ถึงตอนนั้นอ๋องเจวี้ยนคงได้เดือดดาลจนสังหารพวกเขา นี่เป็นบทสรุปที่เหมาะสมที่สุดของพวกเขาแล้วแต่ตอนนี้พอได้ยินคำพูดของผู้บัญชาการกองธงมู่ เหมือนคิดจะให้ทางรอดกับฟู่จาวหนิง แล้วยังจะพานางออกไปอีก?เขาร้อนรนขึ้นมาแล้วจ้าวเฉินแอบอ้อมไปด้านหลังขณะเดียวกัน ผู้บัญชาการกองธงมู่ในที่สุดก็พบตัวฟู่จาวหนิง เขาสะบัดข้อมือ อาวุธลับเล่มหนึ่งพุ่งยิ่งไปทางฟู่จาวหนิงทันทีฟิ้วเสียงดังขึ้น ฟู่จาวหนิงสัมผัสได้ทันควัน นางกลิ้งตัวไปบนพื้นหิมะอาวุธลับเล่มนั้นผลุบหายเข้าไปในตำแหน่งเดิมของนางเมื่อครู่ฟู่จาวหนิงจึงปรากฎตัวขึ้นในสายตาคนทั้งหมดด้วยเหตุนี้"ฟู่จาวหนิง!"จ้าวเฉินกระโจนขึ้นมาอย่างกลั้นไม่อยู่ พุ่งตรงไปหาฟู่จาวหนิง ออกฝ่ามือตบไปทางหน้าอกของนางไม่ว่าอย่างไร เขาจะให้นางต้องบาดเจ็บหนักก่อน!"เฮ่อเหลียนเฟยอยู่ในมือข้า!" เขาร้องขึ้นอย่างรวดเร็ว คิดจะให้ฟู่จาวหนิงหยิกเล็บเจ็บเนื้อแต่ฟู่จาวหนิงมองไปทางเขา ยกมือขึ้น แสงเงินสายหนึ่งสว่างวาบ เข็มเงินพุ่งแทงไปทางเขา"จ้าวเฉิน ที่แท้ก็เจ้านี่เอง!"ฟู่จาวหนิงพอมาถึงก็ทำให้พวกเขาประมาท ชิงโอกาสโยนเฮ่อเหลียนเฟยเข้าไปในห้องเภสัชอย่างรวดเร็ว ตอน
"ปึง!"ฟู่จาวหนิงเองก็มีแรงมากกว่าที่คนทั้งหมดคาดการณ์ไว้เสียอีกกระโจมผ้าทั้งผืนถูกนางดึงจนล้มแผ่ไม้ด้านบนก็ร่วงลงมาทันที เชือกรอบๆ ก็หดแน่นขึ้นพร้อมกันกระโจมทั้งหลังกลายเป็นอาวุธรูปร่างเหมือนกรงขังไปในพริบตา จัดการพันธนาการจ้าวเฉินที่เข้าไปเมื่อครู่ไว้ด้านใน"อ๊า!"จ้าวเฉินร้องเสียงแหลมแผ่นไม้ด้านบนฟาดลงมา เขาคิดจะหลบแต่ก็หลบไม่พ้น ถูกกดลงไปบนพื้นทันที บนพื้นก็มีพรมที่ผู้บัญชาการกองธงมู่จัดการวางไว้ก่อนหน้า เขาดมกลิ่นที่อยู่ด้านบนเข้าไป คิดจะกลั้นใจแต่ไม้แหลมบนกระดานไม้ก็แทงเข้าไปที่แผ่นหลังเขา เจ็บจนเขาต้องร้องออกมา แล้วจะไปกลั้นหายใจทันได้อย่างไร?ผ้ารอบๆ ก็หดรัดแน่นห่อตัวขึ้นมา พันตัวเขาไว้ด้านใน บนหลังเองก็มีกระดานไม้ทับอยู่ ปีนลุกขึ้นมาไม่ได้เลยจ้าวเฉินเจ็บจนเริ่มชาแล้ว"พี่มู่ช่วยข้าด้วย!"เขาเจ็บจนเบื้องหน้าดำมืดไปหมด ทำได้เพียงแผดเสียงปอดแทบฉีกร้องเรียกหาผู้บัญชาการกองธงมู่ผู้บัญชาการกองธงมู่เห็นว่าแค่ชั่วพริบตาเดียว กับดักกับการโจมตีที่พวกเขาเตรียมไว้ตั้งนานก็ถูกฟู่จาวหนิงใช้งานย้อนกลับมา จึงโมโหจนหัวหมุนขึ้นเสียแล้วจ้าวเฉินยังจะกล้าเรียกเขาอีก!เขาไม่เคย
