มุกเหงื่อขนาดเท่าถั่วเหลือง ผุดพราวเต็มหน้าผาก ร่างกายกระตุกอย่างแรงมองออกว่า เขากำลังได้รับความเจ็บปวดยากเกินจะทนไหว“ใครกัน? ใครวางยาทำร้ายเรา?”“หรือว่า จะเป็นนางกำนัลข้างกายฮองเฮา?”ต่อให้มาถึงขั้นนี้ ฮ่องเต้หวู่ก็ไม่เคยคิดมาก่อน คนวางยาพิษจะเป็นคนเคียงหมอนของตน“เสด็จพ่อ...”หลี่หลงหลินเองก็ว้าวุ่น “ท่านอดทนก่อน! ลูกจะรีบไปตามหมอหลวง...”ฮ่องเต้หวู่จับมือหลี่หลงหลินไว้แน่นๆ เส้นเลือดปูดนูนบนหน้าผาก “เจ้าเก้า เราอาจจะทนไม่ไหวแล้ว! เจ้าอย่าไป...เรายังมีเรื่องสำคัญ...”เพราะความเจ็บปวดอย่างรุนแรง ฮ่องเต้หวู่พูดได้ไม่ชัดนัก นิ้วมือของเขาสั่นเทา หยิบของบางอย่างออกจากอก ส่งถึงมือหลี่หลงหลินหลี่หลงหลินก้มหน้าอ่าน ตัวคนก็อึ้งงันอยู่กับที่!พระราชโองการ!พระราชโองการแต่งตั้งรัชทายาท!องค์ชายคนอื่น ต่างเฝ้าฝันถึงสิ่งนี้หลังฮ่องเต้หวู่เขียนดีแล้ว ก็พกติดตัวไว้อยู่ตลอดความเป็นตายอยู่ตรงหน้า ฮ่องเต้หวู่นำพระราชโองการออกมา มอบให้หลี่หลงหลินแคว้นจะขาดกษัตริย์ไปไม่ได้!หากฮ่องเต้หวู่เป็นอะไรไป วิญญาณกลับสู่น้ำพุเก้าชั้นฟ้าฮ่องเต้สิ้นพระชนม์ ยังมิได้แต่งตั้งรัชทายาท ใต้หล้าจ
ในเวลาเดียวกันฮองเฮาผู้มีเมตตาและคุณธรรมท่านนี้ ฉีกหน้ากากที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยนและความอบอุ่นอย่างสิ้นเชิง ในสายตาของหลี่หลงหลิน ราวกับอสรพิษที่เลือกกัดคนตัวหนึ่ง!เพื่อทำให้ลูกชายแท้ๆ หลี่เทียนฉี่ขึ้นสู่ตำแหน่งฮ่องเต้ฮองเฮาหลู่ใกล้เสียสติเต็มที!แม้แต่ฮ่องเต้หวู่ นางก็กล้าลงมือสังหาร!นับประสาอะไรกับหลี่หลงหลิน?ขอเพียงฮองเฮาหลู่นำพระราชโองการแต่งตั้งรัชทายาทไปจากมือหลี่หลงหลินได้ แก้ไขชื่อแซ่ เปลี่ยนจากหลี่หลงหลินเป็นหลี่เทียนฉี่เช่นนั้น หลี่เทียนฉี่รัชทายาทที่ถูกปลด ก็สามารถกลับมาเป็นรัชทายาทได้ใหม่อีกครั้ง อย่างถูกต้องตามครรลองครองธรรม!“ท่านอย่าฝันเลย!”หลี่หลงหลินเก็บพระราชโองการไว้ในอก เผชิญหน้ากับฮองเฮาหลู่ทันใดนั้นเสียงฝีเท้าดังขึ้นจากภายนอกระลอกหนึ่งเว่ยซวินในชุดปักลายหม่าง เร่งฝีเท้าบุกเข้ามาข้างหลังเขา ยังมีองครักษ์เสื้อแพรทั้งหมดที่ชวนให้ตกตะลึงพรึงเพริดก็คือ ซูเฟิ่งหลิงถูกองครักษ์เสื้อแพรจับไว้ มือสองข้างไพล่หลัง ผลักเข้ามาแล้วเว่ยซวินเห็นฮ่องเต้หวู่นอนบนพื้น ไม่รู้เป็นหรือตาย ทันใดนั้นว้าวุ่นใจหนัก สีหน้าไม่สบอารมณ์มากฮองเฮาหลู่รีบร้องตะโกน ล้มล
