แชร์

บทที่ 29

ผู้เขียน: l3oonm@
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-24 20:04:44

เสี่ยวเจากับเสี่ยวจงกำลังให้ทหารที่มาด้วยช่วยกันลำเลียงหีบยาขึ้นเกวียนเทียมม้าอย่างระมัดระวัง ซูมี่อดที่จะเอ่ยถามถึงเหตุการณ์ทางชายแดนไม่ได้เพราะหากไม่มีสงครามเหตุใดฮุ่ยหมิ่นถึงได้เตรียมยามากมายไว้ถึงเพียงนี้

"จะมีสงครามหรือ"

"เพียงเตรียมการไว้เท่านั้นขอรับ"

"แคว้นต้าหาน ส่งสายสืบเข้ามาในแคว้นต้าฉีมากจนผิดสังเกต ท่านแม่ทัพไป๋จึงได้เริ่มเตรียมยาและเสบียงขอรับ" เสี่ยวจงเดินเข้ามาพูดเสียงเบาเพื่อบอกถึงเหตุการณ์ทางชายแดนในยามนี้ให้ซูมี่ฟัง

"เช่นนั้นหรือ"

ก่อนที่เสี่ยวเจากับเสี่ยวจงจะออกเดินทาง ซูมี่ยังได้ฝากจดหมายไปให้ฮุ่ยหมิ่น เพื่อถามเรื่องจะเกิดสงครามจริงหรือไม่ นางจะได้เตรียมการต่างๆ ไว้ให้พร้อม และหากเขาขาดเหลือสิ่งใด นางก็พร้อมจะยื่นมือเข้าช่วย

"เป่าเปา ตำราวิชายุทธ ข้าให้ฮุ่ยหมิ่นยืมได้หรือไม่" ซูมี่เมื่อเข้ามาในมิติก็เอ่ยถามเป่าเปา

"ยืมได้เจ้าค่ะ แต่คุณชายไป๋ก็ไม่อาจฝึกจนเทียบเท่าท่านได้ ถึงคุณชายไป๋จะเป็นถึงแม่ทัพ เพราะต้องเปลี่ยนถ่ายไขกระดูกเช่นเดียวกันกับท่านเสียก่อน" ซูมี่ส่ายหัว เรื่องนี้เป็นไปได้ยากเสียแล้ว

หากจะทำเช่นนั้นฮุ่ยหมิ่นต้องเข้ามาในมิติของนาง เขาจะเดินทางมาที่เจ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • อีกด้านของนางร้าย   บทที่ 30

    ซูมี่บอกลาบรรดาสัตว์ป่าทั้งหลายก่อนที่นางจะออกจากป่า โดยมีเสี่ยวไป๋ เสี่ยวเฮย ฟาไฉ ออกมาส่งนางด้วย"เป่าเปา เจ้าออกจากมิติได้แล้ว จะไปพร้อมข้าเลยหรือไม่" เป่าเปาพยักหน้าราวไก่จิก พร้อมบินไปรอบๆ อย่างยินดี"เอ่อ แล้วรูปลักษณ์ของเจ้าเปลี่ยนแปลงได้หรือไม่" คนในจวนคงไม่เป็นอันใด แต่หากมีชาวบ้านหรือคนที่เข้ามารับผักผลไม้ พบเข้าคงจะเกิดเรื่องใหญ่ขึ้น"ได้เจ้าค่ะ" เป่าเปาปรากฏตัวอีกครั้งในรูปลักษณ์ของเด็กสาวตัวน้อยวัยห้าหกหนาว หน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูเมื่อฝากมิติไว้กับเสี่ยวไป๋ เสี่ยวเฮ่ยและฟาไฉแล้ว ทั้งคู่ก็ออกมาด้านนอก เมื่อทุกคนในเรือนเห็นเด็กสาวตัวน้อยมากับซูมี่ก็อดที่จะแปลกใจไม่ได้ แต่เมื่อดูใบหน้าของเด็กน้อยดีดี ก็พบว่าเป็นเป่าเปา ทุกคนต่างก็พากันห้อมล้อมนางอย่างยินดี ก่อนจะพาเป่าเปาเดินสำรวจเรือนและสวนด้านหลังอย่างสนุกสนานซูมี่นางได้รับจดหมายจากฮุ่ยหมิ่นเรื่องแคว้นเซี่ยเตรียมเสบียงเป็นเรื่องจริง แต่เขายังยืนยันกับนางไม่ได้ว่าเรื่องสงครามจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ และหากเกิดขึ้นจริงจะเป็นเมื่อใดครั้งนี้เสี่ยวเจาเป็นคนที่เดินทางมารับน้ำวิเศษเพื่อไปใช้เพาะปลูก ซูมี่นางจึงฝากจดหมายไปให้ฮุ่ยหม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
  • อีกด้านของนางร้าย   บทที่ 31

