สืออีสือซานสีหน้าสงบนิ่ง ให้คนโขกศีรษะหลายๆ ทีแล้วทำไมกัน? พระชายาช่วยชีวิตพวกเขาไว้ทั้งบ้านเลยนะ"ท่านโม่ก่อนหน้านี้อยู่ด้วยกันกับเพื่อนคนไหนหรือ?" เสิ่นเสวียนถามเรื่องนี้ เขาต้องไปตรวจสอบหน่อยท่านโม่บอกชื่อออกมาหลายชื่อฟู่จาวหนิงหลังจากเก็บเข็มลงไปก็ตรวจสมองของท่านโม่ นางต้องการห้องห้องหนึ่ง และพาท่านโม่เข้าไปแค่คนเดียวหลังจากเข้าไปก็วางยาสลบ ใช้อุปกรณ์ในห้องเภสัชทำการแสกนและเป็นไปตามคาด หลอดเลือดสมองท่านโม่อุดตันอยู่หน่อยๆ ได้รับแรงกดดัน ยังดีที่ไม่ร้ายแรงมาก ตอนนี้ใช้ฝังเข็มบวกกับการนวด และใช้ยาเพื่อทำให้หลอดเลือดโล่งเข้ารักษาแต่กระดูกสันหลังส่วนคอกลับหนักหนามาก อย่างน้อยต้องรักษาระยะหนึ่งหลังจากออกมา ฟู่จาวหนิงกำลังคิดว่าวิธีการทำกายภาพบำบัดนี้สามารถสอนออกมาได้ไหมไม่เช่นนั้นผู้ป่วยที่ต้องใช้เวลาพักฟื้นยาวนานแบบนี้ นางเองก็ไม่ได้อยู่ที่นี่ตลอด แน่นอนว่าทำให้ไม่ได้ผลคือพอออกมาก็ส่งสายตาคาดหวังอย่างแรงกล้าไปที่หมอหวาง"แม่นางฟู่..."ฟู่จาวหนิงชะงักไปครู่หนึ่ง "หมอหวางอยากจะเรียนเรื่องการผายปอดและรักษากระดูกสันหลังส่วนคอไหม?"หมอหวางลิงโลดราวกับจะคุ้มคลั่ง "อยากๆ
ฟู่จาวหนิงนิ่งไปพักหนึ่ง "ไปที่ร้านยาได้ไหม?""อ๋า?" เสิ่นหยางตั้งตัวไม่ทันขึ้นมามีหญิงสาวหน้าตาดีที่ไหนบอกว่าจะไปเดินเล่น แต่สุดท้ายไปจบที่ร้านยากัน?เขายังคิดว่าตนเองฟังผิดไปเสียอีก"คุณชายน้อยหยาง คุณหนูพวกเราบอกจะไปร้านยา" เสี่ยวชิ่นยืนยันอีกครั้งอย่างหวังดี"มีอะไรไม่สะดวกหรือเปล่า?" ฟู่จาวหนิงถามอันที่จริงนางอยากจะไปดูว่าโรงยาที่นี่จะมีเอ็นมังกรหยกหรือไม่ เซียวหลันยวนขาดแค่ยาตัวนี้เท่านั้นแล้วถ้าเผื่อมีขึ้นมาล่ะ?"ไม่มีไม่มี เดี๋ยวข้าจะพาเจ้าไปโรงยาที่ใหญ่ที่สุดของพวกเราเลย" เสิ่นหยางเองก็รู้สึกว่าไม่ค่อยเป็นความจริงสักเท่าไร"โรงยาที่ใหญ่ที่สุดชื่อว่าอะไรหรือ?""โรงยาทงฝูน่ะ"ฟู่จาวหนิงตกตะลึง ที่แท้โรงยาทงฝูก็เปิดมาถึงต้าชื่อนี่เสียแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นโรงยาที่ใหญ่ที่สุดของเมืองที่ตระกูลเสิ่นอยู่อีกต่างหากไม่รู้ว่าพันธมิตรโอสถใต้หล้าได้มาเปิดร้านยาที่นี่บ้างไหมเสิ่นหยางเพียงไม่นานก็พาพวกเขามาถึงโรงยาทงฝูป้ายร้านสองชั้น ตัวอักษรเคลือบทองใหญ่สี่ตัว ทรงพลังมาก ดูแล้วก็เป็นโรงยาที่ใหญ่โตจริงๆต่อให้เป็นโรงยา ตอนนี้กลับมีคนเข้าออกไม่ขาดสาย ดูท่า "การค้า" จะ