หลี่หลงหลินลอบถอนหายใจแต่ไหนแต่ไรมา ผลประโยชน์ของตนและเว่ยซวิน มิได้เสียเปล่าในช่วงเวลาสำคัญเว่ยซวินตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง ยืนอยู่ฝั่งเดียวกับตนแน่นอน ยังมีสิ่งสำคัญยิ่งกว่านั้นผลประโยชน์ร่วมกันระหว่างตนเองและเว่ยซวิน ไม่ว่าอย่างไร ฮ่องเต้หวู่ก็ต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปหลี่หลงหลินได้ยินว่าเว่ยซวินต้องการตามหมอหลวง รีบร้องห้ามไว้ “อย่าเป็นอันขาด!”เว่ยซวินชะงัก พูดอย่างไม่เข้าใจ “ไม่เรียกหมอหลวง ฝ่าบาทจะทำเช่นไร...”หลี่หลงหลินอธิบาย “ด้วยอำนาจของฮองเฮาหลู่ ในบรรดาหมอหลวง น่ากลัวว่ามีคนของนางอยู่! ถึงตอนนั้น ไม่เพียงรักษาเสด็จพ่อไม่หาย ยังจะทำสิ่งตรงกันข้ามอีกด้วย...”เว่ยซวินตกใจเหงื่อเย็นผุดทั่วทั้งสรรพางค์กาย พยักหน้าคล้ายไก่จิกข้าว “อืม กระหม่อมเลอะเลือนไปแล้ว! ทั้งหมดขอให้องค์ชายเก้าตัดสินใจ!”หลี่หลงหลินครุ่นคิด พูดว่า “สถานการณ์ในตอนนี้เร่งด่วนมาก เจ้าปล่อยซูเฟิ่งหลิงก่อน ให้นางกลับบ้าน ไปพาพี่สะใภ้สามซุนชิงไต้มา! เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว มีเพียงนางสามารถช่วยฝ่าบาทได้!”เว่ยซวินไฉนเลยจะไม่รับปาก รีบพูด “รีบปล่อยพระชายา! เฮ้อ ล้วนเป็นพวกเดียวกัน ทั้งหมดเข้าใจผิดไปแล้ว!”
หลี่หลงหลินปาดเหงื่อเย็นเต็มศีรษะ “พี่สะใภ้สาม เสด็จพ่อถูกวางยาพิษอะไร?”ภายในใจเขาว้าวุ่นมากแม้ซุนชิงไต้เชี่ยวชาญด้านยาพิษมากแต่หากเป็นพิษแปลกประหลาดนั่นก็ยุ่งยากแล้ว!สีหน้าซุนชิงไต้เคร่งขรึม พูดว่า “สารหนู!”เพียงเว่ยซวินได้ยิน ทันใดนั้นสีหน้าเผือดซีด ล้มลงกับพื้นสารหนู!แม้ว่านี่เป็นยาพิษที่พบเห็นได้บ่อยๆ แต่ฤทธิ์รุนแรงมาก ไม่มียารักษา!ฝ่าบาท ยังสามารถช่วยชีวิตกลับมาได้จริงหรือ?หลี่หลงหลินกลับถอนหายใจโล่งอกเฮือกหนึ่ง “เป็นสารหนูไม่ผิดไปดังคาด!”แท้จริงแล้วเมื่อครู่หลี่หลงหลินก็หยั่งเดาไว้แล้ว ยาพิษที่ฮองเฮาหลู่ใช้กับฮ่องเต้หวู่ อาจเป็นสารหนูเหตุผลนั้นง่ายมากประการแรก ที่นี่คือฝ่ายในของวังหลวง การป้องกันแน่นหนาต่อให้เป็นฮองเฮา ก็ไม่สามารถทำยาพิษแปลกอะไรออกมาได้อย่างง่ายดายประการที่สอง ในสายตาคนยุคสมัยโบราณ กินสารหนูเข้าไป นั่นต้องตายอย่างแน่นอนแท้จริงแล้วนี่คือความเข้าใจผิดอย่างหนึ่งสารหนูเป็นพิษ แต่มีวิธีถอนพิษย่อมดีกว่ายาพิษกระเรียนแดงทำนองนั้น ยาพิษที่สูญหายไปในยุคสมัยต่อมานั้นดีมากนักยิ่งไปกว่านั้นในเมื่อฮองเฮาหลู่ใส่สารหนูลงในน้ำแกงโสม นั่
