"ถ้าเจ้าแน่ใจ...ข้าก็ไม่ขัดข้อง" อ๋องสี่กล่าวพลางแสยะยิ้ม ที่ดูน่ากลัวมากกว่าอ่อนโยนหรือยินดี "อันที่จริง...ข้าก็อยากเป็นภรรยามากกว่าสามี แต่เพราะว่าเจ้าบอกว่าไม่มีสินสอดมาแต่งข้า ข้าจึงยอมเสียเปรียบ ยอมเป็นสามีเสียเอง"
หลี่ชิงฟังแล้วรู้สึกว่า มันต้องมีอะไรบางอย่างที่น่ากลัวแอบแฝงอยู่ จึงลอบมองไท่ชินอ๋อง เห็นไท่ชินอ๋องหน้านิ่งมาก แม้แต่หัวคิ้วยังไม่กระตุก ก็ยิ่งมั่นใจว่า...อ๋องสี่ต้องมีแผนการอันร้ายกาจแน่ๆ
แต่ทว่าอาเฟยนั้นยังไม่สำเหนียก ยิ้มกว้าง พลางกล่าวเสียงใส "ท่านเห็นด้วยกับข้าจริงๆ หรือ?"
"อืมม์..." อ๋องสี่พยักหน้า พลางคีบกับกินต่ออย่างใจเย็น "แต่เรื่องนี้จะพูดปากเปล่าไม่ได้"
"หมายความว่าอย่างไร?" อาเฟยชะงักตะเกียบค้างอยู่กลางอากาศอย่างสงสัย
"ตอนข้าแต่งเจ้าเป็นภรรยา ข้าจัดงานใหญ่โต เสียเงินจัดงานแต่งไปไม่ใช่น้อย"
อ๋องสี่เริ่มแล้ว...หลี่ชิงคิดในใจ
"ข้า..." อาเฟยทำแก้มป่อง คิ้วเรียวงามขมวดเข้าหากัน สีหน้าลำบากใจ "จะต้องจัดงานแต่งใหญ่โตขนาดนั้นเลยหรือ?"
"ไม่ต้อง"
คำตอบสั้นๆ ของอ๋องสี่ ทำให้อาเฟยถอนหายใจเฮือกอย่างโล่งอก
"แต่เราสองคนต้องทำสัญญากันเป็นลายลักษณ์อักษร และลงชื่อในสัญญาให้ชัดเจน" อ๋องสี่เอ่ยไป กินไป สีหน้าครึ้มอกครึ้มใจ "ทุกอย่างก็เป็นอันเรียบร้อย"
"ทำสัญญา" อาเฟยพึมพำ
"ใช่...เดี๋ยวข้าร่างสัญญาเอง" อ๋องสี่กล่าว แล้วหันไปสั่งให้ขันทีนำเครื่องเขียนมาให้
ขันทีรับใช้รีบนำเครื่องเขียนและกระดาษอย่างดีมาอย่างไว จัดวางไว้บนโต๊ะข้าง...อ๋องสี่ก็ลุกจากโต๊ะอาหารไปเขียนสัญญาด้วยสีหน้ายิ้มกริ่มสะใจ
เพียงไม่กี่อึดใจ...เสียงอ๋องสี่ก็ดังขึ้นว่า
"เสร็จแล้ว...อาเฟยมาลงชื่อได้"
อาเฟยถามว่า "ข้าแค่ลงชื่อก็จะได้เป็นสามีจริงๆ หรือ?"
"แน่นอน" อ๋องสี่พยักหน้ารับ
หลี่ชิงอ้าปากจะห้ามอาเฟย แต่ข้อมือถูกไท่ชินอ๋องแตะเบาๆ พอหันไปมอง ก็เห็นไท่ชินอ๋องส่ายหน้าห้ามไม่ให้พูดอะไร
อาเฟยลุกไปมองสัญญาที่อ๋องสี่ร่าง มีตัวอักษรที่อ่านออกหนึ่งส่วนอ่านไม่ออกเก้าส่วน
"ทันทีลงชื่อตรงนี้ เจ้าก็จะได้เป็นสามี" อ๋องสี่เอ่ยพลางส่งพู่กันให้
อาเฟยจะหันหน้าไปขอความเห็นจากหลี่ชิง อ๋องสี่ก็เอามือใหญ่โตของตนจับหน้าอาเฟยให้หันกลับมา พลางขู่ว่า "ถ้าชักช้าข้าอาจจะเปลี่ยนใจ"
อาเฟยเม้มปากจนแก้มกลมๆ มีลักยิ้มบุ๋มเด่นชัด ก่อนจะตัดสินใจลงชื่อตรงที่อ๋องสี่ชี้ให้
พออาเฟยลงชื่อเสร็จเรียบร้อย...อ๋องสี่ก็เปิดยิ้มกว้าง แล้วเรียกอาเฟยด้วยเสียงที่ดัดจนฟังน่าหมั่นไส้ว่า "ท่านสามีที่รัก"
ยามกะทันหัน...อาเฟยรู้สึกว่าตนเองรับมือไม่ถูก!!!
