หมอเทวดาหลี่สองวันนี้ก็เอาแต่ค้นคว้าว่าจะรักษาโรคนี้อย่างไรอยู่ตลอดอันที่จริงมันก็โรคเพศสัมพันธ์นี่นะ เขารู้สึกว่าไม่ใช่จะรักษาไม่ได้แต่ปัญหาคือ ชนิดนี้ดูจะแตกต่างกับโรคเพศสัมพันธ์ที่เขาเคยพบสมัยก่อนยังไม่ต้องพูดเรื่องอื่น..."ให้ตายเถอะ ทำไมพอติดโรคนี้แล้วถึงเน่าขึ้นมานะ?"นี่เป็นจุดที่เขาคิดไม่ตก ต่อให้เป็นโรคเพศสัมพันธ์จริงก็ไม่ได้รวดเร็วขนาดนี้ยิ่งไปกว่านั้นยังแค่สองวันเอง บนหน้าหลี่จื่อเหยาก็เน่าไปรุนแรงขนาดนี้แล้ว เห็นได้ด้วยตาเปล่าเลยเดิมทีคิดว่าแค่บนหน้าเท่านั้น ถ้าหากต้องไปพบคนทาแป้งหนาหน่อย ก็ยังปกปิดไว้ได้แต่ตอนนี้ผ่านไปสองวัน จุดที่เน่าเผื่อยก็ขยายกว้างขึ้นแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นยังเน่าอย่างรุนแรงด้วย พอเห็นแล้วก็น่ากลัวมาก!"นายท่าน พระชายารัฐทายาทกำลังเขวี้ยงข้าวของแล้ว ทำอย่างไรดี?" สาวใช้เข้ามารายงานหมอเทวดาหลี่พอได้ยินคำนี้ก็รู้สึกหงุดหงิดไปหมด"นางทำอะไรอีกล่ะ?""นางส่องกระจก พอเห็นหน้าตัวเอง" คงจะรับไม่ได้ ดังนั้นเลยโมโหขึ้นมาสาวใช้ไม่ได้พูดครึ่งหลังหมอเทวดาหลี่รีบไปที่เรือนหลังประตูเปิดอยู่ แต่เขาก็ยืนที่ประตูไม่ได้เข้าไปพอเหลือบมองเข้าไปก็เห็
เขามองนาง ราวกับมองคนโง่คนหนึ่ง"เหยาเอ๋อร์ ตอนนี้เจ้ายังคิดจะชิงดีชิงเด่นกับฟู่จาวหนิงอยู่อีกหรือ?""อะไรคือข้าไปชิงดีชิงเด่นกับนางกัน? เดิมทีข้าก็เก่งกว่านางอยู่แล้ว คู่หมั้นของนางข้าบอกจะแย่งก็แย่งมาได้ นางไล่ตามเซียวเหยียนจิ่ง อ้อนวอนอยู่หลายปี ผลลัพธ์ก็ยังแพ้ให้ข้านี่?""นางไม่ต้องการเซียวเหยียนจิ่งตั้งนานแล้ว ตอนนี้นางเป็นถึงพระชายาอ๋องเจวี้ยน อ๋องเจวี้ยนปฏิบัติกับนางราวกับจันทร์ส่องแสง!""แล้วมันทำไมกัน? ท่านพ่อ ท่านออกจากบ้านไปตั้งนาน ยังไม่ได้ยินข่าวหรือ? ครึ่งปีก่อน มีคนเห็นใบหน้าของอ่องเจวี้ยน หน้ากากของเขาถูกกระชากออก เผยให้เห็นใบหน้าแท้จริง น่ากลัวขนาดไหนท่านรู้ไหม?"หลี่จื่อเหยาถูกขังอยู่ในเรือนหลังไม่ได้รับข่าวอะไรมาตลอด ข่าวจึงล่าช้าไปตั้งไม่รู้นานเท่าไรแล้วแต่ว่าพูดถึงเรื่องนี้ก็ยังขึ้นมาก็ค่อนข้างจะตื่นเต้นอยู่ "ท่านพ่อ ท่านยังไม่รู้กระมัง? คนในเมืองหลวงล้วนกำลังพูดกันว่า อ๋องเจวี้ยนมีหน้าเหมือนผีเลย! แล้วยังมีเด็กเ,้กตั้งหลายคนพอได้ยินชื่อของเขาก็ตกใจจนร้องไห้จ้า! เขาตอนนี้ออกจากบ้านก็ยังต้องใส่นห้ากากอยู่ใช่ไหมล่ะ? ท่านคิดว่า ฟู่จาวหนิงจะชอบเขาได้หรือ?""นาง
