แชร์

บทที่ 6 ถุงหอมสื่อรัก

ผู้เขียน: Mochi Sa
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-07 14:57:42

หนึ่งเดือนผ่านไปไวเหมือนโกหก ลี่ชิงอาศัยอยู่ในจวนสกุลเฉิน แม่สามียังไม่มองหน้าเหมือนเดิม ส่วนสามีก็ออกไปทำงานที่ร้านค้า

เฉินเซียวหลางสุดหล่ออายุ 25 ปี นับว่าแก่ในยุคนี้ แต่ในสายตาของนางสาวสมหญิง บุญเมตตานั้น ถือว่าได้สามีเด็กกว่าอายุวิญญาณถึงสองรอบ วิญญาณยัยป้าอายุ 48 ปีได้สามีเด็กอายุ 25 ปี ฮึ ๆ ๆ ๆ สวรรค์ส่งชัด ๆ

สกุลเฉินมีร้านค้าขนาดกลางเป็นร้านค้าข้าวและพวกพืชผลทางการเกษตร ลี่ชิงยังไม่มีโอกาสไปเห็นร้านค้านี้เพราะวัน ๆ นางเอาแต่เลี้ยงลูกน้อยวัยหนึ่งเดือนเศษอยู่ที่เรือนพัก 

เรือนหลีฮวาเป็นเรือนขนาดเล็กมีเพียงสองห้องนอน ห้องสุขา ห้องครัว ห้องนั่งเล่น แต่นี่ก็นับว่าใหญ่กว่าบ้านหลังเล็กทรงโมเดิร์นของป้าสมหญิงเมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ 

ลี่ชิงกำลังจะอายุครบสิบเจ็ดปีในปีนี้ ใกล้ถึงวันเกิดของนางแล้วด้วยเหลือเวลาอีกเพียงสามวันเท่านั้น

จะขอพรอะไรดีน๊า ตอนนี้ก็มีครบแล้ว มีลูกตัวอ้วนถึงสองตัว เอ๊ย สองคน สามีก็หล่อ มีบ้านซุกหัวนอน มีแม่สามีด้วย ถึงทำท่าทีเหมือนรังเกียจสะใภ้แต่ก็ส่งยาบำรุงร่างกายฝากมาให้ไม่ได้ขาด คงกลัวว่าสองหมูตอนจะไม่ได้รับน้ำนมที่มีคุณภาพ อานิสงส์แห่งเจ้าก้อนซาลาเปาทำให้ลี่ชิงได้รับอาหารดี ๆ พร้อมยาบำรุงร่างกายไปด้วย

ลี่ชิงเดินไปส่องกระจกเป็นรอบที่ 5 แหวกสาบเสื้อมองดูอกขนาดใหญ่เบิ้ม สตรีให้นมบุตรหน้าอกใหญ่ขึ้นอีกแทบจะสองคัพ ร่างบางพยักหน้าด้วยความพึงพอใจพลางก้มมองพุงกะทิที่ยังเหลืออยู่จากการคลอดบุตร พุงยุบลงไปมากแล้ว เพราะคุณป้าสมหญิงใช้ทฤษฎีและการปฏิบัติตนเรื่องการอยู่ไฟหลังคลอด ใช้ภูมิปัญญาที่เคยเรียนรู้มาจากภพก่อนมาดูแลรักษาร่างกายอันงดงามนี้ให้เปล่งปลั่งสวยวันสวยคืน เลือกกินแต่อาหารที่มีประโยชน์ อาบน้ำร้อนต้มกับสมุนไพร

นางให้สามีทำแคร่สำหรับอยู่ไฟให้ ถือเป็นสิ่งใหม่ในยุคนี้ แต่เฉินเซียวหลางก็มิได้ขัดข้อง เขาทำตามใจภรรยา หาถ่านไม้อย่างดีมาให้นางอยู่ไฟหลังคลอด เรือนร่างของลี่ชิงจึงเข้าที่เข้าทางอย่างรวดเร็ว

สาวน้อยขึ้นไปนั่งแหกขาอยู่บนเตียง เอากระจกมาส่องดูแผลน้องจิ๊มิ๊หรือเรียกว่าน้องโจ๊ะโม๊ะ แผลน้องโจ๊ะโม๊ะแห้งสนิทดีแล้วเหลือเพียงรอยจางๆ สีชมพูเข้ม ส่องดูผิวพรรณอันผุดผาดระเรื่อขาวอมชมพูของตนแล้วได้แต่อมยิ้ม

อูวววว ขาวสวยเหลือเกิน 

ลี่ชิงหวีผมนุ่มสยายปล่อยยาวลงถึงกลางหลัง แหวกดูเรือนผมของตนก็ไม่เจอผมหงอกแม้แต่เส้นเดียว

ลี่ชิงถอดอาภรณ์ออกระหว่างรออาบน้ำ เหลือเพียงเอี๊ยมบางเบากับกางเกงสั้นกุดเสมอน้องสาว ก้าวขาเรียวยาวเดินไปที่กระจกโพสท์ท่าเหมือนนางแบบ ยืนขาออกมาด้านข้าง พ้อยท์เท้า เชิดหน้า จือปาก แขม่วพุงเล็กน้อย แล้วเดินสับขาเหมือนอยู่บนรันเวย์ ป้าสมหญิงในตอนนี้ยังไม่หายเห่อร่าง ยังส่องกระจกทุกวัน

ทุกครั้งที่มองร่างอ่อนวัยงดงาม วิญญาณสาวแก่ยิ่งมีความสุข ตอนนี้อยากเห็นเมนส์ของตัวเองอีกสักครั้ง จะได้ตอกย้ำว่าฉันยังสาวยังมีเมนส์นะ ...อายุเพียงสิบเจ็ดปีเหลือเวลาทำสิ่งที่อยากทำอีกมากนัก 

เฉินเซียวหลางกลับมาก่อนเวลา เขามองลอดรอยแง้มบานหน้าต่างเข้าไป ลอบสังเกตอาการของลี่ชิง ร่างสูงแอบมองภรรยาอยู่หลังบานหน้าต่างเหมือนพวกถ้ำมอง ใบหน้าหล่อเหลาแดงซ่านเมื่อเห็นนางสวมเพียงชุดเอี๊ยมบางเบา

ภาพคืนหฤหรรษ์คืนนั้นที่เขาช่วยนางถอนพิษกำหนัดผุดขึ้นในจินตนาการ เลือดลมสูบฉีดไปทั่วร่างโดยเฉพาะส่วนกลางกายของบุรุษ ตั้งแต่ฟื้นมานางทั้งออดอ้อนน่ารัก ทั้งมองเขาด้วยสายตาเหมือนจะกลืนกินผิดกับลี่ชิงคนเดิมอย่างสิ้นเชิง

