"ดังนั้นถือโอกาสนี้ ถือว่าเจ้าตัดขาดความสัมพันธ์นี้กับเผ่าเฮ่อเหลียนเสีย หลังจากนี้เจ้าจะเป็นแค่ฟู่จาวเฟย ไม่ใช่เฮ่อเหลียนเฟยอีกแล้ว ญาติของเจ้าคือท่านปู่กับพี่สาว" เซียวหลันยวนพูดถึงตรงนี้ก็ชะงักไป แล้วเพิ่มต่อว่า "แล้วก็ยังมีพี่เขยด้วย มีพวกเราอยู่ เจ้าก็จะไม่โดดเดี่ยวอยู่คนเดียว แล้วจะกลัวอะไร? มีเรื่องอะไรก็มาบอกกับข้า""ขอบคุณพี่เขย"อืม เด็กดี เรียกเขาว่าพี่เขยมาหลายคำแล้ว บอกขอบคุณพี่เขยมาหลายรอบแล้วเซียวหลันยวนรู้สึกว่าเด็กคนนี้ใช้ได้อยู่หลังจากนี้ก็พาเขาออกไปบ่อยๆ ก็พอแล้ว มีเรื่องอะไรก็สอนเขา ชุบเลี้ยงเข้า?ฟู่จาวหนิงในเมื่อส่งเรื่องนี้ให้กับเซียวหลันยวน เช่นนั้นก็คือไม่คิดว่าจะมาคอยดูเขาเรื่องเกิดขึ้นไปแล้ว ทำได้แค่ให้ฟู่จาวเฟยไปจัดการทำความเข้าใจด้วยตนเองนางซ้อมชกมวย อาบน้ำ เตรียมจะไปอ่านตำราแพทย์ เซียวหลันยวนจึงเข้ามา"ท่านอ๋อง"หงจั๋วกับเฝิ่นซิงด้านนอกพอเห็นเซียวหลันยวนเข้ามาก็ยินดี รีบเข้าไปคารวะพร้อมกันทั้งสองกำลังจะเงยหน้า ก็ได้ยินเสียงต่ำของเซียวหลันยวน "ก้มหน้าไว้""เจ้าค่ะ" สาวใช้สองคนประหลาดใจหน่อยๆ แต่ท่านอ๋องพูดเช่นนี้แล้ว พวกนางเองก็ไม่กล้าเงยหน้
เซียวหลันยวนเม้มปาก"ท่านคืนนี้ถ้าไม่พูดให้ชัดเจน ก็เลิกคิดที่จะพักที่นี่ได้เลย"ฟู่จาวหนิงร้องเชอะ "ถึงแม้ที่นี่จะเป็นจวนอ๋องเจวี้ยน แต่ว่าเรือนเจียนเจียนี้ท่านขีดให้ข้าไว้แล้ว คนที่ใช้อำนาจได้ชั่วคราวก็คือข้า ท่านเห็นว่าที่นี่เป็นที่ไหนกัน นึกจะมาก็มาจะไปก็ไป?"มีสุนัขที่ไหนทำตัวแบบนี้บ้าง"ข้าก็หน้านี้ก็แค่รู้สึกว่าตนเองน่าเกลียดขนาดนี้แล้ว ถ้าคอยดึงเจ้าไว้ข้างกายก็คงไม่ดีเท่าไรนัก หลังจากนี้ถ้าหากคนข้างนอกเห็นใบหน้าของข้า ไม่รู้ว่าจะมีคำพูดไม่น่าฟังขนาดไหนทะลักกันเข้ามา"เซียวหลันยวนถอนหายใจ "ถึงตอนนั้นเจ้าที่เป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยนก็คงจะต้องรับผลกระทบอย่างมาก พวกเขาจะพูดกันว่าเจ้าน่าเวทนาน่าสงสาร และจะหัวเราะเยาะเจ้า ที่มาแต่งงานกับสามีที่ใบหน้าเลวร้ายขนาดนี้"ฟู่จาวหนิงขมวดคิ้วนางคิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะคิดเช่นนี้"ดังนั้นหลายวันก่อนหน้านี้ข้าก็เอาแต่คิดอยู่ตลอด ว่าจะเห็นแก่ตัวแบบนี้ได้ไหม หรือควรจะปล่อยให้เจ้าไปได้แล้ว?""ถ้าอย่างนั้นตอนนี้ทำไมถึงเปลี่ยนความคิดแล้วล่ะ?" ฟู่จาวหนิงถามเซียวหลันยวนมองนาง นางที่นั่งอย่างดื้อรั้นอยู่หลังโต๊ะหนังสือ งดงามขึ้นเป็นพิเศษอย่างเห็นไ
