Share

บทที่ 1848

Author: จุ้ยหลิงซู
แต่ว่าเซียวหลันยวนตอนนี้ได้เปรียบกว่า ไม่รีบร้อน

เขาไม่กลัวหยวนอี้ตายที่นี่

จุดนี้ หยวนอี้เองก็สังเกตได้ เขารู้สึกว่าเซียวหลันยวนไม่กลัวที่จะต้องรับผิดชอบกับความสัมพันธ์ร้าวฉานของสองแคว้น

หรือว่าอ๋องเจวี้ยนไม่คิดจะนั่งตำแหน่งจักรพรรดิจริงๆ?

ไม่เช่นนั้น เขาก็ไม่ควรจะไม่ใส่ใจเลยแบบนี้

"คุณชายหยวนเองก็ค่อยๆ พิจารณาไป ข้าไม่รีบ"

ถึงอย่างไรตอนที่พิจารณาเสร็จแล้ว ถ้าตอบกลับมาได้น่าพอใจถึงจะได้ออกจากเมืองเจ้อ

หยวนอี้เดิมทีคิดจะยกเหตุผลที่ดูดีมาสักสองสามข้อ แต่เขาก็รู้สึกว่า ถ้าหากตนเองแต่งขึ้นมาเรื่อยเปื่อย เป็นไปได้มากว่าจะไม่มีโอกาสได้ออกไป

อ๋องเจวี้ยนคงจะให้โอกาสเขาแค่ครั้งเดียว ไม่มีทางให้โอกาสที่สอง

ดังนั้นเขาจึงขยับปาก ไม่ได้พูดออกมาพล่อยๆ

"ข้าจะลองคิดดู"

"ตามสะดวก"

เพียงแต่ หยวนอี้ยังไม่ทันได้คิดถึงครึ่งวัน ก็มีข่าวส่งเข้ามาอีก มีผู้ประสบภัยที่ติดโรคระบาดก่อจราจลที่ประตูเมือง คิดจะบุกออกไปจากเมืองเจ้อ

พอเรื่องออกมา ทั่วเมืองก็ตึงเครียด บรรยายกาศตึงขึ้นในพริบตา ราวกับมีลมคลั่งฝนซัดเข้ากระหน่ำ

ทหารทางการล้วนไปต่อต้านผู้ประสบภัยเหล่านั้นจนหมด และยังมีบางส่วนที่ถูกส่งไปอยู่ยั
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1849

    มีคนซ่อนอยู่ในกลุ่มยุยงความคิดแย่ๆ ออกมา!เหล่าข้าราชการร้องรีบร้องขึ้นมา "ใต้เท้ามาหรือยัง? ไปเชิญอ๋องเจวี้ยน! ไปเชิญพระชายา!"พวกเขาเองก็ลนลานขึ้นมาแล้วและผู้ประสบภัยพวกนั้นมีคนหัวร้อนแล้ว พอได้ยินคำยุยง ก็ถ่มน้ำลายใส่เหล่าทหารทางการจริงๆกระทั่งยังมีคนเตรียมก้มหน้าจะกัดคนหลังถูกขวางเอาไว้ด้วย"อ๊า!"มีทหารทางการถูกกัดที่มือ เจ็บจนร้องลั่นขึ้นมา เสียงร้องดูสิ้นหวัง เพราะรู้สึกว่าตนเองต้องถูกระบาดใส่ไปแล้ว"บุกเลย พวกเขาขวางเราไม่ได้หรอก!"ทหารทางการถอยร่นกลับมา กำลังจะถูกพวกเขาบุกมาถึงประตูเมืองแล้วสถานการณ์คับขันขีดสุด ตอนนี้เอง เงาร่างหนึ่งก็พุ่งมาราวกับคันศร ร่อนลงตรงหน้าทหารทางการสองคนที่กำลังจะถูกกัดเสียงตูมดังขึ้น กระแสอากาศสั่นสะเทือน พัดผู้ประสบภัยที่หลั่งไหลเข้ามาจนปลิวออกไปชั่วขณะหนึ่งก็เห็นผู้ประสบภัยเหล่านั้นปลิวไปเหมือนเกี้ยวถูกขว้างทิ้ง ทยอยกันร่วงกระจายไปรอบๆ"ตุบๆๆ" เสียงดังขึ้นต่อเนื่อง เป็นเสียงผู้ประสบภัยเหล่านั้นร่วงลงมาบนพื้น จากนั้นก็เป็นเสียงร้องระงมทั้งหมดนี้เข้ามาอย่างรวดเร็ว เร็วจนคนที่ถูกซัดออกไปตั้งตัวกันไม่ทัน หลังจากร่วงลงมาก็เจ็บปวดขึ้

