายเร่าซ่านกระสันมากขึ้น“ฟางเหริน... ให้ข้าได้ปลอบประโลมเจ้าเถอะ”ใบหน้าคมคายอาจหาญเงยขึ้นมองนางด้วยความรักใคร่ ขณะที่ใช้ปลายนิ้วแกร่งกดลงที่เม็ดสีแดงบนเนินเนื้อกุหลาบงาม“อ๊ะ !”เฟิ่งอี๋สะดุ้งเล็ก ๆ เมื่อเขากดนิ้วเคล้าคลึงตรงจุดที่อ่อนไหวที่สุด ก่อเกิดความเสียวซ่านอย่างยิ่งยวดจากบริเวณนั้นแผ่กระจายไปทั่วทั้งร่าง“ทะ... ท่านพี่ จะทำอะไร อื้ออออ... อ่า”ร่างงามบิดเร่าแรงขึ้น เมื่อเกอหลางขยับปลายนิ้วแกร่งถูไถไปตามกลีบดอกกุหลาบสีแดงฉ่ำ“เจ้าสูญเสียลูกของเราไปจากตรงนี้....”ลมหายใจของเขากระชั้นถี่ขึ้นเมื่อก้มลงมองกลีบกุหลาบที่กำลังฉ่ำวาวไปด้วยน้ำหวาน ด้านบนมีเม็ดทับทิมสีสวย ส่วนด้านล่างเป็นรูสวรรค์สรรค์สร้างทารก นางต้องเจ็บปวดเพียงไรจากตรงนี้ เขาจึงอยากจะช่วยจูบซับความเจ็บปว

    Terakhir Diperbarui : 2024-11-27
  • ฮองเฮา ขย่มบัลลังก์   ตอนที่11. คุกหลวง

    ทันทีที่เขาจ้องแทงลำหอกลง นางก็ครางออกมาอีกครั้ง ร่างกายที่อ่อนระทวยเมื่อครู่ก็ตอบรับลำหอกเขา นางแอ่นขึ้นสะโพกรับการตอกอัดลงอย่างว่องไวท่านี้ทำให้เขาจ้วงแทงลำหอกเข้าได้ลึกมากขึ้น ซ่านเสียวมากขึ้น จนหัวใจของทั้งคู่เต้นแรงเมื่อเขาขยับถอนลำหอกออกกลีบเนื้อนางก็รูดรัดติดตามอย่างซ่านกระสัน เขาจึงโหมกระหน่ำกระทั้นกระแทกจ้วงลำหอกใหญ่เข้าสู่กายนางอย่างหนักหน่วง“อ๊ะ ๆ เกอหลาง ๆ ขะ.. ข้าทรมานเหลือเกิน ไม่ไหวแล้ว อ๊า ๆ”เฟิ่งอี๋ส่งเสียงครวญครางกระเส่าราวคนจับไข้ จากนั้นร่างสวยก็เกร็งสะท้านขึ้นมาอีกหน“อ๊าซ์ !”นางส่งเสียงครางลั่น กล้ามเนื้อส่วนนั้นกระตุกบีบรัดลำหอกเขาอย่างรุนแรง นำพาเขาให้ขึ้นสวรรค์ตามนางไปติด ๆ“อ๊าก”เกอหลางคำรามลั่น สมองเขาพร่างพราวเต็มไปด้วยดวงดาวไปพร้อมกันนางอันเป็นที่รักเมื่อลมหายใจสงบลง เขาก็ถอนลำหอกออกจากร่างของนางช้า ๆ จากนั้นก็จุมพิตลงที่กลีบปากนาง แล้วกระซิบว่า“ฟางเหริน... เจ้าช่างแสนงาม... และแสนหวานเหลือเกิน”“ท่านก็ช่างแกร่งแข็งเหลือเกิน... ทำเอาข้าเจียนตาย”นางตอบเสียงกระเส่า ใบหน้าแดงซ่านอย่างสุขสม การร่วมรักกับบุรุษวัยยี่สิบที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังช่างเติมเต็ม