เขาเห็นนางเดินไปเดินมาด้วยท่วงท่าประหลาดอยู่ในห้อง ท่านั้นคือการหมุนแบบฟูลเทิร์นของป้าสมหญิงซึ่งเลียนแบบมิสยูนิเวิร์สคนหนึ่ง นางปล่อยผมสยาย มองเรือนร่างของตนในกระจก ท่าทางพึงพอในร่างกายของตนเป็นอย่างมาก

เฉินเซียวหลางแอบดูอยู่นาน วันนี้เขาซื้อรังนกมาตุ๋นให้นางอีกแล้ว เมื่อมีบุตรถึงสองคนเขายิ่งขยันค้าขายมากขึ้นเพื่อจะได้ซื้อของดี ๆ มาบำรุงภรรยาให้นมบุตร 

เฉินเซียวหลางเป็นคนฉลาด เป็นหนึ่งในศิษย์เอกสำนักเฟยหลัว เขาสอบจอหงวนได้ลำดับที่หนึ่งแต่เขาไม่ได้ไปรายงานตัวช่วงที่บิดาป่วยใกล้ตาย บัญชีรายชื่อของเขายังคงอยู่อีกสองปีหากกลับใจอยากกลับไปรับตำแหน่งรับใช้ราชสำนัก

เฉินเซียวหลางคิดเรื่องนี้หลายครั้ง แต่เมื่อเขามีบุตร เขาอยากดูแลบุตรและภรรยามากกว่า เรื่องนี้จึงต้องพับเอาไว้ก่อน ทำมาหากินค้าขายไปตามอัตภาพ เขายื่นเรื่องรับรองตนไว้แล้ว หากภายในเวลาสองปีอาจเข้าไปรับตำแหน่ง

เสียงร้องอ้อแอ้ของทารกดังขึ้นจากเตียงทารก สาวใช้เสี่ยวหยุนเดินจากห้องนอนเล็กเพื่อมาเรียกลี่ชิงไปให้นมบุตร ครอบครัวสกุลเฉินแม้พอมีฐานะแต่ไม่ถือว่าร่ำรวยมาก ไม่ได้ล่ำซำถึงขนาดมีแม่นมเหมือนคนอื่นเขา ลี่ชิงจึงต้องให้นมบุตรเอง 

เสี่ยวหยุนเดินออกมาจากห้อง เห็นคุณชายเฉินเซียวหลางแอบดูฮูหยินน้อยผ่านบานหน้าต่าง เสี่ยวหยุนถึงกับอมยิ้มกระแอมเบาๆ

"คุณชายมายืนทำอะไรตรงนี้รึเจ้าคะ เหตุใดไม่เข้าไปพบฮูหยินน้อย"

"ข้าไม่อยากรบกวนนาง ฝากรังนกนี้ตุ๋นให้นางด้วย"

"ไม่รบกวนหรอกเจ้าค่ะ ฮูหยินน้อยทำของขวัญไว้ให้ท่านด้วยเพื่อตอบแทนที่ท่านดูแลนางเป็นอย่างดี"

เฉินเซียวหลางหันขวับมาทันที เขานึกว่าตนหูฝาด

"เจ้าว่าอะไรนะ ของขวัญอย่างนั้นรึ" ร่างสูงเผลอยิ้มออกมา

"เจ้าค่ะ เชิญคุณชายด้านในก่อน" เสี่ยวหยุนนำห่อรังนกมาถือไว้ เอื้อมมือไปเคาะประตูห้อง

"ฮูหยินน้อย คุณหนูทั้งสองตื่นแล้วเจ้าค่ะ คงหิวนมแล้ว คุณชายเฉินมารอพบท่านอยู่หน้าห้อง" 

"ให้สามีสุดหล่อของข้าเข้ามาได้เลย เขาเป็นคนพิเศษ" นางตะโกนออกมา

เฉินเซียวหลางเดินนำเสี่ยวหยุนเข้าไปในห้อง เสี่ยวหยุนถึงกับก้มหน้า แก้มแดงแปร๊ดเมื่อเห็นลี่ชิงสวมเพียงชุดเอี๊ยมบางเบากับกางเกงตัวสั้น

"เอ่อ...ให้ข้าออกไปก่อนดีหรือไม่" เสี่ยวหยุนทำท่ากระอักกระอ่วน

"ไม่ต้องหรอกมาช่วยข้าอาบน้ำเถิด เจ้าก็ช่วยปรนนิบัติข้าทุกวัน อายอันใดกัน"

"แล้วพี่เล่า" เฉินเซียวหลางหน้าแดงซ่าน กำลังลุ้นว่าจะถูกนางด่าตะเพิดไปหรือไม่

"ช่วยข้าถูหลัง อาบน้ำด้วยกัน" ลี่ชิงเดินไปคว้าเสื้อคลุมมาสวม เดินไปหยุดตรงหน้าเฉินเซียวหลาง 

"ตกลง วันนี้พี่จะช่วยเจ้าอาบน้ำ ให้เสี่ยวหยุนไปทำงานอย่างอื่นเถิด"

"เช่นนั้นท่านรออยู่ตรงนี้ก่อน ข้าไปให้นมลูกเสร็จแล้วค่อยไปอาบน้ำด้วยกัน ส่วนสิ่งนี่ข้าทำให้ท่าน" ลี่ชิงยื่นกล่องกระดาษขนาดเล็กให้เขาใบหนึ่ง 

เฉินเซียวหลางเปิดกล่องออกดูพบถุงหอมปักลายสงเมา (แพนด้า) เรียกได้ว่าเป็นถุงหอมสีฟ้าปักลายสงเมาที่ปักได้ขี้เหร่มาก ชายหนุ่มแอบยิ้มกับถุงหอมรูปแพนด้าหน้าเบี้ยว เขาผูกถุงหอมไว้ข้างเอว

"เจ้าทำถุงหอมให้พี่รึ ขอบใจมาก" เขาก้มมองถุงหอมปักลายสงเมาแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่

"ข้าไม่เคยปักผ้า มันยังไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ ข้าจะหัดทำให้สวยกว่านี้ ปักให้ท่านใหม่ทุกเดือน" นางเอ่ยตอบ รีบเดินออกไปด้านนอกไปให้นมบุตรในห้องเล็กด้านข้าง

เฉินเซียวหลางลูบไปบนถุงหอมกลิ่นอ่อน ลายสงเมาหน้าเบี้ยวบนถุงหอมช่างน่าขบขัน แต่เขากลับยิ้มอย่างอบอุ่นหัวใจ

