การมาของภูมิสถาปัตย์หนุ่มทำอิธานไม่ชอบใจ เพราะปรมัตถ์เกาะติดเกล้ากมล แล้วทำไมเธอถึงต้องไปกับมันขนาดนั้นด้วย“ยิ้มน่ะหุบเสียบ้างนะ เวลาอยู่ต่อหน้าผู้ชาย”ยามอยู่กันสองต่อสองกลายเป็นเวลาทะเลาะไปเสียแล้ว“หึงเหรอคะ” เกล้ากมลยิ้มยั่ว เธอฉลาดพอจะเดาอารมณ์คนตรงหน้าออก“ไม่ได้หึง แต่เธอแต่งงานแล้ว ไปไหนมาไหนกับผู้ชายบ่อย ๆ มันไม่ดี” เขากอดอกเชิดหน้า มองหมิ่น ๆ“ทำยังไงได้ล่ะคะ มีผัวก็ไม่เคยพาไปไหน ถึงต้องพึ่งคนอื่น”“ฉันไม่ยอมโดนสวมเขาหรอก” อิธานมองเธอตาวาววับ“สบายใจได้ค่ะ ถ้าเกล้าจะมีผู้ชาย จะมีที...ละ...คน”เกล้ากมลลากเสียงยานแล้วหนีไปอาบน้ำ ทิ้งสามีที่ใบหน้าบึ้ง โกรธจนควันออกหู การแต่งงานเฮงซวยนี่เขาต่างหากที่จะเป็นคนทำลายมัน ไม่ใช่เกล้ากมล เธอต้องอึดอัด ยอมแพ้กับความเย็นชาของเขาสิ ไม่ใช่เป็นเขาที่โมโหแบบนี้อิธานขบฟันกรอด ก่อนจะลงไปหางานทำเพื่อดับอารมณ์อยากบีบคอเมียปรมัตถ์เริ่มเสนอแบบคร่าว ๆ ทุกคนให้ความเห็นไปปรับแก้นิดหน่อย ต่อไปก็เข้าสู่กระบวนการปรับปรุงพื้นที่สนานรับหน้าเป็นคนคุมงาน เพราะอิธานไม่ชอบปรมัตถ์ ไม่ยอมให้มาเพ่นพ่านในไร่มากกว่านี้สองสาวเริ่มวางแผนหาของมาขายเพิ่ม เลยขับรถ
ตอนที่วรดารู้ข่าวการมาของชนันธรจากการโทรมาเล่าของยายพลวง หญิงสาวก็ได้แต่กลืนน้ำลาย นึกสงสารเกล้ากมลที่แฟนเก่าสามีมาหยามถึงที่ แต่วรดาก็ต้องซ่อนความรู้สึกไว้ภายใต้ท่าทางปรกติโชคดีที่อาหารกลางวันพนักงานในร้านขายของฝากเป็นข้าวกล่องจากโรงครัว จึงเลี่ยงการปะทะของเกล้ากมลและชนันธรไปได้ แต่ยามเย็นนั้นเป็นคนละเรื่องเกล้ากมลขมวดคิ้วเมื่อเห็นรถทะเบียนกรุงเทพ แปลกตาจอดอยู่ในโรงรถ วันนี้คุณย่าอิสรีมีแขกหรืออย่างไร ทำไมเธอจึงไม่รู้ คงเป็นแขกคนสำคัญจึงอยู่กระทั่งมืดค่ำตะวันคล้อยตกดิน“สวัสดีจ้ะเกล้า”เธอชะงักกับคนทักทายจากห้องรับแขก ชนันธร!“พี่ลูกน้ำมาได้ยังไงคะ”ตาเธอแลสบกับคุณย่าอิสรีและยายพลวง ดวงตาผู้สูงวัยทั้งคู่ส่งแววอึดอัด“พี่มาพักผ่อน เพราะมีเรื่องไม่สบายใจนิดหน่อยจ้ะ ทำงานที่ไร่เหนื่อยไหม”เกล้ากมลไม่ตอบ แต่ถามหาอีกคน“คุณอิธอยู่ไหนคะคุณย่า”“อยู่ในห้องทำงานค่ะ”ยายพลวงเป็นผู้ตอบแทน เธอยิ้มเจื่อนให้ผู้อาวุโสแล้วสาวเท้าไปหาเขาทันที“คุณอิธทำอะไรคะ” เธอยิงคำถามใส่เขาทันทีที่ประตูห้องทำงานปิดลง“ฉันทำอะไร” อิธานเงยหน้าขึ้นจากคอมพิวเตอร์ สายตาไม่ได้มีความรู้สึกผิดเลย“คุณให้พี่ลูกน้ำมาอยู่
