แชร์

บทที่ 18

ผู้เขียน: l3oonm@
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-24 20:00:33

ต้าหลางกับจางกุ้ยเมื่อนึกถึงผักที่พวกตนได้ปลูกก็คิดตามที่ซูมี่พูด เพราะผักที่วางขายทั่วไปที่พบเห็นต้นเล็กไม่อวบอิ่มดูน่ากินไม่เท่าผักที่จวนของตน

"เช่นนั้นก็นำออกไปส่งไม่ต้องมากนัก" ต้าหลางก็เห็นด้วย

ยิ่งผักของพวกเขาหากได้กินทุกวันร่างกายที่ทรุดโทรมก็แข็งแรงขึ้นเหมือนเป็นวัยหนุ่มสาวอีกครั้ง

เช้าวันต่อมาต้าหลางก็ให้ซูถังกับซูโจวเป็นคนนำผักออกไปส่ง โดยครั้งนี้เขานำไปอย่างละตะกร้าขนาดกลางเท่านั้น

ผักที่ส่งให้เหลาอาหารเฉิงไฉมี หลัวโป(หัวไชเท้า) หูหลัวโป(แครอท) ไป๋ไช่(ผักกาดขาว) ชิงช่าย(กวางตุ้ง) และจิ่วไช่(กุยช่าย)

แต่ความจริงมีอีกหลายอย่าง ในยุคนี้ยังไม่มีให้เห็นจึงยังไม่ได้นำออกไปขาย เพราะเหลาอาหารก็คงยังไม่รู้วิธีทำ

หลงจู๊หม่าที่เห็นคนของต้าหลางส่งของมาให้น้อยก็อยากจะได้เพิ่ม เพียงแค่เมื่อวานลูกค้าที่ได้ลองกินผักชุดแรกวันนี้ก็พากันมาถามหาอีกแล้ว

"เจ้าบอกต้าหลางข้าขอเพิ่มอีกได้หรือไม่" หลงจู๊หม่าแสดงความต้องการของตนออกมาอย่างไม่ปิดบัง

"ผักที่เรือนของนายท่านซู แบ่งมาให้ได้เท่านี้ขอรับ" ซูถังที่เตรียมคำพูดมาแล้วก็บอกหลงจู๊หม่าไปเช่นนั้น

"แต่ต่อไปมีเท่าใดข้ารับซื้อทั้งหมด แล้วจะเพิ่มราคาใ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • อีกด้านของนางร้าย   บทที่ 19

    หลงจู๊หม่าชิมอาหารแต่ละอย่างพร้อมทั้งเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รสชาติอาหารของเหลาเฉิงไฉนับว่าดีแล้ว แต่เทียบไม่ได้กับของตระกูลซูเลยซูมี่นางคิดในใจ จะเทียบได้อย่างไร เพราะในเรือนของนางมีเครื่องปรุงที่หาจากที่อื่นไม่ได้ หรือนางจะขายเครื่องปรุงด้วยดีตลอดเวลาที่หลงจู๊หม่าได้ลองกิน เขาก็เอ่ยถามอยู่ตลอดว่าผักชนิดใด แต่เพราะเขาจำได้ไม่หมดจึงขอซื้อวิธีทำจากซูมี่เลย "ข้าให้จานละห้าสิบตำลึง" เขายอมจ่ายวิธีทำของแต่ละจาน"เช่นนั้นข้าจะเขียนให้ท่านเจ้าค่ะ" ซูมี่ยิ้มรับก่อนจะหายออกไปจากห้องหนึ่งแค่ครึ่งชั่วยามซูมี่นางก็เดินกลับเข้ามาพร้อมทั้งกระดาษที่จดวิธีทำเกือบสิบอย่างในมือ"เร็วถึงเพียงนี้" หลงจู๊หม่ารับกระดาษไปดูพร้อมทั้งจุ๊ปากอย่างชื่นชมจะไม่ให้เร็วได้อย่างไร ในเมื่อซูมี่นางเข้าไปคัดลอกตามหนังสืออยู่ภายในมิติ เมื่อจ่ายเงินเรียบร้อย เขาก็เดินออกจากเรือนตระกูลซูไปด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้ม เพราะการมาครั้งนี้กลับไปย่อมต้องได้รางวัลก้อนใหญ่จากนายท่านฉุยเป็นแน่จางกุ้ยกำลังนับเงินที่ได้มาจากหลงจู๊หม่าที่ครั้งนี้ขายผักได้ถึง ห้าร้อยตำลึงเงิน แล้วยังมีค่าเมนูอาหารอีกห้าร้อยตำลึงเงิน นางจางกุ้ย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
  • อีกด้านของนางร้าย   บทที่ 20

