แชร์

บทที่ 1489

ผู้เขียน: จุ้ยหลิงซู
เซียวหลันยวนไม่อยากอยู่ในเมืองหลวงแล้ว

หลายวันนี้ในคุกเขาคิดมาไม่น้อย หลังจากที่คนป่วยคนนั้นถูกส่งเข้ามาเขาก็มีความคิดใหม่

"ข้าไม่มีผืนดินศักดินา" เขาถอนใจ

"ไม่มีหรือ?" อ๋องฉยงยังมีจวนฉยงโจวที่เป็นผืนดินศักดินาเลย ไปยังผืนดินศักดินาก็ยังเรียกว่าอ๋องได้ ยังเลี้ยงทหารเลี้ยงม้าได้ แล้วถ้าเซียวหลันยวนไม่มี ออกจากเมืองหลวงแล้วจะไปที่ไหนกัน?

ตัวตนฐานะของเขาก็ไม่ใช่ธรรมดา ไม่ใช่ว่าจะไปลงหลักปักฐานที่ไหนได้ส่งเดช ถึงตอนนั้นถ้ามีเรื่องอะไรขึ้น จะเป็นขุนนางราชการท้องถิ่นใหญ่กว่า หรือว่าเขาใหญ่กว่ากัน? แล้วต้องฟังใครเล่า?

นางไม่กลัวลำบาก ไม่กลัวว่าจะหาเงินไม่ได้ แต่ว่าเขาไม่ใช่ประชาชนทั่วไป หลายเรื่องก็ยังต้องเจอกับขีดจำกัด

แล้วก็ องค์จักรพรรดิจะให้เขาออกไปได้ง่ายๆ หรือ?

"ข้าถือองครักษ์เงามังกรกับตราประทับแคว้นอยู่ เดิมทีก็ออกจากเมืองหลวงไม่ได้อยู่แล้ว บวกกับก่อนหน้านี้ที่ข้าสุขภาพอ่อนแอ ไท่ซ่างหวงกลัวว่าข้าจะออกจากเมืองหลวงไกลไป ถ้าโรคกำเริบจะไม่มีคนช่วยเหลือ ไม่มีหมอหลวง ไม่มีวัตถุดิบยาอย่างเพียงพอ"

ในเมืองหลวง อย่างน้อยพวกทรัพยากรอะไรก็มีมากที่สุด

ไท่ซ่างหวงตอนนั้นไม่ให้ผืนดินศักดินาก
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1490

    "จะเป็นไปได้อย่างไรกัน? ข้าไม่มีทางทอดทิ้งเจ้าแล้วออกเมืองหลวงไปคนเดียวหรอก""แล้วท่านจะไปที่ไหนล่ะ?"เซียวหลันยวนพานางไปที่ห้องหนังสือ ให้นางดูแผนที่แผ่นดินพื้นที่ของแคว้นเจากว้างขวางมาก เมืองแต่ละแห่งถูกทำสัญลักษณ์ไว้เขาดึงฟู่จาวหนิงมายืนตรงหน้า "พวกเราลองเลือกดูดีไหม?"เหมืองเหล่านั้นล้วนมีขุนนางราชการคอยดูแลอยู่ แล้วยังมีค่ายทหารปักหลักอยู่ด้วยถ้าหากองค์จักรพรรดิยังมีความคิดที่จะเด็ดหัวเขาอยู่ พอพวกเขาเข้าเมือง ก็เท่ากับส่งอ้อยเข้าปากช้าง ทหารทางการของท้องถิ่นคงได้ปิดล้อมพวกเขาแน่ ถึงตอนนั้นพวกเขาถ้าต่อต้าน ก็เท่ากับเป็นกบฏ หรือจะจัดการทหารทางการท้องถิ่นทิ้ง แล้วยืดเมือง?องค์จักรพรรดิคงได้คาดโทษล้อมเมืองสังหารขึ้นมาอีกแน่บนมือเขาไม่มีอำนาจทหาร ต่อให้พาองครักษ์เงามังกรไป ก็ยังไม่เพียงพอจะต้านทานกับกองทหารใหญ่ของแคว้นเจาเซียวหลันยวนมองแผ่นดินผืนนั้นอย่างละเอียด สายตาแฉลบผ่านเมืองไปทีละเมืองๆฟู่จาวหนิงมองอยู่ครู่หนึ่ง ด้วยข้อมูลที่นางรู้อยู่เล็กน้อยนั่น ถึงอย่างไรนางก็ไม่มีทางหาสถานที่ที่เหมาะสมได้ดูมีความรู้สึกเหมือน "แผ่นดินตั้งกว้างใหญ่แต่กลับไม่มีที่ให้ซุกหัวนอน

