การลงมาครัวทำให้ได้เจอคนไม่คาดคิด เจ้าบ่าวของเธอเมาฟุบอยู่หน้าเคาน์เตอร์มินิบาร์ ข้างศีรษะมีเหล้าพร่องไปครึ่งขวด นี่แสดงว่าดื่มตั้งแต่ที่ลงมา นี่มันสองชั่วโมงมาแล้วนะ“อือ...”เขาคราง เกล้ากมลจะแก้เผ็ดเขาโดยให้หลับอยู่ตรงนี้แหละ เธอเข้าห้องครัว เปิดตู้เย็น เปลี่ยนใจจากบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นหยิบนมยูเอชทีมาดื่มขณะที่กำลังจะก้าวขึ้นบันได จิตสำนึกฝ่ายดีก็ผุดคำถาม เธอจะปล่อยให้เขานอนหลับอยู่อย่างนี้จริง ๆ น่ะหรือ หากคุณย่าอิสรีตื่นมาพบเข้าจะเป็นเช่นไร แต่อีกใจก็บอก สมน้ำหน้า เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนเขาเพิ่งทำร้ายจิตใจเธอ แต่คิดอีกทีที่เหตุการณ์มันมาถึงจุดนี้ ก็เพราะเริ่มจากจูบของเธอเกล้ากมลยอมรับว่าตนเป็นผู้หญิงชั่วร้าย แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลที่เขาจะทำตัวไม่สมเป็นสุภาพบุรุษกับเธอ ระหว่างที่ใจทั้งสองฝั่งกำลังหาเหตุผลมาฟาดฟันกันร่างใหญ่โตก็ครางอือออเป็นครั้งที่สอง ศีรษะเขาเงยขึ้นชนขวดเหล้า มันโงนเงนจนเธอต้องรีบจับไว้ด้วยกลัวตกแตก แล้วจะเรียกคนทั้งบ้านให้ตื่นขึ้นมา“เธอเองเหรอ ยัยเกล้า เด็กบ้า”หญิงสาวเม้มปากที่โดนบริภาษต่อหน้า เธอรีบเอาเหล้าเก็บในตู้ เลื่อนแก้วเหล้าไปให้ไกลจากมือเขา“เพราะเธอ
อิธานฝันดี ฝันว่าอยู่บนก้อนเมฆนิ่มหยุ่น ผิวอุ่นกำลังดี ก่อนลืมตาขึ้นมาแล้วพบว่าตนนอนอยู่ในห้องใหญ่โตเพียงคนเดียวเมื่อมองพินิจแล้ว นี่ไม่ใช่ห้องเดิมของตน...จริงสินะ เมื่อคืนเขาแต่งงานแล้ว แบบไม่เต็มใจ จำได้ว่าตัวเองเมา แล้วอะไรนะต่อ เกล้ามาพาขึ้นห้องเขาเปิดผ้าสำรวจท่อนล่าง โล่งโจ้งไม่ได้สวมอะไรเลย เป็นเรื่องปรกติหากเขานอนคนเดียวก็ไม่สวมอะไรอยู่แล้ว แต่เมื่อคืนเขาอยู่กับเจ้าสาว คือยัยเด็กเกล้าตัวแสบ โจรขโมยจูบชายหนุ่มลุกขึ้นเดินไปห้องน้ำ เปิดตะกร้าผ้าดู กางเกงในเปียกชื้นของเขาม้วนอยู่ในตะกร้า ทันใดนั้นภาพเรื่องเมื่อคืนในห้องน้ำก็พรั่งพรู เขากับเกล้ากมลได้ร่วมหอลงโรงกันเสียแล้ว ตั้งแต่ห้องน้ำจนถึงเตียง“ห่าเอ๊ย!”เรื่องที่คิดไว้พังไม่เป็นท่า เพราะเหล้าอย่างเดียว เขาจะไม่ดื่มมันอีกแล้วสาบาน! ด้วยเพราะเขาตื่นสายโต๊ะอาหารจึงวายแล้ว ได้ยินเสียงโทรทัศน์ในห้องนั่งเล่น เดาว่าคุณย่าอยู่ในนั้น ร่างสูงเข้าไปในครัวแล้วก็ชะงักเมื่อเห็นใครเงยหน้าจากตู้เย็น“เอ่อ...อรุณสวัสดิ์” อิธานไม่รู้จะพูดอะไรดีกว่านั้น“อรุณสวัสดิ์ค่ะ”เธอเอ่ยตอบพร้อมส่งแบบไม่เต็มริมฝีปาก แล้วปิดตู้เย็นก้าวขาออกจากห้องครัว“เ
