แชร์

บทที่ 133

ผู้เขียน: ใบไม้ร่วงในเมืองร้าง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-02 18:00:00
ฉินซูอดมิได้ที่จะยิ้มออกมา ฉงชูโม่เมื่อครู่นี้ช่างน่ารักเสียจริง

หลังจากที่ฉงชูโม่กลับไปที่ห้องแล้ว สีหน้าของนางก็เริ่มซับซ้อนขึ้น

เมื่อนึกถึงฉากที่นางจูบกับฉินซูเมื่อครู่ ความคิดของนางก็เริ่มสับสนวุ่นวาย

“หรือว่า... ข้าชอบฉินซูเข้าแล้ว? มิใช่ มิใช่ แน่นอนว่ามิใช่แบบนั้น...”

ฉงชูโม่รีบส่ายหัวอย่างรวดเร็ว เพื่อสลัดความคิดแปลก ๆ นี้ออกไปจากหัวของนาง

……

ภายในจวนผู้ว่าการมณฑล

ชายวัยกลางคนอายุประมาณห้าสิบปี กำลังจิบชาอยู่ในห้องโถงใหญ่

บุคคลผู้นี้คือผู้ว่าการมณฑลหลงโย่ว หูเฟิง

ทันใดนั้น คนรับใช้คนหนึ่งก็วิ่งเข้ามาด้วยท่าทีร้อนรน

“นายท่าน นายท่าน มิดีแล้ว เกิดเรื่องใหญ่แล้วขอรับ!”

หูเฟิงทำหน้าเคร่ง แล้วดุว่า “มีเรื่องอะไรต้องตะโกนโวยวาย เสียกิริยา!”

“นายท่าน คุณชายโดนคนทำร้ายบาดเจ็บสาหัส ตอนนี้กำลังรักษาตัวอยู่กับหมอหลี่ที่ข้างจวนขอรับ!”

“ว่ากระไรนะ?!”

หูเฟิงลุกขึ้นยืนทันที แล้วรีบก้าวออกจากประตู มุ่งหน้าไปยังโรงหมอข้างบ้าน

เมื่อมาถึงโรงหมอ เขาถามชายชราผมหงอกคนหนึ่งว่า “หมอหลี่ ลูกชายข้า ก่วงเผิง เขาเป็นอย่างไรบ้าง?”

“ใต้เท้าหู นี่… เอ่อ…”

หมอหลี่ถอนหายใจแล้วส่ายหัว

หูเฟิงร้
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 134

    เมื่อหูเฟิงสั่งการ พวกผู้ตรวจการและเจ้าหน้าที่ก็รีบเร่งเข้าไปในโรงเตี๊ยมซุ่นเฟิงอย่างรวดเร็วเจ้าของโรงเตี๊ยมถูกพวกเขาเตะจนล้มลงไปกองกับพื้นเห็นพวกเขามาด้วยท่าทีดุร้าย เสี่ยวเอ้อร์และลูกค้าในโรงเตี๊ยมต่างก็หลีกทางให้ ไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่งเกี่ยวภายในห้องพักชั้นสามฉงชูโม่มาถึงหน้าห้องของฉินซู เคาะประตู แล้วตะโกนว่า “องค์รัชทายาท มีคนมาแล้ว”“โอ้ ข้ากำลังอาบน้ำ เจ้าไปรับมือแทนก่อน”เมื่อได้ยินคำพูดของฉินซู หน้าผากของฉงชูโม่ก็เผยความมิพอใจในเวลานี้ มีเสียงโกรธดังมาจากทางเดิน “เป็นนาง เป็นนางสารเลวนั่น!”เมื่อเห็นดังนั้น หัวหน้าผู้ตรวจการขมวดคิ้วทันทีและถามว่า “มิใช่หรอกกระมัง? เป็นนางที่ทำร้ายลูกชายของท่านผู้ว่าการมณฑลหูอย่างนั้นหรือ?”“ใช่แล้ว เป็นนาง นางยังมีผู้สมรู้ร่วมคิดอีกคน ตอนนี้น่าจะยังอยู่ในห้อง หัวหน้าผู้ตรวจการหลิว นางผู้นี้มีฝีมือมิธรรมดา ท่านอย่าประมาท รีบนำคนไปจัดการพร้อมกันเถอะ!”เมื่อได้ยินเช่นนั้น หัวหน้าผู้ตรวจการหลิวก็ตะโกนออกมาทันที “นางแม่มด เจ้ากล้าทำร้ายบุตรชายของผู้ว่าการมณฑลหู ยังมิรีบมามอบตัวอีก!”ฉงชูโม่แสยะยิ้มอย่างดูถูกแล้วถามว่า “แล้วหูเฟิงอยู

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-03
  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 135