"เจ้ามันใครกัน หน้าตาก็น่าเกลียดแล้วยังหนวกหูอีกด้วย"คำพูดนี้ทำเอาผู้บัญชาการกองธงมู่โมโหจนปากเบี้ยวเขาคิดไม่ถึงเลย ว่าในสถานการณ์เช่นนี้ ฟู่จาวหนิงแค่คนเดียวยังกล้ากำเริบเสิบสานเสียขนาดนี้!"เกรงว่าตอนนี้เจ้าคงใกล้จะตายแล้ว ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา"ผู้บัญชาการกองธงมู่เดิมทีคิดจะปล่อยนางไว้ แต่คำพูดนางในตอนนี้ไปยั่วโมโหเขาเข้า จนจิตสังหารเองก็สะกดไม่อยู่แล้ว!ในเมื่อนางเป็นพวกไม่รู้ผิดชอบชั่วดี เช่นนั้นทำไมเขาจะต้องปล่อยนางไว้?"โลงศพ? เจ้าเตรียมเอาไว้ด้วยหรือ?" ฟู่จาวหนิงร้องเฮอะขึ้นมา ดึงเชือกแน่นขึ้น ในหูก็ได้ยินเสียงกรีดร้องจ้าวเฉินอ่อนแรงขึ้นมาก จึงย้อนถามผู้บัญชาการกองธงมู่ขึ้นเสียงหน่อง "ข้าว่าที่นี่เป็นสถานที่กลบฝังพวกเจ้าก็ดูไม่เลวนักนะ""สังหาร!"ผู้บัญชาการกองธงมู่พอเห็นนางซื้อตัวไม่ได้ขู่ก็ไม่ได้ สายตาก็ดุดันขึ้นมา และไม่คิดจะปล่อยนางไว้แล้ว ตะโกนคำสั่งสังหารออกมาเสียงเย็นจากเสียงคำสั่งของเขา คนชุดขาวรอบๆ ก็กระโจนตัวขึ้นมา ใต้เท้าเตะกองหิมะ เกล็ดหิมะโถมไปทางฟู่จาวหนิงภายใต้เส้นแสงที่มืดมิด หิมะทยอยเข้าล้อมตัวนางรอบด้านล้วนมีจิตสังหารบีบเข้าหานางขณะเดียวก
กระบี่ด้านหลังเข้ามาใกล้แค่เอื้อมแล้วฟู่จาวหนิงโถมตัวไปด้านหน้า ล้มลงไปบนพื้นหิมะอย่างแรง จนกระบี่เล่มนั้นถากหลังนางไปนางสัมผัสได้ว่าบาดแผลบนแผ่นหลังตนเองเปิดออกมาจากการล้มครั้งนี้ เลือดไหลออกมามากขึ้น แต่นางก็ไม่สนใจ ปีนตัวขึ้นแล้วพุ่งต่อไปทันทีและตอนนี้เองผู้บัญชาการกองธงมู่ก็มาถึงด้านหลังนางแล้ว ฟาดฝ่ามือหนักๆ ตรงมาทางนางฟู่จาวหนิงกัดฟัน ตัดสินใจที่จะรับฝ่ามือนี้ และใช้แรงฝ่ามือเขาพัดลอยออกไป ขอแค่ร่วงลงมาห่างจากพวกเขาหน่อย นางก็สามารถมุดเข้าไปในห้องเภสัชได้"ผัวะ!"ฝ่ามือนี้ซัดโดนแผ่นหลังของนาง"จาวหนิง!"ตอนที่ฟู่จาวหนิงถูกฟาดจนลอยออกมา ความมืดตรงหน้าก็มีเสียงเย็นชาที่มีความร้อนรนตกตะลึงหวาดกลัวเสียงหนึ่งดังขึ้นขณะเดียวกัน ร่างหนึ่งก็กระจโจนขึ้นมากลางอากาศ พุ่งตรงเข้ามาหานางฟู่จาวหนิงใจผ่อนคลายลงมาทันทีนางตกเข้าไปในอ้อมกอดที่เย็นเฉียบเย็นมาก แต่นางก็รู้สึกปลอดภัยขึ้นในพริบตาเซียวหลันยวนมาแล้วเซียวหลันยวนที่รีบตามมาก็เห็นเข้ากับฉากที่นางถูกตบจนตัวลอย เกือบจะคุ้มคลั่งขึ้นมาแล้วเขารับตัวนางไว้ ตอนที่กอดนางยังลูบไปโดนเลือดเต็มฝ่ามือ แล้วเลือดก็แทบจะแข็งตัวไปท
เซียวหลันยวนตอนนี้ก็เพิ่งจะลูบเจอแผลของนาง รีบสกัดจุดห้ามเลือดของนางทันที"อยู่ที่ไหน?" เขายื่นมือไข้าไปในอกนาง ควานหาขวดยาอีกขวดออกมาได้"ลงเขา ลงจากเขาก่อน"ฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าถ้ายังรอที่นี่ต่อไปล่ะก็ พวกเขาทั้งสองคนได้แข็งตายแน่ ยิ่งไปกว่านั้นบนภูเขาลูกนี้ทุกหนแห่งก็เต็มไปด้วยพิษที่ผู้ชายหน้าขรึมคนนั้นวางไว้ นางรู้สึกว่ามันอันตรายกับเซียวหลันยวนมากเซียวหลันยวนมองไปยังทิศที่ผู้บัญชาการกองธงมู่จากไป กัดฟันกรอดเขาอยากจะไปสับคนผู้นั้นให้เป็นหมื่นท่อนเสีย ถ้าไม่สังหารเขา คงจะสลายความแค้นของเขาลงได้ยากแต่ว่าตอนนี้ฟู่จาวหนิงบาดเจ็บ ใจของเขาสับสนขึ้นมาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน"ลงเขา"ฟู่จาวหนิงสัมผัสได้ถึงจิตสังหารของเขา กลัวว่าเขายังจะไล่ตามไปสังหารผู้บัญชาการกองธงมู่ด้วยตัวเองอีก จึงคว้ามือของเขาเอาไว้"เอาล่ะ" เซียวหลันยวนตอบรับเสียงแหบแห้ง "ข้าจะพาเจ้าลงจากเขาก่อน"ตอนนี้ทั้งหมดไม่มีอะไรสำคัญไปกว่านางแล้วเขาแบกฟู่จาวหนิงขึ้นหลังอย่างระมัดระวังเพราะหลังของนางบาดเจ็บ จะอุ้มก็ไม่สะดวกนัก"ท่านอ๋อง ข้าน้อยจะแบกพระชายาให้" ชิงอีรีบวิ่งเข้ามา มองเขาอย่างกังวล"เหลือคนไว้หาต
เซียวหลันยวนเม้มปาก ไม่ตอบอะไร"พิษบนตัวท่าน ก่อนหน้านี้ข้าพูดไว้แล้ว ถ้าหากถูกกระตุ้นขึ้นมาท่านจะหนาวตายเอา ทำไมท่านถึงเข้ามาในสถานที่อย่างภูเขาหิมะกันกัน?"เซียวหลันยวนตอบ นางเองก็รับไปอย่างมึนๆ "แต่ว่าข้าเองก็อยากรู้อยากเห็นมาตลอด บนยอดเขาโยวชิงนั่นเป็นอย่างไรกัน? ไม่หนาวหรือ? ฟังจากชื่อแล้วน่าะจะหนาวอยู่นะ ท่านทำไมถึงพักฟื้นอยู่ที่นั่นได้ตั้งหลายปีล่ะ?""เจ้าหยุดพูดก่อนเถอะ"เซียวหลันยวนถอนหายใจอย่างจำใจ เขารู้สึกว่าตนเองถ้าไม่เอ่ยออกมา นางคงเอาแต่พูดปาวปาวแน่ เห็นๆ อยู่ว่าเจ็บหนัก เห็นๆ อยู่ว่าแทบจะสลบไปอยู่แล้ว ทำไมถึงได้พูดมากกว่าปกติเสียล่ะนี่?"จู่ๆ ก็คิดถึงปัญหานี้ขึ้นมาได้น่ะ ก่อนหน้านี้ไม่ได้ถามมาตลอด" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้น"รอให้อาการบาดเจ็บเจ้าดีขึ้นก่นอ แล้วข้าจะบอกกับเจ้าเอง" เซียวหลันยวนแบกนาง รู้สึกได้ว่าเลือดบนหลังนางหยุดลงมาที่หลังมือตนเองแล้ว ใจก็เจ็บปวดเสียเหลือเกินในคืนที่หนาวขนาดนี้ ถ้าหากเลือดออกไม่มากนัก ไหลมาเพียงครู่เดียวก็แห้งแล้ว ไม่มีทางหยดลงมาแน่ ตอนนี้เลือดนางยังไหลอยู่ อธิบายได้ว่าบาดแผลนั้นหนักหนาเอาการทีเดียวตัวฟู่จาวหนิงเองมียาอยู่ แต่ยาห้ามเ
"กลับกันก่อน"เซียวหลันยวนไม่พูดอะไรมาก ตัวเขาเองก็มาช้าเกินไป จะมีหน้าไปโทษพวกเขาได้อย่างไรกัน?ตอนที่ฟู่จาวหนิงตื่นขึ้นมา ด้านนอกก็มืดสนิทแล้ว และยังมีเกล็ดหิมะโปรยลงมาอีกจวนอ๋องเจวี้ยนเองยังสว่างด้วยโคมอยู่เซียวหลันยวนดูแลอยู่หน้าเตียงนาง สีหน้าขาวซีดไปบ้าง"ท่านอ๋อง ท่านไปพักผ่อนสักหน่อยเถิด ท่านถ่ายกำลังภายในให้พระชายาตั้งมากมาย ถ้าล้มเป็นอะไรไป ตอนพระชายาตื่นก็ยังต้องเหนื่อยนางอีก"ผู้ดูแลจงเตือนเซียวหลันยวนขึ้นมาข้างๆเซียวหลันยวนหลังจากพาฟู่จาวหนิงกลับมาก็เชิญท่านหมอมาแล้ว แต่ท่านหมอก็ยังต้องยกมือยอมแพ้กับสภาพของฟู่จาวหนิง เพราะพิษที่บาดแผลนางทำให้เลือดไหลออกมาไม่หยุดกว่าจะรื้อหากล่องยาของนางเจอ แล้วยังต้องไปหาเสิ่นเสวียนอีก รับเอายารักษาที่ฟู่จาวหนิงสกัดให้เขาเป็นพิเศษมาก่อน ถึงทำให้เลือดนางหยุดไหลลงได้แต่เฮ่อเหลียนเฟยกลับไม่ฟื้น สติสัมปชัญญะยังไม่ตื่นตัว ทว่าทั้งตัวกลับร้านผ่าว และยังทำท่าแปลกๆ เพ้อออกมาเป็นระยะด้วย นี่ก็ทำเอาท่านหมอต้องก่ายหน้าผากเหมือนกันท่านหมอยังสามารถตรวจออกมาได้ว่าเฮ่อเหลียนเฟยโดนยาอะไรมา แต่กลับไม่ถอนไม่ได้นั่นเพราะรู้ว่าเฮ่อเหลียนเฟยโ