"เสี่ยวเอ่อร์ ถ้าอย่างนั้นพวกเรากลับกันก่อนเถอะ ช่างมัน" ชายชราถอนตัวกลางคันเด็กคนนั้นตาแดงรื้น ปล่อยมือเขา กัดฟันวิ่งเข้ามา งุดหัวเข้าไปในโรงยาทงฝู"เสี่ยวเอ่อร์!"ชายชราตกใจ รีบตามเข้าไปในโรงยา แต่เขาก็ร้อนรนเกิน จนขาสะดุดร่างตะแคง ตอนกำลังจะล้มลงพื้น ฟู่จาวหนิงก็ญื่นมือเข้ามาประคองเขา"ระวังด้วย"ชายชราเงยหน้าขึ้นมองนางผาดหนึ่ง รีบเอ่ยขึ้นว่า "ขอบคุณแม่นาง ขอบคุณแม่นาง"เขาเป็นห่วงหลานชาย ร้อนรนจนทนไม่ไหว และยังไม่ทันได้พูดอะไรมาก ก็พุ่งเข้าไปในโรงยาทงฝูแล้ว"ไป พวกเราเองก็เข้าไปดูหน่อย"ฟู่จาวหนิงเตรียมจะเข้าไป ก็ปะหน้าเข้ากับเสิ่นหยางเสิ่นหยางส่ายหน้าให้นางดูท่าที่นี่จะไม่มีเอ็นมังกรหยกเสียแล้วฟู่จาวหนิงผิดหวังหน่อยๆ เพราะนางอยากจะหาเอ็นมังกรหยกให้ได้ แต่นางก็เตรียมใจไว้บ้างแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จะหาเอ็นมังกรหยกเร็วขนาดนี้ ต้องอดทนหน่อย"รู้แล้ว"นางปล่อยเรื่องเอ็นมังกรหยกลงมาก่อนหลังจากเด็กคนนั้นเข้ามาก็ไปคุกเข่าอยู่ตรงหน้าเจ้าของโรงยา กำลังโขกศีรษะตึงๆๆ"ท่านเจ้าของร้านได้โปรดเถิด เรื่องอะไรข้าก็ทำให้ จะยาอะไรข้าก็จะลองให้ ข้ากินข้าวไม่เยอะ ครึ่งชามก็พอ!"นี่ค
"เจ้าดูสิ เจ้าดู ข้าบอกอะไรไว้?" เจ้าของร้านร้อนรนขึ้นแล้ว ร้องเรียกขึ้นมา "นี่จะมาโทษโรงยาของพวกเราไม่ได้นะ เด็กคนนี้ไม่ฟังคำเตือนเอง! เร็วๆ ประคองเข้าไปนั่งดูแผลทางนั้น!"เสี่ยวเอ่อร์นั่งอยู่บนพื้น ชายชราถูกเคนถูกเขาทำให้ตกใจจนหน้าซีดไปแล้วคนของโรงยารีบก้าวเข้าไปตรวจเสี่ยวเอ่อร์เสี่ยวเอ่อร์มุมปากมีเลือดออก แต่ก็ยังแสยะยิ้ม "ลุงเจ้าของร้าน ไม่โทษโรงยาของพวกท่านอยู่แล้ว เป็นข้า ข้าเองที่อุ้มหม้อทองแดงใบนั้น แต่ว่าท่านเมื่อครู่ก็เห็นแล้วใช่ไหม? ข้าอุ้มหม้อทองแดงขึ้นมาได้แล้ว รับข้าไว้ได้แล้วใช่ไหม?"ต่อให้แค่อุ้มขึ้นมาจากพื้นไม่กี่ชิ้น เขาก็อุ้มขึ้นมาได้แล้ว พลังแค่นี้ถือว่ามีแรงมากแล้ว"เด็กอย่างเจ้านี่มันเหลือเกินจริงๆ พวกเราบอกว่าต้องการร่างกายกำยำ แต่เจ้าดูเจ้าอุ้มขึ้นมาได้ก็จริง แต่ก็กระอักเลือดเข้าเสียแล้ว พวกเราจะรับไว้ได้อย่างไร?"เจ้าของร้านชะงักไป ตั้งตัวกลับมาได้ "ไม่ใช่สิ ข้าถูกเจ้าเล่นเอาเลอะเทอะเสียแล้ว เดิมทีอายุเจ้าก็ไม่ถึง ท่านเจ้าของของพวกเราเคยบอกไว้ ต้องสิบขวบขึ้นไป ต่อให้เจ้ามีแรงแค่ไหนก็รับไว้ไม่ได้""ขอร้องพวกท่านล่ะ รับข้าไว้เถอะ ขอร้องพวกท่านด้วย"เด็ก
