ยิ่งไปกว่านั้น ยังคิดว่าเขาอายุยังไม่ถึงสามสิบก็คงตายไปแล้วด้วย แม้ตอนนี้อ๋องเจวี้ยนจะเพิ่งยี่สิบต้นๆ แต่ดูจากที่อายุน่าจะสั้น ใครก็ล้วนจำเขาไม่ได้ตอนนี้เขากลับปรากฎตัวออกมาแล้ว!ยิ่งไปกว่านั้นยังออกไปล่าสัตว์ด้วย นี่อธิบายว่าร่างกายเขาไม่มีปัญหาแล้วใช่ไหม?หรือว่าอ๋องเจวี้ยนรักษาตัวดีแล้ว จึงกลับมาเมืองหลวงเพื่อแบ่งสิทธิ์อำนาจหรือ?หากอ๋องเจวี้ยนคิดจะชุบเลี้ยงขั้วอำนาจของตนเองขึ้นมาบ้าง สถานการณ์ในเมืองคงถูกทำลายลงแน่ พวกเหล่านี้คงต้องดูแล้วว่าจะยืนอยู่ฝ่ายไหนจ้าวเฉินกับโหวอาวุโสอี้น้อยเดิมทีก็ถือเป็นคนที่อยู่ในกลุ่มศูนย์กลางอำนาจด้วย แน่นอนว่าคนมากมายรู้จุดนี้"คารวะอ๋องเจวี้ยน"จ้าวเฉินกับโหวอาวุโสน้อยในใจไม่ค่อยยินดีนัก แต่ตอนนี้ทำได้เพียงก้มหัวให้อ๋องเจวี้ยนไปก่อนพวกของลู่ทงก็ถลึงตาโตฮ่าๆๆ!อย่างนี้นี่เองหรือ? จู่ๆ ในใจก็รู้สึกดีสุดๆ ขึ้นมาเลยไหม?ที่แท้อ๋องเจวี้ยนพอปรากฎตัวก็สะกดจ้าวเฉินกับโหวอาวุโสน้อยอี้ได้เลยหรือ? แล้วพวกเขาจะต้องกลัวอะไรกันอีก อ๋องเจวี้ยนอยู่ฝ่ายลูกพี่หนิงของพวกเขานะ!"เจ้งหยาง อ๋องเจวี้ยน"ลู่ทงกำลังสะกินเจิ้งหยางจะพูดกับเขา แต่เสียงของเจียง
ตบฉาดครั้งนี้ ทำเอาคนทั้งหมดในลานใจสั่นระรัวคนที่อยู่ใกล้หน่อยกระทั่งลมหายใจยังตึงเครียดขึ้นมา ไม่กล้าจะหายใจเฮือกใหญ่นายท่านจ้าวขุนนางผู้บัญชาการที่ได้รับการเชื่อใจจากองค์จักรพรรดิ ตอนนี้เองก็กำลังมีชื่อเสียง บางครั้งกระทั่งเครือพระญาติบางส่วนก็ยังต้องยอมให้เขาดังนั้นจ้าวหรูจึงกำเริบเสิบสานในเมืองหลวงมาแต่ไหนแต่ไร ไม่มีใครกล้าไปหาเรื่องด้วยลูกขุนนางที่มีความสัมพันธ์อันดีกับเหล่าองค์หญิงอย่างหลินหวานซิน ก็ยังต้องเกรงอกเกรงใจกับนาง ต่อให้ทั้งสองคนไม่สนิทกันนัก เที่ยวเล่นด้วยกัน แต่ถ้าจุดที่ต้องให้หน้าแก่นางก็คือต้องให้ทว่าตอนนี้จ้าวหรูกลับถูกทหารคนหนึ่งตบฉาดเข้าที่หน้า!จ้าวหรูสมองมึนงงไปหมด ทั่วร่างทั้งเจ็บทั้งชา ยืนอยู่ที่นั่นสงสัยต่อชีวิตคนขึ้นมานางไม่เชื่อ ไม่อยากจะเชื่อมีคนกล้าตบหน้านาง!จ้าวเฉินเองก็หน้าเปลี่ยนสี กำหมัดแน่นเขาเองก็พยายามควบคุมตนเองถึงไม่ได้เหวี่ยงหมัดเข้าใส่ชิงอี นี่คอือ๋องเจวี้ยน ลูกมือของอ๋องเจวี้ยน!ก่อนหน้านี้อ๋องเจวี้ยนทำตัวเงียบเชียบจนไม่มีใครสัมผัสถึงตัวตนได้มาโดยตลอด ครั้งนี้กลับทำให้พวกเขาสลักลึกความจำลงไปลึกสุด"อ๋องเจวี้ยนลงมือกับแม่