"พระชายา ท่านอ๋องทำไมถึงไปเสียแล้วล่ะ? เขาเพิ่งจะบอกว่าคืนนี้จะพักที่เรือนเจียนเจียนี่"ฟู่จาวหนิงเหลือบมองนางผาดหนึ่ง "สทำไม ที่นี่เจ้าเป็นคนตัดสินใจหรือว่าข้าเป็นคนตัดสินใจกัน?"หงจั๋วตกตะลึง รีบเอ่ยขึ้นว่า "ไม่ใช่เช่นนั้น ข้าน้อยผิดไปแล้ว ในเรือนเจียนเจียแน่นอนว่าต้องพระชายาเป็นคนตัดสินใจ""ก็แค่นั้นนี่?"ฟู่จาวหนิงโบกไม้โบกมือ "เอาล่ะ พวกเจ้าเองก็ไปพักผ่อนได้แล้ว ไม่ต้องคอยปรนนิบัติหรอก""เจ้าค่ะ"หงจั๋วถอยออกไปเฝิ่นซิงดึงนาง เอ่ยขึ้นเสียงต่ำ "ข้าเองก็ดึงเจ้าไม่ทัน เจ้าเองเห็นว่าพระชายาของพวกเราใจดีเกินไปแล้วหรือ ดังนั้นถึงค่อยๆ ลืมฐานะของตัวเองไปแล้ว? พระชายาไม่ให้ท่านอ๋องอยู่ด้วย มันใช่เรื่องที่เจ้าจะไปถามได้รึ?"นี่เป็นเรื่องของนายท่านทั้งสองเขา พวกนางยุ่งมากเกินไปไหม?หงจั๋วเองก็รู้สึกว่าเมื่อครู่นี้ ท่าทางของฟู่จาวหนิงทำเอานางรู้สึกใจสั่นตุ้มต่อมหน่อยๆ"ข้าได้ใจเกินไปแล้ว"พระชายาปกติก็ใจกว้างใจดีกับพวกนางมากแล้ว"ไปเถอะ พระชายาให้พวกเราไปพักผ่อน พวกเราก็กลับห้องเถอะ อย่ารบกวนนางเลย"ฟู่จาวหนิงไม่ได้ยินการเคลื่อนไหวภายนอกแล้ว จึงส่ายหัวขึ้นมาอันที่จริงนางเองก็ไ
ฮูหยินใหญ่โม่เมื่อวานนี้จงใจให้คนไปตรวจสอบเรื่องของตระกูลเริ่นมาไม่น้อย เตรียมว่าวันนี้จะเข้ามาพูดมาคุยกับฟู่จาวหนิงเสียหน่อยแต่ฮูหยินหลิ่วกับฮูหยินจางไม่ค่อยคุ้นเคยกับฟู่จาวหนิง จึงรู้สึกระมัดระวังตัวหน่อย กลัวว่าพูดเรื่องพวกนี้ขึ้นมาแล้วมาแล้วนางจะไม่ชอบแต่ฟู่จาวหนิงก็ถามมาอย่างสนใจ "ตระกูลเริ่นมีอะไรน่าสนใจหรือ?""เมื่อวานหลังจากที่เริ่นหมิ่นเซียงคนนั้นกลับไป ตระกูลเริ่นก็ทะเลาะกันใหญ่โตขึ้นมา นางไม่ใช่ว่ามีพี่สาวอีกหลายคนหรอกหรือ? หรือก็คือลูกของภรรยาคนแรกตระกูลเริ่น พวกเขาบอกว่าด้านนอกมีคนไม่น้อยกำลังพูดถึงเริ่นหมิ่นเซียง" ฮูหยินใหญ่โม่กลั้นหัวเราะ "เห็นว่าคนพวกนั้นด่าว่านางหน้าไม่อาย""อืม นั่นข้าให้คนออกไปด่าเอง" ฟู่จาวหนิงก็ยอดรับอย่างหน้าชื่นตาบานนี่ไม่มีเรื่องอะไรที่ยอมรับไม่ได้นี่"ได้ยินว่าพระชายายังจ่ายเงินจ้างคนด้วย?" ฮูหยินใหญ่โม่ถามขึ้น"ใช่เลย" ฟู่จาวหนิงพยักหน้า "หนึ่งคนสิบตำลึง"ฮูหยินหลิ่วกับฮูหยินจางเดิมทีก็รู้สึกระแวดระวังอยู่ แต่พอฟังถึงจุดนี้ พอเห็นสีหน้าฟู่จาวหนิงก็ดูแอบเกเรอยู่ จึงหัวเราะขึ้นมาอย่างอดไม่อยู่พระชายาอ๋องเจวี้ยนแตกต่างกับที่พวกนางจิน
