Share

บทที่ 312

Author: ใบไม้ร่วงในเมืองร้าง
last update Last Updated: 2024-11-13 18:53:34
ฉินซูจึงยื่นมือไปดึงเข็มเงินออกด้วยท่าทีราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น “พูดมาสิ”

ทันทีที่เข็มเงินถูกดึงออก ความเจ็บและคันบนร่างฉินเซียวก็หายไปทันที

เขาหอบหายใจหนัก ใบหน้าซีดเซียว หน้าผากชุ่มไปด้วยเหงื่อเย็น

เมื่อได้สติ เขาจึงพูดขึ้นว่า “กู้ตงเฟิงมีถ้ำอยู่ที่เขาจิ่งซาน พวกเจ้าอาจจะพบเขาที่นั่น”

“ดีมาก หากมิเจอเขา ข้าจะกลับมาอีก”

ฉินซูพูดจบก็หันหลังเดินจากไป

กู้เสวี่ยเจี้ยนมองฉินเซียวครู่หนึ่ง ก่อนจะหมุนตัวตามไป

ฉินเซียวหอบหายใจสองสามครั้ง สายตามองตามหลังฉินซูไปด้วยความอาฆาต

......

นอกคุกหลวง

กู้เสวี่ยเจี้ยนตามฉินซูทัน “องค์รัชทายาท ท่านจะไปเขาจิ่งซานเพื่อตามหากู้ตงเฟิงหรือ?”

“แล้วจะให้ทำอย่างไรเล่า?”

“กู้ตงเฟิงมีฝีมือแข็งแกร่ง แม้ว่าเขาจะบาดเจ็บสาหัส แต่ก็มิใช่คู่ต่อสู้ที่ท่านจะรับมือได้ ไหนจะยังมีพวกพ้องของเขาอีก การที่ท่านไปโดยมิคิดให้รอบคอบ มิเท่ากับเอาชีวิตไปทิ้งหรือ?”

ฉินซูหรี่ตาลงเล็กน้อย ถามอย่างสนใจยิ่งว่า “มิเช่นนั้นเจ้าตามข้าไปด้วยดีหรือไม่?”

“ท่านมิจำเป็นต้องไป อีกประเดี๋ยวหม่อมฉันจะไปรายงานให้อาจารย์ทราบ แล้วจะนำคนจากสำนักหอดูดาวหลวงไปด้วยเพคะ”

ทันใดนั้นฉินซูก็ถามขึ้
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 313

    เหลยเจิ้นคำนับ แล้วหันหลังเดินออกไปฉินอู๋ต้าวจึงสั่งกับเฉาฉุนว่า “ไป เรียกอู๋เชวียมาที่นี่”“รับพระราชบัญชา!”เฉาฉุนรีบก้าวออกไปอย่างรวดเร็วประมาณหนึ่งเค่อให้หลัง ชายคนหนึ่งในชุดเกราะทองคำก็มาถึงห้องทรงพระอักษรบุรุษผู้นี้คิ้วหนา ตากลมโต หุ่นกำยำแข็งแรง ใบหน้าดูเคร่งขรึม!เขาคือหัวหน้าราชองครักษ์ เย่อู๋เชวีย!เมื่อเขาเข้ามาในห้องทรงพระอักษรหลวงแล้ว ก็คุกเข่าลงข้างหนึ่ง“อู๋เชวียถวายบังคมฝ่าบาท!”ฉินอู๋ต้าวโบกมือ กล่าวว่า “ลุกขึ้นเถิด”“ขอบพระทัยฝ่าบาท!”เมื่อเย่อู๋เชวียยืนขึ้น ก็ถามอย่างตรงไปตรงมา “ฝ่าบาททรงเรียกข้าน้อยมา มิทราบว่าด้วยเหตุอันใดหรือพ่ะย่ะค่ะ?”ฉินอู๋ต้าวถามอย่างมิแยแสว่า “เรื่องเมื่อห้าปีก่อน นอกจากจื่อซวนที่ตายไปแล้ว ก็ไม่มีใครล่วงรู้รายละเอียดเรื่องภายในตอนนั้นแล้ว ใช่หรือไม่?”ใบหน้าเย่อู๋เชวียเปลี่ยนเล็กน้อย มองไปรอบ ๆ เมื่อแน่ใจว่าไม่มีผู้ใดอยู่ใกล้ จึงตอบเสียงเบาว่า “พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท เรื่องนั้นในยามนี้นอกจากฝ่าบาทและข้าน้อยแล้ว ก็ไม่มีผู้ใดล่วงรู้เรื่องนี้อีกแล้วพ่ะย่ะค่ะ”“เจ้า จะมิทรยศข้าใช่หรือไม่?” ฉินอู๋ต้าวจ้องมองเย่อู๋เชวียอีกฝ่ายพลันวิตกกั

    Last Updated : 2024-11-14
  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 314

