สืออีกับสือซานปรากฎตัว สบตากันผาดหนึ่ง ลังเลเล็กน้อยท่านอ๋องตอนนี้จะไปไหนกัน?ฟู่จาวหนิงกัดฟัน สิ่งยืนยันนั่นสำคัญกับเขามากนี่ แต่ตอนที่หาสิ่งยืนยันดันกลับจะไปหาซ่งอวิ๋นเหยาเนี่ยนะ?แล้วยังกลางดึกกลางดื่นอีกด้วย ถ้าเขาเข้าไปในห้องนอนซ่งอวิ๋นเหยา คงจะออกมาให้ทันเวลาได้ยากแน่ซ่งอวิ๋นเหยาทางนั้นก็มีพิษนั่นโน่นนี่เต็มไปหมด เซียวหลันยัยนเองก็รู้นี่นา?"ช่างเขา!"ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้นมาอย่างกัดฟันหน่อยๆเดิมทีคิดจะหมุนตัวเดินไปแล้ว แต่นางรู้สึกว่าสองเท้าของตนเองหนักอึ้งจนเดินไม่ออก"คุณหนู ท่านอ๋องพาไปไม่กี่คนเท่านั้น และไม่รู้ว่าจะไปทำอะไรอีกด้วย จะมีอันตรายไหม?" สืออียังรู้สึกกังวล"ก็แค่ไปดอกท้อเท่านั้นนี่? ไม่แน่สาวสวยอาจจะนัดไว้ก็ได้ มีอะไรอันตรายกัน?"อันตรายเสียพรหมจรรย์กระมัง? ไม่รู้ว่าเซียวหลันยวนยังบริสุทธิ์อยู่ไม่ด้วยนี่สิแม้จะพูดเช่นนี้ ฟู่จาวหนิงก็ยังหมุนตัว หอบผ้าคลุมเดินตามไปยังทิศทางที่พวกเขาออกไป"คุณหนู..." เร็วขนาดนี้เชียว?ในดวงตาสืออีกับสือซานมีรอยยิ้มปรากฎขึ้น ทั้งสองคนเองก็รีบตามออกไปซ่งอวิ๋นเหยาหลายวันนี้นอนไม่หลับในห้องแม้จะมีไฟเทียนสว่างอยู่ แต่กระจ
ในสมองเซียวหลันยวนมีภาพเด็กหญิงตอนที่เขาถูกโจมตีบนถ้ำภูเขาตอนนั้นขึ้น คิดถึงฉากที่นางหยิบเอาผ้าเช็ดหน้ามาพันแผลให้กับเขา เม้มปาก ยกเท้าเดินเข้าไปซ่งอวิ๋นเหยาแง้มประตูไว้เบาๆ "ข้าไม่ปิด เหลือร่องทิ้งไว้ร่องหนึ่ง ไม่เช่นนั้นลมจะแรงเกินไป" ซ่งอวิ๋นเหยาอธิบายหลังจากนางเห็นเซียวหลันยวนเข้ามาก็เดินตรงไปทางหน้าต่างตามที่คาดไว้ อยู่ตรงจุดที่อยู่ใกล้หน้าต่างมากๆ ประกายทึมในดวงตาเปล่งวาบถ้าหากจะเลี่ยงความสงสัย เขาจะยืนให้อยู่ห่างจากเตียงมากที่สุด และข้างหน้าต่างก็ออกไปได้สะดวกที่สุดนี่คือสิ่งทางคิดไว้ก่อนหน้า ตอนนี้ดูแล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆแต่พอคิดดู ซ่งอวิ๋นเหยาในใจก็รู้สึกอึดอัด เขาป้องกันนางขนาดนี้เว้นระยะห่างกับนางขนาดนี้มันอธิบายได้ถึงอะไรกัน?นางเดินเข้าไป คิดจะเทน้ำให้เซียวหลันยวน ยังไม่ทันขยับ เขาก็เอ่ยขึ้นว่า"เอาสิ่งที่ควรพูดพูดออกมาเสีย"เย็นชาไร้ความรู้สึกขนาดนี้เลยหรือ?ซ่งอวิ๋นเหยารุ้สึกน้อยเนื้อต่ำใจขึ้นมาทันทีตอนเด็กๆ ที่พบหน้ากันครั้งนั้น เขาบอกกับนางว่า หลังจากนี้ที่ไหนที่ต้องการเขาเขาก็จะมาช่วย เขาพูดเองแท้ๆ ว่าจะจดจำนางไว้ตลอด"หลันยวน ตอนที่ท่านถามเรื่องเหล่