หลี่จื่อเหยาถือว่าเป็น "คู่มือ" กับฟู่จาวหนิงมาหลายปีแล้ว คนที่นางกับฟู่จาวหนิงแย่งกันมาหลายปีก็คือเซียวเหยียนจิ่งตอนนี้นางคือภรรยาของเซียวเหยียนจิ่ง ฟู่จาวหนิงเป็นแค่คนที่ถูกถอนหมั้นวันนั้น แล้วไม่มีทางเลือกจึงหันไปแต่งงานกับอ๋องเจวี้ยน จึงไม่ควรมีชีวิตดีกว่านาง"อ๋องเจวี้ยนเป็นคนที่อยู่ได้ไม่กี่ปีแล้วแท้ๆ แล้วนางก็จะเป็นม่ายเร็วขึ้น! ถึงอย่างไร ข้าก็ยังดีกว่านาง!"หลี่จื่อเหยาร้องเสียงแหลม "ท่านพ่อ ท่านต้องรักษาข้าให้ได้ ท่านจะให้ข้ากินยาตอนไหน? หน้าของข้าจะต้องดีขึ้น ไม่ ท่านต้องช่วยข้าทำยาบำรุงผิว ข้าจะสวยขึ้น ข้าจะออกไปหาฟู่จาวหนิง ข้าจะไปดูหน้าอ๋องเจวี้ยนให้ชัดๆ!""เจ้าสงบลงหน่อยเถอะ ตอนนี้ข้ายังไม่รู้เลยว่าเจ้าป่วยเป็นอะไรกันแน่ แล้วจะไปหายามาจากไหน!"หมอเทวดาหลี่ได้ยินนางร้องเสียงดังขนาดนี้ ก็รู้สึกปวดหัวหน่อยๆ"ท่านยังไม่ได้เข้ามาจับชีพจรให้ข้าเลย! ไม่ใช้ต้องมาดูฟังสอบถามจับชีพจรใกล้ๆ หรือ? ท่านพ่อ ท่านเอาแต่ยืนอยู่ด้านนอก แค่เข้ามาดูข้าสักหน่อยก็ไม่มี แล้วท่านจะทำยาอะไรออกมาได้กัน?"หลี่จื่อเหยาพูดประโยคหนึ่งสะกิดเข้ากลางใจ "ท่านพ่อ หรือว่าท่านจะกลัว? ขนาดท่านยังกลัวว
หลังจากทั้งสองคนถอยออกมา ก็นึกออกขึ้นพร้อมกัน ว่าชินอ๋องเซียวตายแล้ว และตรงหน้าคนนี้ ก็ถูกชินอ๋องเซียวระบาดมาใส่!นั่นก็เท่ากับว่า นางอาจจะตายเร็วๆ นี้หรือ?นี่มันเป็นโรคที่พรากชีวิตไปได้รวดเร็วเหลือเกิน!พวกเขาตัวสั่นพังพาบ!หลี่จื่อเหยามองสายตาตกตะลึงพรั่นพรึงของพวกเขา ก็มีปฏิกิริยาขึ้นมาเช่นกัน และพอตอบสนองขึ้นมา นางก็รู้สึกเหมือนตัวเองจะระเบิดออก"พูดอะไรน่ะ? พูดอะไรกันแน่? พ่อสามีของข้าตายได้อย่างไรกัน?" เสียงของนางสั่นพร่าขึ้นมา"ป่วยขอรับ ป่วยตายขอรับ ไม่ได้ถูกลอบสังหาร..." เสียงของผู้ดูแลก็สั่นพร่าขึ้นมาหลี่จื่อเหยาหน้ามืด สลบลงไป"เหยาเอ๋อร์" หมอเทวดาหลี่ตกใจสะดุ้งโหยง"ตึง!"ไม่มีคนเข้าไปประคองหลี่จื่อเหยา นางจึงล้มลงไปกับพื้นทั้งอย่างนั้นดูแล้วแสนเวทนา แต่หมอเทวดาหลี่ก็ไม่กล้าเข้าไปประคองนางจริงๆเขาดีดตัวร้องเรียกขึ้นมา "ใครก็ได้ ใครก้ได้!"สาวใช้ตัวสั่นพังพาบวิ่งเข้ามา พวกนางปรนนิบัติหลี่จื่อเหยามาหลายวันแล้ว ไม่มีทางเลือก จึงทำได้แค่ไปประคองหลี่จื่อเหยาส่งกลับไปที่เตียง"เร็ว ไปถามรัฐทายาทเซียวให้ชัดเจน" หมอเทวดาหลี่เอ่ยขึ้นและตอนที่คนของเขาส่งไปหาข่าวยั
ฟู่จิ้นเชินหัวเราะขึ้นมา จากนั้นจึงกวักมือเรียกเฉินซาน กำชับกับเขาสองสามคำเฉินซานหลังจากฟังแล้วดวงตาก็เปล่งประกาย พยักหน้าออกไปจัดการผู้เฒ่าฟู่มองลูกชาย จากนั้นก็มองหลานชาย แล้วก็มองไปยังภรรยาลูกชายที่ไม่มีความเห็นอะไร ถามขึ้นมาว่า "จิ้นเชินเอ๋ย เจ้าให้เฉินซานไปทำอะไรล่ะนั่น?""ท่านพ่อ ไม่ใช่ว่าต้องฉลองหรือ? ก็แค่ไปเตรียมการฉลองน่ะ" ฟู่จิ้นเชินตอบผู้เฒ่าฟู่ชะงักไปครู่หนึ่ง จึงเอ่ยต่อว่า "การถูกหย่าร้างสำหรับหญิงสาวแล้ว เป็นเรื่องที่น่าเวทนามากนะ พวกเราไปทับถมคนอื่นแบบนี้ มันดูไม่ค่อยดีหรือเปล่า?"