Share

บทที่ 507

Author: ใบไม้ร่วงในเมืองร้าง
เหลยเจิ้นส่ายหน้าเบา ๆ “ขออภัย ทว่าคงทำเช่นนั้นมิได้”

ใบหน้างดงามของซ่างกวนอวิ๋นซีเย็นชาลง นางกล่าวเสียงต่ำ “เจ้าจะบังคับให้ข้าลงมือใช่หรือไม่?”

“ข้าเพียงต้องการเกลี้ยกล่อมให้เจ้ากลับไป หากเจ้าต้องการลงมือ ข้าก็พร้อมจะเป็นคู่มือ!”

“ดี ถ้าเช่นนั้นข้าจะดูว่า วรยุทธ์ของเจ้าก้าวหน้าไปมากเพียงใดเมื่อเทียบกับห้าสิบปีก่อน!”

เมื่อซ่างกวนอวิ๋นซีกล่าวจบ ก็ยื่นนิ้วเรียวสวยชี้ไปยังเหลยเจิ้นที่อยู่กลางเวหา!

ทันใดนั้น

พื้นที่โดยรอบก็ถูกบีบเข้าหากันอย่างกะทันหัน คล้ายกับกรงที่หดตัวเข้าหาเหลยเจิ้น

“กลอุบายตื้น ๆ!”

เหลยเจิ้นหัวเราะเยาะ เหยียบพื้นเบา ๆ ด้วยฝ่าเท้า

“เคร้ง!”

เสียงแตกดังขึ้น กรงไร้รูปธรรมของซ่างกวนอวิ๋นซีแตกสลายในทันใด

เมื่อเห็นดังนั้น ดวงตาคู่งามของซ่างกวนอวิ๋นซีก็ฉายแววเคร่งขรึม ฉับพลันร่างของนางสั่นไหว กลายเป็นแสงพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า!

หลังจากหมุนตัวหนึ่งตลบ ก็พุ่งไปทางใต้

เหลยเจิ้นส่งเสียงหึ ร่างของเขาก็กลายเป็นแสงวาบไล่ตามไปอย่างมิลดละ!

บนห้วงเวหายามราตรี

แสงสองสายคล้ายดาวตกไล่ตามดวงจันทร์พาดผ่านท้องฟ้า

ระหว่างนั้น แสงนุ่มนวลหลายสายพลันพุ่งออกมาจากแสงดาวตกสองสาย จากนั้นก็
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 508

    ซ่างกวนอวิ๋นซีร่ายมือ โล่สีเขียวอ่อนก่อตัวรวมกันอยู่ตรงหน้านางในทันใดทว่าปราณดัชนีที่เหลยเจิ้นปล่อยออกมา กลับมิสนใจโล่ตรงหน้านาง พลันผ่าทะลุเข้าไปภายใต้สายตาตกตะลึงของซ่างกวนอวิ๋นซี ปราณดัชนีนั้นหายวับเข้าไปในร่างของนางในพริบตาในชั่วพริบตาต่อมานั้น ซ่างกวนอวิ๋นซีก็รู้สึกว่ามีพลังต้องห้ามบางอย่างเพิ่มเข้ามาในร่างเมื่อได้สติกลับคืนมา นางก็กระทืบเท้าด้วยโทสะ "เหลยเจิ้น เจ้าเฒ่าไร้สัจจะ ปลิ้นปล้อนกลับกลอก!""ข้าเพียงแต่สะกดการบ่มเพาะตนของเจ้าไว้เท่านั้น มิได้บอกว่าจะมิให้เจ้าไปหาองค์รัชทายาท แล้วจะหาว่าข้ากลับกลอกได้อย่างไร?""เจ้า!!"ซ่างกวนอวิ๋นซีโมโหจนแทบจะระเบิดอารมณ์ ดวงตาเบิกกว้างจ้องมองเหลยเจิ้นเหลยเจิ้นยักไหล่ "แม้การบ่มเพาะตนของเจ้าจะถูกข้าสะกดไว้ แต่อย่างน้อยก็ยังสามารถใช้วรยุทธ์ระดับสวรรค์ได้ เท่านี้ก็เพียงพอให้เจ้าจัดการกับผู้ฝึกยุทธ์ระดับสวรรค์ที่อาจปรากฏตัวในต้าเหยียนได้แล้ว""แล้วองค์รัชทายาทผู้รอวันถูกปลดของพวกเจ้าเล่า? เขาอยู่ในระดับใดกันแน่?"เหลยเจิ้นครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วส่ายหน้าซ่างกวนอวิ๋นซีขมวดคิ้ว ถามอย่างมิพอใจ "เจ้าส่ายหน้าหมายความว่าอย่างไร?"

