Share

บทที่ 1848

Author: จุ้ยหลิงซู
แต่ว่าเซียวหลันยวนตอนนี้ได้เปรียบกว่า ไม่รีบร้อน

เขาไม่กลัวหยวนอี้ตายที่นี่

จุดนี้ หยวนอี้เองก็สังเกตได้ เขารู้สึกว่าเซียวหลันยวนไม่กลัวที่จะต้องรับผิดชอบกับความสัมพันธ์ร้าวฉานของสองแคว้น

หรือว่าอ๋องเจวี้ยนไม่คิดจะนั่งตำแหน่งจักรพรรดิจริงๆ?

ไม่เช่นนั้น เขาก็ไม่ควรจะไม่ใส่ใจเลยแบบนี้

"คุณชายหยวนเองก็ค่อยๆ พิจารณาไป ข้าไม่รีบ"

ถึงอย่างไรตอนที่พิจารณาเสร็จแล้ว ถ้าตอบกลับมาได้น่าพอใจถึงจะได้ออกจากเมืองเจ้อ

หยวนอี้เดิมทีคิดจะยกเหตุผลที่ดูดีมาสักสองสามข้อ แต่เขาก็รู้สึกว่า ถ้าหากตนเองแต่งขึ้นมาเรื่อยเปื่อย เป็นไปได้มากว่าจะไม่มีโอกาสได้ออกไป

อ๋องเจวี้ยนคงจะให้โอกาสเขาแค่ครั้งเดียว ไม่มีทางให้โอกาสที่สอง

ดังนั้นเขาจึงขยับปาก ไม่ได้พูดออกมาพล่อยๆ

"ข้าจะลองคิดดู"

"ตามสะดวก"

เพียงแต่ หยวนอี้ยังไม่ทันได้คิดถึงครึ่งวัน ก็มีข่าวส่งเข้ามาอีก มีผู้ประสบภัยที่ติดโรคระบาดก่อจราจลที่ประตูเมือง คิดจะบุกออกไปจากเมืองเจ้อ

พอเรื่องออกมา ทั่วเมืองก็ตึงเครียด บรรยายกาศตึงขึ้นในพริบตา ราวกับมีลมคลั่งฝนซัดเข้ากระหน่ำ

ทหารทางการล้วนไปต่อต้านผู้ประสบภัยเหล่านั้นจนหมด และยังมีบางส่วนที่ถูกส่งไปอยู่ยั
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Kaugnay na kabanata

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1849

    มีคนซ่อนอยู่ในกลุ่มยุยงความคิดแย่ๆ ออกมา!เหล่าข้าราชการร้องรีบร้องขึ้นมา "ใต้เท้ามาหรือยัง? ไปเชิญอ๋องเจวี้ยน! ไปเชิญพระชายา!"พวกเขาเองก็ลนลานขึ้นมาแล้วและผู้ประสบภัยพวกนั้นมีคนหัวร้อนแล้ว พอได้ยินคำยุยง ก็ถ่มน้ำลายใส่เหล่าทหารทางการจริงๆกระทั่งยังมีคนเตรียมก้มหน้าจะกัดคนหลังถูกขวางเอาไว้ด้วย"อ๊า!"มีทหารทางการถูกกัดที่มือ เจ็บจนร้องลั่นขึ้นมา เสียงร้องดูสิ้นหวัง เพราะรู้สึกว่าตนเองต้องถูกระบาดใส่ไปแล้ว"บุกเลย พวกเขาขวางเราไม่ได้หรอก!"ทหารทางการถอยร่นกลับมา กำลังจะถูกพวกเขาบุกมาถึงประตูเมืองแล้วสถานการณ์คับขันขีดสุด ตอนนี้เอง เงาร่างหนึ่งก็พุ่งมาราวกับคันศร ร่อนลงตรงหน้าทหารทางการสองคนที่กำลังจะถูกกัดเสียงตูมดังขึ้น กระแสอากาศสั่นสะเทือน พัดผู้ประสบภัยที่หลั่งไหลเข้ามาจนปลิวออกไปชั่วขณะหนึ่งก็เห็นผู้ประสบภัยเหล่านั้นปลิวไปเหมือนเกี้ยวถูกขว้างทิ้ง ทยอยกันร่วงกระจายไปรอบๆ"ตุบๆๆ" เสียงดังขึ้นต่อเนื่อง เป็นเสียงผู้ประสบภัยเหล่านั้นร่วงลงมาบนพื้น จากนั้นก็เป็นเสียงร้องระงมทั้งหมดนี้เข้ามาอย่างรวดเร็ว เร็วจนคนที่ถูกซัดออกไปตั้งตัวกันไม่ทัน หลังจากร่วงลงมาก็เจ็บปวดขึ้