ฟู่จาวหนิงไม่รู้เลย หลายวันนี้ที่พูดถึงเรื่องการเดินทางขององค์หญิงหนานฉือ พูดถึงเรื่องที่หวางต้าหลางกับผู้ตรวจการอันไปต้อนรับ เซียวหลันยวนเองก็ไม่ได้พูดเลยสักคำ"ข้าไม่รู้" นางตอบ"ได้ยินว่าคนผู้นั้นเล่าเรียนมามากมายบนยอดเขาโยวชิง คิดว่าอ๋องเจวี้ยนคงจะพูดกับเขา" ฮูหยินหลิ่วอธิบายอย่างเขินอายฟู่จาวหนิงไม่รู้อะไรเลย นั่นเป็นเพราะอ๋องเจวี้ยนไม่ได้บอกนางอาจจะเพราะความรู้สึกฉันท์สามีภรรยาของพวกเขายังไปไม่ถึงไหน? เรื่องที่ในเมืองพูดกันว่าอ๋องเจวี้ยนยกพระชายาอ๋องเจวี้ยนไว้ในใจแล้วเป็นเรื่องโกหกหรือ?"อ๋องเจวี้ยนถ้าฟังออกก็ยิ่งดีเลย" ฮูหยินใหญ่โม่เอ่ยขึ้น "อย่างน้อยก็คงจะไม่เหมือนกับฟังหนังสือจากสวรรค์ที่คนธรรมดาฟังไม่ออกหรอก""อืม" ฟู่จาวหนิงพยักหน้า"พระชายาอ๋องเจวี้ยน ฮูหยินหลิ่วกับฮูหยินจางล้วนไม่ค่อยสบายกัน ทรมานมากว่าหนึ่งปีแล้ว ไปหาหมอก็ไม่ได้ ท่านช่วย..."ฮูหยินใหญ่โม่พอเอ่ยเรื่องนี้ขึ้น ฮูหยินทั้งสองคนก็หน้าแดงเล็กน้อยเพราะอาการป่วยของพวกนางมันน่าอายอยู่หน่อยๆ"ข้าจะช่วยทั้งสองท่านดูให้""ข้าก่อนดีไหม?" ฮูหยินหลิ่วตอนนี้ร้อนรนขึ้นมาแล้ว เพราะนางเองก็ทรมานมากฮูหยิงใหญ่โ
ฮูหยินหลิ่วตอนที่ตรวจอยู่ในห้อง ฮูหยินจางกับฮูหยินโม่ก็รออยู่ด้านนอกเซี่ยซื่อเข้ามาเติมชาให้พวกนาง จากนั้นก็ส่งผลไม้ปอกแล้วเข้ามา อันห่าวเองก็ยกตะกร้าดอกไม้ใบหนึ่งมาวางไว้บนโต๊ะด้วยพอจัดวาง โต๊ะเล็กตัวนี้ก็ดูดีมีบรรยากาศขึ้นมาไม่น้อยฮูหยินใหญ่โม่มองเซี่ยอันห่าว ก็รู้สึกดูถูกชะตามาก อดถามบางอย่างกับนางขึ้นมาไม่ได้อันห่าวเองก็ตอบกลับอย่างว่าง่ายทีละคำถาาม"ฮูหยินทั้งสองอย่าได้เกรงใจเลย ต้องการอะไรก็บอกกับพวกเรา จาวหนิงอีกเดี๋ยวก็น่าจะออกมาแล้ว" เซี่ยซื่อพอเห็นฮูหยินใหญ่โม่ชอบอันห่าวก็ดีใจมาก นางเองก็ชอบฮูหยินใหญ่โม่ด้วย รู้สึกว่านางดูใจดี "ข้าจะพาอันห่าวไปสวนเล็กๆ ทางนั้นเพื่อเด็ดถั่วเสียหน่อย""ได้ พวกเราไม่เกรงใจนะ"ฮูหยินใหญ่มู่กวักมือให้กับอันห่าว กำชับนางว่า "ระวังอย่าไปตากแดดเสียล่ะ""ขอบคุณฮูหยิน"อันห่าวหลังจากออกไปพร้อมเซี่ยซื่อ ฮูหยินจางก็ถามนางเสียงต่ำ "นี่เป็นลูกพี่ลูกน้องบ้านคุณยายของพระชายาอ๋องเจวี้ยนหรือ""พวกเขาเองก็ตรวจสอบมาแล้ว แม่แท้ๆ ของพระชายาอ๋องเจวี้ยนไม่ใช่ลูกสาวตระกูลหลิน ดังนั้นจึงไม่เกี่ยวข้องอะไรกับตระกูลหลิน เซี่ยซื่อกับเด็กสาวอันห่าวคนนี้ น่าจะ
"จริงหรือ?"ฮูหยินจางเองก็ดีใจแทนนาง"ใช่แล้ว พระขายาอ๋องเจวี้ยนเก่งกาจมากเลย!" ฮูหยินหลิ่วบอกกับนาง "ท่านรีบเข้าไปเถอะ ตรงไหนที่ไม่สบายก็บอกกับพระชายาอ๋องเจวี้ยนตรงๆ ก็พอแล้ว ไม่ต้องแบกรับเอาไว้แล้ว""ข้าจะเข้าไปเดี๋ยวนี้"ฮูหยินจางเองก็รีบเข้ามาฮูหยินใหญ่โม่มองฮูหยินหลิ่ว รินน้ำชาให้นาง แล้วก็อดยิ้มขึ้นมาไม่ได้"ข้าทำไมถึงรู้สึกว่าหลังจากเจ้าให้พระชายาอ๋องเจวี้ยนตรวจโรคไปครั้งหนึ่ง