Home / LGBTQ+ / อนุชายาบรรณาการ / ตอนที่2. ยิ้มแห้งๆ

Share

ตอนที่2. ยิ้มแห้งๆ

last update Last Updated: 2024-12-12 14:13:12

        “คนทั้งคนคงไม่สลายกลายเป็นอากาศธาตุไปได้หรอก” คุณชายเอ่ยอย่างมั่นใจ ก่อนจะยิ้มแห้งๆ “ข้าหิวแล้ว”

        “โปรดรอสักครู่...บ่าวจะรีบไปยกสำรับอาหารมาเดี๋ยวนี้” ว่าแล้วจางจงก็รีบเก็บเศษถ้วยเคลือบที่ตกแตกอยู่บนพื้น ก่อนจะรีบออกจากห้องไป

        ไม่นานเขาก็ยกสำรับกลับมาวางบนโต๊ะที่มีอยู่เพียงตัวเดียวของห้อง แล้วมาช่วยประคองคุณชายไปนั่งที่เก้าอี้

        อาหารสำรับนั้นมีเพียงข้าวต้มหนึ่งชาม กับผัดผักที่หน้าตาเหมือนผักลวกมากกว่าจานหนึ่ง...แต่เพราะความหิว จ้าวชิงเฟิงจึงกินอย่างไม่เกี่ยงงอน

        ทว่าเพิ่งกินไปได้เพียงแค่คำเดียว บ่าวรับใช้ชายคนหนึ่งจากตำหนักใหญ่ก็มาถ่ายทอดคำสั่ง

        “ท่านอ๋องมีคำสั่งให้จ้าวอี๋เหนียง(อี๋เหนียง=คำเรียกอนุภรรยา,อนุชายา จ้าว=แซ่ )ไปที่ตำหนักใหญ่เดี๋ยวนี้”

        “รอสักครู่...ขอเวลาให้ข้าแต่งกายให้เรียบร้อยก่อน” จ้าวชิงเฟิงเอ่ย

        “รอ เรอ อะไรกัน ท่านอ๋องสั่งให้ไปเดี๋ยวนี้ ก็ต้องไปเดี๋ยวนี้” เสียงบ่าวขุ่นเขียวไม่มีความเกรงอกเกรงใจแม้แต่น้อยนิด แถมชักสีหน้าบึ้งตึง “รีบตามข้ามา”

        จางจงรีบคว้าเสื้อตัวนอกมาคลุมให้แก่จ้าวชิงเฟิง แล้วประคองคุณชายติดตามบ่าวคนนั้นไป

        ตำหนักใหญ่โอ่อ่าโอฬารงดงามสมฐานะชินอ๋อง เรือนท้ายจวนที่จ้าวชิงเฟิงอาศัยอยู่เทียบไม่ติดแม้แต่ขี้ฝุ่น เขาไม่ได้เปรียบเทียบกับที่อยู่ที่เขาเคยอยู่ที่แคว้นเป่ย เนื่องเพราะเขาจำอะไรไม่ได้แล้ว แต่ก็คิดว่าคงจะไม่งดงามเท่านี้ ก็เขาเป็นโอรสที่เกิดจากนางสนมชั้นปลายแถว ซ้ำพระบิดายังไม่ใส่ใจอีก นอกจากใช้เป็นของบรรณาการครั้งเดียวทิ้งเท่านั้น

        จางจงประคองเขาเดินตามบ่าวคนนั้นเข้าไปยังห้องโถงรับรองที่พื้นปูด้วยหยกขาวสะอาดหรูหรา ส่วนการตกแต่งอื่นๆ เขาไม่ได้เงยหน้าดู เพราะรู้ดีว่าตนมีฐานะไม่ได้ดีไปกว่าบ่าวทาสคนหนึ่ง จึงต้องสงบเสงี่ยมเจียมตัวเอาไว้ อีกอย่างเขาก็รู้สึกมึนหัวปวดหัวจนไม่อยากจะสนใจอะไรมากนัก

        พอบ่าวที่นำหน้ามาหยุดเดิน จางจงก็หยุดเดิน คุณชายจึงพลอยหยุดเดินตามไปด้วยอีกคน

        “คารวะท่านอ๋อง” บ่าวคนนั้นหมอบลงโขกศีรษะ

        จางจงกำลังจะประคองคุณชายให้หมอบลงคารวะตามอย่างบ่าวคนนั้น จ้าวชิงเฟิงก็หน้ามืดทรุดฮวบลงกองกับพื้นเสียก่อน โดยมีจางจงโอบประคองศีรษะของเขาเอาไว้ไม่ให้กระแทกพื้น และเผลอร้องลั่นด้วยความตกใจ

        “คุณชาย คุณชาย...”

        “เขาเป็นอะไรไป?”

        เสียงทุ้มมีอำนาจดังมาจากผู้ที่นั่งอยู่ในตำแหน่งประธาน เขาคนนั้นสวมใส่อาภรณ์หรูหราสีกรมท่าที่ปักลวดลายด้วยด้ายทองคำ คิ้วเข้มตาคมกริบ เครื่องหน้าสมส่วนงามสง่า รูปร่างสูงใหญ่แข็งแรงกำยำ ดูเปี่ยมอำนาจบารมี ทีท่าสงบเยือกเย็น

        “เรียนท่านอ๋อง...คุณชายไม่สบายขอรับ” จางจงตอบเสียงเครือ

        “ป่วยเป็นอะไร?”

        “บาดเจ็บขอรับ”

        “ตกลง...ป่วยหรือบาดเจ็บ?” ดวงตาคมกริบเจือแววดุ

        “คะ...คือ...”

        จางจงอึกอักพูดไม่ออก เพราะเกรงว่าถ้าพูดอะไรออกไปอาจจะทำให้คุณชายเดือดร้อนยิ่งกว่าเก่า

        “มีอะไร พูดออกมาให้หมด และพูดแต่ความจริง!”

        เสียงเข้มงวดของชินอ๋องทำให้จางจงจำใจต้องเล่าเหตุการณ์เมื่อสามวันก่อนออกมา พร้อมกันนั้นก็คอยสังเกตสีหน้าของชินอ๋องอย่างระมัดระวัง

        แต่ชินอ๋องไม่แสดงสีหน้าอะไร เพียงรับฟังเฉยๆ เท่านั้น ก่อนจะถามว่า

        “เจ้าไม่ได้ตามหมอมาดูอาการของเขาหรอกหรือ?”