'สตรีใดให้ถุงหอมบุรุษ ถือว่าสตรีมีใจให้'

เฉินเซียวหลางได้แต่ยืนยิ้มหัวใจพองโต

บทที่เกี่ยวข้อง

  • อ้อนรักเจ้าลูกหมู   บทที่ 7 มรดกเน่า

    ในอ่างอาบน้ำใบใหญ่โดยกลีบดอกไม้ น้ำในอ่างผสมน้ำมันหอมระเหยกลิ่นเหมยกุ้ย เฉินเซียวหลางบรรจงถูผ้าเนื้อนุ่มไปบนแผ่นหลังภรรยา เขาใช้น้ำเต้าครึ่งซีกตักน้ำอุ่นช่วยนางอาบน้ำชำระกาย ร่างสูงพันผ้ากลางกายเพียงหมิ่นเหม่เห็นสภาพภรรยาเช่นนี้แล้ว ฮึ่ม...อยากร่วมหอกับนางเหลือเกิน...แต่ต้องอดใจไว้ก่อน นางคุ้มดีคุ้มร้ายเดี๋ยวดีเดี๋ยวบ้า ช่วงนี้นางปฏิบัติกับเขาดีเป็นพิเศษ เขาไม่อยากให้ช่วงเวลาแสนหวานนี้พังทลายหากทำให้นางไม่พอใจ นางเพิ่งคลอดบุตรคงต้องพักเรื่องชายหญิงอีกหลายเดือน"ท่านพี่ เข้ามาอาบน้ำด้วยกันเถิด" ลี่ชิงชวนสุดหล่อเข้ามาอาบน้ำในอ่างใบเดียวกัน"อ่างมันค่อนข้างเล็ก" เขาเขินอาย หายใจติดขัด"อ่างออกจะกว้างขวาง ท่านนั่งได้สบาย""เจ้าจะไม่อึดอัดรึ""ไม่หรอก มาแช่น้ำด้วยกัน" ลี่ชิงชวนสามีลงมาแช่น้ำด้วยกันเฉินเซียวหลางก้าวเท้าลงไปในอ่างใบเดียวกับนาง อ่างอาบน้ำไม่ได้ใหญ่ขนาดนั้นหรือเพราะเขาตัวโต ร่างสูงนั่งเบียดนางแบบไหล่ชนไหล่ฮึ่ย..หาเหตุทรมานกลางกายบุรุษโดยแท้ นางจะรู้บ้างหรือไม่ว่าเขาปวดน้องชายไปหมดแล้ว ลี่ชิงหนอลี่ชิง ถ้าเขาทนไม่ไหวจับนางกระแทกคาอ่างอย่าได้มาร้องไห้เสียใจร่างสูงคิดเรื่องใต้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • อ้อนรักเจ้าลูกหมู   บทที่ 8 แม่ทัพหน้าตาย

    ลี่ชิงเดินไปเดินมาอยู่ในห้อง หลังจากให้นมบุตรทั้งสองเสร็จก็มานั่งดูบุตรชายบุตรสาวหลับอยู่ในเตียงทารก ตอนแรกที่คลอดออกมาลี่ชิงคิดว่าลูกของตนช่างหน้าตาประหลาด ทั้งตัวเหี่ยวเหมือนคนแก่อายุ 80 แถมตัวยังย่นเป็นชั้น ผิวเป็นสีแดงเหมือนลูกหนูนานวันเข้าผ่านมาเดือนกว่า เจ้าลูกหมูทั้งสองอ้วนขึ้นขาวขึ้นเหมือนถูกสูบลม น้ำนมจากเต้าใหญ่ขนาดดารา AV สามารถผลิตน้ำนมให้ลูกหมูดื่มจนอิ่มลี่ชิงออกกำลังกายท่ากระชับหน้าอกไปด้วยหลังจากให้นมบุตร หน่มน๊มใหญ่ขนาดนี้ถ้าไม่ออกกำลังกายรั้งไว้ก็ยานโตงเตงกันพอดี วิญญาณคุณป้าสมหญิงนั่งยิ้มตาลอยเฝ้ามองทารกกำลังหลับ เด็กน้อยทั้งสองตัวอ้วนขึ้นราวสองชั่ง จดจำเสียงของแม่และกลิ่นของน้ำนมแม่ได้ อีกทั้งเจ้าก้อนซาลาเปาทั้งสองยังจำเสียงคุณชายเฉินและท่านย่าได้เมื่อท่านพ่อกับท่านย่ามาเยี่ยม เจ้าเด็กอ้วนหันไปหาเสียงที่คุ้นเคย โดยเฉพาะตอนท่านย่าเล่นด้วย ทั้งสองทำเสียงอ้อแอ้อย่างออดอ้อนฮูหยินใหญ่มีนามว่าหลี่เฟย ท่านย่าของเจ้าลูกหมูมาเยี่ยมทุกวัน เวลาเช้าหรือเย็น นางมาเยี่ยมทารกมิได้ขาด หน้าเย็นชาเหมือนเจ้าหญิงน้ำแข็งปรายหางตามองลี่ชิงด้วยสายตาเรียบเฉย แต่มองทารกทั้งสองด้วยสายตาเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • อ้อนรักเจ้าลูกหมู   บทที่ 9 ซ่อนเร้น

    ร่างสูงกำยำของแม่ทัพเหวินซูยืนอยู่บนกิ่งไม้ขนาดใหญ่ ไม้ใบพุ่มหนาอายุหลายร้อยปีช่วยพรางกายปกปิดอย่างดี เขาแต่งกายด้วยอาภรณ์สีน้ำตาลสลับดำ สายตาคมดุจ้องมองไปยังภาพความอบอุ่นหน้าเรือนหลีฮวาลี่ชิงคลอดบุตรฝาแฝดทารกชายหญิง เหวินซูใช้สายตาคมกริบมองจากระยะไกลเห็นเด็กน้อยทั้งสองกำลังนอนหลับตาพริ้มในวงแขนสาวใช้ ลี่ชิงแต่งกายด้วยอาภรณ์สีชมพูอ่อนมัดผมสบายๆ ขึ้นครึ่งศีรษะ มือเรียวตักขนมเนื้อนุ่มป้อนใส่ปากให้เฉินเซียวหลาง คุณชายเฉินใช้แขนเสื้อเช็ดเหงื่อบนหน้าผากให้นางลี่ชิงรินชาให้สามี นางลุกขึ้นจากเก้าอี้ไปอุ้มทารกเพศชายส่งให้เฉินเซียวหลางอุ้ม นางอุ้มทารกหญิง เด็กน้อยลืมตาขึ้นมามองผู้เป็นบิดามารดาเหวินซูได้ยินเสียงร้องอ้อแอ้ ระดับพลังแข็งแกร่งของเขาได้ยินแม้เสียงแผ่วเบาหรือมองเห็นได้ชัดเจนจากระยะไกลร่างสูงกำมือแน่น เขารู้สึกปั่นป่วนในใจเมื่อนึกถึงลี่ชิง เขานึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นที่โรงเตี๊ยมในคืนนั้น คืนที่เขาและนางถูกพิษกำหนัด นึกไม่ถึงว่าเรื่องจะตาลปัตรกลายเป็นเช่นนี้เมื่อเขากลับมาจากหัวเมืองทางเหนือ เฉินเซียวหลางกับลี่ชิงกลายเป็นครอบครัวไปเสียแล้ว ความสงสัยในใจยังโหมกระหน่ำในห้วงอารมณ์ แม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • อ้อนรักเจ้าลูกหมู   บทที่ 10 สูญดวงใจ