ฟู่จาวหนิงเบิกตาโพลง พอเหลือบตาก็เห็นเซียวหลันยวน เซียวหลันยวนที่ไม่ได้สวมหน้ากากจากนั้นนางก็เข้าใจว่าทำไมถึงรู้สึกเหมือนมือกำนำแข็งเอาไว้แล้วมือของเขาเย็นเกินไป!พิษของเขากำเริบแล้วขณะที่ตกตะลึงเช่นนี้ นางก็นึกขึ้นได้ทันทีเพราะที่หลังของนางด้านหนึ่งบาดเจ็บ ตอนนี้นอนตะแคงอยู่ ด้านหลังมีผ้าห่มหนุนไว้ ตอนนี้พอขยับ ก็ไปฉุดแปลเขา เจ็บจนน้องร้องซี๊ดออกมา"หนิงหนิง!"เซียวหลันยวนพอเห็นนางฟื้นแล้ว ก็ดีใจตื่นเต้นมาก"พระชายาฟื้นแล้วหรือ?" ผู้ดูแลจงเองก็รีบหมุนตัวกลับเข้ามา และเห็นฟู่จาวหนิงเบิกตาโพลงอยู่ แล้วยังคิดจะลุกขึ้นนั่งอีกด้วย"พระชายาฟื้นแล้ว?"ชิงอีหงจั๋วเฝิ่นซิงที่เฝ้าอยู่ด้านนอกก็หลั่งไหลกันเข้ามาอย่างอดไม่อยู่ฟู่จาวหนิงบาดเจ็บหนักจนสลบกลับมาจวนอ๋องเจวี้ยนเป็นครั้งแรก ทำเอาหงจั๋วเฝิ่นซิงตกอกตกใจกันหมดนางไม่ฟื้น พวกเขาก็ไม่กล้าไปไหน คอยเฝ้าอยู่ด้านนอกตลอด"เซียวหลันยวนท่านบ้าไปแล้วหรือ?" ฟู่จาวหนิงหลังจากตื่นขึ้นมาก็พลิกจับมือเซียวหลันยวนเอาไว้ นี่เย็นจนเหมือนคนตายแล้วนะ "พิษของท่านกำเริบท่านยังไม่รู้ตัวอีกหรือ?""พระชายา ท่านอ๋องขึ้นไปบนภูเขาหิมะแล้วเกิดอาการพิษ
จากนั้นนางก็ร้อนรนขึ้นมา รีบพลิกค้นของด้านใน แต่ไม่ว่าจะพลิกอย่างไร กล่องใบนั้นก็หายไปแล้ว!พอเห็นท่าทางของเฉินเซียง องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นก็หน้าเปลี่ยนสีทันที"มีอะไรหรือ?""ของหายไปแล้วเจ้าค่ะ!"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นลุกพรวดขึ้นมา เดินโซซัดโซเซเข้าไป และรื้อคนพลิกหาด้วยเช่นกัน"หายไปได้อย่างไรกัน? ข้าเห็นเจ้าเอามาใส่ในกล่องนี้แล้วแท้ๆ!""นั่นสิ ข้าน้อยวางมันไว้ในนี้จริงๆ แล้วยังลงกลอนไว้อีก หลังจากลงกลอนแล้วก็ไม่ได้เปิดออกอีกเลย แล้วมันหายไปได้อย่างไรกัน?"เมื่อครู่นางเองก็หยิบกุญแจปิ่นปักผมออกมาเปิดกลอน ไม่มีร่องรอยถูกแตะต้องเลย!"รีบหาดูให้ทั่ว"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นลนลานมาก สิ่งของไม่ใช่แค่นางต้องการนำไปเจรจาเงื่อนไขเท่านั้น แต่สำหรับอ๋องเจวี้ยนแล้วยังสำคัญมากอีกด้วย ถ้าหากมาหายในมือนาง แล้วอ๋องเจวี้ยนรู้เข้าภายหลัง แล้วนางจะทำอย่างไรกัน?นายบ่าวทั้งสองรื้อค้นในห้องกันเลเเทะ ค้นหาทุกซอกทุกมุม แต่ก็หาไม่พบ"จะต้องถูกหมอเทวดาฟู่เอาไปแล้วแน่ นางเคยเข้ามาในห้องพวกเรา" เฉินเซียงร้องขึ้นมา "ที่นี่มีแต่คนของนาง คนเหล่านั้นล้วนช่วยเหลือนาง ตอนที่พวกเรากลับมาจะต้องถูกคนเห็นแล้วแน่..."