    ก่อนที่นายท่านฉุยกับหลงจู๊หม่าจะกลับเข้าเมืองไปได้หันมาถามต้าหลางว่าบุตรสาวหมั้นหมายกับผู้ใดไว้หรือยัง"ก่อนหน้านี้เคยหมั้นหมายแล้วขอรับ แต่เกิดเรื่องขึ้นจึงต้องถอนหมั้น" ต้าหลางถอนหายใจก่อนจะเอ่ยขึ้นเพราะการที่วูมี่นางจะหมั้นหมายใหม่อีกครั้งต้องบอกเรื่องที่นางเคยถอนหมั้นแล้วเสียก่อน หากแต่งเข้าไปบ้านฝ่ายชายมารู้เรื่องที่หลังจะทำให้เกิดปัญหาได้"เช่นนั้นหรือ" นายท่านฉุยมองอย่างเสียดายแล้วขึ้นรถม้ากลับไปมิใช่ว่าสตรีที่ถูกถอนหมั้นจะไม่ดี แต่เรื่องนี้เขาต้องไปสืบเสียก่อน ว่าแท้จริงแล้วเกิดเรื่องอันใดขึ้นการค้าระหว่างคหบดีฉุยและตระกูลซูเป็นไปด้วยดี เมื่อถึงเวลาหลงจู๊ก็ส่งเสี่ยวเอ้อหน้าร้านที่สนิทกับต้าหลาง นามว่าเสี่ยวฟานให้เป็นคนมารับผัก เพราะกลัวว่าหากส่งคนอื่นที่ไม่รู้จักมาจะไม่ได้ผักกลับไปผ่านมานับครึ่งปีผลไม้ในสวนก็ถึงเวลาที่จะออกวางขายได้แล้ว ต้าหลางจึงเดินทางเข้าเมืองกับซูมี่และพ่อบ้านกวง เพื่อไปดูร้านค้าที่ตนต้องการจะซื้อ"มี่เออร์เจ้าถูกใจบ้างหรือยัง" ต้าหลางหันไปถามบุตรสาวที่ตอนนี้เจ้าหน้าที่พาพวกเขามาดูหลายร้านแล้ว"ข้าว่าร้านนี้เหมาะสมที่สุดแล้วเจ้าค่ะ" ด้านขวาเป็นเหลาอาหา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
  • อีกด้านของนางร้าย   บทที่ 21

    "หากไม่มีอันใดแล้ว ข้าขอตัวก่อนเจ้าค่ะ" ซูมี่ก้มศีรษะลงแล้วกำลังจะเดินจากไป"ประเดี๋ยวก่อน" ฮุ่ยหมิ่นเรียกรั้งนางไว้"มีอันใดเจ้าคะ""ข้านำเงินมาให้เจ้า ตอบแทนที่เจ้าช่วยข้าในครั้งนั้น" เขาคิดว่านางน่าจะชอบเงินที่สุดแล้ว จากครั้งที่แล้วที่นางเดินออกมาส่งเขา เพราะมารดาของนางบอกว่าเขาจะมอบสินน้ำใจให้"ได้เจ้าค่ะ" ซูมี่แบมือเพื่อขอตั๋วเงินจากฮุ่ยหมิ่นฮุ่ยหมิ่นส่ายหน้าอย่างขบขันก่อนจะหยิบตั๋วเงินห้าพันตำลึงออกมาจากอกเสื้อแล้วมอบให้นาง"คุณชายไป๋ ท่านมาทำการค้าหรือขอรับ" ต้าหลางที่เสร็จเรื่องไม่เห็นซูมี่มาพบตนก็เดินกลับมาดูนาง"คารวะนายท่านซู ข้ามาทำการค้าขอรับ" ซูมี่กลอกตา บิดานางเชื่อเขาจริงหรือว่ามาทำการค้า ทั่วทั้งตัวของเขามีแต่รอบแผลเป็นที่เกิดจากดาบ คนเช่นนี้จะเป็นพ่อค้าได้อย่างไรฮุ่ยหมิ่นเหมือนรู้ว่าซูมี่นางคิดอะไร เขากำมือขึ้นปิดปากเพื่อกระแอมอย่างเก้อเขินที่นางรู้ทันว่าเขาพูดปด"มีที่พักแล้วหรือยังขอรับ" ซูมี่หันไปมองบิดาที่เอ่ยชวนฮุ่ยหมิ่นไปที่เรือนอย่างรวดเร็ว"ยังเลยขอรับข้าเพิ่งจะถึง" ฮุ่ยหมิ่นที่เห็นอาการของซูมี่จึงคิดที่อยากจะแกล้งนาง จึงตอบรับคำเชิญของต้าหลางฮุ่ยหมิ่นให้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
  • อีกด้านของนางร้าย   บทที่ 22