ก็เหมือนตัวจะเบาขึ้นไม่น้อยเลย"ฮูหยินหลิ่วก็จริงๆเลย ก่อนหน้านี้เหมือนมีเรื่องในใจมาตลอด เดิมทีคิดว่านางจะมีความสุขมาก แต่หนึ่งปีมานี้กลับดูหดหู่ ตอนนี้เหมือนจะสบายขึ้นมากแล้ว"ใช่เลย ท่านไม่รู้ พระชายาอ๋องเจวี้ยนเป็นคนที่ยอดมาก นางเหมือนจะพูดง่ายๆ แค่ไม่กี่คำ ก็จัดการโยนกองกรวดในใจข้าออกไปเป็นปลิดทิ้งเลย"นางเพิ่งเคยได้ยินฟู่จาวหนิงพูดถึงจุดเหล่านั้นเป็นครั้งแรกแต่ว่าน้ำเสียงปกติของฟู่จาวหนิงนั้น ปลอบประโลมคนได้มากจริงๆ ทำให้นางรู้สึกว่าเรื่องที่ตนเองแบกไว้อย่างหนักหนา เพียงครู่เดียวก็กลายเป็นเรื่องเล็กไปนางผ่อนคลายลงมากจริงๆ"ข้าก็บอกแล้วนี่ พระชายาอ๋องเจวี้ยนนั้นไม่เลวเลย ไม่เช่นนั้นท่าน
"เดิมทียังได้อยู่ แต่ข้าอีกไม่กี่วันก็จะไม่อยู่เมืองหลวงแล้ว ดังนั้นพวกท่านไปที่โรงยาจัดยาจะเหมาะยิ่งกว่า ไม่เป็นไร ข้าเขียนตำรับยาไว้ชัดเจนแล้ว ล้วนเป็นวัตถุดิบยาที่มีในโรงยาทั้งนั้น จัดยามาได้อยู่แล้ว""ท่านจะออกไปจากเมืองหลวงหรือ?""มีธุระน่ะ น่าจะออกไปพักหนึ่ง" ฟู่จาวหนิงพยักหน้าฮูหยินเหล่วเอ่ยขึ้นทันที "เช่นนั้นพระชายาอ๋องเจวี้ยนโปรดวางใจ พวกเราจะช่วยท่านดูแลในบ้านให้"ฟู่จาวหนิงตกตะลึงไปครู่หนึ่งนางคิดไม่ถึงเลยว่าฮูหยินหลิ่วจะเอ่ยขึ้นมาด้วยตนเองเช่นนี้ฮูหยินจางรีบเข้ามาอธิบาย"พระชายาอ๋องเจวี้ยน อันที่จริงพวกเราก็เคยได้ยินเรื่องในอดีตของท่านมาบ้าง รู้ว่าบ้านตระกูลฟู่ในเมืองหลวงตอนนี้มีญาติมิตรอยู่ไม่มากนัก แต่หลังจากนี้พวกเราก็ล้วนเป็นมิตรของท่าน ใช่ไหม ดังนั้นพระชายาอ๋องเจวี้ยนถ้ามีเรื่องอะไรต้องการให้พวกเราช่วย ขอแค่เอ่ยมาก็พอแล้ว""พระชายาอ๋องเจวี้ยน ตระกูลพวกเราจะดูแลให้" ฮูหยินใหญ่โม่เอ่ยขึ้น"ขอบคุณมาก" ฟู่จาวหนิงเองก็คิดไม่ถึงว่าจะได้ผลลัพธ์มาเช่นนี้ นอกจากตระกูลโม่ นางยังรู้ว่าบ้านสามีและบ้านฝ่ายหญิงของฮูหยินหลิ่วกับฮูหยินจางก็มีหน้ามีตาอยู่ "เช่นนั้นข้าก็ไม่เ
อ๋องฉยงพอเห็นเซียวหลันยวนเข้ามา ใจก็ขรึมลงมาแล้ว ขณะเดียวกันก็ยังแอบเคืองกับองค์จักรพรรดิไม่ใช่บอกว่าจะขวางเซียวหลันยวนไว้หรือไรกัน? ไม่ใช่ว่ามีเรื่องที่จะขังเซียวหลันยวนไว้ได้สามวันหรือ?ทำไมยังไม่ทันถึงชั่วยาม เขาก็รีบกลับมาแล้วกัน?ไม่ได้เรื่องเอาเสียเลย!เซียวหลันยวนหันตัวกลับมาอ๋องฉยงรู้สึกใจสั่นวาบกับหน้ากากของเขาเจ้าเด็กที่เหมือนจะตายแหล่มิตายแหล่ตอนนั้น ดันโตขึ้นมาได้อย่างยากลำบาก แล้วยังดีมีท่วงท่าทรงพลังเสียด้วย"หลันยวน เมื่อครู่เจ้าหมายความว่าอย่างไร?" อ๋องฉยงเสียงขรึม ตัดสินใจลงมือก่อน "นี่เจ้ายิงธนูใส่ข้ารึ!""เจ้าไม่รู้หรือว่าหมายความว่าอะไร?"