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 509

    "อะแฮ่ม… อะไรกันเล่า ฝนจะตก หญิงสาวจะออกเรือน เป็นเรื่องที่ห้ามมิได้ เจ้าจะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟไปหาปะไร?""หม่อมฉันโกรธเพราะกระไร เจ้ามิรู้อยู่แก่ใจหรอกหรือ!""แค่ก ๆ ข้าไปหาฟืนแห้งมาดีกว่า"ฉินซูกล่าวจบก็เดินหลบไปตามผนังหินที่ยื่นออกมาด้านนอกถ้ำกู้เสวี่ยเจี้ยนแค่นเสียงเย็นชา "หึ ฝนตกหนักขนาดนี้ จะมีฟืนแห้งที่ไหน… ฮัดชิ้ว!"ยังมิทันสิ้นคำ นางก็จามออกมาช่วงต้นเหมันตฤดูผ่านไป อีกมิกี่วันก็จะเป็นช่วงหิมะโปรยปราย ดังนั้นเมื่อฝนตกจึงทำให้รู้สึกหนาวเป็นพิเศษกู้เสวี่ยเจี้ยนย่อตัวลงกับพื้น เอามือกอดอกแน่นลมหนาวพัดมาวูบหนึ่ง นางก็ตัวสั่นสะท้านอย่างห้ามมิได้นางอดมิได้ที่จะมองออกไปนอกถ้ำ ดวงตาคู่สวยเต็มไปด้วยความหวังแม้จะรู้สึกว่าเป็นไปได้ยาก ทว่ายามนี้นางก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าฉินซูจะหาฟืนแห้งมาจุดไฟได้มิฉะนั้นแม้ฝนข้างนอกจะหยุดตก ก็เป็นไปมิได้ที่จะเดินทางต่อด้วยอาภรณ์ที่เปียกชุ่มเช่นนี้ผ่านไปครู่หนึ่ง ฉินซูก็กลับมาเขาหอบฟืนแห้งกองใหญ่ในอ้อมแขนมาด้วย!เมื่อเห็นดังนั้น กู้เสวี่ยเจี้ยนก็ลุกขึ้นอย่างตื่นเต้น พลันรีบเร่งเร้า "เร็ว ๆ เข้า รีบจุดไฟเร็วเพคะ หม่อมฉันหนาวจะตายอยู่แล้ว!

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 510

    ด้านนอกถ้ำ พายุฝนยังคงตกกระหน่ำอย่างต่อเนื่องภายในถ้ำ เวลาเหมือนจะหยุดนิ่งฉินซูนอนอยู่บนพื้นราวกับกลายเป็นหิน มือทั้งสองยังกอดเอวบางของกู้เสวี่ยเจี้ยนไว้ส่วนกู้เสวี่ยเจี้ยนทอดกายบนร่างของเขา ริมฝีปากแดงอ่อนหวานของนางแนบสนิทกับริมฝีปากของเขาเข้าพอดีทั้งสองสบตากัน รู้สึกได้ถึงจังหวะการเต้นของหัวใจที่เร็วขึ้นเรื่อย ๆ!อุณหภูมิระหว่างกันก็ยิ่งชัดเจน!ฉินซูกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก กำลังจะทำอะไรบางอย่างแต่เมื่อสังเกตเห็นกระบี่ยาวข้าง ๆ กู้เสวี่ยเจี้ยน เขาก็เกิดลังเลหากเผลอทำให้กู้เสวี่ยเจี้ยนโกรธแล้วนางเกิดคิดฆ่าเขาขึ้นมาจะทำอย่างไร?เพราะท้ายที่สุดแล้ว นี่มิใช่ครั้งแรกกับกู้เสวี่ยเจี้ยน หากครั้งนี้ยังมิสามารถทำให้นางยอมจำนนด้วยใจจริงได้ ก็คงจะมีเพียงสวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่านางจะทำเรื่องระห่ำอะไรออกมาแต่โอกาสดีเช่นนี้ ฉินซูมิอยากพลาดไปเลยจริง ๆในขณะที่เขากำลังลังเล ริมฝีปากแดงของกู้เสวี่ยเจี้ยนก็เริ่มขยับ!เห็นเพียงจมูกโด่งของนางเต็มไปด้วยลมหายใจร้อนระอุ ริมฝีปากคู่สวยจุมพิตลงบนริมฝีปากของฉินซูอย่างตะกละตะกลามฉินซูมีหรือจะทนไหว รีบตอบสนองอย่างกระตือรือร้นโดยมิรู้ตัว ทั้