    เมื่อได้ยินเสียงนี้ หูเฟิงก็ตกตะลึงทันที รู้สึกว่าเสียงนี้คุ้นเคยในขณะที่เขากำลังตกใจ ฉินซูก็เดินลงมาพร้อมกับมือไขว้หลัง แล้วยิ้มอย่างมิยิ้มด้านหลังเขา ฉงชูโม่ก็เดินตามมาติด ๆหัวหน้าผู้ตรวจการหลิวชี้นิ้วไปที่ฉินซูและฉงชูโม่แล้วพูดว่า “ผู้ว่าการมณฑล นางเป็นแม่มด คนผู้นี้ต้องเป็นพวกเดียวกับนางแม่มดนี่ ท่านรีบ…”ก่อนที่เขาจะพูดจบ หูเฟิงก็เตะเขาล้มลงกับพื้น!หัวหน้าผู้ตรวจการหลิวถึงกับงงทันที ถามด้วยความสับสนว่า “ผู้ว่าการมณฑล ท่านเตะข้าด้วยเหตุใดเล่า?”เห็นได้ชัดว่าสีหน้าของหูเฟิงดูแย่ยิ่งกว่ากินแมลงวันเสียอีกเขางอเข่าลง “ตุ้บ” คุกเข่าลงต่อหน้าฉินซูทันที แล้วพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเทา “ข้าน้อยหูเฟิง ขอถวายบังคมองค์รัชทายาท เมื่อครู่ลูกน้องได้ล่วงเกิน ขอองค์ชายทรงเมตตา ประทานอภัยให้พวกเราด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ”“หา?! นี่… นี่เป็นองค์รัชทายาทหรือ?!”หัวหน้าผู้ตรวจการหลิวและคนอื่น ๆ ต่างตกตะลึงเมื่อได้สติ พวกเขาก็ซวนเซและคุกเข่าลงเป็นแถวฉินซูมองหูเฟิงด้วยสายตาเย็นชา พูดด้วยความสนใจว่า “หูเฟิง เจ้าพาคนมากมากมายถึงเพียงนี้ ตั้งใจจะลอบสังหารข้ารึ?”หูเฟิงใจหายวาบ เหงื่อเย็นไหลอาบหน้า ส

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-03
  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 136

    เสี่ยวเอ้อร์เดินออกมาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด และกล่าวว่า “เถ้าแก่ วันนี้แขกที่ห้องพิเศษชั้นสามมีเรื่องทะเลาะกับลูกชายของผู้ว่าการมณฑลหู ผู้ว่าการมณฑลหูคงจะมาที่นี่เพราะเรื่องนี้แน่ ๆ”“ถ้าอย่างนั้น แขกสองคนนั้นคงมิใช่คนธรรมดาแล้วกระมัง?”“คงมิใช่คนธรรมดา พวกเขาดูเหมือนมีบุคลิกของความสูงศักดิ์โดยกำเนิด โดยเฉพาะคุณชายผู้นั้น หน้าตาหล่อเหลา ผิวพรรณดี ดูก็รู้ว่าเป็นคนมีบุญวาสนา”เถ้าแก่พูดด้วยสีหน้าจริงจัง “เร็วเข้า รีบไปเอาโสมป่าอายุร้อยปีของข้ามา เดี๋ยวข้าจะไปคารวะแขกผู้สูงศักดิ์สองท่านนี้!”เห็นเถ้าแก่ดูร้อนรน เสี่ยวเอ้อร์ก็รีบเตือนว่า “เถ้าแก่ ตอนนี้ดึกแล้ว ไปรบกวนโดยพลการเกรงว่าจะทำให้แขกมิพอใจ ไฉนมิรอไปคารวะวันพรุ่งตอนส่งอาหารไปให้แขกเล่าขอรับ!”เถ้าแก่พยักหน้าเห็นด้วย และกล่าวชมเชย “นี่ เจ้านี่มันฉลาดจริง ๆ เดือนนี้ข้าจะเพิ่มเงินเดือนให้เจ้าเป็นสองเท่า!”“ขอบคุณเถ้าแก่ ขอบคุณเถ้าแก่ขอรับ!”เสี่ยวเอ้อร์ยิ้มแก้มปริด้วยความดีใจ“ทุกท่าน แยกย้ายกันไปได้แล้ว อย่ามารบกวนแขกผู้มีเกียรติของเรา”เถ้าแก่โบกมือไปยังทุกคน พร้อมกับออกคำสั่งไล่แขกเมื่อฝูงชนสลายตัวไป เขาจึงปิดประตูร้านและ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-03
  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 137