    ซูมี่นางจ้องมองไปที่ฮุ่ยหมิ่นในตอนแรกนางคิดว่าเขาจะโกหกบิดาของนางต่อไปแล้วเสียอีก"เรื่องเมล็ดผักมิใช่จะเป็นไปไม่ได้ เพียงแต่" ซูมี่จ้องมองฮุ่ยหมิ่นอย่างเจ้าเล่ห์"ข้ายอมจ่าย หากผลผลิตที่ได้จะมากเท่าที่พวกท่านปลูกออกมา" ซูมี่พยักหน้าหากจะติดก็คงติดที่เรื่องน้ำที่นางใช้ ส่วนเมล็ดผักจะหาซื้อที่ใดก็ย่อมไม่ต่างกันมากนัก"ข้าจะขายสิ่งที่เรียกว่าปุ๋ยให้ท่านแล้วกันเจ้าค่ะ""ปุ๋ย คืออันใด" ฮุ่ยหมิ่นเอ่ยถามอย่างสงสัย"เป็นอาหารเจ้าค่ะ ผักผลไม้ก็เหมือนคน ต้องการอาหารเช่นกัน" ซูมี่จึงบอกเรื่องที่ตระกูลของนางมีสูตรลับที่ใช้กับพืชผักในสวน จนมีผลผลิตมากมายอย่างที่เห็น นางขายน้ำวิเศษให้ฮุ่ยหมิ่นไหใหญ่ไหละสิบตำลึง เพราะเขาต้องการไปใช้เลี้ยงทหารในทองทัพ จะให้โดยไม่คิดเงินเลยก็ยังไงอยู่ "ข้าให้ท่าน" ซูมี่นางยื่นขวดหยกที่บรรจุน้ำในลำธารเพื่อยื้อชีวิตหากเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้น"คือสิ่งใด" ฮุ่ยหมิ่นเปิดจุดขวดออกแล้วดมสิ่งที่อยู่ด้านใน ก็พบว่าไม่มีกลิ่น"สิ่งนี้จะช่วยรักษาชีวิตของท่านไว้ได้ หากเกิดเรื่องร้ายแรงเช่นครั้งที่แล้ว" ซูมี่นางขอให้เขาเก็บเรื่องที่นางให้เป็นความลับ"ขอบคุณเจ้ามาก" ฮุ่ยหมิ่นมอง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
  • อีกด้านของนางร้าย   บทที่ 23

    คนที่มากับนางคือพี่ชายของนางจางกุ้ยและบุตรชายของเขาที่กำลังประคองบิดามารดาที่แก่ชราแล้วของนางอยู่ด้วย จางกุ้ยเมื่อเห็นมารดาก็รีบเดินเข้าไปหาทันที"ท่านพ่อ ท่านแม่ ท่านมาได้อย่างไรเจ้าค่ะ" จางกุ้ยที่คิดถึงบิดากับมารดาก็รีบเดินเข้าไปหาทั้งคู่ทันที"เหอะ ถ้าหากวันนี้ไม่ว่าจะรู้ได้อย่างไรว่าพวกเจ้าร่ำรวยเพียงนี้" นางไฉ่หงยังคงจีบปากจีบคอพูดบุตรชายคนโตของนางที่ทำงานในเมืองเห็นต้าหลางอยู่ภายในร้าน เมื่อสอบถามชาวบ้านจึงได้รู้ว่าเป็นร้านของเขา จางพานจึงรีบกลับเรือนเพื่อนำเรื่องไปแจ้งท่านพ่อท่านแม่ของตนกว่าจางหูจะเกลี้ยกล่อมให้บิดามารดาเดินทางมาที่บ้านน้องสาวได้ก็นับว่าใช้เวลาอยู่หลายวัน แต่น้องชายคนเล็กอย่างจางโต้ว ไม่ยอมที่จะมาด้วยเพราะเขาจางโต้วอดที่จะรู้สึกผิดกับพี่สาวไม่ได้ เมื่อตอนที่นางบากหน้ามาพบบิดามารดาที่เรือนกลับถูกพี่สะใภ้ไล่ออกจากบ้านอย่างโหดร้าย แต่พอนางตั้งตัวได้กลับกล่าวหาว่านางอกตัญญูซูมี่ที่รู้เรื่องว่าใครมาโวยวายอยู่ที่หน้าเรือนนางก็รีบเก็บเรือนทั้งหลังเข้าไปภายในมิติ ก่อนที่จะนำเรือนที่เป่าเปาสร้างขึ้นเพื่อใช้ในมิติออกมาแทน ท่านป้าเหมยส่ายหน้าให้กับคุณหนูที่กังวลเรื่อ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
  • อีกด้านของนางร้าย   บทที่ 24

    ทุกครั้งที่ซูมี่นางเข้ามาในมิติ ฟาไฉกับไฉฟู่จะออกจากป่ามาอยู่กับนางด้วยทุกครั้งและครั้งนี้ซูมี่นางพาทั้งสองตัวเข้าไปนอนในห้องกับนางด้วย"นายหญิงป่าชั้นกลางเปิดแล้วขอรับ" ฟาไฉบอกเรื่องที่มิติปลดล็อกป่าชั้นกลางออกแล้ว"เป็นไปได้อย่างไร" เพราะนางไม่รู้ว่าไปช่วยคนมากถึงสามร้อยคนในตอนไหน"นายหญิง ท่านนำผักผลไม้ออกไปขาย ชาวบ้านที่กินของท่านร่างกายก็แข็งแรงขึ้นมาก็นับว่าเป็นการช่วยคนแล้วเจ้าค่ะ" เป่าเปาที่นอนกลิ้งอยู่บนที่นอนเอ่ยขึ้น"เช่นนั้นหรือ" หนึ่งคน หนึ่งทูต สองตัว ต่างนัดวันที่จะเข้าไปสำรวจป่าชั้นกลางแต่ครั้งนี้นางไม่คิดจะพาใครไปด้วย เพราะฟาไฉบอกว่าด้านในอันตราย หากมีคนมากเกินไปตัวฟาไฉก็อาจจะดูแลได้ไม่ดีรุ่งเช้าทุกคนก็ออกจากในมิติแล้วไปจัดการงานของตนเอง ต้าหลางให้เสี่ยวซานนำผักไปส่งที่เหลาอาหารเฉิงไฉ ก่อนที่พวกตระกูลจางจะตื่นนอน ผลไม้ที่ส่งไปยังร้านขายก็นำไปส่งได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยให้เสี่ยวซานแจ้งเรื่องกับหลงจู๊หม่าว่าช่วงนี้ตนจะนำผักมาส่งเอง และให้เสี่ยวอีจัดการเรื่องภายในร้านผลไม้ไปก่อน หากลูกค้าไม่พอใจ ให้ลงชื่อแจ้งไว้แล้วจะส่งตามไปให้ที่เรือนในภายหลังนางไฉ่หงเมื่อตื่นแ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
  • อีกด้านของนางร้าย   บทที่ 25