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1491

    องค์จักรพรรดิเดิมทีวางแผนไว้ดีแล้วสองเดือนนี้เขาได้รับข่าวจากแคว้นหมิ่นมา ว่าแคว้นหมิ่นส่งกลุ่มทูตมากลุ่มหนึ่งอยู่ระหว่างทางมาแคว้นเจา เจ้าแคว้นมีเรื่องจะปรึกษาองค์จักรพรรดิไม่รู้ว่าแคว้นหมิ่นที่ไม่เคยเข้ามาโดยตลอด ทำไมจู่ๆ จึงส่งทูตเข้ามา แต่ก็มาให้เขาได้หยิบยืมโอกาสนี้ บีบให้อ๋องเจวี้ยนส่งตราประทับแคว้นเจากับองครักษ์เงามังกรออกมาได้พอดีก่อนหน้านี้อ๋องเจวี้ยนจะเป็นคนถือตราประทับแคว้นเข้ามาในวังเอง ประทับให้ด้วยตนเอง จากนั้นก็นำมันกลับไปแต่ตอนนี้อ๋องเจวี้ยนออกจากจวนไม่ได้ ก็ทำได้แค่ส่งตราประทับออกมาเท่านั้นแล้วถึงตอนนั้นเขาก็มาใช้โอกาสที่อ๋องเจวี้ยนป่วยหนัก แล้วยังมีโรคติดต่อ มีมีเหตุผลที่จะส่งตราประทับคืนไปให้ แล้วเก็บมันไว้แล้วก็ แคว้นหมิ่นที่แกร่งขนาดนั้น ส่งทูตมาที่แคว้นเจา จะต้องพากำลังทหารชั้นเยี่ยมาด้วยแน่นอน เข้าที่จะพบกับทูต ข้างกายจำเป็นต้องมีองครักษ์เงามังกรคอยคุ้มกันดังนั้นตอนั้นนั้นองครักษ์เงามังกรก็ยังต้องส่งมาที่ข้างกายเขาถ้าส่งมาแล้วก้เอาออกไปมไ่ได้อีก เพราะอ๋องเจวี้ยนป่วยโรคสกปรกนั่น!เหตุผลนี้ใช้ได้เลยจริงๆ !อ๋องเจวี้ยนถ้ายังมัวชักช้า ก็จะเป็นการทำร

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1492

    "สำรอกออกมาหมดหรือ?" เสียงสาวใช้นอกประตูเปลี่ยนไป "แล้ว แล้วหน้าเขาเป็นอย่างไรบ้าง?""ก็เป็นอย่างนั้นนั่นล่ะ ไม่ได้ดีขึ้นเลย เหมือนจะเน่ากว่าเดิมด้วย บนตัวยังมีจุดที่เน่าไปบางส่วนอีก เหม็นจะแย่"คนใช้แทบจะร้องไห้อยู่แล้ว คำพูดก็มีอาการสั่นเทาด้วยสาวใช้เป็นภรรยาของเขา พอได้ยินคำพูดนี้หน้าก็ซีด "แล้วจะทำอย่างไรดี? นี่ไม่ใช่โรคที่ในเมืองหลวงกำลังพูดถึงกันอยู่หรือ? โรคนั้นที่บอกกันว่าอ๋องเจวี้ยนเป็นน่ะ แล้วทำไมถึงระบาดมาบนตัวท่านอ๋องได้?""ข้าจะไปรู้ได้ยังไง!" ชายหนุ่มร้อนรนขึ้นมาเขาจะรู้ได้ยังไง นี่เป็นเรื่องของนายท่านเขา เขาไปยุ่งได้ที่ไหน?"แล้วตอนนี้ทำอย่างไรดี? ได้ยินว่าโรคนี้ระบาดใส่คนไวมาก แล้วเจ้าดูแลท่านอ๋องมาตั้งหลายวันแล้ว นี่ นี่..." ยังจะรอดอยู่ไหม?สาวใช้ประโยคหลังพูดไม่ออก แต่พวกเขาก็รู้ความหมายนี้คนใช้หน้าซีดขึ้นไปอีกถึงแม้เขาจะระมัดระวังมากแล้ว แต่ถึงอย่างไรก็ดูแลท่านอ๋องมาแล้วหลายวัน จะไม่ติดได้อย่างไรกัน?โดยเฉพาะตอนที่เห็นภรรยาตนเองถอยห่างออกไปตั้งหลายก้าว มีท่าทีเหมือนมองเขาเป็นสัตว์ร้าย เขายิ่งรู้สึกเหมือนถูกกระตุ้น"ข้าไม่อยากทำแล้ว ท่านอ๋องทำไมไม่อยู่