    Terakhir Diperbarui : 2024-11-28
  • ฮองเฮา ขย่มบัลลังก์   ตอนที่12. น้ำเสียง

    น้ำเสียงของเฟินหนิงแข็งกระด้าง การไม่เป็นที่โปรดปรานช่างนำมาซึ่งความอัปยศอดสูยิ่งนัก !“เพคะ”นางกำนัลยอบกายลง แล้วรีบสาวเท้าออกจากห้องรับรองของเรือนโดยทันที ราวกับว่ากำลังถูกสิ่งใดไล่ล่าอยู่ หลายวันมานี้ กุ้ยเหรินเอาแต่เก็บตัวอยู่ในเรือน โมโหง่าย จนข้ารับใช้ในเรือนเข้าหน้าไม่ติดเมื่อนางกำนัลออกไปแล้ว เฟินหนิงจึงเท้าแขนบนโต๊ะ แล้ววางศีรษะลงบนฝ่ามืออีกต่อหนึ่ง ก่อนทอดถอนลมหายใจออกมาพร้อมกับหลับตาลงตึบนางได้ยินฝีเท้าก้าวเข้ามาในห้อง ในใจก็พลันหงุดหงิด จึงตวาดออกไปทั้ง ๆ ที่ยังหลับตาว่า“ข้าบอกแล้วไม่ใช่หรือไง ห้ามใครรบกวนข้า !”“เกรงว่าจะไม่ได้แล้วกระมัง”เสียงทุ้มอันคุ้นหูดังขึ้น เฟินหนิงจึงลืมตาขึ้น แล้วเหยียดกายขึ้นอย่างช้า ๆ“อ่อ... ที่แท้ก็หัวหน้าองครักษ์ผู้จงรักภักดีต่อ... พระสนมกุ้ยเฟยนี่เอง”เฟินหนิงจงใจเน้นประโยคสุดท้าย เพื่อเย้ยหยันการลักลอบเป็นชู้กับกุ้ยเฟยซึ่งผิดศีลธรรม และเพื่อเตือนให้อีกฝ่ายรู้ว่าตนกุมความลับเรื่องใดไว้อยู่ อย่าคิดทำอะไรนางเป็นอันขาดมิฉะนั้นแล้ว นางก็จะแพร่งพรายความลับนี้ซะเกอหลาง ยังคงยืนสงบนิ่งดุจภูผา แม้ว่าถ้อยคำนั้นจะแสลงหูยิ่งนัก“ข้าได้รับพระบัญ

    Terakhir Diperbarui : 2024-11-28
  • ฮองเฮา ขย่มบัลลังก์   ตอนที่13.ณ ศาลยุติธรรม

    เขาโน้มใบหน้าของนางลงมาแล้วจูบซับน้ำตาให้นาง จากนั้นก็เอ่ยเสียงเศร้าว่า“ข้าเข้าใจ.... เจ้าไม่ต้องพูดอะไรแล้ว”“เกอหลาง ได้โปรดทวงความเป็นธรรมให้แก่ข้าและลูกด้วย”นางโผเข้าซบอกของเขาอีกครั้ง“ข้าจะทวงความเป็นธรรมให้เจ้าแน่”เกอหลางกล่าวอย่างหนักแน่น“ท่านไม่ต้องลงมือฆ่านางด้วยตนเอง ปล่อยให้เป็นเรื่องของศาลยุติธรรม ท่านเพียงแค่ตัดลิ้นนางไม่ให้แพร่งพรายเรื่องของเรา และตัดมือนางเพื่อให้นางไม่ต้องใช้มือนั้นก่อกรรมทำชั่วได้อีก !”ณ ศาลยุติธรรมใต้เท้าจ้าน เจ้ากรมอาญานั่งอยู่บนบัลลังก์ผู้พิพากษา สองฝั่งของโถงศาลมีขุนนางใหญ่จากหลายฝ่ายมาเข้าร่วมฟังการตัดสินด้วย ส่วนฮ่องเต้ และพระสนมกุ้ยเฟยประทับอยู่ในส่วนกั้นด้านในม่านมุกหน้าผากของใต้เท้าจ้านมีหยาดเหงื่อผุดขึ้น การตัดสินคดีในวันนี้แม้กระทั่งฮ่องเต้ยังเสด็จมารับฟังด้วยพระองค์เอง เพราะอี๋เหนียง ผู้ต้องสงสัยในคดีลอบวางยาพระสนมกุ้ยเฟยสารภาพออกมา การวางยาพระสนมในครั้งนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับการใส่ร้ายเฟิ่งอี๋ฮองเฮา !คดีนี้เกี่ยวพันกับชนชั้นสูง เขาจึงต้องทำอย่างระมัดระวังเป็นพิเศษ ดังนั้น เมื่อสอบปากคำอี๋เหนียงในคุกหลวงจนได้หลักฐานที่น่าเชื่อถือแ

    Terakhir Diperbarui : 2024-11-28
  • ฮองเฮา ขย่มบัลลังก์   ตอนที่14. เพื่อความแน่ใจ