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 511

    ฉินซูชะงักไป และจำใจต้องทำภารกิจอีกครั้งผ่านไปอีกกว่าสองเค่อ กู้เสวี่ยเจี้ยนจึงลุกขึ้นแต่งตัวอย่างพอใจนางมองฉินซูด้วยสายตาอ่อนโยน แล้วเร่งเร้า "ข้างนอกฝนหยุดแล้ว พวกเราเร่งเดินทางกันเถิด มิเช่นนั้นฟ้าจะมืดเสียก่อนไปถึงเป่ยเซียง"ดวงตาของฉินซูเป็นประกาย เขาเสนอ "หรือว่าเราจะออกเดินทางวันพรุ่งนี้?"กู้เสวี่ยเจี้ยนมองออกว่าฉินซูคิดอะไรอยู่ในใจ ทีแรกนางตั้งใจจะปฏิเสธ แต่แล้วกลับพยักหน้าตกลงอย่างน่าประหลาดเมื่อเห็นดังนั้นฉินซูก็ลิงโลด พลันรีบพูดต่อ "เช่นนั้นข้าจะไปจับกระต่ายป่าสักสองสามตัว คืนนี้พวกเรากินกระต่ายย่างกันเถอะ"ฉินซูรีบแต่งตัวแล้วเหาะออกไปกู้เสวี่ยเจี้ยนถอนหายใจเบา ๆ ดวงตาคู่งามเต็มไปด้วยความโศกเศร้ามินานฉินซูก็กลับมาพร้อมกับกระต่ายป่าที่ทำความสะอาดแล้วสองสามตัวหลังจากกินอิ่ม ท้องฟ้าก็มืดลงทั้งสองจึงนอนบนพื้นข้างกองไฟแต่ยังมิทันผล็อยหลับ กู้เสวี่ยเจี้ยนก็ปีนขึ้นคร่อมร่างฉินซูอีกครั้งคืนนั้น ฉินซูแทบมิได้นอนทั้งคืน!วันรุ่งขึ้นฉินซูขอบตาดำคล้ำและหาวมิหยุดส่วนกู้เสวี่ยเจี้ยนมีใบหน้าแดงเปล่งปลั่ง ดูสดชื่นกระปรี้กระเปร่าหลังจากออกจากถ้ำกู้เสวี่ยเจี้ยนก็ข

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 512

    "ว่ากระไรนะ? เจ้าสำนักหอดารารักษ์?!"ฉินซูเบิกตากว้าง แทบมิเชื่อสายตา!ไฉนเจ้าสำนักหอดารารักษ์จึงได้อ่อนเยาว์เช่นนี้?ในดวงตาคู่สวยของซ่างกวนอวิ๋นซีเผยความประหลาดใจ นางเหลือบมองกู้เสวี่ยเจี้ยนเมื่อเห็นลายปักกลุ่มดาวหมีใหญ่ที่ปักอยู่บนชุดของนาง ก็แค่นเสียงหัวเราะเย็นชา "ตาเจ้ายังพอมีแววอยู่บ้าง มิเสียทีที่เป็นศิษย์ของตาเฒ่าเหลยเจิ้นนั่น!"กู้เสวี่ยเจี้ยนหัวใจเย็นวาบ รีบกระซิบบอกกับฉินซู "เจ้าสำนักหอดารารักษ์มีพลังลึกล้ำเกินหยั่งถึง ควานหาทั่วต้าเหยียน มีเพียงอาจารย์ของหม่อมฉันเท่านั้นที่ต้านทานนางได้ ท่านหนีไปเถิด หม่อมฉันจะพยายามถ่วงเวลานางไว้ให้นานที่สุด"เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉินซูก็เผยรอยยิ้มขมขื่นตั้งแต่ที่ซ่างกวนอวิ๋นซีปรากฏตัว เขาก็รู้สึกได้ถึงแรงกดดันรุนแรงที่แผ่ซ่านมาจากนางนี่แสดงให้เห็นว่า พลังของอีกฝ่ายแข็งแกร่งจนน่าตกใจกู้เสวี่ยเจี้ยนต้องการถ่วงเวลานางก็มิต่างกระไรจากเรื่องเพ้อฝันเมื่อเห็นฉินซูนิ่งเฉย กู้เสวี่ยเจี้ยนก็เร่งเร้าอย่างร้อนรน "ไยท่านยังยืนอยู่อีก รีบไปเร็วเข้า"ฉินซูส่ายหน้าอย่างจนปัญญา "เจ้าถ่วงเวลานางมิได้หรอก อีกทั้งเป้าหมายของนางคือข้า เจ้าหลบไป

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 513

    เมื่อเห็นภาพนั้นฉินซูก็ขมวดคิ้ว รู้สึกได้ถึงลางร้ายซ่างกวนอวิ๋นซีส่งเสียงหึ "เจ้าฉินซู เจ้าองค์รัชทายาทผู้รอวันปลด กล้าสังหารบุตรแห่งนักปราชญ์และผู้อาวุโสหอดารารักษ์ของข้า วันนี้ ข้าจะให้เจ้าชดใช้ด้วยเลือด ตอบแทนด้วยชีวิต!"เมื่อสิ้นเสียง กลิ่นอายสังหารน่าสะพรึงกลัวก็พุ่งออกมาจากร่างของนางจากนั้นนางก็สะบัดสองนิ้ว ลำแสงกระบี่ราวกับจับต้องได้สายหนึ่งก็พุ่งตรงมาหาฉินซูฉินซูผลักกู้เสวี่ยเจี้ยนออกไป จากนั้นก็กำหมัดกระแทกออกทันใดเงาหมัดแฝงด้วยปราณวายุอันพลุ่งพล่านพุ่งเข้าปะทะกับปราณแห่งกระบี่ของซ่างกวนอวิ๋นซีตูม...หลังจากเสียงระเบิดดังขึ้น ฉินซูและซ่างกวนอวิ๋นซีก็ถอยหลังไปคนละก้าว!เมื่อเห็นดังนั้น กู้เสวี่ยเจี้ยนก็อ้าปากค้างจนกรามแทบหลุด!ซ่างกวนอวิ๋นซีเป็นถึงเจ้าสำนักหอดารารักษ์ วรยุทธ์ของนางกล้าแกร่ง เกรงว่าจะมิด้อยไปกว่าหัวหน้าโหรหลวงทีเดียวแต่บัดนี้ฉินซูกลับต่อสู้กับนางได้อย่างสูสี แล้วจะมิให้นางตกใจได้อย่างไร!นางย่อมมิรู้ว่า ตอนนี้พลังในร่างของซ่างกวนอวิ๋นซีถูกหัวหน้าโหรหลวงสะกดเอาไว้ วรยุทธ์จึงอยู่ที่ระดับสวรรค์ขั้นสูงสุดเท่านั้นส่วนฉินซูขมวดคิ้วและรู้สึกงุนงงเล็ก