ถ้าลือกลับไปในวัง นางคงได้เดือดร้อนแน่!ยิ่งไปกว่านั้นฮองเฮาเองก็คงจะไม่เชื่อนางไม่เอ็นดูนางอีกแต่ตอนที่นางสลบไปชั่วยามหนึ่ง หลังจากตื่นมาหยินหลิ่วก็บอกนางว่า รอยนั่นหายไปแล้ว! เหล่าภิกษุคิดว่าตนเองคงตาฝาดมองผิดไปเรื่องครั้งนั้นทำให้นางรู้สึกมหัศจรรย์มาตลอด จะคิดอย่างไรก็ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ต่อมาภิกษุของวัดคุ้มครองแคว้นยังมาบอกในวังอีกว่า น่าจะเพราะนางได้รับการคุ้มครองจากพระพุทธเจ้าไทเฮาตอนนั้นดีใจมาก ยังมอบสร้อยข้อมือมรกตให้กับนางอีกชิ้นหนึ่งด้วย"ข้าทำตามคำสัญญาในครั้งนั้น"เซียวหลันยวนนับออกมาไม่น้อย ซ่งอวิ๋นเหยาน้ำตาคลอเบ้า"ข้า ข้าไม่รุ้เลยว่าท่านคอยปกป้องข้าเงียบๆ มาตลอด หลันยวน"ฟู่จาวหนิงถอยออกมาทีละก้าวเบาๆ ห่างจากเรือนนี้หน่อย ที่กลั้นหายใจไว้ตลอดถึงได้โล่งขึ้นมานางเข้าไปในจวนซ่งพร้อมเซียวหลันยวน ซ่งอวิ๋นเหยาน่าจะเพื่อให้เซียวหลันยวนเข้ามาได้สะดวก จึงโยกย้ายทหารด้านนอกออกไปตอนที่นางลอบเข้ามาเซียวหลันยวนกำลังเล่าเรื่องที่เขาไปเป็นเทพคุ้มครองให้กับซ่งอวิ๋นเหยาในอดีตพอฟังไปฟังมา ฟู่จาวหนิงก็รู้สึกว่าตนเองจะเป็นห่วงมากเกินไป นางถึงกับกังวลว่าอาการเขาจะกำเริบ
สืออีกับสือซานตกตะลึงเพราะความเร็วของคนชุดเขียวนี้รวดเร็วมาก ตอนที่เขาพุ่งมาหา พวกเขากลับรู้สึกเพียงตาลาย เกือบจะขวางไว้ไม่ทัน!"คุณหนูออกไปก่อน!"สืออีร้องขึ้นมาทันที เข้าขวางสุดชีวิตแต่ว่าเขากับคนชุดเขียวพอประฝ่ามือกัน เสียงปึงก็ดังขึ้น รู้สึกว่าเลือดลมหลั่งทะลัก มุมปากมีเลือดไหลออกมาทันที"คุณหนูท่านโปรดออกไปก่อน!" สืออีพอเห็นฟู่จาวหนิงจะเข้ามา ก็ร้อนรนจนกระอักเลือดออกมาอีกครั้งฟู่จาวหนิงพอเห็นวิชาของคนชุดเขียวร้ายกาจขนาดนี้ ก็ทำได้แค่กัดฟันหมุนตัวจะวิ่งเขาบุกมาหาตนเอง ขอแค่ตนเองออกจากที่นี่ เขาก็น่าจะไม่พัวพันกับสืออีสือซานต่อ และถ้าห่างจากเรือนตระกูลซ่งหน่อยก็จะตัดเรื่องลูกมือของเขาได้ด้วย"คิดจะหนีหรือ?"คนชุดเขียวคิดจะไล่ตามทันที สืออีชักกระบี่แทงไปที่ข้อมือเขา บีบให้เขาต้องหยุดลง"ข้าจะไปเรียกท่านอ๋อง!"วิทยายุทธ์ของสือซานด้อยกว่าสืออีพอควร เขารู้สึกร้อนรน รู้สึกว่าเพื่อความปลอดภัยของพระชายา ตอนนี้ต้องไปเรียกท่านอ๋อง ถึงอย่างไรต่อให้ท่านอ๋องไม่ออกมา เขาก็ยังพาองครักษ์เงามาด้วย องครักษ์เงาข้างกายท่านอ๋องวิทยายุทธ์ก็อยู่เหนือพวกเขาเสียงปึงดังขึ้น คนชุดเขียวฟาดเข้
