Share

บทที่ 637

Auteur: ใบไม้ร่วงในเมืองร้าง
“ข้าเองก็หวังให้เป็นเช่นนั้น อย่างน้อยข้าก็ยังมีโอกาสที่จะได้เป็นฮองเฮา”

ฉงชูโม่นึกปลาบปลื้มใจ ความรู้สึกหดหู่ใจก่อนหน้านี้พลันมลายหายสิ้นไปมิน้อย

นางเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย มองมู่หรงจื่อเยียนอย่างเย่อหยิ่ง “หึ เจ้าเป็นเพียงท่านหญิงต่างแคว้น จะเป็นฮองเฮาแห่งต้าเหยียนได้อย่างไร เจ้าได้รับความรักความเมตตาจากฉินซู ก็ควรจะพอใจได้แล้ว”

“เช่นนั้นในวันหน้าหากท่านได้เป็นฮองเฮา ท่านต้องเมตตาดูแลข้ามาก ๆ ข้ามิอยากจะถูกสตรีคนอื่น ๆ ของฉินซูข่มเหงรังแก”

ฉงชูโม่ตบหน้าอก กล่าวอย่างองอาจ “ตราบใดที่เจ้ามิคิดเป็นศัตรูกับข้า ในภายภาคหน้าข้าจะคุ้มครองเจ้าเอง!”

“ฮิ ๆ เช่นนั้นข้าก็ต้องขอขอบคุณพี่หญิงชูโม่ล่วงหน้าแล้วเจ้าค่ะ”

มู่หรงจื่อเยียนยิ้มหวาน คารวะฉงชูโม่เล็กน้อย

ฉงชูโม่กระแอมไอสองครั้ง ทำสีหน้าให้สงบลง กล่าวว่า “เรื่องพวกนี้ยังมิเกิดขึ้น อย่าเพิ่งกล่าวถึงมันเลย หวังเพียงเขาจะกลับมาในเร็ววัน อย่าให้ข้าต้องพะว้าพะวังเป็นห่วงเขาทุกเมื่อเชื่อวันเลย”

“วางใจเถิด วรยุทธ์ของฉินซูแข็งแกร่งถึงเพียงนั้น มิว่าเขาจะต้องเผชิญหน้ากับอุปสรรคใด เขาก็จะต้องเอาตัวรอดมาได้อย่างปลอดภัยแน่นอน”

“หวังให้เป็นเช่นนั้นเ
Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application
Chapitre verrouillé

Related chapter

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 638

    “ระเบิดสายฟ้า!!”เมื่อเห็นลูกกลม ๆ ที่ฉินซูหยิบออกมา ตงฟางไป๋ก็อุทานออกมาด้วยความตกใจเดิมทีเขาคิดว่า ระเบิดสายฟ้าชนิดนี้ฉินซูคงใช้จนหมดแล้วฉินซูหัวเราะในลำคอ “ไปเถิด ทำการลับ ๆ หน่อย ขู่ขวัญให้พวกเติ้งหม่างตกใจกลัวไปซะ!”“น้อมรับบัญชา!”ตงฟางไป๋และตงฟางโซ่วรับระเบิดสายฟ้ามา ก่อนจะหันหลังเดินจากไปพวกเขาทั้งสองจากไปได้มินาน โจวฉางก็เดินเข้ามาเขาก้าวเข้าไปคำนับฉินซูอย่างนอบน้อม “ท่านผู้อาวุโสตงฟาง ท่านแม่ทัพใหญ่มีเรื่องจะเรียนเชิญท่านไปพบขอรับ”“อืม!”ฉินซูขานรับคำ ก่อนจะติดตามโจวฉางไปยังกระโจมทหารของเติ้งหม่างภายในกระโจมทหาร หูก่วงเซิงก็ยังคงอยู่ที่นี่เช่นเดียวกัน เขายังให้เกียรติฉินซูด้วยการคารวะคำนับเล็กน้อยฉินซูมิได้ชายตามองเขาแม้แต่ผาดเดียว หากแต่หันไปเอ่ยถามเติ้งหม่าง “ท่านแม่ทัพเติ้งเชิญข้ามาพบมีธุระอันใดหรือ?”เติ้งหม่างกล่าวอย่างนอบน้อม “เป็นดังที่ท่านผู้อาวุโสกล่าวไม่มีผิด ข้าน้อยมีเรื่องบางประการใคร่ขอคำชี้แนะจากท่าน”ฉินซูพยักหน้าเล็กน้อย เป็นสัญญาณให้เขาว่าต่อไป“เรื่องราวเป็นเช่นนี้ เมื่อครู่พวกเรานับพลทหารแต่ละกอง แม้เมื่อคืนจะประสบกับความพ่ายแพ้ยับเยิน