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1493

    พวกเขาก็ได้ยินข่าวลือเรื่องที่อ๋องเจวี้ยนติดโรคระบาดแล้ว ในใจก็ไม่ค่อยสงบเอาเสียเลย"องค์จักรพรรดิทำเพื่ออ๋องเจวี้ยนหรือเปล่า?" หมอหลวงคนหนึ่งคาดเดาพอได้ยินคำพูดเขา ทุกคนก็มองหน้ากัน ในใจแม้จะรู้สึกว่าไม่น่าเป็นไปได้ แต่ก็เหมือนนอกจากเหตผลนี้แล้วก็ไม่มีอย่างอื่นอีก"โรคนี้ยังรักษาไม่ได้ ถ้ารักษาจนหายในระยะแรกๆ หน้าก็ยังเป็นหลุมเป็นบ่อเลย...""ก่อนหน้านี้บอกกันว่าหน้าของอ๋องเจวี้ยนยับเยินหมดแล้ว ถ้าบวกเจ้านี่ไปด้วย ก็เหมือนจะไม่แตกต่างอะไรกันแล้วนะ" มีคนถอนหายใจขึ้นหนักๆเฮ้อ ถึงอย่างไรก็พังไปแล้ว ความสง่างามของอ๋องเจวี้ยน กำลังจะกลายเป็นอดีตที่ไม่อายย้อนกลับไปได้เสียแล้ว"องค์จักรพรรดิในเมื่อรับสั่งแล้ว เช่นนั้นพวกเราก็ต้องรีบไปค้นคว้าเสียที""ใช่เลยใช่เลย ทำเท่าที่ทำได้ สุดแล้วแต่โชคชะตา"แต่ถึงอย่างไรในใจพวกเขาก็ยังไม่สงบองค์จักรพรรดิบอกว่าให้ค้นคว้าสกัดยาก็ไปค้นคว้า แต่พวกเขาอันที่จริงก็ไม่ได้มีความมั่นใจเอาเสียเลย"ถ้าหากพระชายาอ๋องเจวี้ยนมาค้นคว้ากับพวกเราได้ก็คงดี นางเข้าร่วมสมาคมหมอใหญ่ไปแล้ว นางจะรักษาเจ้าโรคนี้ได้ไหม?" มีหมอหลวงที่หนุ่มหน่อยคนหนึ่งจู่ๆ ก็คิดถึงฟู่จ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1494

    ผู้อาวุโสจี้พอได้ยินเสียงใสของนาง จึงนึกออกขึ้นมาซิ่วหงคนนี้คือลูกสาวของคนที่อยู่ในซอยด้านหลังเรือนเล็กของเขาเพียงแต่ในเมืองหลวงเขาไม่ค่อยได้อยู่เท่าไรนัก สามปีก่อนแม่นางคนนี้ก็เข้าวังไปแล้ว ต่อมาตอนที่ได้ออกมาครั้งหนึ่ง ปู่ของนางก็ป่วยพอดีจำเป็นต้องใช้วัตถุดิบยา จึงมาขอให้เขาช่วยซื้อให้หน่อย"รีบลุกขึ้นมาสิ นั่งบนหิมะไม่เย็นหรือ? ไม่เป็นไรใช่ไหม?"ซิ่วหงลุกขึ้นยืน ตบๆ หิมะบนตัวออก กระโปรงเลอะไปบ้าง แต่นางก็ไม่สนใจหยิบของที่หล่นลงไปบนพื้นขึ้นมา นางก็หันไปตอบผู้อาวุโสจี้ "ข้าไม่เป็นไร""นี่จะกลับบ้านหรือ? ขึ้นมาสิ ไปส่งเจ้าได้พอดี"ซิ่วหงขึ้นรถม้า ขอบคุณกับผู้อาวุโสจี้ยกใหญ่วัตถุดิบยาที่ขาดไปของปู่นางตอนนั้น มีแค่ผู้อาวุโสจี้ที่มี ดังนั้นผู้อาวุโสจี้จึงถือเป็นผู้มีพระคุณของบ้านพวกนางซิ่วหงมองผู้อาวุโสจี้ ในใจว้าวุ่นมากนี่คือผู้มีพระคุณ แล้วสิ่งที่นางได้ยินมาเหล่านั้น ก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดกับเขาไหม"มีอะไรจะพูดหรือ?" ผู้อาวุโสจี้เห็นท่าทางของนางเหมือนจะอดรนทนไม่ไหว แม่นงคนนี้มีสีหน้าว้าวุ่นอยู่ตลอด เขามองจนรู้สึกแย่เลยมีอะไรก็พูดมาสิ อดกลั้นแบบนั้นมันไม่ดี นางไม่เป็นไรแต

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1495

    ซิ่วหงพยักหน้า จู่ๆ ก็นึกอะไรออก ตกตะลึงไปทันที "ผู้อาวุโสจี้ นั่นคืออาข้ากับลูกชายของนาง แต่ครอบครัวพวกเขาเป็นชาวนาที่เช่าที่ดินอยู่ในอุทยานนอกเมือง แล้วที่ดินที่พวกเขาเช่าอยู่คือที่ดินของชินอ๋องเซียว"ชาวนาเช่าที่ของบ้านชินอ๋องเซียว?ผู้อาวุโสจี้ขมวดคิ้ว ถึงแม้เขาจะไม่รู้ว่าจวนชินอ๋องเซียวเกิดอะไรขึ้น จะเกี่ยวข้องอะไรกับอ๋องเจวี้ยนหรือไม่ แต่เมื่อครู่ฟู่จิ้นเชินก็บอกเขาแล้ว ว่าเรื่องที่จวนอ๋องเจวี้ยนปิดประตูไม่รับแขกนั้นเกี่ยวข้องกับจวนชินอ๋องเซียวฟู่จิ้นเชินหาข่าวมาแล้ว วันนี้จวนชินอ๋องเซียวก็ปิดบ้านไม่รับแขกเช่นกันทั่วเมืองกำลังลือเรื่องที่อ๋องเจวี้ยนติดโรคสกปรกนั่น แล้วชินอ๋องเซียวที่ถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าวังล่ะ? จะเป็นไปด้วยไหม?ชินอ๋องเซียวหลังจากสิ้นปีก็ไม่ปรากฏตัวเลย ไปที่ไหนกัน? บวกกับข่าวในวังที่ซิ่วหงนำมาบอก เขารู้สึกว่าเรื่องเหล่านี้เหมือนจะเกี่ยวข้องกันสมองผู้อาวุโสจี้หมุน รู้สึกผิดปกติขึ้นมาทันที"เจ้าอย่าเพิ่งลงจากรถ รอให้แม่ลูกพวกเขาไปก่อนแล้วค่อยลงไป"ซิ่วหงเองก็ลนลาน ไม่กล้าลงจากรถม้าแล้ว รออยู่บนรถม้าอาของนางทุบประตูอยู่พักหนึ่ง พอประตูไม่เปิด นางก็โมโหแล้