ครั้งนี้ จับตัวฟู่จาวหนิงมา แล้วค่อยจับเฮ่อเหลียนเฟยที่อยู่ในบ้านตระกูลฟู่นั่นจับมัดเป็นผ้านวมไปด้วยกันเลย ถึงตอนนั้นถ้าประกาศตัวตนฐานะของเฮ่อเหลียนเฟยออกไป คงได้ฮือฮากันทั้งเมืองหลวงฮองเฮาเกลียดชังคนจากตระกูลเฮ่อเหลียนขนาดไหน ฟู่จาวหนิงในฐานะพระชายาของราชวงศ์ กลับเก็บคนของตระกูลเฮ่อเหลียนเอาไว้ ถ้าหากยังพบว่านอนอยู่ร่วมเตียงเดียวกับนางล่ะก็..."เจ้าหนีไม่รอดหรอก สิ่งที่ท่านหญิงต้องการ ข้าจะช่วยนางทำให้เป็นจริงเอง"คนชุดเขียวไม่ได้ยินเสียงเท้าของฟู่จาวหนิงเลย เข้าใจทันทีว่าหลังจากที่นางเข้ามาในซอยก็ซ่อนตัวไปแล้วดังนั้นหลังจากที่เขาเข้ามาในซอยก็ไม่ได้ใช้วิชาตัวเบาอีก แต่ค่อยๆ เดินเข้าไปด้านใน แล้วก็ค้นหาตัวฟู่จาวหนิงที่น่าจะซ่อนตัวไปแล้วขึ้นมา"เจ้าขวางทางของท่านหญิง ทำร้ายท่านหญิงจนต้องทรมานขนาดนี้ เจ้าสมควรตาย""อ๋องเจวี้ยนเดิมทีควรจะอภิเษกกับท่านหญิง ใครให้เจ้าที่เป็นหญิงยากจนสอดเท้าเข้ามากัน? ถือดีอย่างไร?"คนชุดเขียวพูดไปด้วย และรู้ว่าฟู่จาวหนิงได้ยิน ซอยนี้แม้จะยาว แต่เขาก็รู้ว่านางไม่ได้วิ่งหนีออกไป จะต้องซ่อนอยู่ในนี้แน่ด้านซ้ายขวาของซอยมีคนเอาของมาวางไว้ระเกะระกะ พวก
"คุณหนู!"สืออีในที่สุดก็ตามมาทัน อันที่จิรงก็ไม่ได้นานนักคำนวณดูแล้วเขาก็มาช้าแค่นิดเดียว เพราะก่อนหน้านี้ถูกเล่นงานจนบาดเจ็บภายใน ตอนที่ใช้งานกำลังภายในจึงมีอุปสรรคอยู่บ้างตอนที่เข้ามาเขาก็เห็นฟู่จาวหนิงกำลังใช้ปลายเท้าเตะไปที่คนชุดเขียว นี่มันน่าตกตะลึงเสียเหลือเกิน"ไม่เป็นไร เขาแค่สลบไปน่ะ น่าจะหลับไปสักสองวันถึงตื่นขึ้นมา"ฟู่จาวหนิงดูมั่นอกมั่นใจกับยาที่ตนเองสกัดขึ้นมาก"อาวุธลับที่ท่านใช้หรือ?" สืออี ตกตะลึงอย่างมากเขากับสือซษนล้วนรับมือคนชุดเขียวนี้ไม่ไหว ฟู่จาวหนิงคนเดียวกลับรับมือเขาไว้แล้ว อาวุธลับของนางร้ายกาจขนาดนี้เลยหรือ?"ใช่แล้ว"ฟู่จาวหนิงโค้งตัวลงดึงเข็มยาชาบนแผ่นหลังคนชุดเขียวโยนเข้าไปในห้องมิติเรียบร้อยต้องกลบร่องรอยให้มิด"เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?"ฟู่จาวหนิงลุกขึ้นมา ค้นยาออกมาเม็ดหนึ่งยื่นออกไป "กินลงไป"สืออีไม่ลังเลแม้แต่น้อย รับแล้วกลืนลงไปทันทีพอยาลูกกลอนเม็ดหนึ่งลงไป เพียงไม่นานในตันเถียนก็มีความอุ่นวาบ ทำให้เขาอบอุ่นขึ้นมาซู๊ดยานี้ของคุณหนูดีต่ออาการบาดเจ็บภายใน ฤทธิ์ของยานี้ดีมากจริงๆ!แม้เวลาสถานที่จะไม่ถูกต้อง แต่สืออีก็อดถามขึ้นมาไ