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1850

    อ๋องเจวี้ยนเซียวหลันยวนอยุ่ในชุดคลุมม่วง เข็มขัดสีดำ กวานหยกม่วง หน้ากากเย็นชาสีเงิน ยืนอยู่ตรงนั้นราวกับเทพสงครามคนมากมายงงงันขึ้นมา พวกเขาต้องเข้าใจผิดแน่ อ๋องเจวี้ยนเป็นแค่ท่านอ๋องอ่อนแอที่พักฟื้นมาหลายปีนี่นาได้ยินว่ามีวรยุทธ์ แต่เขาฝึกยุทธ์ก็เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง ก่อนหน้านี้ที่สะเทือนพวกเขาเป็นแค่กลยุทธ์นี่ แล้วทำไมถึงได้แกร่งปานนี้?ตอนนี้คนที่บุกมาประตูเมือง ส่วนใหญ่ยังไม่เคยเห็นวิชาของอ๋องเจวี้ยนเมื่อครั้งที่แล้วกับตา ดังนั้นพวกเขาจะอย่างไรก็ไม่เชื่อ ว่าอ๋องเจวี้ยนป่วยมาตั้งแต่ในครรภ์ที่เขาลือกัน กลับจะเป็นยอดฝีมือวรยุทธ์สุดยอดคนนึงแต่ความจริงก็วางอยู่ตรงหน้าแล้วมีคนได้สติกลับมา ร้องลั่นขึ้นว่า "ไม่ต้องกลัวเขา เขาเป็นแค่อ๋องยังกล้าสังหารประชาชนที่น่าสงสารอย่างเราไหม? ถ้าเขากล้า พวกเราก็จะสู้ตายกับเขาแล้ว! ถึงอย่างไรเขาก็อยู่เมืองเจ้อนี้มานาน คงจะติดโรคนั่นไปนานแล้ว องค์จักรพรรดเองก็ไม่ช่วยเขา""จะให้อ๋องเจวี้ยนทำให้เราตกใจจนถอยไม่ได้! สู้ตายพวกเรายังมีโอกาส! ถ้าไม่สู้พวกเราก็มีแต่ทางตาย!""หลังจากออกไปพวกเราจะไปหาหมอเทวดาที่สมาคมหมอใหญ่ พวกเขามีคนตั้งเยอะรักษาได้แน่

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1851

    เซียวหลันยวนกุมมือฟู่จาวหนิงแน่น ออกแรงบีบเล็กน้อยนางเองก็กุมเขากลับ สองสามีภรรยาเหมือนกำลังให้กำลังและปลอบประโลมกันและกันอยู่"ทหาร ชักกระบี่"เสียงเซียวหลันยวนลอดออกมาอย่างเย็น่ชา พวกองครักษ์อย่างชิงอีจัดขบวนขึ้นหน้าทันที เสียงชักกระบี่ยาวดังชิ้งขึ้นมาพร้อมกันท่วงท่าพลังขององครักษ์สิบกว่าคนที่กุมกระบี่ยาวพร้อมกันทำคนตกตะลึงมาก สำหรับผู้ประสบภัยเหล่านี้ถือเป็นความพรั่นพรึงอย่างหนึ่งโดยเฉพาะก่อนหน้านี้ที่เซียวหลันยวนพอโผล่มาก็กระแทกคนลอยออกไปตั้งขนาดนั้นตอนนี้พอมองไป กระบี่ยาวเหล่านั้นก็มีประกายเย็นเยียบ ยะเยือกจนเหมือนจิตสังหาร"ตอนนี้ใครยังคิดจะออกจากเมือง ก็ลุกขึ้นมาเลย"เสียงเซียวหลันยวนดังขึ้นอีกครั้ง พวกเขาไม่ทันได้คิดว่าหมายถึงอะไร เขาก็เอ่ยต่อมาว่า "ใครที่อยากออกจากเมือง ต้องตาย องครักษ์เหล่านี้ของข้า จะสังหารพวกก่อจราจลจนหมดได้แน่นอน ต่อให้พวกเจ้าจะเข้ามาพร้อมกัน"พริบตาเมื่อครู่ ยังมีผู้ประสบภัยบางส่วนที่ได้ยินประโยคนหน้าก็ลิงโลดขึ้นมา คิดว่าอ๋องเจวี้ยนจะปล่อยพวกเขาออกไปจริงๆ แต่คิดไม่ถึงว่าพอจะมาได้ยินประโยคที่เย็นชาด้านหลังต่อมาทันทีคิดจะปล่อยพวกเขาออกไปที่ไห