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1496

    ฟู่จาวหนิงอ่านเนื้อหาจดหมาย แล้วสบตากับเซียวหลันยวน"ชินอ๋องเซียวติดโรคเร็วกว่าที่ข้าคิดไว้ เจ้าโรคนี้รุนแรงจริงๆ"ชินอ๋องเซียวคิดจะให้เซียวหลันยวนติดโรคนั่น นางจึงใช้วิธีนี้เล่นงานคืน แต่เดิมทีคิดว่าอย่างน้อยก็ต้องสักสิบวันครึ่งเดือนถึงจะติด นี่เพิ่งจะหกเจ็ดวันเท่านั้น"ข้าจะส่งคนไปสำรวจอาการของเขาหน่อย" เซียวหลันยวนเรียกสืออีเข้ามา กำชับไปสองสามคำฟู่จาวหนิงเองก็ไม่คิดจะไปดูแผนที่แล้ว "ให้คนจับตาดูอุทยานนั่นไว้ อย่าให้คนในอุทยานนั่นเข้าเมืองแต่ว่าคนของอุทยานคนนั้น...""ข้าจัดการเอง"เซียวหลันยวนรู้ว่านางพูดถึงอะไร กลัว่าจะลำบากไปถึงคนของอุทยานคนอื่นสินะฟู่จาวหนิงยังเชื่อใจเขา พยักหน้าให้"ข้าจะไปสกัดยาต่อ ถ้าโรคนี้ระบาดออกมาจริง ก็ต้องมียาเอาไว้รักษา""การสัมผัสปกติ น่าจะไม่ระบาดใช่ไหม?" เซียวหลันยวนถามนี่อันที่จริงก็เป็นสาเหตุที่ฟู่จาวหนิงใช้โรคนี้ในการเอาคืนชินอ๋องเซียว"ใช่ การสัมผัสทั่วไปจะไม่ระบาด ดังนั้นน่าจะไม่ถึงกับกินบริเวณกว้างนัก ขอแค่ควบคุมขอบเขตเอาไว้ก็จะไม่เกิดปัญหาใหญ่""กลัวแค่ว่าชินอ๋องเซียวกับเซียวเหยียนจิ่งจะใช้วิธีหยาบช้าน่ะสิ" เซียวหลันยวนรู้สึกว่า

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1497

    ฟู่จาวหนิงเองก็ป้องกันไว้ก่อน ระวังเอาไว้หน่อยไทเฮาตอนที่กลับมา ชินอ๋องเซียวน่าจะยังไม่ได้ล้มป่วยจนถูกส่งไปที่อุทยานนั่น แต่เขาเองก็ส่งคนไปหาคนป่วยนั่นจนทั่ว น่าจะมีบางส่วนที่ใช้คนในอุทยานด้วย เพราะคนที่ยากจนเหล่านั้น น่าจะรู้มากกว่าว่าจะไปหาคนป่วยหนักแล้วไม่มีเงินรักษาได้จากไหนส่วนไทเฮาจะยอมดื่มหรือไม่ ไม่ได้อยู่ในขอบเขตที่นางพิจารณา ยาก็ส่งไปแล้ว นางจะดื่มก็ดื่ม ไม่ดื่มก็ตามนั้นกุ้ยหมัวมัวมองออกถึงท่าทีของนาง แต่ก็ยังตัดสินใจเตือนให้ไทเฮาดื่มยาตัวนางเองก็เห็นแล้ว ว่าคนอื่นๆ ในจวนชินอ๋องเซียวล้วนดื่มกันหมด"เอาเถอะ ในเมื่อเป็นยาของจาวหนิง ข้าก็จะไม่ถามมากแล้วกัน" ไทเฮารับยาไป ยกขึ้นดื่มอย่างไม่ลังเลสาวใช้เข้ามารับชาม บอกกับผู้ดูแลผู้ดูแลจงตอนที่ไปพบฟู่จาวหนิงก็บอกเรื่องนี้กับนางบอกว่าไทเฮาดื่มยาจนหมดโดยไม่ลังเลฟู่จาวหนิงพอได้ยินคำนี้ ก็หันไปคุยกับเซียวหลันยวนสองสามคำ"ถ้าหากพวกเราไปจริงๆ แล้วไทเฮาล่ะ?" ตอนนี้ดูท่าไทเฮาเองก็ยืนอยู่ฝั่งเซียวหลันยวนด้วย รับสั่งองค์จักรพรรดิครั้งนี้ที่ให้ไทเฮาอยู่ในจวนอ๋องเจวี้ยน เห็นได้ชัดว่ามีความคิดจะทำร้ายนาง ถ้าพวกเขาจากไปแล้ว ไทเฮา