    “เวลามิเคยคอยผู้ใด หากมัวรอให้อาจารย์ของเจ้าพาคนมา จะมิสายเกินไปหรือไร”พูดจบ ฉินซูก็สะบัดแส้ควบม้าตรงขึ้นเขาไปกู้เสวี่ยเจี้ยนขมวดคิ้ว ดวงตาแสดงออกถึงความต่อต้านเล็กน้อยอย่างไรก็มาถึงขั้นนี้แล้ว นางจึงทำได้เพียงกัดฟันฝืนตามไปเท่านั้นทางขึ้นภูเขาเป็นทางคดเคี้ยวแคบ ๆ มีไม้พุ่ม และป่าไม้อยู่สองข้างทางบางครั้งก็ได้ยินเสียงกรอบแกรบดังออกมาจากภายในป่าเป็นระยะ ๆเมื่อได้ยินเสียงเหล่านั้น กู้เสวี่ยเจี้ยนจึงกำด้ามกระบี่ของตนแน่นตามสัญชาตญาณ ดวงตาจับจ้องไปมาในพุ่มไม้ทั้งสองข้างอย่างตื่นตัวยิ่งไปกว่านั้น ใบหน้างดงามของนางยังซีดเล็กน้อย เหงื่อเย็นเริ่มซึมออกมาบนหน้าผากแล้วฉินซูเห็นท่าทีแปลก ๆ ของนาง จึงถามอย่างสงสัยว่า “กู้เสวี่ยเจี้ยน เจ้าตื่นเต้นหาปะไร?”“ตื่นเต้นที่ไหนกันเล่าเพคะ!”แม้กู้เสวี่ยเจี้ยนจะมิอยากยอมรับ แต่มิว่าจะเป็นสีหน้าเครียด ๆ หรือมือที่กำด้ามกระบี่แน่นของนางก็เผยความลับนั้นออกมาอย่างลึกซึ้งฉินซูดูเหมือนจะนึกอะไรออก เขายิ้มที่มุมปากเล็กน้อย“มิใช่ว่าเจ้าเป็นโรคกลัวรูหรอกใช่หรือไม่?”กู้เสวี่ยเจี้ยนอึ้งไป ก่อนถามอย่างสงสัย “โรคกลัวรูคืออะไร?”“ก็เวลาที่เจ้าเห

    Last Updated : 2024-11-14
  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 315

    เห็นดังนั้น กู้เสวี่ยเจี้ยนจึงกล่าวด้วยใบหน้าเคร่งขรึมว่า “เป็นไปได้ ท่านรออยู่ที่นี่ หม่อมฉันจะเข้าไปดูเอง”พูดจบ นางก็ใช้วิชาตัวเบา กระโดดมิกี่ครั้งก็ลงมาถึงหน้าปากถ้ำอย่างมั่นคงนางชำเลืองมองเข้าไปในถ้ำ มือข้างหนึ่งจับกระบี่ ส่วนอีกข้างถือพับไฟ ค่อย ๆ เดินเข้าไปภายใต้แสงไฟสลัวของพับไฟ กู้เสวี่ยเจี้ยนเห็นตะเกียงน้ำมันที่ติดอยู่บนผนังตรงมุมปากทางเข้าเมื่อจุดตะเกียงน้ำมันแล้ว ภายในถ้ำก็สว่างขึ้นในทันที“ถึงขนาดมีตะเกียงน้ำมันด้วย ดูท่าว่าที่นี่คงเป็น…”เสียงที่ดังขึ้นกะทันหันทำให้กู้เสวี่ยเจี้ยนตกใจสะดุ้งนางหันไปมองก็พลันตีอกตัวเองและตำหนิว่า “ท่านคิดจะทำให้หม่อมฉันตกใจตายหรืออย่างไร? มาถึงแล้วก็มิบอกกันสักคำ”ฉินซูถามอย่างตกตะลึง “มิใช่อย่างนั้น ข้าปีนมาเสียงดังขนาดนี้ เจ้ามิได้ยินหรือ?”“เมื่อกี้ท่านปีนขึ้นมาจริง ๆ หรือ?” กู้เสวี่ยเจี้ยนเบิกตากว้างด้วยความมิเชื่อ“มิเช่นนั้นข้าจะทำอย่างไรเล่า ข้าไม่มีวรยุทธ์ ทำได้เพียงต้องปีนขึ้นมา”พูดจบ ฉินซูก็กวาดสายตามองรอบ ๆ ถ้ำมินานหลังจากนั้น เขาก็ขมวดคิ้วขึ้นเนื่องจากภายในถ้ำนี้มีเพียงกำแพงหินขรุขระ นอกจากปากทางเข้าก็ไม่มีเ

    Last Updated : 2024-11-14
  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 316