    เมื่อเดินกลับมาที่เรือน ตระกูลจางที่เก็บของกันอยู่ก็ยังมิได้ออกมา ซูมี่เดินตามมารดาเข้าไปที่ห้องของท่านตาท่านยาย ก็เห็นทั้งคู่นั่งร้องไห้อยู่ภายในห้อง"ท่านพ่อท่านแม่ ข้าขอโทษเจ้าค่ะ เรื่องที่ผ่านไปแล้วข้าจะไม่พูดถึงอีก" นางจางกุ้ยเอ่ยขอโทษ"เป็นแม่ที่ผิดต่อเจ้า""ท่านแม่อย่าได้พูดอีกเลยเจ้าค่ะ" นางยอมรับว่าผิดหวังกับคำพูดของมารดาที่เข้าข้างพี่สะใภ้ในวันนี้ แต่ถึงอย่างไรนางก็คือมารดาที่ให้กำเนิด"ท่านพ่อ ท่านเก็บไว้เถิดเจ้าค่ะ นี่คือความกตัญญูสุดท้ายของข้า" ซูมี่ส่งตัวเงินให้มารดาหนึ่งหันตำลึง เพื่อยื่นให้ท่านตาของนาง"พ่อจะรับของเจ้าไว้ได้อย่างไร" ผู้เฒ่าจางดันมือของจางกุ้ยกลับไป"ท่านพ่อรับไว้เถิด ข้าหวังว่าเงินก้อนนี่ท่านจะเก็บไว้ใช้" นางจางกุ้ยมองไปที่มารดาของนางซูมี่แตะแขนมารดาเพื่อเรียกสติ เพราะให้ไปแล้วไม่ว่าหลังจากนี้ ท่านตาของนางจะใช้เรื่องใดก็ไม่เกี่ยวกับพวกนางแล้วผู้เฒ่าจางรับเงินจากมือจางกุ้ยมาเก็บไว้ในอกเสื้อ ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นเพื่อกลับเรือนของตน"ท่านพ่อ ท่านแม่ พวกท่านกินข้าวเสียก่อนข้าจะให้เสี่ยวเอ้อไปส่งพวกท่าน" นางจางกุ้ยช่วยประคองมารดาออกจากห้องเพื่อไปกินอาหารทั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
  • อีกด้านของนางร้าย   บทที่ 26

    เพียงเดือนกว่าผ่านไป ทหารในกองทัพก็ต้องตกใจ เมื่อข้าวที่พวกเขาบอกไว้พร้อมเก็บเกี่ยวแล้ว และผลผลิตที่ได้ก็มากพอให้คนในกองทัพกินไปได้หลายเดือนปลูกครั้งเดียวก็ได้มากมายถึงเพียงนี้ แถมใช้เวลาไม่มากอีกด้วย ผักก็เช่นกันเก็บเกี่ยวรอบแรกไปแล้ว ทหารที่ได้กินล้วนสามารถฝึกได้ยาวนานกว่าเดิม เมื่อฝึกเสร็จก็รู้สึกว่าไม่ได้อ่อนล้าเช่นที่ผ่านมาซูมี่ที่อยู่ภายในมิติตอนนี้นางกำลังเริ่มสำรวจป่าชั้นกลาง โดยมีฟาไฉกับเป่าเปาที่ติดตามไปกับนางด้วยไฉฟูนางไม่ได้ตามมาด้วยเพราะกำลังตั้งท้องอยู่ตลอดทางมีต้นไม้และสัตว์ป่ามากกว่าที่พบเห็นจากป่าด้านนอก ยิ่งสมุนไพรอย่างโสมพันปียังมีให้เห็นอยู่มากมาย ซูมี่กำลังจะถามทั้งสองว่าพื้นที่ป่าชั้นกลางผู้ใดเป็นคนดูแลเสียงคำรามของสัตว์ป่าก็ดังก้องไปทั่วป่า เพียงทั้งสามเหยียบเข้าไปครึ่งทาง"เสียงอันใด" ซูมี่นางชะงักเท้า แล้วเอ่ยถามอย่างหวาดกลัวแม้จะเป็นมิติของนาง แต่เสียงที่ได้ยินก็รู้ว่าเป็นเสียงของสัตว์ใหญ่ยังไม่เห็นตัวก็รู้ว่าน่ากลัวแล้ว"นายหญิง" เป่าเปาร้องเรียกซูมี่ เมื่อมีหมีควายตัวใหญ่กว่านางถึงสามเท่าวิ่งมาทางที่นางอยู่ฟาไฉ เดินเข้ามาขวางหน้าซูมี่พร้อมทั้งแยกเขี้ย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24