อ๋องสี่แย้มเอ่ยเสียงออดอ้อนที่ฟังแล้วรู้สึกทะแม่งๆ ว่า "ท่านสามีเจ้าขา เดี๋ยวข้าจะให้หลิวกงกงช่วยอ่านข้อความในสัญญาให้ทุกคนฟัง"
ว่าแล้วอ๋องสี่ก็ส่งสัญญาฉบับนั้นให้หลิวกงกงที่เดินเข้ามาน้อมรับ จากนั้นอ๋องสี่ก็เกาะต้นแขนอาเฟยหมับทั้งลากทั้งจูงผู้ได้เป็นสามีหมาดๆ ด้วยความมึนงง มานั่งที่โต๊ะอาหารอีกครั้ง
"อะแฮ่ม..." หลิวกงกงกระแอมเบาๆ เพื่อให้คอโล่ง แล้วอ่านสัญญาด้วยเสียงอันดังว่า
"สัญญาฉบับนี้ ทำขึ้นระหว่างอ๋องสี่กับอาเฟย โดยอาเฟยจะยกแกะหกหมื่นตัวและม้าหกพันตัวของอาเฟย ให้แก่อ๋องสี่เพื่อเปลี่ยนสถานะจาก ภรรยา เป็น สามี
ดังนั้นนับแต่นี้ อาเฟยเป็นสามี อ๋องสี่เป็นภรรยา
อาเฟย จากตำแหน่ง พระชายา เปลี่ยนเป็น พระ ราชเขย
ในสัญญานี้ จะเรียก อาเฟย ว่า สามี
เรียก อ๋องสี่ ว่า ภรรยา
โดยมีข้อสัญญาผูกมัดว่า
1 สามีมีภรรยาได้เพียงคนเดียว
2 สามีจะต้องออกค่าใช้จ่ายของครอบครัวทั้งหมด
3 สามีจะต้องนับถือ เคารพ เชื่อฟังภรรยา"
พอหลิวกงกงอ่านถึงตรงนี้...อาเฟยก็รีบยกมือขึ้นค้านว่า "เดี๋ยวก่อน...ข้าไม่เคยได้ยินว่า มีธรรมเนียมที่ว่า สามีต้องเคารพเชื่อฟังภรรยา ข้าเคยได้ยินแต่ธรรมเนียมที่ว่า ภรรยาต้องเคารพเชื่อฟังสามี ต่างหาก"
"อ๋ออออ..." อ๋องสี่ลากเสียงยาว แล้วกล่าวด้วยเสียงที่ดัดให้อ่อนหวานฟังน่าสยองขวัญว่า "นี่เป็นธรรมเนียมของต้าเหลียว...ข้าเป็นชาวหนานหยางครึ่งหนึ่ง เป็นชาวต้าเหลียวครึ่งหนึ่ง ดังนั้นข้าสามารถเลือกว่าจะใช้ธรรมเนียมของหนานหยางหรือของต้าเหลียวก็ได้ ข้าจึงตัดสินใจใช้ธรรมเนียมของต้าเหลียวอย่างไรเจ้าคะท่านสามี"
"มีธรรมเนียมแบบนี้ด้วยหรือ?" คิ้วเรียวงามเลิกขึ้นด้วยความสงสัย
"มีสิ..." อ๋องสี่ตอบเสียงหนักแน่น แล้วโยนเผือกร้อน (เรื่องเดือดร้อน) ไปให้ต้าโก่ว "ถ้าท่านสามีไม่เชื่อ ก็ถามต้าโก่วดูได้"
ต้าโก่วนั้นได้ยินถนัดชัดสองหู เหงื่อเย็น (เหงื่อแห่งความหวาดกลัว) ผุดเต็มแผ่นหลังและหน้าผาก
อาเฟยเม้มปากจนแก้มป่อง ก่อนตัดสินใจออกปากถามว่า "ต้าโก่ว ที่ท่านอ๋องสี่พูด เป็นความจริงหรือ?"