    กู้เสวี่ยเจี้ยนก้มหน้าลงมองบาดแผลโดยมิรู้ตัว รู้สึกหน้ามืดเวียนศีรษะ จากนั้นก็เอนตัวล้มลงไปข้างหลังอย่างมิสามารถควบคุมได้ฉินซูก้าวพรวดเดียวเข้าไปโอบประคองนางไว้ แล้วอุ้มนางไปยังเตียงหินที่มุมห้องนี่เป็นครั้งแรกที่กู้เสวี่ยเจี้ยนถูกบุรุษอุ้มไว่เช่นนี้ แก้มของนางจึงขึ้นสีแดงระเรื่อด้วยความเขินอายนางพยายามดิ้นและกล่าวอย่างขุ่นเคืองว่า “ฉินซู ท่านคิดจะทำอะไร ปล่อยหม่อมฉันลงเดี๋ยวนี้”ฉินซูวางนางลงบนเตียงหิน กล่าวด้วยสีหน้าขึงขังว่า “ข้าจะช่วยดึงลูกธนูออกให้ เจ้าต้องอดทนหน่อย”“มิ… มิต้อง หม่อมฉันทำเองได้”กู้เสวี่ยเจี้ยนพูด พลางพยายามจะยกมือขึ้น แต่ในยามนั้น นางก็ต้องตกใจเมื่อค้นพบว่า ตนมิเหลือเรี่ยวแรงแม้แต่จะยกมือ ร่างทั้งร่างอ่อนเปลี้ยไร้เรี่ยวแรงฉินซูเห็นดังนั้นก็บ่นอย่างมิสบอารมณ์ “ในยามคับขันเช่นนี้แล้วยังจะมาห่วงเรื่องชายหญิงมิสมควรใกล้ชิดกันอะไรกันอยู่ได้ หากมิรีบถอนพิษออกอีก ชีวิตเจ้าจะรักษาไว้มิได้แล้ว”กู้เสวี่ยเจี้ยนรู้ในข้อนี้ดี จึงจำต้องพยักหน้า “เช่นนั้นท่านก็ทำเถิด แต่อย่าได้คิดล่วงเกินหม่อมฉัน มิเช่นนั้น หม่อมฉันจะตัดมือท่านแน่!”ฉินซูชำเลืองมองนาง แต่ก็มิได

    Last Updated : 2024-11-14
  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 317

    หลังจากดูดพิษซ้ำไปหลายครั้ง สีดำม่วงรอบบาดแผลของกู้เสวี่ยเจี้ยนก็จางลงมากกู้เสวี่ยเจี้ยนในยามนี้อ่อนเปลี้ยเพลียแรงไปทั้งตัว ใบหน้าน่ารักขึ้นสีแดงระเรื่อราวกับผลแอปเปิลสุกเมื่อเห็นฉินซูมิสนอันตราย ช่วยดูดพิษให้นาง กู้เสวี่ยเจี้ยนก็รู้สึกซาบซึ้งขึ้นมา สายตาที่มองไปยังฉินซูก็เริ่มมีความหมายคลุมเครือขึ้นนางยกมือขึ้นโดยมิรู้ตัวและกดศีรษะของฉินซูไว้ มิให้ริมปากเขาปล่อยออกจากร่างของนางฉินซูขมวดคิ้ว พยายามจะดันมือนางออกในตอนนั้นเองมีเสียงหญิงสาวตะโกนขึ้นจากข้างหลัง!“ฉินซู กู้เสวี่ยเจี้ยน พวกท่านช่างหน้ามิอายเสียจริง!”เมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคยนี้ ฉินซูก็รู้สึกตกใจ พลันกลืนพิษลงไปโดยมิทันระวัง“แค่กแค่กแค่ก… อั่ก...”เขารีบผละตัวออกจากการกดยึดของกู้เสวี่ยเจี้ยน และก้มตัวลงอาเจียนอย่างรุนแรงแต่พิษที่กลืนลงไปแล้วก็มิสามารถอาเจียนออกมาได้กู้เสวี่ยเจี้ยนเห็นฉงชูโม่ จึงรีบอธิบายว่า “ชูโม่ เจ้าเข้าใจผิดแล้ว ข้าถูกธนูอาบพิษยิงเข้า องค์รัชทายาทกำลังช่วยดูดพิษให้ข้าก็เท่านั้น”ฉงชูโม่มองไปเห็นลูกธนูเปื้อนเลือดตกอยู่ข้าง ๆ อีกทั้งยังเห็นว่าบาดแผลที่หัวไหล่ของกู้เสวี่ยเจี้ยนซึ่งยั

    Last Updated : 2024-11-15
  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 318

    ในตอนนี้ กู้เสวี่ยเจี้ยนก็ฟื้นตัวกลับมาแล้ว แรงกำลังของนางก็กลับมาได้มากนางเดินมายังข้างกายฉินซู ยื่นมือออกมาแล้วกล่าวว่า “องค์รัชทายาท เดรัจฉานวิชาเช่นนี้ มอบให้อาจารย์ของหม่อมฉันจัดการเถิด”“ในเมื่อมันเป็นเดรัจฉานวิชา ก็ทำลายไปเสียเถอะ จะเก็บไว้หาปะไร” ฉินซูกล่าวจบก็ฉีกตำราลับเล่มนั้นทิ้งทันทีเมื่อเห็นดังนั้น กู้เสวี่ยเจี้ยนขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ก็มิได้กล่าวอะไรฉงชูโม่จึงพูดขึ้นว่า “ในเมื่อกู้ตงเฟิงมิอยู่ที่นี่ พวกเราก็ลงไปจากภูเขากันเถิด”ฉินซูพยักหน้าเล็กน้อย หันไปถามกู้เสวี่ยเจี้ยนว่า “เจ้าเดินเองได้หรือไม่?”“หม่อมฉันก็แค่บาดเจ็บที่หัวไหล่เท่านั้น มิใช่เจ็บที่ขาหรือเท้า แน่นอนว่าย่อมเดินเองได้”“เช่นนั้นก็ไปกันได้แล้ว ชูโม่ เจ้าช่วยดูแลนางด้วย”ฉินซูกล่าวจบก็เดินไปที่ปากถ้ำเมื่อใกล้ถึงปากถ้ำ ฉินซูสังเกตเห็นว่าที่มุมหนึ่งมีปากถ้ำเล็ก ๆ อีกแห่งหนึ่งเขาเดินเข้าไปดูให้เต็มสองตา พบว่าภายในถ้ำนั้นมืดมิดมากฉงชูโม่เดินตามมา แล้วนำพับไฟออกมาพวกเขาจึงเห็นว่าในถ้ำนี้มีหลุมขนาดกลางอยู่หลุมหนึ่งในหลุมนั้นเต็มไปด้วยโครงกระดูกฉินซูนับคร่าว ๆ พบว่ามีโครงกระดูกอยู่มิต่ำกว่า