    สตรีที่แสนอ่อนหวานเข้าอกเข้าใจเขาไปเสียทุกเรื่อง ช่วยเหลือเขามาตลอด มาบัดนี้สตรีนางนั้นได้หายไปเสียแล้ว เหลือเพียงสตรีที่ตามหึงหวงจนเขามิอาจขยับตัวไปที่ใดได้มีเงินมีทอง มีชีวิตที่สุขสบาย บ่าวไพร่มีให้ใช้งานแต่มิอาจมีความสุขเช่นเมื่อก่อนได้ ชิงฉางได้แต่ยอมรับโชคชะตาที่ตนเป็นคนเลือกเอง"ข้าเห็นกับตาท่านจะแก้ตัวเช่นไร" ถิงถิงเริ่มบีบน้ำตาของนางอีกแล้ว"ประเดี๋ยว เรื่องนี้ข้าคงไม่เกี่ยวข้ากระมัง ขอตัว" ซูมี่ที่เห็นถิงถิงกำลังจะแสดงงิ้วก็รีบตัดบทเสียก่อน"เจ้าจะมิเกี่ยวได้อย่างไร เจ้าลอบนัดพบกันลับหลังข้าเช่นนี้" ซูมี่เมื่อได้ยินก็หัวเราะเยาะ"ฮูหยินชิง ท่านคงคิดว่าผู้อื่นจะทำเช่นเดียวกับเจ้าใช่หรือไม่ ของที่ข้าทิ้งไปแล้วข้าซูมี่มิคิดจะเก็บกลับคืน เจ้าวางใจได้" ซูมี่กอดอกตอบโต้อย่างไม่ยอม"ข้าทำอันใด" ถิงถิงเหมือนจะเสียสติไปแล้ว นางโวยวายอย่างไม่ยินยอม ชาวบ้านก็ลืมมุ่งดูกันหนาตา"จะให้ข้ารื้อฟื้นจริงรึ" ซูมี่กระซิบถาม เพื่อให้ทั้งคู่ได้ยิน"ถิงถิง พอได้แล้ว กลับไปคุยที่จวน" ชิงฉางรีบคว้ามือของถิงถิงเพื่อพานางกลับไปด้วยกัน"เป็นเจ้าที่เลือกเช่นนี้" ซูมี่ตบไปที่บ่าของชิงฉางแล้วพูดกับเขาก่อน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
  • อีกด้านของนางร้าย   บทที่ 32

    เมื่อจบเรื่องแล้วทั้งหมดก็ออกเดินทางกลับเรือน โม่ลี่ที่ซ่อนตัวอยู่บนรถม้ามิเคยพบเห็นเหตุการณ์เช่นนี้ก็ยังตกใจไม่หาย ซูมี่กับเป่าเปาจึงต้องปลอบประโลมนางจนถึงเรือน"อย่าให้ท่านพ่อท่านแม่หรือคนที่เรือนรู้เรื่องเล่า" ซูมี่ย้ำให้เสี่ยวซานแล้วโม่ลี่เก็บเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นความลับหลังจากที่ได้ดื่มน้ำวิเศษเข้าไปทั้งคู่จึงกลับมาปกติเช่นในตอนแรก มิได้เสียขวัญเช่นตอนที่เกิดเรื่องแล้ว"เป่าเปา คืนนี้ข้าจะพาเจ้าไปทำเรื่องสนุก" ซูมี่เอ่ยกับเป่าเปาด้วยแววตาที่เจ้าเล่ห์เมื่อทั้งคู่แยกตัวจากบิดามารดากลับเข้าห้องของตนแล้ว ซูมี่นางจึงเล่าแผนการที่นางจะไปเยือนจวนตระกูลเฉียวคืนนี้ให้เป่าเปาฟัง ทั้งคู่รีบเปลี่ยนเสื้อผ้ามาใส่ชุดสีดำ เพื่อพรางตัวให้กลมกลืนไปกลับความมืดเมื่อคนทั้งจวนเข้านอนเรียบร้อย ทั้งคู่ก็กระโดดออกจากเรือนมุ่งหน้าเข้าเมือง เป่าเปาบินนำหน้าไปทิศทางของจวนตระกูลเฉียวอย่างกับนางเคยไปมาแล้วความเร็วของทั้งคู่ทำให้มาถึงภายในเรือนตระกูลเฉียวเพียงหนึ่งก้านธูป(30นาที)เท่านั้น ภายในจวนตระกูลเฉียวทั้งสองหลบหลีกสายตาของผู้คุมกันจวนและบ่าวไพร่อย่างชำนาญซูมี่ให้ฟาไฉออกมาจากมิติ เพื่อหาคลังสมบัติของ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
  • อีกด้านของนางร้าย   บทที่ 33