ชายหนุ่มคนนี้มีวรยุทธ์ทั้งตัว แต่กลับยอมเป็นทหารอยู่ข้างกายซ่งอวิ๋นเหยา สวมเครื่องแต่งกายก็ไม่ใช่องครักษ์ของจวนตระกูลซ่งนางเดาว่าคนผู้นี้ยอมติดตามมาคุ้มครองข้างกายซ่งอวิ๋นเหยาเอง สิ่งที่เขาพูดเมื่อครู่ ก็ยกซ่งอวิ๋นเหยาเหมือนเป็นนางฟ้าในสายตาไปแล้ว ต่อให้จะชอบนางหลงนาง แต่ก็แค่คิดจะทำให้ความปรารถนาของนางเป็นจริงเท่านั้น ช่วยนางทำสิ่งที่อยากทำทั้งหมดคนเช่นนี้ อาจจะรู้ความลับขอซ่งอวิ๋นเหยาอยู่ไม่น้อย ซ่งอวิ๋นเหยาเองจะต้องเชื่อใจตัวเขาอย่างแน่นอนดังนั้น คนผู้นี้ส่งมาหน้าประตูแล้ว ก็อย่าเห็นว่าข้าไม่เกรงใจนางก็แล้วกัน จะต้องง้างของจากปากเขาออกมาให้ได้!จวนซ่งหลังจากซ่งอวิ๋นเหยาบอกเรื่องราวที่ตนเองรู้ออกมาจนหมดแล้ว เซียวหลันยวนก็เตรียมจะออกไป"หลันยวน"ซ่งอวิ๋นเหยาเรียกเขาอย่างร้อนรนในใจนางร้อนราวกับไฟสุม เห็นๆ อยู่ว่าพูดอะไรไปตั้งมากมาย เขาเองก็ยืนอยู่ตรงหน้าต่างนั่นพักหนึ่งแล้ว ทำไมเขาจึงไม่รู้สึกมึนหัวหรืออะไรเลย?"ข้าเคยบอกกับเจ้าแล้ว พวกเราไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น ดังนั้นเจ้าอย่าเรียกชื่อข้าตรงๆ อีก ข้ากลัวว่าพระชายาจะหึงหวงเอา"คำพูดของเซียวหลันยวนทำให้ซ่งอวิ๋นเหยาเหมือนถูก
ต่อให้เซียวหลันยวนไปแล้ว นางก็ยังทำเป็นเหมือนเขายังอยู่ในนี้ รอเซี่ยวจวินกลับมาก่อน นางจะให้เขาแต่งตัวเป็นเซียวหลันยวน แล้วค่อยล่อฟู่จาวหนิงให้มาเห็นฉากนี้ นางวางแผนไว้หมดแล้ว จะมาพ่ายแพ้ก่อนได้รับชัยไม่ได้!เพียงแต่เดิมทีนางอยากจะถวายตัวออกไปจริงๆ ตอนนี้เซียวหลันยวนไม่ติดกับ นางจึงทำได้แค่ให้เซี่ยวจวินมาร่วมมือเสแสร้งด้วยกันดังนั้นตอนที่สือซานเข้ามาหาเซียวหลันยวนก็คิดไม่ถึงว่าเซียวหลันยวนจะพาองครักษ์ลับออกไปพอดี ซ่งอวิ๋นเหยาเองก็เรียกองครักษ์เข้ามาแล้ว ปิดประตูจุดเทียนในห้องสร้างภาพว่านางกับเซียวหลันยวนยังอยู่ด้วยกันขึ้นมาสือซานมองเห็นเซียวหลันยวน กลัวว่าสืออีกับฟู่จาวหนิงจะเกิดปัญหา จากนั้นก็หมุนตัวไล่ตามพวกเขาออกไปเซียวหลันยวนหลังจากออกจากจวนซ่งก็กลับจวนอ๋องทันที รีบเดินตรงไปยังเรือนเจียนเจียเพื่อหาฟู่จาวหนิงในเรือนมืดมิดเงียบสนิท เขาตบประตู"ฟู่จาวหนิง เปิดประตู"ประตูเรือนข้างเปิดออก หงจั๋วรีบเดินออกมา "ท่านอ๋อง?"กลางค่ำกลางคืนเช่นนี้ ท่านอ๋องทำไมจึงมาเคาะประตูพระชายา? หรือว่าดวงตาของหงจั๋วเปล่งประกายขึ้นทันที แต่เพียงพริบตาก็สลายไป พระชายาไม่อยู่นี่นา เคาะไปแล้วมีป