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1850

    อ๋องเจวี้ยนเซียวหลันยวนอยุ่ในชุดคลุมม่วง เข็มขัดสีดำ กวานหยกม่วง หน้ากากเย็นชาสีเงิน ยืนอยู่ตรงนั้นราวกับเทพสงครามคนมากมายงงงันขึ้นมา พวกเขาต้องเข้าใจผิดแน่ อ๋องเจวี้ยนเป็นแค่ท่านอ๋องอ่อนแอที่พักฟื้นมาหลายปีนี่นาได้ยินว่ามีวรยุทธ์ แต่เขาฝึกยุทธ์ก็เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง ก่อนหน้านี้ที่สะเทือนพวกเขาเป็นแค่กลยุทธ์นี่ แล้วทำไมถึงได้แกร่งปานนี้?ตอนนี้คนที่บุกมาประตูเมือง ส่วนใหญ่ยังไม่เคยเห็นวิชาของอ๋องเจวี้ยนเมื่อครั้งที่แล้วกับตา ดังนั้นพวกเขาจะอย่างไรก็ไม่เชื่อ ว่าอ๋องเจวี้ยนป่วยมาตั้งแต่ในครรภ์ที่เขาลือกัน กลับจะเป็นยอดฝีมือวรยุทธ์สุดยอดคนนึงแต่ความจริงก็วางอยู่ตรงหน้าแล้วมีคนได้สติกลับมา ร้องลั่นขึ้นว่า "ไม่ต้องกลัวเขา เขาเป็นแค่อ๋องยังกล้าสังหารประชาชนที่น่าสงสารอย่างเราไหม? ถ้าเขากล้า พวกเราก็จะสู้ตายกับเขาแล้ว! ถึงอย่างไรเขาก็อยู่เมืองเจ้อนี้มานาน คงจะติดโรคนั่นไปนานแล้ว องค์จักรพรรดเองก็ไม่ช่วยเขา""จะให้อ๋องเจวี้ยนทำให้เราตกใจจนถอยไม่ได้! สู้ตายพวกเรายังมีโอกาส! ถ้าไม่สู้พวกเราก็มีแต่ทางตาย!""หลังจากออกไปพวกเราจะไปหาหมอเทวดาที่สมาคมหมอใหญ่ พวกเขามีคนตั้งเยอะรักษาได้แน่

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1851

    เซียวหลันยวนกุมมือฟู่จาวหนิงแน่น ออกแรงบีบเล็กน้อยนางเองก็กุมเขากลับ สองสามีภรรยาเหมือนกำลังให้กำลังและปลอบประโลมกันและกันอยู่"ทหาร ชักกระบี่"เสียงเซียวหลันยวนลอดออกมาอย่างเย็น่ชา พวกองครักษ์อย่างชิงอีจัดขบวนขึ้นหน้าทันที เสียงชักกระบี่ยาวดังชิ้งขึ้นมาพร้อมกันท่วงท่าพลังขององครักษ์สิบกว่าคนที่กุมกระบี่ยาวพร้อมกันทำคนตกตะลึงมาก สำหรับผู้ประสบภัยเหล่านี้ถือเป็นความพรั่นพรึงอย่างหนึ่งโดยเฉพาะก่อนหน้านี้ที่เซียวหลันยวนพอโผล่มาก็กระแทกคนลอยออกไปตั้งขนาดนั้นตอนนี้พอมองไป กระบี่ยาวเหล่านั้นก็มีประกายเย็นเยียบ ยะเยือกจนเหมือนจิตสังหาร"ตอนนี้ใครยังคิดจะออกจากเมือง ก็ลุกขึ้นมาเลย"เสียงเซียวหลันยวนดังขึ้นอีกครั้ง พวกเขาไม่ทันได้คิดว่าหมายถึงอะไร เขาก็เอ่ยต่อมาว่า "ใครที่อยากออกจากเมือง ต้องตาย องครักษ์เหล่านี้ของข้า จะสังหารพวกก่อจราจลจนหมดได้แน่นอน ต่อให้พวกเจ้าจะเข้ามาพร้อมกัน"พริบตาเมื่อครู่ ยังมีผู้ประสบภัยบางส่วนที่ได้ยินประโยคนหน้าก็ลิงโลดขึ้นมา คิดว่าอ๋องเจวี้ยนจะปล่อยพวกเขาออกไปจริงๆ แต่คิดไม่ถึงว่าพอจะมาได้ยินประโยคที่เย็นชาด้านหลังต่อมาทันทีคิดจะปล่อยพวกเขาออกไปที่ไห