    ชิงฉางเดินตามพ่อบ้านไปที่ห้องโถงเรือนหลักอย่างแปลกใจ เพราะน้อยครั้งนักที่ตนจะถูกเชิญมาที่เรือนหลัก ส่วนมากนายท่านเฉียวจะเรียกตัวเขาไปพบที่ห้องตำราเพื่อสอบถามเรื่องการสอบเท่านั้น"นั่งลงสิ" นายท่านเฉียวสีหน้าอ่อนล้าพยักหน้าให้ชิงฉางนั่งลง ฮูหยินเฉียวที่นั่งอยู่ด้านข้างปรายตามองชิงฉางอย่างนึกรังเกียจนายท่านเฉียวเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสองวันก่อนให้ชิงฉางฟัง คลังสมบัติของตระกูล และห้องเก็บสินเดิมของเฉียวถิงถิงต่างถูกโจรเข้ามาปล้นไป แม้แต่ทางการก็ยังหาร่องรอยไม่พบ"เจ้าพาถิงถิงไปอยู่ที่บ้านเดิมของเจ้าเสีย ข้าจะมอบเงินให้เจ้าติดตัวไปด้วย" ฮูหยินเอกที่ตอนนี้มีอำนาจมากกว่านายท่านเฉียวเสียอีกเพราะค่าใช้จ่ายในจวนทั้งหมดมาจากสินเดิมของนาง ยังดีที่ร้านค้าของนายท่านเฉียวมิได้เกิดเหตุร้ายไปด้วยหากเป็นเช่นนั้นตระกูลเฉียวคงต้องเริ่มตั้งตัวกันใหม่อีกครั้งแล้วเมื่อจบคำพูดของฮูหยินเฉียว ชิงฉางมองไปที่นายท่านเฉียวเพื่อดูท่าทีของเขา ก็พบว่านายท่านเฉียวกำลังหลบสายตาของชิงฉาง เมื่อเป็นเช่นนั้นชิงฉางจึงยิ้มเยาะก่อนจะลุกขึ้นเดินกลับไปที่เรือนของตนเพื่อเก็บของเขายังจำจดวันแรกที่พบนายท่านเฉียวได้ดี เขาเร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
  • อีกด้านของนางร้าย   บทที่ 34

    ต้าหลางกับจางกุ้ยแยกตัวไปจัดการงานของตนต่อ ปล่อยให้ทั้งคู่พูดคุยกัน เพราะซูมี่นางต้องบอกเรื่องในมิติกับฮุ่ยหมิ่นเสียก่อน"ไหนตำราที่เจ้าอยากจะให้ข้า" ฮุ่ยหมิ่นจ้องมองซูมี่ด้วยสายตาลึกซึ้ง"ท่านจะรับปากข้าก่อนได้หรือไม่ ไม่ว่าพบเจอเรื่องใด ท่านห้ามบอกเรื่องนี้กับผู้ใดทั้งสิ้น" ซูมี่เอ่ยถามอย่างจริงจัง"ข้าสาบานด้วยชีวิต" ฮุ่ยหมิ่นเอ่ยตอบจากใจจริงซูมี่จับไปที่ข้อมือของฮุ่ยหมิ่นโดยที่เขายังไม่ทันได้ตั้งตัว ฮุ่ยหมิ่นที่ยังคงประหลาดใจเรื่องที่ซูมี่นางโดนตัวเขาไม่หาย ก็ต้องประหลาดใจเพิ่มมากกว่าเดิมเมื่อสภาพแวดล้อมตรงหน้าที่เปลี่ยนไปในตอนแรกตนนั่งอยู่ที่ห้องโถงของเรือนหลัก แต่ตอนนี้เหตุใดตนถึงมาอยู่ในที่ที่งดงามเช่นนี้ได้ สวนผัก ผลไม้ ตรงหน้าที่คล้ายกับที่อยู่ในตระกูลซูแต่มิใช่ บึงดอกบัวที่มีดอกบัวบานส่งกลิ่นหอมเช่นเดียวกับกลิ่นกายของซูมี่ภูเขาลูกใหญ่ที่อยู่ด้านหลังก็แปลกตา แม้จะผ่านสนามรบมามาก เขาบอกได้เลยว่าภูเขาลูกนี้ตนเพิ่งเคยพบเห็นเป็นครั้งแรกแน่นอน กระท่อมหลังน้อยพร้อมโกดังเก็บของที่ตั้งเรียงรายฮุ่ยหมิ่นเมื่อสังเกตสิ่งต่างๆ ไปทั่วแล้วต้องตกใจเมื่อเห็นเสือขาวตัวสูงใหญ่เกือบเท่าตนยืน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
  • อีกด้านของนางร้าย   บทที่ 35

    ซูมี่พาฮุ่ยหมิ่นไปที่กระท่อมก่อนที่นางจะปล่อยเขาไว้ด้านในเพื่อให้ฝึกด้วยตนเอง และนางจะเข้ามาในมิติเพื่อดูเข้าเรื่อยๆ"เจ้าจะไปแล้วหรือ" ฮุ่ยหมิ่นเอ่ยรั้งซูมี่เอาไว้"มีอันใดหรือเจ้าคะ" นางเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ เพราะเขาต้องเร่งฝึก นางจึงไม่อยากอยู่รบกวน อีกอย่างของใช้หรือของกินภายในมิติก็ล้วนแล้วแต่มากมาย เขาคงจัดการด้วยตนเองได้"มี่มี่ อยู่กับข้าก่อนได้หรือไม่" เขาเอ่ยอย่างน่าสงสาร จนซูมี่อดจะใจอ่อนมิได้"ท่านฝึกตามตำราเถิดเจ้าค่ะ ข้าจะรออยู่ด้านนอกกับพวกเป่าเปา" ซูมี่หันไปบอกฮุ่ยหมิ่นก่อนที่นางจะออกจากกระท่อมไปรอด้านนอกฮุ่ยหมิ่นเมื่อได้เปิดตำราเล่มแรกอ่าน ความสามารถในการจดจำของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เพียงสามชั่วยามตำราเล่มแรกในมือก็ถูกเขาทำความเข้าใจจนถ่องแท้ ตำราเล่มแรกว่าด้วยเรื่องการควบคุมความสมดุลของร่างกาย หากเขาควบคุมทุกอย่างร่างกายต่างๆ ได้ตามใจนึกก็สามารถฝึกเพลงดาบและกระบี่ได้เร็วขึ้นเขาเงยหน้าขึ้นมาจากตำรา ก็พบว่าเขายังปล่อยให้ซูมี่รอเขาอยู่ภายในมิติด้วย จึงเดินออกจากห้องเพื่อไปพบนาง แต่ก็พบเพียงเป่าเปาที่เฝ้าอยู่หน้าห้องไม่ให้ผู้ใดมารบกวน (ที่จะมากวนก็มีเพียงลูกของฟ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
  • อีกด้านของนางร้าย   บทที่ 36