เซียวหลันยวนเสียงเย็นเยียบ "แน่นอนว่าสั่งสอนเจ้าน่ะสิ""เจ้า! เจ้าบังอาจ! ถ้าข้าเป็นอะไรไป บาดเจ็บหรือว่าตายไป เจ้าก็ไม่ต้องมีชีวิตอยู่แล้ว!""จะลองดูไหมล่ะ?" น้ำเสียงเซียวหลันยวนขรึมเย็นชา"ลองอะไร?""ลองว่าถ้าข้าสังหารเจ้าแล้ว จะยังมีชีวิตต่อไปได้ไหม"พอพูดจบ จิตสังหารบนตัวเขาก็พุ่งเข้ามาอย่างแรงกล้า แม้จะไม่มีลม ไม่มีการขยับ แต่อ๋องฉยงกับองครักษ์ข้างกายเขาก็ยังถอยออกไปก้าวหนึ่งพร้อมกันพวกเขาล้วนสัมผัสได้ถึงแรง
"บังอาจ! ทำไมจึงมาพูดกับอ๋องอย่างข้าเช่นนี้?!" องครักษ์ข้างกายอ๋องฉยงชักกระบี่ออกมาส่วนทางนี้ สืออีกับไป๋หู่ก็ชักกระบี่ทันที เดินขึ้นหน้ามาก้าวหนึ่งชั่วพริบตา ก็ชักกระบี่ง้างธนูกันแล้ว บรรยากาศตึงเครียดขึ้นมาอ๋องฉยงชะงักไป ยื่นมือไปกดกดด้ามกระบี่องครักษ์ลง หัวเราะเหอะๆ ขึ้น "เสียมารยาทกับผู้อาวุโสจี้ไม่ได้""ขอรับ!" องครักษ์ของเขาถอยลงไปทันทีผู้อาวุโสจี้ไม่ได้ผ่อนคลายลงแม้แต่น้อย กลับยิ่งดำกว่าเดิม"ข้าเองก็เป็นคนของราชวงศ์ เป็นครอบครัวเดียวกับอายวน จึงเป็นครอบครัวเดียวกันกับจาวหนิงด้วยเช่นกัน ผู้อาวุโสจี้ ความสัมพันธ์นี้ยังใกล้ชิดกว่าท่านเสียอีกนะ จริงไหม จาวหนิง?"อ๋องฉยงถาม ยังเขย่งเท้ายื่นหน้า อยากจะมองไปทางฟู่จาวหนิงที่ถูกคนบังเอาไว้อีกคนเหล่านี้ขวางหูขวางตาจริงๆ แต่ละจะมาขวางหน้าเขาไว้ทำไมกัน?เขามาเมืองหลวงได้ครึ่งปี เพราะสถานที่ไม่ถูกต้อง แล้วยังกลัวคนอื่นจะจับผิดอีก ก่อนหน้าที่นางจะได้เจรจาเงื่อนไขกับองค์จักรพรรดิ เขายังก่อเรื่องอะไรจนถูกไล่ออกจากเมืองหลวงไม่ได้ ดังนั้นครึ่งปีนี้เขาจึงชุบตัวใสสะอาด ไม่ได้ข้องเกี่ยวกับหญิงสาวคนไหนเลยแต่เดิมทีเขาก็อยู่ห่างจนคนสวย
ฟู่จาวหนิงไม่รู้เลยว่าองค์จักรพรรดิมีแผนร้ายอะไรขึ้นมาอีกแล้วนางกับผู้อาวุโสจี้อยู่ในเขาจันทร์ลับขุดสมุนไพรมาได้ไม่น้อยเลยตอนนี้กองหิมะยังไม่ละลาย แต่ยังดีที่พวกเขาสองปีก่อนเคยขุดมาแล้วครั้งหนึ่ง วัตถุดิบยาส่วนใหญ่จำได้แล้วว่าขึ้นอยู่ตรงไหน ผ่านการเติบโตมาสองปี จุดที่เคยถูกพวกเขาขุดไปก็งอกขึ้นมาใหม่กันแล้วสถานที่เหล่านั้นหลายจุดไม่มีหิมะทับถม นางพาพวกไป๋หูมาก็ล้วนได้ใช้งานทั้งสิ้นสิ่งที่ขุดขึ้นมาตอนนี้คือวัตถุดิบยาที่ทนอากาศหนาวได้ และยังมีบางส่วนที่ดูเหมือนพวกเปลือกไม้ด้วยในช่วงสองวันนี้ ผู้อาวุโสจี้เองก็ทำเวลารีบสอนให้กับนาง ให้นางได้รู้จักกับวัตถุดิบยาที่มากขึ้นไปอีกสองวันต่อมาพวกเขาก็กวาดเก็บจนเต็มที่แล้วลงจากเขา แต่ก็ได้เห็นอ๋องฉยงที่กำลังก่อกองไฟตั้งกระโจมอยู่อ๋องฉยงน่าจะได้ยินการเคลื่อนไหว จึงออกจากกระโจมมารอแล้วพอเห็นขบวนคนล้วนแบกตะกร้ายากันเต็ม ดวงตาเขาก็เปล่งประกายแล้วก็เห็นฟู่จาวหนิงที่อยู่ในกลุ่มนี้ต่อให้เข้าไปขุดยาในเขาถึงสองวัน นางก็ไม่ได้ดูซมซานแต่อย่างใด แค่เหลือบมองในกลุ่มคนนั้นก็เห็นนางได้ทันทีพระชายาอ๋องเจวี้ยนคนนี้ งดงามจนโดดเด่นจริงๆแล้วยังท