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1852

    ตอนที่ผู้ประสบภัยเหล่านั้นบุกเข้ามาเมื่อครู่ พวกเขาเองก็เกือบจะทนไม่ไหวชักดาบออกไปแล้ว แต่ก็อดทนไว้อยู่วินัยของพวกเขาทำให้พวกเขาไม่กล้าง้างกระบี่ใส่ประชาชนความน้อยใจและเสียใจในใจไม่รู้จะพรรณนาอย่างไร แต่ตอนนี้มีอ๋องเจวี้ยนที่เอาใจใส่พวกเขา มีพระชายาคอยรับประกันสุขภาพพวกเขาพวกเขาเดิมทีควรปกป้องอ๋องเจวี้ยนกับพระชายา แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นถูกพวกเขาปกป้องซะแล้ว"ขอบคุณท่านอ๋องพระชายา!"เหล่าทหารทางการขานออกมาเสียงดัง"พวกเจ้าล้วนเป็นลูกผู้ชายที่ยอดเยี่ยมซื่อสัตย์ต่อหน้าที่!" เซียวหลันยวนหันกลับมามองพวกเขา "ตบรางวัล!""ขอบคุณท่านอ๋อง!!"หลังจากที่ไฟในใจเหล่าผู้ประสบภัยถูกข่มลงมา ตอนนี้ไม่เหลือความกล้าอีกแล้ว พวกเขาตอนนี้อยากจะถอยหนีกันพวกเขายังคิดว่าถอยกลับไปก็น่าจะพอ พวกเขาแค่ไม่ก่อเรื่องก็จะไม่เป็นไร เรื่องสงบลง ดังนั้นจึงมีคนถามขึ้นว่า"ท่านอ๋อง พวกเราออกไปไม่ได้ แล้วต้องถูกขังอยู่ที่นี่รอฝ่าบาทส่งคนเข้ามาช่วยหรือ? ฝ่าบาทถ้าไม่ส่งคนเข้ามา หรือไม่คิดจะปล่อยพวกเราออกไปแล้วจริงๆ อย่างนั้นพวกเราจะทำอย่างไรกัน?""ใช่เลยใช่เลย พวกเราเชื่อฟังไม่ก่อเรื่องได้ แต่ก็ต้องมีคำอธิบายให้พ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1853

    เมืองเจ้อตอนนี้ เข้าได้เท่านั้นออกไม่ได้การจำกัดนี้ส่งผลกระทบไปถึงการเดินทางของข่าวสารพวกเขาเซียวหลันยวนมีคนพอ และยังมีม้าชั้นยอด องครักษ์ลับก็ฝีมือดี ข่าวสารของพขาจึงรวดเร็วฉับไวที่สุด"องค์จักรพรรดิรู้เรื่องเมืองเจ้อแล้วจริงๆ แต่ไม่ได้ส่งคนเข้ามา คนพวกนั้นในราชสำนักเจ้ายังไม่รู้จักหรือ? พวกเขาถ้ารู้ว่าที่นี่มีโรคระบาดรุนแรง ใครจะกล้ารับงานมาทำกัน?"เซียวหลันยวนประชดประชัน ก่อนหน้านี้เรื่องชินอ๋องเซียว ก็ทำให้พวกเขาผวาไปพักหนึ่งแล้วตอนนี้ที่นี่ใช่แค่ระบาดกับ "ชินอ๋องเซียว" กับ "อ๋องเจวี้ยน" เสียที่ไหน ยังมีคนตั้งมากมาย พวกเขาจะกล้ามากันรึ?"เช่นนั้นหรืออาจจะไม่แย่ขนาดนั้นสินะ?" ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวยังรู้สึกคาดหวังเมืองหนึ่งเมือง ประชาชนมากขนาดนี้ คงไม่ทอดทิ้งไปแบบนี้หรอกกระมัง?"เจ้าต้องเตรียมตัวทนต่อไปอีกระยะหนึ่ง"เซียวหลันยวนไม่ได้บอกกับเขาชัดเจนนัก แต่เขาไม่ได้คาดหวังอะไรกับจักรพรรดิ กระทั่งยังรู้สึกว่าจักรพรรดิน่าจะยิ่งเลอะเลือนกว่าแต่ก่อนเสียอีกทูตแคว้นหมิ่นยังไม่รู้ว่าช่วงนี้คอยเอาใจอะไรเขา แล้วก็ญังมีหมอหญิงสองคนที่รับเข้าไปวังหลังนั่นอีกล่ะ...รวมถึงพระชายาเย

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1854

    เซียวหลันยวนหลังจากได้ยินเด็กสองคนพูดเรื่องนี้ จู่ๆ ก็รู้สึกว่าฟู่จาวหนิงยิ่งเปล่งประกายขึ้นเรื่อยๆ แล้วที่นี่ คนป่วยมากมายลืมตัวตนพระชายาอ๋องเจวี้ยนของนางไปแล้ว จำได้แค่ว่านางคือหมอฟู่ดังนั้นพวกเขาจึงกล้าพูดแบบนี้ มีความคิดแบบนี้กับนางขึ้นมาถ้าหากนางเป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยน ประชาชนทั่วไปจะกล้าพูดแบบนี้รึ?ดังนั้น สิ่งที่นางมีอยู่ที่นี่มากกว่าสิ่งใดคือความเป็นกันเอง และยังมีบุคลิกที่ทำให้ประชาชนชื่นชอบด้วยเซียวหลันยวนจู่ๆ ก็เข้าใจเรื่องนี้ขึ้นมาอย่างชัดเจน ถ้าหากไม่มีเขา ต่อให้ไม่ต้องเป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยน ฟู่จาวหนิงก็ยังคงมีชีวิตที่ดีได้ กระทั่งมีวิะีที่จะเปล่งประกายด้วยตนเองอีกเหมือนว่านางตอนนี้ นางอาจจะไม่มีเขาก็ได้ แต่เขากลับยิ่งถูกนางดึงดูดมากขึ้นเรื่อยๆ"พี่ชายเจ้าเป็นใครกัน หน้าตาหล่อไหม?" เซียวหลันยวนถามเด็กทั้งสองคน"ใช่สิ พี่ชายข้าหน้าตาดีมาก แม่นางตั้งมากมายในเมืองเจ้ออยากได้เขา" เด็กสองคนร้องขึ้นอย่างภูมิใจเซียวหลันยวนเหลือบมองบ้านหลังนี้ที่นี่ก็ใหญ่กว่าบ้านที่อยู่รอบๆ จริงๆ ดูโอ่อ่าอยู่เด็กสองคนปีนบันไดขึ้นมาเกาะกำแพง เสื้อผ้าพวกเขาเองก็ไม่เลวนัก ดูเหมือนจ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1855