    ซูมี่ก็อยู่เป็นคู่ต่อสู้ให้ฮุ่ยหมิ่น เสี่ยวไป๋ก็พาฮุ่ยหมิ่นเข้าไปฝึกด้านในภูเขา ซูมี่นางจึงได้ออกจากในมิติไปที่ด้านนอกก็พบว่ามีคนมารอพบนางอยู่ที่หน้าประตูจวน"ผู้ใด" เมื่อออกจากมิติมา โม่ลี่ก็เดินเข้ามาแจ้งนางภายในเรือน"ฮูหยินชิงเจ้าค่ะ" โม่ลี่แสดงความกังวลออกมา"หึ" คงอยากจะมาดูว่านางยังมีชีวิตอยู่หรือไม่กระมัง"ไปกันเถิด" ซูมี่เดินนำหน้าโม่ลี่ออกไปที่ประตูจวนเพื่อพบถิงถิง"มาพบข้ามีเรื่องอันใด" ซูมี่กอดอกมองถิงถิงที่ยามนี้ตกต่ำลงอย่างเห็นได้ชัด"เจ้า เจ้า" ถิงถิงตกตะลึงจนอ้าปากค้าง ที่นางมาเยือนที่เรือนตระกูลซูเพราะอยากรู้ว่าซูมี่นางมีสภาพเช่นใดบ้างหากซูมี่ถูกอันธพาลที่นางจ้างมาทำให้เสียโฉมหรือเสียบริสุทธิ์นางคงจะยินดีมากกว่าที่เห็นนางไม่มีแม้แต่รอยขีดขวนเช่นนี้"ถึงกับตกใจเลยหรือที่เห็นว่าข้าปลอดภัย" ซูมี่จ้องมองถิงถิงอย่างเยาะเย้ย"เจ้าพูดเรื่องอันใด" ถิงถิงร้อนตัวขึ้นมา"มิใช่เจ้าอยากจะมาดูว่าข้าเป็นเช่นใด อันธพาลที่เจ้าส่งมา อยากรู้หรือไม่ว่ามีจุดจบเช่นใด" ซูมี่เดินเข้าไปหาถิงถิงอย่างช้าช้า พร้อมทั้งจ้องมองนางอย่างดุดัน"เจ้าจะทำอันใด" ถิงถิงเดินถอยหลังอย่างหวาดกลัว แต่ซูมี่เข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
  • อีกด้านของนางร้าย   บทที่ 37

    ฮุ่ยหมิ่นอยู่ในมิติมาได้สองเดือนแล้ว ในช่วงหลังๆ จะมีซูมี่ที่มาร่วมฝึกไปกับเขาด้วย ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จนฮุ่ยหมิ่นที่ต้องเดินทางกลับชายแดนเหนือแล้ว เขาอยากจะนำนางใส่เข้าไปในอกเสื้อเพื่อพาไปชายแดนกับเขาด้วย"ท่านจะออกเดินทางเมื่อใดเจ้าคะ" ซูมี่เอ่ยถามขึ้น เพราะฮุ่ยหมิ่นฝึกวิชาจนตอนนี้เขาสามารถเอาชนะเสี่ยวไป๋ เสี่ยวเฮยและฟาไฉที่บุกเข้ามาพร้อมกันได้แล้ว"ฟ้าสางข้าก็ต้องกลับแล้ว มี่มี่ รอข้าได้หรือไม่" เขาจับใบหน้าของนางให้หันมาสบตากับเขา"ท่านคงไม่ตายในสนามรบกระมัง" ซูมี่เลิกคิ้วถามอย่างยียวน"อื้ออ" ฮุ่ยหมิ่นก้มลงกัดปากของนาง"ท่านเป็นฟาไฉหรือไร" ซูมี่ทุบไปที่อกของฮุ่ยหมิ่น ก่อนที่นางจะเดินไปที่บึงน้ำเพื่อล้างริมฝีปาก หากออกไปแล้วบิดามารดาเห็นจะตอบเช่นไรซูมี่ให้ฮุ่ยหมิ่นพกน้ำในลำธารติดตัวไว้ตลอด หากก่อนเรื่องไม่คาดฝันขึ้น เขาจะได้ใช้สิ่งนี้ได้ทันทั้งคู่ออกมาจากมิติก็พบว่าฟ้ายังไม่สาง ฮุ่ยหมิ่นพบว่าตัวเขาเข้าไปอยู่ในมิติด้านนอกเพิ่งจะผ่านมาเพียงแค่เจ็ดวันเท่านั้น ซูมี่ไล่ให้ฮุ่ยหมิ่นกลับไปที่เรือนรับรองที่อยู่ในสวน แต่ความหน้าหนาของเขา เขาแอบเข้าห้องของนาง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24