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 639

    “ต่อให้กองทัพต้าเหยียนจะจงใจแสร้งทำทีเพื่อขู่ขวัญพวกเรา ท่านสามารถต้านทานระเบิดสายฟ้าและธนูทดกำลังได้หรือไม่เล่า? หากมิอาจทำได้ การยกทัพกลับในยามนี้ อีกทั้งการทูลรายงานเรื่องราวนี้ต่อจักรพรรดิแห่งหนานเยวี่ยของท่านย่อมเป็นหนทางที่ดีที่สุดหากยังคงดึงดันอยู่ที่นี่ต่อแล้วต้องเผชิญหน้ากับการซุ่มโจมตีของกองทัพต้าเหยียนอีกครา เกรงว่ากำลังพลนับแสนในมือของท่านจะต้องสูญเสียไปอีกมิใช่น้อย ถึงเวลานั้นท่านจะชี้แจงต่อจักรพรรดิของท่านอย่างไร?”ในที่สุดเติ้งหม่างก็พยักหน้าตามการโน้มน้าวอย่างมีหลักการของฉินซู“ท่านผู้อาวุโสช่างมีวิสัยทัศน์กว้างไกล หลังจากกลับถึงราชสำนัก ข้าจะทูลขอให้แต่งตั้งท่านผู้อาวุโสเป็นกุนซือให้จงได้ ถึงเวลานั้นเราทั้งสองจะร่วมมือกัน บดขยี้กองทัพต้าเหยียนให้สิ้นซาก และความแค้นอันใหญ่หลวงของท่านผู้อาวุโสก็จะได้รับการสะสางเสียที”ในใจฉินซูพลันปลาบปลื้มใจ ทว่าสีหน้าภายนอกกลับสงบนิ่งราวกับผิวน้ำในทะเลสาบ“ตราบใดที่ล้างแค้นได้ การเป็นกุนซือให้พวกท่านก็มิใช่เรื่องที่เหลือบ่ากว่าแรง”เติ้งหม่างปลาบปลื้มยินดีเป็นอย่างยิ่ง “ดีเหลือเกินที่ท่านผู้อาวุโสตอบรับเช่นนั้น ขอท่านโปรดวางใจ ฝ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 640

    แม้แต่จ้าวควงบนบัลลังก์มังกร เมื่อมองฉินซู แววตายังทอประกายร้อนแรงขึ้นหลายส่วน!จอมยุทธ์ระดับสวรรค์ นับเป็นตัวช่วยที่หายากยิ่ง!เขาส่งยิ้มอ่อนโยนให้กับฉินซู “ท่านผู้อาวุโสช่วยเหลือแม่ทัพคนโปรดของข้า ข้าจะตอบแทนท่านอย่างงาม แต่ก่อนหน้านั้น ข้ายังอยากทราบชื่อแซ่ของท่านผู้อาวุโสสักหน่อย อีกทั้งมาจากแห่งหนใดหรือ?”ฉินซูประสานมือคารวะ “ทูลฝ่าบาท ข้าน้อยแซ่ตงฟาง นับแต่เยาว์วัยก็ติดตามผู้คนพเนจรไปทั่วทุกสารทิศ ด้วยเหตุนี้ชื่อแซ่และถิ่นกำเนิดของข้าน้อยเองก็จำมิได้ ภายหลังเมื่อก้าวเข้าสู่ยุทธภพจวบจนบัดนี้ยังมิเคยพานพบความปราชัย ด้วยเหตุนี้ผู้คนในยุทธภพจึงขนานนามข้าน้อยว่าปู้ป้ายพ่ะย่ะค่ะ”จ้าวควงมีสีหน้าประหลาดใจ “ตงฟางปู้ป้าย? นามของท่านผู้อาวุโสช่างทรงพลังเสียจริง!!”ฉินซูแย้มยิ้มอย่างกระดากอาย “ล้วนแล้วแต่เป็นเพียงชื่อเสียงลมปากเท่านั้น ขออภัยที่ทำให้ฝ่าบาทต้องรับรู้เรื่องน่าขันเช่นนี้พ่ะย่ะค่ะ”“โอ้ ท่านผู้อาวุโสถ่อมตัวเกินไปแล้ว แม้จอมยุทธ์ระดับสวรรค์จะหายากดุจขนหงส์เขากิเลน หากแต่ท่านผู้อาวุโสท่องยุทธภพโดยมิเคยพานพบคู่ต่อสู้ที่ทัดเทียมได้ ย่อมเพียงพอที่จะพิสูจน์ได้ว่าพละกำลังของท่าน