    หูก่วงเผิงอึ้งไปครู่หนึ่ง แล้วพูดอย่างมิอยากจะเชื่อ “ว่า ว่ากระไรนะ? องค์รัชทายาท?! ท่านพ่อ ท่านจำคนผิดหรือไม่? คนผู้นั้นจะเป็นองค์รัชทายาทได้อย่างไร?”“ข้าก็อยากจะจำผิดเหมือนกัน ตอนต้นปีก่อนที่ข้าไปเมืองหลวง ข้าเคยเห็นองค์รัชทายาทในห้องทรงพระอักษร แถมยังมิใช่แค่ครั้งเดียว ข้าจะจำผิดได้อย่างไร! เจ้าลูกอกตัญญู คนอื่นตั้งมากมายเจ้ามิไปหาเรื่อง ดันไปหาเรื่ององค์รัชทายาท เจ้าว่าตอนนี้จะทำอย่างไรดี? บอกข้ามาสิ!”“ข้า… ฮือ ๆ จบแล้ว องค์รัชทายาทต้องมิปล่อยข้าไปแน่ ท่านพ่อ ข้ามิอยากตาย ท่านรีบคิดหาวิธีหน่อย ข้ามิอยากตาย”“ตอนนี้รู้จักร้องไห้แล้วหรือ? ก่อนหน้านี้ข้าก็บอกเจ้าให้รู้จักยับยั้งชั่งใจบ้าง เจ้ากลับเอาคำพูดของข้าไปทิ้งหูซ้ายทะลุหูขวา เจ้าลูกมิรักดี กล้าแม้กระทั่งวางยาพิษองค์รัชทายาท หากองค์รัชทายาทเอาเรื่องขึ้นมา นี่มันเป็นความผิดร้ายแรงถึงขึ้นประหารเก้าชั่วโคตร ตระกูลหูของเราต้องถูกเจ้าทำลายจนย่อยยับ”หูเฟิงทุบอกตบเท้า ร้องไห้จนไม่มีน้ำตาจะไหล“ฮือ ๆ ท่านพ่อ ลูกสำนึกผิดแล้ว ช่วยหาวิธีหน่อยเถอะ ถ้าลูกตายไป ตระกูลหูของเราก็จะสิ้นสูญแล้ว!”หูเฟิงพึมพำด้วยความเศร้าโศกว่า “ต่อให้เจ้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-04
  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 138

    เมื่อได้ยินคำพูดของหูก่วงเผิง สีหน้าของหูเฟิงก็ค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นความโหดเหี้ยมแววตาของเขาเป็นประกายอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเขาก็พยักหน้าอย่างแน่วแน่!“เจ้ารักษาตัวให้หายดี เดี๋ยวเรื่องนี้พ่อจะจัดการเอง!”หลังจากพูดจบ หูเฟิงก็หันไปกำชับเม่ยเหนียงว่า “สิ่งที่ก่วงเผิงพูดเมื่อครู่นี้ เจ้าจำไว้ว่าอย่าแพร่งพรายออกไปแม้แต่คำเดียว มิเช่นนั้นตระกูลหูของเราจะต้องเผชิญกับหายนะ”ใบหน้างดงามของเม่ยเหนียงซีดเผือด รีบส่ายหัว “นายท่าน เมื่อครู่นี้ข้ามิได้ยินอะไรเลย และจะมิพูดอะไรออกไปอย่างแน่นอน”“เช่นนั้นก็ดี เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เจ้ากลับไปพักผ่อนให้สบาย เลี้ยงดูลูกในท้องให้ดี คลอดลูกชายอ้วนท้วนสมบูรณ์ให้ข้า”เม่ยเหนียงพยักหน้าซ้ำ ๆ แล้วรีบออกไปหูเฟิงเดินไปที่ห้องโถงใหญ่ แล้วถามจางเฉวียนว่า “คนของสำนักเบญจพิษ พักอยู่ที่ใด?”“ผู้ว่าการมณฑล พวกเขาพักอยู่ที่โรงเตี๊ยมสี่เยวี่ย อยู่มิไกลจากที่นี่ขอรับ”“ไป เชิญพวกเขามาที่นี่ รีบไป!”“ข้าน้อยรับคำสั่งขอรับ!”จางเฉวียนรับคำสั่งด้วยความเคารพ แล้วรีบออกไปสองเค่อต่อมาจางเฉวียนก็กลับมา!มีชายหลายคนสวมเสื้อคลุมสีดำเดินตามหลังเขาชายเหล่านี้มีส

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-04
  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 139

    “ท่านรองเจ้าสำนักเฝิง ขอถามว่าท่านรับคำสั่งจากใคร?”“ใต้เท้าหู สิ่งที่มิควรถามก็อย่าถาม ท่านเพียงแค่ต้องรู้ว่า ผู้ที่สามารถทำให้สำนักเบญจพิษของเราสยบยอมได้ ย่อมมีสถานะที่มิธรรมดา”หูเฟิงครุ่นคิดเล็กน้อย ก็เดาได้ว่าคนที่สำนักเบญจพิษรับคำสั่ง คงเป็นหนึ่งในบรรดาองค์ชายหลาย ๆ พระองค์ มิเช่นนั้น ใครจะกล้าบังอาจมาลอบสังหารองค์รัชทายาทกัน!เขาพูดอย่างช้า ๆ ว่า “ข้าเข้าใจแล้ว แล้วมิทราบว่า พวกท่านวางแผนจะลงมือเมื่อใด?”“เร็วที่สุดก็ต้องรอวันพรุ่ง คนของเรายังมามิครบ”“เช่นนั้น ทางการจะต้องให้ความร่วมมืออย่างไร ท่านบอกมาได้เลย”เฝิงไป่จงลูบคางแล้วพูดว่า “ตอนแรก พวกเราก็ลังเลว่าจะลงมือตรง ๆ เลยดีหรือไม่ แต่ในเมื่อใต้เท้าหูจะเข้าร่วมด้วย เช่นนั้นก็…”เขาโน้มตัวเข้าไปกระซิบข้างหูของหูเฟิงเบา ๆ สองสามประโยคหูเฟิงเบิกตากว้าง แล้วก็ตบต้นขาตัวเองดังลั่น!“ดี! ทำตามนี้เลย! ถึงเวลาหากความแตกขึ้นมา ข้าก็มีข้อแก้ตัวแล้ว!”“หากใต้เท้าหูตกลง วันพรุ่งข้าจะส่งคนมาแจ้งข่าว แต่ข้าขอพูดให้ชัดเจนก่อน หากใต้เท้าหูคิดหักหลังพวกเรา ถึงองค์รัชทายาทจะมิฆ่าท่าน พวกเราสำนักเบญจพิษก็จะมิปล่อยท่านไปแน่”“ท่าน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-04
  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 140