ของสามอย่างที่หลี่หลงหลินต้องการกลับหาไม่ยากเว่ยซวินสั่งคนให้ส่งมายังห้องทรงพระอักษรโดยตรงหลี่หลงหลินครุ่นคิด สั่งให้ซูเฟิ่งหลิงกลับบ้าน ไปนำถ่านกัมมันต์บางส่วนกลับมา“ถ่านกัมมันต์?”ซูเฟิ่งหลิงเผยสีหน้างุนงง “ท่านหมายถึง สิ่งที่พี่สะใภ้รองนำมาทำน้ำตาลอ้อยน่ะหรือ? ที่บ้านมีก็มีจริง แต่มีประโยชน์อะไร?”หลี่หลงหลินร้อนใจ พูดว่า “เจ้าอย่าถามอีกเลย! อย่างไรเสียก็มีประโยชน์มาก!”ซูเฟิ่งหลิงไม่ถามมากอีก รีบกลับไปนำถ่านกัมมันต์มาจากจวนสกุลซูอีกด้านหนึ่งหลี่หลงหลินให้ซุนชิงไต้ช่วยเหลือ นำไข่ขาวออกมา จากนั้นเริ่มกรอกใส่ปากฮ่องเต้หวู่แท้จริงแล้ว ฮ่องเต้หวู่ดื่มน้ำมูลเข้าไปมาก ฟื้นคืนสติกลับมาตั้งนานแล้วเพียงแต่อาเจียนออกไปหลายครั้ง ทำให้ฮ่องเต้หวู่คล้ายถูกสูบพลังไปจนหมด ร่างกายไม่มีแรงหลงเหลือเลยสักนิด เปลือกตาหนักคล้ายถูกกรอกตะกั่วตอนนี้เอง ปากของฮ่องเต้หวู่ถูกบีบเปิดออก กลิ่นคาวของไข่ขาวผสมนมวัว ถูกกรอกเข้ามา“เจ้าเก้า...”“เจ้าลูกอกตัญญู!”“เราใกล้จะตายอยู่แล้ว!”“เจ้าถึงขั้นยังให้เราดื่มของพรรค์นี้!”ภายในใจของฮ่องเต้หวู่ เปี่ยมความไม่พอใจคล้ายมีม้าโคลนหญ้านับหมื่นตัวว
ระหว่างที่ทั้งสองกำลังโต้เถียงกัน พลันมีเสียงอันแผ่วเบาดังขึ้นว่า“ข้าเชื่อใจเจ้าเก้า... สหายเว่ย จงทำตามที่องค์ชายเก้าบอกเถิด”ที่แท้ ฮ่องเต้หวู่ทรงได้สติขึ้นมาเมื่อใดก็ไม่อาจรู้ได้ ทว่าสารพิษในพระวรกายยังไม่จางหายจนหมดสิ้น ยามเปล่งเสียงจึงดูอิดโรย และยังมิอาจลืมพระเนตรได้ง่ายๆเว่ยซวินพลันปีติยินดีจนกลั้นน้ำตาไม่อยู่ คุกเข่าลงเบื้องหน้าพลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “ฝ่าบาท! ทรงฟื้นแล้วหรือพ่ะย่ะค่ะ? ช่างเป็นพรจากสวรรค์ และแรงอำนวยพรของเหล่าบรรพชนโดยแท้! กระหม่อมจะทำตามที่องค์ชายเก้าสั่งทุกประการพ่ะย่ะค่ะ...”กล่าวจบ เว่ยซวินก็รับผงถ่านกัมมันต์จากมือหลี่หลงหลินมาโขลกให้ละเอียด แล้วนำขึ้นถวายให้ฮ่องเต้หวู่เสวย แม้รสชาติจะขื่นขมจนยากกลืนลงคอ แต่ไม่นานนัก พระอาการปวดท้องของฮ่องเต้หวู่ก็บรรเทาลงอย่างเห็นได้ชัด ความอึดอัดในกระเพาะก็บรรเทาไปมากแต่ถึงกระนั้น พระวรกายของฮ่องเต้หวู่ยังคงอ่อนแรง เหมือนจะหลับทุกขณะซุนชิงไต้ตรวจชีพจรอยู่ครู่หนึ่ง จึงเอ่ยด้วยสีหน้าเคร่งเครียด“พิษสารหนูซึมเข้าสู่พระวรกายแล้ว และแผ่ลึกจนถึงจุดที่ยากจะเยียวยา!”หลี่หลงหลินชี้ไปยังถั่วเขียวสดที่เหลือ พล