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 641

    “กราบทูลฝ่าบาท อย่างเร็วที่สุดอ๋องฉู่น่าจะได้รับสาส์นในวันพรุ่ง ส่วนสาส์นตอบกลับของพระองค์ คาดการณ์ว่าคงต้องใช้เวลาอีกหลายวันกว่าจะส่งกลับมาถึง ขอฝ่าบาทโปรดทรงอดทนรอ!”“เอาเถิด ช่วงสองสามวันนี้ให้เหล่าทหารได้พักผ่อนหย่อนใจให้เต็มที่เสียก่อนก็แล้วกัน”จ้าวควงพูดจบ ก็จ้องมองฉินซู “ท่านผู้อาวุโส หากอ๋องฉู่ทรงยินยอมที่จะพบปะหารือ อย่างไรคงต้องรบกวนท่านผู้อาวุโสติดตามแม่ทัพเติ้งไปด้วยกัน และช่วยให้คำชี้แนะแก่เขาด้วย”ฉินซูรับคำอย่างยินดี “ข้าน้อยน้อมรับพระบัญชา!”ราวหนึ่งเค่อต่อมา ฉินซูก็เดินออกมาจากพระราชสถานหนานเยวี่ยเมื่อเขากลับมาถึงโรงพักม้า ตงฟางไป๋ก็กุลีกุจอเข้ามาสอบถาม“องค์… อะแฮ่ม หัวหน้าใหญ่ สถานการณ์คืบหน้าไปถึงขั้นใดแล้วขอรับ?”ฉินซูกล่าวอย่างอารมณ์ดี “ทุกอย่างเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ ตอนนี้เราแค่ต้องรอคอยการตอบรับจากฉินอวี่!”“หากเป็นเช่นนั้นนับว่าเป็นเรื่องดีเกินคาด แต่คาดมิถึงว่าอ๋องฉู่จะกล้าคิดก่อการกบฏ หากเรื่องนี้ถูกเปิดโปง ใคร ๆ ย่อมรู้ว่าต้องหัวหลุดจากบ่าเป็นแน่”เพียงคิด ตงฟางไป๋ก็รู้สึกขวัญผวาจนแทบตั้งสติมิอยู่ฉินซูหรี่ดวงตาลงเล็กน้อย แล้วพึมพำว่า “หากเรื่อง

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 642

    เมืองหลงเฉิง ต้าเหยียนภายในจวนอ๋องฉู่ ฉินอวี่ก้มหน้าก้มตาอ่านสาส์นในมือ พลันตกอยู่ในภวังค์ความคิดผ่านไปชั่วขณะหนึ่ง สีหน้าของเขาก็พลันแน่วแน่ขึ้นมาทันใด เขาผุดลุกขึ้นจากที่นั่ง ก้าวเท้าออกจากประตูจวนอย่างรวดเร็วมิช้า เขาก็เดินทางมาถึงหน้าจวนเสนาบดีกรมกลาโหมเมื่อบ่าวรับใช้เฝ้าประตูเห็นฉินอวี่ ก็ตกใจสะดุ้งโหยง รีบคุกเข่าลงคำนับฉินอวี่โบกมือ “มิต้องมากพิธี รีบเข้าไปแจ้งเถิด บอกว่าข้ามีธุระสำคัญจะพบเสนาบดีเหวิน”“เชิญเสด็จเข้าไปรอด้านในก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ ข้าน้อยจะรีบไปรายงานให้ทราบ”บ่าวรับใช้ค้อมกายคารวะก่อนจะหันหลังเดินเข้าไปด้านในส่วนฉินอวี่ก็เดินทางไปยังห้องโถงเพื่อรอคอยผ่านไปชั่วครู่ เหวินเยวี่ยนซานก็กุลีกุจอเดินเข้ามา“โอ้ ท่านอ๋องฉู่ ช่างเป็นแขกที่พบได้ยากยิ่ง เชิญพ่ะย่ะค่ะ เชิญประทับด้านในก่อนพ่ะย่ะค่ะ”เขากล่าวเชื้อเชิญฉินอวี่ให้นั่งลง พร้อมกับตะโกนออกไปนอกประตู “ใครก็ได้ รีบรินชามาถวายเร็วเข้า!”รอจนกระทั่งบ่าวรับใช้นำชามารินให้ เหวินเยวี่ยนซานจึงเอ่ยถาม “วันนี้ท่านเสด็จมาถึงจวนของข้าน้อย มีสิ่งใดจะชี้แนะหรือพ่ะย่ะค่ะ?”ฉินอวี่จิบชาเล็กน้อย กล่าวเสียงเรียบ “มิบ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 643

    โชคดีที่ฉินอู๋ต้าวเพียงยิ้มและกล่าว "รัชทายาทมิเคยออกรบมาก่อน ข้าเองก็รู้สึกมิสบายใจนัก แต่เมื่อเจ้ามีความตั้งใจเช่นนี้ ก็ไปเถิด"ฉินอวี่แสดงสีหน้ายินดี "ขอบพระทัยเสด็จพ่อ เช่นนั้นลูกขอทูลลากลับจวนไปเตรียมตัวสักเล็กน้อย แล้วจะออกเดินทางลงใต้ทันทีพ่ะย่ะค่ะ!"ฉินอู๋ต้าวพยักหน้าเล็กน้อย มองตามหลังฉินอวี่ไป จากนั้นก็ยิ้มอย่างมีเลศนัยกล่าวถึงฉินอวี่หลังจากออกจากพระราชวัง เขาก็มุ่งหน้ากลับจวนอ๋องฉู่โดยมิรีรอทันทีที่ก้าวเข้าประตูจวน เขาก็สั่งการคนสนิทผู้หนึ่ง "คังเหวย เจ้าพกป้ายหยกคาดเอวประจำตัวข้าไปตงไห่ด้วย"คังเหวยแสดงสีหน้าตกตะลึง เอ่ยถามเสียงแผ่วเบา "ท่านอ๋องฉู่ ท่านจะลงมือแล้วหรือพ่ะย่ะค่ะ?"ฉินอวี่พยักหน้าน้อย ๆคังเหวยมองไปรอบ ๆ อีกครั้งด้วยสีหน้าเคร่งขรึม แล้วกล่าวต่อ "อ๋องฉู่ เรื่องนี้สำคัญยิ่ง เกรงว่าตอนนี้เวลามิเหมาะสม รออีกหน่อยดีหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?""รอมิได้แล้ว ก่อนหน้านี้ข้าได้รับรายงานลับ กองทัพหนานเยวี่ยพ่ายแพ้แล้ว หลังจากที่ฉินซูกลับมา ตำแหน่งองค์รัชทายาทของเขาก็จะมั่นคงยิ่งขึ้น เมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราก็เหลือทางเลือกสุดท้ายเพียงทางเลือกเดียวเท่านั้น""แต่ท่านอ๋อง