พระชายาเยว่ดูเหมือนอยากจะอาเจียน ถึงอย่างไรนางก็ยังเป็นสาวสะพรั่งสวยสด อายุขององค์จักรพรรดิมากกว่าพ่อนางเสียอีก แล้วตอนนี้ยังมีสภาพนี้อีกพริบตานี้เอง นางก็รู้สึกอยากจะรับปากแม่นมเยว่ขึ้นมา"พระชายาเยว่ ทำของว่างอะไรมาหรือ?" องค์จักรพรรดิยิ้มให้กับพระชายาเยว่ จนมีรอยย่นเพิ่มขึ้นมา "ข้าเองก็หิวแล้วเหมือนกัน"พระชายาเยว่กดอารมณ์นั่นลงไปก่อน ยกของว่างเข้ามา "องค์จักรพรรดิ ข้าทำขนมเป๋าฮื้อหัวไชเท้ามา เสวยตอนที่ร้อนๆ เถิด""ดีเลย ไม่ใช่ของหวาน กินแล้วกระเพาะไม่รู้สึกแย่"องค์จักรพรรดิพอใจมาก ช่วงนี้ท้องเขาก็ใหญ่ขึ้น เข็มขัดแทบจะคาดไม่ได้แล้ว กินแต่ของหวานคงไม่ดีนัก"องค์จักรพรรดิชอบก็เสวยให้เยอะหน่อย หม่อมฉันรินชาให้"พระชายาเยว่อยู่ดื่มกินเป็นเพื่อนกับฝ่าบาท สนทนาด้วยครู่หนึ่ง จึงเปลี่ยนหัวข้อสนทนาไปบนตัวอ๋องฉยงอย่างตั้งใจและไม่ตั้งใจ"อ๋องฉยงจะอยู่ในเมืองหลวงตลอดเลยหรือไม่? ฝ่าบาท หม่อมฉันค่อนข้างกังวล ว่าพระชายาอ๋องฉยงจะไล่ตามมาหรือไม่?""ไม่หรอก" องค์จักรพรรดิเอ่ยยืนยันขึ้นมา"หม่อมฉันได้ยินว่าพระชายาอ๋องฉยงกวดขันอ๋องฉยงเข้มงวดมาก นี่เพราะรักอ๋องฉยงหรือเปล่า?""รักอะไรกัน เป็
พระชายาเยว่รู้สึกว่า แม่นมเยว่อดทนอยู่ในวังมายี่สิบปี คงวางแผนงานใหญ่อะไรอยู่นางถึงแม้จะเคยเห็นฝีมือแม่นมเยว่มาบ้างแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกว่าแม่นมเยว่เองก็ไม่ได้มีฝีมือมากขนาดนั้น ถ้าหากนางร้ายกาจจริง จำเป็นต้องมาซุ่มอยู่ในวังหลวงยี่สิบปี แต่ก็ยังทำเรื่องไม่เสร็จแบบนี้หรือ?แม่นมเยว่น่าจะเป็นยอดฝืมือในการใช้ยา ยิ่งไปกว่านั้นยังยอดเยี่ยมในด้านการสกัดยาชนิดนั้น ยาที่ไม่ใช่เรื่องที่น่าภูมิใจเท่าไร ถึงอย่างไรก็ทำให้แค่ผู้ชายมีความสุขล่องลอยได้มากเท่านั้น ทำเรื่องใหญ่โตอะไรให้สำเร็จไม่ได้ตอนนี้ นางได้รับความโปรดปรานจากองค์จักรพรรดิแล้ว ยังต้องคอยฟังแม่นมเยว่อยู่อีกหรือ?แต่ถ้าแม่นมเยว่ก็มีวิธีการที่จะให้องค์จักรพรรดิรับมือกับอ๋องเจวี้ยนจริงล่ะ?จะว่าไป ยาชนิดนั้นของแม่นมเยว่ ถ้าหากใช้กับอ๋องเจวี้ยน ไม่รู้ว่าจะมีประสิทธิผลไหมชั่วขณะหนึ่ง พระชายาเยว่คิดไปร้อยแปดจากนั้นนางก็ไปที่ครัวเล็ก ลงมือทำของว่างขึ้นมาถาดหนึ่ง เปลี่ยนเสื้อผ้า แต่งเนื้อแต่งตัวอย่างประณีต ยกของว่างเข้าไปในห้องหนังสือหลวงองค์จักรพรรดิเพิ่งฟังรายงานลับจบเขาให้คนจับตาดูคอยจับตาดูการเคลื่อนไหวของคนหลายคนในเมืองหลวง