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 514

    เมื่อเห็นหยกครึ่งซีกนี้ ดวงตาของซ่างกวนอวิ๋นซีก็หดเล็กลง ใบหน้างดงามฉายแววตกใจ!หยกนี้เป็นหยกที่นางมอบให้ซือคงเหยียนเมื่อครานั้นพลังที่อยู่ภายในนั้นเทียบเท่ากับการลงมือของนางหนึ่งครั้งหลังจากฉินซูขว้างหยกนี้ออกไป พลันอุ้มกู้เสวี่ยเจี้ยนขึ้นมา แล้วร่างก็วูบหายไปในป่าเขาใช้ปราณบริสุทธิ์ในร่างกายอย่างเต็มที่ ความเร็วของเขาเร็วมากจนน่าตกตะลึงในขณะเดียวกันหลังจากที่หยกนั้นชนเข้ากับฝ่ามือลวงตาน่าสะพรึงกลัวนั้น มันก็แตกออกพลังอันน่าพรั่นพรึงระดับเดียวกันก็ปะทุออกมาจากภายในตู้ม...เสียงดังสนั่นหวั่นไหวระเบิดออก พื้นดินสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ปรากฏรอยแตกคล้ายใยแมงมุมมากมายภายใต้แรงกดดันมหาศาลนี้ ทำให้กลางลำต้นของต้นไม้เกือบทั้งหมดในรัศมีหลายลี้หักลง!โครม!จากป่าที่อยู่ไกลออกไปนั้นมีนกจำนวนนับมิถ้วนบินหนีออกกระจัดกระจายไปทุกทิศทางส่วนฉินซูและกู้เสวี่ยเจี้ยนหลบพ้นจากรัศมีของแรงระเบิดไปอย่างฉิวเฉียดเมื่อเห็นป่าด้านหลังถูกทำลายราบเป็นหน้ากลอง กู้เสวี่ยเจี้ยนก็ตกใจจนพูดมิออกฉินซูเองก็รู้สึกเสียวสันหลังมิแพ้กันแต่ตอนนี้เขาไม่มีเวลาให้คิดมาก พลันใช้ปราณทั้งหมดไปกับวิชาตัวเบ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 515

    เมื่อคิดได้ดังนั้น นางก็สะบัดข้อมือ ปราณแห่งกระบี่คมกริบก็ฟันเข้าที่ต้นไม้ใหญ่ข้าง ๆ'โครม!'ต้นไม้ใหญ่ต้นนั้นล้มลง ฝุ่นฟุ้งกระจายเป็นวงกว้างแล้วฉินซูก็อุ้มนางวิ่งไป ส่วนนางก็คอยใช้ปราณแห่งกระบี่ฟันต้นไม้ข้างทางเป็นระยะเช่นนี้ไปตลอดทางผ่านไปกว่าหนึ่งเค่อ ในที่สุดก็มองมิเห็นร่างของซ่างกวนอวิ๋นซีไล่ตามหลังมาแล้วเมื่อเห็นดังนั้น กู้เสวี่ยเจี้ยนก็ถอนหายใจโล่งอกแต่ในขณะนั้น ฉินซูกลับหยุดลงกู้เสวี่ยเจี้ยนเร่งเร้า "ฉินซู เจ้าหยุดทำไม รีบไปสิ พวกเราอุตส่าห์หนีนางพ้นแล้วนะ"ฉินซูกล่าวด้วยสีหน้าขมขื่น "พวกเราหนีนางมิพ้น""กระไรนะ?!"กู้เสวี่ยเจี้ยนชะงักไป จากนั้นจึงเอี้ยวศีรษะไปมองเห็นสตรีผู้งามสง่าราวกับเทพธิดา ยืนอยู่มิไกลพร้อมด้วยปราณสังหาร!นั่นคือซ่างกวนอวิ๋นซีในตอนนี้ผมเผ้านางกระเซิงเล็กน้อย ผ้าคลุมหน้าหายไปไหนมิอาจทราบได้ ฉินซูและกู้เสวี่ยเจี้ยนจึงได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของนางใบหน้าที่งดงามเกินต้านทานของซ่างกวนอวิ๋นซี ยังดูดีกว่าหงฉู่ม่อได้ชื่อว่างามที่สุดในต้าเหยียนอยู่เพียงเล็กน้อย!"เอ่อ เจ้าเป็นเจ้าสำนักหอดารารักษ์จริง ๆ หรือ?"ฉินซูอดถามอีกครั้งมิได้ เพราะซ่า