"เฉินเซียง ข้าจะทำอย่างไรดี?"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นทำได้เพียงงึมงำถามเฉินเซียง ท่านทีของอ๋องเจวี้ยน กับความเย็นชาของฟู่จาวหนิง เส้นทางที่จะเข้าไปในจวนอ๋องเจวี้ยนก็ผ่านไปไม่ได้แล้วนางทำมาถึงจุดนนี้แล้ว จะให้ต้องตกต่ำลงไปอีกนั้นมันก็มากเกินไปยิ่งไปกว่านั้นต่อให้นางจะตกต่ำเรี่ยดิน อ๋องเจวี้ยนเองก็ไม่แน่ว่าจะหวั่นไหว เขามันไร้อารมณ์เกินไปเฉินเซียงนั่งอยู่บนเกาอี้ งอตัวค้อมลงมา ที่โดนฟู่จาวหนิงเตะไปเมื่อครู่ นางรู้สึกว่าตนเองตอนนี้ไม่ดีขึ้นได้เลย ความเจ็บปวดบนร่างกาย ทำให้ในใจนางยิ่งรู้สึกชิงชัง"องค์หญิงใหญ่ ในเมื่ออ๋องเจวี้ยนไร้ความรู้สึกเช่นนี้ เช่นนั้นพวกเราก็ปล่อยวางเถิด จากที่ข้าน้อยเห็น บางทีอ๋องเจวี้ยนในแคว้นเจาก็เหมือนจะปกป้องตัวเองลำบากอยู่ จักรพรรดิแคว้นเจาคิดจะเล่นงานเขาตลอดเวลา ดังนั้นเขาจึงไม่กล้ารับปาก เพราะเดิมทีเขาก็ไม่มีฝีมืออยู่แล้ว!"เฉินเซียงรู้สึกว่าตอนนี้พูดแย่ๆ กับอ๋องเจวี้ยนแล้ว ยังทำให้ตนเองรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย"ขนาดเขาตอนนี้ยังไม่กล้าปลดหน้ากากลงเลย น่าจะเพราะใบหน้าของเขามันพังยับจนไม่เหลือสภาพแล้วจริงๆ ไม่กล้าจะให้องค์หญิงใหญ่เห็น เขารู้สึกด้อยค่า ใช่แล้ว
หยวนอี้เข้าใจความหมายของนางขึ้นมาทันทีเขาไม่มีตกตะลึงเลยแม้แต่น้อยแม้ฟู่จาวหนิงจะยังสวมหน้ากาก โผล่มาเพียงตาคู่เดียว แต่เขาก็ยังรู้สึกว่านางมีแรงมาก"ข้าเป็นลูกมือให้ท่านได้จริงๆ นะ ที่นี่ไม่ใช่ว่าขาดกำลังคนอย่างหนักอยู่หรือ?"หยวนอี้ยังอยากจะเสนอตัวเองอยู่"ข้าทำนาได้ปลูกต้นไม้ได้ แล้วก็มีพละกำลัง แต่ไม่ใช่แบบพวกคนไร้ความสามารถนะ พวกงานที่ต้องใช้แรงให้ข้าจัดการได้เลย ในเมื่อที่นี่ขาดคน เช่นนั้นมีคนตัวใหญ่อย่างข้าที่นี่ ไม่ใช้ก็น่าเสียดายนะจริงไหม?""ไม่กล้ารบกวนท่านทูตจากแคว้นหมิ่นหรอก" ฟู่จาวหนิงพูดจบก็หมุนตัวเข้าเรือนไปไป๋หู่ขวางหยวนอี้ไว้ เขาเองก็เข้าไปไม่ได้ ทำได้แค่มองแผ่นหลังของฟู่จาวหนิงอย่างเสียดาย ถอนหายใจออกมา"คุณชายหยวนถ้าหากพุ่งเป้ามาหาจาวหนิงจริง เช่นนั้นก็ล้มเลิกความคิดเสียเถอะ" ฟู่จิ้นเชินเอ่ยขึ้น"คุณชายฟู่ เรื่องนี้ก็น่าจะพูดกับท่านได้กระมัง? อันที่จริงสำหรับพระชายาอ๋องเจวี้ยนแล้ว ก็อาจจะเป็นเรื่องดีด้วยก็ได้""เป็นเจตนาของแคว้นหมิ่น หรือว่าของตัวท่านเองกันล่ะ?""ตอนแรกก็เป็นของตัวข้าเอง แต่ข้าก็กล่อมจักรพรรดิแคว้นของพวกเราไปแล้ว เขาเองก็ฟังเสียงของข้าอ