    เฉินเฉิงเรียกนางคำหนึ่งเพื่อความแน่ใจ บนพระนลาฎมีพระเสโทผุดพรายขึ้น“เพคะฝ่าบาท.... ฝ่าบาททรงเป็นอะไรหรือไม่ ให้หม่อมฉันเรียกหมอหลวงไหมเพคะ”เฟิ่งอี๋แกล้งทำเป็นตื่นตระหนก โน้มกายเข้าไปสำรวจพระวรกายขององค์ฮ่องเต้ให้คล้ายกับว่านางห่วงใยพระองค์หนักหนา ทั้งที่ในใจนั้นอยากจะบีบคอของเขาให้ตาย !“ไม่เป็นไร.... เราจะฟังการตัดสินคดีต่อให้จบ”เฉินเฉิงฮ่องเต้สูดลมหายใจเข้าเต็มพระปัปผาสะ ข่มความเจ็บปวดใจเอาไว้ แล้วตะโกนถามโจทย์ว่า “เราจะเชื่อได้อย่างไรว่าจดหมายฉบับนั้นเป็นของเฟินหนิงกุ้ยเหรินจริง ๆ”“เรียนฝ่าบาท ข้าน้อยได้มอบจดหมายฉบับนั้นให้ใต้เท้าจ้านแล้วเพคะ”เมื่ออี๋เหนียงตอบเช่นนั้น ใต้เท้าจ้านจึงรีบรายงานต่อว่า“เรียนฝ่าบาท กระหม่อมได้นำจดหมายฉบับนั้นไปเทียบเคียงลายมือของเฟินหนิงกุ้ยเหรินแล้ว พบว่าตรงกันทุกประการพ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้ที่รับฟังอยู่ที่หลังม่านมุกถึงกับขบกรามแน่น ในขณะที่เฟิ่งอี๋ลอบยิ้มในใจที่จดหมายฉบับนั้นนางปลอมแปลงมาได้อย่างแนบเนียน เรื่องนี้สำเร็จลงได้เพราะความโอ้อวดของเฟินหนิงแท้ ๆ กุ้ยเหรินที่เพียรพยายามแต่งกวีเขียนอักษรมาถวายให้ฝ่าบาททุกค่ำเช้า โดยหวังว่าพระองค์จะทรงโปรดปรา

    Terakhir Diperbarui : 2024-11-28
  • ฮองเฮา ขย่มบัลลังก์   ตอนที่15. ข้าให้เจ้าตัดสินใจเอง

    ด้วยท่าทีที่ไม่บ่งบอกว่าเป็นการปฏิเสธแต่อย่างใด ใต้เท้าจ้านจึงสรุปว่านางยอมรับผิดแต่โดยดี แต่ยังไม่กล้าตัดสินความผิด เพราะ ความผิดของนางมีโทษมหันต์ประหารเก้าชั่วโคตร เกรงว่าจะกระทบถึงสนมรักของฮองเต้ ดังนั้น เขาจึงหันหน้าไปยังม่านมุกเพื่อขอความเห็นจากฮ่องเต้เฉินเฉิงฮ่องเต้เห็นใบหน้าลำบากใจของใต้เท้าจ้านก็เข้าใจความหมาย เฟินหนิงก่อกรรมทำชั่วยากที่จะให้อภัย แต่นางก็เป็นพี่สาวของฟางเหริน หากตัดสินโทษตามความผิดนางจะเสียใจหรือไม่ พระองค์จึงหันไปมองสนมรักข้างกายเฟิ่งอี๋ที่กำลังบีบน้ำตาให้รื้นขึ้นมาที่ขอบตาคอยอยู่นานแล้ว จึงเงยขึ้นสบพระเนตรขององค์ฮ่องเต้เฉินเฉิงฮ่องเต้ถึงกับพระทัยสั่นไหวรีบจับมือนางเข้ามากุมไว้ แล้วตรัสว่า“เรื่องนี้... ข้าให้เจ้าตัดสินใจเอง ว่าจะให้นางรับโทษอย่างไร”เฟิ่งอี๋ได้ยินดังนั้นก็แค่นเสียงในใจ บุรุษหนอบุรุษหากได้ลุ่มหลงแล้ว แม้แต่น้ำตาเพียงน้อยนิดก็สะเทือนถึงโลกา“ขอบพระทัยเพคะ ฝ่าบาท”เฟิ่งอี๋ในร่างของฟางเหรินกุ้ยเฟยรีบลุกขึ้นยอบกายลง จากนั้นก็ย่างกายออกจากหลังม่านมุกมุ่งหน้าไปยังโถงพิจารณาคดีทันทีที่เห็นฟางเหรินก้าวออกมา เฟินหนิงก็กรีดร้องออกมาพร้อมกับวิ่งถลาเ

    Terakhir Diperbarui : 2024-11-28
  • ฮองเฮา ขย่มบัลลังก์   ตอนที่ 16. ณ ตำหนักเฉียนชิง