    Last Updated : 2024-11-15
  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 319

    ฉินเหยี่ยนนั่งอยู่บนเก้าอี้ในโถงใหญ่ด้วยสีหน้าหม่นหมองเช้าวันนี้ เขาเพิ่งได้ยินข่าวว่าฉินเซียวถูกถอดกวานอ๋องออกจากหัวเมื่อทราบข่าวนี้ ใจของเขารู้สึกโล่งใจอย่างมากแต่จนอาทิตย์เกือบจะลับขอบฟ้าแล้ว กลับยังไม่มีข่าวว่าฉินเซียวจะลูกลงโทษแต่อย่างใดทำให้ใจเขาเริ่มกระวนกระวายขึ้นมาในตอนนั้น ซุนฉีเข้ามาพอดีฉินเหยี่ยนถามทันทีโดยมิรอให้ซุนฉีทำความเคารพ “เป็นอย่างไรบ้าง มีข่าวจากในวังหรือไม่?”ซุนฉีส่ายหน้าเล็กน้อย “ไม่มีข่าวเลยพ่ะย่ะค่ะ ดูท่าวันนี้ฝ่าบาทคงมิทรงคิดจะลงโทษอ๋องหนิงแล้ว”ได้ยินดังนั้น ฉินเหยี่ยนจึงทุบมือลงบนโต๊ะน้ำชา สีหน้าเต็มไปด้วยโทสะ“ฉินเซียวเจ้าคนชั่วนั่นคบคิดกับเหล่าโจรชั่วชื่อกระฉ่อนยุทธภพ ถึงขนาดให้มาอาศัยในจวนของอ๋องหนิง ถูกจับได้คาหนังคาเขาขนาดนี้ แต่เสด็จพ่อกลับยังเข้าข้างฉินเซียวอีก นี่ทำให้ข้าโกรธนัก!”พูดจบ เขาคว้าถ้วยชาบนโต๊ะแล้วปาทิ้งลงพื้นอย่างแรงเสียง "เพล้ง" ดังขึ้น ถ้วยชาถูกทุบจนแตกละเอียดซุนฉีรีบปลอบใจว่า “ท่านอ๋องโปรดระงับโทสะ ฝ่าบาทอาจจะยุ่งมากจนไม่มีเวลาจัดการอ๋องหนิงก็เป็นได้พ่ะย่ะค่ะ”“หึ วันนี้มิได้มีราชกิจ เสด็จพ่อจะยุ่งเรื่องอันใดกัน

    Last Updated : 2024-11-15
  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 320

    เซียวเหอตอบว่า "กราบทูลฝ่าบาท ขณะนี้พวกเขายังคงรออยู่หน้ากรมสอบสวน สถานการณ์ของราษฎรอยู่ในสภาวะวิกฤตแล้วพ่ะย่ะค่ะ"หวังฉือจึงกราบทูลว่า "ฝ่าบาท กรณีของอ๋องหนิง หลักฐานแน่นหนา หากพระองค์มิทรงจัดการอย่างยุติธรรม เกรงว่ากฎหมายของบ้านเมืองก็จะกลายเป็นที่ขบขำของใต้หล้า ขอฝ่าบาทโปรดทรงนึกถึงภาพรวมด้วยพ่ะย่ะค่ะ"เนี่ยหงก็กล่าวเสริมว่า "ใช่แล้วพ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท ขณะนี้เรื่องราวลุกลามใหญ่โต หากปล่อยให้เงียบหาย กฎหมายบ้านเมืองจะกลายเป็นที่หัวเราะเยาะของราษฎร ขอฝ่าบาทโปรดทรงนึกถึงภาพรวมด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ"เมื่อเห็นว่าทั้งหัวหน้าศาลต้าหลี่และผู้ตรวจการฝ่ายซ้ายได้ออกปากแล้ว ฉินหยางก็เหลือบมองหยางลี่อย่างเงียบ ๆหยางลี่เข้าใจในทันที ก้าวขึ้นมาแล้วกล่าวว่า "ฝ่าบาท คำพูดของใต้เท้าหวังและใต้เท้าเนี่ยมิใช่เรื่องเกินจริง อ๋องหนิงสมคบคิดกับโจรชั่วจากยุทธภพลักพาตัวเหล่าสตรี หากมิลงโทษอย่างเหมาะสม เกียรติยศของราชสำนักย่อมเสื่อมเสีย และหากมีผู้มิหวังดีนำไปใช้เป็นประโยชน์ อาจเกิดผลลัพธ์ที่ร้ายแรง ข้าน้อยขอร้องฝ่าบาททรงพิจารณาดำเนินการอย่างเหมาะสม"เหล่าขุนนางที่เหลือต่างก็ร่วมสนับสนุนด้วยเช่นกันฉินอู๋ต้าวท