Latest chapter

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 622

    ครู่ต่อมา สายสืบสองคนที่เติ้งหม่างส่งไปก็กลับมา”ท่านแม่ทัพใหญ่ กองทหารม้ากลุ่มหนึ่งกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้ อีกทั้งพวกท่านรองแม่ทัพหม่าดูท่าทางจะถูกพวกมันจับเป็นได้แล้วขอรับ”“เจ้าว่ากระไรนะ?”เติ้งหม่างเผยสีหน้าประหลาดใจ แล้วเอ่ยด้วยความขุ่นเคือง “หม่าเวยเจ้าคนไร้ประโยชน์ โดนฝ่ายตรงข้ามจับกุมตัวได้รวดเร็วถึงเพียงนี้ มันน่าโมโหนัก!”“ท่านแม่ทัพใหญ่ เช่นนั้นตอนนี้พวกเราจะทำอย่างไรกันดีขอรับ?”“เตรียมรับมือ จริงสิ ทางนั้นมีกำลังพลเท่าใด?”“คาดคะเนราว ๆ พันนายขอรับ”เติ้งหม่างยิ่งงุนงงกว่าเดิม นึกว่าตนเองหูฝาดไป จึงไต่ถามอีกครั้ง “เจ้าว่ามีเท่าใดนะ?”“ประ… ประมาณพันนายขอรับ”“แค่พันนาย? พวกเจ้ามิได้ตาลายมองผิดไปใช่หรือไม่?”“เรียนท่านแม่ทัพใหญ่ คนของฝ่ายตรงข้ามมีจำนวนมิมากจริง ๆ ขอรับ แต่เบื้องหลังของพวกมันมีทหารหนุนหรือไม่นั้นยังมิอาจทราบได้”“ไปสืบต่อ ส่วนคนอื่น ๆ เตรียมพร้อมรับมือ!”“ขอรับ!”สายสืบหลายคนจึงมุ่งหน้าไปยังเบื้องหน้าอีกคราตามบัญชาของเติ้งหม่างส่วนคนอื่น ๆ ซุ่มซ่อนตัวอยู่ตามแนวป่าละเมาะสองข้างทางมินานนัก เสียงควบม้าก็ใกล้เข้ามา ปรากฏในสายตาของเติ้งหม่างและคนอ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 621

    ต่อมา พวกเขาก็มุ่งหน้าไปยังประตูเมืองฝั่งเหนือโดยมิรอช้าเมื่อสอบถาม ก็ได้ล่วงรู้ว่าหูก่วงเซิงนำทัพออกจากประตูเมืองฝั่งเหนือไปจริง ๆในกระโจมนอกประตูเมืองฝั่งเหนือ มิปรากฏร่างของหูก่วงเซิงและทหารม้าของเขาฉินซูหรี่ตา และพึมพำ “เจ้าสารเลวหูก่วงเซิงนี่ ท่าทางจะนำทัพไปลอบโจมตีกองทัพหนานเยวี่ยจริง ๆ”“เช่นนั้นจะทำเช่นไรดี? หูก่วงเซิงมีทหารม้าเพียงหนึ่งพันนาย หากปราศจากการสนับสนุนจากธนูทดกำลังและระเบิดสายฟ้า พวกเขาไปก็มีแต่ตายเปล่า!”“เรียกระดมพลเสีย เตรียมออกนอกเมืองไปช่วยเหลือ”เมื่อได้ยินดังนั้น ฉงชูโม่ก็มองฉินซูด้วยความประหลาดใจฝ่ายหลังขมวดคิ้วถาม “ไยจึงมองข้าเช่นนั้น?”“หามิได้ แค่รู้สึกแปลกใจเท่านั้น”“แปลกใจกระไร?”ฉงชูโม่อธิบาย “หูก่วงเซิงเป็นคนสนิทของอ๋องฉู่ ทั้งยังมิพอใจในตัวท่านเป็นอย่างยิ่ง บัดนี้เขากำลังประสบเคราะห์ภัย ทว่าท่านกลับตัดสินใจที่จะออกไปช่วยเหลือโดยมิลังเล หม่อมฉันจึงรู้สึกแปลกใจอยู่เล็กน้อย”ฉินซูกล่าวอย่างมิสบอารมณ์ “หูก่วงเซิงเป็นคนของอ๋องฉู่ก็จริง ทว่าในขณะเดียวกัน เขาก็เป็นทหารหาญแห่งต้าเหยียนของข้า ข้าจะนิ่งดูดายได้อย่างไร”“พระทัยที่กว้างขวางของท