การมาของภูมิสถาปัตย์หนุ่มทำอิธานไม่ชอบใจ เพราะปรมัตถ์เกาะติดเกล้ากมล แล้วทำไมเธอถึงต้องไปกับมันขนาดนั้นด้วย“ยิ้มน่ะหุบเสียบ้างนะ เวลาอยู่ต่อหน้าผู้ชาย”ยามอยู่กันสองต่อสองกลายเป็นเวลาทะเลาะไปเสียแล้ว“หึงเหรอคะ” เกล้ากมลยิ้มยั่ว เธอฉลาดพอจะเดาอารมณ์คนตรงหน้าออก“ไม่ได้หึง แต่เธอแต่งงานแล้ว ไปไหนมาไหนกับผู้ชายบ่อย ๆ มันไม่ดี” เขากอดอกเชิดหน้า มองหมิ่น ๆ“ทำยังไงได้ล่ะคะ มีผัวก็ไม่เคยพาไปไหน ถึงต้องพึ่งคนอื่น”“ฉันไม่ยอมโดนสวมเขาหรอก” อิธานมองเธอตาวาววับ“สบายใจได้ค่ะ ถ้าเกล้าจะมีผู้ชาย จะมีที...ละ...คน”เกล้ากมลลากเสียงยานแล้วหนีไปอาบน้ำ ทิ้งสามีที่ใบหน้าบึ้ง โกรธจนควันออกหู การแต่งงานเฮงซวยนี่เขาต่างหากที่จะเป็นคนทำลายมัน ไม่ใช่เกล้ากมล เธอต้องอึดอัด ยอมแพ้กับความเย็นชาของเขาสิ ไม่ใช่เป็นเขาที่โมโหแบบนี้อิธานขบฟันกรอด ก่อนจะลงไปหางานทำเพื่อดับอารมณ์อยากบีบคอเมียปรมัตถ์เริ่มเสนอแบบคร่าว ๆ ทุกคนให้ความเห็นไปปรับแก้นิดหน่อย ต่อไปก็เข้าสู่กระบวนการปรับปรุงพื้นที่สนานรับหน้าเป็นคนคุมงาน เพราะอิธานไม่ชอบปรมัตถ์ ไม่ยอมให้มาเพ่นพ่านในไร่มากกว่านี้สองสาวเริ่มวางแผนหาของมาขายเพิ่ม เลยขับรถ
ตอนที่วรดารู้ข่าวการมาของชนันธรจากการโทรมาเล่าของยายพลวง หญิงสาวก็ได้แต่กลืนน้ำลาย นึกสงสารเกล้ากมลที่แฟนเก่าสามีมาหยามถึงที่ แต่วรดาก็ต้องซ่อนความรู้สึกไว้ภายใต้ท่าทางปรกติโชคดีที่อาหารกลางวันพนักงานในร้านขายของฝากเป็นข้าวกล่องจากโรงครัว จึงเลี่ยงการปะทะของเกล้ากมลและชนันธรไปได้ แต่ยามเย็นนั้นเป็นคนละเรื่องเกล้ากมลขมวดคิ้วเมื่อเห็นรถทะเบียนกรุงเทพ แปลกตาจอดอยู่ในโรงรถ วันนี้คุณย่าอิสรีมีแขกหรืออย่างไร ทำไมเธอจึงไม่รู้ คงเป็นแขกคนสำคัญจึงอยู่กระทั่งมืดค่ำตะวันคล้อยตกดิน“สวัสดีจ้ะเกล้า”เธอชะงักกับคนทักทายจากห้องรับแขก ชนันธร!“พี่ลูกน้ำมาได้ยังไงคะ”ตาเธอแลสบกับคุณย่าอิสรีและยายพลวง ดวงตาผู้สูงวัยทั้งคู่ส่งแววอึดอัด“พี่มาพักผ่อน เพราะมีเรื่องไม่สบายใจนิดหน่อยจ้ะ ทำงานที่ไร่เหนื่อยไหม”เกล้ากมลไม่ตอบ แต่ถามหาอีกคน“คุณอิธอยู่ไหนคะคุณย่า”“อยู่ในห้องทำงานค่ะ”ยายพลวงเป็นผู้ตอบแทน เธอยิ้มเจื่อนให้ผู้อาวุโสแล้วสาวเท้าไปหาเขาทันที“คุณอิธทำอะไรคะ” เธอยิงคำถามใส่เขาทันทีที่ประตูห้องทำงานปิดลง“ฉันทำอะไร” อิธานเงยหน้าขึ้นจากคอมพิวเตอร์ สายตาไม่ได้มีความรู้สึกผิดเลย“คุณให้พี่ลูกน้ำมาอยู่