    อย่าว่าแต่เขาเลย ขนาดฟู่จาวหนิงเองก็ยังรู้สึกประหลาดใจชายหนุ่มแบบนี้ ถ้านางเคยรักษาไปจริงต้องจำได้แน่ แต่นางกลับนึกไม่ออกเลย"ท่านยังสงสัยข้าหรือ?" นางหันหน้าไปมองเซียวหลันยวน"ไม่ใช่สงสัย..."เซียวหลันยวนเองก็ไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้ของตนเองควรจะเรียกว่าอย่างไรชายหนุ่มคนนั้นรีบเดินมาตรงหน้าม้าพวกเขาเขาคารวะให้ ไม่เย่อหยิ่งไม่ถ่อมตน กล่าวคำขอโทษขึ้นมาก่อน"คารวะท่านอ๋อง พระชายา ข้าน้อยถังสืออวิ้น เมื่อครู่เด็กทั้งสองคนเป็นหลานข้า คนเล็กจะซนหน่อย พูดจาไม่ประสีประสา ขออ๋องเจวี้ยนพระชายาให้อภัยด้วย""ถังสืออวิ้น?"เซียวหลันยวนย้ำชื่อเขามาอีกครั้ง ดูคุ้นๆ หูชอบกล"เจ้าเคยมารักษาที่โรงหมอหรือ?" ฟู่จาวหนิงเองก็คุ้นๆ ชื่อนี้ แต่กลับจำไม่ได้ถังสืออวิ้นพยักหน้า "ตอนนั้นในบ้านไฟไหม้ ควันดำขโมงไปหมด ใบหน้าข้ามีแต่เขม่า เกรงว่าคงจะมองไม่ออก ดังนั้นพระชายาจึงจำไม่ได้"พอได้ยินเขาบอกแบบนี้ ฟู่จาวหนิงก็เหมือนจะนึกออกแล้วนางเอ่ยขึ้นอย่างเข้าใน "ที่แท้ก็เจ้านี่เอง""อื๋อ?" เซียวหลันยวนโน้มตัวไปข้างหน้า เอาคางพาดไว้บนบ่านาง ท่าทางดูเฉื่อยๆ ชาๆแต่อันที่จริงก็หึงอยู่หน่อยๆก่อนหน้านี้ฟ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1856

    เพราะอายุถังสืออวิ้นใกล้เคียงกับเซียวหลันยวน เซียวหลันยวนตอนนั้นก็ให้ความสนใจเขาอยู่ แต่ก็ไม่ได้เจอตัว ดังนั้นเมื่อครู่พอได้ยินชื่อจึงรู้สึกคุ้นๆ"นั่นเป็นชื่อเสียงจอมปลอมเมื่อนานมาแล้ว คิดไม่ถึงว่าท่านอ๋องจะจำได้ด้วย" ถังสืออวิ้นคารวะให้อีกครั้ง"เจ้าไม่เข้าร่วมสอบเคอจวี่มาตลอด" เซียวหลันยวนถาม "หรือว่าไม่เคยขึ้นกระดานมาตลอดกัน?"บางทีมีชื่อเสียงตอนอายุยังน้อย พอเติบโตความสามารถกลับลดต่ำลง กระทั่งการสอบขั้นต้นก็ยังไม่ผ่าน?""ข้าน้อยไม่ได้เข้าร่วมขอรับ""โอ๋? ทำไมกัน?" เซียวหลันยวนรู้สึกอยากรู้ขึ้นมา"เรื่องนี้..."ถังสืออวิ้นดูลำบากใจขึ้นมา ดูเหมือนจะบอกเหตุผลออกมาลำบากเซียวหลันยวนเองก็ไม่คิดจะจี้ต่อ จึงเปลี่ยนหัวข้อสนทนา หันไปพูดถึงเรื่องที่เด็กสองคนก่อนหน้านั้นพูดมา"ข้าได้ยินว่า เจ้ารู้สึกว่าพระชายาควรแต่งกับเจ้าหรือ?""แค่กๆๆ!"ถังสืออวิ้นสำลักขึ้นมา หูแดงกว่าเดิม เลิกเสื้อคลุมคุกเข่าลงทันทีเพียงแต่คุกเข่าก็ส่วนหนึ่ง แต่หลังกับแอวเขายังยืดตรง เป็นท่าทางที่ดูทั้งแข็งแกร่งและอ่อนแออยู่ด้วยกัน"ท่านอ๋องระงับโกรธด้วย! ข้าน้อยแม้จะไม่ได้พูดเช่นนี้ แต่ก็เคยเอ่ยชมพระชายา ถ