บทล่าสุด

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1808

    นางอยากจะให้เซียวหลันยวนไม่พอใจตัวฟู่จาวหนิงเสียเหลือเกินแต่พอสิ้นเสียงนาง เซียวหลันยวนก็หันมามองนาง แม้จะสวมหน้ากากอยู่ แต่เฉินเซียงจู่ๆ ก็สัมผัสได้ว่านางถูกสายตาที่เย็นเยียบแหลมคนฆ่าตายไปแล้วนางใจสั่นวาบ จู่ๆ ก็รู้สึกเสียใจกับคำพูดเมื่อครู่ที่พูดไป แต่ก็สายไปแล้วนางได้ยินคำพูดเย็นชาของเซียวหลันยวนว่า"องค์หญิงใหญ่ถ้าหากมีเรื่องจะคุยกับข้า ก็ให้ทาสของเจ้าไปคุกเข่าอยู่ตรงนั้นก่อน"เซียวหลันยวนชี้ไปที่กลางสวนคุกเข่าที่นั่น คนป่วยทั้งหมดในห้องข้างฝั่งตะวันตกจะมองเห็นเฉินเซียงถลึงตาโตใส่อย่างไม่อยากเชื่อ"อ๋องเจวี้ยน" องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตกตะลึงไป "เฉินเซียงก็แค่ปกป้องข้ามากเกินไปเท่านั้น นางไม่ได้มีความคิดไม่ดี...""ให้นางคุกเข่า ข้าถึงจะฟังเจ้าพูด ถ้านางไม่ทำ ข้าก็จะไปแล้ว" เซียวหลันยวนตัดบทนางเฉินเซียงบอกว่าฟู่จาวหนิงแอบมีชู้กับอันเหนียน เขาจดจำมาโดยตลอด"อ๋องเจวี้ยน เฉินเซียงนางเองก็ป่วย ถ้าไปตากลมหนาวบนพื้น นางจะ...""เช่นนั้นก็ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว"เซียวหลันยวนพูดจบก็หมุนตัวกลับทันทีเฉินเซียงลนลานขึ้นมา "อ๋องเจวี้ยน ข้าจะไปคุกเข่าเดี๋ยวนี้! ท่านโปรดรอก่อน!""เฉินเ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1807

    สิ่งที่ทำให้ตาองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นขุ่นเคืองคือ ฟู่จาวหนิงคล้องแขนอ๋องเจวี้ยนเดินเข้ามา"พวกเขาทำไมถึงคล้องแขนกันเดินแบบนั้นล่ะ?"เฉินเซียงถลึงตาโตนางไม่เคยเห็นสามีภรรยาเดินกันแบบนี้เลย ปกติแล้ว ภรรยาจะเดินอยู่ด้านหลังสามีประมาณครึ่งก้าวนี่ หรืออย่างมากก็ไหล่ชนไหล่แต่พออยู่ภายนอกก็ต้องคอยระวังเรื่องมารยาท มีใครเขามาคล้องแขนเดินกันแบบนี้บ้าง?ยิ่งไปกว่านั้นตัวฟู่จาวหนิงเองก็ยังเอนมาเบียดแขนอ๋องเจวี้ยนด้วย"นางเดินแบบนี้มันดูสง่างามตรงไหน บิดๆ เบียดๆ เงอะงะงุ่มง่ามเหมือนอะไรล่ะนั่น?" เฉินเซียงกดเสียงต่ำ พูดแบบไม่พอใจกับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น "นี่มันดูเป็นพระชายาตรงไหนกัน?"เหมือนพวกอนุภรรยาที่เอาแต่เบียดเสียดชายหนุ่มมากกว่าพระชายาตัวจริงต้องมีท่าทีสง่างาม มีคุณธรรม บุคลิกภาพโดดเด่นสิทำตัวออดอ้อนแบบนี้ มันเหมือนกับปีศาจสาวที่อยากจะสูบพลังหยางจากชายหนุ่มจนตัวสั่นอย่างไรอย่างนั้น เหมือนพวกอนุภรรยาที่ไร้เกียรติเฉินเซียงถึงอย่างไรก็ไม่ชินตาแต่ไม่รู้เพราะอะไร องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นกลับรู้สึกอิจฉาจนควบคุมไม่อยู่ชายหนุ่มที่เย็นชาขนาดนั้นแบบอ๋องเจวี้ยน ก็ยังตามใจให้ฟู่จาวหนิง แล้วยังปร