ฮองเฮาหลู่ถูกกักตัวไว้ในตำหนักบรรทม โดยมีขันทีคนสนิทสองคนของเว่ยซวินเฝ้าอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝันเมื่อหลี่หลงหลินก้าวเข้ามา เว่ยซวินก็พาผู้ติดตามทั้งหมดถอยออกไปทันทีขันทีใหญ่ช่างรู้จักสถานการณ์ในที่อย่างวังหลัง ยิ่งรู้อะไรมากเท่าไร ก็ยิ่งมีโอกาสตายเร็วเท่านั้น!“เจ้าเก้า!”ฮองเฮาหลู่เงยหน้าขึ้น ดวงตาเปล่งประกายมองไปยังหลี่หลงหลิน พร้อมรอยยิ้มบาง “เจ้ามาแล้ว!”ขันทีใหญ่ไม่ได้รังแกนาง ยังคงให้นางรักษาความสง่างามของฮองเฮาไว้อย่างครบถ้วนหลี่หลงหลินพึมพำเบาๆ “ข้าไม่น่ามาเลย!”ฮองเฮาหลู่ดูเหมือนไม่เข้าใจว่าหลี่หลงหลินกำลังหยอกล้อ นางขมวดคิ้วเรียวแน่น “ไม่ว่าเจ้าจะพูดเรื่องอะไร! แต่ในเมื่อเจ้ามาหาข้า เช่นนั้นย่อมหมายความว่าฮ่องเต้หวู่ได้สิ้นพระชนม์แล้ว! พิษได้แสดงฤทธิ์จนเกินเยียวยา!”พิษสารหนูไร้ทางรักษาในเรื่องนี้ ฮองเฮาหลู่มั่นใจเต็มเปี่ยมในสายตานาง ฮ่องเต้หวู่ย่อมต้องสิ้นพระชนม์ไปแล้ว!การที่องค์ชายเก้าเดินทางมาพบนาง เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการเจรจาข้อตกลงแม้ว่าจะเต็มไปด้วยความเสี่ยง!แต่ครั้งนี้ นางเป็นฝ่ายชนะ!ริมฝีปากของฮองเฮาหลู่ยกยิ้มเย็นชา “เจ้าเก้า ข้า
เขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายแห่งการเปลี่ยนแปลงในราชสำนักที่ไม่ชอบมาพากล!เซียวเม่ยเอ๋อร์เดินย่างกรายเข้ามาอย่างอ่อนช้อย อาภรณ์บางเบา นัยน์ตาอันงดงามดั่งดอกท้อแย้มชวนหลงใหลยากถอนตัว “สวามี มีเรื่องใดที่ทำให้ท่านกลัดกลุ้มหรือ?”หลี่จือขมวดคิ้วแน่น “ในวังอาจเกิดเรื่องบางอย่างขึ้น! แต่...มันคือเรื่องอะไรกันแน่! แม้แต่ข้าก็ยังไม่รู้แน่ชัด...”เซียวเม่ยเอ๋อร์โน้มตัวเข้าใกล้ กระซิบเบาๆ ข้างหูของหลี่จือ เสียงอ่อนหวานอ่อนละมุน “แม้สวามีจะไม่รู้ แต่ข้ารู้...”หลี่จือสะดุ้งตื่นตกใจ มองเซียวเม่ยเอ๋อร์ด้วยความตกตะลึง “เจ้ารู้ว่าในวังเกิดอะไรขึ้นอย่างนั้นหรือ? หรือว่ามันจะเป็นแผนการของอาจารย์ของฮ่องเต้? รีบบอกข้ามา เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”เซียวเม่ยเอ๋อร์กล่าวเสียงเบา “เป็นไปได้ว่า ฮ่องเต้หวู่สวรรคตแล้ว!”พรึ่บ...“หลี่จือดุจต้องสายฟ้าฟาด เสียงอึกทึกก้องสะท้านในหัวจนมิอาจตั้งตัวได้เสด็จพ่อสวรรคตแล้วหรือ?นี่...นี่เป็นไปได้อย่างไร!แต่ว่า หากเซียวเม่ยเอ๋อร์กล่าวเช่นนี้ ก็ย่อมหมายความว่าแผนการของอาจารย์ของฮ่องเต้เสิ่นชิงโจวสำเร็จผลแล้ว พวกเขาย่อมได้ยินข่าวลือบางอย่างมาจากที่ใดที่หนึ่ง!“ทำไม...”“