"คือ..."
ต้าโก่วยังไม่ทันได้กล่าวอะไร เพราะมัวแต่คือ... อ๋องสี่ก็ทำเสียงจิ๊กจั๊ก แล้วว่า "ท่านสามีกล่าวไม่ถูกต้อง ท่านสามีต้องเรียกข้าว่า 'ภรรยาสุดที่รัก' ต่างหาก...พูดผิดพูดใหม่เจ้าค่ะ ท่านสามี"
ทำเอาอาเฟยรู้สึกเหมือนน้ำลายติดคอ แถมหนักไหล่ เพราะอ๋องสี่นั่งซบทิ้งน้ำหนักตัวอย่างสบายอกสบายใจ...อาเฟยใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดผลักร่างใหญ่โตกำยำให้ออกห่างไปได้ไม่ถึงวินาที ร่างภรรยาหมาดๆ ก็กระแซะซบแหมะกลับมาทันที แถมเบียดชิดอย่างชนิดสิงได้คงสิงไปแล้ว!
"ว่าอย่างไร?" อาเฟยหันไปไล่เบี้ยต้าโก่ว ต้าโก่วไม่อาจจะหลีกเลี่ยง จึงจำใจต้องรับคำว่า "จริงขอรับ...พระชายา...เอ่อ...ท่านราชเขย" พลางคิดในใจ...ท่านอ๋องว่าใช่ ก็ต้องใช่ ผู้ใดจะกล้าบอกว่าไม่ใช่ละ! "เห็นไหมเจ้าคะ ท่านสามี...ต่อแต่นี้ไป ท่านต้องเชื่อฟัง รัก และตามใจภรรยาคนนี้ทุกอย่างนะเจ้าคะ" ว่าแล้วก็กอดร่างเล็กจนแทบจะจมอก อาเฟยขยับตัวอย่างอึดอัด ก่อนจะรวบรวมเรี่ยวแรงผลักอ๋องสี่ออกห่างไปได้ แล้วถามต้าโก่วว่า "เจ้าอ่านจดหมายขององค์ชายเทียนเป่าหมดแล้วหรือ?" "ยังเหลืออีกเล็กน้อยขอรับ" ต้าโก่วตอบ "เช่นนั้นก็อ่านต่อเสียสิ" อาเฟยสั่ง "ขอรับ" ต้าโก่วรับคำ แล้วอ่านจดหมายจากองค์ชายเทียนเป่าต่อว่า "หากอาเฟยมีอะไรจะให้ข้าช่วยอีก ก็ส่งคนมาบอกข้าได้ทันที หรือถ้ามีผู้ใดรังแกอาเฟย ก็ให้บอกข้า ข้าจะจัดการให้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอ๋องสี่บิดาของข้า ถ้าเขากล้ารังแกเจ้า ให้รีบบอกข้าโดยเร็ว ข้าจะจัดการเขาให้เอง ไม่ต้องกังวล สุดท้ายนี้ขอให้อาเฟยกินให้อิ่ม นอนให้หลับ และคิดถึงข้ามากๆ ข้าก็คิดถึงอาเฟย ลงชื่อ เทียนเป่า" "เทียนเป่าเป็นคนดีจริงๆ" อาเฟยพึมพำ แต
3 วันผ่านไป... หลี่ชิงมัวแต่ช่วยไท่ชินอ๋องสะสางราชกิจ เพราะแคว้นซีเซี่ยส่งบรรณาการมาให้ ทั้งท่านทูตยังมาเยี่ยมองค์หญิงหลิงหลิง...จึงไม่ได้พบหน้าอาเฟย เพราะต้องต้อนรับท่านทูต พอเย็นวันที่สี่ หลี่ชิงก็ตั้งใจไปหาอาเฟยที่ตำหนักที่อ๋องสี่และอาเฟยพัก...เห็นอาเฟยนั่งฟุบอยู่บนโต๊ะน้ำชาที่ทำจากหินหยกขาว จึงเดินเข้าไปในศาลาชมสวน แล้วเรียก "อาเฟย" อาเฟยเงยหน้าขึ้นมา พอเห็นหลี่ชิงก็เรียก "เกอเกอ..." ดวงหน้ากลมๆ ของอาเฟยที่มักประดับด้วยรอยยิ้ม...