    ณ ตำหนักเฉียนชิงเฟิ่งอี๋ในร่างของกุ้ยเฟยจุดธูปบูชาตามพิธีกรรม จากนั้นก็ปล่อยให้ขันที และนางกำนัลเผากระดาษเงิน กระดาษทองอยู่หน้าตำหนัก ส่วนตนเองนั้นแอบเดินเข้ามาภายในห้องบรรทมของตนเองนางอยู่ที่ตำหนักแห่งนี้เกือบสิบปี แม้จะหลับตาเดิน นางยังจำทางได้อย่างแม่นยำ ดังนั้น เพียงไม่นานเฟิ่งอี๋ก็เข้ามาที่ห้องนอนของตนเอง นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ด้วยความเศร้าใจ ตำหนักที่เคยเต็มไปด้วยความโอ่อ่าสวยงาม บัดนี้ถูกแทนที่ด้วยความเงียบเหงาวังเวง ตำหนักอันสวยงามถูกทิ้งร้างให้ฝุ่นจับไร้คนดูแลดวงตาเศร้าหมองของเฟิ่งอี๋ถูกเปลือกตาปิดลงจากนั้นเมื่อนางลืมตาขึ้นอีกคราก็กลับกลายเป็นแววตาวาววับเฉียบคม“เมื่อข้าสูญสิ้นสิ่งใดไป ข้าต้องได้มันกลับคืนเป็นพันเท่า !”เสียงนั้นเต็มไปด้วยความเด็ดเดี่ยว จากนั้นนางก็เดินไปยังโต๊ะเครื่องแป้ง เปิดหีบสีทองใบขนาดกลางออก ในนั้นมีผ้าไหมที่ถูกเย็บเป็นลักษณะพิเศษเพื่อบรรจุสิ่งของบางอย่าง นางหยิบมันขึ้นมาอย่างระมัดระวัง ดวงตาของนางวาวโรจน์ขึ้น“เมื่อแรกรักพระองค์เคยประทานสิ่งนี้ให้หม่อมฉัน..... เมื่อมีแค้นสุดแสนสาหัส หม่อมฉันก็จะคืนมันให้พระองค์ !”ณ ตำหนักไป่เหอ นางกำนัลสองคนกำ

    Terakhir Diperbarui : 2024-11-29

Bab terbaru

  • ฮองเฮา ขย่มบัลลังก์   ตอนที่24. จบ

    เฟิ่งอี๋เหยียดยิ้มที่มุมปาก แล้วกรีดนิ้วหยิบน้ำชาขึ้นจิบอย่างสำราญใจ“ใต้เท้าเกอหลาง หัวหน้าองครักษ์ขอเข้าเฝ้า”เสียงขันทีประจำตำหนักเมฆาสวรรค์ร้องประกาศขึ้นตามระเบียบการขอเข้าเฝ้าฮ่องเต้“เข้ามาได้”เฟิ่งอี๋เอ่ยเสียงเรียบเป็นการอนุญาต ขันทีจึงเดินนำขุนนางผู้นั้นเข้ามา เมื่อฮ่องเต้หญิงโบกมือขึ้นหนึ่งครั้ง นางกำนัลและขันทีก็หายออกไปจากห้องรับรองอย่างรวดเร็ว“ถวายพระพรฝ่าบาท ของจงทรงพระเจริญ หมื่นปี หมื่นปี หมื่นหมื่นปี”เกอหลางคุกเข่าลงถวายความเคารพต่อฮ่องเต้พระองค์ใหม่ ซึ่งเคยเป็นสตรีอันเป็นที่รักยิ่งของเขา เขาจึงรู้สึกกระอักกระอ่วนใจปนเปกับความคิดสับสนบางประการ“ลุกขึ้นเถอะ ไม่ตั้งมากพิธี”เฟิ่งอี๋บอก ดวงตาหงส์คมกริบจับจ้องบุรุษตรงหน้าอย่างใคร่ครวญ ความรักที่มีต่อฟางเหรินของบุรุษผู้นี้ทำให้แผนการแก้แค้นทุกอย่างราบรื่น แต่นางก็ไม่อาจแน่ใจได้ว่าความรักที่มีมากล้นนี้จะหวนกลับมาทำร้ายนางหรือไม่ หากเขารู้ว่าแท้จริงแล้ววิญญาณที่อยู่ในร่างนี้ไม่ใช่ฟางเหรินคนรักของเขา !“ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะ”เกอหลางลุกขึ้น แล้วมองสบพระเนตรฮ่องเต้หญิง ฉับพลันนั้นเขารู้สึกว่าไม่เคยรู้จักสตรีตรงหน้าแม้แต่น้อย ด