"ขอบคุณที่ชม"ฟู่จาวหนิงถามกลับอย่างมั่นคง ไม่ได้มีอารมณ์รู้สึกรู้สาอะไรกับคำชมประโยคนี้ของเขาเลย กระทั่งไม่มีอาการตกตะลึงอีกด้วยนี่ทำให้หยวนอี้รู้สึกเกินคาดขึ้นมาเขายังคิดว่าจะทำให้อารมณ์ของฟู่จาวหนิงเปลี่ยนแปลงได้บ้างภายใต้สถานการณ์ที่ตกตะลึงนี้ คิดว่านางจะพูดอะไรออกมาสักประโยคหนึ่งแล้วทำให้เขาเข้าใจความคิดของนางได้อย่างชัดเจนคิดไม่ถึงว่าเขาที่ทำตัวประหลาดออกมา แต่นางกลับนิ่งแบบนี้"ดูท่าหมอฟู่จะได้ยินคำชมมาจนชินแล้วสินะ" หยวนอี้เอ่ยขึ้นฟู่จาวหนิงเองก็ไม่ได้ตอบประโยคนี้ของเขา แต่กลับพิจารณาเขาทั้งตัวหยวนอี้ถูกนางมองจนยืดอกขึ้นด้วยสัญชาตญาณ ยืนตรงแน่วขึ้นมา"ท่านชื่อหยวนอี้ใช่ไหม?" ฟู่จาวหนิงถาม"ขอรับ""ลูกชายหยวนกังทูตแคว้นหมิ่น หยวนอี้ที่ตอนนี้ควรจะคอยสอนขุนนางเกษตรเพาะปลุกอยู่ในเมืองหลวงนั่นน่ะนะ?" ฟู่จาวหนิงพูดออกมาอย่างชัดถ้อยทุกคำหยวนอี้นิ้งค้างไปไม่ใช่สิ นางรู้จักเขาด้วยหรือ?เขาเองก็เลี่ยงพวกหมอหลวงที่รู้จักเขาแล้ว แทบจะพูดได้ว่าซ่อนตัวทั้งคืนเลยทีเดียว ตอนที่เข้ามาก็หลบเลี่ยงคนจากเมืองหลวงที่รู้จักเขาพวกนั้น เตรียมคำพูดเอาไว้เยอะมาก คิดว่าจะพูดอะไรกับฟู่จ
หยวนอี้ตอนที่เข้ามาก็เห็นกับภาพที่ 'สับสนอลหม่าน' นี้เขาประกายตาแล่นวาบ กำลังจะเข้าไปในประตูวงกลม ไป๋หู่ก็หมุนตัวมามองเขา "ช้าก่อน"หยวนอี้โบกไม้โบกมือ "สหายไป๋หู่""อย่าเข้าใกล้นัก เหมือนข้าเคยบอกท่านไว้แล้ว ที่นี่ท่านห้ามเข้าไป" ไป๋หู่เอ่ยขึ้นฟู่จิ้นเชินออกมาจัดการความวุ่นวายนี้ ให้ป้าหนิวป้าหลี่มาช่วยประคององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเข้าไปในห้องเฉินเซียงกลับไม่มีใครสนใจ"พวกเจ้ารังแกกันเกินไปแล้ว..."เฉินเซียงดิ้นรนอยู่พักหนึ่งถึงลุกขึ้นมาได้ นางรู้สึกว่าอวัยวะภายในตนเองปวดร้าวไปหมดเท้าของฟู่จาวหนิงแรงหนักขนาดนี้เชียว!นางไม่เป็นวรยุทธ์เลยจริงหรือ?แต่ว่าฟู่จาวหนิงทำไมถึงกล้า กล้าเตะนางขนาดนี้!สายตาของหยวนอี้เก็บกลับมาจากตัวองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นที่ถูกประคองเข้าห้อง หันไปตกอยู่บนตัวเฉินเซ๊ยงแทน ใต้ตาเกิดความสนใจขึ้นมา"แม่นางไปยั่วหมอฟู่อย่างไรกันเนี่ย?"ฟู่จาวหนิงมองเขา ถามไป๋หู่ว่า "นี่ใครหรือ?""บอกว่าชื่อหยวนอี้ ติดตามหมอหลวงคนหนึ่งเข้ามา อยากจะมาช่วยเหลือที่เมืองเจ้อขอรับ" ไป๋หู่บอกกับฟู่จาวหนิงฟู่จิ้นเชินเดินมาอยู่ข้างๆ ฟู่จาวหนิง กดเสียงลงต่ำ "รู้สึกเหมือนเขาน่าสงสัย