เวลานี้ไม่มีรอยยิ้ม และดูหม่นหมอง "เป็นอะไรไปหรือ? อาเฟย" หลี่ชิงถาม พลางเข้าไปนั่งใกล้ "ข้ากลุ้มใจ" อาเฟยตอบด้วยน้ำเสียงหมดอาลัยตายอยาก หลี่ชิงอึ้ง...คำๆ นี้ไม่เคยหลุดลอดออกมาจากปากของอาเฟยเลยสักครั้ง ตั้งแต่รู้จักกันมา "เจ้ากลุ้มใจเรื่องอะไร? บอกเกอเกอมาซิ เผื่อว่าเกอเกอจะช่วยแก้ปัญหาให้ได้" หลี่ชิงกล่าวปลอบโยน "เฮ้ออออ..." อาเฟยถอนหายใจยาว "ตั้งแต่ข้าได้เป็นสามี ข้าเพิ่งจะรู้ว่า...ค่าใช้จ่ายในตำหนักนั้นมากมายขนาดไหน แล้วยังจะเงินเดือนของเหล่านางกำนัลและขันที รวมทั้งบรรดาองครักษ์ที่มาจากต้าเหลียวอีก นั่นยังไม่
อาเฟยกระพริบตาปริบๆ อย่างซาบซึ้งใจ ยกแขนขึ้น แล้วก้าวมาข้างหน้า...อ๋องสี่นึกดีใจ คิดว่าอาเฟยจะมากอดตน ก็อ้าแขนรอรับ...แต่อาเฟยผลักแขนอ๋องสี่ออกไม่ให้ขวางทาง แล้วเข้าไปกอดหลี่ชิง เรียกซ้ำไปซ้ำมาว่า "เกอเกอๆ..." ชิบหาย...ไท่ชินอ๋องร้องลั่นในใจ แต่ก่อน...อี๋เหนียง (เมียน้อย) สองคนของเขาก็รักกันเอง แล้วขอลาออกจากตำแหน่งอนุชายาไท่ชินอ๋องไปอยู่กินด้วยกัน มาวันนี้...อาเฟยเมียของน้องก็เข้ามากอดชิงชิงเมียของพี่จนกลมดิ๊ก! ไท่ชินอ๋องหันขวับไปสบตาอ๋องสี่...ทั้งสองพยักหน้าให้กันอย่างเข้าใจ แล้วต่างเข้าไปแยกคนของตนเองออกมาโดยเร็ว "ชิงชิง...ใจเย็นๆ ทุกอย่างย่อมต้องมีทางออก" ไท่ชิงอ๋องกอดหลี่ชิงเอาไว้แน่น พลางกล่าวปลอบโยน "ท่านอ๋องปล่อยข้า แล้วไปตกลงกับน้องชายของท่านว่าจะเอาอย่างไร? ถ้าไม่คืนความเป็นธรรมให้แก่น้องชายของข้า ข้าไม่ยอม!" น้ำเสียงดุดันของหลี่ชิง ทำให้ไท่ชินอ๋องจำต้องรับคำว่า "ได้ๆๆ..." แล้วคลายอ้อมกอดออก หันไปคว้าแขนอ๋องสี่ พากันไปปรึกษาหารือยังอีกห้องหนึ่ง... "พี่ใหญ่...ทำไมวันนี้พี่สะใภ้ถึงได้ดุอย่างนี้?" อ๋องสี่ถามไท่ชินอ๋อง เมื่ออยู่กันลำพังในห
อาเฟย (ลูกอนุภาคจบ)นิยายเรื่องนี้เน้นฮา ไม่เน้นสาระรี้ดทุกท่านถ้าพร้อมแล้ว เชิญอ่านกันเลยค่ะตอน 1 ณ โต๊ะอาหารมื้อเย็น อาหารบนโต๊ะทั้งเลิศรส ทั้งอุดมสมบูรณ์ มีผู้ร่วมโต๊ะเพียงสี่คนคือ...