"จุ๊ๆ เรื่องนี้..." พระชายาเยว่คิดๆ ยังไม่รู้จะจัดการอย่างไรก่อนดีชั่วคราว"เจ้ากลับไปอยู่ข้างๆ เฉินฮ่าวปิงก่อนแล้วกัน คอยจับตาดูนางไว้ มีเรื่องอะไรก็มาบอกกับข้า" พระชายาเยว่รู้สึกว่าตอนนี้ใช้งานชิวอวิ๋นไปก่อนแล้วกัน ถึงอย่างไรนางก็ไม่มีตัวเลือกอื่นแล้ว"่เจ้าค่ะ"รอจนชิวอวิ๋นออกไป พระชายาเยว่ก็เรียกคนเข้ามาคนคนนี้ดูแล้วปกติดี แต่ว่าการเดินเหินในวังนั้นไม่ถูกใครสังเกตหรือสนใจเลยเป็นแม่นมที่หน้าตาธรรมดาคนหนึ่ง"แม่นมเยว่ เมื่อครู่เจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม?"แม่นมเยว่คนนี้ก้มหน้าต่ำเล็กน้อย เอ่ยขึ้นน้ำเสียงราบเรียบ"ได้ยินแล้วพะย่ะค่ะ""เรื่องนี้ ควรจะเผยกับองค์จักรพรรดิไหม?""ได้พะย่ะค่ะ""แต่ถ้าองค์จักรพรรดิรู้ อาจจะกริ้วอย่างรุนแรงได้ อ๋องฉยงที่มีความคิดไม่ดีกับพระชายาอ๋องเจวี้ยน เรื่องนี้ถ้าลือออกไปจะไม่ดีกับราชวงศ์""เรื่องนี้มีประโยชน์กับการที่พวกเราจะสืบค้นระดับความอดทนของจักรพรรดิต่ออ๋องฉยงได้ว่าอยู่ที่ไหน เพราะอะไรอ๋องฉยงจึงยังอยู่ในเมืองหลวง เรื่องนี้ยังต้องตรวจสอบให้ชัดเจน""เนื้อหาการคุยกันของอ๋องฉยงกับองค์จักรพรรดิทำไมจึงเปิดเผยไม่ได้" พระชายาเยว่ถอนหายใจ"ดังนั้น
"อะไรนะ?!"พระชายาเยว่พอได้ยินประโยคนั้นของชิวอวิ๋น ทิ้งมารยาทอะไรไปเกือบหมดจนแทบกระโจนขึ้นมา"เจ้าอย่ามาพูดมั่วซั่วนะ! ถ้าให้คนอื่นได้ยินข้าเองก็ช่วยเจ้าไม่ได้!"อันที่จริงนางเองก็ไม่อยากได้ชิวอวิ๋นแล้ว ดูแล้วเหมือนทำเรื่องอะไรก็ไม่สำเร็จ ไร้ประโยชน์สิ้นดีแต่ว่าตอนนี้พอได้ยินชิวอวิ๋นพูดประโยคนี้ออกมา ก็ทำเอานางลืมเรื่องที่จะโยนชิวอวิ๋นทิ้งไปทันที"เป็นเรื่องจริง พระชายา เรื่องนี้ถ้าไม่ได้ยินเองกับหู ข้าน้อยจะกล้าแต่งขึ้นมาได้อย่างไรกัน?" ชิวอวิ๋นรีบพูด"อ๋องฉยงชอบพระชายาอ๋องเจวี้ยนรึ?""พะย่ะค่ะ ตอนที่ออกมาจากวังราชนิเวศน์ ข้าไปเจอที่หน้าประตูใหญ่"พระชายาเยว่คิดถึงใบหน้า รูปร่างของฟู่จาวหนิง ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เชื่อ"ได้ยินว่าอ๋องฉยงเป็นพวกชื่นชอบสาวงาม ไม่เช่นนั้นพระชายาอ๋องฉยงคงไม่คุมเขาไว้อย่างเข้มงวด ราวกับอยู่ในคุกแน่นอน"เพราะพอหย่อนยาน ไม่ทันระวังหน่อย อ๋องฉยงก็อาจจะไปหลับนอนกับสาวสวยคนไหนแล้วก็คอยเลี้ยงไว้ด้านนอกแต่พระชายาอ๋องฉยงเข้มงวดเสียขนาดนั้นแล้ว อ๋องฉยงก็ยังมีอวิ๋นจูกับเฉินฮ่าวปิงลูกนอกสมรสสองคนนี้ได้ที่โตแล้วมีอยู่สองคน แล้วที่ยังไม่โตล่ะ? อธิบายได้ว่าอ๋อง