บทล่าสุด

  • อีกด้านของนางร้าย   ตอนจบ

    ซูมี่นางส่งฮ่องเต้และฮองเฮาลงแช่น้ำโดยให้ มามาและหยางกงกงคอยดูแลแล้วก็พาองค์รัชทายาทไปที่ถ้ำของเสี่ยวไป๋"เพราะพระองค์เห็นหม่อมฉันเป็นน้องสาว และหม่อมฉันก็เห็นพระองค์เป็นพี่ชาย จึงได้พามาที่ถ้ำของเสี่ยวไป๋" ซูมี่นางอธิบายเรื่องการเปลี่ยนไขกระดูกและการฝึกวรยุทธให้องค์รัชทายาทได้เข้าใจอย่างน้อยองค์รัชทายาทก็ต้องมีวรยุทธไว้ปกป้องพระองค์เอง เพื่อเกิดเหตุการณ์เช่นกบฏองค์ชายรองอีกครั้ง"มี่เออร์ เปิ่นหวางไม่เสียทีที่รักเจ้าเหมือนดั่งน้องสาว" องค์รัชทายาทเอ่ยออกมาจากใจ เพราะเขารักนางเหมือนน้องสาวตั้งแต่ครั้งแรกที่นางช่วยเสด็จพ่อของตนไว้ ไม่คิดว่านางจะไว้ใจตนจนมอบเรื่องวิเศษเช่นนี้ให้"พระองค์อดทนให้ได้นะเพคะ" ซูมี่บอกองค์รัชทายาทเมื่อมาถึงด้านในถ้ำของเสี่ยวไป๋"เปิ่นหวางจะอดทน" ซูมี่พยักหน้าให้ฮุ่ยหมิ่นคอยดูแลองค์รัชทายาท ส่วนนางจะกลับไปดูทางฮ่องเต้ ฮองเฮาก่อนเสียงกรีดร้องขององค์รัชทายาทดังออกมาจากนอกถ้ำ เสี่ยวไป๋ส่งเสียงขึ้นจมูกอย่างดูแคลน"ร้องดังกว่าเจ้าในยามนั้นเสียอีก" ซูมี่อดจะหัวเราะเสียงดังออกมามิได้เมื่อได้ยินคำพูดของเสี่ยวไป๋เมื่อกลับมาถึงถ้ำของเสี่ยวเฮย ฮ่องเต้ก็ขึ้นจากน้ำมาเรี

  • อีกด้านของนางร้าย   บทที่ 59

    นายท่านไป๋กับฮูหยินไป๋เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้งก็พบว่าตรงหน้าของตนได้เปลี่ยนไป แปลงสมุนไพรที่มีสมุนไพรหายากมากมาย ผัก ผลไม้ที่ขึ้นเต็มไปหมดเสี่ยวไป๋ในยามนี้ตัวใหญ่จนน่าตกตะลึง แล้วไหนจะหมาป่าสี่ตัวกับหมีควายที่กำลังวิ่งมาทางนี้อีก ฮูหยินไป๋เกือบจะเป็นลมแต่ถูกฮุ่ยหมิ่นประคองไว้เสียก่อนเป่าเปาที่ปรากฏกายด้วยรูปร่างที่แท้จริงบินไปตรงหน้าของนายท่านไป๋ เขาจ้องมองทุกสิ่งอย่างไม่อยากเชื่อสายตา แม้จะผ่านเรื่องน่าเหลือเชื่อมาหลายครั้ง แต่ครั้งนี้นับว่าเกินเขาจะรับไว้"มี่เออร์นี่เรื่องอันใด" เขาเอ่ยเสียงที่แทบหาไม่เจอออกมาอย่างอยากเย็นซูมี่เล่าเรื่องภายในมิติของนางให้นายท่านไป๋และฮูหยินไป๋ได้ฟัง นางพาทั้งคู่ไปที่ถ้ำของเสี่ยวเฮย เพื่อให้พวกเขาลงไปแช่ในน้ำ เพราะทั้งคู่ไม่ต้องเปลี่ยนไขกระดูกเช่นนางกับฮุ่ยหมิ่นจึงไม่ต้องไปที่ถ้ำของเสี่ยวไป๋เมื่อทั้งสองลงไปแช่ในน้ำ เพียงหนึ่งชั่วยามเมื่อขึ้นมาจากน้ำต่างก็พบความเปลี่ยนแปลงของตน นายท่านไป๋ที่มีโรคปวดตามข้อตามอายุของตนก็หายเป็นปลิดทิ้ง แม้ก่อนหน้านี้จะกินผักผลไม้ของตระกูลซูแต่ก็ต้องกินเป็นระยะเวลานานถึงจะเห็นผลรูปลักษณ์ของทั้งคู่ก็ดูจะอ่อนเยาว์ขึ้นอ