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 620

    ฉงชูโม่มองซ้ายขวาแล้วกล่าว “บางทีอาจจะกลับค่ายทหารไปแล้วกระมัง เขาเป็นคนของอ๋องฉู่ การที่เห็นท่านสร้างความดีความชอบ คงรู้สึกมิพอใจอยู่บ้าง มิใช่เรื่องแปลกเพคะ”“จะว่าอย่างนั้นก็ได้”ฉินซูเหลือบมองเหล่าทหารที่กำลังกินดื่มอย่างสำราญ จึงเอ่ยถาม “เจ้าคงมิได้ให้ทหารทั้งหมดเข้าร่วมงานเลี้ยงฉลองชัยกระมัง?”“มิได้เพคะ นี่เป็นเพียงหนึ่งในสามส่วนเท่านั้น ส่วนที่เหลือล้วนเตรียมพร้อมอยู่แล้ว”“เช่นนั้นก็ดีแล้ว แต่ป่านนี้แล้ว เหตุใดจึงยังไม่มีข่าวคราวมาจากทางคลังอาวุธเล่า?”ฉินซูขมวดคิ้ว รู้สึกถึงความผิดปกติฉงชูโม่จึงสั่งทหารข้างกาย “เจ้าจงไปดูลาดเลาที่คลังอาวุธทีว่ามีสิ่งผิดปกติหรือไม่”“ขอรับ!”ทหารผู้นั้นรีบเร่งไปยังทิศทางคลังอาวุธมินานนัก เขาก็กลับมา“เรียนท่านแม่ทัพใหญ่ ที่คลังอาวุธเป็นปกติดีขอรับ”เมื่อได้ยินดังนั้น ฉงชูโม่จึงอดมิได้ที่จะขมวดคิ้วมุ่น“แปลกจริง เป็นไปได้อย่างไรที่เติ้งหม่างจะอดทนได้ถึงขั้นนี้ มิส่งคนมาขโมยธนูทดกำลังและระเบิดสายฟ้า?”“เป็นไปมิได้ เขารู้ว่าคืนนี้พวกเราจัดงานเลี้ยงฉลองชัย การป้องกันเมืองจึงหย่อนยานลง หากเขามิมาในคืนนี้ ภายหน้าคงไม่มีโอกาสดีเช่นนี้แ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 619

    หูก่วงเซิงหัวเราะเยาะ “ลำพังพวกเจ้าเพียงหยิบมือนี้น่ะหรือ? หึ ๆ ช่างประมาณตนสูงเสียจริง!”กำแพงเมืองเจียวโจวสูงหกถึงเจ็ดจั้ง เขามิคิดว่าหม่าเวยและคนเหล่านี้จะสามารถปีนขึ้นไปได้หม่าเวยกล่าวด้วยสีหน้าขมขื่น “อย่างน้อยก่อนที่จะปะทะเข้ากับพวกเจ้า พวกเราก็ยังคงมั่นใจมากทีเดียว”“ฮ่า ๆ พวกโง่เขลาเอ๋ย เอาเถอะ ในเมื่อความดีความชอบมาประเคนให้ถึงปากประตูแล้ว มิรับไว้คงน่าเสียดายแย่ ใครก็ได้!”“ขอรับ!”“ปิดปากพวกมันทั้งหมด แล้วส่งคนสองสามคนไปเฝ้าพวกมันในป่าให้ดี!”“ท่านแม่ทัพหู ในเมื่อพวกมันเป็นสายสืบของหนานเยวี่ย ไฉนมิควบคุมตัวพวกมันกลับเมือง ไปส่งให้ท่านแม่ทัพใหญ่จัดการเล่าขอรับ?”หูก่วงเซิงเหลือบมองเขาแวบหนึ่ง “นำคนกลับไปยามนี้ แล้วพวกเราจะลอบโจมตีกองทัพหนานเยวี่ยต่อหรือไม่?”“จริงด้วย พวกมันถูกพวกเรามัดไว้แล้ว ไม่มีทางหลบหนีไปได้ ส่งคนไปเฝ้าพวกมันไว้ก็พอ รอจนกระทั่งพวกเราได้ชัยกลับมา ค่อยคุมตัวคนพวกนี้กลับเมือง เช่นนี้จะได้ความดีความชอบเพิ่มขึ้นอีกอย่างไรเล่า!”ดวงตาของหม่าเวยกลอกไปมา เอ่ยปากกล่าว “ท่าน… ท่านแม่ทัพหู ท่านแน่ใจหรือว่าจะลอบโจมตีกองทัพหนานเยวี่ยของพวกเรา?”“หากเป็นเช่