ยิ่งไปกว่านั้นการยอมรับตัวตนฐานะของนางต่อหน้าคนมากมายเช่นนี้ ก็ดูไม่เหมือนตัวนางนักเซียวหลันยวนจับมือนาง มองไปทางจ้าวหรู "พระชายาของข้า ไม่นับเป็นคนของราชวงศ์หรือ?"ทำไมจะไม่นับกันล่ะ?จ้าวหรูแค่ไม่อยากเชื่อเท่านั้น"ท่านไม่ได้จำคนผิดหรือ?" นางไม่อยากจะเชื่อจริงๆ เรื่องทำไมจึงไร้สาระเช่นนี้ "ท่านรุ้ไหม หลายปีมานี้นางวันวันเอาแต่หัวหันอยู่กับรัฐทายาทเซียว นางเอาแต่อยากจะแต่งงานกับรัฐทายาทเซียว ยิ่งไปกว่านั้นยังไปอ้อนวอนองค์จักรพรรดิเสียด้วยซ้ำ!"นางมองไปยังคนรอบๆ "ถ้าไม่เชื่อก็ลองถามพวกเขา คนทั้งหมดที่นี่ล้วนรู้กัน ฟู่จาวหนิงอยากจะแต่งงานกับรัฐทายาทเซียวจนแทบจะบ้าอยู่แล้ว!"มีคนร้องขึ้นมา "ใช่ๆๆ พวกเราเองก็เคยได้ยินมา""ข้ายังเห็นว่านางไปอ้อนวอนรัฐทายาทเซียวด้วยซ้ำ บอกว่าขอแค่รัฐทายาทเซียวยอมรับนางเป็นภรรยา จะเงื่อนไขอะไรนางก็ยอมรับทั้งสิ้น! แล้วยังบอกว่าหลังจากเป็นภรรยาแล้ว นางจะคอยยกชายกน้ำ คอยนวดขาทุบขา คอยปอกเปลือกองุ่น คอยป้อนข้าวป้อนน้ำให้ถึงมุมปากของเขาเลยด้วย"มีคนหลบอยู่ในกลุ่มร้องออกมาฟู่จาวหนิงรู้สึกว่ามือของตนเองถูกบีบแรงขึ้นแรงมือของเซียวหลันยวนแทบจะบีบมือของนา
เซียวหลันยวนขมวดคิ้ว หญิงสาวคนนี้โผล่ออกมาจากที่ไหนกัน?ที่นี่มีเรื่องเกี่ยวกับนางด้วยหรือ?"แต่ว่าท่านก็อย่าเห็นว่าแปลกเลยอ๋องเจวี้ยน ถ้าหากอ๋องเจวี้ยนนัดข้าออกไปเที่ยวเล่นในภูเขา ข้า ข้าจะทำตัวตามประเพณีอย่างแน่นอน ข้ากับอ๋องเจวี้ยนจะพูดคุยกันแต่เรื่องกลอนเรื่องภาพ จะไม่พูดคุยอะไรที่ไม่งามแม้แต่น้อย"หลินหว่านซินตอนนี้เสียใจจนจะบ้าอยู่แล้ว นางยังคิดว่าตนเองยังสามารถเป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยนได้ คิดไม่ถึงว่าอ๋องเจวี้ยนแม้จะสนใจต่อตัวนาง แต่ตำแหน่งพระชายาอ๋องเจวี้ยนกลับมีคนนั่งอยู่แล้วหรือว่าอ๋องเจวี้ยนคิดจะให้นางเป็นพระชายารองกัน?ถ้าหากจะให้นางไปเป็นพระชายารอง เช่นนั้นนางก็ต้องเห็นเขาปลดหน้ากากลงก่อนจึงจะรับปากได้ถึงอย่างไร พระชายารองอ๋องเจวี้ยน ตัวตนฐานะก็ยังสูงกว่าภรรยาหลวงของเหล่าขุนนางใหญ่เสียอีกนางแต่ก็ยังรู้สึกทั้งดิ่งทั้งเสียใจ"อื๋อ?"เซียวหลันยวนไม่เข้าใจว่านางกำลังพูดอะไร เขาทำไมต้องนัดนางออกไปเที่ยวด้วย?"ข้าไปพูดเมื่อไรกันว่าจะนัดเจ้าออกไปเที่ยว?"หลินหว่านซินน้ำตาไหลพูดกับเขาอย่างเสียใจ "อ๋องเจวี้ยนอยากจะกลับเมืองหรือว่าอยากจะไปฟังดนตรีที่ไหนหรือ? หรือว่าจะนั่ง