        “บ่าว...เอ่อ...ไม่กล้าขอรับ”

        จางจงเอ่ยอย่างลำบากใจ ด้วยฐานะของคุณชายบวกกับข้อกล่าวหาที่ร้ายแรงเช่นนั้น แม้ในจวนจะมีท่านหมออยู่ประจำ แต่เขาก็ไม่มีสิทธิ์อะไรที่จะไปเชิญมาตรวจดูอาการของคุณชาย บ่าวผู้ซื่อสัตย์ได้แต่ภาวนาในใจให้ท่านอ๋องเมตตาออกคำสั่งให้ตนไปเชิญท่านหมอมาดูคุณชาย เพราะเวลานี้ตัวคุณชายร้อนรุ่มด้วยพิษไข้ แต่ท่านอ๋องก็ยังคงนิ่งเฉย จางจงลอบถอนหายใจ เอามือลูบเส้นผมที่ระดวงหน้าในอ้อมแขนมาทัดไว้ที่ใบหู เผยดวงหน้าซีดเซียวของคุณชายให้ท่านอ่องเห็นเผื่อว่าจะได้รับความสงสารบ้าง

        ทันทีที่เห็นดวงหน้าของจ้าวชิงเฟิงชัดตา ปากที่ได้รูปของชินอ๋องก็กระตุกเบาๆ เขาเพ่งมองไฝแดงเม็ดเล็กๆ ที่ใต้หางตาซ้ายของคุณชาย และเพื่อให้เห็นชัดเจนยิ่งขึ้นก็ถึงกับลุกจากเก้าอี้เดินเข้ามาใกล้

        ใช่คนผู้นี้!

        ใช่ดวงหน้านี้!!

        ชินอ๋องหลี่เฉิงยังจำได้ดี...เมื่อห้าปีก่อนเขาลอบเข้าไปสืบความลับในพระราชวังของแคว้นเป่ย แล้วพลาดท่าได้รับบาดเจ็บหลบหนีไปยังท้ายวัง เขาพบกับเด็กหนุ่มอายุราวสิบสองคนหนึ่ง แต่งกายเรียบร้อย หน้าตาสะสวย ยิ่งมีไฝแดงเม็ดเล็กๆ อยู่ใต้หางตาซ้าย ยิ่งส่งเสริมให้ดวงตาหงส์คู่งามดูมีเสน่ห์น่ารักมากยิ่งขึ้น...เป็นดวงตาที่น่าหลงใหลยิ่งนัก!

        เด็กหนุ่มไม่ได้พูดอะไร เพียงชี้นิ้วขึ้นไปบนต้นไม้ใหญ่ เขาก็รีบทะยานกายขึ้นซ่อนตัวบนนั้น

        ทหารกลุ่มหนึ่งติดตามมาถึงในเวลาอึดใจเดียว พากันคารวะเด็กหนุ่มและถาม

        “องค์ชาย ท่านเห็นคนร้ายหนีมาทางนี้หรือไม่ขอรับ?”

        เด็กหนุ่มเพียงแค่ส่ายหน้า

        กลุ่มทหารกลุ่มนั้นก็พากันแยกย้ายไปค้นหาที่อื่นต่อ

        เด็กหนุ่มเหลียวหน้ามามองที่ที่เขาซ่อนตัวอยู่ทีหนึ่ง ก่อนจะหันกลับไปแล้วเดินจากไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ

        เมื่อครึ่งปีก่อนที่เขานำทัพแคว้นหนานโจมตีจนแคว้นเป่ยแตกพ่าย เขาพยายามค้นหาเจ้าของไฝแดงเม็ดเล็กที่ใต้หางตาซ้ายในหมู่ราชวงศ์อายุราวสิบหกสิบเจ็ด

        แต่หาอย่างไรก็หาไม่พบ

        ไม่คิดว่าคนที่ตามหาจะอยู่ในจวนของเขานี่เอง

       “เจ้าอุ้มเขามาที่ห้องข้างก่อน” ชินอ๋องสั่งจางจง ก่อนจะเดินนำไปยังห้องข้าง ซึ่งเป็นห้องที่มีไว้สำหรับสาวใช้ส่วนตัว(นางบำเรอ) แต่ถึงแม้ชินอ๋องจะไม่มีสาวใช้ส่วนตัว ทว่าห้องหับก็ยังคงเก็บกวาดสะอาดสะอ้านเรียบร้อยอยู่เสมอ จางจงรีบทำตามอุ้มร่างบอบบางของคุณชายตามชินอ๋องไป และวางลงบนเตียงนอนของห้องข้างอย่างเบามือ

        “เจ้าไปตามหมอมาเดี๋ยวนี้” ท่านอ๋องสั่งบ่าวรับใช้คนหนึ่ง

        “ขอรับ” บ่าวรับใช้รีบปฏิบัติตามคำสั่ง

        ไม่นาน...ท่านหมอวัยกลางคนก็มาถึง และทำการตรวจร่างกายของคุณชายทันที

        พอท่านหมอตรวจเสร็จ ชินอ๋องที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ข้างโต๊ะห่างจากเตียงนอนไม่มากนักก็ถามขึ้นทันทีว่า

        “อาการเป็นอย่างไรบ้าง?”

        “ร่างกายขาดอาหาร บาดแผลระบมจนเป็นไข้ บาดแผลที่หลังแม้ระบมมาก แต่รักษาไม่ยาก ทว่าที่ท้ายทอยนั้นอันตรายยิ่งนัก”

        “อันตรายแค่ไหน?” ชินอ๋องถาม

        “อาจถึงชีวิต!”

