ยิ่งไปกว่านั้น ยังคิดว่าเขาอายุยังไม่ถึงสามสิบก็คงตายไปแล้วด้วย แม้ตอนนี้อ๋องเจวี้ยนจะเพิ่งยี่สิบต้นๆ แต่ดูจากที่อายุน่าจะสั้น ใครก็ล้วนจำเขาไม่ได้ตอนนี้เขากลับปรากฎตัวออกมาแล้ว!ยิ่งไปกว่านั้นยังออกไปล่าสัตว์ด้วย นี่อธิบายว่าร่างกายเขาไม่มีปัญหาแล้วใช่ไหม?หรือว่าอ๋องเจวี้ยนรักษาตัวดีแล้ว จึงกลับมาเมืองหลวงเพื่อแบ่งสิทธิ์อำนาจหรือ?หากอ๋องเจวี้ยนคิดจะชุบเลี้ยงขั้วอำนาจของตนเองขึ้นมาบ้าง สถานการณ์ในเมืองคงถูกทำลายลงแน่ พวกเหล่านี้คงต้องดูแล้วว่าจะยืนอยู่ฝ่ายไหนจ้าวเฉินกับโหวอาวุโสอี้น้อยเดิมทีก็ถือเป็นคนที่อยู่ในกลุ่มศูนย์กลางอำนาจด้วย แน่นอนว่าคนมากมายรู้จุดนี้"คารวะอ๋องเจวี้ยน"จ้าวเฉินกับโหวอาวุโสน้อยในใจไม่ค่อยยินดีนัก แต่ตอนนี้ทำได้เพียงก้มหัวให้อ๋องเจวี้ยนไปก่อนพวกของลู่ทงก็ถลึงตาโตฮ่าๆๆ!อย่างนี้นี่เองหรือ? จู่ๆ ในใจก็รู้สึกดีสุดๆ ขึ้นมาเลยไหม?ที่แท้อ๋องเจวี้ยนพอปรากฎตัวก็สะกดจ้าวเฉินกับโหวอาวุโสน้อยอี้ได้เลยหรือ? แล้วพวกเขาจะต้องกลัวอะไรกันอีก อ๋องเจวี้ยนอยู่ฝ่ายลูกพี่หนิงของพวกเขานะ!"เจ้งหยาง อ๋องเจวี้ยน"ลู่ทงกำลังสะกินเจิ้งหยางจะพูดกับเขา แต่เสียงของเจียง
ตบฉาดครั้งนี้ ทำเอาคนทั้งหมดในลานใจสั่นระรัวคนที่อยู่ใกล้หน่อยกระทั่งลมหายใจยังตึงเครียดขึ้นมา ไม่กล้าจะหายใจเฮือกใหญ่นายท่านจ้าวขุนนางผู้บัญชาการที่ได้รับการเชื่อใจจากองค์จักรพรรดิ ตอนนี้เองก็กำลังมีชื่อเสียง บางครั้งกระทั่งเครือพระญาติบางส่วนก็ยังต้องยอมให้เขาดังนั้นจ้าวหรูจึงกำเริบเสิบสานในเมืองหลวงมาแต่ไหนแต่ไร ไม่มีใครกล้าไปหาเรื่องด้วยลูกขุนนางที่มีความสัมพันธ์อันดีกับเหล่าองค์หญิงอย่างหลินหวานซิน ก็ยังต้องเกรงอกเกรงใจกับนาง ต่อให้ทั้งสองคนไม่สนิทกันนัก เที่ยวเล่นด้วยกัน แต่ถ้าจุดที่ต้องให้หน้าแก่นางก็คือต้องให้ทว่าตอนนี้จ้าวหรูกลับถูกทหารคนหนึ่งตบฉาดเข้าที่หน้า!จ้าวหรูสมองมึนงงไปหมด ทั่วร่างทั้งเจ็บทั้งชา ยืนอยู่ที่นั่นสงสัยต่อชีวิตคนขึ้นมานางไม่เชื่อ ไม่อยากจะเชื่อมีคนกล้าตบหน้านาง!จ้าวเฉินเองก็หน้าเปลี่ยนสี กำหมัดแน่นเขาเองก็พยายามควบคุมตนเองถึงไม่ได้เหวี่ยงหมัดเข้าใส่ชิงอี นี่คอือ๋องเจวี้ยน ลูกมือของอ๋องเจวี้ยน!ก่อนหน้านี้อ๋องเจวี้ยนทำตัวเงียบเชียบจนไม่มีใครสัมผัสถึงตัวตนได้มาโดยตลอด ครั้งนี้กลับทำให้พวกเขาสลักลึกความจำลงไปลึกสุด"อ๋องเจวี้ยนลงมือกับแม่