  • อีกด้านของนางร้าย   บทที่ 58

    เสี่ยวซานก็จัดการหาฤกษ์มงคล พร้อมทั้งหาแม่สื่อไปพูดคุยกับซูถัง ป้าอวี้ บิดามารดาของโม่ลี่เพื่อสุ่ขอนางตามธรรมเนียม เรื่องสินสอดและสินเดิมซูมี่นางก็จัดการให้อย่างใจกว้างจนบ่าวในเรือนที่ชอบพอกันมาบอกกล่าวนางว่าตนอยากจะแต่งกับคนนั้น คนนี้ ซูมี่ก็ไม่ขัดข้องพร้อมทั้งจัดการให้ทุกคน เพราะทุกคนที่กล้ามาพูดกับนางล้วนอยู่กับนางมาตั้งแต่ที่เมืองเจียงซวนงานมงคลของบ่าวในจวนแม่ทัพจัดขึ้นภายในเรือน แม้แต่จวนอื่นก็ไม่อยากจะเชื่อว่า แม่ทัพไป๋กับฮูหยินจะใจกว้างถึงกับจัดงานในบ่าวของตนด้วยเพียงวันเดียวก็มีคู่แต่งงานในจวนถึงห้าคู่ ซูมี่แบกท้องที่ใหญ่โตของนางไปร่วมงานด้วย ทั้งยังอยู่ร่วมรับประทานอาหารกับทุกคน ต้าหลาง จางกุ้ยก็พาบ่าวในจวนของเขามาร่วมงานด้วยเช่นกัน"ท่านพี่ ข้าคิดว่าข้าจะคลอดแล้วเจ้าค่ะ"ซูมี่ดึงแขนเสื้อของฮุ่ยหมิ่นที่ร่วมดื่มเหล้ามงคล"ตามหมอตำแยประเดี๋ยวนี้" ฮุ่ยหมิ่นตกตะลึง เมื่อดึงสติมาได้ เขาก็ตะโกนเสียงดังภายในจวนจึงได้วุ่นวายไปหมด โม่ลี่ที่อยู่ในห้องหอก็อยากจะออกมาดูนายหญิงของตนใจแทบขาด แต่ก็โดนสั่งห้ามไว้ เพราะมีคนอยู่ในจวนมากมายให้นางวางใจได้ แต่นางก็มิยอมฟังยังออกจากห้องหอมาที่เ

  • อีกด้านของนางร้าย   บทที่ 57

    คุณหนูหานร้องอย่างตกใจ พร้อมทั้งกระโดดไปที่ฮุ่ยหมิ่น แต่มีหรือที่คนอย่างฮุ่ยหมิ่นจะยอมให้สตรีนางอื่นมาโดนตัว เขาพุ่งหลบไปอีกทางอย่างรวดเร็วโดยไม่ลืมที่จะดึงซูมี่ออกห่างมาด้วยคุณหนูหานจึงล้มลงไปกองที่พื้นเสียงดัง สาวใช้ของนางต้องรีบเข้ามาประคองนายของตนอย่างเสียขวัญไหนจะมีเสือขาวที่นอนหมอบจ้องมาทางพวกนางเหมือนจ้องตะครุบเหยื่อ แต่ก็ไม่กล้าที่จะทิ้งนายตนเองมิเช่นนั้นเมื่อกลับจวนไม่รู้ว่าจะโดนลงโทษเช่นใด"ไล่มันออกไปสิเจ้าค่ะ" นางร้องสั่งฮุ่ยหมิ่นให้ไล่เสือขาว"เป็นเจ้าที่ต้องออกไป เสี่ยวไป๋เป็นสัตว์เลี้ยงของมี่มี่" ฮุ่ยหมิ่นเอ่ยเสียงเย็นอย่างไม่ไว้หน้าคุณหนูหานไม่คิดว่าฮุ่ยหมิ่นไม่รับตัวนางไว้ แล้วยังออกปากไล่นางออกจากจวนอีก นางจึงร้องไห้รีบร้อนออกจากจวนท่านแม่ทัพไปอย่างอับอาย"นางเข้ามาได้อย่างไร" ฮุ่ยหมิ่นเอ่ยถามบ่าวเสียงเข้ม"ข้าให้นางเข้ามาเองเจ้าค่ะ อยากรู้ว่านางมาด้วยเรื่องอันใด" ซูมี่ถูกฮุ่ยหมิ่นประคองมายังที่นั่ง"แล้วรู้หรือยังว่านางเข้ามาด้วยเรื่องอันใด" เขาเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ เพราะเขากับตระกูลหานไม่ได้สนิทถึงขั้นต้องไปมาหาสู่กัน อีกอย่างฮูหยินรองก็ไม่ถูกกับมารดาของตนอีกด้

  • อีกด้านของนางร้าย   บทที่ 56

    ฮุ่ยหมิ่นก็ตั้งใจทำเช่นที่เขาพูดจริง นับตั้งแต่วันนั้นมา ฮุ่ยหมิ่นก็เหมือนจะเร่งมือเรื่องทำบุตรทุกค่ำคืน เพราะซูมี่นางกลับไปที่จวนโหวทุกวันเพื่อดูน้องชายบ้างวันฮุ่ยหมิ่นกลับมาจากค่ายทหารยังหาภรรยารักไม่พบ จนต้องตามไปที่จวนท่านพ่อตาเพื่อรับนางกลับจวน"เกิดอันใดขึ้น" ฮุ่ยหมิ่นที่เพิ่งกลับมาถึงเรือน ก็เห็นบ่าววิ่งกันให้วุ่น"ท่านแม่ทัพ ฮูหยินนางกินอันใดมิได้ขอรับ บ่าวในเรือนจึงต้องไปทำใหม่เสียหลายรอบ" พ่อบ้านซานรีบบอกฮุ่ยหมิ่น"ตามหมอหรือยัง" ฮุ่ยหมิ่นเหมือนจะลืมไปว่าซูมี่นางรู้วิชาแพทย์"ฮูหยินมิได้ตามขอรับ" พ่อบ้านซานหลบสายตาของฮุ่ยหมิ่น"ประเสริฐ" เขารีบร้อนเดินไปที่เรือนของตนเพื่อดูอาการของซูมี่ และอยากจะตำหนินางที่ไม่ยอมตามหมอ"มี่มี่ เหตุใด เจ้าถึงไม่ตามหมอ" ฮุ่ยหมิ่นเข้ามาถึงก็เอ่ยถามทันทีแต่เมื่อเห็นโม่ลี่ประคองกระโถนในมือเพื่อให้ซูมี่นางอาเจียนก็รีบร้อนเข้ามานั่งข้างนางทันที"ท่านยังมิรู้อีกหรือว่าข้าเป็นอันใด" ซูมี่เอ่ยถามอย่างอ่อนแรง เสี่ยวไป๋ก็เข้ามาซุกอยู่ที่ท้องของนางอย่างห่วงใย"ดื่มก่อนเจ้าค่ะนายหญิง" เป่าเปาส่งถ้วยน้ำในมือของนางให้ซูมี่ เมื่อนางดื่มเข้าไปอาการอยากอาเจี