  • ฮองเฮา ขย่มบัลลังก์   ตอนที่23. ยั่วเย้า

    เฉินฉู่หยัดสะโพกขึ้นรับกับปากน้อยอย่างซ่านกระสัน สองมือสอดเข้าเรือนผมสีดำนุ่มสลวยของนาง แล้วเคล้าคลึงอย่างสุขซ่านเฟิ่งอี๋ใช้เรียวลิ้นเล็กตวัดไล้เลียที่ส่วนหัวมังกรบากใหญ่ลิ้มรสหวานผสมกับรสเค็มปะแล่ม จากนั้นก็ปาดเลียไปทั่วแก่นลำ“อืม... ฮองเฮา... ฮองเฮา ข้าจะทนไม่ไหวแล้ว”เฉินฉู่ไม่อาจทนการยั่วเย้าได้อีกไป เขาหยัดกายขึ้นแล้วกดนางลงกับเตียงเป็นฝ่ายขึ้นคร่อมนางไว้ จากนั้นก็จ้วงแทงแก่นมังกรใหญ่เข้าสู่กายนางอย่างเร็วรวด“อ๊าซ์ !”เฟิ่งอี๋อุทานครางออกมาลั่น แก่นมังกรร้อนฉ่ามุดเข้าสู่ภายในกายของนางจนสุดลำ“ฮองเฮา...ข้ารักเจ้า... ข้ารักเจ้า”อ๋องเฉิงฉู่พร่ำไม่หยุดปาก ขณะที่พรมจูบไปตามใบหน้างดงามเต็มไปด้วยเสน่ห์เร้าใจ จากนั้นก็ก้มลงบดจูบนางอย่างเร่าร้อน ใช้ปลายลิ้นร้อนตวัดเกี่ยวพันกับลิ้นเล็กเพื่อดูดดื่มความหวานล้ำ เมื่อถอนจูบออกเขาก็ขบเม้มกลีบปากล่างของนางอย่างหื่นกระหาย“อ่า”เฟิ่งอี๋ยกมือขึ้นลูบไล้ไปตามแผ่นหลังแกร่ง เร่งเร้าให้เขาขยับสะโพกอัดแก่นมังกรเข้าออกร่างอ๋องเฉิงฉู่สั่นสะท้านตอบรับ ลมหายใจกระชั้น เขาจึงขบนางเบา ๆ ที่บ่าอย่างลุ่มหลง แล้วหยัดตัวขึ้น สองมือจับเอวนางไว้แล้วเริ่มกระแทกแ

  • ฮองเฮา ขย่มบัลลังก์   ตอนที่22. ข้ารักเจ้า

    อ๋องเฉินฉู่เอ่ยกับนาง แต่กลับก้มหน้าลง มิอาจมองนางตรง ๆ ได้ เพราะอาภรณ์ที่นางสวมใส่บางนัก จนมองเห็นโครงร่างของทรวงอกอวบอิ่มเป็นดอกบัวตูมดอกใหญ่ ปลายยอดดอกพุ่งชี้มาทางเขา จนรู้สึกว่าห้องนี้ช่างร้อนเกินไปแล้ว“ท่านอ๋อง.... บัดนี้ฮ่องเต้ทรงประชวรมิอาจออกว่าราชการได้ งานในราชสำนักหากปล่อยไว้เนิ่นนานไม่ดีแน่ เรามองไม่เห็นผู้ใดแล้ว.... นอกจากท่าน... ท่านเท่านั้นที่จะบริหารบ้านเมืองต่อไปได้”เสียงของนางหวานล้ำอีกทั้งยังเจื่อความขมขื่นในใจ ต่อให้ผู้ฟังเป็นบุรุษใจหินเพียบงใด ก็อ่อนยวบลงราวกับขี้ผึ้งลนไฟเมื่อได้ยินนางเอ่ยเช่นนั้นสายตาของอ๋องเฉินฉู่ก็แปรเปลี่ยนเป็นกรุ้มกริ่มขึ้นมา ต่อให้นางเป็นแม่ของแผ่นดิน แต่ดรุณีน้อยก็ยังเป็นบุปผาแรกแย้มอยู่วันยังค่ำ เมื่อเสาหลักที่ยึดเกาะพังทลายลง มีหรือนางจะไม่หันเข้าหาเสาต้นใหม่เป็นที่พักพิง“ขอบพระทัยฮองเฮาที่ทรงเชื่อมั่นในตัวข้า”เขาเอ่ยอย่างลำพองใจเป็นที่สุด นับตั้งแต่อดีตเชื้อพระวงศ์ก็มิอาจหลีกเลี่ยงการเข่นฆ่าพี่น้องเพื่อชิงบัลลังก์ แต่สำหรับเขาแล้วรู้สึกว่าสวรรค์ช่างเข้าข้างยิ่งนัก เลือดไม่เปื้อนมือเขาสักหยด แต่บัลลังก์กลับถูกถวายใส่พานให้เขาเสียแล้ว