ยิ่งไปกว่านั้นการยอมรับตัวตนฐานะของนางต่อหน้าคนมากมายเช่นนี้ ก็ดูไม่เหมือนตัวนางนักเซียวหลันยวนจับมือนาง มองไปทางจ้าวหรู "พระชายาของข้า ไม่นับเป็นคนของราชวงศ์หรือ?"ทำไมจะไม่นับกันล่ะ?จ้าวหรูแค่ไม่อยากเชื่อเท่านั้น"ท่านไม่ได้จำคนผิดหรือ?" นางไม่อยากจะเชื่อจริงๆ เรื่องทำไมจึงไร้สาระเช่นนี้ "ท่านรุ้ไหม หลายปีมานี้นางวันวันเอาแต่หัวหันอยู่กับรัฐทายาทเซียว นางเอาแต่อยากจะแต่งงานกับรัฐทายาทเซียว ยิ่งไปกว่านั้นยังไปอ้อนวอนองค์จักรพรรดิเสียด้วยซ้ำ!"นางมองไปยังคนรอบๆ "ถ้าไม่เชื่อก็ลองถามพวกเขา คนทั้งหมดที่นี่ล้วนรู้กัน ฟู่จาวหนิงอยากจะแต่งงานกับรัฐทายาทเซียวจนแทบจะบ้าอยู่แล้ว!"มีคนร้องขึ้นมา "ใช่ๆๆ พวกเราเองก็เคยได้ยินมา""ข้ายังเห็นว่านางไปอ้อนวอนรัฐทายาทเซียวด้วยซ้ำ บอกว่าขอแค่รัฐทายาทเซียวยอมรับนางเป็นภรรยา จะเงื่อนไขอะไรนางก็ยอมรับทั้งสิ้น! แล้วยังบอกว่าหลังจากเป็นภรรยาแล้ว นางจะคอยยกชายกน้ำ คอยนวดขาทุบขา คอยปอกเปลือกองุ่น คอยป้อนข้าวป้อนน้ำให้ถึงมุมปากของเขาเลยด้วย"มีคนหลบอยู่ในกลุ่มร้องออกมาฟู่จาวหนิงรู้สึกว่ามือของตนเองถูกบีบแรงขึ้นแรงมือของเซียวหลันยวนแทบจะบีบมือของนา
เซียวหลันยวนขมวดคิ้ว หญิงสาวคนนี้โผล่ออกมาจากที่ไหนกัน?ที่นี่มีเรื่องเกี่ยวกับนางด้วยหรือ?"แต่ว่าท่านก็อย่าเห็นว่าแปลกเลยอ๋องเจวี้ยน ถ้าหากอ๋องเจวี้ยนนัดข้าออกไปเที่ยวเล่นในภูเขา ข้า ข้าจะทำตัวตามประเพณีอย่างแน่นอน ข้ากับอ๋องเจวี้ยนจะพูดคุยกันแต่เรื่องกลอนเรื่องภาพ จะไม่พูดคุยอะไรที่ไม่งามแม้แต่น้อย"หลินหว่านซินตอนนี้เสียใจจนจะบ้าอยู่แล้ว นางยังคิดว่าตนเองยังสามารถเป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยนได้ คิดไม่ถึงว่าอ๋องเจวี้ยนแม้จะสนใจต่อตัวนาง แต่ตำแหน่งพระชายาอ๋องเจวี้ยนกลับมีคนนั่งอยู่แล้วหรือว่าอ๋องเจวี้ยนคิดจะให้นางเป็นพระชายารองกัน?ถ้าหากจะให้นางไปเป็นพระชายารอง เช่นนั้นนางก็ต้องเห็นเขาปลดหน้ากากลงก่อนจึงจะรับปากได้ถึงอย่างไร พระชายารองอ๋องเจวี้ยน ตัวตนฐานะก็ยังสูงกว่าภรรยาหลวงของเหล่าขุนนางใหญ่เสียอีกนางแต่ก็ยังรู้สึกทั้งดิ่งทั้งเสียใจ"อื๋อ?"เซียวหลันยวนไม่เข้าใจว่านางกำลังพูดอะไร เขาทำไมต้องนัดนางออกไปเที่ยวด้วย?"ข้าไปพูดเมื่อไรกันว่าจะนัดเจ้าออกไปเที่ยว?"หลินหว่านซินน้ำตาไหลพูดกับเขาอย่างเสียใจ "อ๋องเจวี้ยนอยากจะกลับเมืองหรือว่าอยากจะไปฟังดนตรีที่ไหนหรือ? หรือว่าจะนั่ง