พวกลิ่วล่อข้างกายโหวอาวุโสน้อยอี้หลายคนนั้นก็ล้วนเดินเข้าไปหาเขา ดูกังวลเล็กน้อย"โหวอาวุโสน้อย แล้วตอนนี้ทำอย่างไรดี?""โหวอาวุโสน้อย แผนการของพวกเรายังทำต่อไหม?"โหวอาวุโสน้อยอี้กัดฟัน"ขอแค่อันชิงยังไม่เข้าไปในจวนอ๋องเจวี้ยน ข้าจะแตะต้องนางก็ไม่ต้องกลัวอ๋องเจวี้ยนหรอก" ถึงตอนนั้นไปโวยวายต่อหน้าองค์จักรพรรดิฮองเฮา ข้าเชื่อว่าองค์จักรพรรดิไม่มีทางช่วยอ๋องเจวี้ยน"ไปหาอันชิง"เขาก็แค่จัดการเรื่องให้เสร็จสิ้นก่อนที่อันชิงจะพบกับอ๋องเจวี้ยน อันชิงก็เป็นของเขาแล้ว หนีไปไหนไม่รอดหรอกถึงตอนนั้นอ๋องเจวี้ยนยังกล้ามาแย่งก็คงไม่สำเร็จแล้วกระมัง?ฟู่จาวหนิงถูกเซียวหลันยวนดึงไปอยู่ในมุมลับตาคนเซียวหลันยวนถึงได้ปล่อยมือนางออก"เซียวหลันยวนท่านบ้าหรือเปล่า?" ฟู่จาวหนิงมองข้อมือขาวของตนเองถูกเขาจับจนแดงเป็นวง ก็อดถลึงตามองเขาไม่ได้ นวดนวดข้อมือขึ้นมานี่คิดจะบิดแขนของนางให้หลุดเลยหรือไร?"ข้าไม่รู้จริงๆ ว่าเรื่องที่เจ้าไล่ตามรัฐทายาทเซียวจะมีคนรู้กันมากมายขนาดนี้"เซียวหลันยวนพอคิดถึงคำพูดคนเหล่านั้นเมื่อครู่ ก็รู้สึกว่าในใจมีไฟโกรธพุ่งขึ้นไปถึงบนหัว"เจ้าเพื่อที่จะให้เซียวเหยียนจิ่ง
เซียวหลันยวนกับชิงอีรีบจากออกไปฟู่จาวหนิงมองแผ่นหลังพวกเขา ชั่วขณะหนึ่งยังไม่แน่ใจว่าตนเองมีความรู้สึกอะไร"คุณหนู""จาวหนิง!"นางงงงัน รอจนฟางซือฉิงกับเสี่ยวเถาเข้ามา พอได้ยินเสียงของพวกนางจึงได้สติกลับมาเสี่ยวเถามองนาง สายตามองหาไปรอบๆ "คุณหนู ท่านอาเขยล่ะ?""อาเขย? เขยอะไร?!"ฟู่จาวหนิงร้องเชอะอาเขยอะไร เพื่อผู้หญิงคนอื่นก็ร้อนรนจนหน้าเสีย ครั้งนี้คงได้เจอคนในดวงใจเขาแล้วสินะฟางซือฉิงกลับมองไม่ออกเลยว่าอารมณ์นางไม่ถูกต้อง เข้ามาคล้องแขนนาง เอ่ยขึ้นอย่างดีใจ "จาวหนิง ดีเหลือเกิน ที่เจ้าไม่ได้แต่งงานกับรัฐทายาทเซียว ข้าดีใจแทนเจ้าจริงๆ!"นางก่อนหน้านี้ก็รู้สึกว่าเซียวหลันยวนไม่ดีนัก ที่ปล่อยให้ฟู่จาวหนิงเอาแต่ไล่ตาม แล้วยังพูดคำจาทำร้ายจิตใจไม่น้อยอีกด้วยถ้าหากบอกมาว่าไม่อยากแต่งงานกับจาวหนิง เช่นนั้นก็บอกถอนหมั้นมาเลยสิ เดิมทีพวกเขาเองก็มีการหมั้นหมายอยู่แล้วแต่ว่ารัฐทายาทเซียวก็ไม่ยอมบอกถอนหมั้นมาโดยตลอด จนทำให้ฟู่จาวหนิงทำได้แค่คอยตื๊อให้เขาแต่งงานด้วย นางเป็นคู่หมั้นของรัฐทายาทเซียว ไม่มีทางไปไล่ตามตื้อคนอื่นให้แต่งกับนางหรอก"ยิ่งไปกว่านั้นอ๋องเจวี้ยนก็เก่งกาจม
นางจะลงไปขวางพวกนางก่อนที่พวกนางจะลงจากเขาและก็ตามคาด ระหว่างที่ฟู่จาวลงจากเขา ก็เจอเข้ากับรถม้าของฟู่เป่าเจินกับฟู่เจียวเจียวพอเห็นรถม้าตระกูลฟู่ ฟู่จาวหนิงก็มายืนอยู่กลางถนนคนขับรถพอเห็นคนยืนอยู่ตรงกลาง ก็รีบร้อนร้องขึ้น "รีบหลีกทาง หลีกทาง!"ฟู่จาวหนิงไม่ขยับเขยื้อนรถม้าพอมาถึงหน้านางก็ทำได้แค่หยุดรถเท่านั้นฟู่เจียวเจียวกับฟู่เป่าเจินในรถม้าจึงเลิกม่านแล้วตะโกนด่าออกมาก่อน"ใครน่ะ? มาขวางรถม้าพวกข้า จาวหนิง?"