    ฝานชุ่นรู้สึกสงสัยในใจ ถามขึ้นว่า “ที่แท้ก็เป็นใต้เท้าจากสำนักหอดูดาวหลวง มิทราบว่าใต้เท้าตู๋กูมีธุระอะไรกับข้าน้อยหรือ?”“บริเวณเทือกเขาทางทิศตะวันตกของหลงโย่ว เมื่อเร็ว ๆ นี้มีสิ่งผิดปกติอะไรเกิดขึ้นหรือไม่?”“ไม่มีนะ ชาวหรงตะวันตกมิได้มารุกรานเลยตลอดหนึ่งเดือนมานี้”ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยขมวดคิ้ว กล่าวว่า “ข้ามิได้ถามถึงชาวหรงตะวันตก แต่ถามถึงเทือกเขาทางทิศตะวันตกอันกว้างใหญ่นี้ ช่วงที่ผ่านมามีเรื่องแปลก ๆ อะไรเกิดขึ้นในนั้นหรือไม่?”สีหน้าของฝานชุ่นแสดงความสงสัยมากยิ่งขึ้น เพื่อความมั่นใจ เขาจึงเรียกผู้ช่วยมาสอบถาม“ซุนถง พวกเจ้าเพิ่งรับผิดชอบตรวจตราทางทิศตะวันตกของเมือง ในเทือกเขาแถวนั้นมีสิ่งผิดปกติหรือเรื่องแปลก ๆ เกิดขึ้นบ้างหรือไม่?”ซุนถงส่ายหัว บ่งบอกว่าไม่มีฝานชุ่นจึงโค้งคำนับให้ตู๋กูโฉ่วเยวี่ย กล่าวว่า “ใต้เท้าตู๋กู เทือกเขาทางทิศตะวันตก มิน่าจะมีเรื่องแปลก ๆ อะไรเกิดขึ้นขอรับ”ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยหรี่ตาลง ยืนอยู่บนกำแพงเมืองมองไปทางทิศตะวันตก เงียบไปครู่หนึ่งฝานชุ่นถามอย่างระมัดระวัง “ใต้เท้าตู๋กู มีอะไรหรือ?”“อย่าถามสิ่งที่มิควรถาม ส่งคนไปจับตาดูทางทิศตะวันตกให้ดี หากมี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-05
  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 141

    “หึ หลงโย่วมิใช่ของสำนักเบญจพิษพวกเจ้าหรอกกระมัง? พวกเจ้ามาได้ เหตุใดพวกเราจะมามิได้?”เฝิงไป่จงจงยิ้มและโบกมือพร้อมกล่าวว่า “พี่หยางอย่าเข้าใจผิด ข้ามิได้มีความหมายอื่น เพียงแต่คิดว่า หากจุดประสงค์ของพี่หยางเหมือนกับสำนักเบญจพิษพวกเรา พวกเราทั้งสองฝ่ายอาจจะร่วมมือกันได้”เมื่อได้ยินดังนั้น หยางเจียนมีสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย แล้วถามด้วยน้ำเสียงที่ลึกซึ้งว่า “ขอถามพี่เฝิง พวกสำนักเบญจพิษมาที่นี่ มีจุดประสงค์อันใด?”เฝิงไป่จงมิได้ตอบ แต่กลับหันหลังไปมองนอกหน้าต่าง พร้อมกับพยักพเยิดไปทางโรงเตี๊ยมซุ่นเฟิงที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเมื่อเห็นดังนั้น หยางเจียนถามเบา ๆ ว่า “หรือว่าพวกเจ้าก็มาเพื่อองค์รัชทายาทผู้ถูกปลด?”“ใช่แล้ว ดูเหมือนว่าพรรคเพลิงผลาญพวกเจ้าก็กำลังทำงานให้กับองค์ชายบางองค์เช่นกัน ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเรามิลองร่วมมือกันหน่อยหรือ ส่วนเรื่องหลังจากนี้ ค่อยว่ากันอีกที เป็นอย่างไร?”“ได้สิ พวกเรากำลังกังวลว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี ในเมื่อเป็นพวกเดียวกัน ข้าก็ตกลงที่จะร่วมมือกับพวกเจ้า”“พี่หยางพูดจาตรงไปตรงมาดีจริง ๆ เช่นนั้นก็ไปกับพวกเราตอนเที่ยงเลยก็แล้วกัน!” หยางเจียนถามด้วยคว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-05