"ข้าต้องการวัตถุดิบยาเหล่านี้เดิมทีก็จะให้นางส่งไปที่เมืองเจ้อ แล้วนางปฏิเสธเอง เดิมทีนี่เป็นความคิดของข้า! ท่านบอกว่าข้ารับมือไม่ไหว นางเองก็ไม่ใช่ว่าพึ่งพาคนอื่นหรือ ก็แค่เพราะนางแต่งงานกับอ๋องเจวี้ยนที่มีอำนาจ! ท่านให้นางเอาอ๋องเจวี้ยนให้ข้าสิ! ถ้าหากข้าเป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยน ข้าเองยังทำได้ดีกว่านางเสียอีก!"ต่งฮ่วนจือถูกเสียงแหลมของนางแผดใส่จนปวดหูไปหมดแล้วเขามองอย่างตกตะลึงไปทางเฉินฮ่าวปิง ก่อนหน้านี้ไม่เคยรู้มาก่อนว่านางเป็นคนแบบนี้"เจ้าคิดว่าที่ศิษย์น้องหญิงมีความสามารถขนาดนี้ เป็นเพราะแต่งงานกับอ๋องเจวี้ยนหรือไรกัน?""แล้วไม่ใช่หรือ? นางก็แค่พึ่งพาอ๋องเจวี้ยนเหมือนกัน ด้านหลังมีต้นไม้ใหญ่ให้พักพิงร่มเย็น! ถ้าหากไม่ใช่อ๋องเจวี้ยน ตอนนั้นที่นางถอนหมั้นกับรัฐทายาทเซียวไปก็คงจะเอาตัวไม่รอดแล้ว ต่อมานางจะได้ไปฝากตัวเป็นศิษย์เรียนหมอจนเข้าพันธมิตรโอสถได้อย่างไรกัน?!"ต่งฮ่วนจือมองนางลึกๆ ส่ายหัวถอนหายใจ"บนโลกนี้ไม่มีรัฐทายาทเซียวอีกแล้ว"ขนาดรัฐทายาทเซียวไม่อยู่แล้ว ก็ยังไม่รู้หรือ?"ช่างเถอะ วันนี้เจ้าเป็นท่านหญิงไปแล้ว ข้าก็แค่ประชาชนธรรมดา ช่วยอะไรไม่ได้หรอก ขอตัวแค่นี้
พอเห็นสีหน้าเฉินฮ่าวปิง ใจของต่งฮ่วนจือก็เย็นลงมาทันทีทั้งที่รู้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับฟู่จาวหนิงแล้วแท้ๆ แต่ว่าตอนนี้ เฉินฮ่าวปิงก็ยังใช้ประโยชน์จากเขา คิดจะให้เขาขัดขวางศิษย์น้องหญิงต่อให้เป็นเรื่องที่เหลวไหลแบบนี้ นางก็ยังพูดออกมาโดยไม่หนักใจ แล้วขอให้เขาทำตามสิ่งที่นางต้องการต่งฮ่วนจือมองไปทางฮูหยินเฉิน เขายังดูคาดหวังอยู่ถึงอย่างไรฮูหยินเฉินก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว น่าจะรู้จักขอบเขตบ้างกระมัง?"เจ้าเองก็คิดแบบนี้หรือ? จะให้ข้าเก็บวัตถุดิบยาไว้จนกว่าฮ่าวปิงจะรวมเงินได้?"ฟังเอาเถอะ เขาพูดซ้ำออกมาอีกรอบหนึ่งก็ยังรู้สึว่าเป็นเรื่องไร้สาระเลยฮูหยินเฉินขมวดคิ้ว มองนางด้วยสายตาเศร้าๆแต่ก่อนพอเห็นสีหน้าเช่นนี้ของนาง ต่งฮ่วนจือก็จะรู้สึกปวดใจ อยากจะปกป้องนางขึ้นมา เขารู้ ว่านางเป็นผู้หญิงอ่อนแอคนหนึ่ง มีลูกสาวติดหนึ่งคน คอยหนีคนตามล่าอยู่ตลอด มันลำบากแค่ไหนถ้าหากเป็นไปได้ เขาเองก็อยากจะยืนบังลมบังฝนให้นาง เพราะแรกสุดเขารู้สึกชื่นชมนาง ชื่นชมความแข็งแกร่งและความรักของแม่จากตัวนางแต่สีหน้าต่อตัวเขาของฮูหยินเฉินตอนนี้ ต่งฮ่วนจือจู่ๆ ก็คิดขึ้นมาว่า อ๋องฉยงถึงอย่างไรก็หาพวกนางเจอแ