    เหวินซูสะกิดปลายเท้าด้วยวิชาตัวเบามาจนถึงบริเวณจวนสกุลเฉิน ร่างสูงเร้นกายกระโดดลงไปยืนอยู่ข้างหน้าต่างเรือนหลีฮวา บานหน้าต่างเปิดแง้มอยู่เขามองลอดบานหน้าต่างเห็นลี่ชิงกำลังกล่อมบุตรเข้านอน นางสวมอาภรณ์สีขาว คลุมด้วยชุดคลุมลายดอกมู่ตาน ปล่อยผมสยายยาวสลวยลงถึงกลางหลัง ดวงหน้าหวานกำลังยิ้มเมื่อมองทารก สายตามารดารักใคร่หลงใหลทารกทั้งสองอย่างเต็มเปี่ยม ป้าสมหญิงทำเสียงเล็กเสียงน้อยคุยกับทารก ทั้งกอดทั้งหอมบุตร สูดดมกลิ่นเด็กปนกลิ่นน้ำนมช่างหอมชื่นใจ"ลูกแม่น่ารักที่สุด เฉินซีน้อย โตขึ้นอยากเป็นอะไรครับ" นางพูดกับทารกชายที่กำลังหลับคอพับ ลี่ชิงสมหญิงยังหอมลูกและพูดเสียงสองอย่างต่อเนื่องนางวางทารกชายลงบนเตียงทารก อุ้มทารกหญิงขึ้นมา พูดเสียงสองอีกเช่นเคย"เฉินเมี่ยวหลาน คนสวยของแม่ ตาสวยมากลูก ฟันก็สวยมาก" ลี่ชิงมโนว่าลูกสาวต้องมีฟันสวยเหมือนพวกดาราทำฟันแบบวีเนียร์ ลี่ชิงแหวกปากของลูกดูเหงือกสีชมพู ดูว่าฟันลูกขึ้นรึยัง เป็นผู้หญิงต้องฟันเงางามเรียงสวย คนยังไม่เคยมีลูก ย่อมเห่อลูกหนักเป็นธรรมดาเหวินซูยืนอมยิ้มมองนางหยอกล้อทารก ลี่ชิงส่งทารกเข้านอนในห้องเล็กด้านข้าง มีเสี่ยวหยุนกับสาวใช้อี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • อ้อนรักเจ้าลูกหมู   บทที่ 11 ผืนดินของลี่ชิง

    ลี่ชิงแต่งกายทะมัดทะแมงด้วยเสื้อผ้าสีเข้ม ยืนรอเฉินเซียวหลางอยู่ด้านนอก เกือบสองเดือนแล้วที่ใช้ชีวิตร่วมกันมา เฉินเซียวหลางดีกับนางมาก คอยหาของบำรุงมาให้มิได้ขาดคุณชายเฉินกลับมาจากร้านค้าก่อนเวลาเพื่อพาลี่ชิงไปดูที่ดินมรดก นางจ้างคนไปแผ้วถางที่ดินผืนนั้น เงินติดตัวนางมีไม่มากนัก เงินส่วนใหญ่ที่ใช้พลิกฟื้นผืนดินมรดกเน่า ลี่ชิงหยิบยืมจากเฉินเซียวหลางมาก่อนราวหนึ่งพันตำลึง"เหตุใดต้องหักโหมมากมาย มีพี่คอยดูแลเจ้ากับลูกอยู่ทั้งคน"เขาสวมชุดทะมัดทะแมงสีดำ นั่งผูกเชือกรองเท้าขี่ม้าทรงสูงอยู่หน้าเรือนพัก เรือนพักของเฉินเซียวหลางคือเรือนซือเฟย เรือนขนาดใหญ่รองจากเรือนฮูหยินใหญ่ อยู่บริเวณเดียวกันในจวนสกุลเฉิน ลี่ชิงนั่งลงผูกเชือกรองเท้าให้สามี เขาถึงขั้นชะงักเพราะความแปลกใจ "ข้าช่วยนะเจ้าคะ" นางเงยหน้าขึ้นมายิ้มหวาน ดวงตากลมโตจ้องมองสามีด้วยความหลงใหลในความหล่อ 'หล่อระดับนี้มันดาราซีรี่ส์จีนชัดๆ งือออออ ชั้นรักเค้า ชั้นจะเอา ๆๆ ๆ' ลี่ชิงได้แต่เปรียบเทียบความหล่อของสามีกับดาราซีรีส์ยุคปัจจุบัน"ขอบใจมาก แต่ไม่ต้องลำบากก็ได้ เป็นพี่เองควรดูแลเจ้า" เฉินเซียวหลางเหม่อมองรอยยิ้มแสนน่ารัก เขาเพ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • อ้อนรักเจ้าลูกหมู   บทที่ 12 ที่พักใจ