จวนขององค์ชายสี่หลี่จือเงยหน้าหัวเราะลั่น “ฮ่า ฮ่า ฮ่า! เจ้าเก้าสุดท้ายก็ทนไม่ไหว ต้องเรียกกองกำลังเขาทิศประจิมเข้าวังจนได้! ดูเหมือนในวังจะเกิดเรื่องใหญ่จริงๆ! นี่แหละ โอกาสของข้ามาถึงแล้ว!”เซียวเม่ยเอ๋อร์ที่เชื่อฟังและปฏิบัติตามทุกอย่าง พิงอยู่ข้างหลี่จือ พร้อมรอยยิ้มเย้ายวน “นี่เป็นโอกาสดีที่สวรรค์ประทานให้! ข้าขออวยพรให้องค์ชายสี่ได้รับชัยชนะ และขึ้นครองบัลลังก์!”หลี่จือชะงัก “เจ้าจะไม่เข้าวังไปกับข้าหรือ หรือว่าเจ้าไม่อยากเห็นเจ้าเก้าถูกจับกุมและถูกประหารด้วยตาตัวเองหรือ?”เซียวเม่ยเอ๋อร์หัวเราะเบาๆ “ข้าเป็นเพียงสตรี! เรื่องที่ต้องเห็นเลือดขอข้ามเถอะ! ให้ท่านราชครูไปกับท่านแทนเถิด!"หลี่จือพยักหน้าเหตุผลที่เขาอยากให้เซียวเม่ยเอ๋อร์ไปด้วยก็เพราะกองทัพชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือพันนายเหล่านี้ รับคำสั่งจากเซียวเม่ยเอ๋อร์หรือเซียวเซวียนเช่อเท่านั้นในเมื่อเซียวเม่ยเอ๋อร์ไม่ไป เซียวเซวียนเช่อไปก็เหมือนกัน!ยิ่งไปกว่านั้น ราชครูชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือ ยังเป็นคนที่เฉลียวฉลาดและเปี่ยมด้วยเล่ห์กลในช่วงเวลาสำคัญ เขาอาจกลายเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยให้แผนการสำเร็จลุล่วง!หลี่จื
ฮ่องเต้หวู่ฟังเรื่องราวจบลง ก็อดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเย็นเยียบ ความหนาวเหน็บแล่นผ่านทั่วร่าง เลือดในกายราวกับจะแข็งตัว!เว่ยซวินเองก็ตกตะลึงจนพูดไม่ออกที่แท้ เรื่องราวนี้กลับมีเบื้องหลังซับซ้อนถึงเพียงนี้!ทั้งหมดล้วนเป็นแผนการของเสิ่นชิงโจว!แต่เสิ่นชิงโจวแม้จะวางแผนรอบคอบเพียงใด ก็พลาดไปจุดหนึ่งนั่นคือ หลี่หลงหลินสามารถถอนพิษสารหนูได้!ฮ่องเต้หวู่จึงยังไม่สิ้นพระชนม์!“สตรีชั่วช้า!”ฮ่องเต้หวู่ทรงกริ้วจนพระวรกายสั่นสะท้าน “พยุงข้าไปพบนาง! ข้าจะต้องถามนางให้รู้เรื่องต่อหน้า...”สายตาของหลี่หลงหลินพลันวูบไหว ก่อนจะกล่าวเกลี้ยกล่อม “เสด็จพ่อ ตามความเห็นของลูก ตอนนี้ท่านควรหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับฮองเฮาหลู่ไปก่อนจะดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้หวู่ชะงักเล็กน้อย ก่อนจะถามด้วยความไม่เข้าใจ “ทำไมล่ะ? เจ้ากลัวว่าถ้าข้าเห็นนางแล้ว ข้าจะโกรธจนทำร้ายร่างกายตัวเองหรือ? เจ้าวางใจได้ ข้าไม่ได้ใจแคบถึงเพียงนั้น! ข้าเพียงอยากตำหนิสตรีชั่วช้านี่ด้วยตัวเองเท่านั้น...”หลี่หลงหลินรีบอธิบาย “เสด็จพ่อ ลูกไม่ได้หมายความเช่นนั้น! แต่แผนการของเสิ่นชิงโจวนั้นยังไม่จบ ยังมีหมากตัวต่อไป! หากเสด็จพ่อแสร