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 644

    "ดินแดนหนานเยวี่ยมีภูเขาสูงและป่าทึบ ด่านปราการยิ่งกว่าปราการสวรรค์ ป้องกันง่ายโจมตียาก หากองค์รัชทายาททรงนำทัพรุกไล่ตีต้อน เกรงว่าจะต้องสูญเสียอย่างหนักหน่วง" เหลยเจิ้นแสดงสีหน้ากังวลฉินอู๋ต้าวยิ้มจาง ๆ "ถือเสียว่าให้เขาได้เรียนรู้ หากต้องสูญเสียอย่างหนักหน่วงจริง ๆ ความดีความชอบจะถูกหักล้างกันเอง ข้าก็มิต้องปวดหัวเรื่องนี้อีก"ความดีความชอบอันใหญ่หลวงที่ฉินซูสั่งสมไว้ในช่วงเวลาที่ผ่านมา เพียงพอที่จะทำให้เขามีที่ยืนในราชสำนักในยามนี้ยังขับไล่กองทัพใหญ่หนานเยวี่ยให้ล่าถอยไปได้อีก กล่าวได้ว่ามีความดีความชอบยิ่งใหญ่เป็นที่สุดเมื่อถึงเวลาที่เขากลับมา ฉินอู๋ต้าวก็ยังมิรู้ว่าจะตกรางวัลแก่เขาอย่างไรดียามนี้ฉินซูนำทัพรุกไล่ตาม หลังจากพ่ายแพ้แล้ว ความดีความชอบก็จะหักล้างกัน มิต้องตกรางวัลและมิต้องลงโทษ ฉินอู๋ต้าวจึงโล่งใจขึ้นมิน้อยส่วนกำลังพลที่สูญเสียไป ต้าเหยียนมิได้ขาดแคลนกำลังคน เรียกเกณฑ์มาใหม่ก็สิ้นเรื่องความคิดเล็ก ๆ น้อย ๆ ในใจฉินอู๋ต้าวเหล่านี้ เหลยเจิ้นย่อมล่วงรู้กระจ่างแจ้ง เขาเพียงแต่แย้มยิ้มอย่างขมขื่น พลางส่ายหน้าโดยมิได้กล่าวอันใดฉินอู๋ต้าวดูเหมือนจะยังมิสาแก่ใจนั

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 645

    "ท่านผู้อาวุโสคาดการณ์แม่นยำราวเทพพยากรณ์ อ๋องฉู่ทรงตอบรับคำเชิญ ตกลงที่จะพบปะหารือกับพวกเราที่หุบเขาเหล่าเถียวแล้ว!""เมื่อใด?""คืนนี้ขอรับ ข้าเดินทางมาครานี้ก็เพื่อที่จะให้ท่านผู้อาวุโสเตรียมตัวเล็กน้อย จากนั้นเราจะออกเดินทางไปพร้อมกัน!"ฉินซูกล่าวอย่างใจเย็น "ข้ามิได้มีสิ่งใดต้องเตรียมพร้อม สามารถออกเดินทางได้ตลอดเวลา"เติ้งหม่างแค่นเสียงหัวเราะ "ยอดเยี่ยม เช่นนั้นพวกเราก็รีบออกเดินทางกันเสียแต่เนิ่น ๆ ดีกว่า มิฉะนั้นตกกลางคืนแล้วจะเดินทางไปมิถึงหุบเขาเหล่าเถียว"ฉินซูพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะติดตามเติ้งหม่างออกจากโรงพักม้าไปการเดินทางครั้งนี้ เขาตัดสินใจมิพาพี่น้องตงฟางไป๋ไปด้วย เนื่องจากอ๋องฉู่เคยพบเห็นหน้าค่าตาคนทั้งสองแล้วฉินอวี่มิได้หูเบาเชื่อคนง่ายเหมือนหูก่วงเซิง หากถึงเวลาเกิดความสงสัยขึ้นมา เช่นนั้นจะเป็นการอธิบายยากหลังจากออกจากโรงพักม้าหูก่วงเซิงก็เดินทางมาถึงเช่นเดียวกันจากนั้นพวกเขาทั้งหมดก็ควบม้าอย่างรวดเร็ว มุ่งหน้าไปยังหุบเขาเหล่าเถียวเมื่อพวกเขาทั้งหมดออกจากเมืองไปได้มินาน ตงฟางไป๋ก็เดินทางออกจากเมืองถัวเฉิงอย่างเงียบเชียบ!ราตรีกาลมาเยือน ลมหนาวโชยมา