ชีวิตชนันธรน้อยครั้งมากที่จะได้เลือกอะไรเอง แม่เป็นผู้กำหนดชีวิตเธอ ท่านกำหนดทุกอย่าง การเรียน การวางตัว เลือกเพื่อนให้คบ กระทั่งเข้ามหาวิทยาลัยเธอจึงมีอิสระบ้าง หญิงสาวเลือกเข้าชมรมค่ายอาสาเพื่อหวังความแปลกใหม่ในชีวิต แล้วได้พบกับอิธานเขารูปงาม พ่วงด้วยการเป็นหลานเจ้าของไร่ใหญ่ เขาโดดเด่นมาในหมู่สมาชิกชมรมปีนั้น กระทั่งเขาขอเธอเป็นแฟน นั่นคือช่วงเวลาที่เธอมีความสุขที่สุด ก่อนเขาจะไปเรียนต่อต่างประเทศดูเหมือนความรวยของอิธานจะยังไม่พอ เขาเป็นประเภทรวยด้วยการสร้างเนื้อสร้างตัว แลกมาด้วยหยาดเหงื่อแรงงานมารดาเธอไม่ต้องการให้ลูกสาวเป็นภรรยาชาวไร่ นางชอบตัวเลือกเป็นหลานเศรษฐีเจ้าของเครือห้างสรรพสินค้าใหญ่อย่างกรวีมากกว่าชนันธรพยายามค้านท่านด้วยกำลังที่อ่อนแรงนัก เธอเคยถามเรื่องการแต่งงานกับอิธาน เขาบอกแต่เพียงยังไม่พร้อม อยากขยายไร่ให้ใหญ่กว่านี้และมุ่งมั่นเอาแต่ทำงาน ปล่อยให้เธออดทนรอกระทั่งกรวีเข้ามาแทรกกลางความอ้างว้างนี้ นอกจากเขาจะเอาใจเธอแล้วยังเอาใจแม่ มีของฝากติดไม้ติดมือ ใจป้ำพากินเที่ยว นอนโรงแรมหรูในเครือ ทำให้ครอบครัวเธอมีหน้ามีตาขึ้นจนมารดายื่นคำขาดให้เลือกเขา แม้จะรักอิธ
ปรกตินางร้ายในละครจะแต่งหน้าจัด ดัดขนตางอนเช้ง ทาลิปสติกแดง ชนิดมองเห็นตั้งแต่ต้นซอยก็บอกยี่ห้อ “ฉันเป็นนางร้ายนะจ๊ะ” แต่คนที่อยู่ตรงหน้าเกล้ากมลกลับเป็นนางร้ายหน้าใสในคราบนางเอก ชนันธรกล้ามากที่มาขอสามีเธอคืน“มันไม่ง่ายไปหน่อยเหรอคะที่จะมาเอาเขาคืน”เกล้ากมลแสดงการดูถูกโดยการมองตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า“เขายังรักฉันและฉันก็ยังรักเขา ส่วนเธอไม่ใช่นะเกล้า”เจ็บเหมือนโดนมีดปักอกเป็นอย่างไรหญิงสาวเพิ่งเข้าใจวันนี้เอง“ถอยไปเสียเถอะ เธอเป็นคนที่บังเอิญเข้ามาในเรื่องระหว่างฉันกับอิธเท่านั้นแหละ”“พี่ไม่มีสิทธิ์มาบอกให้ใครอยู่หรือถอย ฉันตัดสินใจเองได้”เกล้ากมลเดินเบียดชนันธรหวังจะไปสูดอากาศข้างนอกเพื่อสงบใจ“เดี๋ยวฟังก่อน ฉันไม่อยากให้เธอเจ็บ”ปากชนันธรว่าอย่างนั้น แต่กลับจิกเล็บแน่นที่แขนของเกล้ากมล หญิงสาวสะบัดมันออก ทำเอาอีกคนล้มไปโดนชั้นวางของกล่องที่ซ้อนกันอยู่ด้านบนจึงหล่นมาทับ“ว๊าย!”ชนันธรร้องสุดเสียง พนักงานในร้านรีบเปิดประตูห้องเก็บของทันที ภาพที่เห็นคือเกล้ากมลยืนอยู่ แล้วชนันธรโดนของทับ“คุณลูกน้ำ ใครก็ได้ช่วยที”หลังจากนั้นคือความโกลาหลในร้านขายของฝาก พนักงานกรูกันเข้ามาช่วยเ