บทล่าสุด

  • อีกด้านของนางร้าย   ตอนจบ

    ซูมี่นางส่งฮ่องเต้และฮองเฮาลงแช่น้ำโดยให้ มามาและหยางกงกงคอยดูแลแล้วก็พาองค์รัชทายาทไปที่ถ้ำของเสี่ยวไป๋"เพราะพระองค์เห็นหม่อมฉันเป็นน้องสาว และหม่อมฉันก็เห็นพระองค์เป็นพี่ชาย จึงได้พามาที่ถ้ำของเสี่ยวไป๋" ซูมี่นางอธิบายเรื่องการเปลี่ยนไขกระดูกและการฝึกวรยุทธให้องค์รัชทายาทได้เข้าใจอย่างน้อยองค์รัชทายาทก็ต้องมีวรยุทธไว้ปกป้องพระองค์เอง เพื่อเกิดเหตุการณ์เช่นกบฏองค์ชายรองอีกครั้ง"มี่เออร์ เปิ่นหวางไม่เสียทีที่รักเจ้าเหมือนดั่งน้องสาว" องค์รัชทายาทเอ่ยออกมาจากใจ เพราะเขารักนางเหมือนน้องสาวตั้งแต่ครั้งแรกที่นางช่วยเสด็จพ่อของตนไว้ ไม่คิดว่านางจะไว้ใจตนจนมอบเรื่องวิเศษเช่นนี้ให้"พระองค์อดทนให้ได้นะเพคะ" ซูมี่บอกองค์รัชทายาทเมื่อมาถึงด้านในถ้ำของเสี่ยวไป๋"เปิ่นหวางจะอดทน" ซูมี่พยักหน้าให้ฮุ่ยหมิ่นคอยดูแลองค์รัชทายาท ส่วนนางจะกลับไปดูทางฮ่องเต้ ฮองเฮาก่อนเสียงกรีดร้องขององค์รัชทายาทดังออกมาจากนอกถ้ำ เสี่ยวไป๋ส่งเสียงขึ้นจมูกอย่างดูแคลน"ร้องดังกว่าเจ้าในยามนั้นเสียอีก" ซูมี่อดจะหัวเราะเสียงดังออกมามิได้เมื่อได้ยินคำพูดของเสี่ยวไป๋เมื่อกลับมาถึงถ้ำของเสี่ยวเฮย ฮ่องเต้ก็ขึ้นจากน้ำมาเรี

  • อีกด้านของนางร้าย   บทที่ 59

    นายท่านไป๋กับฮูหยินไป๋เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้งก็พบว่าตรงหน้าของตนได้เปลี่ยนไป แปลงสมุนไพรที่มีสมุนไพรหายากมากมาย ผัก ผลไม้ที่ขึ้นเต็มไปหมดเสี่ยวไป๋ในยามนี้ตัวใหญ่จนน่าตกตะลึง แล้วไหนจะหมาป่าสี่ตัวกับหมีควายที่กำลังวิ่งมาทางนี้อีก ฮูหยินไป๋เกือบจะเป็นลมแต่ถูกฮุ่ยหมิ่นประคองไว้เสียก่อนเป่าเปาที่ปรากฏกายด้วยรูปร่างที่แท้จริงบินไปตรงหน้าของนายท่านไป๋ เขาจ้องมองทุกสิ่งอย่างไม่อยากเชื่อสายตา แม้จะผ่านเรื่องน่าเหลือเชื่อมาหลายครั้ง แต่ครั้งนี้นับว่าเกินเขาจะรับไว้"มี่เออร์นี่เรื่องอันใด" เขาเอ่ยเสียงที่แทบหาไม่เจอออกมาอย่างอยากเย็นซูมี่เล่าเรื่องภายในมิติของนางให้นายท่านไป๋และฮูหยินไป๋ได้ฟัง นางพาทั้งคู่ไปที่ถ้ำของเสี่ยวเฮย เพื่อให้พวกเขาลงไปแช่ในน้ำ เพราะทั้งคู่ไม่ต้องเปลี่ยนไขกระดูกเช่นนางกับฮุ่ยหมิ่นจึงไม่ต้องไปที่ถ้ำของเสี่ยวไป๋เมื่อทั้งสองลงไปแช่ในน้ำ เพียงหนึ่งชั่วยามเมื่อขึ้นมาจากน้ำต่างก็พบความเปลี่ยนแปลงของตน นายท่านไป๋ที่มีโรคปวดตามข้อตามอายุของตนก็หายเป็นปลิดทิ้ง แม้ก่อนหน้านี้จะกินผักผลไม้ของตระกูลซูแต่ก็ต้องกินเป็นระยะเวลานานถึงจะเห็นผลรูปลักษณ์ของทั้งคู่ก็ดูจะอ่อนเยาว์ขึ้นอ