Related chapters

  • อนุชายาบรรณาการ   ตอนที่3. ปาดน้ำตา

    “ท่านหมอ ท่านหมอ ได้โปรดช่วยชีวิตคุณชายของข้าน้อยด้วย หากท่านช่วยชีวิตคุณชายของข้าน้อย ชาติหน้าข้าน้อยยินดีขอเป็นวัวเป็นม้ารับใช้ตอบแทนบุญคุณท่าน” จางจงกล่าวพลาง ร่ำไห้พลาง จนคำพูดฟังไม่ได้ศัพท์ “ข้าเป็นหมอย่อมต้องช่วยคนป่วยอย่างเต็มความสามารถ เจ้าก็อย่าเอาแต่ร้องไห้เลย จงเล่าอาการของคุณชายของเจ้ามาให้ละเอียด” จางจงยกมือปาดน้ำตาลวกๆ “หลังจากถูกโบย คุณชายก็หมดสติไปสามวัน เมื่อสักครู่ใหญ่เพิ่งฟื้นคืนสติมา...แต่...แต่ทว่าคุณชายจำเรื่องราวในอดีตไม่ได้เลย ทั้งยังจำข้าน้อยและจำตนเองไม่ได้อีกด้วย...เห็นคุณชายบอกว่าเจ็บหัวมาก...” “อืม” ท่านหมอพยักหน้า แล้วหันไปกล่าวกับชินอ๋องว่า “จ้าวอี๋เหนียงบาดเจ็บที่ศีรษะ ข้าน้อยจะใช้วิธีฝังเข็มร่วมกับการให้ดื่มยา แต่ตัวยาบางตัวนั้นหายากยิ่งและล้ำค่ามาก...” ท่านหมอหยุดกล่าวต่อ ด้วยความหมายว่า...ตัวยาบางตัวนั้นไม่อาจซื้อหาได้ทั่วไป ถ้าเทียบกับชีวิตของอนุผู้หนึ่ง น้ำหนักในใจของชินอ๋องจะยินยอมสิ้นเปลืองหรือไม่? “ถ้าในจวนของข้ามี ข้าอนุญาตให้เอามาใช้ได้” ชินอ๋องกล่าวเสียงเรียบๆ “แต่ถ้าในจวนของข้าไม่มี ต้อ

    Last Updated : 2024-12-12
  • อนุชายาบรรณาการ   ตอนที่4. ได้แต่ก้มหน้าลง

    สีหน้าชินอ๋องเย็นชาราวฉาบด้วยน้ำแข็ง และเอ่ยกับองครักษ์คนสนิทที่ยืนนิ่งอยู่ข้างๆ ว่า “ซือหมิง ส่งคนไปนำศพของนางมาเดี๋ยวนี้” “ขอรับ” ซือหมิงน้อมคำนับรับคำสั่ง พระชายาตู้รีบแย้งขึ้น “ศพของนางฝังไปแล้วเจ้าค่ะ” “ฝังแล้วก็ขุดขึ้นมา” เสียงเฉียบขาดของชินอ๋องดังสวนขึ้นทันที ซือหมิงคำนับอีกครั้งแล้วก้าวยาวๆ จากไป พระชายาขมวดคิ้วเรียวงามนิดหนึ่งมองตามหลังองครักษ์ขวาซือหมิง แล้วหันกลับมาแย้มยิ้มอย่างอ่อนหวานให้ชินอ๋อง “ท่านอ๋องโปรดอย่าได้ขุ่นเคืองใจไปเลยเจ้าค่ะ แม้จ้าวอี๋เหนียงจะรูปงามนัก ก็ใช่ว่าจะหาบุรุษรูปงามเช่นนี้ไม่ได้อีกเสียเมื่อไหร่ ไว้เป็นหน้าที่ของข้าน้อยเองเจ้าค่ะ...” นางยังกล่าวไม่ทันจบ ชินอ๋องก็ขัดขึ้นว่า “ไม่ต้อง...เจ้าก็อยู่เป็นพระชายาของเจ้าไปดีๆ ไม่ต้องสรรหาบุรุษหรือสตรีมาให้ข้าอีก แล้วนี่เจ้าหมดธุระแล้วใช่หรือไม่ ถ้าใช่ก็กลับตำหนักไปเถอะ” พระชายาลอบกำมือแน่นอย่างกรุ่นโกรธ แต่ไม่กล้าแสดงออกทางสีหน้า ได้แต่หลุบตาลงพลางแย้มยิ้มรับคำ “เจ้าค่ะ...ท่านอ๋องก็พักผ่อนให้มากนะเจ้าคะ” แล้วลุกจากเก้าอี้ที่นั่งยอบกายคารว

    Last Updated : 2024-12-12
  • อนุชายาบรรณาการ   ตอนที่5. คิดไม่ถึงว่า

    คิดไม่ถึงว่าจ้าวชิงเฟิงจะเป็นคนคนเดียวกันกับผู้ที่เขาติดค้างน้ำใจมาห้าปี เป็นองค์ชายคนเดียวของแคว้นเป่ยที่เขาไม่คิดจะทำร้าย แต่เขาก็ได้ทำร้ายจ้าวชิงเฟิงไปนานถึงสามปีแล้ว แรกที่แคว้นเป่ยส่งบรรณาการมา และฮ่องเต้พระราชทานองค์ชายแคว้นเป่ยที่เป็นหนึ่งในของบรรณาการให้เขา เขาคิดแต่จะเหยียดหยามอีกฝ่าย จึงแต่งตั้งให้เป็นอนุชายา และจงใจสมรสพระชายาในวันเดียวกัน เขาสร้างเรื่องให้พระชายาชิงชังรังเกียจจ้าวชิงเฟิงโดยการไม่เข้าห้องหอกับพระชายาในคืนวันวิวาห์ และปล่อยข่าวว่าเขาไปหาจ้าวอี๋เหนียงแทน แต่ความเป็นจริงเขาไปนอนอยู่ที่ห้องหนังสือต่างหาก พอเช้ารุ่งขึ้นเขาก็กลับไปค่ายทหาร ทิ้งปัญหาให้จ้าวชิงเฟิงถูกพระชายาเกลียดชังรังแก เพราะรู้ดีว่าสตรีนั้นมีความริษยามากมายขนาดไหน! จากนั้นครั้นการศึกปะทุขึ้นใหม่ เขาก็ตั้งหน้าตั้งตาทำสงครามจนตีแคว้นเป่ยแตกพ่าย กวาดจับเชลยที่เป็นราชวงศ์ทุกคนมาดูหน้าเพื่อค้นหาเด็กหนุ่มคนนั้น แต่เขาจะพบได้อย่างไรในเมื่อเด็กหนุ่มคนนั้นถูกทรมานอยู่ที่จวนของเขาเอง! .......... “ชุนฮัวกับชิวฮัวทำงานหนักอยู่ที่เรือนข้าทาส น้อยค