เขาคิดว่าทำเรื่องแบบนี้แล้วจะดูโหดเหี้ยมเกินไป"ท่านพ่อ ข้าได้ยินเสี่ยวเฟยบอกว่า หลี่จื่อเหยาคนนี้ วันที่จาวหนิงของพวกเราแต่งงาน เข้ามาขวางเกี้ยวเจ้าสาวของนาง คิดจะดึงนางในเกี้ยวออกมาแล้วยังรังแกนางอีกนะ" เสิ่นเชี่ยวเอ่ยปากขึ้นบ้างแล้วหลังจากที่นางกลับเมืองหลวงก็หาคนไปสอบถามเรื่องวันนั้นอย่างละเอียดคนที่บอกกับนางมากที่สุดคือเซี่ยซื่อเซี่ยซื่อตอนนั้นแม้จะไม่อยู่ในเหตุการณ์ แต่หลังจากเกิดเรื่อง นางก็ได้ยินคนไม่น้อยพูดกัน ยิ่งไปกว่านั้น นางยังไปถามคนที่เห็นมากับตาอีกด้วยเสียงของเ
"นายท่าน ที่ประตูไม่รู้ทำไมจึงมีนักดนตรีมาร้องเพลงอยู่กลุ่มหนึ่ง..."ผู้ดูแลหน้าดำกลับมารายงานสถานการณ์กับหมอเทวดาหลี่ แต่ว่าเขาพูดไม่ออกว่าพวกเขาร้องเพลงอะไร เพียงแต่เมื่อครู่ที่เปิดประตูใหญ่ ยังไม่ทันได้ปิด ลมด้านนอกก็พัดเข้ามา นำเสียงเพลงที่เด็กสาวร้องเข้ามาด้วยนั่งอยู่ที่โถงหน้านี้ หมอเทวดาหลี่ก็ยังได้ยินประโยคครึ่งประโยคนั่น"วันดีอะไรกัน?" เขาถามขึ้นอย่างงงงันไม่ทันที่ผู้ดูแลจะตอบ เขาก็รู้สึกว่าตนเองต้องออกไปดูเสียหน่อย เพราะเมื่อครู่โดนผลกระทบไปรุนแรงมาก เขายังไม่รู้ว่าควรจะไปบอกอย่างไรกับลูกสาว ถึงเรื่องที่นางถูกเซียวเหยียนจิ่งขอหย่าสมองนี่ยังตื้ออยู่ จึงคิดจะออกไปขยับเนื้อขยับตัวเสียหน่อย ออกไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น"นายท่าน..."ผู้ดูแลคิดจะห้ามเขา แต่ก็ห้ามไม่อยู่ คิดๆ แล้วจึงทำได้แค่เดินตามออกไปเขาไม่รู้เลยว่านายท่านหลังจากออกไป ถ้าได้ยินเนื้อร้องของอีกฝ่ายแล้วจะโมโหจนตายเลยไหม"ออกมาแล้ว ออกมาแล้ว ร้องให้ถึงใจอีกหน่อย!"เฉินซานพอเห็นหมอเทวดาหลี่ ก็รีบเตือนเสียงกระซิบกับแม่นางน้อยทันที "หัวเราะ หัวเราะให้มันเบิกบานไปเลย"แม่นางน้อยก็ระเบิดเสียงหัวเราะร่าออกมาทันที
"พระชายารัฐทายาท! รัฐทายาทเขียนหนังสือจะหย่ากับท่านแล้ว ท่านถูกหย่าร้างแล้ว! ข้ากับเสี่ยวเหมยเป็นคนของจวนชินอ๋องเซียว พวกเราต้องรีบกลับไปแล้วสินะ?"สาวใช้อีกคนก็ถลึงตาโต "จริงหรือ?""จริงสิ! นี่หมอเทวดาหลี่พูดออกมาจากปากเลยนะ""เช่นนั้นพวกเราก็ต้องรีบกลับจวนชินอ๋องแล้วสิ!"สาวใช้สองคนนั้นไม่มองหลี่จื่อเหยาด้วยซ้ำ รีบเก็บของเตรียมจะหนีแล้วพวกเขาอยู่ที่นี่กลัวติดโรคก็เรื่องหนึ่ง หลักๆ คือหลี่จื่อเหยาปรนนบัติยากเสียเหลือเกิน! ถ้ายังอยู่ต่อไป พวกเนางไม่ทันได้ติดโรคก็อาจจะถูกทรมานจนตายไปก่อนแล้วจนตอนที่พวกหนีไป หลี่จื่อเหยาก็ยังไม่ทันได้ตั้งตัวนางคิดอยู่ตลอด ว่าเมื่อครู่นางได้ยินอะไร?บอกว่าเซียวเหยียนจิ่งเขียนจดหมายหย่ากับนางหรือ? ไม่หรอก? เป็นไปไม่ได้หรอก?"ท่านพ่อ"หลังจากตั้งตัวได้หลี่จื่อเหยาก็ร้องเสียงแหลมขึ้นมาหมอเทวดาหลี่ยังคิดว่านางเกิดเรื่องอะไรขึ้น ปิดปากลากขากะเผลกเข้ามา หลี่จื่อเหยาคิดจะหนีออกไป แต่ว่านางนอนอยู่บนเตียงนานเกินไป จู่ๆ พอหนีไปแบบนี้ เท้าซ้ายสะดุดกับเท้าขวาพอเห็นท่าทางการเคลื่อนไหวของนางผิดปกติ หมอเทวดาหลี่ก็รู้สึกไม่ค่อยดี จึงตะโกนขึ้นมา "อย่าวิ่ง