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1852

    ตอนที่ผู้ประสบภัยเหล่านั้นบุกเข้ามาเมื่อครู่ พวกเขาเองก็เกือบจะทนไม่ไหวชักดาบออกไปแล้ว แต่ก็อดทนไว้อยู่วินัยของพวกเขาทำให้พวกเขาไม่กล้าง้างกระบี่ใส่ประชาชนความน้อยใจและเสียใจในใจไม่รู้จะพรรณนาอย่างไร แต่ตอนนี้มีอ๋องเจวี้ยนที่เอาใจใส่พวกเขา มีพระชายาคอยรับประกันสุขภาพพวกเขาพวกเขาเดิมทีควรปกป้องอ๋องเจวี้ยนกับพระชายา แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นถูกพวกเขาปกป้องซะแล้ว"ขอบคุณท่านอ๋องพระชายา!"เหล่าทหารทางการขานออกมาเสียงดัง"พวกเจ้าล้วนเป็นลูกผู้ชายที่ยอดเยี่ยมซื่อสัตย์ต่อหน้าที่!" เซียวหลันยวนหันกลับมามองพวกเขา "ตบรางวัล!""ขอบคุณท่านอ๋อง!!"หลังจากที่ไฟในใจเหล่าผู้ประสบภัยถูกข่มลงมา ตอนนี้ไม่เหลือความกล้าอีกแล้ว พวกเขาตอนนี้อยากจะถอยหนีกันพวกเขายังคิดว่าถอยกลับไปก็น่าจะพอ พวกเขาแค่ไม่ก่อเรื่องก็จะไม่เป็นไร เรื่องสงบลง ดังนั้นจึงมีคนถามขึ้นว่า"ท่านอ๋อง พวกเราออกไปไม่ได้ แล้วต้องถูกขังอยู่ที่นี่รอฝ่าบาทส่งคนเข้ามาช่วยหรือ? ฝ่าบาทถ้าไม่ส่งคนเข้ามา หรือไม่คิดจะปล่อยพวกเราออกไปแล้วจริงๆ อย่างนั้นพวกเราจะทำอย่างไรกัน?""ใช่เลยใช่เลย พวกเราเชื่อฟังไม่ก่อเรื่องได้ แต่ก็ต้องมีคำอธิบายให้พ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1853

    เมืองเจ้อตอนนี้ เข้าได้เท่านั้นออกไม่ได้การจำกัดนี้ส่งผลกระทบไปถึงการเดินทางของข่าวสารพวกเขาเซียวหลันยวนมีคนพอ และยังมีม้าชั้นยอด องครักษ์ลับก็ฝีมือดี ข่าวสารของพขาจึงรวดเร็วฉับไวที่สุด"องค์จักรพรรดิรู้เรื่องเมืองเจ้อแล้วจริงๆ แต่ไม่ได้ส่งคนเข้ามา คนพวกนั้นในราชสำนักเจ้ายังไม่รู้จักหรือ? พวกเขาถ้ารู้ว่าที่นี่มีโรคระบาดรุนแรง ใครจะกล้ารับงานมาทำกัน?"เซียวหลันยวนประชดประชัน ก่อนหน้านี้เรื่องชินอ๋องเซียว ก็ทำให้พวกเขาผวาไปพักหนึ่งแล้วตอนนี้ที่นี่ใช่แค่ระบาดกับ "ชินอ๋องเซียว" กับ "อ๋องเจวี้ยน" เสียที่ไหน ยังมีคนตั้งมากมาย พวกเขาจะกล้ามากันรึ?"เช่นนั้นหรืออาจจะไม่แย่ขนาดนั้นสินะ?" ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวยังรู้สึกคาดหวังเมืองหนึ่งเมือง ประชาชนมากขนาดนี้ คงไม่ทอดทิ้งไปแบบนี้หรอกกระมัง?"เจ้าต้องเตรียมตัวทนต่อไปอีกระยะหนึ่ง"เซียวหลันยวนไม่ได้บอกกับเขาชัดเจนนัก แต่เขาไม่ได้คาดหวังอะไรกับจักรพรรดิ กระทั่งยังรู้สึกว่าจักรพรรดิน่าจะยิ่งเลอะเลือนกว่าแต่ก่อนเสียอีกทูตแคว้นหมิ่นยังไม่รู้ว่าช่วงนี้คอยเอาใจอะไรเขา แล้วก็ญังมีหมอหญิงสองคนที่รับเข้าไปวังหลังนั่นอีกล่ะ...รวมถึงพระชายาเย

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1854

    เซียวหลันยวนหลังจากได้ยินเด็กสองคนพูดเรื่องนี้ จู่ๆ ก็รู้สึกว่าฟู่จาวหนิงยิ่งเปล่งประกายขึ้นเรื่อยๆ แล้วที่นี่ คนป่วยมากมายลืมตัวตนพระชายาอ๋องเจวี้ยนของนางไปแล้ว จำได้แค่ว่านางคือหมอฟู่ดังนั้นพวกเขาจึงกล้าพูดแบบนี้ มีความคิดแบบนี้กับนางขึ้นมาถ้าหากนางเป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยน ประชาชนทั่วไปจะกล้าพูดแบบนี้รึ?ดังนั้น สิ่งที่นางมีอยู่ที่นี่มากกว่าสิ่งใดคือความเป็นกันเอง และยังมีบุคลิกที่ทำให้ประชาชนชื่นชอบด้วยเซียวหลันยวนจู่ๆ ก็เข้าใจเรื่องนี้ขึ้นมาอย่างชัดเจน ถ้าหากไม่มีเขา ต่อให้ไม่ต้องเป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยน ฟู่จาวหนิงก็ยังคงมีชีวิตที่ดีได้ กระทั่งมีวิะีที่จะเปล่งประกายด้วยตนเองอีกเหมือนว่านางตอนนี้ นางอาจจะไม่มีเขาก็ได้ แต่เขากลับยิ่งถูกนางดึงดูดมากขึ้นเรื่อยๆ"พี่ชายเจ้าเป็นใครกัน หน้าตาหล่อไหม?" เซียวหลันยวนถามเด็กทั้งสองคน"ใช่สิ พี่ชายข้าหน้าตาดีมาก แม่นางตั้งมากมายในเมืองเจ้ออยากได้เขา" เด็กสองคนร้องขึ้นอย่างภูมิใจเซียวหลันยวนเหลือบมองบ้านหลังนี้ที่นี่ก็ใหญ่กว่าบ้านที่อยู่รอบๆ จริงๆ ดูโอ่อ่าอยู่เด็กสองคนปีนบันไดขึ้นมาเกาะกำแพง เสื้อผ้าพวกเขาเองก็ไม่เลวนัก ดูเหมือนจ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1855