พวกนางตอนที่เห็นฟู่จาวหนิงก็สีหน้าเปลี่ยน"จะรีบหนีไปไหน?" ฟู่จาวหนิงพูดแล้วเดินตรงเข้ามา แตะมือแล้วกระโจนขึ้นรถม้า มุดเข้ามาในตัวรถ"เจ้า เจ้าเจ้าเจ้าขึ้นมาทำอะไรกัน"ฟู่เป่าเจินพูดพลางยื่นมาผลักนางลงไปฟู่จาวหนิงคว้าข้อมือของนางไว้ บิดมือของนาง ฟู่เป่าเจินร้องแหลมขึ้นมา"เจ็บๆๆ! เจ้าปล่อยนะ! ฟู่จาวหนิงเจ้าเป็นบ้าไปแล้ว!"ฟู่เจียวเจียวถลึงตาโตมองนางฟู่จาวหนิงแบบนี้ราวกับเป็นคนละคนไป"ข้าบ้าหรือ? ข้าจะบ้าหรือไม่บ้า ก็ต้องดูว่าพวกเจ้าจะซื่อตรงหรือไม่"ฟู่จาวหนิงสะบัดมือฟู่เป่าเจิน นั่งอยู่ที่นั่นพิจารณารถม้าคันนี้ บนรถม้ายังใส่ของไว้ไม่น้อยด้วย ดูท่าครั้งน
ความรู้สึกสัมผัสที่คมมีดนำมา ทำให้ใจฟู่เป่าเจินสั่นระริกนางมองสายตาฟู่จาวหนิงไม่เคยเห็นฟู่จาวหนิงที่สายตานิ่งขรึมและมั่นคงเช่นนี้มาก่อนเลย ฟู่จาวหนิงก่อนหน้านี้เป็นคนที่รังเกียจและเห็นพวกเขาเป็นศัตรู แต่เพราะอยากจะเข้าให้ได้กับเหล่าพี่สาวน้องสาวอย่างพวกนาง ดังนั้นสายตาของนางจึงมักจะมีความไม่ยินยอมอยู่บ้างท่าทางเหมือนหญิงสาวที่แข็งขืนดื้อรั้นแตกต่างกับตอนนี้อย่างสิ้นเชิงตอนนี้ความรู้สึกที่สายตาของฟู่จาวหนิงมีให้นาง ก็คือว่านางจะออกแรงกรีดใบหน้าของตนเองจริงๆ นางกล้าจริงๆ"เจ้าอยากจะลองทนดูก็ได้ ลองดูว่าข้าจะกล้าทำจริงไหม""แม่นางสี่ แม่นางหก"คนขับรถที่อยู่ด้านนอกเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะทำอย่างไร"ท่านลุง ท่านอย่าเข้ามานะ แล้วก็ไม่ต้องเลิกม่านรถด้วย ไม่เช่นนั้นจะไม่ใช่แค่การเล่นกันระหว่างพี่น้องแล้ว"คำพูดของฟู่จาวหนิงทำเอาเขาทำอะไรไม่ถูก ไม่กล้าเลิกผ้าม่านดูว่าพวกนางทำอะไรกันเมื่อครู่ฟู่จาวหนิงยืนอยู่ที่กลางถนน มองเห็นรถม้าพุ่งเข้ามาแต่ก็ไม่หลบเลี่ยง ภาพฟู่จาวหนิงที่สงบนิ่งนั้นทำเอาเขาตกใจ"จาวหนิง มีอะไรก็พูดกันดีดีไม่ได้หรือ?"ฟู่เจียวเจียวหดอยู่ในมุมหนึ่ง แต่ชายกร
เป็นอย่างที่พวกเขาคาดเดาไว้ จวนชินอ๋องเซียวตอนนี้คึกคักน่าดูจวนอ๋องแขวนโคมไฟขาวแล้ว เหมือนกำลังจะจัดงานศพแต่ว่า หมอเทวดาหลี่กำลังด่าทอสาดเสียเทเสียอยู่ที่หน้าประตูจวนอ๋องด่าชินอ๋องเซียว แล้วยังด่าเซียวเหยียนจิ่งด้วย"เซียวเหยียนจิ่งเจ้าคนสารเลว! เจ้าเดรัจฉานไร้น้ำใจ! พ่อเจ้าตายไปยังไม่ทันได้ฝัง เจ้าก็ดันไม่ต้องการภรรยาเสียอย่างนั้น!""