คำอธิษฐานของยายพลวงไม่เป็นจริง ซ้ำยิ่งร้ายเข้าไปอีกเพราะวันหนึ่งเงินในเครื่องคิดเงินหายไปห้าพันบาท วันนั้นเป็นวันที่วุ่นวายเพราะมีทัวร์ทั้งคนไทยและคนจีนมาลง เกล้ากมลวิ่งทำงานหัวหมุนทั้งเติมของทั้งเข้ามาช่วยคิดเงิน แต่เมื่อสิ้นวันมานับเงินกับปรากฏว่าหายไปห้าพันบาท ตรวจดูกล้องวงจรปิดก็ไม่มีอะไรผิดปรกติ“ในเมื่อหาตัวคนผิดไม่ได้ เราก็ต้องรับผิดชอบร่วมกัน”ผู้จัดการร้านให้ทุกคนที่มาทำงานในวันนี้หารเงินจำนวนที่ขาดไป ท่ามกลางเสียงบ่นของทุกคน“ฉันจะแช่งให้ขโมยมันโดนวัวในไร่ขวิด” สาวนางหนึ่งถึงกับยกมือขึ้นขอพลังสิ่งศักดิ์สิทธิ์“ให้ท้องเสียสามวันเจ็ดวันไปเลย”“เฮ้ย! ตายกันพอดี” กลุ่มสาวอาวุโสท้วง“คนเลว ๆ ที่ทำคนอื่นเดือดร้อน ไม่สมควรมีชีวิตอยู่ พี่จะห่วงมันทำไม หรือพี่เป็นคนทำ”สาวนางนั้นจ้องเขม็ง กลายเป็นมีเสียงซุบซิบอื้ออึงไปทั่ว ผู้จัดการเห็นว่าจะมีปัญหาเลยเปลี่ยนใจให้ไม่ต้องมีใครชดใช้“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวเกล้าขอเงินคุณย่ามาเติมให้ก็ได้”เกล้ากมลเสนออีกทางเลือก โดยไม่รู้เลยว่าชนันธรจะฉวยโอกาสนี้ฟื้นอดีตขึ้นมา เกล้ากมลกลับบ้านใหญ่ตามปรกติ ขณะกำลังแต่งตัวลงไปกินข้าวเย็นวรดาก็โทรเข้ามา“ฉันได
เช้าวันต่อมามีเมฆฝนครึ้ม ลมพัดแรง ร้านของฝากเงียบเหงา ไร้ลูกค้า พนักงานจับกลุ่มกันคุยด้วยความเป็นห่วงชนันธรที่ลาป่วยติดกันสามวันยายพลวงโทรมาหาเธอบอกให้รีบกลับบ้านใหญ่โดยเร็ว คุณย่าอิสรีมีเรื่องสำคัญจะคุย เธอจึงขับรถคู่กายฝ่าอากาศอึมครึมเข้าไป มีรถยุโรปยี่ห้อดาวสามแฉกสีงาช้างจอดที่โรงรถ คุณย่าอิสรีมีแขกอีกแล้ว แต่เมื่อเธอไปยังห้องรับแขกแล้วก็ต้องตะลึง“เกล้า” ผู้หญิงที่เคยอยู่ในรูปถ่ายที่ยายเกดให้ดูเรียกชื่อเธอ “แม่คิดถึงหนูมากเลย”เกล้ากมลตัวแข็ง หายใจขัด เมื่อผู้ให้กำเนิดมายืนตัวเป็น ๆ อยู่ตรงหน้า แม่ที่เธอเคยคิดว่าอาจจะตายไปแล้ว เพราะแม้แต่งานศพตายายก็ไม่ยอมปรากฏตัว“แม่ไปอยู่ที่ไหนมา”กว่าหญิงสาวจะหาเสียงตัวเองเจอก็เป็นเวลานานผู้มาใหม่มีเค้าหน้าคลายเธอ ส่วนสูงเตี้ยกว่าเล็กน้อย ผมดำยาวสยายถึงกลางหลัง ทั้งการแต่งตัวและเครื่องประดับเหมือนผู้มีอันจะกินในละคร หากไม่รู้อดีตแต่หนหลัง คงไม่มีใครจะเชื่อว่ามารดาเป็นลูกสาวตายายผู้ซอมซ่อกินรีมีเรื่องเล่ามากมายในชีวิต ตั้งแต่เธอหนีออกจากบ้าน มากรุงเทพฯ เพื่อหางานทำ หนีชีวิตที่ยากจน กระทั่งมาเจอกับพ่อเกล้ากมล อยู่ด้วยกันไม่นาน เมื่อท้องกินรีก