บทล่าสุด

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 462

    ดวงตางดงามของมู่หรงจื่อเยียนเป็นประกาย นางยินดีแทนฉินซูด้วยใจจริงในความเห็นของนาง หากผู้มีพรสวรรค์ยอดเยี่ยมเช่นฉินซูสามารถบรรลุเคล็ดวิชาที่ลึกซึ้งเช่นนี้ได้ จะต้องกลายเป็นเสือติดปีกแน่ และจะผู้เลิศทั้งศาสตร์บุ๋นและบู๊อย่างแท้จริงฉินซูเก็บม้วนหยกจารึกอย่างระมัดระวัง จากนั้นจึงพามู่หรงจื่อเยียนเดินไปยังทางออกด้านนอกทางออกมีหน้าผาอีกแห่งหนึ่งเนื่องจากแสงจากทางออกสว่างจ้าเกินไป มู่หรงจื่อเยียนจึงมิได้สังเกตเห็นว่ามีหุบเหวอยู่ใต้ฝ่าเท้าของนางเลยแม้แต่น้อย!ต้องขอบคุณมือและดวงตาที่ว่องไวของฉินซู จึงสามารถดึงนางกลับมาได้เมื่อมองไปที่เหวลึกนั้น มู่หรงจื่อเยียนก็แอบรำพึงในใจว่า เกือบไปแล้ว นางตกใจจนเหงื่อเย็นชุ่มร่างหลังจากตั้งสติได้แล้ว นางก็พูดด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ "สถานที่ที่เราอยู่ตอนนี้ก็เป็นเหวลึก แต่บัดนี้กลับมีเหวลึกอยู่ใต้เท้าของเราอีก ภูมิแคว้นที่นี่แปลกประหลาดเกินไปแล้ว"ฉินซูก้มมองลงไป เห็นหุบเหวขนาดใหญ่ที่มีรอยแยกเป็นเส้นยาวอยู่ใต้หน้าผา!หุบเหวนั้นด้านบนกว้างด้านล่างแคบ โดยที่ผนังทั้งสองด้านนั้นเรียบผิดปกติ ทอดยาวจากตะวันออกไปยังตะวันตกเขามองอย่างละ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 461

    ทันใดนั้นมู่หรงจื่อเยียนก็เข้าใจเจตนาของฉินซู และไล่ตามกวางน้อยสองตัวนั้นไปพร้อมกับเขาสิ่งที่เห็นคือกวางน้อยสองตัวนั้นวิ่งไปยังน้ำตกที่อยู่มิไกลเมื่อมาถึงเบื้องหน้าน้ำตก พวกมันมิได้หยุดชะงักลงแต่กลับกระโจนเข้าไปทันทีเมื่อเห็นเช่นนั้นฉินซูก็อุ้มมู่หรงจื่อเยียนขึ้นมาด้วยท่วงท่าผ่อนคลาย เขาสะกิดปลายเท้ากับพื้นเบาๆ ก่อนร่างทั้งสองจะพุ่งไปยังน้ำตกราวกับลูกธนูที่หลุดออกจากสายเพียงชั่วพริบตา ทั้งสองก็ทะลุผ่านน้ำตกและลงพื้นอย่างมั่นคงมู่หรงจื่อเยียนตะลึงงัน!นางมองไปยังฉินซูอย่างตกใจและสับสนด้วยดวงตางดงาม เอ่ยถาม “ฉินซู ท่านใช้วิชาตัวเบาได้เก่งกาจเพียงนี้ได้อย่างไร?!”ฉินซูยิ้มหยักยิ้ม “ข้ามิได้เก่งกาจแค่วิชาตัวเบาหรอก ไปเถอะ กวางน้อยสองตัวนั้นวิ่งเข้าไปในถ้ำนี้ ทางออกน่าจะอยู่ที่นี่”เมื่อนั้นมู่หรงจื่อเยียนจึงเพิ่งตระหนักได้ว่าด้านหลังน้ำตกนี้มีถ้ำอยู่นี่เอง!นางเดินตามฉินซูเข้าไปในถ้ำส่วนยอดของถ้ำมีรอยแยกขนาดมิเล็กมิใหญ่ แสงแดดรำไรส่องผ่านรอยแยกลงมายังพื้นดิน จึงมองเห็นสภาพภายในถ้ำได้อย่างชัดเจนแทนที่จะบอกว่าเป็นถ้ำ เรียกว่าเป็นทางเดินกว้าง ๆ คงจะเหมาะสมกว่าเห็นได้ชัดว่า