ลูกสาวข้าป่วยจากจวนชินอ๋องของพวกเจ้า จวนอ๋องของพวกเจ้ามันสกปรกเลวทราม เจ้าพวกหญิงสาวเหล่านั้นของเจ้าไปพูดเรื่อยเปื่อยกับลูกสาวข้า จนนางเข้าไปเอาของในห้องพ่อเจ้าแล้วติดโรคระบาดมา! พ่อสารเลวของเจ้า ต้องไปมั่วข้างนอกมาแน่ ตัวเองถึงได้ป่วยโรคสกปรกแบบนั้น พอเขาป่วย พวกเจ้าก็ไม่เอาสิ่งของไปเผาทิ้ง แต่ยังเก็บไว้ในบ้านเพื่อทำร้ายคนอื่น!""ลูกสาวข้าเป็นคนบริสุทธิ์ไร้เดียงสา สมองไม่ได้คิดเคี้ยวอะไร นางจึงรังแกง่าย แต่เพราะตามืดบอด เลยถูกวพวกเจ้าทำร้ายเอา แล้วยังถูกถพวกเจ้าสาดน้ำสกปรกใส่อีก!""เดิมทีเรื่องเหล่านั้นเกี่ยวอะไรกับนางกัน? เป็นเพราะเป็นความผิดของจวนชินอ๋องเซียวของพวกเจ้า! เซียวเหยียนจิ่งจ้าสารเลว หลอกหใ้ข้าพาจื่อเหยากลับบ้าน บอกว่ให้ข้าได้รักษา
ฟู่จาวหนิงตบหัวเขา "ครั้งนี้ที่ข้าเพราะมีเรื่องจะพูดกับพวกท่าน"นางหยิบขวดยาใบหนึ่งออกมา "นี่คือยาลูกกลอนที่ข้าสกัดขึ้นมาให้ พวกท่านเก็บเอาไว้"นางบอกกับเขาเรื่องของต้วนฉวิน บอกเรื่องโรคนั้นที่ชินอ๋องเซียวป่วย"่ต้วนฉวิน ตอนที่ข้าเพิ่งกลับเมืองหลวงเขาก็เข้ามารอบหนึ่ง ต่อมาก็ไม่เข้ามาอีกเลย แต่เมื่อวานนี้เขาส่งจดหมายมาฉบับหนึ่ง เชิญข้าไปดื่มสุรา ข้าไม่ได้รับปากไป"ฟู่จิ้นเชินคิดๆ เอ่ยต่อว่า "ต้วนฉวินคนนี้ พวกเราไม่ได้มีความสัมพันธ์ด้วย แต่ว่า ตอนนั้นพวกเรากว่าจะออกไปจากเมืองหลวงได้ ตอนที่มึนงงไม่รู้จะไปไหนอยู่บนถนนทางการก็เจอเข้ากับเขา เขาให้กระเป๋าผ้าเก่าๆ เรามาสองใบ"ตอนนั้นที่ออกจากคุกมา แล้วยังมุดอยู่ในถังของคนเทขยะอีก ดังนั้นพวกเขาจึงตัวสกปรกมาก เสื้อผ้าเหม็นไปหมดต้วนฉวินเองก็ไม่กล้าช่วยพวกเขา กระทั่งไม่พูดกับพวกเขา โยนถุงผ้าลงมาจากรถม้า ด้านในมีเสื้อผ้าใหม่อยู่สองชุดดังนั้น นี่ถือเป็นการส่งฟืนให้กลางหิมะกระมัง"ข้าจำเขาได้แล้ว" เสิ่นเชี่ยวเอ่ยขึ้นมาคำหนึ่ง"เขาป่วยด้วยหรือ?" ฟู่จิ้นเชินถามฟู่จาวหนิง"เปล่า แค่เขากลัวตัวเองตาย ดังนั้นจึงกังวลอยู่ตลอด ข้าให้คนคอยจับตาดูไ
"จาวหนิง? เจ้าทำไมถึงกลับมาตอนนี้?" ฟู่จิ้นเชินมองนางอย่างประหลาดใจ จากนั้นจึงเห็นเซียวหลันยวนเดินตามเข้ามา"เมื่อครู่ไปทำธุระที่พันธมิตรโอสถมา"และก่อนที่นางจะถาม ตอนที่เซียวหลันยวนเดินเข้ามาช้ากว่าก้าวหนึ่ง ก็มีองครักษ์ลับรีบเข้ามารายงานกับเขาแล้วหลี่จื่อเหยาหกล้มตายอยู่ในบ้านคิดไม่ถึงว่าพอเข้าประตูมาก็จะได้ยินประโยคนี้"กำลังพูดถึงหลี่จื่อเหยาหรือ?" เขาถามขึ้นฟู่จิ้นเชินไม่แปลกใจที่เขาจะรู้ อ๋องเจวี้ยนน่าจะมีเส้นทางข่าวของเขาอยู่"ใช่ พวกเราเองก็เพิ่งได้ข่าว หลี่จื่อเหยาหกล้มจนตายในบ้าน"ฟู่จาวหนิงตกตะลึงนิ่งไปแล้ว"อะไรนะ? หกล้มจนตายหรือ?"ไม่ใช่ว่าชินอ๋องเซียวตายไปแล้วหรือไรกัน?