Pinakabagong kabanata

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2064

    ส่วนฟู่จาวหนิงเองก็มองมาทางเขา เพราะเซียวหลันยวนไม่ได้ยื่นมือมาประคองนางในตอนแรก แต่กลับมองนางอย่างงงงันหน่อยๆฟู่จาวหนิงยังไม่รู้ว่าตอนนี้เขากำลังคิดอะไร ใจก็ดำดิ่งหน่อยๆยังดีที่ตอนนางมองไปอีกครั้ง เซียวหลันยวนก็ยื่นมือมาดึงนางลุกขึ้นแล้ว จากนั้นไข่มุกหมึกในมือนางก็ส่งคืนไปยังเจ้าอาราม"คืนให้ท่าน"พริบตาที่เจ้าอารามยื่นมารับ เสียงเปรี๊ยะก็ดังขึ้น ไข่มุกหมึกลูกนั้นแตกละเอียดกะทันหันคนทั้งหมดล้วนตกตะลึง มองไปทางเศษหินที่รวงลงมานั่นพวกเขาล้วนถือไข่มุกหมึกกันมาแล้ว เดิมทีก็ยังดีดีอยู่ ไม่มีรอยร้าวอะไรเลย ยิ่งไปกว่านั้นตัวลูกปัดหยกก็ตันและแข็งแกร่ง หล่นลงพื้นก็ไม่แน่ว่าจะแตกด้วยซ้ำแต่ตอนนี้จู่ๆ มันก็เป็นแบบนี้ไปแล้วเจ้าอารามโค้งตัวลงเก็บชิ้นส่วนหยกขึ้นมา หยิบขึ้นมามองๆ"ไข่มุกหมึกทำนายดารา ข้าเองก็เหลืออยู่แค่เม็ดเดียวด้วย"อยู่กับเขามาหลายสิบปี ใช้มาก็ตั้งหลายครั้ง ตอนนี้จู่ๆ ก็แตกเสียแล้วเซียวหลันยวนยื่นมือตัวเองออกมา "ข้าไม่ได้ออกแรงนะ""แล้วก็ไม่เหมือนบีบจนแตกด้วย"เจ้าอารามพูดพลางมองไปทางฟู่จาวหนิงฟู่จาวหนิงหรุบตาลง เศษหินบนพื้นเหล่านั้น "หรือพวกท่านสงสัยว่าข้าทำ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2063

    เจ้าอารามสูดลมหายใจลึก"ผลลัพธ์นี้ไม่ค่อยดีนัก สิ่งที่มันชี้นำไป ทำให้อายวนเดินไปยังทางเลือกที่จะพาสู่ความพินาศ"พอได้ยินคำพูดเขา ฟู่จาวหนิงก็หน้าเปลี่ยนสีแต่นางกลับโมโหขึ้นมา"เฮอะ"ก่อนหน้านี้นางยังรู้สึกว่าจะอย่างไรก็ได้แต่ว่าตัวนางจะเป็นอย่างไร นางก็ยังไม่สนใจได้ เพราะนางไม่ใส่ใจ และไม่เชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะส่งผลกระทบกับตัวนางแต่เรื่องดันไปอยู่บนตัวเซียวหลันยวน นางก็ไม่ชอบใจขึ้นมาแล้วยิ่งไปกว่านั้น นางไม่รู้ว่าเซียวหลันยวนจะได้รัรบผลกระทบไหม ตัวนางเป็นคนที่ผ่านการข้ามภพมา แต่เขาไม่ใช่"อายวน" นางยื่นมือไปประคองเซียวหลันยวนเขาจับมือนางลุกขึ้นยืน มองดุนาง ยื่นมือลูบใบหน้านาง สีหน้าดูซับซ้อน"เจ้าลองดู"ฟู่จาวหนิงใจดำดิ่งหน่อยๆเพราะเขารู้สึกแปลกไปอย่างเห็นได้ชัด ปฏิกิริยานี้คือถูกส่งผลกระทบเข้าแล้วเมื่อครู่เขายังบอกนางอยู่เลยว่าถ้าไม่อยากคะเนทำนายก็ไม่ต้องทำ ตอนนี้เขากลับบอกว่าให้ลองดูเสียแล้วจิตใจต่อต้านกับความอยากเอาชนะของฟุ่จาวหนิงถูกกระตุ้นขึ้นมาแล้ว"ได้"นางขานรับ และไม่ลังเลอีก นั่งลงตรงหน้ามิติดาราทั้งสามผืนนั้น"ไข่มุกหมึก"เซียวหลันยวนส่งไข่มุกหมึก