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 460

    อีกครึ่งชั่วยามต่อมาฉินซูและมู่หรงจื่อเยียนก็กอดกันแน่นอย่างพึงพอใจภาพบรรยากาศนี้เหมือนกับความสุขสงบในวสันตฤดู ร่างกายเมามายด้วยความหลงใหล จนมิสามารถขยับตัวได้เมื่อเห็นความสุขบนใบหน้าของมู่หรงจื่อเยียน ฉินซูคิดว่าใช้ ‘ความสุขสงบในวสันตฤดู ร่างกายเมามายด้วยความหลงใหล จนมิสามารถขยับตัวได้’ มาอธิบายจะดูเหมาะสมกว่าเขารู้สึกสะเทือนอารมณ์ที่จู่ ๆ ก็ได้มีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับมู่หรงจื่อเยียน ช่างน่าประหลาดใจจริง ๆเมื่อเห็นสีหน้าของเขา มู่หรงจื่อเยียนก็พูดติดตลก “อะไรกัน ท่านคิดว่า หม่อมฉันมิคู่ควรกับองค์รัชทายาทเช่นท่านหรือ? บิดาของหม่อมฉันเป็นอ๋องแห่งเป่ยเยี่ยน และหม่อมฉันเองก็มีศักดิ์เป็นถึงท่านหญิง”ฉินซูพูดอย่างไม่สบอารมณ์ “ข้ามิได้คิดเช่นนั้น ข้าก็แค่ปลงว่าชีวิตนั้นเป็นสิ่งที่มิสามารถคาดเดาได้ ใครจะไปคิดว่า หลังจากกินผลไม้ไปแค่สองสามลูก จะทำให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น”“ฉินซู ท่านได้หม่อมฉันแล้วคงมิคิดจะทอดทิ้งกันหรอกใช่หรือไม่?”ดวงตาที่คู่สวยของมู่หรงจื่อเยียนเคล้าไปด้วยน้ำตา มีท่าทางเศร้าโศกเป็นอย่างมากฉินซูใจอ่อนยวบพลางรีบพูดปลอบ “มิใช่แน่นอน หากเจ้าเต็มใจที่จะอยู่กับข้า ข

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 459

    เมื่อเห็นเขากลับมาพร้อมกับปลาไนตัวใหญ่หลายตัว ใบหน้าของมู่หรงจื่อเยียนก็เต็มไปด้วยความชื่นชม“ฉินซู สุดยอดมาก ท่านจับปลาได้เร็วถึงเพียงนี้เลยหรือ!”“มิเท่าไรหรอก”ฉินซูยิ้มอย่างถ่อมตัวพลางย่างปลาบนไฟสักพักเนื้อปลาก็ถูกย่างจนร้อนและส่งกลิ่นหอมทำให้มู่หรงจื่อเยียนอยากอาหารมากกว่าเดิมและอดมิได้ที่จะกลืนน้ำลาย หลังจากที่ย่างปลาเสร็จ ทั้งสองก็แทบรอมิไหวที่จะได้กินปลาไนเนื้อปลามีรสหวานและเหนียวหนึบ อร่อยมากแม้จะมิได้ปรุงรสในมิช้า มู่หรงจื่อเยียนก็แทะปลาจนหมด จากนั้นก็เรอออกมาด้วยความพึงพอใจหลังจากอิ่มแล้วนางก็ยิ้มเบา ๆ พลางเดินไปยังบริเวณที่อยู่มิไกลเมื่อกลับมา นางก็มาพร้อมกับผลไม้สีแดงก่ำหลายลูกอยู่ในมือผลไม้นี้ดูเหมือนลูกท้อ แต่มีสีแดงสดแม้กระทั่งก่อนกินก็ยังได้กลิ่นหอมฉุยโชยมาฉินซูถามอย่างสงสัย “นี่คือผลไม้อะไรหรือ?”“หม่อมฉันก็มิรู้ นี่เป็นครั้งแรกที่หม่อมฉันได้เห็นผลไม้ชนิดนี้”มู่หรงจื่อเยียนพูดพลางกัดผลไม้ไปหนึ่งคำฉินซูขมวดคิ้วและพูดว่า “มิรู้ว่ามันเป็นผลไม้ชนิดไหนแต่เจ้าก็ยังกล้ากินเข้าไปน่ะหรือ มิกลัวถูกพิษหรืออย่างไร?”“กลัวอะไร กวางน้อยสองตัวตรงนั้นก็กำ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 458