พวกลิ่วล่อข้างกายโหวอาวุโสน้อยอี้หลายคนนั้นก็ล้วนเดินเข้าไปหาเขา ดูกังวลเล็กน้อย"โหวอาวุโสน้อย แล้วตอนนี้ทำอย่างไรดี?""โหวอาวุโสน้อย แผนการของพวกเรายังทำต่อไหม?"โหวอาวุโสน้อยอี้กัดฟัน"ขอแค่อันชิงยังไม่เข้าไปในจวนอ๋องเจวี้ยน ข้าจะแตะต้องนางก็ไม่ต้องกลัวอ๋องเจวี้ยนหรอก" ถึงตอนนั้นไปโวยวายต่อหน้าองค์จักรพรรดิฮองเฮา ข้าเชื่อว่าองค์จักรพรรดิไม่มีทางช่วยอ๋องเจวี้ยน"ไปหาอันชิง"เขาก็แค่จัดการเรื่องให้เสร็จสิ้นก่อนที่อันชิงจะพบกับอ๋องเจวี้ยน อันชิงก็เป็นของเขาแล้ว หนีไปไหนไม่รอดหรอกถึงตอนนั้นอ๋องเจวี้ยนยังกล้ามาแย่งก็คงไม่สำเร็จแล้วกระมัง?ฟู่จาวหนิงถูกเซียวหลันยวนดึงไปอยู่ในมุมลับตาคนเซียวหลันยวนถึงได้ปล่อยมือนางออก"เซียวหลันยวนท่านบ้าหรือเปล่า?" ฟู่จาวหนิงมองข้อมือขาวของตนเองถูกเขาจับจนแดงเป็นวง ก็อดถลึงตามองเขาไม่ได้ นวดนวดข้อมือขึ้นมานี่คิดจะบิดแขนของนางให้หลุดเลยหรือไร?"ข้าไม่รู้จริงๆ ว่าเรื่องที่เจ้าไล่ตามรัฐทายาทเซียวจะมีคนรู้กันมากมายขนาดนี้"เซียวหลันยวนพอคิดถึงคำพูดคนเหล่านั้นเมื่อครู่ ก็รู้สึกว่าในใจมีไฟโกรธพุ่งขึ้นไปถึงบนหัว"เจ้าเพื่อที่จะให้เซียวเหยียนจิ่ง
เซียวหลันยวนกับชิงอีรีบจากออกไปฟู่จาวหนิงมองแผ่นหลังพวกเขา ชั่วขณะหนึ่งยังไม่แน่ใจว่าตนเองมีความรู้สึกอะไร"คุณหนู""จาวหนิง!"นางงงงัน รอจนฟางซือฉิงกับเสี่ยวเถาเข้ามา พอได้ยินเสียงของพวกนางจึงได้สติกลับมาเสี่ยวเถามองนาง สายตามองหาไปรอบๆ "คุณหนู ท่านอาเขยล่ะ?""อาเขย? เขยอะไร?!"ฟู่จาวหนิงร้องเชอะอาเขยอะไร เพื่อผู้หญิงคนอื่นก็ร้อนรนจนหน้าเสีย ครั้งนี้คงได้เจอคนในดวงใจเขาแล้วสินะฟางซือฉิงกลับมองไม่ออกเลยว่าอารมณ์นางไม่ถูกต้อง เข้ามาคล้องแขนนาง เอ่ยขึ้นอย่างดีใจ "จาวหนิง ดีเหลือเกิน ที่เจ้าไม่ได้แต่งงานกับรัฐทายาทเซียว ข้าดีใจแทนเจ้าจริงๆ!"นางก่อนหน้านี้ก็รู้สึกว่าเซียวหลันยวนไม่ดีนัก ที่ปล่อยให้ฟู่จาวหนิงเอาแต่ไล่ตาม แล้วยังพูดคำจาทำร้ายจิตใจไม่น้อยอีกด้วยถ้าหากบอกมาว่าไม่อยากแต่งงานกับจาวหนิง เช่นนั้นก็บอกถอนหมั้นมาเลยสิ เดิมทีพวกเขาเองก็มีการหมั้นหมายอยู่แล้วแต่ว่ารัฐทายาทเซียวก็ไม่ยอมบอกถอนหมั้นมาโดยตลอด จนทำให้ฟู่จาวหนิงทำได้แค่คอยตื๊อให้เขาแต่งงานด้วย นางเป็นคู่หมั้นของรัฐทายาทเซียว ไม่มีทางไปไล่ตามตื้อคนอื่นให้แต่งกับนางหรอก"ยิ่งไปกว่านั้นอ๋องเจวี้ยนก็เก่งกาจม