Latest chapter

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 702

    เซวียหมิงมองไปยังทิศทางที่ฉินซูและพรรคพวกจากไปพลางพึมพำกับตัวเอง“คิดมิถึงเลยว่าจะได้เจอกับคนที่สามารถกลืนกินปราณเลือดอาถรรพ์ได้ จีอันหรือ? ข้าจะจำเจ้าเอาไว้!”“แล้วก็ฉินซู เจ้าคอยข้าก่อนเถอะ สักวันข้าจะทำให้เจ้าทุกข์ทรมานจนอยู่ต่อมิไหว จะตายก็มิได้!”“แค่นี้ก็น่าจะพอให้ข้าใช้แล้ว”เขาพูดพลางมองลูกแก้วสีแดงอมม่วงในมือภายในลูกแก้วนั้นคือปราณเลือดอาถรรพ์จุดประสงค์ของการเดินทางครั้งนี้ของเขาคือต้องการหามหาปุโรหิตแห่งสำนักจันทราโรหิต เพื่อขอยืมปราณเลือดอาถรรพ์มาใช้แต่เมื่อเข้าใกล้บริเวณนี้ ก็เห็นเฉินซีถูกฉงชูโม่ล่อลวงไปแล้ว ส่วนสาวกของสำนักจันทราโรหิตก็บาดเจ็บล้มตายกันเป็นเบือ เขาจึงฉวยโอกาสจัดการสาวกที่เหลือของสำนักจันทราโรหิต จากนั้นก็เข้าไปในถ้ำจนได้พบกับแท่นบูชาต่อมาก็ฉวยโอกาสที่ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยมิทันระวังจัดการอีกฝ่ายจนสลบไป และเก็บรวบรวมปราณเลือดอาถรรพ์เหล่านี้ได้อย่างง่ายดายจากนั้นเซวียหมิงก็หันหลังเดินออกจากที่นี่ไปเช่นกันขณะที่เขาเดินผ่านป่าแห่งหนึ่ง จู่ ๆ ก็รู้สึกว่าเท้าเหยียบเข้ากับบางสิ่งบางอย่างเมื่อก้มลงมอง ก็พบว่าเป็นขลุ่ยกระดูกสีขาวบริสุทธิ์เขายกมันขึ้นมาด

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 701

    ในเวลานี้ แสงสีเลือดใต้รอยแตกของผนึกได้หายไปหมดจนแล้ว เหลือเพียงความมืดมิดจีอันลูบก้นพลางเดินเข้ามาเขาหยิบกระดาษยันต์สีเหลืองสองแผ่นออกมาจากอกเสื้อแล้วแปะลงบนรอยแตกของผนึกนั้นลงไปจากนั้นก็เดินไปข้าง ๆ ยกก้อนหินขนาดใหญ่กว่าวัวทั้งตัวขึ้นมาวางทับกระดาษยันต์ทั้งสองแผ่นนั้นไว้ฉินซูได้แต่มองตาค้าง ก้อนหินนั้นอย่างน้อยก็หนักสักตันสองตันกระมัง แต่จีอันกลับยกมันขึ้นมาได้ด้วยมือเปล่าเขามองด้วยความสงสัยเต็มใบหน้าแล้วถามว่า “จีอัน ตอนนี้เจ้าอยู่ระดับใด?”“ข้าน้อยมิรู้ อาจารย์มิได้บอกข้าน้อย”“มิจริงน่า? ระดับของตัวเจ้าเอง เจ้าจะมิรู้ได้อย่างไร?”จีอันพยักหน้าอย่างซื่อ ๆ แล้วถามกลับว่า “ปราณบริสุทธิ์ภายในของท่านเข้มข้นและประหลาดถึงเพียงนี้ พระองค์เล่าอยู่ระดับใด?”ฉินซูยักไหล่ “ข้าก็มิแน่ใจ”“หึ มิพูดก็ช่าง ท่านแข็งแกร่งเพียงนี้ อาจารย์คงแก่จนเลอะเลือนแล้ว ถึงให้ข้าน้อยลงใต้มาคุ้มครองท่าน”จีอันบ่นพึมพำแล้วย่อเข่าลง จากนั้นร่างก็พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าดุจกระสุนปืนใหญ่ ชั่วพริบตาก็กระโจนขึ้นไปข้างบนฉินซูอดสงสัยมิได้ว่า เจ้านี่น่าจะเลือกเส้นทางสายฝึกกาย มิฉะนั้นจะหนังหนาถึงเพียงนี้ได้อย