  • ฮองเฮา ขย่มบัลลังก์   ตอนที่21. ว่าอย่างไร

    “ว่าอย่างไรนะ”ฮ่องไทเฮาแทบจะล้มลงกับพื้น นางกำนัลสองคนจึงรีบเข้ามาพยุงไว้ ผู้ที่ได้ยินถ้อยคำนั้นถึงกับอุทานออกมาอย่างพร้อมเพรียง – ฮ่องเต้มีชีวิตอยู่ราวกับคนตายหรือเนี่ย –ส่วนหมอหลวงนั้นมิอาจตอบคำถามได้อีกต่อไปทรุดตัวลงแล้วโขกศีรษะลงกับพื้นราวกับคนเสียสติเพื่อร้องขอชีวิต“โปรดไว้ชีวิตหม่อมฉันด้วย”“เอามันไปตัดหัว !”ฮองไทเฮาสั่งลงอาญาทั้งน้ำตาเฉินเฉิงฮ่องเต้ได้ยิน และเห็นทุกอย่างผ่านห่างตา เห็นว่าหมอหลวงถูกทหารลากออกไปได้รับโทษทัณฑ์แทนฮองเฮา แต่เขามิอาจเอ่ยวาจาร้องขอความเป็นธรรมแทนหมอหลวงได้ แม้กระทั่งขยับตัวก็มิอาจทำได้ ทำได้เพียงปล่อยเรื่องทั้งหมดให้เป็นไป พระองค์เสียใจอย่างที่สุดที่เฟิ่งอี๋ไม่ฆ่าเขาให้ตาย เพราะถ้าเขาตายก็ไม่ต้องรู้สึกเจ็บปวดและสิ้นหวังเหมือนตอนนี้ !2 วันต่อมาเฟิ่งอี๋ในร่างของฟางเหรินฮองเฮากำลังกรีดนิ้วหยิบช้อนตักน้ำแกงป้อนฮ่องเต้ซึ่งนอนอยู่บนแท่นบรรทม น้ำแกงสีทองไหลเข้าพระโอษฐ์ได้เพียงหนึ่งส่วน ส่วนที่เหลือล้วนถูกเขาใช้ลมขับพ่นออกมาจนเลอะไปทั้งหน้าและปากของตนเองเฟิ่งอี๋ไม่เพียงแต่ไม่โมโหกลับยังยิ้มเย็นให้คนที่ทำตัวเหมือนเด็กเอาแต่ใจไม่ยอมกลืนอาหารลงไปดี ๆ น

  • ฮองเฮา ขย่มบัลลังก์   ตอนที่20. รายงาน

    ตั้งแต่สตรีนางนี้เหยียบย่างเข้าสู่วังหลวง ล้วนมีเรื่องร้ายให้พระองค์ต้องกังวลพระทัยบ่อย ๆ พระองค์จึงไม่โปรดนางเท่าใดนัก ยิ่งวันนี้โอรสของพระองค์ถึงกับประชวรในขณะที่ฟางเหรินเป็นผู้ปรนนิบัติ พระองค์จึงชิงชังนางเข้าไส้ เพราะปักพระทัยเชื่อว่า สตรีนางนี้เป็นกาลกิณีที่นำเภทภัยมาสู่บัลลังก์ !ฮองไทเฮาตวัดสายตาคืนกลับมา ด้วยเคยเป็นพญาหงส์มานานจึงซ่อนอารมณ์ความรู้สึกทุกอย่างไว้ภายใต้หน้ากากยับย่นที่เต็มไปด้วยริ้วรอยแห่งวัย พระองค์รอให้หมอหลวงตรวจพระวรกายขององค์ฮ่องเต้จนเรียบร้อยแล้วจึงตรัสถามว่า“เป็นอย่างไรบ้าง”“เรียนไทเฮา... จากการตรวจชีพจรพบว่าเลือดลมของฝ่าบาทวุ่นวายสับสน คล้ายกับว่าเผชิญกับเรื่องตื่นตระหนก หรือตื่นเต้นอย่างสุดขีด เกินกว่าร่างกายจะรับไหว จึงหมดสติไปพ่ะย่ะค่ะ”หมอหลวงประสานมือไว้ได้หน้าแล้วกล่าวรายงาน ไม่กล้าสบพระเนตรฮองไทเฮาคล้ายกับมีสิ่งใดซ่อนไว้“ถ้าเพียงแค่ตกใจ ไยตอนนี้ฮ่องเต้ยังไม่ฟื้นเล่า”ฮองไทเฮาน้ำเสียงเข้มขึ้น ซักถามอย่างข้องใจ“อะ... เอ่อ..”หัวใจของหมอหลวงเต้นแรงขึ้น บนหน้าผากเริ่มมีเหงื่อผุดพรายขึ้นมา“ท่านหมอ”ฮองไทเฮาเรียกหมอหลวงเสียงเยียบเย็นเสียงนั้นทำให้ห