หลี่จื่อเหยาถูกส่งกลับจวนตระกูลหลี่ างยังคิดยอู่ว่าสองวันนี้จะเข้าไปหาข่าวว่าหมอเทวดาหลี่จะรักษาอาการป่วยนางได้ไหม แต่นี่คือหลี่จื่อเหยาตายไปแล้วหรือ?ฟู่จาวหนิงจู่ๆ ก็รู้สึกเหมือนฝันไป"ทำไมถึงหกล้มแล้วตายล่ะ?" ฟู่จาวหนิงหาเสียงตัวเองกลับมาได้ จึงถามไปอีกคำหนึ่ง"พวกเจ้ารู้เรื่องที่เซียวเหยียนจิ่งเขียนจดหมายหย่ากับนางไหม?""จดหมายหย่า?"ฟู่จาวหนิงกับเซียวหลันยวนสบตากันผาดหนึ่งเรื่องนี
"พระชายารัฐทายาท! รัฐทายาทเขียนหนังสือจะหย่ากับท่านแล้ว ท่านถูกหย่าร้างแล้ว! ข้ากับเสี่ยวเหมยเป็นคนของจวนชินอ๋องเซียว พวกเราต้องรีบกลับไปแล้วสินะ?"สาวใช้อีกคนก็ถลึงตาโต "จริงหรือ?""จริงสิ! นี่หมอเทวดาหลี่พูดออกมาจากปากเลยนะ""เช่นนั้นพวกเราก็ต้องรีบกลับจวนชินอ๋องแล้วสิ!"สาวใช้สองคนนั้นไม่มองหลี่จื่อเหยาด้วยซ้ำ รีบเก็บของเตรียมจะหนีแล้วพวกเขาอยู่ที่นี่กลัวติดโรคก็เรื่องหนึ่ง หลักๆ คือหลี่จื่อเหยาปรนนบัติยากเสียเหลือเกิน! ถ้ายังอยู่ต่อไป พวกเนางไม่ทันได้ติดโรคก็อาจจะถูกทรมานจนตายไปก่อนแล้วจนตอนที่พวกหนีไป หลี่จื่อเหยาก็ยังไม่ทันได้ตั้งตัวนางคิดอยู่ตลอด ว่าเมื่อครู่นางได้ยินอะไร?บอกว่าเซียวเหยียนจิ่งเขียนจดหมายหย่ากับนางหรือ? ไม่หรอก? เป็นไปไม่ได้หรอก?"ท่านพ่อ"หลังจากตั้งตัวได้หลี่จื่อเหยาก็ร้องเสียงแหลมขึ้นมาหมอเทวดาหลี่ยังคิดว่านางเกิดเรื่องอะไรขึ้น ปิดปากลากขากะเผลกเข้ามา หลี่จื่อเหยาคิดจะหนีออกไป แต่ว่านางนอนอยู่บนเตียงนานเกินไป จู่ๆ พอหนีไปแบบนี้ เท้าซ้ายสะดุดกับเท้าขวาพอเห็นท่าทางการเคลื่อนไหวของนางผิดปกติ หมอเทวดาหลี่ก็รู้สึกไม่ค่อยดี จึงตะโกนขึ้นมา "อย่าวิ่ง
"นายท่าน ที่ประตูไม่รู้ทำไมจึงมีนักดนตรีมาร้องเพลงอยู่กลุ่มหนึ่ง..."ผู้ดูแลหน้าดำกลับมารายงานสถานการณ์กับหมอเทวดาหลี่ แต่ว่าเขาพูดไม่ออกว่าพวกเขาร้องเพลงอะไร เพียงแต่เมื่อครู่ที่เปิดประตูใหญ่ ยังไม่ทันได้ปิด ลมด้านนอกก็พัดเข้ามา นำเสียงเพลงที่เด็กสาวร้องเข้ามาด้วยนั่งอยู่ที่โถงหน้านี้ หมอเทวดาหลี่ก็ยังได้ยินประโยคครึ่งประโยคนั่น"วันดีอะไรกัน?" เขาถามขึ้นอย่างงงงันไม่ทันที่ผู้ดูแลจะตอบ เขาก็รู้สึกว่าตนเองต้องออกไปดูเสียหน่อย เพราะเมื่อครู่โดนผลกระทบไปรุนแรงมาก เขายังไม่รู้ว่าควรจะไปบอกอย่างไรกับลูกสาว ถึงเรื่องที่นางถูกเซียวเหยียนจิ่งขอหย่าสมองนี่ยังตื้ออยู่ จึงคิดจะออกไปขยับเนื้อขยับตัวเสียหน่อย ออกไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น"นายท่าน..."ผู้ดูแลคิดจะห้ามเขา แต่ก็ห้ามไม่อยู่ คิดๆ แล้วจึงทำได้แค่เดินตามออกไปเขาไม่รู้เลยว่านายท่านหลังจากออกไป ถ้าได้ยินเนื้อร้องของอีกฝ่ายแล้วจะโมโหจนตายเลยไหม"ออกมาแล้ว ออกมาแล้ว ร้องให้ถึงใจอีกหน่อย!"เฉินซานพอเห็นหมอเทวดาหลี่ ก็รีบเตือนเสียงกระซิบกับแม่นางน้อยทันที "หัวเราะ หัวเราะให้มันเบิกบานไปเลย"แม่นางน้อยก็ระเบิดเสียงหัวเราะร่าออกมาทันที