  • อีกด้านของนางร้าย   บทที่ 55

    ภายในห้องโถงเรือนหลักของจวนแม่ทัพ ในยามนี้มีเพียงบิดามารดาของฮุ่ยหมิ่นเท่านั้น เพราะเขาแยกจวนมาอยู่ที่จวนท่านแม่ทัพแล้ว วันนี้นายท่านไป๋กับฮูหยินไป๋เพียงมาพักช่วงรับตัวเจ้าสาวเข้าจวน"คารวะท่านพ่อ ท่านแม่เจ้าค่ะ" ซูมี่ยกน้ำชาขึ้นเหนือคิ้วของนาง ส่งให้นายท่านไป๋กับฮูหยินไป๋"นับจากนี้เจ้าเป็นบุตรสาวของข้าอีกคนแล้ว" ฮูหยินไป๋จินชาเล็กน้อย ก่อนจะวางโฉนดที่ดินนอกเมืองให้ซูมี่ห้าร้อยหมู่เพื่อรับขวัญลูกสะใภ้"หากมีเรื่องอันใดที่จัดการไม่ได้ ก็บอกแม่สามีของเจ้าแล้วกัน" นายท่านไป๋ก็ชาขึ้นดื่มเล็กน้อยพร้อมทั้งโบ้ยให้ทางฮูหยินไป๋รับเรื่องไว้ฮุ่ยหมิ่นส่ายหัว เมื่อเห็นมารดาทำหน้าเหมือนอยากจะทุบบิดาของตน ซูมี่นำของที่นางเตรียมไว้มอบให้นายท่านไป๋และฮูหยินไป๋ เมื่อทั้งคู่เปิดดูก็ต้องตกตะลึงจนอ้าปากค้าง เพราะนางให้โสมที่นางปลูกไว้ให้ทั้งสองถึงห้าหัวแต่ถ้าทั้งคู่รู้ว่าโสมของนางมีเป็นพันหัวไม่รู้จะแสดงสีหน้าเช่นไร แม้โสมทั้งห้าหัวจะไม่ได้มีขนาดใหญ่เช่นที่เสี่ยวเฮยนำมาให้ซูมี่ แต่ถ้าเทียบกับที่จวนอื่นมี ในมือของทั้งคู่ตอนนี้ก็ถือว่าใหญ่ที่สุด ฮูหยินไป๋กอดกล่องไม้ไม่ยอมส่งให้สาวใช้ถือ เมื่อทานอาหารเช

  • อีกด้านของนางร้าย   บทที่ 54

    ขบวนรับเจ้าสาวออกจากจวนโหวไปจวนแม่ทัพอย่างยิ่งใหญ่ ที่ไม่พูดถึงไม่ได้คงจะเป็นสินเดิมของเจ้าสาวที่มีมากมาย ภายในหีบนอกจากเงินทองแล้ว ของทุกอย่างมีค่าควรเมือง แม้แต่ในราชวังของบางอย่างที่ซูมี่นางมีคงไม่เคยได้พบเห็นตามธรรมเนียมต้องเปิดหีบทุกใบออกเพื่อให้ทุกคนได้รู้ว่าได้เห็นสิ่งที่อยู่ด้านในมิใช่หีบเปล่า หรือใส่ก้อนหินไว้แทน กล่องที่ดูจะเด่นที่สุดเห็นจะเป็นโสมหัวใหญ่ของเสี่ยวเฮย เพียงมองด้วยตาเปล่าก็คำนวณอายุออกมาน่าจะไม่น้อยกว่าพันปีเป็นแน่ไม่รู้ว่าจวนโหวไปหาของเหล่านี้มาจากที่ใด เพราะข่าวลือที่รู้มา ซูมี่นางเป็นเพียงหญิงชาวบ้านเท่านั้น ต่างคนต่างความคิด ซูมี่อดจะหัวเราะออกมาไม่ได้ เพราะนางล่วงรู้ความคิดของคนทั้งหมดบางคนคิดว่าจวนท่านแม่ทัพให้นางมา บางคนกล่าวว่าเป็นสินสงครามที่ฮุ่ยหมิ่นยึดมาได้แต่ไม่ส่งเข้าคลังหลวง เรื่องทั้งหมดไม่ว่าชาวเมืองจะคิดเช่นไร แต่คนของราชวงศ์อย่างฮ่องเต้และฮองเฮาล้วนรู้ดีถึงความพิเศษของนาง แต่เขามิได้พูดเรื่องของซูมี่ออกมาเพราะได้รับปากนางไว้แล้ว โสมในวังไม่ใช่จะไม่มีที่อายุนับพันปี แต่เมื่อเทียบกับของที่ซูมี่นำมามอบไว้ให้ย่อมเทียบกันไม่ติดเมื่อมาถึงจวนแม่