ไม่นานนักเว่ยซวินนำชามโจ๊กเข้ามา ค่อยๆ ป้อนให้ฮ่องเต้หวู่ทีละนิดฮ่องเต้หวู่เริ่มกลับมามีเรี่ยวแรง สีหน้าดูสดใสมากขึ้น“เจ้าเก้า...”ฮ่องเต้หวู่หันมามองหลี่หลงหลิน “ข้าหมดสติไปนานแค่ไหน?”หลี่หลงหลินตอบ “เพียงหนึ่งคืนพ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้หวู่ตกตะลึง “ที่ข้าถูกวางยาพิษ เป็นพิษสารหนูจริงหรือ?”หลี่หลงหลินตอบ “จริงพ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้หวู่หันไปมองซุนชิงไต้ ดวงตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ “ไม่เสียทีที่ได้ชื่อว่าหมอเทวดาซุน แม้แต่พิษสารหนูที่ไม่มีทางรักษา ยังสามารถถอนพิษได้!”ซุนชิงไต้รีบตอบด้วยความถ่อมตน “ฝ่าบาท หม่อมฉันเองก็จนปัญญากับพิษสารหนูนี้! ทุกสิ่งล้วนต้องยกความดีความชอบให้กับองค์ชายเก้า ที่ใช้วิธีอันเหลือเชื่อหลายอย่างช่วยพระองค์จนฟื้นขึ้นมาได้ หม่อมฉันเองยังรู้สึกทึ่ง! หม่อมฉันยังได้รับการสั่งสอนด้วย!”สีหน้าของฮ่องเต้หวู่พลันมืดครึ้มลงทันทีในความทรงจำที่เลือนราง เขายังคงจำเรื่องราวเมื่อวานได้บางส่วนความเจ็บปวดนั้นช่างรุนแรงยิ่งนัก!จนกระทั่งฮ่องเต้หวู่คิดว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นไม่ใช่ความจริง แต่เป็นประสบการณ์ที่เลวร้ายจากขุมนรกแต่เมื่อซุนชิงไต้กล่าวเช่นนี้ ฮ่องเต้หวู่ก็
ทั้งสองฝ่ายยังคงยืนกรานในขณะนั้นเอง ไม่มีใครสังเกตว่าฮ่องเต้หวู่ซึ่งนอนอยู่บนเตียง เริ่มขนตาสั่นไหวเล็กน้อยที่จริงแล้ว สติสัมปชัญญะของฮ่องเต้หวู่กำลังค่อยๆ ฟื้นคืนเพียงแต่ร่างกายอ่อนแอยิ่งนัก ไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะลืมตาใครกันที่ส่งเสียงโหวกเหวกอยู่ข้างกายข้า?อ้อ ดูเหมือนจะเป็นเว่ยซวินกับเจ้าเก้ากำลังโต้เถียงกัน! ช่างไม่มีมารยาทเอาเสียเลย รบกวนการพักผ่อนคนอื่น!ไม่สิ ข้าไม่ได้ฝันไปนี่นา เหมือนว่าข้าจะถูกวางยา ใช่แล้ว พิษสารหนู!ความทรงจำพลันย้อนกลับมาอย่างรวดเร็ว ฮ่องเต้หวู่ตระหนักได้ทันทีว่าตนเองถูกพิษเล่นงาน!และยิ่งไปกว่านั้น มันคือพิษสารหนูที่ไร้ทางรักษา!ข้าตายแล้วหรือ?เฮ้อ!ข้ายังไม่อยากตายเลย!ทั้งที่ข้าตัดสินใจอย่างยากลำบากว่าจะปฏิรูปแผ่นดินให้รุ่งเรืองยิ่งใหญ่ สร้างยุคสมัยอันรุ่งโรจน์ให้กับต้าเซี่ย เพื่อให้ราษฎรทั้งแผ่นดินได้ใช้ชีวิตอย่างผาสุก ให้เสิ่นชิงโจวผู้ทรยศได้เห็น!แต่สุดท้าย กลับต้องมาถูกพิษสารหนูที่ไร้ทางรักษา!ออกศึกยังไม่ทันสำเร็จ กลับต้องมาสิ้นชีพเสียก่อน!ข้า...ไม่อยากตาย!แต่ยังดี ที่ข้ายังมีลูกชายที่ดี!เจ้าเก้า ภารกิจที่ยังไม่สำเร็จของข