ชีวิตชนันธรน้อยครั้งมากที่จะได้เลือกอะไรเอง แม่เป็นผู้กำหนดชีวิตเธอ ท่านกำหนดทุกอย่าง การเรียน การวางตัว เลือกเพื่อนให้คบ กระทั่งเข้ามหาวิทยาลัยเธอจึงมีอิสระบ้าง หญิงสาวเลือกเข้าชมรมค่ายอาสาเพื่อหวังความแปลกใหม่ในชีวิต แล้วได้พบกับอิธานเขารูปงาม พ่วงด้วยการเป็นหลานเจ้าของไร่ใหญ่ เขาโดดเด่นมาในหมู่สมาชิกชมรมปีนั้น กระทั่งเขาขอเธอเป็นแฟน นั่นคือช่วงเวลาที่เธอมีความสุขที่สุด ก่อนเขาจะไปเรียนต่อต่างประเทศดูเหมือนความรวยของอิธานจะยังไม่พอ เขาเป็นประเภทรวยด้วยการสร้างเนื้อสร้างตัว แลกมาด้วยหยาดเหงื่อแรงงานมารดาเธอไม่ต้องการให้ลูกสาวเป็นภรรยาชาวไร่ นางชอบตัวเลือกเป็นหลานเศรษฐีเจ้าของเครือห้างสรรพสินค้าใหญ่อย่างกรวีมากกว่าชนันธรพยายามค้านท่านด้วยกำลังที่อ่อนแรงนัก เธอเคยถามเรื่องการแต่งงานกับอิธาน เขาบอกแต่เพียงยังไม่พร้อม อยากขยายไร่ให้ใหญ่กว่านี้และมุ่งมั่นเอาแต่ทำงาน ปล่อยให้เธออดทนรอกระทั่งกรวีเข้ามาแทรกกลางความอ้างว้างนี้ นอกจากเขาจะเอาใจเธอแล้วยังเอาใจแม่ มีของฝากติดไม้ติดมือ ใจป้ำพากินเที่ยว นอนโรงแรมหรูในเครือ ทำให้ครอบครัวเธอมีหน้ามีตาขึ้นจนมารดายื่นคำขาดให้เลือกเขา แม้จะรักอิธ
ปรกตินางร้ายในละครจะแต่งหน้าจัด ดัดขนตางอนเช้ง ทาลิปสติกแดง ชนิดมองเห็นตั้งแต่ต้นซอยก็บอกยี่ห้อ “ฉันเป็นนางร้ายนะจ๊ะ” แต่คนที่อยู่ตรงหน้าเกล้ากมลกลับเป็นนางร้ายหน้าใสในคราบนางเอก ชนันธรกล้ามากที่มาขอสามีเธอคืน“มันไม่ง่ายไปหน่อยเหรอคะที่จะมาเอาเขาคืน”เกล้ากมลแสดงการดูถูกโดยการมองตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า“เขายังรักฉันและฉันก็ยังรักเขา ส่วนเธอไม่ใช่นะเกล้า”เจ็บเหมือนโดนมีดปักอกเป็นอย่างไรหญิงสาวเพิ่งเข้าใจวันนี้เอง“ถอยไปเสียเถอะ เธอเป็นคนที่บังเอิญเข้ามาในเรื่องระหว่างฉันกับอิธเท่านั้นแหละ”“พี่ไม่มีสิทธิ์มาบอกให้ใครอยู่หรือถอย ฉันตัดสินใจเองได้”เกล้ากมลเดินเบียดชนันธรหวังจะไปสูดอากาศข้างนอกเพื่อสงบใจ“เดี๋ยวฟังก่อน ฉันไม่อยากให้เธอเจ็บ”ปากชนันธรว่าอย่างนั้น แต่กลับจิกเล็บแน่นที่แขนของเกล้ากมล หญิงสาวสะบัดมันออก ทำเอาอีกคนล้มไปโดนชั้นวางของกล่องที่ซ้อนกันอยู่ด้านบนจึงหล่นมาทับ“ว๊าย!”ชนันธรร้องสุดเสียง พนักงานในร้านรีบเปิดประตูห้องเก็บของทันที ภาพที่เห็นคือเกล้ากมลยืนอยู่ แล้วชนันธรโดนของทับ“คุณลูกน้ำ ใครก็ได้ช่วยที”หลังจากนั้นคือความโกลาหลในร้านขายของฝาก พนักงานกรูกันเข้ามาช่วยเ