กระทั่งปู่ของเขาก็ยังพยักหน้าอย่างอดไม่อยู่ แสดงออกมาว่าเสี่ยวเอ่อร์พูดถูกต้อง"องค์หญิงใหญ่ได้รับการคุ้มครองจากสวรรค์ มีโชคลาภยืนยาว พวกเราพาท่านย่าไปเชิญให้องค์หญิงใหญ่ประทานพรให้ ท่านย่าจะต้องดีขึ้นมาแน่ แต่ถ้าหากไม่เข้ามาในเมืองหลวงจักรพรรดิก่อน องค์หญิงใหญ่กลับมาวันนั้นพวกเราคงไปไม่ถึงด้านหน้าเพื่อรับโชคแน่ พวกเรายังต้องหาคนมาช่วย"พวกเขาได้ยินว่าคนที่จะไปรับโชคลาภมีมากมายมหาศาลเลยใครก็อยากไปรับโชคภาพจากองค์หญิงใหญ่กันทั้งนั้น แต่องค์หญิงใหญ่จะหยุดอยู่ที่ปลายถนนนั้นแค่ครู่เดียว ถ้าหากไม่มีช่องทางระดับหนึ่ง เบียดตัวเข้าไปไม่ได้แน่นอน"เชิญหมอใหญ่ให้เข้าไปดูอาการก่อนแล้วค่อยไปวังจักรพรรดิก็ยังไม่สาย เช่นนี้เองก็ไม่เสียเวลาล่าช้าด้วย" ซือถูไป๋พอได้ยินคำพูดพวกเขาก็รู้สึกไม่อยากเชื่อหน่อยๆ แต่ก็ยังอยากจะลองเตือนดู"ไม่ ไม่เชิญหมอใหญ่ พวกเรารวมเหรียญทองแดงเอาไว้หมดแล้ว" เสี่ยวเอ่อร์ตอบถ้ายังเชิญหมอใหญ่แล้วยังจัดยาต่อ นั่นมันต้องจ่ายเงินอีกเท่าไรกัน? พวกเขาเดิมทีก็รวมเงินเพื่อเข้าเมืองหลวงไว้แล้ว ถ้ายังต้องจ่ายอีกมันก็ไม่จำเป็นจริงๆเสี่ยวชิ่นพอได้ยินคำพูดของปู่หลานคู่นี้ก็รู้สึ
"ข้าไม่ได้ฝันไปใช่ไหม? จาวหนิง ข้ามาพบเจ้าที่ต้าชื่อนี้หรือ!" ซือถูไป๋ยังมีอาการเหมือนไม่ตื่นจากฝันพอแยกจากฟู่จาวหนิง เขาก็คิดถึงนางอยู่บ้างเดิมทีคิดว่าพอนานวันไป ห่างกันไกลหน่อย เขาจะค่อยๆ ลืมนางไปเอง หรือบางทีตอนที่คิดถึงนางความรู้สึกก็จะจืดจางไปเอง คิดไม่ถึงว่าพอเวลายิ่งนานวัน เขาก็เหมือนจะยิ่งคิดถึงนางเข้าไปอีกกระทั่งว่า เขาเคยสมมติมาโดยตลอด ว่าข้างกายตนเองถ้าหากมีฟู่จาวหนิงอยู่ข้างๆ มันต้องเป็นเรื่องที่มีความสุขมากขนาดไหนกันตอนนี้พอได้เจอฟู่จาวหนิง ในของเขาก็เต้นตึกตัก จนแทบจะควบคุมไม่อยู่ แทบจะบินตรงไปหาจาวหนิงทันทีซือถูไป๋รีบเดินไปหาฟู่จาวหนิง ลืมคนข้างกายเขาไปจนหมดอาเพียนพอเห็นฟู่จาวหนิงก็ตกตะลึงไปแล้ว"ทำไมที่นี่ก็ยังมาเจออีกกัน?" คุณชายของเขาเดิมทีก็ยังไม่หายไข้ใจนี้เลย ตอนนี้มาเจอกันอีก เกรงว่าอาการคงจะหนักกว่าเดิมพระชายาอ๋องเจวี้ยนคนนี้จะอยู่ดีดีที่จวนอ๋องเจวี้ยนไม่ได้หรือไรกัน?อาเพียนมองบนใส่ฟู่จาวหนิงยิ้มให้ซือถูไป๋ "ข้าก็ไม่คิดว่าจะเจอท่านที่นี่""ทางนี้มีเรื่องต้องจัดการนิดหน่อย ข้ามาถึงสามวันแล้ว นี่เจ้ามาเองเลยหรือ?"ซือถูไป๋มองฟู่จาวหนิงอย่างละโม