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 618

    “ท่านแม่ทัพหู แผนนี้ยอดเยี่ยมจริง ๆ ออกจากประตูเมืองฝั่งเหนือแล้วอ้อมไปอีกหน่อย ก็ลอบโจมตีทัพหนานเยวี่ยได้เหมือนเดิม!”“ไป เร่งฝีเท้า!”ดังนั้น กองทหารของพวกเขาจึงเดินทางมายังใต้ประตูเมืองฝั่งเหนือแม่ทัพรักษาการณ์ที่นี่เห็นหูก่วงเซิงและพวก จึงไต่ถาม “ท่านแม่ทัพหู นี่พวกท่านจะทำการใด?”“ในเมืองผู้คนพลุกพล่านเกินไป พวกเราจะออกไปพักผ่อนนอกเมืองสักหน่อย วันพรุ่งพวกเราจะย้ายค่ายทหารไปตั้งไว้นอกเมืองฝั่งเหนือเช่นกัน เพื่อความสะดวกในการฝึกทหาร”เมื่อได้ยินดังนั้น ทหารรักษาการณ์ก็โบกมือให้คนเปิดประตูเมืองจะตำหนิว่าเขาประมาทเกินไปก็มิได้ ท้ายที่สุดแล้วนอกเมืองทางฝั่งเหนือยังมีทหารประจำการอยู่เป็นจำนวนมิน้อย ทหารที่เข้าออกประตูเมืองทางฝั่งเหนือจึงมีจำนวนมากเป็นทุนเดิมหลังจากที่ออกนอกเมืองได้อย่างราบรื่น หูก่วงเซิงจึงนำกองทัพทหารม้าพันนายมุ่งหน้าลงใต้!ขณะเดียวกันนอกประตูเมืองเจียวโจวทางฝั่งใต้ เงาร่างสิบกว่าร่างพุ่งออกมาจากป่าละเมาะห่างออกไปมิไกลนักพวกเขามีท่าทางคล่องแคล่ว เพียงชั่วพริบตาก็เข้าไปซุ่มซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้เตี้ย ๆ ฝั่งหนึ่งหลังจากที่สังเกตการณ์บนกำแพงเมืองอยู่ครู่หน

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 617

    “ท่านแม่ทัพหู กองทัพหนานเยวี่ยแตกพ่ายในวันนี้ บัดนี้คงอกสั่นขวัญแขวนกันอยู่เป็นแน่ หากพวกเรานำทัพไปลอบโจมตี อย่างไรก็ต้องสำเร็จ! ถึงเวลานั้นหากสำเร็จ ท่านแม่ทัพใหญ่จะเอาผิดพวกเราที่ยกทัพไปโดยพลการได้อย่างไร?”ชายร่างกำยำอีกด้านกล่าวสำทับ “รองแม่ทัพหลิวกล่าวได้ถูกต้อง ท่านแม่ทัพหู พวกเราอุตส่าห์บุกป่าฝ่าดงมาถึงเจียวโจวก็มิใช่อื่นใด นอกเสียจากเพื่อสร้างความดีความชอบให้มากยิ่งขึ้นพวกเราสร้างความดีความชอบในเจียวโจวมากเท่าไร พระเกียรติของท่านอ๋องฉู่ในราชสำนักก็จะยิ่งสูงส่งมากขึ้นเท่านั้น ทุกสิ่งที่พวกเราทำ ล้วนเพื่อท่านอ๋องฉู่ทั้งสิ้น!”“ถูกต้อง พวกเราคือคนของท่านอ๋องฉู่ ท่านแม่ทัพใหญ่ย่อมมิอาจตำหนิพวกเราที่ออกรบโดยพลการได้ ท่านแม่ทัพหู ท่านรีบตัดสินใจเถิด โอกาสมิคอยท่า เวลามิหวนคืน!”“ท่านแม่ทัพหู คนขององค์รัชทายาทออกนอกเมืองไปครึ่งชั่วยามแล้ว หากพวกเรามิรีบเร่งติดตามไป เกรงว่าน้ำแกงก็มิได้ซด อย่าหวังจะได้กินเนื้อเลยขอรับ!”ด้วยคำยุยงของเหล่าผู้ใต้บังคับบัญชา ดวงตาของหูก่วงเซิงก็ค่อย ๆ แน่วแน่ขึ้น!เขาพยักหน้าหนักแน่น กล่าวเสียงทุ้มต่ำ “สั่งให้เหล่าสหายทั้งหลายเตรียมตัวให้พร้อม อีกห

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 616

    หูก่วงเซิงยกไหสุราขึ้นกระดกไปหลายอึก และแค่นเสียง “หึ ศึกที่ได้ชัยชนะในวันนี้ หากมิใช่เพราะทหารม้าหุ้มเกราะของพวกข้าบุกตะลุยอยู่แนวหน้า มีหรือกองทัพหนานเยวี่ยจะถูกสังหารจนแตกพ่ายยับเยิน?ทว่าในงานเลี้ยงฉลองชัย ท่านแม่ทัพใหญ่กลับมิเอ่ยถึงความดีความชอบของพวกข้าแม้แต่คำเดียว เอาแต่ชื่นชมองค์รัชทายาทมิขาดปากข้าสงสัยนัก องค์รัชทายาทเพียงแต่นำอาวุธที่กรมโยธาธิการประดิษฐ์ขึ้นใหม่มาด้วยเท่านั้น มีสิ่งใดน่าสรรเสริญกัน?”รองแม่ทัพที่นั่งอยู่ข้างกายเขาขมวดคิ้ว กล่าว “ท่านแม่ทัพหู ท่านว่าเช่นนี้เห็นทีจะมิถูกกระมัง อาวุธเหล่านั้นล้วนเป็นสิ่งที่องค์รัชทายาททรงออกแบบ ศึกครานี้ชนะได้ ก็เป็นเพราะพระองค์”“ใช่แล้ว อีกอย่างที่ทหารม้าหุ้มเกราะของพวกท่านบุกตะลุยกองทัพหนานเยวี่ยได้ไร้ผู้ใดขัดขวาง ก็มิใช่เป็นเพราะมีอาวุธที่องค์รัชทายาททรงออกแบบให้การคุ้มครองหรอกหรือ มิเช่นนั้นกองทัพหนานเยวี่ยจะปล่อยให้พวกท่านบุกตะลุยในแนวรบโดยมิอาจโต้ตอบได้เลยด้วยเหตุใดเล่า?”หูก่วงเซิงเผยสีหน้าดูแคลน หัวเราะเยาะ “องค์รัชทายาทที่เอาแต่เสพสุขไปวัน ๆ ไฉนจึงออกแบบอาวุธร้ายกาจถึงเพียงนี้ได้? พวกเจ้าก็ช่างหูเบากันเสียจริง ใ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 615