    Last Updated : 2024-11-15

Latest chapter

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 490

    ฉินอู๋ต้าวยังมิทันได้แสดงท่าที หวังฉือก็โต้แย้งขึ้นมาทันควัน “ข้าน้อยมิเข้าใจคำพูดของอ๋องซิ่น ยามนี้ยังไม่มีหลักฐานที่แสดงว่าเป็นฝีมือขององค์รัชทายาทเลย แล้วเหตุใดท่านจึงต้องให้องค์จักรพรรดิทรงพิจารณาให้รอบคอบด้วยหรือ?”“นั่นสิ เป่ยเยี่ยนเดิมทีก็มีความตั้งใจจะล่วงล้ำพรมแดนของราชวงศ์ต้าเหยียนมาตลอด ยามนี้ยังมิได้มีการระดมทัพเลย แต่ท่านอ๋องซิ่นกลับกลัวแล้ว หากวันหนึ่งเป่นเยี่ยนระดมทัพขึ้นมาจริง ๆ ท่านจะมิสนับสนุนให้องค์จักรพรรดิแบ่งดินแดนให้เลยหรือพ่ะย่ะค่ะ?”ฉินหยางถูกหวังฉือและเนี่ยหงโต้กลับจนหน้าซีดในที่สุดบัดนี้เขาก็เข้าใจแล้วว่า หวังฉือและเนี่ยหง ทั้งสองเป็นขุนนางระดับสองที่กลายเป็นคนของฉินซูไปแล้วเขาเกิดความสงสัย ฉินซูเป็นองค์รัชทายาทผู้รอวันถูกปลด เขามีดีอะไรที่ทำให้ทั้งสองคนนั้นยอมรับเขาเป็นผู้นำ?แต่เมื่อเผชิญกับคำซักถามอย่างเข้มงวดของหวังฉือและเนี่ยหง เขาก็มิอาจอุบเงียบเอาไว้ได้ จึงแค่นเสียงเย็นชา"หึ! ข้าในฐานะจวิ้นอ๋องแห่งราชวงศ์ต้าเหยียน ต่อให้วันข้างหน้าสงครามปะทุขึ้นอีกครั้ง ก็ย่อมไม่มีทางให้เสด็จพ่อยอมสละดินแดนเพื่อขอสันติภาพ เพียงแต่ยามนี้ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเร

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 489

    ข่าวที่ว่าฉินซูได้สังหารบุตรแห่งนักปราชญ์ของหอดารารักษ์นั้นแพร่กระจายราวกับไฟป่า ก่อให้เกิดความปั่นป่วนทั้งในและนอกเมืองหลงเฉิงผู้คนต่างพูดถึงเรื่องนี้ทุกมื้อหลังอาหารบางคนยกย่องฉินซูว่าเขาทำให้ต้าเหยียนมีเกียรติบางคนถึงกับแอบส่ายหัว แม้ว่าฉินซูจะเป็นรัชทายาท ทว่าการสังหารบุตรแห่งนักปราชญ์ของหอดารารักษ์โดยไร้เหตุผลนั้นคงมิเป็นที่ยอมรับของราชสำนักเป่ยเยี่ยนและหอดารารักษ์ จากนี้ไปฉินซูองค์รัชทายาทผู้นี้อาจไม่มีวันมีชีวิตที่สงบสุขอีกต่อไปคนที่รู้สึกประหลาดใจที่สุดคงเป็นมู่หรงจื่อเยียนหลังจากที่ได้ยินข่าวนี้ ใจนางก็เกิดความสงสัยว่า คนที่ฆ่าหนานกงจื่อชินคือฉินซูจริง ๆ หรือ?แต่ฉินซูเก่งแค่วิชาตัวเบาเท่านั้น แล้วเขาจะสังหารหนานกงจื่อชินได้อย่างไร?ทว่าเมื่อนึกถึงเมื่อยามหลังจากที่ออกมาจากดินแดนแห่งความฝันนั้น ฉินซูเอาชนะอันธพาลเหล่านั้นได้ในพริบตา นางก็ตระหนักว่าความแข็งแกร่งของฉินซูนั้นมิธรรมดาเมื่อคิดถึงตรงนี้ นางก็รีบสงบสติอารมณ์ และบังคับให้ตัวเองใจเย็นลงหากมู่หรงฟู่รู้ว่าฉินซูมีฝีมือที่เหนือชั้นเช่นนี้ สถานการณ์ของฉินซูคงจะอันตรายอย่างมากต่อมา มู่หรงจื่อเยียนเลือกที่จะ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 488