ฟู่จิ้นเชินหัวเราะขึ้นมา จากนั้นจึงกวักมือเรียกเฉินซาน กำชับกับเขาสองสามคำเฉินซานหลังจากฟังแล้วดวงตาก็เปล่งประกาย พยักหน้าออกไปจัดการผู้เฒ่าฟู่มองลูกชาย จากนั้นก็มองหลานชาย แล้วก็มองไปยังภรรยาลูกชายที่ไม่มีความเห็นอะไร ถามขึ้นมาว่า "จิ้นเชินเอ๋ย เจ้าให้เฉินซานไปทำอะไรล่ะนั่น?""ท่านพ่อ ไม่ใช่ว่าต้องฉลองหรือ? ก็แค่ไปเตรียมการฉลองน่ะ" ฟู่จิ้นเชินตอบผู้เฒ่าฟู่ชะงักไปครู่หนึ่ง จึงเอ่ยต่อว่า "การถูกหย่าร้างสำหรับหญิงสาวแล้ว เป็นเรื่องที่น่าเวทนามากนะ พวกเราไปทับถมคนอื่นแบบนี้ มันดูไม่ค่อยดีหรือเปล่า?"เขาคิดว่าทำเรื่องแบบนี้แล้วจะดูโหดเหี้ยมเกินไป"ท่านพ่อ ข้าได้ยินเสี่ยวเฟยบอกว่า หลี่จื่อเหยาคนนี้ วันที่จาวหนิงของพวกเราแต่งงาน เข้ามาขวางเกี้ยวเจ้าสาวของนาง คิดจะดึงนางในเกี้ยวออกมาแล้วยังรังแกนางอีกนะ" เสิ่นเชี่ยวเอ่ยปากขึ้นบ้างแล้วหลังจากที่นางกลับเมืองหลวงก็หาคนไปสอบถามเรื่องวันนั้นอย่างละเอียดคนที่บอกกับนางมากที่สุดคือเซี่ยซื่อเซี่ยซื่อตอนนั้นแม้จะไม่อยู่ในเหตุการณ์ แต่หลังจากเกิดเรื่อง นางก็ได้ยินคนไม่น้อยพูดกัน ยิ่งไปกว่านั้น นางยังไปถามคนที่เห็นมากับตาอีกด้วยเสียงของเ
หลังจากทั้งสองคนถอยออกมา ก็นึกออกขึ้นพร้อมกัน ว่าชินอ๋องเซียวตายแล้ว และตรงหน้าคนนี้ ก็ถูกชินอ๋องเซียวระบาดมาใส่!นั่นก็เท่ากับว่า นางอาจจะตายเร็วๆ นี้หรือ?นี่มันเป็นโรคที่พรากชีวิตไปได้รวดเร็วเหลือเกิน!พวกเขาตัวสั่นพังพาบ!หลี่จื่อเหยามองสายตาตกตะลึงพรั่นพรึงของพวกเขา ก็มีปฏิกิริยาขึ้นมาเช่นกัน และพอตอบสนองขึ้นมา นางก็รู้สึกเหมือนตัวเองจะระเบิดออก"พูดอะไรน่ะ? พูดอะไรกันแน่? พ่อสามีของข้าตายได้อย่างไรกัน?" เสียงของนางสั่นพร่าขึ้นมา"ป่วยขอรับ ป่วยตายขอรับ ไม่ได้ถูกลอบสังหาร..." เสียงของผู้ดูแลก็สั่นพร่าขึ้นมาหลี่จื่อเหยาหน้ามืด สลบลงไป"เหยาเอ๋อร์" หมอเทวดาหลี่ตกใจสะดุ้งโหยง"ตึง!"ไม่มีคนเข้าไปประคองหลี่จื่อเหยา นางจึงล้มลงไปกับพื้นทั้งอย่างนั้นดูแล้วแสนเวทนา แต่หมอเทวดาหลี่ก็ไม่กล้าเข้าไปประคองนางจริงๆเขาดีดตัวร้องเรียกขึ้นมา "ใครก็ได้ ใครก้ได้!"สาวใช้ตัวสั่นพังพาบวิ่งเข้ามา พวกนางปรนนิบัติหลี่จื่อเหยามาหลายวันแล้ว ไม่มีทางเลือก จึงทำได้แค่ไปประคองหลี่จื่อเหยาส่งกลับไปที่เตียง"เร็ว ไปถามรัฐทายาทเซียวให้ชัดเจน" หมอเทวดาหลี่เอ่ยขึ้นและตอนที่คนของเขาส่งไปหาข่าวยั