  • ฮองเฮา ขย่มบัลลังก์   ตอนที่19. ปาดน้ำตา

    เฉินเฉิงแววตาสั่นระริกในนั้นปรากฏรอยหวาดกลัวและสับสน อยากจะวิ่งหนีแต่ร่างกายขยับไม่ได้ตามคำสั่งแม้แต่น้อย อยากตะโกนให้คนช่วยแต่ขากรรไกรเขากลับค้างไม่สามารถเปล่งวาจาออกมาเป็นคำได้เลย“อ่า.... พระองค์ทรงลืมไปแล้วหรือ.... มีสตรีนางหนึ่งที่ยอมละทิ้งอาชีพทางการแพทย์ ทิ้งความฝันของตนเพียงเพื่อถวายตัวและหัวใจรับใช้ฝ่าบาทอย่างโง่งม”เฟิ่งอี๋หยัดกายขึ้น เอ่ยถึงความหลังขณะที่ใช้ปลายนิ้วไล้ไปตามพระพักตร์ขาวซีดของฮ่องเต้“ในครั้งนั้น ฝ่าบาททรงโปรดหม่อมฉันที่สุด จนได้รับแต่งตั้งเป็นฮองเฮา และยังตรัสกับหม่อมฉันว่า - สตรีงามไม่นานก็โรยรา แต่สตรีมีปัญญาเลิศล้ำ ควรค่าต่อการเป็นแม่ของแผ่นดิน - เหอะ !”นางแค่นเสียงออกมาคำหนึ่ง ดวงตารื้นขึ้นด้วยน้ำตาแห่งความเจ็บซ้ำ จากนั้นก็เอ่ยต่อไปด้วยเสียงสั่นพร่าว่า“ถ้อยคำเหล่านั้นล้วนจอมปลอมทั้งสิ้น มีปัญญาสูงค่าแล้วอย่างไร สุดท้ายพระองค์ก็เลือกสตรีเลอโฉมขึ้นมาแทนที่หม่อมฉัน หนำซ้ำยังควักเอาหัวใจของหม่อมฉันออกมาเฉือนเป็นชิ้น ๆ โดยการสั่งให้หม่อมฉันดื่มยาขับเลือด ! ลูกของหม่อมฉัน พระองค์ทรงฆ่าลูกของเราด้วยมือของพระองค์เอง !”น้ำตาของนางไหลอาบทั้งสองแก้ม น้ำอุ่น ๆ ไ

  • ฮองเฮา ขย่มบัลลังก์   ตอนที่18. ตรึง

    ร่างงดงามเกร็งสะท้าน กลีบเนื้อสาวบีบรัดแก่นกายตุบ ๆ ในขณะที่นางรู้สึกเหมือนร่างกายระเบิดแตกออกแล้วลอยละลิ่วขึ้นสู่สวรรค์บุรุษหนุ่มผู้เร่าร้อนกระแทกอัดลำหอกเข้าจนสุดลำเป็นครั้งสุดท้าย แล้วแหงนหงายหน้าขึ้นคำรามลั่น“อ๊าก”ร่างกำยำของเขากระตุกหงึก ๆ สาดซัดน้ำอุ่น ๆ เข้าสู่กายนาง ปักลำหอกตรึงนางไว้ แล้วโน้มตัวลงสวมกอดร่างนุ่มนิ่มหอมกรุ่นเฟิ่งอี๋เผยอปากน้อย ๆ อย่างปริ่มสุขสมใจ พึมพำออกมาเสียงแผ่วเบาว่า“เมื่อถึงวันนั้น.... ท่านยังจะรั้งอยู่ข้างกายข้าหรือไม่”เสียงของนางเบามากราวกับเสียงแมลงบินผ่าน เกอหลางจึงฟังไม่ออกว่านางพูดอะไร แต่เมื่อจะขยับปากถาม นางก็หลับไปเสียแล้วณ ตำหนักเมฆาสวรรค์หลังจากงานเฉลิมฉลองตำแหน่งฮองเฮาเมื่อตอนเย็นสิ้นสุดลง เฟิ่งอี๋ก็ประคองแขนองค์ฮ่องเต้เข้ามายังห้องบรรทมในตำหนักเมฆาสวรรค์ ตำหนักหลวงที่เมื่อก่อนไม่ทรงอนุญาตให้สนมนางใดพักค้างคืนที่นี่ได้ เพราะเกรงว่าฝ่ายในจะสอดมือเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องในราชสำนักแม้เฟิ่งอี๋จะเคยครอบครองตำแหน่งฮองเฮานับสิบปีแต่ก็ไม่มีโอกาสได้ค้างคืนกับฮ่องเต้ในตำหนักแห่งนี้เลยสักครั้ง ยามนี้นางอาศัยร่างของฟางเหรินสนมผู้มีความงามเป็นหนึ