    ฉินหงมองเนื้อหาในจดหมายเพียงครู่เดียว สีหน้าก็พลันเปลี่ยนไป!เขากล่าวเสียงทุ้มหนัก "เตรียมเกี้ยว ข้าจะไปจวนอ๋องซิ่น แล้วก็แจ้งให้ใต้เท้าหลินและใต้เท้าเซี่ยมาประชุมที่จวนอ๋องซิ่นด้วย!""พ่ะย่ะค่ะ!"สองเค่อต่อมาฉินหงพร้อมด้วยหลินซีและคนอื่น ๆ ก็มารวมตัวกันที่จวนอ๋องซิ่นฉินหยางถามอย่างสงสัย "น้องสี่ ดึกป่านนี้พวกเจ้ายังมากัน มีข่าวดีอะไรจากทางคูมู่หรือ?""ยังติดต่อคูมู่มิได้ แต่เสด็จพี่สาม พวกท่านลองดูนี่ก่อน"ฉินหงพูดพลางวางจดหมายฉบับนั้นลงบนโต๊ะฉินหยาง หลินซีและคนอื่น ๆ เข้ามาอ่านข้อความบนจดหมายโดยพร้อมเพรียงหลังจากได้อ่านแล้ว เซี่ยเหอก็เอ่ยขึ้นอย่างตกใจ "ว่ากระไรนะ? ฉินซูสังหารศิษย์เอกของหอดารารักษ์?!"ฉินหยางถามด้วยสีหน้าฉงน "น้องสี่ แน่ใจหรือว่าข่าวนี้เป็นความจริง?""น่าจะมิใช่เรื่องเท็จ ศิษย์เอกของหอดารารักษ์มีฐานะสูงส่งในแคว้นเป่ยเยี่ยน ผู้ใดจะกล้าพูดเล่นเกี่ยวกับเรื่องนี้""แต่ศิษย์เอกอย่างหนานกงจื่อชินมีพลังแข็งแกร่งนัก องค์รัชทายาทจะสังหารเขาได้อย่างไร?"หลินซีเองก็กล่าวเสริมขึ้นเช่นกัน "ใช่แล้ว แม้กู้เสวี่ยเจี้ยนแห่งสำนักหอดูดาวหลวงจะติดตามองค์รัชทายาทไปทางเหนือด้วยแต่ด้ว

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 487

    นางพูดด้วยเสียงสะอื้นพร้อมถามกลับว่า "เสด็จพี่หมายความว่าอย่างไร? หรือท่านคิดว่าหม่อมฉันเป็นคนฆ่าพี่จื่อชินเช่นนั้นหรือ?"ซือคงเหยียนรีบพูดขึ้น "องค์ชาย ท่านหญิงจื่อเยียนมีใจรักใคร่กับจื่อชิน นางจะทำเรื่องเช่นนั้นได้อย่างไร? การตายของจื่อชินถือเป็นการกระทบกระเทือนใจอย่างใหญ่หลวงต่อนาง โปรดอย่าได้สงสัยในตัวนางเลยพ่ะย่ะค่ะ"มู่หรงฟู่ครุ่นคิดแล้วเห็นด้วย จากนั้นก็สงบอารมณ์ลงเขาพูดอย่างจริงจัง "จื่อเยียน ข้าหาได้มีเจตนาสงสัยเจ้าไม่ แต่เจ้าต้องบอกความจริงเกี่ยวกับการตายของจื่อชิน มิเช่นนั้นพวกเราจะล้างแค้นให้เขาได้อย่างไร?"“หม่อมฉันมิรู้จริง ๆ เดิมทีพี่จื่อชินได้ขวางเส้นทางของฉินซูไว้ในป่า หม่อมฉันกังวลว่า คนของฉินซูจะรู้เรื่องนี้เข้า จึงขอร้องพี่จื่อชินว่าอย่าทำอะไรวู่วาม สุดท้ายเขาก็ฟาดข้าจนหมดสติไปพอฟื้นขึ้นมาอีกที ก็พบว่าตัวเองอยู่ที่ใต้หน้าผา หม่อมฉันปีนขึ้นมาอย่างยากลำบากแล้วหาม้าตัวหนึ่งขี่กลับมา ส่วนเรื่องอื่นหม่อมฉันมิรู้จริง ๆ”หลังจากฟังคำพูดของมู่หรงจื่อเยียนแล้ว สีหน้าของมู่หรงฟู่และซือคงเหยียนก็ยิ่งเคร่งเครียดมากขึ้นผ่านไปครู่หนึ่ง มู่หรงฟู่ก็เอ่ยขึ้นเสียงหนักอึ้ง "