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2062

    เขาไม่อยากให้นางต้องฝืนตัวทำอะไรเพื่อตัวเขา"ข้ายินยอมทดสอบดู ไม่เป็นไร" ฟู่จาวหนิงบอกเขาเซียวหลันยวนชะงักไป "เช่นนั้นข้าก่อนแล้วกัน เจ้าลองดูผลลัพธ์ของข้าก่อนว่าเป็นอย่างไร แล้วค่อยตัดสินใจ"ตอนนี้เขาเองก็ยอมที่จะคะเนทำนายด้วย เพราะคำพูดประโยคนั้นที่เจ้าอารามพูดเมื่อครู่สามปีก่อนตอนที่เขาจะกลับเมืองหลวง ก็มีการวัดคะเนดาราไว้จริงๆ ทำให้เขารู้สึกได้อย่างชัดเจน ว่าเขาควรจะออกจากยอดเขาโยวชิงเวลานั้น และไปถึงเมืองหลวงในวันนั้นเขาเจอกับจาวหนิงถอนหมั้นกลางถนนในวันนั้น แต่งงานกับนางในวันนั้น ตอนนี้พอมาคิดก็ดูจะเป็นคู่รักวาสนาที่ฟ้าประทานมาจริงๆเพื่อความแม่นยำครั้งนี้ เขาเองก็ไม่กังขากับการวัดคะเนดาราเซียวหลันยวนนั่งขัดสมาธิลงตรงหน้ามิติดาราทั้งสามชิ้น ยื่นมือไปทางเจ้าอาราม "ไข่มุกหมึก""เจ้าจำไว้ด้วยว่าต้องขจัดสิ่งรบกวนออก อย่าต่อต้านการชี้นำ" เจ้าอารามส่งไข่มุกหมึกให้เขา จากนั้นจึงจุดธูปขึ้นเซียวหลันยวนหลับตา สองมือกุมไข่มุกหมึกตอนที่เขาเข้าสู่สภาวะลืมตนอย่างสมบูรณ์ ฟู่จาวหนิงก็แหงนหน้ามองท้องฟ้าด้วยสัญชาตญาณ เหมือนจะพบว่าแสงดาวเต็มท้องฟ้าจะสว่างเจิดจ้ากว่าเดิมเซียวหลันยวน

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2061

    เจ้าอารามถอนใจอย่างจนใจอีกครั้ง ร้องเรียกพวกเขาไว้"กลับมาก่อน ทำไมพูดไม่ถูกหูหน่อยเดียวก็จะไปแล้วล่ะ? เดี๋ยวนี้อารมณ์ขึ้นง่ายขนาดนี้เชียว? ข้าก็แค่พูดเฉยๆ ไม่ใช่ว่ามองเสี่ยวฟู่แบบนี้เสียหน่อย"ฟู่จาวหนิงเองก็ยืนนิ่ง นางดึงเซียวหลันยวนไว้ตอนนี้นางเองก็น่าจะมองการวัดคะเนดาราของเจ้าอารามเป็นเหมือนเกมลึกลับเกมนึง เมื่อครู่ที่เห็นการเปลี่ยนแปลงขององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น นางรู้สึกอยากรู้อยากเห็นมากยิ่งไปกว่านั้น ฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าเจ้าอารามทำให้นางจับทางไม่ถูกเหมือนกัน คนผู้นี้ต้องมีตัวตนที่ไม่ธรรมดาสำหรับเซียวหลันยวนแน่นอนสำหรับฮูหยินเฉิง เซียวหลันยวนบทจะไม่ยอมรับก็ไม่ยอมรับได้ จะหมดความผูกพันนั่นก็หมดไป แต่สำหรับเจ้าอารามนั้นไม่ได้เด็ดขาดไม่เช่นนั้นคงไม่พานางเดินทางนับพันลี้มายอดเขาโยวชิงแค่เพราะคำๆ เดียวของเจ้าอารามหรอกนางเองก็อยากรู้มาก สาเหตุอะไรที่ต้องให้พวกเขามาทำนายชะตาอะไรนี่ เจ้าอารามคิดจะทำอะไรกันแน่นอกเหนือจากนี้ ตัวนางเองก็ยังอยากรู้ ว่าการที่นางมายังแคว้นเจานี่ เป็นเพราะมีพลังลึกลับอะไรหรือเปล่าถ้าไม่ทำให้ชัดเจน หลังจากนี้นางคงจะตั้งรับไม่ไหวองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นถึ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2060