    แม่ทัพเหวินซูแต่งกายด้วยชุดลำลองอย่างชาวบ้าน เสื้อผ้าเนื้อหยาบสีดำสนิท สวมปลอกแขนทำจากผ้าเนื้อนุ่ม สวมรองเท้าเช่นชนชั้นแรงงาน พ่อบ้านจวนแม่ทัพได้แต่กลอกตาไปมาเมื่อเห็นผู้เป็นนายแต่งกายเช่นนั้นแม่ทัพเหวินซูออกมาจิบชา รับประทานอาหารเช้าอยู่หน้าเรือนใหญ่ เรือนย่อยว่างเปล่าอีกห้าเรือนล้วนถูกทำความสะอาดอย่างดี บ่าวไพร่สาวใช้ไม่มากไม่น้อยราวยี่สิบคนช่วยดูแลจวนใหญ่ขนาดหกเรือนนอนได้อย่างสะอาดเอี่ยมพ่อบ้านฮงซื่อถงลอบมองแม่ทัพตั้งแต่หัวจรดเท้า"ท่านแม่ทัพจะไปที่ใดรึขอรับ เหตุใดจึงแต่งกายเช่นนี้""ข้าจะไปโรงเลื่อย""ท่านจะไปทำอะไร" พ่อบ้านถามไปอย่างนั้น พ่อบ้านฮงรู้อยู่แล้วว่าแม่ทัพจะไปทำอะไร เขาเองเป็นคนขับรถม้าพาแม่ทัพเหวินซูไปแอบดูสามีภรรยาหยอกเย้ากันถึงที่ดินรกร้างของลี่ชิง"ข้าจะไปเอาไม้ที่เฉินเซียวหลางสั่งเลื่อยไว้ ไปช่วยลี่ชิงสร้างเรือนพัก""เอ่อ...ได้ข่าวว่านางสูญเสียความทรงจำ แล้วท่านจะไปในฐานะอะไรขอรับ นางคงจำท่านไม่ได้" พ่อบ้านฮงขยับไปอีกสองก้าวเมื่อกล่าวประโยคนี้ เกรงว่าผู้เป็นนายจะฟาดหลังมือใส่บนกบาล"ก็ไปในฐานะหัวหน้าคนงานอย่างไรเล่า"พ่อบ้านถอนหายใจออกมาคราหนึ่ง พ่อบ้านวัยหกสิบป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • อ้อนรักเจ้าลูกหมู   บทที่ 13 เป็นรูปเป็นร่าง

    ลี่ชิงยืนมองแรงงานราวสามสิบคนกำลังสร้างเรือนพักอย่างขะมักเขม้น แรงงานชายเหล่านี้ล้วนสูงใหญ่กำยำ ร่างกายเหมือนพวกนักรบ ไม่เหมือนชนชั้นแรงงานอดมื้อกินมื้อ พวกเขาถลกแขนเสื้อขึ้นทำงานกลางแดด เผยให้เห็นมัดกล้ามหนั่นแน่น เมื่อแสงแดดตกกระทบยามเหงื่อออกมัดกล้ามแขนเงาวาวเหมือนพวกประกวดเพาะกายในโทรทัศน์'เหอะๆ นี่มันดงกล้าม อู้ยยยย ยืนงงในดงกล้ามปู' วิญญาณสาวใหญ่มีความเพลิดเพลินระดับสิบเมื่อมองเหล่าชายฉกรรจ์ บุรุษร่างล่ำตากแดดทำงานอย่างตั้งใจนางเรียกหัวหน้าคนงานเข้ามา ลี่ชิงกวักมือเรียกเขา แม่ทัพใหญ่ได้แต่เดินเข้าไปหานาง'ฮึ! เลือกตำแหน่งหัวหน้าคนงาน ตำแหน่งนี้เลือกด้วยตนเองเชียวนะ อย่าได้ปริปาก' เหวินซูเดินเข้าไปหานางแบบจำยอม"เจ้าชื่ออะไร ทำงานให้ข้ามาตั้งหลายวันแล้วข้ายังไม่รู้จักชื่อเจ้าเลย""เหวินซู" เขาตอบ "โอ๊ะ ชื่อเหมือนแม่ทัพเหวินซูเลย""คนชื่อเหมือนกัน ซ้ำกันได้ไม่เห็นแปลก" แม่ทัพเหวินซูเอ่ยชื่อของเขา เผื่อนางฉุกคิดอะไรได้บ้าง"เจ้ารู้จักแม่ทัพหรือไม่" ลี่ชิงเอ่ยถาม"รู้เพียงว่าเขาเป็นแม่ทัพ""เขาหน้าตาเป็นอย่างไร คงหล่อเหลากว่าเจ้ามากโข ได้ยินว่าเขาหล่อเหลาละลายใจสตรีสาวน้อยสาวใหญ่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • อ้อนรักเจ้าลูกหมู   บทที่ 14 ของหวง

    ยามพักกลางวันอากาศเย็นสบาย แสงแดดไม่แผดจ้าเช่นในยุคปัจจุบันที่ชาวนาทำงานบนเตาปิ้งย่าง แดดในยุคโบราณนี้แม้เป็นตอนเที่ยงวันก็ไม่ร้อนมาก ลี่ชิงยืนเอามือป้องหน้าแหงนมองท้องฟ้าเห็นหมู่นกสีขาวบินผ่านไป หากเป็นยุค 2021 ที่ป้าจากมา พนันได้เลยว่านกเหล่านี้ต้องกลายเป็นนกย่าง เมื่อคิดถึงภาพนกย่างบินได้ นางหัวเราะออกมาคนเดียวภาพนางหัวเราะคนเดียวอย่างไม่ได้ระวังกิริยา ทำให้แม่ทัพเหวินซูผู้กำลังจ้องมองอยู่ก่อนแล้วถึงกับหัวเราะตาม 'เป็นสตรีเช่นไรกัน ถึงไม่รู้จักระวังกิริยา' เขาได้แต่คิดในใจลี่ชิงหันมาสบตาแม่ทัพพอดี เป็นจังหวะสโลโมชั่นแบบเขิน ๆ นางทำหน้าเก้อกระดากเล็กน้อย คิดถึงซีนพระเอกกับนางเอกในซีรีย์จีน หันหน้ามาป๊ะกัน ป๊ะโช๊ะเด๊ะสายตา หรือเรียกว่าซั่มกันทางสายตา ซึ่งคำนี้มันเป็นการเรียกและคิดค้นของป้าสมหญิงเองเวลาจิ้น ship พระเอกนางเอกคนไหนมาก ๆ อยากให้เค้าได้กัน เขินตัวบิดแทนเค้าอยู่หน้าจอ เวลาเค้ามองตากันตัวเองก็จิกหมอน มโนว่าตัวเองเป็นนางเอก 'ฮึ่ย! ตอนนี้มันเกิดขึ้นแล้ว หยุดนะ หยุด ท่องไว้ ท่องไว้ มีผัวแล้ว มีผัวแล้ว'ลี่ชิงสมหญิงท่องแค่สามคำเท่านั้นคือ มีผัวแล้ว"มองอันใดกันเล่าเหวินซู ถ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18