    Last Updated : 2024-12-12
  • อนุชายาบรรณาการ   ตอนที่6. ปรนนิบัติ

    พอดีเหล่าคนรับใช้พากันเดินเข้ามาในห้อง จางจงถืออ่างน้ำอุ่นมาจะช่วยล้างหน้า ชินอ๋องก็เป็นคนชิงบิดผ้าหมาดๆ มาเช็ดหน้าให้คุณชายเสียเอง เสี่ยวหงถือโถน้ำสำหรับแปรงฟันบ้วนปากเข้ามาปรนนิบัติเป็นรายที่สอง ตามด้วยเสี่ยวชุ่ยที่ถือถาดวางชามรังนกตุ๋นโสมเข้ามาให้คุณชายกินบนเตียงนอน ชินอ๋องก็ถือชามรังนกตุ๋นโสมมาจากถาดแล้วใช้ช้อนตักรังนกตุ๋นโสมเป่าให้คลายความร้อนก่อนจะจ่อมาถึงปากคุณชาย คุณชายรีบดึงช้อนกับชามรังนกตุ๋นโสมจากมือชินอ๋องไป “ข้าน้อยกินเองได้ขอรับ” แล้วค่อยๆ ตักรังนกตุ๋นโสมกินช้าๆ ชินอ๋องก็ไม่คัดค้าน เพียงใช้ผ้าเช็ดปากนุ่มๆ ค่อยซับปากให้ ทำให้เหล่าบ่าวและสาวใช้ในห้องพากันก้มหน้ายิ้มขวยเขิน แต่คุณชายรู้สึกแปลกใจ...ท่าทางเอาใจใส่เช่นนี้หมายความว่าอย่างไร? มันไม่น่าจะเป็นการชดเชยที่เขาถูกใส่ร้าย มันเหมือนสามีปฏิบัติต่อภรรยาอันเป็นที่รัก ม่ายยยย...มันต้องไม่ใช่อย่างนั้น! คิดถึงตรงนี้คุณชายพลันมืออ่อนหมดแรงทำช้อนตกลงไปในชามรังนกตุ๋นโสม ชินอ๋องตาไวมือไวเพราะเป็นผู้มีวรยุทธ จึงรับชามรังนกตุ๋นโสมที่หล่นจากมือคุณชายไว้ไ

    Last Updated : 2024-12-15
  • อนุชายาบรรณาการ   ตอนที่7. ทำเสียงออดอ้อน

    “ฟูเหรินเจ้าขา” เสี่ยวหงทำเสียงออดอ้อน “ถึงจะไม่หิว ก็ควรจะกินสักเล็กน้อยนะเจ้าคะ มิเช่นนั้นแล้ว พ่อครัวที่ทำอาหารมาจะเสียใจได้” คุณชายมองอาหารโต๊ะนั้น มันอุดมสมบูรณ์มากราวกับจะให้คนกินเก่งๆ ช่วยกันกินซักสิบคนเห็นจะได้ “ใช่แล้วเจ้าค่ะ อย่างไรก็ช่วยชิมสักหน่อยนะเจ้าคะ” เสี่ยวชุ่ยอ้อนวอนอีกแรง “นี่มันมากเกินไป” คุณชายนั่งลงเพราะขัดต่อเสียงเกลี้ยกล่อมของสองสาวไม่ได้ ตะเกียบหยกขาวถูกส่งถึงมือ “ฟูเหรินก็กินของที่ถูกปากก็พอเจ้าค่ะ” เสี่ยวชุ่ยยิ้มแป้นเมื่อเห็นคุณชายเริ่มกินอาหาร แต่คุณชายก็กินได้ไม่มากนัก กินข้าวได้ไม่ถึงครึ่งชาม กินกับไปเพียงเล็กน้อยก็อิ่ม เขามองอาหารที่เหลืออย่างนึกเสียดายของดีๆ “ที่เหลือนี่...” “ทางห้องครัวต้องเททิ้งเจ้าค่ะ” เสี่ยวหงรินน้ำชาส่งให้คุณชายดื่ม “แจกจ่ายให้บ่าวไพร่ได้หรือไม่?” คุณชายถาม “ถ้าเป็นความประสงค์ของฟูเหรินย่อมได้เจ้าค่ะ” เสี่ยวหงเอ่ยพลางแย้มยิ้ม คุณชายจึงยกถ้วยชาขึ้นดื่มอย่างยินดี “เช่นนั้นก็แจกจ่ายอาหารที่เหลือนี่ให้บ่าวไพร่ไปกินกันเถิด ข้าเสียดายของดีๆ ทั้งนั้น

    Last Updated : 2024-12-15
  • อนุชายาบรรณาการ   ตอนที่8. ข้าอยากให้ภรรยาอาบน้ำให้

    “ทะ ท่านอ๋องมีขันทีเจียงจ้านอยู่แล้ว มิใช่หรือ?” คุณชายเหงื่อผุดเต็มหน้าผากมน “ข้าอยากให้ภรรยาอาบน้ำให้” ถ้อยคำสั้นๆ ของชินอ๋อง ทำให้คุณชายไม่สามารถบิดพลิ้ว ขันทีเจียงจ้านอายุประมาณยี่สิบแปดปี กิริยาห้าวหาญองอาจรูปร่างสูงใหญ่แข็งแรงบึกบึนไม่เหมือนขันทีแม้แต่นิดเดียว เขาเข้ามาช่วยถอดอาภรณ์ของชินอ๋องออก จนเหลือเพียงเสื้อและกางเกงตัวใน เท่านั้นยังไม่พอ ยังมาจัดการลอกคราบคุณชายจนเหลือเพียงเสื้อกับกางเกงตัวในที่เนื้อผ้าบางๆ สีขาวเช่นเดียวกัน ด้วยเหตุผลที่ว่า “พระชายารองจะได้ช่วยท่านอ๋องอาบน้ำได้สะดวกขอรับ” แล้วจัดแจงดุนหลังคุณชายให้เดินตามชินอ๋องเข้าไปในห้องอาบน้ำ ห้องอาบน้ำส่วนตัวของชินอ๋องที่อยู่ติดกับห้องนอนใหญ่มีประตูทะลุถึงกันนั้นกว้างขวางกว่าห้องอาบน้ำที่จ้าวชิงเฟิงใช้มาก อ่างอาบน้ำก็ใบใหญ่มาก ขนาดผู้ชายตัวโตๆ ลงไปนั่งแช่ได้สี่ห้าคนสบายๆ ชินอ๋องถอดเสื้อผ้าชั้นในออกจนหมด อวดเรือนร่างแข็งแรงกล้ามเนื้อสวยงาม ร่างสูงใหญ่ทว่าไม่เทอะทะออกจะเพรียว เขาล้างเท้าแล้วก้าวเข้าไปแช่ตัวในอ่างด้วยทีท่าแสนสบาย ก่อนจะหันมาสั่งคุณชาย