    นั่นคือหุบเขาที่ถูกล้อมรอบไปด้วยภูเขารอบด้าน!ท้องฟ้าสีครามที่มีแสงแดดอบอุ่น เมฆขาวลอยเด่นอยู่บนอากาศ ในหุบเขามีเนินเขาสีหยกที่เต็มไปด้วยหญ้าเขียวขจี!บนหญ้าอันเขียวชอุ่มมีดอกไม้หลากสีสันออกดอกบานสะพรั่งลำห้วยกว้างประมาณสิบศอกไหลคดเคี้ยวผ่านผืนหญ้าไปน้ำในลำห้วยใสราวกับกระจกจนเห็นปลาแหวกว่ายอยู่ใต้ผืนน้ำสายน้ำไหลเชี่ยว ฝูงผึ้งและผีเสื้อพากันโบยบินร่ายรำทำให้ที่นี่เป็นดั่งดินแดนสวรรค์ก็มิปานเมื่อเห็นทิวทัศน์ตรงหน้า มู่หรงจื่อเยียนก็ขยี้ตาอย่างแรง!“โอ้สวรรค์ นี่ข้ามิได้ฝันไปใช่ไหม ข้างนอกเข้าสู่เหมันตฤดูแล้ว แต่ที่นี่กลับดูเหมือนอยู่ในวสันตฤดู!”ฉินซูเองก็ประหลาดใจไปชั่วขณะเช่นกัน ทิวทัศน์งดงามเช่นนี้ ดินแดนแห่งความฝันคงเป็นเช่นนี้สินะมู่หรงจื่อเยียนโน้มตัวไปเด็ดดอกไม้สีแดงมาดอมดม ทันใดนั้นใบหน้าของนางก็เต็มไปด้วยอาการเคลิบเคลิ้ม“หอมยิ่งนัก”เมื่อเห็นเช่นนั้น ฉินซูก็ส่งยิ้มหวานดูเหมือนมิว่าจะอยู่ในยุคไหน สตรีก็ชอบดอกไม้กันหมดสินะเขามองไปรอบ ๆ และหลังจากแน่ใจว่าไม่มีอันตรายที่อาจเกิดขึ้นแล้ว เขาก็ผ่อนคลายความระแวงลงจากนั้นก็ปีนขึ้นไปบนต้นไม้ใหญ่เพื่อมองทัศนียภาพโดยร

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 457

    ภายใต้แสงคบไฟ ฉินซูรู้สึกประหลาดใจเมื่อพบว่าในนั้นมีเตียงหิน และอีกด้านหนึ่งมีโต๊ะหินกับม้านั่งหินแต่ทั้งเตียงหินและม้านั่งหินนั้นถูกปกคลุมไปด้วยฝุ่น เห็นได้ชัดว่าไม่มีใครดูแลทำความสะอาดมาเป็นเวลานานแล้วเมื่อเห็นภาพนี้ มู่หรงจื่อเยียนก็พูดด้วยความมิอยากเชื่อ “มีคนอาศัยอยู่ที่นี่ด้วยหรือ? คงมิใช่ปีศาจภูเขาพวกนั้นหรอกใช่หรือไม่?”“ปีศาจภูเขากินดิบพวกนั้นจะสร้างเตียงและโต๊ะหินเหล่านี้ได้อย่างไร ที่กำแพงมีคบไฟอยู่ จุดไฟให้หมดก่อน”“เพคะ!”ทั้งสองยกคบไฟจุดคบไฟติดผนังบนกำแพงหินทันใดนั้น ถ้ำก็สว่างราวกับกลางวันในเวลานี้ พวกเขาทั้งสองสังเกตเห็นว่า ด้านหนึ่งมีตัวอักษรจำนวนมากถูกสลักอยู่บนกำแพงหินมู่หรงจื่อเยียนเหลือบไปอ่านตัวอักษรบนนั้นแล้วขมวดคิ้วขึ้นมา“สิ่งเหล่านี้ดูเหมือนภาษาโบราณ ฉินซู ท่านรู้จักตัวอักษรโบราณมิใช่หรือ ลองอ่านดูสิว่ามันเขียนไว้ว่าอย่างไร?”แค่เหลือบไปเห็นฉินซูก็ตกตะลึงจนอ้าปากค้าง!ตัวอักษะบนนั้นเป็นตัวอักษรจีนตัวย่อนี่!เมื่ออ่านอย่างละเอียด ในใจของเขาก็เกิดความโกลาหล!ข้อมูลบนบันทึกนั้นทำให้เขารู้จักโลกใบนี้มากขึ้นตามที่กล่าวมาข้างต้น ในปี ค.ศ. 2130 อุ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 456

    ฉินซูดีดนิ้วปล่อยพลังใส่ค้างคาวเหล่านั้นร่วงลงไปที่พื้นเขาพูดอย่างมิสบอารมณ์ “แค่ค้างคาวเท่านั้นเอง กลัวปานนั้นเลยรึ?”มู่หรงจื่อเยียนมองเขาอย่างขุ่นเคือง “เป็นสตรีก็ต้องกลัวเป็นธรรมดาอยู่แล้ว แถมที่นี่ก็ยังมืดและน่ากลัว หม่อมฉันขนลุกไปหมดแล้ว”“เจ้าขี้กลัวเช่นนี้แต่ก็ยังมากับหนานกงจื่อชินเพื่อสกัดกั้นและสังหารข้าน่ะรึ?”“ท่านเข้าใจผิดแล้ว จริง ๆ แล้วข้า… ข้าคิดจะเกลี้ยกล่อมเขามิให้ลงมือทำร้ายท่านต่างหากเล่า”ฉินซูยิ้มเจ้าเล่ห์ร้ายกาจและถามหยอกเย้า “ที่หนานกงจื่อชินบอกว่าเจ้าชอบข้านั่นคงมิใช่เรื่องจริงหรอกกระมัง?”ใบหน้าที่งดงามของมู่หรงจื่อเยียนเปลี่ยนเป็นสีแดง พลางหลบเลี่ยงมิกล้าจ้องตาของฉินซูตรง ๆนางก้มหน้าขยำชายเสื้อแน่นและมิพูดอะไรเมื่อเห็นเช่นนั้นแล้ว ฉินซูก็มองความคิดของนางออกแต่ในสถานการณ์เช่นนี้ เขาไม่มีอารมณ์จะมาพูดเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ จึงเปลี่ยนเรื่อง “ไปเถิด หาทางออกก่อนแล้วค่อยว่ากันทีหลัง”จากนั้นเขาก็หยิบพับไฟพกพามาจากอ้อมอกพลางจุดไฟแล้วมองไปรอบ ๆ“ท่านรอหม่อมฉันด้วย!”มู่หรงจื่อเยียนตามไปด้วยสีหน้าเขินอาย จากนั้นก็กอดแขนของฉินซูอย่างแน่นหนาโดยมิเอ่ยคำอธิบา