บทล่าสุด

  • อ้อนรักเจ้าลูกหมู   บทที่ 34  Fairy Tale Ending

    ราชโองการสมรสพระราชทานประกาศออกไปทั่วเมืองหลวง จวนพระราชทานหลังใหญ่มีแปดห้องนอนพร้อมเรือนย่อยอีกสี่เรือน พระสนมเฟยฉางให้ชื่อจวนนี้ว่าอ้ายหนี่ แรงงานมากมายถูกเกณฑ์มาสร้างจวนอ้ายหนี่ขึ้นอย่างเร่งด่วนให้แล้วเสร็จทันงานสมรสพระราชทาน จวนขนาดใหญ่สีขาวสะอาดตกแต่งด้วยคิ้วไม้หลี่สีน้ำตาลทอง เป็นจวนที่ถอดประกอบมาจากเมืองอื่นคล้ายกับเป็นการซื้อสำเร็จมาตั้งบนที่ดินที่เตรียมไว้ แล้วทาสีตกแต่งใหม่เพื่อให้ทันวันงาน ด้วยความที่ต้องสร้างจวนนี้ให้แล้วเสร็จภายในสองสัปดาห์ ช่างไม้ทั่วสารทิศรวมถึงช่างไม้หลวงรวมกับช่างไม้ที่ร้านของท่านราชครูแทบไม่ได้หลับได้นอน จวนอ้ายหนี่แล้วเสร็จในเวลาเพียงสิบวัน ใช้งบการสร้างส่วนพระองค์ประทานให้แก่แม่ทัพเหวินซูเป็นรางวัลทำศึก ส่วนเฉินเซียวหลางถูกองค์ฮ่องเต้กึ่งบังคับให้กลับไปรับตำแหน่งเดิมที่เคยสอบได้คือตำแหน่งจอหงวนหรือจ้วงหยวน รับหน้าที่ดูแลกรมการค้า ระดับขุนนางขั้นสาม บัญชีรายชื่อของเขายังอยู่ในระยะเวลาสองปีเพื่อเรียกมารายงานตัว พระสนมเฟยฉางรับเด็กฝาแฝดเป็นบุตรบุญธรรม พระสนมทูลเสนอให้เฉินเซียวหลางกลับไปรับตำแ

  • อ้อนรักเจ้าลูกหมู   บทที่ 33 จบปัญหา

    ลี่ชิงให้นมบุตรเรียบร้อย เด็กทั้งสองอิ่มจนหลับไป ญาติผู้ใหญ่ฝั่งแม่ทัพเหวินซูเอาเด็กน้อยทั้งสองไปอุ้มเล่น ผลัดกันอุ้มกับฮูหยินใหญ่ เสนาบดีเหวินหลางเยี่ยบิดาของแม่ทัพดีใจมาก อุ้มหลานชายไม่ยอมปล่อย ท่านราชครูอี้ชวนเข้ามาแย่งอุ้มพร้อมสวมกำไลข้อเท้าทำจากทองคำลายอินทรีย์ให้เด็กชายน้อย ท่านราชครูมอบกำไลข้อเท้าให้เด็กหญิงน้อยเช่นกัน เมื่อเหล่าคนแก่เห็นรอยยิ้มอันบริสุทธิ์ของเด็ก ยิ่งหลงใหลกว่าคราวที่ตนมีลูกเสียอีก ลี่ชิงนั่งหน้ามุ่ยเป็นกังวลเรื่องของตนเอง นางกลัวว่าทุกคนจะแย่งเจ้าลูกหมูน้อยไปจากอ้อมอก ลี่ชิงทั้งหวาดกลัวทั้งกังวลกับทุกเรื่องจนร้องไห้ออกมา เหวินซูกับเฉินเซียวหลางได้แต่เข้ามาปลอบนาง ช่วยเช็ดน้ำตาให้ไม่ห่าง ฮ่องเต้เสด็จ! ขันทีกล่าวด้วยเสียงแหลมเสียดแก้วหูดังขึ้นด้านนอก องค์ฮ่องเต้เสด็จมาจากทางตำหนักใหญ่ พระองค์อยากใช้ความคิดเพียงลำพังเกี่ยวกับเรื่องนี้ แม่ทัพคนโปรดคู่บัลลังก์หาเรื่องยุ่งยากซับซ้อนมาให้พระองค์ปวดหัวในรอบสิบปี ไหนจะเรื่องรางวัลทำศึกที่ขอไว้อีก มีอย่างที่ไหน อยากได้สตรีในจวนผู้อื่นเป็นรางวัลทำศึก

  • อ้อนรักเจ้าลูกหมู   บทที่ 32 ทั้งแม่ทั้งลูก

    ทั้งแม่ทัพเหวินซูและเฉินเซียวหลางรวมถึงทุกคนทำหน้าเหมือนเห็นผี เจ้าลูกหมูก็ร้องโยเยขึ้นมา ลี่ชิงเดินไปอุ้มลูก ฮูหยินใหญ่เดินเข้ามาช่วยนางโอ๋เด็กน้อยทั้งสองให้เงียบเสียงลง เมื่อเจ้าลูกหมูถูกลี่ชิงอุ้มไว้ในอ้อมแขน เด็กน้อยซุกหน้าเข้าหาอ้อมอกมารดาอย่างคุ้นเคย ฮูหยินใหญ่อุ้มเด็กหญิงน้อยไว้ในอ้อมแขน เด็กหญิงดันกายออกจากอก ยื่นมือน้อยไปทางมารดา ลี่ชิงจำต้องนั่งลง อุ้มบุตรทั้งสองไว้ในอ้อมกอด “ข้าขออธิบายทีหลัง ที่นักพรตกล่าวเป็นความจริง ข้าไม่ใช่ลี่ชิง” คุณป้าสมหญิงถอนหายใจ กลัวอย่างเดียวว่าจะถูกแย่งลูกหมูไป แล้วคนพวกนี้ก็จับคุณป้าไปทรมานเหมือนในภาพยนตร์สยองขวัญ “พิสูจน์เลือดบุตรให้เสร็จสิ้นก่อนเถิด” เหวินซูกล่าวออกมา เขายังมองไปทางร่างบางกอดบุตรไว้ในอ้อมแขน นักพรตเริ่มพิธีกรรมอีกครั้ง นำจอกเลือดทั้งสองจอกมาวางตรงหน้าเหวินซู จอกเลือดอีกสองจอกมาวางตรงหน้าเฉินเซียวหลาง สองบุรุษลุ้นจนแทบขาดอากาศหายใจ เลือดของแม่ทัพเหวินซูรวมกับเลือดของเด็กชาย ส่วนเลือดของเด็กหญิงรวมกับเลือดของเฉินเซียวหลาง “เด็กชายเป็นบุตร