    Last Updated : 2024-12-15
  • อนุชายาบรรณาการ   ตอนที่9. อย่าเพิ่งร้อนใจ

    เมื่อหมดคนนอกแล้ว...พระชายาก็กล่าวกับสาวใช้คนสนิท “ตงเหมย เจ้าคิดว่าข้าควรจะทำอย่างไรต่อไปดี?” “พระชายาอย่าเพิ่งร้อนใจไปเลยเจ้าค่ะ” ตงเหมยกล่าวปลอบใจผู้เป็นนาย “มิให้ข้าร้อนใจ?” พระชายาเสียงสะบัด “คืนวันวิวาห์ ท่านอ๋องก็เลือกไปอยู่กับเจ้าคนสารเลวจากแคว้นเป่ย แทนที่จะมาเข้าห้องหอของข้าผู้เป็นพระชายาเอก จากนั้นก็ไปอยู่เสียที่ค่ายทหาร” “หรือท่านอ๋องจะชมชอบบุรุษเจ้าคะ?” “ข้าเคยส่งบ่าวชายอายุเยาว์หน้าตาดีไปรับใช้ท่านอ๋องถึงที่ค่ายทหาร ก็ถูกไล่ตะเพิดกลับมา พอท่านอ๋องกลับมาคราวนี้ ข้าก็ส่งสาวใช้หน้าตางดงามไปอุ่นเตียง ก็ถูกท่านอ๋องไล่ออกจากตำหนักอย่างไม่ใยดี” “หรือท่านอ๋องจะ...” ตงเหมยขมวดคิ้วครุ่นคิด “ถือสาเรื่องชาติกำเนิด” “เช่นนั้นก็ลำบาก...คุณชายหนุ่มน้อยงดงามใช่ว่าจะหาไม่ได้ แต่ตระกูลไหนจะยอมให้คุณชายของตนต้องมาเป็นภรรยาน้อยเล่า?” พระชายาถอนหายใจยาวก่อนจะกล่าวต่อ “อย่าว่าเป็นภรรยาน้อยเลย แม้แต่เป็นภรรยาเอก ถ้าไม่หมดสิ้นหนทางจริงๆ ก็ไม่มีตระกูลผู้ดีตระกูลไหนยินยอมให้บุตรชายแต่งออกมาเป็นภรรยาผู้อื่น” “นั่นก็จริ

    Last Updated : 2024-12-15
  • อนุชายาบรรณาการ   ตอนที่9.  แค่คิดก็สยองขวัญแล้ว!

    คุณชายรู้สึกทำตัวไม่ถูก...ได้แต่นั่งโง่ๆ ตัวตรงแน่วอยู่ริมขอบเตียง สองมือกำแน่นอยู่บนตัก จริงอยู่ที่จางจงใช้เวลาสอนเขาอยู่เกือบหนึ่งชั่วยาม(สองชั่วโมง)...ให้รู้วิธีปรนนิบัติสามีบนเตียง เพราะเขามิใช่สตรีแต่เป็นบุรุษ วิธีร่วมรักของคู่บุรุษกับบุรุษนั้นแตกต่างจากคู่บุรุษกับสตรีอย่างมาก...คู่ของบุรุษกับบุรุษต้องเตรียมตัวเตรียมใจและเตรียมอุปกรณ์ช่วยเป็นพิเศษต่างหาก มิเช่นนั้นแล้วบุรุษผู้อยู่ในฐานะภรรยาอาจจะได้รับบาดเจ็บได้ แค่คิดก็สยองขวัญแล้ว! “ฟูเหริน...” เสียงเรียกของชินอ๋องทำให้คุณชายสะดุ้ง ปรายตามองอีกฝ่ายที่ยืนอยู่ไม่ห่าง เขาสวมเสื้อนอนสีแดงถือถ้วยน้ำชาอยู่ในมือทั้งสองข้าง “มาดื่มน้ำชามงคลกัน” มุมปากยกยิ้มน้อยๆ มองคุณชายที่สวมเสื้อนอนสีแดงเหมือนกัน ด้วยประกายตายพราวระยิบ “ที่จริงควรจะเป็นสุรามงคล แต่ว่าระยะนี้เจ้ายังไม่ควรดื่มสุรา ข้าจึงใช้น้ำชาแทนสุรา หวังว่าฟูเหรินคงไม่ตำหนิ” “ไม่กล้าขอรับ” คุณชายเอ่ยเบาๆ รู้สึกอึดอัดจนแทบจะหายใจไม่ออก แต่ก็ต้องยืนขึ้นเดินเข้าไปใกล้อีกฝ่าย แล้วรับถ้วยชาจากมือชินอ๋องมาถ้วยหนึ่ง ชินอ๋องคล