  • อีกด้านของนางร้าย   บทที่ 58

    เสี่ยวซานก็จัดการหาฤกษ์มงคล พร้อมทั้งหาแม่สื่อไปพูดคุยกับซูถัง ป้าอวี้ บิดามารดาของโม่ลี่เพื่อสุ่ขอนางตามธรรมเนียม เรื่องสินสอดและสินเดิมซูมี่นางก็จัดการให้อย่างใจกว้างจนบ่าวในเรือนที่ชอบพอกันมาบอกกล่าวนางว่าตนอยากจะแต่งกับคนนั้น คนนี้ ซูมี่ก็ไม่ขัดข้องพร้อมทั้งจัดการให้ทุกคน เพราะทุกคนที่กล้ามาพูดกับนางล้วนอยู่กับนางมาตั้งแต่ที่เมืองเจียงซวนงานมงคลของบ่าวในจวนแม่ทัพจัดขึ้นภายในเรือน แม้แต่จวนอื่นก็ไม่อยากจะเชื่อว่า แม่ทัพไป๋กับฮูหยินจะใจกว้างถึงกับจัดงานในบ่าวของตนด้วยเพียงวันเดียวก็มีคู่แต่งงานในจวนถึงห้าคู่ ซูมี่แบกท้องที่ใหญ่โตของนางไปร่วมงานด้วย ทั้งยังอยู่ร่วมรับประทานอาหารกับทุกคน ต้าหลาง จางกุ้ยก็พาบ่าวในจวนของเขามาร่วมงานด้วยเช่นกัน"ท่านพี่ ข้าคิดว่าข้าจะคลอดแล้วเจ้าค่ะ"ซูมี่ดึงแขนเสื้อของฮุ่ยหมิ่นที่ร่วมดื่มเหล้ามงคล"ตามหมอตำแยประเดี๋ยวนี้" ฮุ่ยหมิ่นตกตะลึง เมื่อดึงสติมาได้ เขาก็ตะโกนเสียงดังภายในจวนจึงได้วุ่นวายไปหมด โม่ลี่ที่อยู่ในห้องหอก็อยากจะออกมาดูนายหญิงของตนใจแทบขาด แต่ก็โดนสั่งห้ามไว้ เพราะมีคนอยู่ในจวนมากมายให้นางวางใจได้ แต่นางก็มิยอมฟังยังออกจากห้องหอมาที่เ

  • อีกด้านของนางร้าย   บทที่ 57

    คุณหนูหานร้องอย่างตกใจ พร้อมทั้งกระโดดไปที่ฮุ่ยหมิ่น แต่มีหรือที่คนอย่างฮุ่ยหมิ่นจะยอมให้สตรีนางอื่นมาโดนตัว เขาพุ่งหลบไปอีกทางอย่างรวดเร็วโดยไม่ลืมที่จะดึงซูมี่ออกห่างมาด้วยคุณหนูหานจึงล้มลงไปกองที่พื้นเสียงดัง สาวใช้ของนางต้องรีบเข้ามาประคองนายของตนอย่างเสียขวัญไหนจะมีเสือขาวที่นอนหมอบจ้องมาทางพวกนางเหมือนจ้องตะครุบเหยื่อ แต่ก็ไม่กล้าที่จะทิ้งนายตนเองมิเช่นนั้นเมื่อกลับจวนไม่รู้ว่าจะโดนลงโทษเช่นใด"ไล่มันออกไปสิเจ้าค่ะ" นางร้องสั่งฮุ่ยหมิ่นให้ไล่เสือขาว"เป็นเจ้าที่ต้องออกไป เสี่ยวไป๋เป็นสัตว์เลี้ยงของมี่มี่" ฮุ่ยหมิ่นเอ่ยเสียงเย็นอย่างไม่ไว้หน้าคุณหนูหานไม่คิดว่าฮุ่ยหมิ่นไม่รับตัวนางไว้ แล้วยังออกปากไล่นางออกจากจวนอีก นางจึงร้องไห้รีบร้อนออกจากจวนท่านแม่ทัพไปอย่างอับอาย"นางเข้ามาได้อย่างไร" ฮุ่ยหมิ่นเอ่ยถามบ่าวเสียงเข้ม"ข้าให้นางเข้ามาเองเจ้าค่ะ อยากรู้ว่านางมาด้วยเรื่องอันใด" ซูมี่ถูกฮุ่ยหมิ่นประคองมายังที่นั่ง"แล้วรู้หรือยังว่านางเข้ามาด้วยเรื่องอันใด" เขาเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ เพราะเขากับตระกูลหานไม่ได้สนิทถึงขั้นต้องไปมาหาสู่กัน อีกอย่างฮูหยินรองก็ไม่ถูกกับมารดาของตนอีกด้

  • อีกด้านของนางร้าย   บทที่ 56

    ฮุ่ยหมิ่นก็ตั้งใจทำเช่นที่เขาพูดจริง นับตั้งแต่วันนั้นมา ฮุ่ยหมิ่นก็เหมือนจะเร่งมือเรื่องทำบุตรทุกค่ำคืน เพราะซูมี่นางกลับไปที่จวนโหวทุกวันเพื่อดูน้องชายบ้างวันฮุ่ยหมิ่นกลับมาจากค่ายทหารยังหาภรรยารักไม่พบ จนต้องตามไปที่จวนท่านพ่อตาเพื่อรับนางกลับจวน"เกิดอันใดขึ้น" ฮุ่ยหมิ่นที่เพิ่งกลับมาถึงเรือน ก็เห็นบ่าววิ่งกันให้วุ่น"ท่านแม่ทัพ ฮูหยินนางกินอันใดมิได้ขอรับ บ่าวในเรือนจึงต้องไปทำใหม่เสียหลายรอบ" พ่อบ้านซานรีบบอกฮุ่ยหมิ่น"ตามหมอหรือยัง" ฮุ่ยหมิ่นเหมือนจะลืมไปว่าซูมี่นางรู้วิชาแพทย์"ฮูหยินมิได้ตามขอรับ" พ่อบ้านซานหลบสายตาของฮุ่ยหมิ่น"ประเสริฐ" เขารีบร้อนเดินไปที่เรือนของตนเพื่อดูอาการของซูมี่ และอยากจะตำหนินางที่ไม่ยอมตามหมอ"มี่มี่ เหตุใด เจ้าถึงไม่ตามหมอ" ฮุ่ยหมิ่นเข้ามาถึงก็เอ่ยถามทันทีแต่เมื่อเห็นโม่ลี่ประคองกระโถนในมือเพื่อให้ซูมี่นางอาเจียนก็รีบร้อนเข้ามานั่งข้างนางทันที"ท่านยังมิรู้อีกหรือว่าข้าเป็นอันใด" ซูมี่เอ่ยถามอย่างอ่อนแรง เสี่ยวไป๋ก็เข้ามาซุกอยู่ที่ท้องของนางอย่างห่วงใย"ดื่มก่อนเจ้าค่ะนายหญิง" เป่าเปาส่งถ้วยน้ำในมือของนางให้ซูมี่ เมื่อนางดื่มเข้าไปอาการอยากอาเจี