ไท่ชินอ๋อง หลี่ชิง อ๋องสี่ และอาเฟย ไท่ชินอ๋องคอยคีบอาหารให้แก่หลี่ชิงเป็นระยะๆ ส่วนอ๋องสี่นั้นใช้ความว่องไวฉกอาหารไปจากตะเกียบทองคำของอาเฟยเป็นระยะๆ เช่นกัน อาเฟยจึงเม้มปากจนแก้มกลมๆ ปรากฏรอยลักยิ้มเด่นชัด แล้วตามมาด้วยการทำปากขมุบขมิบ "เจ้ากำลังด่าข้าหรือ?" อ๋องสี่ถามพระชายา อาเฟยไม่ตอบ แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ "เจ้าด่าข้าจริงๆ ด้วย" อ๋องสี่เอ่ยแล้วตามด้วยการสั่งสอนว่า "การเป็นภรรยาที่ดีจะต้องใช้มธุรสวาจากับสามี เหล่าซือ (อาจารย์) มิได้สอนเจ้าหรอกหรือ? อาเฟย" เหล่าซือสอน แต่ข้าขี้เกียจจะจำ ก็ผู้ใดใช้ให้ท่านชอบมาแย่งอาหารชิ้นเดียวกันกับข้า ทั้งๆ ที่อาหารบนโต๊ะมีออกมากมายเหลือเฟือละ...อาเฟยตอบในใจแต่ก่อนที่อ๋องสี่จะทันได้แกล้งอาเฟยเพื่อเล่นสนุกต่อ...หลิวกงกงก็เข้ามารายงานว่า "เรียนไท่ชินอ๋อง เรียนท่านอ๋องสี่ เรียนไท่หวางเฟย และเรียนพระชายา...มีจดหมายมาจากต้าเหลียวขอร
อาเฟยกระพริบตาปริบๆ อย่างซาบซึ้งใจ ยกแขนขึ้น แล้วก้าวมาข้างหน้า...อ๋องสี่นึกดีใจ คิดว่าอาเฟยจะมากอดตน ก็อ้าแขนรอรับ...แต่อาเฟยผลักแขนอ๋องสี่ออกไม่ให้ขวางทาง แล้วเข้าไปกอดหลี่ชิง เรียกซ้ำไปซ้ำมาว่า "เกอเกอๆ..." ชิบหาย...ไท่ชินอ๋องร้องลั่นในใจ แต่ก่อน...อี๋เหนียง (เมียน้อย) สองคนของเขาก็รักกันเอง แล้วขอลาออกจากตำแหน่งอนุชายาไท่ชินอ๋องไปอยู่กินด้วยกัน มาวันนี้...อาเฟยเมียของน้องก็เข้ามากอดชิงชิงเมียของพี่จนกลมดิ๊ก! ไท่ชินอ๋องหันขวับไปสบตาอ๋องสี่...ทั้งสองพยักหน้าให้กันอย่างเข้าใจ แล้วต่างเข้าไปแยกคนของตนเองออกมาโดยเร็ว "ชิงชิง...ใจเย็นๆ ทุกอย่างย่อมต้องมีทางออก" ไท่ชิงอ๋องกอดหลี่ชิงเอาไว้แน่น พลางกล่าวปลอบโยน "ท่านอ๋องปล่อยข้า แล้วไปตกลงกับน้องชายของท่านว่าจะเอาอย่างไร? ถ้าไม่คืนความเป็นธรรมให้แก่น้องชายของข้า ข้าไม่ยอม!" น้ำเสียงดุดันของหลี่ชิง ทำให้ไท่ชินอ๋องจำต้องรับคำว่า "ได้ๆๆ..." แล้วคลายอ้อมกอดออก หันไปคว้าแขนอ๋องสี่ พากันไปปรึกษาหารือยังอีกห้องหนึ่ง... "พี่ใหญ่...ทำไมวันนี้พี่สะใภ้ถึงได้ดุอย่างนี้?" อ๋องสี่ถามไท่ชินอ๋อง เมื่ออยู่กันลำพังในห