คำอธิษฐานของยายพลวงไม่เป็นจริง ซ้ำยิ่งร้ายเข้าไปอีกเพราะวันหนึ่งเงินในเครื่องคิดเงินหายไปห้าพันบาท วันนั้นเป็นวันที่วุ่นวายเพราะมีทัวร์ทั้งคนไทยและคนจีนมาลง เกล้ากมลวิ่งทำงานหัวหมุนทั้งเติมของทั้งเข้ามาช่วยคิดเงิน แต่เมื่อสิ้นวันมานับเงินกับปรากฏว่าหายไปห้าพันบาท ตรวจดูกล้องวงจรปิดก็ไม่มีอะไรผิดปรกติ“ในเมื่อหาตัวคนผิดไม่ได้ เราก็ต้องรับผิดชอบร่วมกัน”ผู้จัดการร้านให้ทุกคนที่มาทำงานในวันนี้หารเงินจำนวนที่ขาดไป ท่ามกลางเสียงบ่นของทุกคน“ฉันจะแช่งให้ขโมยมันโดนวัวในไร่ขวิด” สาวนางหนึ่งถึงกับยกมือขึ้นขอพลังสิ่งศักดิ์สิทธิ์“ให้ท้องเสียสามวันเจ็ดวันไปเลย”“เฮ้ย! ตายกันพอดี” กลุ่มสาวอาวุโสท้วง“คนเลว ๆ ที่ทำคนอื่นเดือดร้อน ไม่สมควรมีชีวิตอยู่ พี่จะห่วงมันทำไม หรือพี่เป็นคนทำ”สาวนางนั้นจ้องเขม็ง กลายเป็นมีเสียงซุบซิบอื้ออึงไปทั่ว ผู้จัดการเห็นว่าจะมีปัญหาเลยเปลี่ยนใจให้ไม่ต้องมีใครชดใช้“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวเกล้าขอเงินคุณย่ามาเติมให้ก็ได้”เกล้ากมลเสนออีกทางเลือก โดยไม่รู้เลยว่าชนันธรจะฉวยโอกาสนี้ฟื้นอดีตขึ้นมา เกล้ากมลกลับบ้านใหญ่ตามปรกติ ขณะกำลังแต่งตัวลงไปกินข้าวเย็นวรดาก็โทรเข้ามา“ฉันได
เช้าวันต่อมามีเมฆฝนครึ้ม ลมพัดแรง ร้านของฝากเงียบเหงา ไร้ลูกค้า พนักงานจับกลุ่มกันคุยด้วยความเป็นห่วงชนันธรที่ลาป่วยติดกันสามวันยายพลวงโทรมาหาเธอบอกให้รีบกลับบ้านใหญ่โดยเร็ว คุณย่าอิสรีมีเรื่องสำคัญจะคุย เธอจึงขับรถคู่กายฝ่าอากาศอึมครึมเข้าไป มีรถยุโรปยี่ห้อดาวสามแฉกสีงาช้างจอดที่โรงรถ คุณย่าอิสรีมีแขกอีกแล้ว แต่เมื่อเธอไปยังห้องรับแขกแล้วก็ต้องตะลึง“เกล้า” ผู้หญิงที่เคยอยู่ในรูปถ่ายที่ยายเกดให้ดูเรียกชื่อเธอ “แม่คิดถึงหนูมากเลย”เกล้ากมลตัวแข็ง หายใจขัด เมื่อผู้ให้กำเนิดมายืนตัวเป็น ๆ อยู่ตรงหน้า แม่ที่เธอเคยคิดว่าอาจจะตายไปแล้ว เพราะแม้แต่งานศพตายายก็ไม่ยอมปรากฏตัว“แม่ไปอยู่ที่ไหนมา”กว่าหญิงสาวจะหาเสียงตัวเองเจอก็เป็นเวลานานผู้มาใหม่มีเค้าหน้าคลายเธอ ส่วนสูงเตี้ยกว่าเล็กน้อย ผมดำยาวสยายถึงกลางหลัง ทั้งการแต่งตัวและเครื่องประดับเหมือนผู้มีอันจะกินในละคร หากไม่รู้อดีตแต่หนหลัง คงไม่มีใครจะเชื่อว่ามารดาเป็นลูกสาวตายายผู้ซอมซ่อกินรีมีเรื่องเล่ามากมายในชีวิต ตั้งแต่เธอหนีออกจากบ้าน มากรุงเทพฯ เพื่อหางานทำ หนีชีวิตที่ยากจน กระทั่งมาเจอกับพ่อเกล้ากมล อยู่ด้วยกันไม่นาน เมื่อท้องกินรีก