"จาวหนิง? เจ้าทำไมถึงกลับมาตอนนี้?" ฟู่จิ้นเชินมองนางอย่างประหลาดใจ จากนั้นจึงเห็นเซียวหลันยวนเดินตามเข้ามา"เมื่อครู่ไปทำธุระที่พันธมิตรโอสถมา"และก่อนที่นางจะถาม ตอนที่เซียวหลันยวนเดินเข้ามาช้ากว่าก้าวหนึ่ง ก็มีองครักษ์ลับรีบเข้ามารายงานกับเขาแล้วหลี่จื่อเหยาหกล้มตายอยู่ในบ้านคิดไม่ถึงว่าพอเข้าประตูมาก็จะได้ยินประโยคนี้"กำลังพูดถึงหลี่จื่อเหยาหรือ?" เขาถามขึ้นฟู่จิ้นเชินไม่แปลกใจที่เขาจะรู้ อ๋องเจวี้ยนน่าจะมีเส้นทางข่าวของเขาอยู่"ใช่ พวกเราเองก็เพิ่งได้ข่าว หลี่จื่อเหยาหกล้มจนตายในบ้าน"ฟู่จาวหนิงตกตะลึงนิ่งไปแล้ว"อะไรนะ? หกล้มจนตายหรือ?"ไม่ใช่ว่าชินอ๋องเซียวตายไปแล้วหรือไรกัน?หลี่จื่อเหยาถูกส่งกลับจวนตระกูลหลี่ างยังคิดยอู่ว่าสองวันนี้จะเข้าไปหาข่าวว่าหมอเทวดาหลี่จะรักษาอาการป่วยนางได้ไหม แต่นี่คือหลี่จื่อเหยาตายไปแล้วหรือ?ฟู่จาวหนิงจู่ๆ ก็รู้สึกเหมือนฝันไป"ทำไมถึงหกล้มแล้วตายล่ะ?" ฟู่จาวหนิงหาเสียงตัวเองกลับมาได้ จึงถามไปอีกคำหนึ่ง"พวกเจ้ารู้เรื่องที่เซียวเหยียนจิ่งเขียนจดหมายหย่ากับนางไหม?""จดหมายหย่า?"ฟู่จาวหนิงกับเซียวหลันยวนสบตากันผาดหนึ่งเรื่องนี
จากนั้นนางก็ร้อนรนขึ้นมา รีบพลิกค้นของด้านใน แต่ไม่ว่าจะพลิกอย่างไร กล่องใบนั้นก็หายไปแล้ว!พอเห็นท่าทางของเฉินเซียง องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นก็หน้าเปลี่ยนสีทันที"มีอะไรหรือ?""ของหายไปแล้วเจ้าค่ะ!"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นลุกพรวดขึ้นมา เดินโซซัดโซเซเข้าไป และรื้อคนพลิกหาด้วยเช่นกัน"หายไปได้อย่างไรกัน? ข้าเห็นเจ้าเอามาใส่ในกล่องนี้แล้วแท้ๆ!""นั่นสิ ข้าน้อยวางมันไว้ในนี้จริงๆ แล้วยังลงกลอนไว้อีก หลังจากลงกลอนแล้วก็ไม่ได้เปิดออกอีกเลย แล้วมันหายไปได้อย่างไรกัน?"เมื่อครู่นางเองก็หยิบกุญแจปิ่นปักผมออกมาเปิดกลอน ไม่มีร่องรอยถูกแตะต้องเลย!"รีบหาดูให้ทั่ว"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นลนลานมาก สิ่งของไม่ใช่แค่นางต้องการนำไปเจรจาเงื่อนไขเท่านั้น แต่สำหรับอ๋องเจวี้ยนแล้วยังสำคัญมากอีกด้วย ถ้าหากมาหายในมือนาง แล้วอ๋องเจวี้ยนรู้เข้าภายหลัง แล้วนางจะทำอย่างไรกัน?นายบ่าวทั้งสองรื้อค้นในห้องกันเลเเทะ ค้นหาทุกซอกทุกมุม แต่ก็หาไม่พบ"จะต้องถูกหมอเทวดาฟู่เอาไปแล้วแน่ นางเคยเข้ามาในห้องพวกเรา" เฉินเซียงร้องขึ้นมา "ที่นี่มีแต่คนของนาง คนเหล่านั้นล้วนช่วยเหลือนาง ตอนที่พวกเรากลับมาจะต้องถูกคนเห็นแล้วแน่..."