  • อีกด้านของนางร้าย   บทที่ 55

    ภายในห้องโถงเรือนหลักของจวนแม่ทัพ ในยามนี้มีเพียงบิดามารดาของฮุ่ยหมิ่นเท่านั้น เพราะเขาแยกจวนมาอยู่ที่จวนท่านแม่ทัพแล้ว วันนี้นายท่านไป๋กับฮูหยินไป๋เพียงมาพักช่วงรับตัวเจ้าสาวเข้าจวน"คารวะท่านพ่อ ท่านแม่เจ้าค่ะ" ซูมี่ยกน้ำชาขึ้นเหนือคิ้วของนาง ส่งให้นายท่านไป๋กับฮูหยินไป๋"นับจากนี้เจ้าเป็นบุตรสาวของข้าอีกคนแล้ว" ฮูหยินไป๋จินชาเล็กน้อย ก่อนจะวางโฉนดที่ดินนอกเมืองให้ซูมี่ห้าร้อยหมู่เพื่อรับขวัญลูกสะใภ้"หากมีเรื่องอันใดที่จัดการไม่ได้ ก็บอกแม่สามีของเจ้าแล้วกัน" นายท่านไป๋ก็ชาขึ้นดื่มเล็กน้อยพร้อมทั้งโบ้ยให้ทางฮูหยินไป๋รับเรื่องไว้ฮุ่ยหมิ่นส่ายหัว เมื่อเห็นมารดาทำหน้าเหมือนอยากจะทุบบิดาของตน ซูมี่นำของที่นางเตรียมไว้มอบให้นายท่านไป๋และฮูหยินไป๋ เมื่อทั้งคู่เปิดดูก็ต้องตกตะลึงจนอ้าปากค้าง เพราะนางให้โสมที่นางปลูกไว้ให้ทั้งสองถึงห้าหัวแต่ถ้าทั้งคู่รู้ว่าโสมของนางมีเป็นพันหัวไม่รู้จะแสดงสีหน้าเช่นไร แม้โสมทั้งห้าหัวจะไม่ได้มีขนาดใหญ่เช่นที่เสี่ยวเฮยนำมาให้ซูมี่ แต่ถ้าเทียบกับที่จวนอื่นมี ในมือของทั้งคู่ตอนนี้ก็ถือว่าใหญ่ที่สุด ฮูหยินไป๋กอดกล่องไม้ไม่ยอมส่งให้สาวใช้ถือ เมื่อทานอาหารเช

  • อีกด้านของนางร้าย   บทที่ 54

    ขบวนรับเจ้าสาวออกจากจวนโหวไปจวนแม่ทัพอย่างยิ่งใหญ่ ที่ไม่พูดถึงไม่ได้คงจะเป็นสินเดิมของเจ้าสาวที่มีมากมาย ภายในหีบนอกจากเงินทองแล้ว ของทุกอย่างมีค่าควรเมือง แม้แต่ในราชวังของบางอย่างที่ซูมี่นางมีคงไม่เคยได้พบเห็นตามธรรมเนียมต้องเปิดหีบทุกใบออกเพื่อให้ทุกคนได้รู้ว่าได้เห็นสิ่งที่อยู่ด้านในมิใช่หีบเปล่า หรือใส่ก้อนหินไว้แทน กล่องที่ดูจะเด่นที่สุดเห็นจะเป็นโสมหัวใหญ่ของเสี่ยวเฮย เพียงมองด้วยตาเปล่าก็คำนวณอายุออกมาน่าจะไม่น้อยกว่าพันปีเป็นแน่ไม่รู้ว่าจวนโหวไปหาของเหล่านี้มาจากที่ใด เพราะข่าวลือที่รู้มา ซูมี่นางเป็นเพียงหญิงชาวบ้านเท่านั้น ต่างคนต่างความคิด ซูมี่อดจะหัวเราะออกมาไม่ได้ เพราะนางล่วงรู้ความคิดของคนทั้งหมดบางคนคิดว่าจวนท่านแม่ทัพให้นางมา บางคนกล่าวว่าเป็นสินสงครามที่ฮุ่ยหมิ่นยึดมาได้แต่ไม่ส่งเข้าคลังหลวง เรื่องทั้งหมดไม่ว่าชาวเมืองจะคิดเช่นไร แต่คนของราชวงศ์อย่างฮ่องเต้และฮองเฮาล้วนรู้ดีถึงความพิเศษของนาง แต่เขามิได้พูดเรื่องของซูมี่ออกมาเพราะได้รับปากนางไว้แล้ว โสมในวังไม่ใช่จะไม่มีที่อายุนับพันปี แต่เมื่อเทียบกับของที่ซูมี่นำมามอบไว้ให้ย่อมเทียบกันไม่ติดเมื่อมาถึงจวนแม่