    Last Updated : 2024-12-15

Latest chapter

  • อนุชายาบรรณาการ   ตอนที่45.ยืนยันหนักแน่น

    ชินอ๋องสั่งปิดประตูเมือง ให้ทหารตรวจค้นทุกซอกทุกมุม เป็นเรื่องเอิกเกริกจนฮ่องเต้ส่งคนมาถาม “ท่านอ๋อง...นี่มันเกิดเรื่องอะไรขอรับ?” ขันทีจากวังหลวงค้อมกายถามเสียงนุ่ม “อ๋องห้าลักพาตัวพระชายาของข้าไป” ชินอ๋องตอบเสียงมะนาวไม่มีน้ำ “ว้าย...ตายแล้ว...นี่มันเกิดขึ้นได้อย่างไร? วันนี้มิใช่อ๋องห้าแต่งพระชายาหรอกหรือ?” ชินอ๋องหงุดหงิดรำคาญ จึงให้ขันทีจากวังหลวงไปไถ่ถามเรื่องราวจากองครักษ์คนหนึ่งแทน สลัดหลุดจากขันทีจากวังหลวง ก็มาเจอมหาเสนาบดีชิวสงส่งเสียงเอะอะโวยวาย “บุตรสาวข้าอยู่ที่ไหนๆ...” ชินอ๋องพยักหน้าให้องครักษ์อีกนายหนึ่ง เอ่ยเสียงรำคาญว่า “เจ้าไปจัดการที” องครักษ์ค้อมศีรษะรับคำสั่ง แล้ววิ่งไปรับหน้ามหาเสนาบดีทันที “คุณหนูชิวอยู่ทางนี้ขอรับ” องครักษ์บอกมหาเสนาบดีแล้ว พาไปยังห้องห้องหนึ่งของตำหนักอ๋องห้า “คุณหนูชิวอยู่ในห้องนี้ขอรับ” มหาเสนาบดีได้ยินเสียงกุกกักๆ พอเปิดประตูเข้าไป ก็เห็น...ชิวมู่ตานถูกมัดมือมัดเท้ามีผ้าอุดปาก นั่งอยู่บนเตียง กำลังดิ้นรน “ทำไมพวกเจ้าทำกับบุตรสาว

  • อนุชายาบรรณาการ   ตอนที่44.ชุลมุนวุ่นวาย

    เจ็ดวันต่อมา... คณะทูตของซีเซี่ยก็เดินทางกลับ พร้อมกับนำขบวนเดินทางไปอภิเษกสมรสขององค์หญิงหลี่หมิงจูไปด้วย ทางด้านอ๋องห้าได้ส่งแม่สื่อไปทาบทามสู่ขอคุณหนูชิวมู่ตาน บุตรสาวคนเล็กของมหาเสนาบดีชิวสง “ท่านเจ้าขา...บุตรเขยเช่นอ๋องห้า มิใช่จะหาได้ง่ายๆ นะเจ้าคะ” แม่สื่อจีบปากจีบคอกล่าว “อ๋องห้ารูปโฉมงามสง่า ข้าไม่เถียง แต่เขามีอนุหญิงชายมากมาย นิสัยเสเพลไม่เอาการเอางาน...ข้าเกรงว่าบุตรสาวของข้าแต่งไปแล้วต้องกลัดกลุ้มเพราะเหล่าอนุเป็นเหตุ” มหาเสนาบดีกล่าวตรงๆ ไม่อ้อมค้อม “โหะๆๆ...” ลิ้นแม่สื่อมีหรือจะจนหนทาง “คำโบราณกล่าวเอาไว้ว่า...ภรรยาที่ดีสามารถเปลี่ยนแปลงสามีได้ คุณหนูมู่ตานทั้งสวยทั้งฉลาด ย่อมสามารถชักนำให้ท่านอ๋องห้าเลิกความเคยชินเก่าก่อน ให้ท่านอ๋องห้ากลับกลายเป็นเปี่ยมล้นด้วยความสามารถและสง่าราศีได้ไม่ยาก ส่วนเรื่องอนุหญิงชายนั้น มีผู้ใดสามารถกล้าเปรียบเทียบกับคุณหนูมู่ตานเล่า คุณหนูมู่ตานจะแต่งไปเป็นพระชายาเอกนะเจ้าคะ จะให้อนุคนใดเป็นหรือตายก็ย่อมได้ อีกประการหนึ่งคุณหนูก็อายุสิบเจ็ดแล้ว รอช้านักจะกลายเป็นดอกไ

  • อนุชายาบรรณาการ   ตอนที่43.งานเลี้ยงต้อนรับคณะทูตจากแคว้นซีเซี่ย

    คณะทูตจากซีเซี่ยมาเยือนต้าหนาน... ฮ่องเต้ทรงอนุญาตให้ราชทูตเข้าเฝ้าในท้องพระโรง ราชทูตแห่งซีเซี่ยถวายเครื่องบรรณาการ และราชสาส์นสู่ขอองค์หญิงหมิงจูให้กับรัชทายาทซีเซี่ย ฮ่องเต้ขอเวลาพิจารณาเรื่องสู่ขอสามวัน อีกสามวันจะจัดเลี้ยงคณะทูตและให้คำตอบ อ๋องห้าไปที่ตำหนักขององค์หญิงหมิงจู เล่าเรื่องที่ราชทูตจากซีเซี่ยมาสู่ขอนางให้นางฟัง “ทำไมข้าต้องแต่งไปซีเซี่ยด้วย?” องค์หญิงหมิงจูกล่าวด้วยดวงหน้าบูดบึ้ง “เจ้าปีนี้อายุสิบเจ็ดแล้วนะ...ไม่แต่งตอนนี้ แล้วจะรอถึงเมื่อไหร่?” “ข้าไม่ได้ชอบรัชทายาทซีเซี่ยสักหน่อย” องค์หญิงตอบเสียงสะบัด “แล้วเจ้าชอบใคร?” “.....” “อย่าบอกนะว่าชอบจ้าวชิงเฟิง?” “.....” “ข้าล่ะเห็นใจเจ้าจริงๆ...คู่ยวนยาง(นกเป็ดน้ำแมนดาริน มักจะอยู่กันเป็นคู่แบบผัวเดียวเมียเดียว เป็นตัวแทนรักแท้ของชายหญิง)ที่ดี กลับถูกชินอ๋องฉกชิงไปเสียนี่” “พี่ห้า อย่าพูดถึงเรื่องนี้อีก” องค์หญิงเสียงเครือ “ไม่ให้ข้าพูดออกมาบ้าง ข้าก็รู้สึกได้รับความไม่เป็นธรรมแท