"เฉินเซียง ข้าจะทำอย่างไรดี?"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นทำได้เพียงงึมงำถามเฉินเซียง ท่านทีของอ๋องเจวี้ยน กับความเย็นชาของฟู่จาวหนิง เส้นทางที่จะเข้าไปในจวนอ๋องเจวี้ยนก็ผ่านไปไม่ได้แล้วนางทำมาถึงจุดนนี้แล้ว จะให้ต้องตกต่ำลงไปอีกนั้นมันก็มากเกินไปยิ่งไปกว่านั้นต่อให้นางจะตกต่ำเรี่ยดิน อ๋องเจวี้ยนเองก็ไม่แน่ว่าจะหวั่นไหว เขามันไร้อารมณ์เกินไปเฉินเซียงนั่งอยู่บนเกาอี้ งอตัวค้อมลงมา ที่โดนฟู่จาวหนิงเตะไปเมื่อครู่ นางรู้สึกว่าตนเองตอนนี้ไม่ดีขึ้นได้เลย ความเจ็บปวดบนร่างกาย ทำให้ในใจนางยิ่งรู้สึกชิงชัง"องค์หญิงใหญ่ ในเมื่ออ๋องเจวี้ยนไร้ความรู้สึกเช่นนี้ เช่นนั้นพวกเราก็ปล่อยวางเถิด จากที่ข้าน้อยเห็น บางทีอ๋องเจวี้ยนในแคว้นเจาก็เหมือนจะปกป้องตัวเองลำบากอยู่ จักรพรรดิแคว้นเจาคิดจะเล่นงานเขาตลอดเวลา ดังนั้นเขาจึงไม่กล้ารับปาก เพราะเดิมทีเขาก็ไม่มีฝีมืออยู่แล้ว!"เฉินเซียงรู้สึกว่าตอนนี้พูดแย่ๆ กับอ๋องเจวี้ยนแล้ว ยังทำให้ตนเองรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย"ขนาดเขาตอนนี้ยังไม่กล้าปลดหน้ากากลงเลย น่าจะเพราะใบหน้าของเขามันพังยับจนไม่เหลือสภาพแล้วจริงๆ ไม่กล้าจะให้องค์หญิงใหญ่เห็น เขารู้สึกด้อยค่า ใช่แล้ว
หยวนอี้เข้าใจความหมายของนางขึ้นมาทันทีเขาไม่มีตกตะลึงเลยแม้แต่น้อยแม้ฟู่จาวหนิงจะยังสวมหน้ากาก โผล่มาเพียงตาคู่เดียว แต่เขาก็ยังรู้สึกว่านางมีแรงมาก"ข้าเป็นลูกมือให้ท่านได้จริงๆ นะ ที่นี่ไม่ใช่ว่าขาดกำลังคนอย่างหนักอยู่หรือ?"หยวนอี้ยังอยากจะเสนอตัวเองอยู่"ข้าทำนาได้ปลูกต้นไม้ได้ แล้วก็มีพละกำลัง แต่ไม่ใช่แบบพวกคนไร้ความสามารถนะ พวกงานที่ต้องใช้แรงให้ข้าจัดการได้เลย ในเมื่อที่นี่ขาดคน เช่นนั้นมีคนตัวใหญ่อย่างข้าที่นี่ ไม่ใช้ก็น่าเสียดายนะจริงไหม?""ไม่กล้ารบกวนท่านทูตจากแคว้นหมิ่นหรอก" ฟู่จาวหนิงพูดจบก็หมุนตัวเข้าเรือนไปไป๋หู่ขวางหยวนอี้ไว้ เขาเองก็เข้าไปไม่ได้ ทำได้แค่มองแผ่นหลังของฟู่จาวหนิงอย่างเสียดาย ถอนหายใจออกมา"คุณชายหยวนถ้าหากพุ่งเป้ามาหาจาวหนิงจริง เช่นนั้นก็ล้มเลิกความคิดเสียเถอะ" ฟู่จิ้นเชินเอ่ยขึ้น"คุณชายฟู่ เรื่องนี้ก็น่าจะพูดกับท่านได้กระมัง? อันที่จริงสำหรับพระชายาอ๋องเจวี้ยนแล้ว ก็อาจจะเป็นเรื่องดีด้วยก็ได้""เป็นเจตนาของแคว้นหมิ่น หรือว่าของตัวท่านเองกันล่ะ?""ตอนแรกก็เป็นของตัวข้าเอง แต่ข้าก็กล่อมจักรพรรดิแคว้นของพวกเราไปแล้ว เขาเองก็ฟังเสียงของข้าอ