  • อ้อนรักเจ้าลูกหมู   บทที่ 31 สายโลหิต

    องค์ฮ่องเต้ประทับที่เก้าอี้ตำแหน่งประธาน ด้านข้างมีองค์สนมกุ้ยเฟยประทับเยื้องอยู่ทางด้านซ้าย ตำแหน่งรองลงมาคือราชครูอี้ชวนผู้เป็นท่านตาของแม่ทัพ เสนาบดีเหวินหลางเยี่ยบิดาแม่ทัพกับฮูหยินผู้เป็นมารดาแม่ทัพนามว่าอี้ฟางเจิน บุตรสาวราชครูอี้ชวน “ถวายพระพรฝ่าบาท ขอจงทรงพระเจริญหมื่นปีพ่ะย่ะค่ะ คารวะเสด็จอาหญิง คารวะท่านพ่อท่านแม่” แม่ทัพเหวินซูคารวะองค์ฮ่องเต้ พร้อมด้วยญาติผู้ใหญ่ทุกคน แม่ทัพเหวินซูไม่ได้คาดคิดว่าญาติผู้ใหญ่ฝ่ายตนจะแห่กันมามากมายขนาดนี้ ดูหน้าบิดามารดากับท่านตาของเขานั่นเล่า เต็มเปี่ยมไปด้วยความหวัง เขาแอบเห็นมือท่านตาถือกำไลข้อเท้าเด็กทองคำ นักพรตราชวงศ์แต่งกายด้วยอาภรณ์สีเขียวขลิบเทา กำลังนำกระดานชนวนออกมาขีดเขียนอักขระ แพทย์หลวงต่างเข้ามายืนด้านข้างเพื่อช่วยการตรวจพิสูจน์ไม่ให้บิดพลิ้วได้ “ถึงเวลาแล้วพ่ะย่ะค่ะ ให้ทำพิธีที่กรมพิธีการหรือทำที่นี่พ่ะย่ะค่ะ” หัวหน้านักพรตกล่าวกับองค์ฮ่องเต้ “ทำที่นี่ เจิ้นขี้เกียจเดิน” องค์ฮ่องเต้อยากรู้เต็มทน เช่นเดียวกับทุกคนในห้องนี้ หากจะเดินย้อนกลับไปที่กรมพิธีการก็ใช้เวลาอีกไม

  • อ้อนรักเจ้าลูกหมู   บทที่ 30 พิสูจน์เลือดบุตร 2

    รถม้าคันงามตีตราสัญลักษณ์อินทรีย์ ทำจากไม้หลี่เนื้อดีสลักลายอินทรีย์กรุด้วยทองคำแผ่นบาง รถม้าแล่นไปตามถนนสายหลักของเมืองหลวง แม่ทัพเหวินซู เฉินเซียวหลางและลี่ชิงนั่งอยู่ภายในรถม้าคันเดียวกัน เฉินเซียวหลางรินชาให้ศิษย์พี่ เขารินให้ตนเองกับลี่ชิงทีหลัง “ข้าผิดเอง” เฉินเซียวหลางถอนหายใจ “เรื่องนี้คงไม่ถือว่าเจ้าเป็นคนผิด เจ้าเองก็ดูแลลี่ชิงเป็นอย่างดี ทั้งช่วงนางตั้งครรภ์จนเด็กทั้งสองคลอดออกมา” “แล้วหากเด็กทั้งสองเป็นบุตรของท่าน” เฉินเซียวหลางมองหน้าศิษย์พี่เหวินซู “ข้าต้องรับเด็กทั้งสองไปเลี้ยงดูในฐานะบุตรข้า”เหวินซูตอบ เขาลอบมองหน้าลี่ชิง อยากรู้ว่านางคิดอย่างไรกับเรื่องนี้ “แล้วเจ้าเล่าลี่ชิง จะทำอย่างไรต่อ” เฉินเซียวหลางหันไปถามลี่ชิง เฉินเซียวหลางนึกถึงคราวที่เขาขอนางแต่งงาน เขามองสร้อยข้อมือที่เคยใช้ขอนางแต่งงาน นางยังสวมอยู่บนข้อมือไม่เคยถอด แต่เมื่อนึกถึงเรื่องราชโองการ เฉินเซียวหลางถึงกับถอนหายใจออกมา “ข้าตกลงแต่งให้คุณชายเฉิน” ลี่ชิงเงยหน้าขึ้นสบตาแม่ทัพเหวินซู “แล้วข้าเล่า” แม่

  • อ้อนรักเจ้าลูกหมู   บทที่ 29 พิสูจน์เลือดบุตร 1

    ยามเหม่า ณ จวนสกุลเฉิน บ่าวไพร่สาวใช้ในจวนสกุลเฉินคึกคักตั้งแต่ต้นยามเหม่า ฟ้ายังไม่ทันสางดีเสียด้วยซ้ำ ทุกคนวิ่งวุ่นกันจ้าละหวั่น สาวใช้ตระเตรียมอาภรณ์งดงามและเครื่องประดับให้ฮูหยินน้อยอย่างสมฐานะ อาภรณ์ไหมตัวนอกถูกส่งมาจากจวนแม่ทัพเหวินซู พร้อมเครื่องประดับทำจากปะการังแดง ฮูหยินใหญ่เลือกเครื่องประดับผมให้ลี่ชิง ฮูหยินใหญ่หลี่เฟยปักปิ่นทำจากทับทิมบนมวยผมของลี่ชิง “เจ้างามมากลี่ชิง” “ขอบคุณท่านแม่เจ้าค่ะ” “วันนี้ผลจะเป็นอย่างไร พวกเราคงต้องยอมรับความจริง” ฮูหยินใหญ่แววตาหม่นเศร้า เมื่อนึกถึงผลตรวจพิสูจน์โลหิตเด็กน้อยทั้งสอง หากเป็นบุตรแม่ทัพเหวินซูจริง สกุลเฉินต้องคืนทั้งแม่ทั้งลูกให้กับเหวินซูตามราชโองการ เฉินเซียวหลางมองลี่ชิงแต่งกายอย่างงดงาม ผิวขาวอมชมพูตัดกับอาภรณ์ไหมสีส้มแดง เครื่องประดับเข้าชุดขับเน้นความงามของผิวพรรณสตรีตรงหน้า เฉินเซียวหลางถึงกับลืมหายใจเมื่อเห็นลี่ชิงเดินออกมาหน้าเรือน หลากหลายความรู้สึกถาโถมเข้ามาในห้วงอารมณ์ ทั้งกลัวสูญเสียนางกับลูกไป ทั้งรู้สึกโดดเดี่ยวอ้างว้าง เมื่อนึกถึงความเป็นจริงที