  • อนุชายาบรรณาการ   ตอนที่42. เข้ามาสิ

    “ตาเฒ่าเกาชงเป็นพ่อตาของคนแซ่จ้าว” พระสนมเอกซูเฟยกัดริมฝีปากล่าง ก่อนจะกล่าวต่อ “เมื่อหลายวันก่อน ข้าเรียกคนแซ่จ้าวมาสนทนาด้วยเรื่องของมู่ตาน เขาทำท่าทางสงบเสงี่ยม แต่ก็บ่ายเบี่ยงไม่ยอมรับปาก ข้าจึงพูดถึงอิทธิพลอำนาจของตระกูลชิว เพื่อข่มขวัญเขา คิดไม่ถึงว่าเขาจะมารยาออดอ้อนชินอ๋องให้ไปผูกไมตรีกับตระกูลเกาเสียได้” “เช่นนี้...เรื่องที่จะให้มู่ตานเป็นพระชายารองของชินอ๋อง ดูท่าจะยากเสียแล้ว” มหาเสนาบดีถอนหายใจ “ในยามนี้บุรุษที่มีฐานะคู่ควรกับมู่ตานก็มีไม่มากนัก ชินอ๋องเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ส่วนอ๋องห้าก็เสเพลไม่ได้เรื่องได้ราว เอาแต่เสพสุขไปวันๆ” “เอาเช่นนี้สิท่านพ่อ” พระสนมเอกซูเฟยเสนอความคิด “รอดูบัณฑิตใหม่ของปีนี้ ว่าบัณฑิตทั้งสามคน ผู้ใดหน่วยก้านดี ก็เลือกคนนั้น ข้าจะขอสมรสพระราชทานให้กับมู่ตาน...ตาเฒ่าเกาชงสนับสนุนบุตรบุญธรรมของเขา ท่านพ่อก็สนับสนุนบุตรเขย...ดูซิว่า ระหว่างบุตรบุญธรรมคนเดียวของตาเฒ่าเกาชง จะสู้บุตรทั้งสองคนและบุตรเขยตระกูลชิวได้หรือไม่” “เกรงจะไม่ง่ายเช่นนั้นน่ะสิ” มหาเสนาบดีมีสีหน้าระอา “มู่ตานเอาแต่ใจ ร่ำร้องแต่จะแต่งกับชินอ๋อง ตั้

  • อนุชายาบรรณาการ   ตอนที่41.นี่คือของกำนัล

    มหาอำมาตย์เกาชงมองผู้มาเยือนอย่างประหลาดใจ พอได้สติก็รีบประสานมือน้อมคำนับ “คารวะท่านอ๋องและพระชายา” “ไม่ต้องมากพิธี” ชินอ๋องกล่าว “วันนี้ข้าตั้งใจพาฟูเหรินมาเยี่ยมท่านโดยเฉพาะ” “ขออภัยที่ข้าน้อยต้อนรับบกพร่อง” มหาอำมาตย์เกาชงกล่าวพลางผายมือ “เชิญท่านอ๋องกับพระชายาเข้าไปนั่งด้านในก่อนขอรับ” เมื่อทั้งสามเข้าไปนั่งในห้องโถงรับรองของจวนมหาอำมาตย์เรียบร้อย บ่าวทาสจากจวนชินอ๋องก็นำของฝากล้ำค่ามีราคาเข้ามาสี่หาบใหญ่ มาวางไว้ในห้องโถงแห่งนั้น ของเหล่านั้นเป็นชินอ๋องสั่งให้จัดหามาทั้งสิ้น “นี่คือของกำนัลที่ฟูเหรินของข้านำมาคารวะท่านซึ่งเป็นพ่อตาของเขา” ชินอ๋องกล่าว พลางผายมือไปที่สิ่งของในหีบห่อสีแดง มหาอำมาตย์เกาชงมองมาที่จ้าวชิงเฟิงด้วยนัยน์ตาแดงระเรื่อขึ้น...อดคิดถึงบุตรสาวที่จากไปไม่ได้ จ้าวชิงเฟิงรับรู้ได้...จึงถามเสียงเบา “ท่านพ่อตา...หมู่นี้สบายดีหรือไม่?” “ดีๆ...ข้าสบายดี” “ข้าขออภัย ที่มาเยี่ยมเยียนท่านช้านัก” “มาก็ดีแล้ว...เอ้อ...พระชายา” “ท่านอย่าเรียกข้า.

  • อนุชายาบรรณาการ   ตอนที่40.ในความอ่อนโยนมีความสง่างาม

    พระสนมเอกซูเฟยชิวเหมยกุ้ย อายุ 22 ปี รูปร่างหน้าตาสวยงามปานภาพวาด ในความอ่อนโยนมีความสง่างาม นางต้อนรับจ้าวชิงเฟิงที่ศาลาชมอุทยาน เป็นการป้องกันการครหานินทาด้วย จ้าวชิงเฟิงประสานมือน้อมคำนับ “คารวะพระสนมเอกขอรับ” นางพยักหน้ารับการคารวะ “เชิญนั่งก่อนพระชายา” จ้าวชิงเฟิงรอให้นางนั่งลงก่อน จึงนั่งลงฝั่งตรงข้ามกับนาง บนโต๊ะหินที่กั้นระหว่างคนทั้งสองมีชุดน้ำชา และจานขนมมากมายวางอยู่ “พระสนมเอกมีธุระอันใดกับข้าน้อยขอรับ?” จ้าวชิงเฟิงกล่าวถามตรงๆ พระสนมเอกหัวเราะเสียงหวาน “เรื่องไม่สลักสำคัญอะไร เพียงแค่ข้าเหงา อยากหาเพื่อนสนทนาเท่านั้น” จ้าวชิงเฟิงรู้สึกแปลกๆ กับถ้อยคำของนาง นางจะมาไม้ไหน? “นักปราชญ์กล่าว...ยิ่งสูงยิ่งหนาว...ช่างเป็นความจริงนัก” นางยกถ้วยน้ำชาที่นางกำนัลรินให้ขึ้นดื่มก่อนจะกล่าวต่อ “ฐานะยิ่งสูงส่ง ยิ่งหาเพื่อนสนทนาด้วยไม่ได้...ในเวลานี้ ผู้ที่มีฐานะเหมาะสมที่ข้าจะสนทนาด้วย ก็เห็นจะมีแต่พระชายาเท่านั้น” “.....” “ในฐานะที่เป็นภรรยาเอก ข้าต้อง

  • อนุชายาบรรณาการ   ตอนที่39. กลับคำตอนนี้ยังทันไหม?