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1806

    "ข้ารู้แล้ว อีกเดี๋ยวข้าจะออกไป" เซียวหลันยวนพยักหน้าฟู่จิ้นเชินเงียบไปครู่หนึ่งจึงเอ่ยว่า "นางน่าจะมีเรื่องมาขอร้องท่าน แต่ว่า เรื่องที่นางจะขอร้องข้าเองก็พอจะนึกออก"เขาอยากบอกว่า เรื่องแบบนี้ ถ้าหากรับปากไป ไม่ว่าจะมีความสัมพันธ์สามีภรรยากับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นหรือไม่ แต่การที่พานางเข้าไปในจวนอ๋องเจวี้ยน ถือเป็นการทรยศและทำร้ายจาวหนิงแต่ก็ไม่อยากพูดออกมาตอนนี้เขาอยากจะเห็นว่าเซียวหลันยวนจะเลือกอย่างไร ที่สำคัญที่สุดคือ เขาเองก็ไม่รู้ว่าเงื่อนไขที่องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นงัดออกมาได้คืออะไร ถ้าเผื่อมันสำคัญอย่างมากกับเซียวหลันยวนจริงๆ ล่ะ?"ท่านพ่อตาอยากพูดอะไรหรือ?" เซียวหลันยวนย้อนถามเขา"อ๋า?"ฟู่จิ้นเชินถูกคำเรียก 'ท่านพ่อตา' ที่มาอย่างกะทันหันนี้ทำเอางงงันไปหมด ตั้งตัวกลับมาไม่ได้ชั่วขณะหนึ่งเซียวหลันยวนก็พูดต่อมาอีก "วางใจเถิด ข้าไม่ทำเรื่องที่ผิดกับหนิงหนิงแน่นอน"พูดจบเขาก็หมุนตัวเตรียมเข้าห้อง ""หากไม่มีเรื่องอะไร คนป่วยทางนั้นรบกวนท่านดูไว้หน่อย ให้หนิงหนิงได้กินข้าวเช้าก่อนพอเซียวหลันยวนเข้าห้องไป ประตูก็ปิดลงมา ฟู่จิ้นเชินมองไปทางชิงอีที่อยู่ข้างๆ ช้าๆชิงอีเองก็

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1805

    องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นถูกคนเหล่านี้พูดจนตาแทบแดงก่ำนางไม่ยอมให้เป็นแบบนี้!นางเองก็มีเกียรตินะ นางเป็นถึงองค์หญิงใหญ่ เดิมทีควรจะล้ำค่าสูงส่ง สามารถเลือกราชบุตรเขยดีดีได้แต่ตอนนี้นางมีทางเลือกอะไรล่ะ?ถ้าไม่ใช่เพราะนางมีพระเชษฐาแบบนั้น นางคงไม่ต้องทำให้มาถึงจุดนี้หรอกนางแค่อยากจะช่วยตนเองเท่านั้น แล้วมันผิดตรงไหน? ถ้าหากทำได้ นางก็ไม่อยากไปทำร้ายใครทั้งนั้น นางเป็นคนที่มดแค่ตัวเดียวก็ยังทำใจเหยียบไม่ลงด้วยซ้ำ"รบกวนท่านลุงฟู่ด้วย ข้ามีเรื่องสำคัญจริงๆ"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นคารวะให้ฟู่จิ้นเชินอีกครั้ง ถอยไปที่ประตูวงกลมทางนั้นเฉินเซียงถลึงตาใส่ห้องนั้น คารวะให้ฟู่จิ้นเชินอีกครั้ง "รบกวนท่านลุงฟู่ช่วยเหลือด้วย องค์หญิงใหญ่พวกรเาจะไปรออ๋องเจวี้ยนที่นั่น"พูดจบนางก็รีบเดินไปหาองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นฟู่จิ้นเชินส่ายหัวเขาก็เหมือนรู้ว่าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตกอยู่ในสภาพไหน มาเจอกับฝ่าบาทต้าชื่อแบบนั้น นางเองอันที่จริงก็น่าสงสารแต่ว่า ท้ายสุดแล้วนางก็ยังไม่ฉลาดพอ เส้นทางที่เดินได้ นางกลับเดินอย่างสะเปะสะปะแต่พูดมาก็ถูก นางเติบโตมาที่สุสานจักรพรรดิ ไม่ค่อยได้พบเจอกับผู้คนสักเท่าไร และย