หลี่จื่อเหยาถือว่าเป็น "คู่มือ" กับฟู่จาวหนิงมาหลายปีแล้ว คนที่นางกับฟู่จาวหนิงแย่งกันมาหลายปีก็คือเซียวเหยียนจิ่งตอนนี้นางคือภรรยาของเซียวเหยียนจิ่ง ฟู่จาวหนิงเป็นแค่คนที่ถูกถอนหมั้นวันนั้น แล้วไม่มีทางเลือกจึงหันไปแต่งงานกับอ๋องเจวี้ยน จึงไม่ควรมีชีวิตดีกว่านาง"อ๋องเจวี้ยนเป็นคนที่อยู่ได้ไม่กี่ปีแล้วแท้ๆ แล้วนางก็จะเป็นม่ายเร็วขึ้น! ถึงอย่างไร ข้าก็ยังดีกว่านาง!"หลี่จื่อเหยาร้องเสียงแหลม "ท่านพ่อ ท่านต้องรักษาข้าให้ได้ ท่านจะให้ข้ากินยาตอนไหน? หน้าของข้าจะต้องดีขึ้น ไม่ ท่านต้องช่วยข้าทำยาบำรุงผิว ข้าจะสวยขึ้น ข้าจะออกไปหาฟู่จาวหนิง ข้าจะไปดูหน้าอ๋องเจวี้ยนให้ชัดๆ!""เจ้าสงบลงหน่อยเถอะ ตอนนี้ข้ายังไม่รู้เลยว่าเจ้าป่วยเป็นอะไรกันแน่ แล้วจะไปหายามาจากไหน!"หมอเทวดาหลี่ได้ยินนางร้องเสียงดังขนาดนี้ ก็รู้สึกปวดหัวหน่อยๆ"ท่านยังไม่ได้เข้ามาจับชีพจรให้ข้าเลย! ไม่ใช้ต้องมาดูฟังสอบถามจับชีพจรใกล้ๆ หรือ? ท่านพ่อ ท่านเอาแต่ยืนอยู่ด้านนอก แค่เข้ามาดูข้าสักหน่อยก็ไม่มี แล้วท่านจะทำยาอะไรออกมาได้กัน?"หลี่จื่อเหยาพูดประโยคหนึ่งสะกิดเข้ากลางใจ "ท่านพ่อ หรือว่าท่านจะกลัว? ขนาดท่านยังกลัวว
เขามองนาง ราวกับมองคนโง่คนหนึ่ง"เหยาเอ๋อร์ ตอนนี้เจ้ายังคิดจะชิงดีชิงเด่นกับฟู่จาวหนิงอยู่อีกหรือ?""อะไรคือข้าไปชิงดีชิงเด่นกับนางกัน? เดิมทีข้าก็เก่งกว่านางอยู่แล้ว คู่หมั้นของนางข้าบอกจะแย่งก็แย่งมาได้ นางไล่ตามเซียวเหยียนจิ่ง อ้อนวอนอยู่หลายปี ผลลัพธ์ก็ยังแพ้ให้ข้านี่?""นางไม่ต้องการเซียวเหยียนจิ่งตั้งนานแล้ว ตอนนี้นางเป็นถึงพระชายาอ๋องเจวี้ยน อ๋องเจวี้ยนปฏิบัติกับนางราวกับจันทร์ส่องแสง!""แล้วมันทำไมกัน? ท่านพ่อ ท่านออกจากบ้านไปตั้งนาน ยังไม่ได้ยินข่าวหรือ? ครึ่งปีก่อน มีคนเห็นใบหน้าของอ่องเจวี้ยน หน้ากากของเขาถูกกระชากออก เผยให้เห็นใบหน้าแท้จริง น่ากลัวขนาดไหนท่านรู้ไหม?"หลี่จื่อเหยาถูกขังอยู่ในเรือนหลังไม่ได้รับข่าวอะไรมาตลอด ข่าวจึงล่าช้าไปตั้งไม่รู้นานเท่าไรแล้วแต่ว่าพูดถึงเรื่องนี้ก็ยังขึ้นมาก็ค่อนข้างจะตื่นเต้นอยู่ "ท่านพ่อ ท่านยังไม่รู้กระมัง? คนในเมืองหลวงล้วนกำลังพูดกันว่า อ๋องเจวี้ยนมีหน้าเหมือนผีเลย! แล้วยังมีเด็กเ,้กตั้งหลายคนพอได้ยินชื่อของเขาก็ตกใจจนร้องไห้จ้า! เขาตอนนี้ออกจากบ้านก็ยังต้องใส่นห้ากากอยู่ใช่ไหมล่ะ? ท่านคิดว่า ฟู่จาวหนิงจะชอบเขาได้หรือ?""นาง