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 700

    ท่ามกลางสายตาที่อยากรู้อยากเห็นของฉินซู ร่างของจีอันก็พุ่งลงไปราวกับกระสุนปืนใหญ่ กระแทกเข้ากับพื้นหุบเหวลึกเบื้องล่าง'ปัง' เสียงดังสนั่น พื้นดินถูกกระแทกจนเกิดหลุมขนาดใหญ่แต่จีอันกลับมิได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย!พลันเห็นเขาปีนขึ้นมาจากหลุมแล้วตบ ๆ ปัดฝุ่นออกจากตัวอย่างมิยี่หระราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเมื่อเห็นภาพนั้น ฉินซูยกย่องเขาอย่างสุดซึ้ง ถามด้วยความสงสัยว่า “ชูโม่ จีอันผู้นี้หนังหนาไปหน่อยกระมัง? เขาอยู่ระดับใดหรือ?”“หม่อมฉันก็มิแน่ใจ แต่ในบรรดาศิษย์ทั้งเจ็ดคนของหัวหน้าโหรหลวงเขาแข็งแกร่งที่สุดแล้วเพคะ”“เช่นนี้นี่เอง เจ้าอยู่ดูแลตู๋กูโฉ่วเยวี่ยที่นี่ไปนะ ข้าจะลงไปช่วยเขา”ฉินซูพูดจบก็กระโดดลงไปเช่นกันต่างจากจีอัน ฉินซูในยามนี้ราวกับขนนกเบาหวิวที่ลอยลงไปอย่างแผ่วเบาเมื่อมาถึงก้นหุบเหว เขาก็ตกใจเมื่อพบว่าพื้นของแท่นบูชานี้เต็มไปด้วยอักขระเวทสีแดงในยามนี้อักขระเวทเหล่านี้ล้วนเปล่งแสงสีแดงเลือด ทั้งมีเสน่ห์แบบลึกลับและทั้งแปลกประหลาดจีอันมองฉินซูผาดหนึ่ง แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ท่านคอยอยู่ตรงนั้น อย่าเข้ามา”พูดจบเขาก็สาวเท้าเข้าไปหาแสงโลหิตนั้นอย่างรวดเร็ว

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 699

    แรงกดดันน่าสะพรึงกลัวที่แฝงอยู่ในนั้น แม้จะอยู่ห่างไกลก็ยังรับรู้ได้อย่างชัดเจนฉินซูกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ท้องฟ้าเกิดปรากฏการณ์ประหลาด เกรงว่าจะเกิดเรื่องใหญ่แล้ว มิควรอยู่ที่นี่แล้ว รีบไปกันก่อนเถิด”“มิได้ ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยยังอยู่ที่เขาหัวสิงห์ ที่นั่นต้องเกิดเรื่องกระไรขึ้นแน่ รีบไปดูกันเถิดเพคะ”ฉงชูโม่ยังมิทันจะพูดจบ ก็ใช้วิชาตัวเบาพุ่งไปยังทิศทางของเขาหัวสิงห์แล้วเมื่อเห็นเช่นนั้น ฉินซูก็จำต้องตามไปด้วยเมื่อสังเกตว่าความเร็วของฉงชูโม่เร็วกว่าเดิมมาก ฉินซูก็อุทานด้วยความประหลาดใจว่า “ชูโม่ มิได้เจอกันนาน พลังของเจ้าเพิ่มขึ้นเร็วถึงเพียงนี้ได้อย่างไร?”“หม่อมฉันกินโอสถลับของสำนักหอดูดาวหลวง โอสถลูกกลอนนั้นสามารถเพิ่มความคล่องแคล่วของกระบวนท่าได้เพคะ”“เช่นนี้นี่เอง!”ฉินซูจดจำเรื่องนี้ไว้ในใจเงียบ ๆทั้งสองใช้ทักษะการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วราวกับภูตผี เพียงแค่ชั่วครู่ก็มาถึงตีนเขาหัวสิงห์เมื่อเงยหน้ามอง แสงสีแดงฉานที่พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้ายังคงแรงกล้ามิได้เจือจางลงแม้แต่น้อย ในความว่างเปล่านั้นเต็มไปด้วยเมฆดำและเสียงฟ้าร้องดังสนั่นเมื่อเห็นสถานการณ์อันน่าพิศวงนี้ ฉินซูก็

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 698

    ฉินซูกล่าวด้วยท่าทางจริงจังว่า “เฮ้อ เจ้าอย่าได้หึงหวงนักเลย เจ้าเป็นถึงพระชายาองค์รัชทายาทของข้านะ”“ถุย ใครเขาตอบตกลงเป็นพระชายาองค์รัชทายาทของท่านกัน อย่าแม้แต่จะคิดเชียว”“ชูโม่อย่าล้อเล่นสิ ข้าพูดจริงนะ เจ้ายังมิเข้าใจความรู้สึกที่ข้ามีต่อเจ้าอีกหรือ?”ฉงชูโม่หยุดเดิน พลันหันขวับกลับไปกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ฉินซู หากท่านมิอยากให้ฝ่าบาททรงระแวง ท่านก็ควรกลืนคำพูดเมื่อครู่นี้กลับลงท้องไปเสีย”ฉินซูขมวดคิ้ว “ข้าชอบเจ้า แล้วมันผิดด้วยหรือ?”เมื่อเห็นฉินซูแสดงความในใจ ฉงชูโม่ก็อดมิได้ที่จะรู้สึกยินดีเล็กน้อย แต่ก็ยังคงส่ายหน้าพลางอธิบายอย่างอดทน“ผิดสิเพคะ ท่านลองไตร่ตรองดู ท่านเป็นถึงองค์รัชทายาท กลับคิดจะรับแม่ทัพขั้นหนึ่งมาเป็นพระชายาองค์รัชทายาท หากองค์จักรพรรดิทรงทราบเรื่องนี้ พระองค์จะทรงรู้สึกอย่างไร? อย่าลืมว่าเรื่องวันชุนเฟินปีหน้ายังมิจบสิ้น ดังนั้นมิว่าจะมองอย่างไร ยามนี้ก็มิใช่เวลาที่จะพูดถึงเรื่องนี้เพคะ”“แต่… แต่ข้าได้ยึดครองหนานเยวี่ยทั้งหมดมาเป็นของต้าเหยียน ด้วยความดีความชอบเช่นนี้ การรับเจ้ามาเป็นพระชายาองค์รัชทายาทก็มิ...”ยังมิทันที่ฉินซูจะพูดจบ เขาก็เข