  • อีกด้านของนางร้าย   บทที่ 53

    ฮุ่ยหมิ่นเดินเข้ามาซูมี่ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนา ซูมี่เห็นท่าไม่ดีนางจึงหายเข้าไปในมิติ ฮุ่ยหมิ่นยืนนิ่งอยู่กับที่อย่างตกตะลึง ก่อนที่จะหัวเราะออกมาเบาๆ เขานั่งรอซูมี่อยู่บนเตียง แต่ไม่เห็นนางออกมาเสียทีจึงได้เขียนจดหมายทิ้งไว้ให้นาง แล้วกลับจวนของตนเองไป เพราะพรุ่งนี้เช้าเขาก็ต้องมารับตัวนางไปอยู่ด้วยที่จวนแล้วซูมี่ที่แอบหลบอยู่ในมิติ นางยังเห็นด้านนอกว่าฮุ่ยหมิ่นทำสิ่งใด เมื่อเขากลับออกไปจากห้องของนางแล้ว ซูมี่ที่กำลังจะออกจากมิติ เสี่ยวไป๋ก็เดินเข้ามาหานาง"ข้าให้ท่านนายหญิง" "นี่คืออันใด" ซูมี่หยิบสิ่งที่เสี่ยวไป๋ให้ขึ้นมา มันเหมือนลูกแก้วกลมใส ขนาดเท่าหัวนิ้วมือ"ท่านกลืนลงไปก็จะรู้" เสี่ยวไป๋มองสบตากับซูมี่ซูมี่นางกลืนลงไปทันที เพราะเชื่อใจเสี่ยวไป๋ เพียงไม่นานภาพเหตุการณ์ต่างๆก็ปรากฏขึ้น ภาพด้านนอกมิติ และภาพชีวิตของสัตว์ป่าทุกตัวที่อยู่ในมิติปรากฏชัดเหมือนนางอยู่ตรงนั้นด้วยตนเองด้านในมิตินางมิได้แปลกใจสักเท่าใด แต่ภาพในเรือนของนางไม่ว่าใครจะทำสิ่งใด เมื่อนางนึกถึงก็จะเห็นผู้นั้นทำสิ่งต่างๆ ทันที แล้วยังล่วงรู้ความคิดของทั้งหมดโดยที่ไม่ต้องพูดออกมาอีกด้วย"นี่มัน"

  • อีกด้านของนางร้าย   บทที่ 52

    ฮุ่ยหมิ่นนับว่าได้ความดีความชอบที่กลับมาช่วยจัดการกลุ่มกบฏขององค์ชายรองไว้ได้ทัน ฮ่องเต้จะให้ฮุ่ยหมิ่นกลับมาดูแลเมืองหลวง พร้อมทั้งพระราชทานจวนท่านแม่ทัพให้แก่เขาส่วนทางชายแดนเหนือยกให้รองแม่ทัพขึ้นเป็นแม่ทัพแทน ฮุ่ยหมิ่นจึงต้องส่งทหารทางชายแดนเหนือที่ตนพามาด้วยกลับชายแดนไปหลังจากจบเรื่องกบฏองค์ชายรอง ฮุ่ยหมิ่นก็ต้องจัดระเบียบทหารในค่ายของเมืองหลวงเสียใหม่ และต้องใช้เวลาฝึกทหารที่ไม่ได้เรื่องอีกมากนักที่ดินที่ใช้ปลูกเสบียงสำหรับกองทัพ ฮุ่ยหมิ่นก็ใช้น้ำวิเศษของซูมี่ในแปลงผัก และนาข้าว ฮุ่ยหมิ่นจัดการฝึกวรยุทธให้ทหารในค่ายด้วยตนเอง จนใกล้ถึงวันงานเขาจึงได้กลับไปที่เรือนตระกูลไป๋"หมิ่นเออร์ จวนหลังใหม่ของเจ้าจะเข้าไปอยู่เลยหรือไม่" ฮูหยินไป๋เอ่ยถามบุตรชายเมื่อเขาเข้ามาพบนางที่ห้องโถง"ข้าจะเข้าไปอยู่เลยขอรับ เรื่องบ่าวหรือข่าวของในจวนข้าจะจัดการเองขอรับ" เพราะเขาจะให้ซูมี่นางจัดการให้"เช่นนั้นก็แล้วแต่เจ้า" ฮูหยินไป๋มิได้เข้าไปจัดการ เพราะเห็นว่าบุตรชายและซูมี่นางน่าจะจัดการได้ดีตกดึกฮุ่ยหมิ่นก็ไปหาซูมี่ที่เรือนของนาง เพราะเขามิได้พบหน้านางมาหลายวัน นับตั้งแต่ต้องไปจัดการเรื่องภายใ

DMCA.com Protection Status