หลี่จือมองไปยังลานกว้างที่เต็มไปด้วยทหารชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือนับพันนายในชุดเกราะถืออาวุธ หัวใจของเขาพลันร้อนรุ่ม!เจ้าหก สิ่งที่เจ้าไม่อาจทำได้!พี่คนนี้จะทำแทนเจ้าเอง!เมื่อพี่ได้ขึ้นเป็นฮ่องเต้ จะออกพระราชโองการ ล้างมลทินให้เจ้าอย่างแน่นอน!ท่านแม่...ลูกคนนี้จะต้องสังหารหลี่หลงหลิน เพื่อแก้แค้นให้ท่านอย่างสาสม!ในความคิดของหลี่จือ ภาพของฉินกุ้ยเฟยและองค์ชายหกหลี่เซวียนผุดขึ้นมาอย่างชัดเจนเขาแทบจะอดใจไม่ไหวที่จะบุกเข้าไปในพระราชวังทันที เพื่อโค่นล้มราชวงศ์และเปลี่ยนแปลงแผ่นดินแต่แล้วหลังจากความตื่นเต้นชั่วครู่ หลี่จือกลับสงบใจลงอย่างฉับพลันบทเรียนที่เคยได้รับมา สอนเขาให้รู้จักระมัดระวังแม้หลี่จือจะโง่เขลาสักเพียงใด แต่การที่เคยพ่ายแพ้ต่อหลี่หลงหลินมานับครั้งไม่ถ้วน เขาจำต้องระมัดระวังอย่างยิ่ง และครุ่นคิดให้รอบคอบทุกครั้งเมื่อเผชิญเหตุการณ์ต่างๆ“อย่าเพิ่งรีบร้อน!”“หลี่หลงหลินผู้นี้ เจ้าเล่ห์เพทุบาย ไร้ยางอายและเต็มไปด้วยเล่ห์กลสารพัด!”“เราควรรอข่าวจากในวังอีกสักหน่อย!”“ยืนยันให้แน่ชัดว่าเสด็จพ่อสิ้นพระชนม์จริงๆ แล้วค่อยลงมือ!”หลี่จือกัดฟันอดทนต่อความอ
เขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายแห่งการเปลี่ยนแปลงในราชสำนักที่ไม่ชอบมาพากล!เซียวเม่ยเอ๋อร์เดินย่างกรายเข้ามาอย่างอ่อนช้อย อาภรณ์บางเบา นัยน์ตาอันงดงามดั่งดอกท้อแย้มชวนหลงใหลยากถอนตัว “สวามี มีเรื่องใดที่ทำให้ท่านกลัดกลุ้มหรือ?”หลี่จือขมวดคิ้วแน่น “ในวังอาจเกิดเรื่องบางอย่างขึ้น! แต่...มันคือเรื่องอะไรกันแน่! แม้แต่ข้าก็ยังไม่รู้แน่ชัด...”เซียวเม่ยเอ๋อร์โน้มตัวเข้าใกล้ กระซิบเบาๆ ข้างหูของหลี่จือ เสียงอ่อนหวานอ่อนละมุน “แม้สวามีจะไม่รู้ แต่ข้ารู้...”หลี่จือสะดุ้งตื่นตกใจ มองเซียวเม่ยเอ๋อร์ด้วยความตกตะลึง “เจ้ารู้ว่าในวังเกิดอะไรขึ้นอย่างนั้นหรือ? หรือว่ามันจะเป็นแผนการของอาจารย์ของฮ่องเต้? รีบบอกข้ามา เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”เซียวเม่ยเอ๋อร์กล่าวเสียงเบา “เป็นไปได้ว่า ฮ่องเต้หวู่สวรรคตแล้ว!”พรึ่บ...“หลี่จือดุจต้องสายฟ้าฟาด เสียงอึกทึกก้องสะท้านในหัวจนมิอาจตั้งตัวได้เสด็จพ่อสวรรคตแล้วหรือ?นี่...นี่เป็นไปได้อย่างไร!แต่ว่า หากเซียวเม่ยเอ๋อร์กล่าวเช่นนี้ ก็ย่อมหมายความว่าแผนการของอาจารย์ของฮ่องเต้เสิ่นชิงโจวสำเร็จผลแล้ว พวกเขาย่อมได้ยินข่าวลือบางอย่างมาจากที่ใดที่หนึ่ง!“ทำไม...”“