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 697

    เมื่อเห็นว่าศพแห้งทำกระไรฉินซูมิได้ เสียงขลุ่ยของเฉินซีก็เปลี่ยนทำนองกะทันหัน ศพแห้งเหล่านั้นหันหลังวิ่งหนีป่าราบทันที“ชีวิตน้อย ๆ ของเจ้ากับศพแห้งเหล่านี้ ข้าจะเอาไปทั้งหมด!”เมื่อฉินซูพูดจบ ก็ตบฝ่ามือใส่เฉินซีรูม่านตาของเฉินซีหดเล็กลง ยังมิทันได้ลงมือก็ 'ฟู่' ถูกตบจนกลายเป็นหมอกเลือดในทันใดเมื่อเห็นเช่นนั้น ชายชุดดำก็ใจหายวาบ รีบวิ่งหนีสุดชีวิตโดยมิลังเลฉินซูหัวเราะเย็นชา จากนั้นก็โบกมือชายชุดดำวิ่งออกไปได้มิไกลนัก ร่างก็ชะงักกึก จากนั้นก็ถูกแรงดึงดูดลากให้ลอยกลับไปยังมิทันเข้าใจว่าเกิดอันใดขึ้น คอของเขาก็ถูกฉินซูบีบเอาไว้เสียแล้ว“บัดนี้เพิ่งคิดจะหนี มิคิดว่าสายเกินไปหน่อยรึ?” ฉินซูมองเขาด้วยสีหน้าเรียบเฉยชายชุดดำตกใจจนหน้าซีดเผือด กล่าวด้วยความยากลำบากว่า “อย่า อย่าฆ่าข้าเลย....”“ใครส่งเจ้ามา?”“ประ… ประมุขแห่งยุทธภพหนานเยวี่ย”ฉินซูหัวเราะเย็นชา “สำเนียงหลงเฉิงของเจ้าชัดถ้อยชัดคำเช่นนี้ ใกล้ตายแล้วยังคิดจะหลอกข้าอีกรึ? ในเมื่อเจ้ามิรู้สำนึก ข้าก็จะให้เจ้ารู้จักสิ่งที่เรียกว่าตายทั้งเป็น”เมื่อเขาพูดจบ ก็จิ้มไปที่จุดตันจงบนหน้าอกของชายชุดดำอย่างแรงเสี้ยวขณะต่

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 696

    ชายชุดดำพยักหน้าขึงขัง “ข้าเห็นกับตาตัวเอง จะเป็นเรื่องเท็จได้อย่างไร”เฉินซีกลับหัวเราะแล้วส่ายหน้า กล่าวอย่างมิเห็นด้วยว่า “ตบยอดฝีมือระดับสวรรค์ให้กลายเป็นหมอกเลือดด้วยฝ่ามือเดียว เป็นไปได้อย่างไร ข้าว่านี่เป็นเพียงกลอุบายพวกภาพมายาเท่านั้น”ชายชุดดำคิดดูแล้วก็เห็นด้วยเฉินซีมองฉินซูอย่างดูถูก “เจ้ารัชทายาทผู้รอวันปลด ยามนี้ข้างกายข้ามียอดฝีมือระดับสวรรค์เพิ่มมาอีกคน เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้แล้ว เจ้ายังมิรีบยอมจำนนแต่โดยดีอีก รอกระไรอยู่เล่า?”“ใช่แล้ว ฉินซู เจ้าฆ่าตัวตายไปเสียยังดีเสียกว่า เช่นนั้นจะได้มิต้องทนทุกข์ทรมานมากนัก”ฉินซูกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบว่า “พวกเจ้าสองคนพูดมากเกินไปแล้ว!”พูดจบ เขาก็หันกลับไปถามฉงชูโม่ว่า “จะเก็บไว้สอบปากคำหรือไม่?”เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉงชูโม่ก็ชะงักไปแต่แล้วก็ส่ายหน้าส่วนเฉินซีโกรธขึ้งจนแค่นหัวเราะออกมาแทน “เจ้ารัชทายาทผู้รอวันปลด เจ้านี่ช่างปากกล้าเหลือเกิน สงสัยจะอวดอ้างเกินจริงเสียแล้วกระมัง ในเมื่อเจ้าอยากตายนัก ข้าก็จะให้เจ้าได้เห็นวิธีการอันน่าสะพรึงกลัวของสำนักจันทราโรหิตของข้า!”จากนั้นเขาก็หยิบขลุ่ยกระดูกออกมาจากอกเสื้อก่อ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 695