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 486

    มู่หรงจื่อเยียนตกตะลึง ก่อนถามด้วยสีหน้าประหลาดใจ "เสด็จพี่ พี่จื่อชินเขายังมิได้กลับมาหรอกหรือ?"“ไม่ เกิดเรื่องอันใดขึ้น? พวกเจ้ามิได้กลับมาด้วยกันหรอกหรือ?”“เป็นไปมิได้ หากพูดตามเหตุผล เขาควรจะกลับมาเร็วกว่าหม่อมฉันสิ หรือว่าระหว่างจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นจึงทำให้เขากลับมาล่าช้า?”มู่หรงจื่อเยียนครุ่นคิดในใจ ตนและฉินซูติดอยู่ในดินแดนแห่งความฝันนานขนาดนั้น หนานกงจื่อชินก็น่าจะกลับมาตั้งนานแล้วถึงจะถูกหรือว่า เขาจะยังตามหาตนอยู่ที่บริเวณขอบผานั่น?มู่หรงฟู่มองไปรอบ ๆ แล้วพูดว่า "ที่นี่เต็มไปด้วยสายลับ เข้าไปคุยข้างในดีกว่า"มู่หรงจื่อเยียนพยักหน้าเห็นด้วย และเดินตามมู่หรงฟู่เข้าไปข้างในทันทีที่นางนั่งลง มู่หรงฟู่ก็ถามขึ้นด้วยความร้อนใจ "เป็นอย่างไรบ้าง? ทำสำเร็จหรือไม่? ฉินซูถูกกำจัดเรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่?"มู่หรงจื่อเยียนลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนตอบว่า "มิสำเร็จ ตอนที่พี่จื่อชินกำลังจะลงมือก็มีกลุ่มปีศาจภูเขาเข้ามาก่อกวน ต่อมา… หม่อมฉันก็พลัดหลงกับเขา ส่วนเรื่องหลังจากนั้น หม่อมฉันก็มิรู้แล้ว”มู่หรงฟู่ขมวดคิ้วรู้สึกว่า คำพูดของมู่หรงจื่อเยียนดูมิค่อยสมเหตุสมผลกันเขาขมวดคิ้วแ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 485

    ส่วนครอบครัวและคนสนิทของทั่วป๋าชื่อทั้งหมดถูกตวนมู่สั่งคนไปจัดการประหารจนหมดสิ้นแล้วอีกทั้งตวนมู่ยังได้แต่งตั้งคนสนิทของตนขึ้นมาควบคุมกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ ภายในชนเผ่าฉินซูพยักหน้าอย่างเงียบ ๆ ตวนมู่ทำงานอย่างเฉียบขาด รวดเร็ว สามารถรวบรวมกำลังอำนาจของตนได้ภายในเวลาอันสั้นเพียงนี้ อีกทั้งยังกล้าหาญ นับว่าเป็นบุคคลที่ทำการใหญ่ได้ทันใดนั้น เขาก็นึกอะไรบางอย่างได้ จึงถามอย่างสงสัย "ตวนมู่ ชนเผ่าโครยอของเจ้ามีทหารเพียงสองหมื่นนายเท่านั้น แต่ทั่วป๋าชื่อเอาความกล้าจากที่ใดมาคิดสังหารข้ากัน"“องค์รัชทายาท ก่อนที่ท่านจะเสด็จมา ทั่วป๋าชื่อได้รับจดหมายจากผู้สูงศักดิ์ท่านหนึ่ง ในนั้นมีการสัญญาว่า ขอเพียงทั่วป๋าชื่อสามารถกำจัดองค์รัชทายาทได้ วันหน้าเมื่อผู้สูงศักดิ์ท่านนั้นได้ขึ้นครองบัลลังก์ เขาจะมอบเมืองให้ชนเผ่าโครยอของเราสองสามเมืองเพื่อฟื้นฟูชนเผ่าพ่ะย่ะค่ะ”“ผู้สูงศักดิ์? คือผู้ใด?”“เรื่องนี้ ทั่วป๋าชื่อมิได้บอกอย่างชัดเจน เขาบอกเพียงว่าเป็นหนึ่งในพระโอรสขององค์จักรพรรดิ อ้อ ใช่แล้ว จดหมายฉบับนั้นน่าจะอยู่ในห้องตำราของทั่วป๋าชื่อ ข้าน้อยจะไปค้นหามาให้พ่ะย่ะค่ะ”หลังจากที่ตวนมู่พูดจ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 484

    ฉินซูโบกมือแล้วตะโกนสั่งกับทหารผู้นั้น "ไป นำตัวตวนมู่หาให้ข้า!"“รับพระบัญชา!”ทหารผู้นั้นรับคำอย่างนอบน้อมแล้วนำคนอีกสองคนเดินอย่างรวดเร็วไปยังคุกเพียงชั่วครู่ ตวนมู่ก็ถูกนำตัวมาในตอนนี้ เขาถูกใส่โซ่ตรวนที่มือและเท้า ดูคล้ายกับนักโทษอย่างไรอย่างนั้นฉินซูเลิกคิ้ว พลันถามว่า "ตวนมู่ ข้าได้ยินมาว่า ทั่วป๋าชื่อสั่งให้เจ้าฆ่าข้า มีเรื่องเช่นนี้จริงหรือ?"ตวนมู่กวาดสายตามองสถานการณ์ภายในลาน เมื่อเห็นเศษแขนขาที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้น ม่านตาของเขาก็หดตัวในฉับพลันความคิดในหัวของเขาแล่นอย่างรวดเร็ว มินานก็วิเคราะห์สถานการณ์ตรงหน้าได้เมื่อตั้งสติได้ เขาจึงรีบเอ่ยตอบ "องค์รัชทายาท เป็นความจริงพ่ะย่ะค่ะ”“เช่นนั้น เหตุใดเจ้าจึงมิทำตามคำสั่งของเขา?”“องค์รัชทายาท ท่านคือรัชทายาทผู้สืบทอดราชบัลลังก์แห่งแผ่นดิน หากลงมือกับท่านก็เท่ากับการก่อกบฏ เป็นที่สาปแช่งทั้งฟ้าดิน ข้าน้อยยอมตายเสียดีกว่าทำเรื่องที่ไร้ความจงรักภักดีและอกตัญญูเช่นนี้พ่ะย่ะค่ะ”คำพูดของตวนมู่แฝงความมิจริงใจอยู่บ้าง แต่เขารู้ดีว่าบัดนี้ฉินซูได้กุมอำนาจในสถานการณ์นี้ไว้แล้วดังนั้นหากมิแสดงความจงรักภักดีเสียตอนนี้แล