"ได้"ขอแค่นางไป จะพาใครไปก็ได้ทั้งนั้นมองฟู่จาวหนิงจากไป ซือถูไป๋ยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับอยู่นาน"คุณชาย ไม่เห็นเงาคนแล้ว" อาเพียนเอ่ยขึ้น"อาเพียน ข้าก่อนหน้านี้เคยพูดอะไรกับเจ้าไว้?" ซือถูไป๋ตอนนี้จึงหันไปมองเขา น้ำเสียงขรึมลง"คุณชาย ข้ารู้แล้ว ว่าอย่าเสียมารยาทกับพระชายาอ๋องเจวี้ยน" อาเพียนก้มหน้าต่ำ "แต่ข้าไม่ได้เสียมารยาทนี่นา ข้าแค่อยากจะเตือนคุณชาย..."พระชายาอ๋องเจวี้ยน เป็นคนที่มีสามีแล้ว"ข้ารู้ว่าข้ากำลังทำอะไร" ซือถูไป๋ตัดบทเขา หมุนตัวเข้าไปยังโถงด้านใน "ไปหยิบชุดคลุมจันทร์เสี้ยวขาวที่เย็บมาใหม่ชุดนั้นออกมา"อาเพียนตกตะลึง จากนั้นจึงถอนใจออกมาอย่างจำใจคุณชายนี่ยังบอกจะบอกรู้ว่าตัวเองทำอะไรอยู่อีก ดูเอาเถิด ตอนนี้คิดจะแต่งตัวเสียแล้ว แล้วยังเอาชุดใหม่มาใช้อีกประโยคนั้นพูดว่าอย่างไรนะ? หญิงสาวแต่งตัวเพื่ออยากให้มีคนชม ผุ้ชายเองก็เหมือนกันสินะอาเพียนเดินตามเข้าไป"คุณชาย พวกเราก่อนหน้านี้เพิ่งจะได้รับจดหมายจากนายท่าน นายท่านไม่ใช่บอกว่า ให้ท่านไปพบองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นหรือ? ข้าน้อยรู้สึกว่า นายท่านคงหวังให้ท่านได้ดองกับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นแน่""เจ้านี่พูดมากจริง"
หมอถังนางไม่รู้จัก แต่ช่วงหลายวันนี้นางก็พอเข้าใจหมอหวางอยู่ วิชาแพทย์เองก็ไม่เลว จรรยาบรรณแพทย์ก็มี คำพูดของเขาเชื่อถือได้"มีนักพรตไปบ้านพวกเขาจริงๆ เคยให้น้ำยันต์ไป" ลุงตงพูด"แล้วท่านย่าคนนั้นมีอาการไม่สบายที่ตรงไหนหรือ?""ก็คือมึนหัวอยู่ทุกวี่วัน ลุกไม่ขึ้น โดนลมนิดเดียวก็รู้สึกวี่าตนเองแทบไม่ไหวแล้ว วันวันเอาแต่นอนอยู่บนเตียง แล้วยังฝันร้ายบ่อย ได้ยินว่าชอบฝันเห็นญาติที่ตายไปแล้วอยู่บ่อยๆ ผมซูบ ผอมเอามากๆ" ลุงตงตอบ"แล้วดื่มน้ำยันต์นั่นลงไปก็ดีขึ้นแล้วหรือ?" ฟู่จาวหนิงไม่อยากเชื่อจริงๆ"พอดื่มน้ำยันต์ก็ไม่ฝันร้ายไปหลายวัน พวกเขาทั้งบ้านถึงได้เชื่อ""เมื่อครู่คุณชายซือถูยังบอกว่าจะเชิญหมอใหญ่ไปให้พวกเขา ความหมายของคุณชายซือถูคือไม่ยอมเก็บเงินรักษาจากพวกของเสี่ยวเอ่อร์แน่ ไม่แน่อาจจะช่วยจัดยาให้ แต่เสี่ยวเอ่อร์กับปูของเขาไม่ยอม" เสี่ยวชิ่นเอ่ยขึ้นข้างๆ"คุณชายซือถู?"เสิ่นเสวียนจับประเด็นได้แล้ว เมื่อครู่ฟู่จาวหนิงตอนพูดถึงเรื่องนี้ยังไม่ได้เอ่ยถึงซือถูไป๋"ซือถูไป๋" ฟู่จาวหนิงจึงเอ่ยขึ้นมา "ข้าเองก็ไม่คิดว่าจะเจอเขาที่นี่""ตระกูลซือถูเองก็มีความทะเยอทะยาน" เสิ่นเสวียนคิ