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1804

    ก่อนหน้านี้ทรมานหมอฟู่ไว้มาก สาวใช้นั่นยังบอกว่าหมอฟู่กับนายท่านเป็นอะไรอะไรกันอีก ป้าหนิวเห็นแล้วไม่สบอารมณ์องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ถูกนางเหลือบมองใส่แบบนี้จนอายไปเฉินเซียงกลับถลึงตามองแผ่นหลังป้าหนิวเจ้าคนชั้นต่ำ นังคนชั้นต่ำ กล้ามามององค์หญิงใหญ่พวกนางแบบนี้เรอะฟู่จิ้นเชินตอนนี้จึงหมุนตัวหันไปมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ถามขึ้นว่า "องค์หญิงใหญ่จะพบอ๋องเจวี้ยน เพราะอยากให้อ๋องเจวี้ยนพาท่านไปเมืองหลวงหรือ? ถ้าหากมีเป้าหมายนี้ เช่นนั้นข้าบอกท่านไว้ได้เลย ว่าท่านยังออกจากเมืองเจ้อไม่ได้"ฟู่จาวหนิงกับอันเหนียนผู้บริหารท้องถิ่นโหยวสามฝ่ายตกลงกันแล้ว ตอนนี้ประตูเมืองปิดอยู่ ใครอยากจะออกจากเมือง ต้องยื่นจดหมายออกจากเมืองมา ถ้าบนต้องมีผู้บริหารท้องถิ่นโหยวใต้เท้าอันและหมอฟู่สามคนลงนาม ขาดไปสักคนก็ไม่ได้ถ้าหากไม่มีจดหมายออกจากเมืองที่มีนามทั้งสาม ใครก็ออกไปไม่ได้ทั้งนั้นแล้วอาการป่วยอย่างองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ฟู่จาวหนิงไม่มีทางปล่อยนางออกไปแน่ไหนจะเรื่องที่นางจะตามอ๋องเจวี้ยนไปอีกฟู่จิ้นเชินตอนนี้รู้สึกว่าสมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตอนนี้ไม่ค่อยดีนัก แค่คิดก็รู้แล้ว ฟู่จาวหนิงจะยอมให้อ๋องเ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1803

    ฟู่จาวหนิงถูกจูบจนเคลิ้มหลับไปอีกรอบเซียวหลันยวนได้ยินเสียงหายใจลึกของนางแล้วก็จนใจเขาเลือดพุ่งขึ้นมาแล้ว แต่นางกลับหลับไป ดูท่าในเมืองเจ้อระยะนี้นางคงจะเหนื่อยมากจริงๆเขาเองก็ไม่ได้ทรมานนาง กอดนางแล้วหลับไปองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเดิมทีกำลังรอว่าจะฝันอีกครั้ง ดีที่สุดคือได้ฝันเห็นลุงหวังพูดอะไรกับอ๋องเจวี้ยนว่ากล่องใบนั้นเปิดอย่างไรแต่เมื่อคืนนี้นางก็ฝันจริงๆ น่าเสียดายที่ฝันร้าย ในฝันตนเองอยู่ในตำหนักเพียงคนเดียว จะอย่างไรก็ออกไปไม่ได้ และไม่มีใครด้วย ทุกแห่งมีแต่แสงทึม ในความมือเหมือนมีเสียงอะไรที่น่ากลัว ทำให้นางรู้สึกกลัวมากหลังจากสะดุ้งตื่น องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นก็เหงื่อท่วมไปทั้งตัว"องค์หญิงใหญ่ ท่านฝันร้ายหรือ?" เฉินเซียงถูกนางทำสะดุ้งตื่นตาม รีบลุกขึ้นนั่งองค์หญิงใหญ่ไม่ค่อยฝันร้ายเท่าไร แต่บางครั้งก็จะฝันร้ายบ้างสักครั้ง แสดงว่าช่วงเวลานั้นจะผ่านไปได้ไม่ค่อยดีนักเฉินเซียงเครียดขึ้นมาแล้วพวกนางตอนนี้ผ่านความน่าเวทนามากมาแล้ว ไม่น่าแย่กว่านี้แล้ว ไม่เช่นนั้นนางคงทนรับไม่ไหวแล้วนางมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นอย่างตึงเครียด หวังว่านางจะปฏิเสธแต่นางก็ยังผิดหวัง องค์หญิงใ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1802

    "รุ่นหลังของตระกูลปันมีกี่คนหรือ?""รุ่นหลังของตระกูลปันก็มีอยู่ไม่น้อยเลย พวกเขามีช่างที่มีฝีมือ ในตอนนั้นหลบหนีจากภัยพิบัติได้ เหลือรุ่นหลังเอาไว้ ตอนนี้คนที่มีอำนาจในตระกูลปันชื่อว่าปันมู่ พวกเขาไหว้วานขบวนพ่อค้าให้ส่งจดหมายเข้ามา บอกว่าคนเองก็อยู่ระหว่างทางมาแคว้นเจาแล้ว"ปันมู่เซียวหลันยวนจำชื่อนี้ไว้"แล้วเจ้าเป็นรุ่นหลังจากตระกูลไหนกัน?""ใต้ฝ่าพระบาท ข้าคือรุ่นหลังจากตระกูลเหมิ่ง ตอนนั้นปู่ข้าได้รับมอบหมายงานกะทันหัน ทิ้งสิ่งของเพื่อส่งมอบให้กับจักรพรรดิรุ่นใหม่ องค์หญิงใหญ่จากไปแล้ว แต่ยังทิ้งลูกหลานไว้ ก็คือฝ่าพระบาทนั่นเอง ข้าระลึกเสมอว่าต้องนำสิ่งของส่งให้ถึงมือท่าน"แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าใช่เขาหรือไม่ เขาได้รับสิ่งของที่จักรพรรดินีทิ้งไว้แล้วหรือยัง เขาส่งเครื่องพยากรณ์ออกไปสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้"เจ้าหมายถึงเครื่องพยากรณ์หรือเปล่า?""ใต้ฝ่าพระบาทรู้จริงๆ ด้วย ใช่แล้ว ของสิ่งนี้อยู่ในมือข้ามาหลายปีแล้ว ข้าปกป้องเอาไว้ไม่ค่อยปล่อยไปไหน ตอนนี้ก็ส่งให้กับมือใต้ฝ่าพระบาทได้เสียที ในที่สุดข้าก็ได้พักผ่อนเสียที..."ลุงหวังบอกถึงตำแหน่งที่ซ่อนเครื่องพยากรณ์เซียวหลันยวนฟังเ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1801