นางจะลงไปขวางพวกนางก่อนที่พวกนางจะลงจากเขาและก็ตามคาด ระหว่างที่ฟู่จาวลงจากเขา ก็เจอเข้ากับรถม้าของฟู่เป่าเจินกับฟู่เจียวเจียวพอเห็นรถม้าตระกูลฟู่ ฟู่จาวหนิงก็มายืนอยู่กลางถนนคนขับรถพอเห็นคนยืนอยู่ตรงกลาง ก็รีบร้อนร้องขึ้น "รีบหลีกทาง หลีกทาง!"ฟู่จาวหนิงไม่ขยับเขยื้อนรถม้าพอมาถึงหน้านางก็ทำได้แค่หยุดรถเท่านั้นฟู่เจียวเจียวกับฟู่เป่าเจินในรถม้าจึงเลิกม่านแล้วตะโกนด่าออกมาก่อน"ใครน่ะ? มาขวางรถม้าพวกข้า จาวหนิง?"พวกนางตอนที่เห็นฟู่จาวหนิงก็สีหน้าเปลี่ยน"จะรีบหนีไปไหน?" ฟู่จาวหนิงพูดแล้วเดินตรงเข้ามา แตะมือแล้วกระโจนขึ้นรถม้า มุดเข้ามาในตัวรถ"เจ้า เจ้าเจ้าเจ้าขึ้นมาทำอะไรกัน"ฟู่เป่าเจินพูดพลางยื่นมาผลักนางลงไปฟู่จาวหนิงคว้าข้อมือของนางไว้ บิดมือของนาง ฟู่เป่าเจินร้องแหลมขึ้นมา"เจ็บๆๆ! เจ้าปล่อยนะ! ฟู่จาวหนิงเจ้าเป็นบ้าไปแล้ว!"ฟู่เจียวเจียวถลึงตาโตมองนางฟู่จาวหนิงแบบนี้ราวกับเป็นคนละคนไป"ข้าบ้าหรือ? ข้าจะบ้าหรือไม่บ้า ก็ต้องดูว่าพวกเจ้าจะซื่อตรงหรือไม่"ฟู่จาวหนิงสะบัดมือฟู่เป่าเจิน นั่งอยู่ที่นั่นพิจารณารถม้าคันนี้ บนรถม้ายังใส่ของไว้ไม่น้อยด้วย ดูท่าครั้งน
ความรู้สึกสัมผัสที่คมมีดนำมา ทำให้ใจฟู่เป่าเจินสั่นระริกนางมองสายตาฟู่จาวหนิงไม่เคยเห็นฟู่จาวหนิงที่สายตานิ่งขรึมและมั่นคงเช่นนี้มาก่อนเลย ฟู่จาวหนิงก่อนหน้านี้เป็นคนที่รังเกียจและเห็นพวกเขาเป็นศัตรู แต่เพราะอยากจะเข้าให้ได้กับเหล่าพี่สาวน้องสาวอย่างพวกนาง ดังนั้นสายตาของนางจึงมักจะมีความไม่ยินยอมอยู่บ้างท่าทางเหมือนหญิงสาวที่แข็งขืนดื้อรั้นแตกต่างกับตอนนี้อย่างสิ้นเชิงตอนนี้ความรู้สึกที่สายตาของฟู่จาวหนิงมีให้นาง ก็คือว่านางจะออกแรงกรีดใบหน้าของตนเองจริงๆ นางกล้าจริงๆ"เจ้าอยากจะลองทนดูก็ได้ ลองดูว่าข้าจะกล้าทำจริงไหม""แม่นางสี่ แม่นางหก"คนขับรถที่อยู่ด้านนอกเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะทำอย่างไร"ท่านลุง ท่านอย่าเข้ามานะ แล้วก็ไม่ต้องเลิกม่านรถด้วย ไม่เช่นนั้นจะไม่ใช่แค่การเล่นกันระหว่างพี่น้องแล้ว"คำพูดของฟู่จาวหนิงทำเอาเขาทำอะไรไม่ถูก ไม่กล้าเลิกผ้าม่านดูว่าพวกนางทำอะไรกันเมื่อครู่ฟู่จาวหนิงยืนอยู่ที่กลางถนน มองเห็นรถม้าพุ่งเข้ามาแต่ก็ไม่หลบเลี่ยง ภาพฟู่จาวหนิงที่สงบนิ่งนั้นทำเอาเขาตกใจ"จาวหนิง มีอะไรก็พูดกันดีดีไม่ได้หรือ?"ฟู่เจียวเจียวหดอยู่ในมุมหนึ่ง แต่ชายกร