  • อีกด้านของนางร้าย   บทที่ 53

    ฮุ่ยหมิ่นเดินเข้ามาซูมี่ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนา ซูมี่เห็นท่าไม่ดีนางจึงหายเข้าไปในมิติ ฮุ่ยหมิ่นยืนนิ่งอยู่กับที่อย่างตกตะลึง ก่อนที่จะหัวเราะออกมาเบาๆ เขานั่งรอซูมี่อยู่บนเตียง แต่ไม่เห็นนางออกมาเสียทีจึงได้เขียนจดหมายทิ้งไว้ให้นาง แล้วกลับจวนของตนเองไป เพราะพรุ่งนี้เช้าเขาก็ต้องมารับตัวนางไปอยู่ด้วยที่จวนแล้วซูมี่ที่แอบหลบอยู่ในมิติ นางยังเห็นด้านนอกว่าฮุ่ยหมิ่นทำสิ่งใด เมื่อเขากลับออกไปจากห้องของนางแล้ว ซูมี่ที่กำลังจะออกจากมิติ เสี่ยวไป๋ก็เดินเข้ามาหานาง"ข้าให้ท่านนายหญิง" "นี่คืออันใด" ซูมี่หยิบสิ่งที่เสี่ยวไป๋ให้ขึ้นมา มันเหมือนลูกแก้วกลมใส ขนาดเท่าหัวนิ้วมือ"ท่านกลืนลงไปก็จะรู้" เสี่ยวไป๋มองสบตากับซูมี่ซูมี่นางกลืนลงไปทันที เพราะเชื่อใจเสี่ยวไป๋ เพียงไม่นานภาพเหตุการณ์ต่างๆก็ปรากฏขึ้น ภาพด้านนอกมิติ และภาพชีวิตของสัตว์ป่าทุกตัวที่อยู่ในมิติปรากฏชัดเหมือนนางอยู่ตรงนั้นด้วยตนเองด้านในมิตินางมิได้แปลกใจสักเท่าใด แต่ภาพในเรือนของนางไม่ว่าใครจะทำสิ่งใด เมื่อนางนึกถึงก็จะเห็นผู้นั้นทำสิ่งต่างๆ ทันที แล้วยังล่วงรู้ความคิดของทั้งหมดโดยที่ไม่ต้องพูดออกมาอีกด้วย"นี่มัน"

  • อีกด้านของนางร้าย   บทที่ 52

    ฮุ่ยหมิ่นนับว่าได้ความดีความชอบที่กลับมาช่วยจัดการกลุ่มกบฏขององค์ชายรองไว้ได้ทัน ฮ่องเต้จะให้ฮุ่ยหมิ่นกลับมาดูแลเมืองหลวง พร้อมทั้งพระราชทานจวนท่านแม่ทัพให้แก่เขาส่วนทางชายแดนเหนือยกให้รองแม่ทัพขึ้นเป็นแม่ทัพแทน ฮุ่ยหมิ่นจึงต้องส่งทหารทางชายแดนเหนือที่ตนพามาด้วยกลับชายแดนไปหลังจากจบเรื่องกบฏองค์ชายรอง ฮุ่ยหมิ่นก็ต้องจัดระเบียบทหารในค่ายของเมืองหลวงเสียใหม่ และต้องใช้เวลาฝึกทหารที่ไม่ได้เรื่องอีกมากนักที่ดินที่ใช้ปลูกเสบียงสำหรับกองทัพ ฮุ่ยหมิ่นก็ใช้น้ำวิเศษของซูมี่ในแปลงผัก และนาข้าว ฮุ่ยหมิ่นจัดการฝึกวรยุทธให้ทหารในค่ายด้วยตนเอง จนใกล้ถึงวันงานเขาจึงได้กลับไปที่เรือนตระกูลไป๋"หมิ่นเออร์ จวนหลังใหม่ของเจ้าจะเข้าไปอยู่เลยหรือไม่" ฮูหยินไป๋เอ่ยถามบุตรชายเมื่อเขาเข้ามาพบนางที่ห้องโถง"ข้าจะเข้าไปอยู่เลยขอรับ เรื่องบ่าวหรือข่าวของในจวนข้าจะจัดการเองขอรับ" เพราะเขาจะให้ซูมี่นางจัดการให้"เช่นนั้นก็แล้วแต่เจ้า" ฮูหยินไป๋มิได้เข้าไปจัดการ เพราะเห็นว่าบุตรชายและซูมี่นางน่าจะจัดการได้ดีตกดึกฮุ่ยหมิ่นก็ไปหาซูมี่ที่เรือนของนาง เพราะเขามิได้พบหน้านางมาหลายวัน นับตั้งแต่ต้องไปจัดการเรื่องภายใ

DMCA.com Protection Status