    หลังจากที่ฟังเขาจนจบ ฉงชูโม่ขมวดคิ้วถาม “แผนการของท่านดีก็จริง ทว่าหากพวกมันมิมาในคืนนี้เล่า?”“คืนนี้พวกเราจัดงานเลี้ยงฉลองชัย พวกมันต้องปักใจเชื่อว่ากำลังป้องกันเมืองของพวกเราหย่อนยาน คืนนี้หากพวกมันมิลงมือ ภายหน้าคงไม่มีโอกาสดีเช่นนี้อีกแล้ว ดังนั้นคืนนี้พวกมันต้องลงมือเป็นแน่”“เช่นนั้นก็ได้ ทำตามที่ท่านว่าก็แล้วกันเพคะ!”ฉินซูพยักหน้าเล็กน้อย แล้วกล่าวต่อ “อีกอย่าง คืนนี้เจ้าจงส่งทหารสองกองไปซุ่มอยู่หลินสุ่ยและเซี่ยอ้าว เมื่อทัพใหญ่หนานเยวี่ยปรากฏกาย จงปล่อยให้พวกมันเข้ามา รอจนกระทั่งเสียงฆ่าฟันนอกเมืองดังขึ้นค่อยตลบหลังโจมตีกองทัพหนานเยวี่ย จากนั้นจึงเข้าตีกระหนาบหน้าหลัง กวาดล้างพวกมันในคราเดียว!”ฉงชูโม่ถามอย่างตกตะลึง “ท่านคิดว่าคืนนี้พวกหนานเยวี่ยจะบุกโจมตีด้วยทัพใหญ่หรือเพคะ?”“พูดได้แต่เพียงมีความเป็นไปได้สูงนัก”“หม่อมฉันว่ามีความเป็นไปได้น้อย เนื่องจากเติ้งหม่างเพิ่งประสบความพ่ายแพ้ในวันนี้ ซ้ำร้ายทหารใต้บัญชาของเขายังหวาดหวั่นเกรงกลัวธนูทดกำลังและระเบิดสายฟ้าของพวกเราจนหัวหด หากยังมิล่วงรู้ว่าพวกเรามีธนูทดกำลังและระเบิดสายฟ้าเหลืออยู่มากน้อยเพียงใด พวกมันคงมิกล้าผล

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 614

    ฉินซูหัวเราะแห้ง ๆ แล้วกล่าวติดตลก “ข้าแค่กังวลว่าเจ้าจะหึงหวงข้า”ฉงชูโม่ถ่มน้ำลาย “ถุย ใครจะหึงท่านกัน อย่าได้หลงตัวเองไปหน่อยเลย!”“อะแฮ่ม ๆ เรื่องนั้นช่างมันเถิด ที่จริงข้ามีธุระสำคัญ...”ฉงชูโม่ขัดขึ้นมาเสียก่อน “มีกระไรก็รีบว่ามา อย่ามัวอ้อมค้อม”ฉินซูปรับสีหน้าให้เคร่งขรึม แล้วเอ่ยถาม “วันนี้ที่พวกเรามีชัยเหนือแคว้นหนานเยวี่ย ในความเห็นของเจ้า พวกมันจะทำอย่างไรต่อไป?”“ชัยชนะในวันนี้ ต้องยกความดีความชอบให้กับพลานุภาพของธนูทดกำลังและระเบิดสายฟ้า กองทัพหนานเยวี่ยประสบความพ่ายแพ้ย่อยยับถึงเพียงนี้ หากหม่อมฉันเป็นเติ้งหม่าง คงต้องหาทางนำอาวุธทั้งสองชนิดนี้ไปให้ได้!”เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉินซูจึงอดมิได้ที่จะมองนางด้วยสายตาชื่นชมสมแล้วที่ฉงชูโม่เป็นแม่ทัพขั้นหนึ่งที่มากล้นด้วยสติปัญญาและความกล้าหาญ สามารถเดาใจศัตรูได้ล่วงหน้าเช่นนี้“เมื่อรู้ถึงเจตนาของเติ้งหม่างผู้นั้นแล้ว เราควรจะลองมาล่อเสือออกจากถ้ำดูสักครา”“ตรัสเช่นนี้ แสดงว่าท่านทรงคิดแผนการรับมือไว้แล้วหรือ?”ฉงชูโม่เอี้ยวศีรษะมองฉินซู ดวงตาคู่งามกระจ่างใสนั้นเต็มไปด้วยความประหลาดใจหางตาฉินซูเหลือบมองอ่างอาบน้ำโดยม

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status