    อย่าว่าแต่เขาเลย ขนาดฟู่จาวหนิงเองก็ยังรู้สึกประหลาดใจชายหนุ่มแบบนี้ ถ้านางเคยรักษาไปจริงต้องจำได้แน่ แต่นางกลับนึกไม่ออกเลย"ท่านยังสงสัยข้าหรือ?" นางหันหน้าไปมองเซียวหลันยวน"ไม่ใช่สงสัย..."เซียวหลันยวนเองก็ไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้ของตนเองควรจะเรียกว่าอย่างไรชายหนุ่มคนนั้นรีบเดินมาตรงหน้าม้าพวกเขาเขาคารวะให้ ไม่เย่อหยิ่งไม่ถ่อมตน กล่าวคำขอโทษขึ้นมาก่อน"คารวะท่านอ๋อง พระชายา ข้าน้อยถังสืออวิ้น เมื่อครู่เด็กทั้งสองคนเป็นหลานข้า คนเล็กจะซนหน่อย พูดจาไม่ประสีประสา ขออ๋องเจวี้ยนพระชายาให้อภัยด้วย""ถังสืออวิ้น?"เซียวหลันยวนย้ำชื่อเขามาอีกครั้ง ดูคุ้นๆ หูชอบกล"เจ้าเคยมารักษาที่โรงหมอหรือ?" ฟู่จาวหนิงเองก็คุ้นๆ ชื่อนี้ แต่กลับจำไม่ได้ถังสืออวิ้นพยักหน้า "ตอนนั้นในบ้านไฟไหม้ ควันดำขโมงไปหมด ใบหน้าข้ามีแต่เขม่า เกรงว่าคงจะมองไม่ออก ดังนั้นพระชายาจึงจำไม่ได้"พอได้ยินเขาบอกแบบนี้ ฟู่จาวหนิงก็เหมือนจะนึกออกแล้วนางเอ่ยขึ้นอย่างเข้าใน "ที่แท้ก็เจ้านี่เอง""อื๋อ?" เซียวหลันยวนโน้มตัวไปข้างหน้า เอาคางพาดไว้บนบ่านาง ท่าทางดูเฉื่อยๆ ชาๆแต่อันที่จริงก็หึงอยู่หน่อยๆก่อนหน้านี้ฟ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1856

    เพราะอายุถังสืออวิ้นใกล้เคียงกับเซียวหลันยวน เซียวหลันยวนตอนนั้นก็ให้ความสนใจเขาอยู่ แต่ก็ไม่ได้เจอตัว ดังนั้นเมื่อครู่พอได้ยินชื่อจึงรู้สึกคุ้นๆ"นั่นเป็นชื่อเสียงจอมปลอมเมื่อนานมาแล้ว คิดไม่ถึงว่าท่านอ๋องจะจำได้ด้วย" ถังสืออวิ้นคารวะให้อีกครั้ง"เจ้าไม่เข้าร่วมสอบเคอจวี่มาตลอด" เซียวหลันยวนถาม "หรือว่าไม่เคยขึ้นกระดานมาตลอดกัน?"บางทีมีชื่อเสียงตอนอายุยังน้อย พอเติบโตความสามารถกลับลดต่ำลง กระทั่งการสอบขั้นต้นก็ยังไม่ผ่าน?""ข้าน้อยไม่ได้เข้าร่วมขอรับ""โอ๋? ทำไมกัน?" เซียวหลันยวนรู้สึกอยากรู้ขึ้นมา"เรื่องนี้..."ถังสืออวิ้นดูลำบากใจขึ้นมา ดูเหมือนจะบอกเหตุผลออกมาลำบากเซียวหลันยวนเองก็ไม่คิดจะจี้ต่อ จึงเปลี่ยนหัวข้อสนทนา หันไปพูดถึงเรื่องที่เด็กสองคนก่อนหน้านั้นพูดมา"ข้าได้ยินว่า เจ้ารู้สึกว่าพระชายาควรแต่งกับเจ้าหรือ?""แค่กๆๆ!"ถังสืออวิ้นสำลักขึ้นมา หูแดงกว่าเดิม เลิกเสื้อคลุมคุกเข่าลงทันทีเพียงแต่คุกเข่าก็ส่วนหนึ่ง แต่หลังกับแอวเขายังยืดตรง เป็นท่าทางที่ดูทั้งแข็งแกร่งและอ่อนแออยู่ด้วยกัน"ท่านอ๋องระงับโกรธด้วย! ข้าน้อยแม้จะไม่ได้พูดเช่นนี้ แต่ก็เคยเอ่ยชมพระชายา ถ