3 วันผ่านไป... หลี่ชิงมัวแต่ช่วยไท่ชินอ๋องสะสางราชกิจ เพราะแคว้นซีเซี่ยส่งบรรณาการมาให้ ทั้งท่านทูตยังมาเยี่ยมองค์หญิงหลิงหลิง...จึงไม่ได้พบหน้าอาเฟย เพราะต้องต้อนรับท่านทูต พอเย็นวันที่สี่ หลี่ชิงก็ตั้งใจไปหาอาเฟยที่ตำหนักที่อ๋องสี่และอาเฟยพัก...เห็นอาเฟยนั่งฟุบอยู่บนโต๊ะน้ำชาที่ทำจากหินหยกขาว จึงเดินเข้าไปในศาลาชมสวน แล้วเรียก "อาเฟย" อาเฟยเงยหน้าขึ้นมา พอเห็นหลี่ชิงก็เรียก "เกอเกอ..." ดวงหน้ากลมๆ ของอาเฟยที่มักประดับด้วยรอยยิ้ม...เวลานี้ไม่มีรอยยิ้ม และดูหม่นหมอง "เป็นอะไรไปหรือ? อาเฟย" หลี่ชิงถาม พลางเข้าไปนั่งใกล้ "ข้ากลุ้มใจ" อาเฟยตอบด้วยน้ำเสียงหมดอาลัยตายอยาก หลี่ชิงอึ้ง...คำๆ นี้ไม่เคยหลุดลอดออกมาจากปากของอาเฟยเลยสักครั้ง ตั้งแต่รู้จักกันมา "เจ้ากลุ้มใจเรื่องอะไร? บอกเกอเกอมาซิ เผื่อว่าเกอเกอจะช่วยแก้ปัญหาให้ได้" หลี่ชิงกล่าวปลอบโยน "เฮ้ออออ..." อาเฟยถอนหายใจยาว "ตั้งแต่ข้าได้เป็นสามี ข้าเพิ่งจะรู้ว่า...ค่าใช้จ่ายในตำหนักนั้นมากมายขนาดไหน แล้วยังจะเงินเดือนของเหล่านางกำนัลและขันที รวมทั้งบรรดาองครักษ์ที่มาจากต้าเหลียวอีก นั่นยังไม่
"ว่าอย่างไร?" อาเฟยหันไปไล่เบี้ยต้าโก่ว ต้าโก่วไม่อาจจะหลีกเลี่ยง จึงจำใจต้องรับคำว่า "จริงขอรับ...พระชายา...เอ่อ...ท่านราชเขย" พลางคิดในใจ...ท่านอ๋องว่าใช่ ก็ต้องใช่ ผู้ใดจะกล้าบอกว่าไม่ใช่ละ! "เห็นไหมเจ้าคะ ท่านสามี...ต่อแต่นี้ไป ท่านต้องเชื่อฟัง รัก และตามใจภรรยาคนนี้ทุกอย่างนะเจ้าคะ" ว่าแล้วก็กอดร่างเล็กจนแทบจะจมอก อาเฟยขยับตัวอย่างอึดอัด ก่อนจะรวบรวมเรี่ยวแรงผลักอ๋องสี่ออกห่างไปได้ แล้วถามต้าโก่วว่า "เจ้าอ่านจดหมายขององค์ชายเทียนเป่าหมดแล้วหรือ?" "ยังเหลืออีกเล็กน้อยขอรับ" ต้าโก่วตอบ "เช่นนั้นก็อ่านต่อเสียสิ" อาเฟยสั่ง "ขอรับ" ต้าโก่วรับคำ แล้วอ่านจดหมายจากองค์ชายเทียนเป่าต่อว่า "หากอาเฟยมีอะไรจะให้ข้าช่วยอีก ก็ส่งคนมาบอกข้าได้ทันที หรือถ้ามีผู้ใดรังแกอาเฟย ก็ให้บอกข้า ข้าจะจัดการให้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอ๋องสี่บิดาของข้า ถ้าเขากล้ารังแกเจ้า ให้รีบบอกข้าโดยเร็ว ข้าจะจัดการเขาให้เอง ไม่ต้องกังวล สุดท้ายนี้ขอให้อาเฟยกินให้อิ่ม นอนให้หลับ และคิดถึงข้ามากๆ ข้าก็คิดถึงอาเฟย ลงชื่อ เทียนเป่า" "เทียนเป่าเป็นคนดีจริงๆ" อาเฟยพึมพำ แต