  • อ้อนรักเจ้าลูกหมู   บทที่ 28 ทำมาหากิน

    ลี่ชิงมองทองก้อนมูลค่าสูงกับโฉนดที่ดินย่านการค้าที่เหวินซูมอบให้ กำลังคิดว่าจะทำมาหากินอะไรต่อดี มีผู้ชายดูแลก็ดีอยู่หรอก แต่การยืนด้วยขาของตนเองมันคงจะดีกว่า ลี่ชิงขี่ม้าออกไปที่ร้านค้า สอบถามคนแถวนั้นว่าโฉนดที่ดินอยู่ตรงไหน ลี่ชิงขี่ม้าตัวเล็กสีขาวชื่อจูจูออกไปพร้อมกับบ่าวชายอีกสองคน วันนี้ลี่ชิงไม่ได้เอาลูกหมูมาด้วย ฝากให้ฮูหยินใหญ่ดูแลอยู่ที่จวน พิกัดร้านค้าตามโฉนดอยู่บริเวณใจกลางแหล่งการค้า ไม่ไกลจากร้านช่างหลวงของแม่ทัพเหวินซู ลี่ชิงควบม้าสีขาวตัวเล็กออกไปที่ร้านเหวินซู เห็นเขากำลังง่วนอยู่ในร้านพอดี ร้านไม้ช่างหลวงเทียนหลง ร้านนี้เป็นร้านของสายตระกูลฝั่งมารดา ผู้ก่อตั้งคือราชครูอี้ชวนผู้เป็นท่านตาของแม่ทัพ ลี่ชิงผูกม้าไว้หน้าร้าน ก่อนเดินเข้าไปในร้านช่างไม้ขนาดใหญ่ ฝีมือการสร้างโต๊ะ ตู้ เตียง เครื่องเรือนทุกชนิดล้วนแต่เป็นฝีมือช่างฝีมือระดับช่างหลวงหรือใกล้เคียง เรียกได้ว่าเป็นหัตกรรมงานไม้ชั้นสูง รับทำตามแบบเฉพาะของพวกคนมีเงินหรือพวกเชื้อพระวงศ์ เมื่อเหวินซูว่างเว้นจากการศึก เขามาช่วยดูแลกิจการของครอบครัว มี

  • อ้อนรักเจ้าลูกหมู   บทที่ 27 ขอดูแล

    เสด็จอาหญิงเรียกแม่ทัพเหวินซูมาเข้าเฝ้าองค์ฮ่องเต้ พระองค์ประทับอยู่กับเสด็จอาหญิงที่ตำหนักซูเหวียน “ถวายพระพรฝ่าบาท ทรงพระเจริญหมื่นปีพ่ะย่ะค่ะ” แม่ทัพเหวินซูคารวะองค์ฮ่องเต้ “ไม่ต้องมากพิธี เจิ้นเพียงอยากมอบทองคำ แพรพรรณ สินทรัพย์โฉนดที่ดินเล็กน้อยให้เป็นรางวัลทำศึก” “ท่านมอบให้หลานชายข้าอย่างเป็นทางการแล้ว ต่อหน้าเหล่าขุนนางในท้องพระโรง ยังต้องให้สิ่งใดอีก” พระสนมเฟยฉางคลอเคลียใบหน้างามไปบนไหล่องค์ฮ่องเต้ ท่วงท่าออดอ้อนราวกับแมวน้อย “เพียงทรัพย์สินเล็กน้อย กับโฉนดร้านค้าในย่านค้าขาย ลี่ชิงว่าที่ฮูหยินเจ้าชอบค้าขายไม่ใช่รึ ขนมประหลาดที่เรียกว่าขนมเค้กนั่นก็รสเลิศยิ่งนัก สมควรขยายร้านค้าให้นางเสียหน่อย” องค์ฮ่องเต้กล่าวอย่างอารมณ์ดี พระองค์ทรงแต่งกายชุดลำลองสีดำปักดิ้นทองคำลายมังกร มือหนาเรียวยื่นของพระราชทานให้กับแม่ทัพเหวินซู “ขอบพระทัยฝ่าบาท” “สัปดาห์หน้าจะมีการพิสูจน์เลือดบุตรของเหวินซู ขอบพระทัยฝ่าบาทเพคะ หากเด็กทั้งสองเป็นบุตรเหวินซู ย่อมหมายถึงข่าวดีต่อตระกูลหม่อมฉันด้วย” พระสนมเฟยฉางลุกขึ้นคารวะองค์ฮ่องเต้

  • อ้อนรักเจ้าลูกหมู   บทที่ 26 ไม่อยากรู้

    แม่ทัพเหวินซูก้าวเดินอย่างองอาจเข้ามาในจวนเจ้ากรมพิธีการ ดวงตาคมกล้ามีกลิ่นอายฆ่าล้างอย่างเทพสงคราม ร่างสูงกำยำแต่งกายเต็มศักดิ์แม่ทัพอย่างน่าเกรงขาม ไม่ใช่เพียงตำแหน่งของเขา แต่รัศมีบางอย่างแผ่ออกจากกายของเหวินซู ทำให้ผู้ไม่คุ้นชินต้องหลบตาอย่างลนลาน “คารวะท่านแม่ทัพ มีธุระอันใดกับกรมพิธีการรึขอรับ” ทหารยามหน้าจวนเจ้ากรมพิธีการคารวะแม่ทัพเหวินซูตามศักดิ์ “ข้าจะมาพูดคุยกับท่านเจ้ากรมพิธีการเรื่องราชโองการที่องค์ฮ่องเต้ประทานให้ข้า” “รอสักครู่ ข้าจะเข้าไปแจ้งเจ้ากรมก่อนนะขอรับ” ทหารยามเข้าไปแจ้งเรื่องที่แม่ทัพเหวินซูมาพบเจ้ากรมพิธีการ “เชิญท่านแม่ทัพด้านในขอรับ” เหวินซูเข้ามาในห้องโถงกลางในจวนขนาดใหญ่ ท่านเจ้ากรมได้รับแจ้งเรียบร้อยเกี่ยวกับเรื่องการพิสูจน์เลือดบุตรของแม่ทัพเหวินซู “ท่านแม่ทัพมาหาข้ามีธุระอันใด” เจ้ากรมพิธีการเดินออกมาต้อนรับในชุดลำลอง “ข้าเพียงอยากให้ท่านเร่งเวลาตรวจพิสูจน์เลือดบุตร ให้เร็วขึ้นอีกสักนิดได้หรือไม่” “ข้าพอจะช่วยให้เร็วขึ้นได้ที่สุดคงเป็นสัปดาห์หน้า”

DMCA.com Protection Status