"ขอบคุณที่ชม"ฟู่จาวหนิงถามกลับอย่างมั่นคง ไม่ได้มีอารมณ์รู้สึกรู้สาอะไรกับคำชมประโยคนี้ของเขาเลย กระทั่งไม่มีอาการตกตะลึงอีกด้วยนี่ทำให้หยวนอี้รู้สึกเกินคาดขึ้นมาเขายังคิดว่าจะทำให้อารมณ์ของฟู่จาวหนิงเปลี่ยนแปลงได้บ้างภายใต้สถานการณ์ที่ตกตะลึงนี้ คิดว่านางจะพูดอะไรออกมาสักประโยคหนึ่งแล้วทำให้เขาเข้าใจความคิดของนางได้อย่างชัดเจนคิดไม่ถึงว่าเขาที่ทำตัวประหลาดออกมา แต่นางกลับนิ่งแบบนี้"ดูท่าหมอฟู่จะได้ยินคำชมมาจนชินแล้วสินะ" หยวนอี้เอ่ยขึ้นฟู่จาวหนิงเองก็ไม่ได้ตอบประโยคนี้ของเขา แต่กลับพิจารณาเขาทั้งตัวหยวนอี้ถูกนางมองจนยืดอกขึ้นด้วยสัญชาตญาณ ยืนตรงแน่วขึ้นมา"ท่านชื่อหยวนอี้ใช่ไหม?" ฟู่จาวหนิงถาม"ขอรับ""ลูกชายหยวนกังทูตแคว้นหมิ่น หยวนอี้ที่ตอนนี้ควรจะคอยสอนขุนนางเกษตรเพาะปลุกอยู่ในเมืองหลวงนั่นน่ะนะ?" ฟู่จาวหนิงพูดออกมาอย่างชัดถ้อยทุกคำหยวนอี้นิ้งค้างไปไม่ใช่สิ นางรู้จักเขาด้วยหรือ?เขาเองก็เลี่ยงพวกหมอหลวงที่รู้จักเขาแล้ว แทบจะพูดได้ว่าซ่อนตัวทั้งคืนเลยทีเดียว ตอนที่เข้ามาก็หลบเลี่ยงคนจากเมืองหลวงที่รู้จักเขาพวกนั้น เตรียมคำพูดเอาไว้เยอะมาก คิดว่าจะพูดอะไรกับฟู่จ
หยวนอี้ตอนที่เข้ามาก็เห็นกับภาพที่ 'สับสนอลหม่าน' นี้เขาประกายตาแล่นวาบ กำลังจะเข้าไปในประตูวงกลม ไป๋หู่ก็หมุนตัวมามองเขา "ช้าก่อน"หยวนอี้โบกไม้โบกมือ "สหายไป๋หู่""อย่าเข้าใกล้นัก เหมือนข้าเคยบอกท่านไว้แล้ว ที่นี่ท่านห้ามเข้าไป" ไป๋หู่เอ่ยขึ้นฟู่จิ้นเชินออกมาจัดการความวุ่นวายนี้ ให้ป้าหนิวป้าหลี่มาช่วยประคององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเข้าไปในห้องเฉินเซียงกลับไม่มีใครสนใจ"พวกเจ้ารังแกกันเกินไปแล้ว..."เฉินเซียงดิ้นรนอยู่พักหนึ่งถึงลุกขึ้นมาได้ นางรู้สึกว่าอวัยวะภายในตนเองปวดร้าวไปหมดเท้าของฟู่จาวหนิงแรงหนักขนาดนี้เชียว!นางไม่เป็นวรยุทธ์เลยจริงหรือ?แต่ว่าฟู่จาวหนิงทำไมถึงกล้า กล้าเตะนางขนาดนี้!สายตาของหยวนอี้เก็บกลับมาจากตัวองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นที่ถูกประคองเข้าห้อง หันไปตกอยู่บนตัวเฉินเซ๊ยงแทน ใต้ตาเกิดความสนใจขึ้นมา"แม่นางไปยั่วหมอฟู่อย่างไรกันเนี่ย?"ฟู่จาวหนิงมองเขา ถามไป๋หู่ว่า "นี่ใครหรือ?""บอกว่าชื่อหยวนอี้ ติดตามหมอหลวงคนหนึ่งเข้ามา อยากจะมาช่วยเหลือที่เมืองเจ้อขอรับ" ไป๋หู่บอกกับฟู่จาวหนิงฟู่จิ้นเชินเดินมาอยู่ข้างๆ ฟู่จาวหนิง กดเสียงลงต่ำ "รู้สึกเหมือนเขาน่าสงสัย