Latest chapter

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1872

    "หมอฟู่ออกมาก่อน ขุนพลโจวของพวกเรามีคำถาม! ทำให้การรักษาผู้ป่วยล่าช้า หมอฟู่แบกรับความรับผิดชอบนี้ไม่ไหวหรอกนะ!"ขุนพลน้อยคนนั้นยังคงตะโกนปาวๆ อยู่ใต้หอเมืองสีหน้าเซียวหลันยวนถมึงทึงไปแล้ว ถ้าไม่ใช่มีหน้ากากบังอยู่ หน้าของเขาตอนนี้คงจะดำยิ่งกว่าท้องฟ้าราตรีเสียอีกฟู่จิ้นเชินเองก็โกรธเหมือนกันเขายืนอยู่ข้างๆ เซียวหลันยวน คิดจะเตือนเขาว่าอย่าออกไปรับมือกับดจวติ้งเจินด้วยตนเอง แต่คิดไม่ถึงเลย ว่าโจวติ้งเจินจะมีความคิดไปอยู่บนตัวจาวหนิง!ตอนนี้ฟู่จาวหนิงถ้าออกไป โจวติ้งเจินจะปล่อยนางกลับมาได้อย่างไร?พวกเขาคิดแผนของโจวติ้งเจินออกแทบจะทันที"เขาคิดจะควบคุมฟู่จาวหนิงไว้ แล้วเอาจาวหนิงมาคุกคามเจ้า" ฟู่จิ้นเชินทั้งเคืองทั้งโกรธ"ฝันไปเถอะ"เซียวหลันยวนกระโจนลงมาจากหอเมืองราวกับเหยี่ยวโฉบขุนพลน้อยคนนั้นรู้สึกเหมือนมีพลังวูบหนึ่ง เงยหน้าขึ้นอย่างหวาดผวา ยังไม่ทันได้เห็นชัดว่าเป็นใคร ก็ได้ยินเสียงดังพลั่ก ส่วนตนเองถูกเตะลอยออกไปแล้วการลอยนี้ ปลิวไปไกลมาก เหมือนกับลอยตามลม หล่นกระแทกพื้นห่างไปลิบๆจุดที่ตกอยู่ใกล้กับโจวติ้งเจินและเซียวหลันยวนหลังจากถีบคนออกไปแล้ว ก็ร่อนลงมาบนหลั

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1871

    "วัตถุดิบยาในการรักษาไม่พอ แต่วัตุดิบยาที่เอาไว้ล้มคน ข้ายังมีอยู่ หลังสกัดให้บริสุทธิ์แล้ว แค่กำมือเดียวก็ล้มคนเป็นร้อยได้"ฟู่จาวหนิงเตรียมทำเรื่องนี้ไว้แล้ว ถ้าหากโจวติ้งเจินจะทำตัวโหดร้ายจริง เช่นนั้นนางก็ไม่ตะขิดตะขวงใจที่จะมองประสบการณ์ที่จะไม่ลืมไปทั้งชีวิตให้กับเขา!ยาที่สกัดให้บริสุทธิ์ ในคลังสกัดยาของนางมีอยู่"ต่อให้ล้มได้แค่ครึ่งร้อย ก็เพียงพอแล้ว" อันเหนียนในดวงตามีรอยยิ้มใครบอกว่าฟู่จาวหนิงเป็นแต่วิชาแพทย์? ใครบอกว่านางเป็นแค่หมอคนหนึ่ง?ถ้าเป็นแบบนี้ พลังสังหารของนางแค่คนเดียวก็ยิ่งใหญ่มาก"ส่งคนออกไปเตรียม ถ้ามีใครได้ยินข่าวลือ ให้ช่วยปลอบประโลมพวกเขา เมืองเจ้อไม่มีทางส่งพวกเขาออกไป" เซียวหลันยวนเอ่ยกับผู้บริหารท้องถิ่นโหยว"เข้าใจแล้ว ข้าน้อยจะไปทำเดี๋ยวนี้!"ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวมีความมั่นใจขึ้นมากแล้วคุณชายฟู่ดูท้องฟ้าได้ อีกเดี๋ยวฝนจะตก บวกกับพระชายาอ๋องเจวี้ยนคนเดียวก็สามารถตัดกำลังการรบของทหารนับพันได้ ส่วนโจวติ้งเจินที่แข็งแกร่ง ก็ยังมีอ๋องเจวี้ยนคอยรับอยู่ตรงนี้แล้วอ๋องเจวี้ยนเมื่อครู่บอกไว้แล้ว โจวติ้งเจินไม่ใช่คู่มือของเขาจุดนี้ ผู้บริหารท้องถิ่