    เขามองไปทางเจ้าอารามอีกครั้ง น้ำเสียงเข้มงวดขึ้นมา"ท่านน้าเฉิงถ้าพูดแบบนี้จริง เช่นนั้นสายตานางก็ตื้นเขินไม่รู้จักกาลเทศะ นางเองก็ไม่เข้าใจจาวหนิง และยิ่งไม่เข้าใจว่าจาวหนิงผ่านอะไรมาบ้าง แล้วมีสิทธิ์อะไรถึงใช้ความคิดของตัวเองมาสรุป ดูท่าหลายปีนี้คงถูกเอาอกเอาใจในเมืองจื่อซวีจนเสียคนแล้วจริงๆ"เดิมทีเขาได้ยินว่าฮูหยินเฉิงตาแดงก่ำลงจากเขาไป ยังเคยคิดว่าว่าเพราะช่วยนี้เย็นชากับนางมากเกินไปหรือเปล่า เอาไว้ตอนที่จะกลับ พอผ่านอุทยานเขาเฉิงอวิ๋น ยังคิดจะเข้าไปบอกลานางเสียหน่อยแต่ตอนนี้เขารู้สึกแล้วจริงๆ ว่าใจคนมันพังไปแล้ว เช่นนั้นก็ยากที่จะได้รับการเคารพจากคนอื่นจริงๆ"ข้าจดจำได้ว่าตอนที่ข้ายังเล็กท่านน้าเฉิงเคยมาดูแลอยู่หลายครั้ง แต่อันที่จริงพวกเราก็ไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น หลังจากข้าโตมา พวกเราก็เจอกันน้อยครั้งมาก เจอกันก็เพียงแค่ทักทาย ข้าเรียกนางว่าท่านน้า ก็เพราะเคยชินมาจากตอนเด็กเท่านั้น"เซียวหลันยวนตอนพูดถึงจุดนี้น้ำเสียงก็เย็นลงมา"ตอนยังเล็กนางดูแลข้ามาหลายครั้ง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอาเจ้าอุทยานกำชับไว้ ข้าจึงเคารพนาง แต่นางก็ควรวางตัวให้ถูก ไม่ใช่จะขึ้นมาเป็นผู้อาวุโสของข้าจริ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2059

    สายตาที่องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นมองเซียวหลันยวนดูซับซ้อนมาก ดูลังเล กำลังตัดสินใจและดูเจ็บปวดทรมานมากแต่หลังจากนี้นางกลับละทิ้งเรื่องที่จะกลับเมืองหลวงหาคนอื่นหรือกระทั่งเรื่องไปแคว้นหมิ่น แล้วิคดจะอยู่ข้างกายเจ้าอารามแทนหรือ?นี่มัน...ฟู่จาวหนิงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ ไม่รู้ว่าการเปลี่ยนความคิดกะทันหันของนางมันเกิดขึ้นมาได้อย่างไรตอนนี้นางกลับรู้สึกอยากรู้อยากเห็นต่อวัดคะเนดารานี้เสียแล้ว องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นสัมผัสได้ถึงอะไรกันนะ?"องค์หญิงใหญ่พักอยู่ที่นี่สองสามวันก่อนก็ได้ เอาไว้ค่อยว่ากัน"เจ้าอารามเหลือบมองกระจกทรงมุมที่แสงดับไปแล้วผาดหนึ่ง จากนั้นก็มองใบหน้าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น แอบถอนหายใจในใจเขาเองก็ทำไม่สำเร็จ บิดชะตาฝูอวิ้นกลับมาไม่ได้ชั่วคราวผิดพลาดตรงไหนกันแน่นะ?เจ้าอารามมองต่อไปทางฟู่จาวหนิง จากการทำนายส่วนตัวของเขา ทำนายไปทำนายมา ต้นกำเนิดตัวแปรทั้งหมดก็คือฟู่จาวหนิงดังนั้น เรื่องที่เกี่ยวกับฟู่จาวหนิง เขาต้องมาขบคิดให้ดีจริงจัง""เจ้าอารามรับข้าไว้เถอะ แม้ข้าจะทำอะไรไม่เป็นเลย แต่ก็ยังเรียนรู้ได้ ข้าเรียนรู้ทำกับข้าว จริงด้วย ข้าเป็นแแม่สื่อได้ด้วยนะ หลังจากนี้ชายเส

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2058

    บนพื้นมีสามจุดเปล่งแสงขึ้นรางๆ ปรากฏรูปร่างสามแบบคือ แปดเหลี่ยม ทรงกลม ทรงมุมฟู่จาวหนิงเดินเข้าไปสองก้าว จึงพบว่านั่นเป็นกระจกหลากสีเรียบลื่นสามชิ้นสลักฝังอยู่บนพื้น ใต้กระจกน่าจะเป็นหินหยกผิวเรียบ และระหว่างหยกกับกระจกมีของเหลวสีแดงเจือสีเงินไหลเอื่อยๆ อยู่ยิ่งไปกว่านั้น เพียงไม่นาน ด้านบนยังมีแสงระยิบเหมือนดวงดาว ราวกับจำลองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยแสงดาวออกมาเจ้าอารามเดินเข้าไปใกล้ กวักมือให้กับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น"มานี่"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นก็ค่อนข้างว่าง่าย เดินเข้าไปทันทีเจ้าอารามส่งลูกปัดหยกสีดำเม็ดหนึ่งให้นาง"นั่งขัดสมาธิ กำลูกปัดเม็ดนี้ไว้ สัมผัสดูว่ามันนำเจ้าไปยังมิติดาราไหน แล้วจงชี้ออกมา"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นไม่ค่อยเข้าใจ แต่ก็ทำตามที่เขาบอกนั่งลงขัดสมาธิบนพื้น สองมือกุมลูกปัดนั้น ตั้งสมาธิสัมผัสผ่านไปครู่หนึ่ง นางจึงหันหลังอย่างลังเลไปทางทรงมุมนั้น"ทางนี้"ฟู่จาวหนิงยืนมองอยู่ข้างๆจากที่นางเห็น เจ้าอารามเหมือนคนที่กำลังเล่นละครหลอกคนอย่างไรอย่างนั้น เรื่องแบบนี้จะทำนายดวงชะตาออกมาได้อย่างไร?กำลูกปัดลูกหนึ่งไว้ ก็สามารถชักนำให้ตนเองเลือกกระจกหลากสีแผ่นไหนแบ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2057