เซียวหลันยวนหมุนตัวจากไปองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นมองแผ่นเหลังเขา จะอย่างไรก็ตั้งสติกลับมาไม่ได้เฉินเซียงเห็นว่าการสนทนาขององค์หญิงใหญ่พังทลายลงแล้ว สีหน้าก็ลนลานขึ้นมา รีบลุกขึ้นมาไล่ตามเซียวหลันยวนไป"อ๋องเจวี้ยน! ท่านทำเช่นนี้ไม่ได้!" หมอเทวดาฟู่วางยาอะไรใส่ท่านใช่ไหม ท่านทำไมถึงได้ใจดำขนาดนี้?นางยังไม่ทันพุ่งออกจากประตูวงกลม ก็ถูกไป๋หู่ฟาดกลับมาไป๋หู่ยังใช้แค่กำลังภายในด้วย แต่ห้ามไม่ให้นางออกไป ไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายนางแต่เฉินเซียงก็ทรุดตัวลงบนพื้น แค่รู้สึกว่าเจ็บเข่าเจ็บก้น มือก็เจ็บ หัวก็ปวดไปหมดนางร้องไห้ออกมา "พวกเจ้าจะมารังแกองค์หญิงใหญ่ของพวกเราแบบนี้ไม่ได้ นางเป็นองค์หญิงใหญ่ที่มีโชคมากที่สุดในต้าชื่อนะ"เซียวหลันยวนเดินไปไกลแล้ว ไม่หันหลังกลับมาไป๋หู่ยืนอยู่ที่ประตูวงกลม มององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นที่นั่งเหม่อลอยอยู่บนพื้น เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ "องค์หญิงใหญ่กลับห้องไปเถิด"จะว่าไปเขาเองก็เป็นคนต้าชื่อเหมือนกัน ก่อนหน้านี้ก็เคยได้ยินเรื่ององค์หญิงใหญ่มามากตอนนี้พอเห็นองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตกต่ำจนน้ำตานองหน้า เขาก็รู้สึกซับซ้อนขึ้นมาหน่อยๆแต่ว่า องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ
หญิงสาวที่น่าสงสาร ตอนเด็กๆ เขาเห็นในวังหลังมาแล้วไม่น้อย มีภูมิคุ้มกันไปนานแล้ว"ข้าไม่ได้จะแย่งชิงอะไรกับหมอเทวดาฟู่ ถ้าเราแต่งกันหลอกๆ ได้ไหม? ข้าแค่ต้องการหาที่ไปเท่านั้น แค่อยากให้ท่านคอยปกป้องข้าไม่กี่ปี ถ้าห้าปีไม่ได้ล่ะก็ สามปีก็พอ"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเห็นเซียวหลันยวนไม่พูดจา จึงหดเวลาลงมาอีก"สามปีนี้ ข้าแค่แบกชื่อพระชายารองไว้ในนามเท่านั้น พออยู่ภายนอกก็ขอให้ท่านอ๋องเล่นละครกับข้าหน่อย แสร้งเป็นสามีภรรยา สามารถปกป้องข้าได้ ในจวนอ๋อง ข้ารับรองว่าจะทำตามหน้าที่ตนเอง เลี่ยงท่านอ๋องให้ห่าง ไม่คิดอะไรเกินเลย""เป็นถึงองค์หญิงใหญ่ต้าชื่อ แต่คิดจะเอาตัวเองไปไว้ในจุดต่ำตมหรือ?" เซียวหลันยวนถาม"อ๋องเจวี้ยนโปรดเมตตา"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นน้ำตาไหลพราก "ข้าไม่มีทางเลือกแล้ว ข้าเอาของให้ท่านได้ ยิ่งไปกว่านั้น โชคของข้าก็ดีมาโดยตลอด ถ้าเป็นพระชายารองอ๋องเจวี้ยนในนาม จะต้องช่วยเหลือท่านอ๋องได้แน่ ไม่ว่าท่านอ๋องจะทำอะไร ก็จะยิ่งราบรื่น ผลลัพธ์สมปรารถนา""องค์หญิงใหญ่มั่นใจกับโชคของตนเองขนาดนี้เชียว?" เซียวหลันยวนได้ยินคำนี้ก็อดนึกขันขึ้นมาไม่ได้"โชคจุดนี้ข้ามีอยู่ ท่านเองก็เชื่อข้าได
เซียวหลันยวนมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นและไม่รู้ว่านางทำไมถึงพูดว่า 'เขาเอามาเองไม่ได้' ออกมา"แล้วของนั่นมันคืออะไรกัน?" เขาถามขึ้นองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นลนลานขึ้นมานางรู้ที่ไหนว่าสิ่งนั้นคืออะไร? มันคือกล่องที่เปิดไม่ได้ แล้วก็มองไม่เห็นว่าด้านในมีอะไรนี่นา?"ตอนนี้ข้ายังบอกท่านไม่ได้ แต่สำคัญกับท่านมากแน่นอน""เจ้าไม่บอกว่าคืออะไร แล้วข้าจะรู้ได้อย่างไรว่ามันจริงหรือไม่จริง? จะว่าไป เจ้าบอกว่าเจ้าฝันเห็นอนาคตได้ นี่มันก็ดูเหลวไหลเกินไปนะ ข้าควรจะเชื่อเรื่องนี้ด้วยไหม?""เรื่องจริงนะ เพราะข้าฝันเห็นแบบนั้น ตอนเด็กๆ ได้พบกับเจ้าอารามยอดเขาโยวชิง เขาบอกว่า ข้าเป็นตัวเลือกที่เหมาะจะเป็นพระชายาของท่านมาก! แล้วยังชี้แนะข้า ให้ข้าเติบโตอย่างดีในสุสานจักรพรรดิ ถ้ายังไม่ถึงเวลาสำคัญอย่าเพิ่งกลับเมืองหลวง"เซียวหลันยวนก็เชื่อคำพูดของนางอยู่ เจ้าอารามยอดเขาโยวชิงอาจจะพูดเหล่านี้กับนางก็ได้ยิ่งไปกว่านั้น ท่านหูที่คุยถ่ายทอดคำพูดเจ้าอารามมาตลอดก็พูดอะไรทำนองนี้แต่เขาไม่เคยรู้สึกว่าชีวิตนี้ต้องไปผูกอยู่บนตัวหญิงสาวคนหนึ่งเลยบางทีอาจจะได้ แต่คนคนนั้นก็อาจจะไม่ใช่คนที่เขากำหนด อย่างจาวหนิง
นางอยากจะให้เซียวหลันยวนไม่พอใจตัวฟู่จาวหนิงเสียเหลือเกินแต่พอสิ้นเสียงนาง เซียวหลันยวนก็หันมามองนาง แม้จะสวมหน้ากากอยู่ แต่เฉินเซียงจู่ๆ ก็สัมผัสได้ว่านางถูกสายตาที่เย็นเยียบแหลมคนฆ่าตายไปแล้วนางใจสั่นวาบ จู่ๆ ก็รู้สึกเสียใจกับคำพูดเมื่อครู่ที่พูดไป แต่ก็สายไปแล้วนางได้ยินคำพูดเย็นชาของเซียวหลันยวนว่า"องค์หญิงใหญ่ถ้าหากมีเรื่องจะคุยกับข้า ก็ให้ทาสของเจ้าไปคุกเข่าอยู่ตรงนั้นก่อน"เซียวหลันยวนชี้ไปที่กลางสวนคุกเข่าที่นั่น คนป่วยทั้งหมดในห้องข้างฝั่งตะวันตกจะมองเห็นเฉินเซียงถลึงตาโตใส่อย่างไม่อยากเชื่อ"อ๋องเจวี้ยน" องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตกตะลึงไป "เฉินเซียงก็แค่ปกป้องข้ามากเกินไปเท่านั้น นางไม่ได้มีความคิดไม่ดี...""ให้นางคุกเข่า ข้าถึงจะฟังเจ้าพูด ถ้านางไม่ทำ ข้าก็จะไปแล้ว" เซียวหลันยวนตัดบทนางเฉินเซียงบอกว่าฟู่จาวหนิงแอบมีชู้กับอันเหนียน เขาจดจำมาโดยตลอด"อ๋องเจวี้ยน เฉินเซียงนางเองก็ป่วย ถ้าไปตากลมหนาวบนพื้น นางจะ...""เช่นนั้นก็ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว"เซียวหลันยวนพูดจบก็หมุนตัวกลับทันทีเฉินเซียงลนลานขึ้นมา "อ๋องเจวี้ยน ข้าจะไปคุกเข่าเดี๋ยวนี้! ท่านโปรดรอก่อน!""เฉินเ