“คุณท่านไม่สบาย”วรดาส่งข่าวมาในเช้าวันศุกร์หลังกินรีเดินทางไปอเมริกาหนึ่งอาทิตย์“โรคคนแก่ ตั้งแต่เกล้าไปอยู่กรุงเทพ ท่านก็ดูซึม ๆ มาเยี่ยมท่านไหม”ยายพลวงทำปากพะงาบ ๆ บอกบทลูกสาว จนเกล้ากมลบอกว่าจะมาเยี่ยมนั่นแหละนางจึงยิ้มได้“แล้วคุณท่านจะยอมเล่นเป็นคนป่วยเหรอแม่”หลังจบสายเพื่อน วรดาก็ถามผู้เป็นแม่เสียงอ่อย“ยอมสิวะ ท่านก็คิดถึงเกล้าจะตาย”ยายพลวงกำลังวางแผนให้ทุกคนกลับมาอยู่ด้วยกัน เมื่อเจ้านายถือทิฐิกันนัก คนรับใช้อย่างนางนี่แหละจะจัดการทุกอย่างเอง เพื่อให้ไร่สมบูรณ์ดีกลับมาสุขสงบเหมือนเคยเกล้ากมลมาด้วยการนั่งรถยุโรปคันโต เธอผิวขาวนวลขึ้น ใบหน้าผุดผาด วรดาถึงกับห่อปากเพราะเพื่อนดูสวยแม้แต่งหน้าเพียงบางเบา“รัศมีคุณหนูจับมากเลยเกล้า สวยจริง”เธอเลือกใส่ชุดแซกทรงตรง เพื่อพรางรูปร่างที่กำลังขยาย“คุณย่าล่ะ”วรดาพาหญิงสาวไปพบผู้สูงวัยซึ่งนอนดูโทรทัศน์อยู่ในห้องนอน ยายพลวงต้องรีบสะกิดให้ท่านทำตัวโศกเมื่อเกล้ากมลเข้ามา คุณย่าอิสรีดูผอมลง ผมขาวมีแซมบนศีรษะมากขึ้น หญิงก้มลงกราบที่หน้าอก ท่านเอามือเหี่ยวย่นลูบศีรษะคนที่เลี้ยงมาแต่เล็กแต่น้อย“เกล้าสบายดีไหม”“สบายดีค่ะ คุณย่าล่ะคะ”“สุ
“มานี่เลยนะเกล้า”ไม่ยากนักที่ชายหนุ่มจะดันประตูให้เปิดกว้าง แล้วคว้าแขนกึ่งลากเธอไปยังห้องหอของทั้งสอง“เราไม่มีอะไรต้องพูดกันแล้ว พรุ่งนี้เกล้าจะไปหย่าให้ ลูกนี่เกล้าก็จะดูแลเอง ไม่ให้ใช้นามสกุลคุณ เกล้าจะไม่เอาอะไรไปสักบาท”เกล้ากมลบอกพลางหอบ เพราะต้องต้านแรงเขาที่ลากเธอไปยังห้องหอได้สำเร็จ“คุณไปมีลูกใหม่กับคนอื่นเถอะ พี่ลูกน้ำนั่นไง”“นั่นเมียคนอื่น ฉันมีเมียเดียวคือเธอ”สมองเกล้ากมลต้องห้ามใจตัวเองอย่างหนัก ไม่ให้เต้นแรงเกินไป บอกว่าไม่ให้เชื่อคำพูดเขา“ไม่ต้องไปเฝ้าคุณย่า นอนให้ห้องนี้กับฉัน” เขากดเธอนั่งลงบนเตียง“เกล้าจะหย่า” หญิงสาวบอกเสียงหอบ หน้าแดงจัด“ฉันไม่ยอมให้หย่า”“ลูกเกิดจากความไม่ตั้งใจของเราทั้งคู่นะ”เธอเตือน หวังว่าเขาจะนึกได้บ้างว่าหลังจากคืนนั้นเขาทำตัวเย็นชากับเธอขนาดไหน“ไม่ว่าลูกจะเกิดจากอะไร ฉันยินดีต้อนรับแก”เขายิ้มกว้าง มือใหญ่หยาบกร้านลูบหน้าท้องเธอไปทั่ว“คุณอิธเป็นผู้ชายที่แย่มาก พอรู้ว่ามีลูกกับเกล้าก็จะทิ้งพี่ลูกน้ำเลยเหรอคะ”“ฉันกับเขาไม่ได้รู้สึกอะไรกันแล้ว เธอนั่นแหละไปอยู่บ้านแม่ทำไม”หน้าท้องเธออุ่นและเรียบเนียน ส่วนไหนหนอที่เป็นที่อยู่ของเจ้