เซียวหลันยวนหมุนตัวจากไปองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นมองแผ่นเหลังเขา จะอย่างไรก็ตั้งสติกลับมาไม่ได้เฉินเซียงเห็นว่าการสนทนาขององค์หญิงใหญ่พังทลายลงแล้ว สีหน้าก็ลนลานขึ้นมา รีบลุกขึ้นมาไล่ตามเซียวหลันยวนไป"อ๋องเจวี้ยน! ท่านทำเช่นนี้ไม่ได้!" หมอเทวดาฟู่วางยาอะไรใส่ท่านใช่ไหม ท่านทำไมถึงได้ใจดำขนาดนี้?นางยังไม่ทันพุ่งออกจากประตูวงกลม ก็ถูกไป๋หู่ฟาดกลับมาไป๋หู่ยังใช้แค่กำลังภายในด้วย แต่ห้ามไม่ให้นางออกไป ไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายนางแต่เฉินเซียงก็ทรุดตัวลงบนพื้น แค่รู้สึกว่าเจ็บเข่าเจ็บก้น มือก็เจ็บ หัวก็ปวดไปหมดนางร้องไห้ออกมา "พวกเจ้าจะมารังแกองค์หญิงใหญ่ของพวกเราแบบนี้ไม่ได้ นางเป็นองค์หญิงใหญ่ที่มีโชคมากที่สุดในต้าชื่อนะ"เซียวหลันยวนเดินไปไกลแล้ว ไม่หันหลังกลับมาไป๋หู่ยืนอยู่ที่ประตูวงกลม มององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นที่นั่งเหม่อลอยอยู่บนพื้น เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ "องค์หญิงใหญ่กลับห้องไปเถิด"จะว่าไปเขาเองก็เป็นคนต้าชื่อเหมือนกัน ก่อนหน้านี้ก็เคยได้ยินเรื่ององค์หญิงใหญ่มามากตอนนี้พอเห็นองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตกต่ำจนน้ำตานองหน้า เขาก็รู้สึกซับซ้อนขึ้นมาหน่อยๆแต่ว่า องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ
หญิงสาวที่น่าสงสาร ตอนเด็กๆ เขาเห็นในวังหลังมาแล้วไม่น้อย มีภูมิคุ้มกันไปนานแล้ว"ข้าไม่ได้จะแย่งชิงอะไรกับหมอเทวดาฟู่ ถ้าเราแต่งกันหลอกๆ ได้ไหม? ข้าแค่ต้องการหาที่ไปเท่านั้น แค่อยากให้ท่านคอยปกป้องข้าไม่กี่ปี ถ้าห้าปีไม่ได้ล่ะก็ สามปีก็พอ"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเห็นเซียวหลันยวนไม่พูดจา จึงหดเวลาลงมาอีก"สามปีนี้ ข้าแค่แบกชื่อพระชายารองไว้ในนามเท่านั้น พออยู่ภายนอกก็ขอให้ท่านอ๋องเล่นละครกับข้าหน่อย แสร้งเป็นสามีภรรยา สามารถปกป้องข้าได้ ในจวนอ๋อง ข้ารับรองว่าจะทำตามหน้าที่ตนเอง เลี่ยงท่านอ๋องให้ห่าง ไม่คิดอะไรเกินเลย""เป็นถึงองค์หญิงใหญ่ต้าชื่อ แต่คิดจะเอาตัวเองไปไว้ในจุดต่ำตมหรือ?" เซียวหลันยวนถาม"อ๋องเจวี้ยนโปรดเมตตา"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นน้ำตาไหลพราก "ข้าไม่มีทางเลือกแล้ว ข้าเอาของให้ท่านได้ ยิ่งไปกว่านั้น โชคของข้าก็ดีมาโดยตลอด ถ้าเป็นพระชายารองอ๋องเจวี้ยนในนาม จะต้องช่วยเหลือท่านอ๋องได้แน่ ไม่ว่าท่านอ๋องจะทำอะไร ก็จะยิ่งราบรื่น ผลลัพธ์สมปรารถนา""องค์หญิงใหญ่มั่นใจกับโชคของตนเองขนาดนี้เชียว?" เซียวหลันยวนได้ยินคำนี้ก็อดนึกขันขึ้นมาไม่ได้"โชคจุดนี้ข้ามีอยู่ ท่านเองก็เชื่อข้าได
เซียวหลันยวนมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นและไม่รู้ว่านางทำไมถึงพูดว่า 'เขาเอามาเองไม่ได้' ออกมา"แล้วของนั่นมันคืออะไรกัน?" เขาถามขึ้นองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นลนลานขึ้นมานางรู้ที่ไหนว่าสิ่งนั้นคืออะไร? มันคือกล่องที่เปิดไม่ได้ แล้วก็มองไม่เห็นว่าด้านในมีอะไรนี่นา?"ตอนนี้ข้ายังบอกท่านไม่ได้ แต่สำคัญกับท่านมากแน่นอน""เจ้าไม่บอกว่าคืออะไร แล้วข้าจะรู้ได้อย่างไรว่ามันจริงหรือไม่จริง? จะว่าไป เจ้าบอกว่าเจ้าฝันเห็นอนาคตได้ นี่มันก็ดูเหลวไหลเกินไปนะ ข้าควรจะเชื่อเรื่องนี้ด้วยไหม?""เรื่องจริงนะ เพราะข้าฝันเห็นแบบนั้น ตอนเด็กๆ ได้พบกับเจ้าอารามยอดเขาโยวชิง เขาบอกว่า ข้าเป็นตัวเลือกที่เหมาะจะเป็นพระชายาของท่านมาก! แล้วยังชี้แนะข้า ให้ข้าเติบโตอย่างดีในสุสานจักรพรรดิ ถ้ายังไม่ถึงเวลาสำคัญอย่าเพิ่งกลับเมืองหลวง"เซียวหลันยวนก็เชื่อคำพูดของนางอยู่ เจ้าอารามยอดเขาโยวชิงอาจจะพูดเหล่านี้กับนางก็ได้ยิ่งไปกว่านั้น ท่านหูที่คุยถ่ายทอดคำพูดเจ้าอารามมาตลอดก็พูดอะไรทำนองนี้แต่เขาไม่เคยรู้สึกว่าชีวิตนี้ต้องไปผูกอยู่บนตัวหญิงสาวคนหนึ่งเลยบางทีอาจจะได้ แต่คนคนนั้นก็อาจจะไม่ใช่คนที่เขากำหนด อย่างจาวหนิง
นางอยากจะให้เซียวหลันยวนไม่พอใจตัวฟู่จาวหนิงเสียเหลือเกินแต่พอสิ้นเสียงนาง เซียวหลันยวนก็หันมามองนาง แม้จะสวมหน้ากากอยู่ แต่เฉินเซียงจู่ๆ ก็สัมผัสได้ว่านางถูกสายตาที่เย็นเยียบแหลมคนฆ่าตายไปแล้วนางใจสั่นวาบ จู่ๆ ก็รู้สึกเสียใจกับคำพูดเมื่อครู่ที่พูดไป แต่ก็สายไปแล้วนางได้ยินคำพูดเย็นชาของเซียวหลันยวนว่า"องค์หญิงใหญ่ถ้าหากมีเรื่องจะคุยกับข้า ก็ให้ทาสของเจ้าไปคุกเข่าอยู่ตรงนั้นก่อน"เซียวหลันยวนชี้ไปที่กลางสวนคุกเข่าที่นั่น คนป่วยทั้งหมดในห้องข้างฝั่งตะวันตกจะมองเห็นเฉินเซียงถลึงตาโตใส่อย่างไม่อยากเชื่อ"อ๋องเจวี้ยน" องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตกตะลึงไป "เฉินเซียงก็แค่ปกป้องข้ามากเกินไปเท่านั้น นางไม่ได้มีความคิดไม่ดี...""ให้นางคุกเข่า ข้าถึงจะฟังเจ้าพูด ถ้านางไม่ทำ ข้าก็จะไปแล้ว" เซียวหลันยวนตัดบทนางเฉินเซียงบอกว่าฟู่จาวหนิงแอบมีชู้กับอันเหนียน เขาจดจำมาโดยตลอด"อ๋องเจวี้ยน เฉินเซียงนางเองก็ป่วย ถ้าไปตากลมหนาวบนพื้น นางจะ...""เช่นนั้นก็ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว"เซียวหลันยวนพูดจบก็หมุนตัวกลับทันทีเฉินเซียงลนลานขึ้นมา "อ๋องเจวี้ยน ข้าจะไปคุกเข่าเดี๋ยวนี้! ท่านโปรดรอก่อน!""เฉินเ