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1870

    ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวพูดความหมายของโจวติ้งเจินออกมา ฟู่จิ้นเชินก็สูดปาก"เขาคิดจะ..."คิดจะทำอะไรครึ่งหลังไม่พูดออกมา แต่ก็ทำให้ทุกคนฟังเข้าใจฟู่จาวหนิงรู้สึกเหมือนโลกทัศน์ตนเองจะแตกสลายอยู่แล้ว"นั่นมันคนสามพันกว่าคนเลยนะ!"บ้าไปแล้วหรือ?"ก็บ้าไปแล้วจริงๆ เพราะที่นี่ห่างจากเมืองหลวงนิดเดียว แล้วยังมีผู้ประสบภัยมากขนาดนี้ มีปัจจัยไม่ปลอดภัยอยู่มากมาย" อันเหนียนเอ่ยขึ้นถ้าทั้งหมดเป็นประชาชนเมืองเจ้อ ที่นี่ก็ถือว่าเป็นบ้านของพวกเขา ปิดเมืองเอาไว้ ถ้าพวกเขาไม่ออกจากเมืองก็ยังพอว่า แต่ใครให้ตอนนี้เมืองเจ้อรับผู้ประสบภัยนับหมื่นเข้ามากันล่ะ?ถ้าหากปิดเมืองมา ผู้ประสบภัยเหล่านี้จะไม่สงบในจิตใจ พวกเขาไม่มีบ้านอยู่ที่นี่ ถ้าหากไม่มีความรู้สึกร่วมไม่มีอาหาร ควต้องหาวิธีบุกออกจากเมืองแน่ถึงตอนนั้นผู้ประสบภัยที่ป่วยจำนวนมากถ้าทะลักไปทางเมืองหลวง นั่นจะเป็นเรื่องใหญ่ที่เลวร้ายมากฟู่จาวหนิงเองก็คิดถึงจุดนี้ด้วย"รักษาได้แล้ว ข้าเองก็สกัดยาออกมาแล้วด้วย แค่ขอเวลาหน่อยเท่านั้น โรคก็จะรักษาได้"ฟู่จาวหนิงร้อนรนขึ้นมา"จดหมายส่งไปถึงเมืองหลวงแล้ว แต่เกรงว่าจะไม่ทันการ" เซียวหลันยวนคว้

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1869

    ทหารห้าพัน ถ้าล้อมโจมตีเขาคนเดียว แค่ยื้อเวลาเขาก็ตายได้แล้วยิ่งไปกว่านั้น ฟู่จาวหนิงเองก็รู้สึกว่าองค์จักรพรรดิน่าจะใช้โอกาสนี้เอาชีวิตเซียวหลันยวนตอนนี้ถ้าเซียวหลันยวนออกไปคนเดียว ก็จะเข้าทางอีกฝ่ายพอดี"หนิงหนิง เจ้ามาทำไมกัน? กลับไปซะ"เซียวหลันยวนพอเห็นฟู่จาวหนิงเข้ามาก็ร้อนรนขึ้นแล้ว เดิมทีเขายังใจเย็นอยู่ แต่พอเห็นฟู่จาวหนิงยืนอยู่บนหอเมือง เขาก็หน้าเปลี่ยนสี"ตอนนี้สถานการณ์เป็นอย่างไร?"ฟู่จาวหนิงไม่สนใจเขา มองไปที่ใต้หอเมืองโจวติ้งเจินพอเหลือบมองก็เห็นร่างของหญิงสาวคนหนึ่งปรากฏตัวบนหอเมือง เขาหรี่ตาลง "หญิงสาวคนนั้นคือฟู่จาวหนิงพระชายาอ๋องเจวี้ยนหรึอ?"ถ้าจับฟู่จาวหนิงไว้ได้ อ๋องเจวี้ยนจะยอมแพ้หรือเปล่า?ถึงตอนนั้นถ้าล่อเขาไปที่ภูเขา ขณะที่โกลาหล อ๋องเจวี้ยนไม่ระวังสะดุดล้มในกองเพลิง ก็ไม่มีคนช่วยเหลือได้ทัน...ความคิดนี้ก็ไม่เลวอยู่กระมัง?"นั่นน่าจะเป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยน ลือกันว่าพระชายาอ๋องเจวี้ยนกล้าหาญเกินใคร และยังหยิ่งทะนงมากด้วย ใช้วิชาแพทย์อหังการเข้าไปได้ถึงในวัง กระทั่งยังไม่เห็นองค์จักรพรรดิในสายตา หญิงสาวที่ยังกล้าขึ้นมาบนหอเมืองตอนนี้ ต้องเป็นนางแน