  • ฮองเฮา ขย่มบัลลังก์   ตอนที่17. ประกายตา

    เกอหลางครางหือในลำคอคราหนึ่งประกายตาเขาเข้มขึ้นจนยากจะควบคุม ลำหอกที่อยู่ตรงส่วนกึ่งกลางกายก็พลันแข็งขึงขึ้นจนเจ็บร้าว แล้วริมฝีปากร้อนระอุก็จู่โจมเข้าที่ลําคอขาวผ่องของนางอย่างฉับไว และทรงพลังบุรุษหนุ่มที่เต็มไปด้วยความพลุ่งพล่านดันร่างสวยไปชิดผนังถังอาบน้ำอีกด้าน แล้วใช้ฝ่ามือกอบกุมเต้าอวบ ๆ ของนางเอาไว้ จากนั้นเขาก็จูบพรมเลื่อนมาจนถึงเนินเนื้อภูเขาสองลูก แล้วตวัดปลายลิ้นร้อนปาดเลียที่ป้านปทุมถันข้างหนึ่ง“อ่า...”เฟิ่งอี๋แหงนหน้าครางผะแผ่วอย่างซ่านกระสัน แอ่นทรวงอกหยัดดันเต้าของตนเข้าปากเขาให้แนบชิดมากขึ้น“อึก”เกอหลางดูดดึงภูเขาหนั่นเนื้อราวกับเด็กทารก มืออีกข้างก็บีบเฟ้นฟอนจนยอดปทุมถันครัดเคร่งดีดดิ้นสู้มือส่วนฝ่ามืออีกข้างก็เลื่อนลงสู่หว่างขานาง เขาขยับนิ้วทั้งห้าเคล้าคลึงกลีบเนื้อนาง แล้วใช้หัวแม่มือแกร่งบดบี้ที่เม็ดทับทิม“อ๊า...”เฟิ่งอี๋แหงนหงายครางหนักขึ้นรู้สึกว่าบริเวณหวงห้ามที่เขากำลังรุกล้ำนั้นมีน้ำชุ่มฉ่ำออกมา มือหนึ่งของเขาสาละวนอยู่กับเต้านาง อีกมือก็ถูไถติ่งเนื้อเสียวย้ำ ๆ ส่วนปากเขาก็ไล้เลีย ดูดดึงยอดถันของนาง ทำเอาเรือนร่างของนางบิดเร่าอย่างสุดแสนจะทรมาน“เกอหล

  • ฮองเฮา ขย่มบัลลังก์   ตอนที่ 16. ณ ตำหนักเฉียนชิง

    ณ ตำหนักเฉียนชิงเฟิ่งอี๋ในร่างของกุ้ยเฟยจุดธูปบูชาตามพิธีกรรม จากนั้นก็ปล่อยให้ขันที และนางกำนัลเผากระดาษเงิน กระดาษทองอยู่หน้าตำหนัก ส่วนตนเองนั้นแอบเดินเข้ามาภายในห้องบรรทมของตนเองนางอยู่ที่ตำหนักแห่งนี้เกือบสิบปี แม้จะหลับตาเดิน นางยังจำทางได้อย่างแม่นยำ ดังนั้น เพียงไม่นานเฟิ่งอี๋ก็เข้ามาที่ห้องนอนของตนเอง นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ด้วยความเศร้าใจ ตำหนักที่เคยเต็มไปด้วยความโอ่อ่าสวยงาม บัดนี้ถูกแทนที่ด้วยความเงียบเหงาวังเวง ตำหนักอันสวยงามถูกทิ้งร้างให้ฝุ่นจับไร้คนดูแลดวงตาเศร้าหมองของเฟิ่งอี๋ถูกเปลือกตาปิดลงจากนั้นเมื่อนางลืมตาขึ้นอีกคราก็กลับกลายเป็นแววตาวาววับเฉียบคม“เมื่อข้าสูญสิ้นสิ่งใดไป ข้าต้องได้มันกลับคืนเป็นพันเท่า !”เสียงนั้นเต็มไปด้วยความเด็ดเดี่ยว จากนั้นนางก็เดินไปยังโต๊ะเครื่องแป้ง เปิดหีบสีทองใบขนาดกลางออก ในนั้นมีผ้าไหมที่ถูกเย็บเป็นลักษณะพิเศษเพื่อบรรจุสิ่งของบางอย่าง นางหยิบมันขึ้นมาอย่างระมัดระวัง ดวงตาของนางวาวโรจน์ขึ้น“เมื่อแรกรักพระองค์เคยประทานสิ่งนี้ให้หม่อมฉัน..... เมื่อมีแค้นสุดแสนสาหัส หม่อมฉันก็จะคืนมันให้พระองค์ !”ณ ตำหนักไป่เหอ นางกำนัลสองคนกำ

DMCA.com Protection Status