    ฟู่จาวหนิงเก็บเครื่องพยากรณ์กลับเข้าไปในมิติ แล้วก็ถูกเซียวหลันยวนกอดเข้าไปในผ้าห่มเขาคลุมผ้าห่มนางให้ดี จูบไปที่ปากนางเบาๆ เอ่ยขึ้นแผ่วเบาว่า "เจ้าก็นอนให้สบาย ข้าจะทำการอย่างระวัง""ได้"เซียวหลันยวนเป่าเปลวเทียน ออกประตูไปอย่างแผ่วเบา"ท่านอ๋อง?" ชิงอีออกมาจากมุมมืดรู้สึกเกินคาดหน่อยๆ ที่ท่านอ๋องจะออกไปตอนดึกขนาดนี้ คืนนี้ไม่ใช่ควรอยู่กับพระชายาหรอกหรือ?"ไป" เซียวหลันยวนกลับไม่อธิบายอะไรมากตอนมาถึงทางตาเฒ่าอู๋ ในคืนเงียบสงัดเช่นนี้ กลับได้ยินเสียงไอค่อกแค่กอยู่แค่กๆๆๆมีทั้งที่ดังขึ้นครั้งสองครั้ง และมีที่ดังขึ้นต่อเนื่องไม่หยุดมีทั้งที่ดังจนปอดแทบฉีก ทำเอาคนที่ไม่ไอฟังแล้วรู้สึกคันขึ้นมาที่คอเลย แทบจะไอตามไปด้วย"ท่านอ๋อง คนเหล่านี้ป่วยหนักมาก" ชิงอีเอ่ยขึ้นเสียงต่ำเขาเห็นว่าท่านอ๋องยังมาที่ตาเฒ่าอู๋ทางนี้ จึงรู้สึกกังวลขึ้นหน่อยๆ"อืม ดังนั้นหวังว่าจาวหนิงจะค้นคว้ายาที่สามารถสะกดอาการป่วยนี้ออกมาได้ ไม่ให้มันระบาดต่อไปอีก ไม่เช่นนั้นก็ไม่อยากจะคิด"เซียวหลันยวนถึงแม้จะปวดในที่ฟู่จาวหนิงอยู่ที่นี่ แต่เขาก็เข้าใจดี ตอนนี้เมืองเจ้อต้องการนางจริงๆไม่ใช่แค่เมืองเ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1800

    "ท่านเองก็ลองดูสิ" นางส่งคืนกลับให้เขาเขายังไม่ทันได้ดูเลยน กลับส่งให้นางดูก่อนเสียแล้วเซียวหลันยวนรับมา หยิบไปวางไว้ตรงหน้าในใจเขาเองก็สั่นสะเทือนเช่นกันนี่มันยอดเยี่ยมมาก"เครื่องพยากรณ์นี้ ในตงฉิงถือได้ว่าเป็นสมบัติเลยกระมัง?" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้น"อืม" เซียวหลันยวนวางเครื่องพยากรณ์ลง พยักหน้า "ราชครูจะสืบทอดต่อให้เป็นรุ่นๆ ถ้าหากบนมือไม่มีเครื่องมือพยากรณ์ ราชครูก็จะไม่เป็นที่ยอมรับอย่างชอบธรรม ยิ่งไปกว่านั้น คนตงฉิงก็ยังเชื่อว่า ผลลัพธ์ที่ไม่ได้ออกมาจากการคาดการณ์ของเครื่องมือพยากรณ์ ล้วนไม่แม่นยำทั้งสิ้น""นั่นเท่ากับเป็นสิ่งที่เครื่องพยากรณ์สิบห้าปีใหม่คำนวณออกมาใช่ไหม? แล้วเก่ากว่านั้นล่ะ""ที่เก่ากว่านั้นจะถูกประทับตราเป็นของไม่ใช้งานแล้ว แล้วปิดผนึกไว้ในสุสานจักรพรรดิ"หรือก็คือ ขอแค่ไม่มีชิ้นใหม่ออกมา บนโลกนี้ก็จะมีแค่เครื่องพยากรณ์ที่กำลังใช้งานอยู่เพียงชิ้นเดียวเท่านั้น"แล้วลุงหวังคนนั้น คงจะไม่ใช่รุ่นหลังของราชครูตงฉิงหรอกกระมัง?" ฟู่จาวหนิงถามขึ้นเซียวหลันยวนนิ่งงันไปพักหนึ่ง ตอบว่า "อันที่จริงก่อนหน้านี้ข้าก็คาดเดามาตลอด เจ้าอารามต่างหากที่น่าจะเป็น"ฟู่

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status