    เจ้าห้าเป็นจอมยุทธ์ระดับสวรรค์อย่างแท้จริง แต่กลับถูกฉินซูตบจนมิเหลือซาก แสดงให้เห็นชัดเจนว่าวรยุทธ์ของฉินซูน่าสะพรึงกลัวเพียงใดในฐานะที่เป็นจอมยุทธ์ระดับสวรรค์เช่นกัน เขาใช้วิชาตัวเบาหลบหนีอย่างสุดกำลัง ความเร็วยิ่งยวดจนน่าตกใจเช่นกันชั่วขณะหนึ่ง ฉินซูถึงกับตามมิทันได้ในทันทีแต่ยามนี้ฉินซูตั้งเป้าอีกฝ่ายไว้อย่างแน่วแน่ และไล่หลังตามติดไปอย่างมิยอมปล่อยหลังจากไล่ล่ากันไปได้ครึ่งชั่วยาม อีกด้านหนึ่งก็มีเสียงบันดาลดังขึ้นว่า “สารเลว หากมีฝีมือก็อย่าหนี ข้าจะให้เจ้าได้เห็นฤทธิ์เดชของสำนักจันทราโรหิตของข้าเสียบ้าง!”“หากเจ้ามีฝีมือก็อย่าตามมาสิ!”เมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคยนี้ ฉินซูก็มิได้ไล่ตามชายชุดดำคนนั้นต่อไป แต่กลับพุ่งไปยังต้นทางของเสียงนั้นมินานนัก ร่างที่คุ้นเคยก็ปรากฏแก่สายตาฉินซูกระโดดออกมาจากหลังต้นไม้ ถามด้วยความประหลาดใจว่า “ชูโม่ เกิดอันใดขึ้น?”“องค์รัชทายาท ไฉนท่านจึงมาอยู่ที่นี่?” ฉงชูโม่หยุดชะงักอย่างอดมิได้นางล่อเฉินซีลงมาจากเขาหัวสิงห์ได้สำเร็จ แต่กลับสลัดอีกฝ่ายมิหลุดมินึกเลยว่าเมื่อวิ่งมาถึงที่นี่ กลับมาเจอเข้ากับฉินซูเมื่อเห็นนางหยุด เฉินซีก็หัวเ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 694

    ด้วยปฏิกิริยาที่รวดเร็วยิ่งยวด ชายชุดดำคว้าลูกธนูที่ชิวก่วนยิงออกมาไว้ในมือได้แต่เขามองข้ามปัญหาที่ร้ายแรงไปอย่างหนึ่ง นั่นคือลูกธนูนั้นผูกติดอยู่กับระเบิดสายฟ้าไม้ไผ่ยังมิทันสิ้นถ้อยคำดูแคลนของเขา ระเบิดสายฟ้าก็ระเบิดขึ้นอย่างรุนแรงร่างของเขากระเด็นออกไปทันทีพร้อมกับเสียงระเบิดดังสนั่น กระแทกลงพื้นดินที่อยู่ไกลออกไปอย่างแรงแขนขวาและแก้มครึ่งซีกของเขาถูกระเบิดจนเนื้อตัวเหวอะหวะ อาภรณ์ขาดวิ่นทั้งตัว ดูน่าสังเวชอย่างยิ่งเมื่อเห็นภาพนั้น สหายของเขามีสีหน้าตกตะลึง รีบถามว่า “เจ้าห้า เจ้าเป็นกระไรหรือไม่?”“แค่ก ๆ ...ยังมิตาย บัดซบ ข้าประมาทไปหน่อย”ชายชุดดำที่ถูกเรียกว่าเจ้าห้าสบถแล้วตะเกียกตะกายลุกขึ้น“เจ้าถ่วงเวลาเจ้ารัชทายาทผู้รอวันปลดนั่นไว้ ข้าจะจัดการเจ้าสารเลวนั่นแล้วไปช่วยเจ้า!”เมื่อเจ้าห้าพูดจบ ก็ใช้วิชาตัวเบาพุ่งเข้าใส่ชิวก่วนเมื่อเห็นเช่นนั้น ชิวก่วนก็หนังตากระตุกอย่างอดมิได้ รีบง้างธนูใส่ศรเตรียมยิงแต่ฉินซูกลับกล่าวว่า “อีกฝ่ายเป็นยอดฝีมือ หากมันตั้งรับ ลูกธนูของเจ้าก็ทำกระไรมันมิได้ จงหลบไปอยู่ห่าง ๆ”ขณะพูด ฉินซูก็กระโดดตัวลอยพุ่งเข้าหาเจ้าห้าทันทีเมื่อ

Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status