    ดาวสองดวงนั้นประกายจ้ามาก แล้วยังอยู่ใกล้มากด้วย ส่องประกายให้กันและกัน เหมือนขานรับกันและกันไม่รู้เพราะอะไร พอเห็นดาวสองดวงนี้ ฟู่จาวหนิงรู้สึกมีความสุขขึ้นมานางมองไปทางเซียวหลันยวน ถามขึ้นเสียงแผ่วเบา "ท่านเห็นดาวดวงไหนหรือ?"เซียวหลันยวนไม่ตอบ แต่กุมมือนางมัน จับนิ้วนางชี้ออกไป"เอ๋?"ที่เซียวหลันยวนชี้ก็คือดาวสองดวงนั้น!หรือพวกเขาจะมองเห็นแบบเดียวกัน?แน่นอนว่าอาจจะเพราะดาวสองดวงนั้นสว่างไสวมากที่สุด คนอื่นเองก็อาจจะมองเห็นพวกมันด้วยฟู่จาวหนิงคิดเช่นนี้ เลยมองไปทางองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น แต่กลับเห็นนางมองไปทางอื่นนางมองไล่ตามสายตาองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นไป ตรงนั้นมีดาวดวงหนึ่ง สว่างอยู่เหมือนกัน แต่ดาวที่อยู่รอบๆ เล็กเอามากๆ จึงส่องระยับอยู่เพียงดวงเดียวที่องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นมองอยู่น่าจะเป็นดวงนั้นกระมัง?ตอนที่นางจะเก็บสายตาก็กวาดไปเห็นซางจื่อพอดี และเห็นซางจื่อก็กำลังมองท้องฟ้า แต่สายตาของเขาดูสับสน สีหน้าเองก็ตกตะลึงไปฟู่จาวหนิงคิดๆ ถอยหลังสองก้าวไปอยู่ข้างๆ ซางจื่อซางจื่อเก็บสายตากลับ มองไปทางนาง ไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆ นางก็มาอยู่ข้างๆ"ซางจื่อ เจ้าชอบดาวดวงไหน?"ซา

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2056

    "แต่ก่อนท่านเคยเห็นเขาระบำมาก่อนไหม?""ไม่มีเคยเลย"ตอนที่พวกเขาหยุดเท้ายืนมอง องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นก็มาถึงข้างกายพวกเขานางเองก็มองการร่ายรำบนแท่นชมดาว สายตาดูเคลิบเคลิ้มหน่อยๆ"ข้าได้ยินว่า แต่ก่อนตงฉิงก็มีระบำทำนายดวงดาวอยู่ประเภทหนึ่ง คิดค้นขึ้นมาโดยตระกูลราชครูตงฉิง นี่เป็นระบำที่ลึกลับมาก จังหวะก้าวเท้าทุกก้าวล้วนพิถีพิถัน นำมาซึ่งพลังแห่งดวงดาว ทำให้ผู้ทำนายดวงดาวมีพลังที่ลึกลับมากขึ้น ผลลัพธ์การทำนายเองก็แม่นยำขึ้น"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเองก็ลืมสิ่งที่เซียวหลันยวนพูดไว้เมื่อครู่ เรื่องที่ไม่ให้นางเข้ามาใกล้นัก แต่มายืนอยู่ข้างกายพวกเขา พูดเรื่องที่ตนเองรู้มาก่อนหน้านี้ออกมาอย่างอดไม่อยู่"ตระกูลราชครูของตงฉิง?" ฟู่จาวหนิงเหลือบมองนางผาดหนึ่ง"ใช่ นี่เป็นสิ่งที่ข้าได้ยินองค์จักรพรรดิของข้าบอกมา" องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นพอเห็นว่านางยอมพูดกับตนเอง ก็รู้สึกเหมือนได้รับเกียรติจนประหลาดใจขึ้นมา "ยิ่งไปกว่านั้นข้าก็ได้ยินว่าองค์จักรพรรดิข้าค้นหาตระกูลราชครูตงฉิงอยู่ตลอด ว่ากันว่า ตระกูลราชครูนั้นรู้ความลับมากมายของตงฉิง สามารถช่วยให้อาณาจักรมั่นคงได้ด้วย"เซียวหลันยวนร้องเฮอะขึ้นมาต้

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status