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1868

    ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวได้ยินคำพูดอันเหนียน ชั่วขณะหนึ่งก็พูดไม่ออกอันที่จริงในใจเขาชัดเจนดี ต่อให้จะไล่คนป่วยในเมืองเจ้อเหล่านี้ออกไปตายข้างนอก พวกเขาที่อยู่ที่นี่ ก็ไม่มีทางกลับไปเมืองหลวงได้เช่นกันต่อให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ก็ยังต้องให้เมืองเจ้อยังคงอยู่ต่อไปอีกพักหนึ่ง เพื่อยืนยันวาไม่มีโรคระบาดแล้วอันเหนียนอยู่ที่นี่มานาน ต่อให้จะกลับไปได้ องค์จักรพรรดิก็คงหาวิธีไล่เขาออกจากเมืองหลวง แล้วไปหารังที่อื่นให้เขาอยู่จะยอมให้เขาอยู่ในราชสำนักต่อได้อย่างไร? อยู่ใกล้จักรพรรดิขนาดนี้ จักรพรรดิกลัวจะตายพอคิดถึงจุดนี้ ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวก็รู้สึกสิ้นหวังขึ้นมา"ศิษย์พี่คิดหาวิธีดีกว่า คนป่วยสามพันคนนั้น จะต้องส่งออกไปจริงไหม"อันเหนียนเห็นสีหน้าท้อแท้สิ้นหวังของผู้บริหารท้องถิ่นโหยว ก็รู้สึกทนไม่ไหวขึ้นมาแต่พวกเขาก็อยู่ในสถานการณ์นี้ด้วยผู้บริหารท้องถิ่นโหยวกับอันเหนียนหันไปมองเซียวหลันยวนพร้อมกันเซียวหลันยวนมองไปนอกเมืองเงียบๆ โจวติ้งเจินยังคงนั่งอยู่บนหลังม้า มองมาทางนี้อย่างชัดเจนมองกันจากระยะไกล เซียวหลันยวนรู้สึกได้ถึงการประชดประชันของโจวติ้งเจินโจวติ้งเจินเองก็น่าจะก

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1867

    อ๋องเจวี้ยนกับพระชายาอยู่ในเมืองเจ้อกับผู้ป่วยเหล่านี้มานานมาก พวกเขาก็ไม่ต้องหวังว่าจะกลับเมืองหลวงได้เลยองค์จักรพรรดิไม่มีทางให้พวกเขากลับไปอ๋องเจวี้ยนจะถูกขังอยู่ในเมืองเจ้อ ต่อให้ไม่ตายก็ต้องขังเขาไว้ให้ตาย"ท่านขุนพลฉลาดยิ่งนัก""ประจบประแจงน้อยๆ หน่อย ไฟกับน้ำมันทางหุบเขานั่นเตรียมพร้อมแล้วหรือยัง?""เตรียมพร้อมแล้วขอรับ!" ขุนพลน้อยเอ่ยขึ้น มุมปากกระตุกอย่างอดไม่อยู่ พอคิดถึงเรื่องที่จะเกิดหลังจากนี้ เขาก็อดใจสั่นวาบไม่ได้"องค์จักรพรรดิมีราชโองการ ประชาชนที่ติดโรคร้ายพวกนั้นจะปล่อยไว้ไม่ได้ นี่เป็นการคิดเพื่อประชาชนที่มากกว่า เสียสละส่วนน้อยเพื่อปกป้องส่วนมาก นี่จึงจะเป็นจักรพรรดิที่ชาญฉลาด""ขอรับ ฝ่าบาทชาญฉลาดนัก"ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวกลับมาถึงหอเมือง อันเหนียนเองก็เข้ามาแล้ว"โจวติ้งเจินพูดอะไรบ้าง? คงไม่ใช่เรื่องดีแน่สินะ?" อันเหนียนถามผู้บริหารท้องถิ่นโหยวมือสั่นระริก"เขาจะให้ข้าส่งคนป่วยทั้งหมดออกจากเมืองเจ้อ ไปให้เขาจัดการทิ้ง""เขาจะจัดการอย่างไร"ในใจอันเหนียนรู้สึกไม่ค่อยดี ตอนที่เขามาถึงก็เพิ่งได้เห็นบัญชี มีทั้งหมดสามพันหนึ่งร้อยคนคนมากขนาดนี้ จะจั

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1866

    โจวติ้งเจินจ้องมองผู้บริหารท้องถิ่นโหยว สายตากวาดผ่านสือลิ่วสือชีแต่เขาก็ไม่ได้บอกอะไรสือลิ่วสือชี แต่ส่งเสียงเย็นชาออกมาอีก "ผู้บริหารท้องถิ่นโหยว ตอนนี้คนป่วยในเมืองมีเท่าไร? เจ้าในฐานะข้าราชการดูแลเมืองเจ้อ ก็น่าจะมีทำสถิติไว้สิ?"ผู้บริหารท้องถิ่นโหยว ยังคงหวังลมๆ แล้งๆ อยู่ "ตอนนี้ประชาชนกับผู้ประสบภัยที่ติดโรคระบาดมีแค่สามพันคน...""สามพันคน!"โจวติ้งเจินถามต่อ "นอกจากสามพันคนนี้ ประชาชนที่เหลือไม่ได้ติดโรคจริงหรือ?""ถูกตรวจรักษาไปแล้ว และมีการกักตัวแยกออกจากคนอื่นแล้ว แต่ว่าตอนนี้หมอฟู่ค้นคว้า....""เช่นนั้นตอนนี้ข้าจะแจ้งราชโองการของฝ่าบาท ใต้เท้าโหยว ภายในหนึ่งชั่วยาม จงไล่สามพันคนนั้นไปที่หุบเขา!" โจวติ้งเจินตัดบทเขาอีกครั้งผู้บริหารท้องถิ่นโหยวใจสั่นกึก"ขุนพลโจว พวกเขาล้วนป่วยกัน จะไล่ไปที่หุบเขาทำไม? ที่นั่นไม่มีกินมีดื่ม แล้วก็ไม่มียา แล้วยังหนาวเย็นอีก...""นี่ไม่ใช่เรื่องที่ใต้เท้าโหยวต้องมากังวล! ใต้เท้าโหยวจัดการมาเกือบเดือน กลับทำให้คนป่วยมีมากขึ้นเรื่อยๆ คนที่ป่วยตายก็มากขึ้นเรื่อยๆ! เจ้าควรจะคิดได้แล้วว่าจะไปรับโทษกับฝ่าบาทอย่างไร! ตอนนี้เอาสามพันคนนั