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 455

    “ยังน่ะสิ เขาสั่งให้พวกข้ามากันก่อน ทั้งยังบอกอีกว่ามียอดฝีมือคอยคุ้มกันเขาอยู่ จะมิเป็นอะไรแน่นอน...”“แย่แล้ว!!”ใบหน้าที่งดงามของกู้เสวี่ยเจี้ยนซีดลง นางทะยานขึ้นหลังม้าและควบไปทางหน้าผาที่พังทลายเมื่อเห็นสถานการณ์ เซี่ยหลานก็ตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ และคิดจะควบม้าตามไปถายเหวยที่อยู่ด้านข้างเห็นเช่นนั้นจึงรีบห้าม “ท่านใต้เท้าเซี่ยอย่าเพิ่งวู่วาม ยอดฝีมือท่านนั้นที่อยู่เบื้องหลังองค์รัชทายาทมีวรยุทธ์แก่กล้า มีเขาคอยคุ้มกันอยู่ องค์รัชทายาทจะมิทรงเป็นอะไรแน่นอนขอรับ”“แต่ดูกู้เสวี่ยเจี้ยนมีท่าทางรีบร้อนเช่นนั้น ต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นกับองค์รัชทายาทแน่ ข้ามิอาจวางใจได้”“คนดีเช่นองค์รัชทายาทสวรรค์ย่อมคุ้มครอง กว่าพวกเราจะหนีพ้นมาได้นั้นมิใช่เรื่องง่าย หากท่านกลับไปอย่างเร่งรีบในตอนนี้ แล้วตกไปอยู่ในมือของปีศาจภูเขาเหล่านั้นอีกครั้ง จะมิเป็นการสร้างปัญหาให้องค์รัชทายาทหรอกหรือขอรับ”เมื่อได้ยินเช่นนั้น เซี่ยหลานก็ล้มเลิกความคิดที่จะไล่ตามไป นางสวดภาวนาในใจอย่างเงียบ ๆ และหวังว่าฉินซูจะกลับมาอย่างปลอดภัยเมื่อกู้เสวี่ยเจี้ยนกลับมาที่หน้าผา นางก็ตะโกนเสียงดัง“องค์รัชทายา

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 454

    หนี!ฉินซูตัดสินใจในใจทันที เขารีบทะยานออกจากป่าโดยอุ้มมู่หรงจื่อเยียนไว้ในอ้อมแขนจนเงาร่างของเขาได้กลายเป็นภาพค้างอยู่กับที่พลังยุทธ์ของสัตว์ร่างใหญ่นี้ยังมิเป็นที่ชัดเจน เขาจึงมิแน่ใจว่าจะสามารถโค่นคู่ต่อสู้ได้ในเวลาอันสั้นหากต่อสู้อย่างหุนหันพลันแล่น ยังมิต้องพูดถึงว่าตนจะเสียเปรียบหรือไม่แต่กู้เสวี่ยเจี้ยนจะต้องสังเกตเห็นพลังวรยุทธ์ของเขาแน่นอนใครจะไปรู้ว่า กู้เสวี่ยเจี้ยนจะนำเรื่องนี้ไปบอกหัวหน้าโหรหลวงหรือไม่ และเขาก็มิสามารถฆ่ากู้เสวี่ยเจี้ยนได้เช่นกัน เพราะถึงอย่างไรการเป็นสามีภรรยาเพียงแค่คืนเดียว แต่ก็มีความสัมพันธ์และความรักที่ยาวนานเหมือนร้อยคืนคิดไปคิดมา การหนีถึงจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดทันทีที่ออกมาจากป่า เขาก็ตะโกนเสียงดัง “กู้เสวี่ยเจี้ยน หากสลัดพ้นแล้วจงไปเจอกันที่เชิงเขาลั่วเยี่ยน ถานเหวยและคนอื่น ๆ กำลังรออยู่ที่นั่น”เขาตะโกนเสียงดังเพื่อมิให้ปีศาจภูเขายักษ์ที่อยู่ข้างหลังเขาโจมตีกู้เสวี่ยเจี้ยน จากนั้นเขาก็หันหลังกลับมาปล่อยกระแสพลังฝ่ามือสองสายใส่คู่ต่อสู้“โฮก โฮก!!”ปีศาจภูเขายักษ์คำรามสองครั้งและทำให้กระแสพลังฝ่ามือของฉินซูสลายไปได้อย่างง่ายดาย

DMCA.com Protection Status