    ที่หอหมื่นบัณฑิต...จ้าวชิงเฟิงได้พบกับบุคคลที่ไม่ได้คิดว่าจะได้พบ เขาคืออี้อัน วันนี้เขาแต่งกายสุภาพเรียบร้อย แม้ไม่หรูหรา แต่เนื้อผ้าดีสีเขียวหยก อี้อันมองเห็นจ้าวชิงเฟิงกับชินอ๋องก็ตรงเข้ามาประสานมือน้อมคำนับ “คารวะท่านอ๋อง คารวะพระชายา” “อืม/อืม” ชินอ๋องกับจ้าวชิงเฟิงต่างพยักหน้ารับคารวะ “คุณชายอี้อัน...มาทำอะไรที่หอหมื่นบัณฑิตนี่?” จ้าวชิงเฟิงถาม “เรียนพระชายา...ข้าน้อยมาแสดงผลงาน เพื่อฟังคำติชมของเหล่าบัณฑิตขอรับ และถือโอกาสศึกษาผลงานของผู้อื่นไปด้วยขอรับ” อี้อันกล่าวด้วยทีท่านอบน้อม “ที่แท้ท่านก็เป็นบัณฑิตผู้หนึ่ง...นับถือ ๆ” “หามิได้พระชายา...ข้าน้อยเป็นเพียงนักศึกษาต่ำต้อยคนหนึ่งเท่านั้น ที่เข้าหอหมื่นบัณฑิตนี้ได้ ล้วนอาศัยบารมีของท่านมหาอำมาตย์ช่วยส่งเสริมขอรับ” อี้อันกล่าวตามจริง... หอหมื่นบัณฑิตจะต้องเป็นบัณฑิตจึงจะเข้าเป็นสมาชิกได้ หรือมิฉะนั้นก็ต้องมีเจ้าใหญ่นายโตค้ำประกัน ยิ่งกว่านั้น การแสดงผลงานจะต้องเสียค่าเช่าพื้นที่ ซึ่งเป็นจำนวนเงินมิใช่น้อย เรื่องนี้ไม่เพียงเป็นปัญหาสำห

  • อนุชายาบรรณาการ   ตอนที่38.โวยวายเพราะความเมา

    จ้าวชิงเฟิงถูกชินอ๋องอุ้มออกจากงานเลี้ยงไปขึ้นรถม้ากลับจวน พอถึงจวนก็ถูกอุ้มเข้าตำหนักใหญ่ “ข้าม่ายมาว ปล่อยข้า ข้าจาเดินเอง” จ้าวชิงเฟิงเอะอะโวยวายเพราะความเมา “ลูกผู้ชายอกสามศอกถูกอุ้มด้ายยางงาย...” “อกเจ้าไม่ถึงสามศอก ย่อมต้องถูกอุ้ม” ชินอ๋องเอ่ยอย่างนึกขัน “อย่าดิ้นสิฟูเหริน” พอถึงห้องนอน...ชินอ๋องก็วางจ้าวชิงเฟิงนอนลงบนเตียงอย่างเบามือ จ้าวชิงเฟิงผวาลุกขึ้น “ข้าจาอ้วก...โอ้กกกก” เจียงจ้านว่องไว คว้ากระโถนมารองรับไว้ทัน จ้าวชิงเฟิงอาเจียนจนหมดไส้หมดพุง ชินอ๋องก็ช่วยลูบหลังให้ พออาเจียนเสร็จ...จ้าวชิงเฟิงก็ผล็อยหลับไป ชินอ๋องจัดการเช็ดหน้าตาเนื้อตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าให้พระชายาด้วยตัวเอง เจียงจ้านจะช่วยทำให้ก็ไม่ยอม จัดการทุกอย่างเสร็จแล้ว ชินอ๋องจึงให้เจียงจ้านช่วยปรนนิบัติอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าของตนเองบ้าง ก่อนเข้านอนชินอ๋องยังสั่งเจียงจ้านว่า “พรุ่งนี้เช้าจัดน้ำแกงสร่างเมาให้ฟูเหรินด้วย” “ขอรับ” เจียงจ้านรับคำ แล้วออกจากห้องไป ชินอ๋องจึงล้มตัวลงนอนเค

  • อนุชายาบรรณาการ   ตอนที่37. หยุดเลย...ข้าไม่ใช่สตรี

    หลังจากมีราชโองการถอดถอนชื่อตู้จินเหลียนออกจากตำแหน่งพระชายาแห่งชินอ๋องแล้ว ลำดับชื่อในราชวงศ์ของตู้จินเหลียนก็ถูกลบทิ้ง ชื่อของจ้าวชิงเฟิงขยับขึ้นมาเป็นพระชายาชินอ๋องโดยไม่ต้องอยู่ภายใต้ชื่อของนางอีกต่อไป วันนี้...ชินอ๋องจะพาจ้าวชิงเฟิงมาร่วมงานฉลองวันพระราชสมภพขององค์ฮ่องเต้ จ้าวชิงเฟิงถูกบรรดาขันทีกับสาวใช้ช่วยกันจับแต่งตัวเสียยกใหญ่ “หยุดก่อน” จ้าวชิงเฟิงยกมือห้ามเสี่ยวหงที่กำลังจะทำอะไรสักอย่างบนดวงหน้าของเขา “เจ้าจะทำอะไร?” “ผัดแป้ง เขียนคิ้ว เติมชาด เจ้าค่ะ” “หยุดเลย...ข้าไม่ใช่สตรี” “พระชายา...” เสี่ยวชุ่ยเอ่ยแทรกขึ้น “พวกคุณชายผู้ดีมีตระกูลทั้งหลายล้วนผัดแป้งแต่งหน้ากันทั้งนั้น ไม่ปล่อยให้หน้าหมอง มันเยิ้ม มอมแมม หรอกเจ้าค่ะ” “ข้าเห็นซือหมิงก็ไม่ได้ผัดแป้งแต่งหน้า” จ้าวชิงเฟิงยกตัวอย่าง เสี่ยวชุ่ยเบะปาก “บุรุษหยาบกร้าน” “ท่านอ๋องก็ด้วย” จ้าวชิงเฟิงยังไม่ยอมแพ้ “ท่านอ๋องเป็นข้อยกเว้นเจ้าค่ะ” เสี่ยวหงกล่าว “อย่างไรเสีย...ข้าก็ไม่ยอมแต่งหน้า” จ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status