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1865

    สายตาเขาแหลมคม แผ่แสงเย็นวาบ ตอนที่มองคนก็ทำให้รู้สึกว่าเขาชักกระบี่ออกมาสังหารได้ตลอดเวลาว่ากันว่าคนมากมายล้วนหวาดกลัวโจวติ้งเจิน ตอนนี้พอเห็นสภาพเขา ก็ดูจะมีพลังที่ทำให้คนหวาดกลัวอยู่จริงๆผู้บริหารท้องถิ่นโหยวเดิมทีไม่ได้กลัวโจวติ้งเจินในอดีตแม้พวกเขาจะไม่ลงรอยกันในราชสำนัก ต่างฝ่ายต่างไม่เห็นด้วยกับอีกฝ่าย แต่ก็ไม่ได้มีผลประโยชน์ที่ขัดแย้งอะไรกัน ถึงอย่างไรคนหนึ่งก็บู๊คนหนึ่งก็บุ๋น ห่างกันพอควรแต่ตอนนี้เบื้องหลังของเขา มีประชาชนและครอบครัวของเมืองเจ้อทั้งเมืองผู้บริหารท้องถิ่นโหยวจึงเกิดความหวาดกลัวขึ้นมาพอควรมีจุดอ่อน ก็จะเกิดความกลัวได้"ขุนพลโจว ท่านนำทหารตั้งมากมายมาเมืองเจ้อด้วยเจตนาอะไร?" ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวเอ่ยถามขึ้นก่อน"องค์จักรพรรดิรู้ว่าประชาชนเมืองเจ้อติดโรคร้าย ระบาดรุนแรง แพร่กระจายทั่วเมือง ไม่มียารักษา"โจวติ้งเจินเสียงกังวาน ฟังแล้วมีการบีบคั้นเขาจ้องผู้บริหารท้องถิ่นโหยว เอ่ยถามต่อว่า "เรื่องนี้ เป็นจริงหรือไม่? ทำไมเจ้าจึงไม่เขียนรายงานองค์จักรพรรดิทันที""ข้าเขียนหนังสือราชการส่งไปวังหลวงแล้วสี่ครั้ง! ตอนนี้ในเมืองหลวงมีคนป่วยจริง แต่ว่า..."

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1864

    อันเหนียนเองก็โกรธจนเส้นเลือดแทบจะแตกเขาคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าองค์จักรพรรดิจะทำแบบนี้!เมืองเจ้อใหญ่ขนาดนี้ คิดจะทอดทิ้งก็ทิ้งเลยรึ!"รีบประคองข้าไปที่หอเมือง" อันเหนียนเองก็ตามไปด้วย เขาจะอยู่แต่ในนี้ไม่ได้เซียวหลันยวนมาถึงบนหอเมืองแล้ว ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวรีบเข้ามารับ "ท่านอ๋อง!""สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง?""ทหารห้าพันนาย! พวกเขาเข็นปืนใหญ่มาด้วย!" ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวโกรธจัดจริงๆเมืองเจ้อส่งส่วยให้ทุกปีไม่เคยขาด ส่งเข้าคลังหลวงตรงเวลามาตลอด ตำแหน่งภูมิศาสตร์นี้ ก็ถือได้ว่าคอยคุ้มกันแทนเมืองหลวงอยู่ ส่งเส้นเลือดชีพจรเข้าไปให้ องค์จักรพรรดิต่อให้ใช้หัวเข่ามาคิด ก็จะทิ้งเมืองเจ้อไม่ได้!ตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้น?เซียวหลันยวนยืนอยู่บนกำแพงเมืองลมพัดหวิว เขามองฝั่งตรงข้ามใต้กำแพงเมือง แม่ทัพที่นั่งอยู่บนหลังม้าอย่างองอาจ"โจวติ้งเจิน"โจวติ้งเจิน เป็นแม่ทัพที่ดุดันคนหนึ่ง แล้วยังเป็นพวกค่อนข้างป่าเถื่อน มนุษยสัมพันธ์ในราชสำนักแย่มาก แต่เพราะเขาจงรักภักดีสุดๆ กับองค์จักรพรรดิ องค์จักรพรรดิมีเจตนาไหน ไม่ว่าจะไร้เหตุผลเพียงใด โจวติ้งเจินก็สามารถทำตามราชโองการได้อย่างเคร่งครัดตรงไ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status