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 483

    ฝ่ายตรงข้ามเพียงแค่พูดมิกี่คำก็สามารถทำให้ผู้ใต้บังคับบัญชาของตนหันดาบมาทำร้ายตนได้ นี่ถือเป็นความอัปยศอย่างใหญ่หลวง!อูมู่โกรธจนตัวสั่น เขาตะโกนสั่งกลุ่มพลธนูของเขาว่า "ยิงธนู ฆ่าพวกทรยศพวกนี้ให้หมด!"ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!ลูกธนูนับสิบพุ่งทะลวงกลางอากาศไปอย่างรวดเร็วทหารที่ทรยศเหล่านั้นส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดขณะที่ถูกยิงจนเต็มไปด้วยลูกธนูล้มลงไปนอนในแอ่งเลือดอูมู่ตวาดลั่น "เห็นหรือยัง นี่คือจุดจบของคนทรยศ ใครกล้าชี้ดาบใส่คนในเผ่าตนอีก ข้าจะฆ่ามันมิปรานี!"เมื่อเห็นดังนั้น เหล่าทหารก็พากันหวาดกลัวจนมิกล้าขยับตัว“นี่ ข้ามอบของดีให้พวกเจ้า!”เสียงหัวเราะเย้ยหยันของฉินซูดังขึ้นอย่างกะทันหัน จากนั้นก็โยนบางสิ่งไปยังตำแหน่งของกลุ่มพลธนูเหล่านั้นอูมู่ซึ่งมีปฏิกิริยารวดเร็ว คว้ามันไว้ในมือทันที!เมื่อมองดูชัด ๆ จึงพบว่ามันคือลูกเหล็กกลม ๆ ลูกหนึ่ง!ปลายด้านบนของลูกกลมยังคงพ่นควันโชยออกมาเขามองดูสิ่งของแปลกประหลาดในมือ และกำลังจะเอ่ยถามด้วยสีหน้าฉงนสงสัยแต่ยังมิทันที่จะได้ถาม ก็ได้ยินเสียง…ตูม เสียงครึกโครมดังสนั่น ลูกกลมในมือของอูมู่ระเบิดอย่างรุนแรง!ร่างของอูมู่ถูกระเบ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 482

    ถานเหวยโกรธจนกัดฟันกรอด พลันตะโกนด่าด้วยความโมโห "ทั่วป๋าชื่อ เจ้านี่ช่างบ้าบิ่น การลอบปลงพระชนม์องค์รัชทายาทคือโทษประหารล้างชั่วโคตร! หากพวกเจ้ากล้าก่อเรื่องในวันนี้ ก็จงรอรับมือกองทัพจากราชสำนักที่จะมากวาดล้างพวกเจ้าทั้งเผ่าโครยอให้สิ้นซากได้เลย!”“หึ ในเมื่อข้ากล้าลงมือ ข้าก็เตรียมพร้อมทุกอย่างไว้หมดแล้ว เจ้าคิดว่ามีใครในพวกเจ้าในวันนี้จะหนีรอดไปได้หรือ?”อูมู่ยังหัวเราะเยาะหยัน "เพียงแค่พวกเราฆ่าพวกเจ้าทั้งหมด องค์จักรพรรดิจะมีหลักฐานอะไรที่พิสูจน์ได้ว่าเป็นฝีมือพวกเรา?"“ใช่แล้ว แถบพื้นที่ฉงซานมีสัตว์ร้ายอาละวาดหนัก ถึงตอนนั้นทุกคนคงคิดว่ารัชทายาทผู้ตกอับถูกสัตว์ร้ายฆ่าตาย ใครเล่าจะสงสัยมาถึงพวกเราชนเผ่าโครยอ?”กานรุ่ยสีหน้าเคร่งขรึม และเอ่ยเสียงเบา "องค์รัชทายาท พวกเขาพูดถูกพ่ะย่ะค่ะ เมื่อพวกเขากล้าลงมือ แสดงว่าต้องวางแผนไว้อย่างรัดกุมแล้ว อีกเดี๋ยวท่านโปรดหาโอกาสหลบหนี พวกเราจะยอมสละชีวิตเพื่อเปิดทางให้เองพ่ะย่ะค่ะ"หลังจากพูดจบ เขาก็ชักดาบออกจากฝักเหล่าทหารที่ติดตามต่างก็ชักกระบี่ออกมาเช่นกันด้วยท่าทีพร้อมสละชีวิตทั่วป๋าชื่อตะโกนเสียงดัง "ฉินซู ยังมิรีบปลิดชีพตนอีกรึ จ

DMCA.com Protection Status