"ถ้าเจ้าแน่ใจ...ข้าก็ไม่ขัดข้อง" อ๋องสี่กล่าวพลางแสยะยิ้ม ที่ดูน่ากลัวมากกว่าอ่อนโยนหรือยินดี "อันที่จริง...ข้าก็อยากเป็นภรรยามากกว่าสามี แต่เพราะว่าเจ้าบอกว่าไม่มีสินสอดมาแต่งข้า ข้าจึงยอมเสียเปรียบ ยอมเป็นสามีเสียเอง" หลี่ชิงฟังแล้วรู้สึกว่า มันต้องมีอะไรบางอย่างที่น่ากลัวแอบแฝงอยู่ จึงลอบมองไท่ชินอ๋อง เห็นไท่ชินอ๋องหน้านิ่งมาก แม้แต่หัวคิ้วยังไม่กระตุก ก็ยิ่งมั่นใจว่า...อ๋องสี่ต้องมีแผนการอันร้ายกาจแน่ๆ แต่ทว่าอาเฟยนั้นยังไม่สำเหนียก ยิ้มกว้าง พลางกล่าวเสียงใส "ท่านเห็นด้วยกับข้าจริงๆ หรือ?" "อืมม์..." อ๋องสี่พยักหน้า พลางคีบกับกินต่ออย่างใจเย็น "แต่เรื่องนี้จะพูดปากเปล่าไม่ได้" "หมายความว่าอย่างไร?" อาเฟยชะงักตะเกียบค้างอยู่กลางอากาศอย่างสงสัย "ตอนข้าแต่งเจ้าเป็นภรรยา ข้าจัดงานใหญ่โต เสียเงินจัดงานแต่งไปไม่ใช่น้อย" อ๋องสี่เริ่มแล้ว...หลี่ชิงคิดในใจ "ข้า..." อาเฟยทำแก้มป่อง คิ้วเรียวงามขมวดเข้าหากัน สีหน้าลำบากใจ "จะต้องจัดงานแต่งใหญ่โตขนาดนั้นเลยหรือ?" "ไม่ต้อง" คำตอบสั้นๆ ของอ๋องสี่ ทำให้อาเฟยถอนหายใจเฮือกอย่างโล่งอก "แต่เราส
อาเฟย (ลูกอนุภาคจบ)นิยายเรื่องนี้เน้นฮา ไม่เน้นสาระรี้ดทุกท่านถ้าพร้อมแล้ว เชิญอ่านกันเลยค่ะตอน 1 ณ โต๊ะอาหารมื้อเย็น อาหารบนโต๊ะทั้งเลิศรส ทั้งอุดมสมบูรณ์ มีผู้ร่วมโต๊ะเพียงสี่คนคือ...ไท่ชินอ๋อง หลี่ชิง อ๋องสี่ และอาเฟย ไท่ชินอ๋องคอยคีบอาหารให้แก่หลี่ชิงเป็นระยะๆ ส่วนอ๋องสี่นั้นใช้ความว่องไวฉกอาหารไปจากตะเกียบทองคำของอาเฟยเป็นระยะๆ เช่นกัน อาเฟยจึงเม้มปากจนแก้มกลมๆ ปรากฏรอยลักยิ้มเด่นชัด แล้วตามมาด้วยการทำปากขมุบขมิบ "เจ้ากำลังด่าข้าหรือ?" อ๋องสี่ถามพระชายา อาเฟยไม่ตอบ แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ "เจ้าด่าข้าจริงๆ ด้วย" อ๋องสี่เอ่ยแล้วตามด้วยการสั่งสอนว่า "การเป็นภรรยาที่ดีจะต้องใช้มธุรสวาจากับสามี เหล่าซือ (อาจารย์) มิได้สอนเจ้าหรอกหรือ? อาเฟย" เหล่าซือสอน แต่ข้าขี้เกียจจะจำ ก็ผู้ใดใช้ให้ท่านชอบมาแย่งอาหารชิ้นเดียวกันกับข้า ทั้งๆ ที่อาหารบนโต๊ะมีออกมากมายเหลือเฟือละ...อาเฟยตอบในใจแต่ก่อนที่อ๋องสี่จะทันได้แกล้งอาเฟยเพื่อเล่นสนุกต่อ...หลิวกงกงก็เข้ามารายงานว่า "เรียนไท่ชินอ๋อง เรียนท่านอ๋องสี่ เรียนไท่หวางเฟย และเรียนพระชายา...มีจดหมายมาจากต้าเหลียวขอร