ฮองเฮาหลู่ถูกกักตัวไว้ในตำหนักบรรทม โดยมีขันทีคนสนิทสองคนของเว่ยซวินเฝ้าอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝันเมื่อหลี่หลงหลินก้าวเข้ามา เว่ยซวินก็พาผู้ติดตามทั้งหมดถอยออกไปทันทีขันทีใหญ่ช่างรู้จักสถานการณ์ในที่อย่างวังหลัง ยิ่งรู้อะไรมากเท่าไร ก็ยิ่งมีโอกาสตายเร็วเท่านั้น!“เจ้าเก้า!”ฮองเฮาหลู่เงยหน้าขึ้น ดวงตาเปล่งประกายมองไปยังหลี่หลงหลิน พร้อมรอยยิ้มบาง “เจ้ามาแล้ว!”ขันทีใหญ่ไม่ได้รังแกนาง ยังคงให้นางรักษาความสง่างามของฮองเฮาไว้อย่างครบถ้วนหลี่หลงหลินพึมพำเบาๆ “ข้าไม่น่ามาเลย!”ฮองเฮาหลู่ดูเหมือนไม่เข้าใจว่าหลี่หลงหลินกำลังหยอกล้อ นางขมวดคิ้วเรียวแน่น “ไม่ว่าเจ้าจะพูดเรื่องอะไร! แต่ในเมื่อเจ้ามาหาข้า เช่นนั้นย่อมหมายความว่าฮ่องเต้หวู่ได้สิ้นพระชนม์แล้ว! พิษได้แสดงฤทธิ์จนเกินเยียวยา!”พิษสารหนูไร้ทางรักษาในเรื่องนี้ ฮองเฮาหลู่มั่นใจเต็มเปี่ยมในสายตานาง ฮ่องเต้หวู่ย่อมต้องสิ้นพระชนม์ไปแล้ว!การที่องค์ชายเก้าเดินทางมาพบนาง เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการเจรจาข้อตกลงแม้ว่าจะเต็มไปด้วยความเสี่ยง!แต่ครั้งนี้ นางเป็นฝ่ายชนะ!ริมฝีปากของฮองเฮาหลู่ยกยิ้มเย็นชา “เจ้าเก้า ข้า
ระหว่างที่ทั้งสองกำลังโต้เถียงกัน พลันมีเสียงอันแผ่วเบาดังขึ้นว่า“ข้าเชื่อใจเจ้าเก้า... สหายเว่ย จงทำตามที่องค์ชายเก้าบอกเถิด”ที่แท้ ฮ่องเต้หวู่ทรงได้สติขึ้นมาเมื่อใดก็ไม่อาจรู้ได้ ทว่าสารพิษในพระวรกายยังไม่จางหายจนหมดสิ้น ยามเปล่งเสียงจึงดูอิดโรย และยังมิอาจลืมพระเนตรได้ง่ายๆเว่ยซวินพลันปีติยินดีจนกลั้นน้ำตาไม่อยู่ คุกเข่าลงเบื้องหน้าพลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “ฝ่าบาท! ทรงฟื้นแล้วหรือพ่ะย่ะค่ะ? ช่างเป็นพรจากสวรรค์ และแรงอำนวยพรของเหล่าบรรพชนโดยแท้! กระหม่อมจะทำตามที่องค์ชายเก้าสั่งทุกประการพ่ะย่ะค่ะ...”กล่าวจบ เว่ยซวินก็รับผงถ่านกัมมันต์จากมือหลี่หลงหลินมาโขลกให้ละเอียด แล้วนำขึ้นถวายให้ฮ่องเต้หวู่เสวย แม้รสชาติจะขื่นขมจนยากกลืนลงคอ แต่ไม่นานนัก พระอาการปวดท้องของฮ่องเต้หวู่ก็บรรเทาลงอย่างเห็นได้ชัด ความอึดอัดในกระเพาะก็บรรเทาไปมากแต่ถึงกระนั้น พระวรกายของฮ่องเต้หวู่ยังคงอ่อนแรง เหมือนจะหลับทุกขณะซุนชิงไต้ตรวจชีพจรอยู่ครู่หนึ่ง จึงเอ่ยด้วยสีหน้าเคร่งเครียด“พิษสารหนูซึมเข้าสู่พระวรกายแล้ว และแผ่ลึกจนถึงจุดที่ยากจะเยียวยา!”หลี่หลงหลินชี้ไปยังถั่วเขียวสดที่เหลือ พล
ของสามอย่างที่หลี่หลงหลินต้องการกลับหาไม่ยากเว่ยซวินสั่งคนให้ส่งมายังห้องทรงพระอักษรโดยตรงหลี่หลงหลินครุ่นคิด สั่งให้ซูเฟิ่งหลิงกลับบ้าน ไปนำถ่านกัมมันต์บางส่วนกลับมา“ถ่านกัมมันต์?”ซูเฟิ่งหลิงเผยสีหน้างุนงง “ท่านหมายถึง สิ่งที่พี่สะใภ้รองนำมาทำน้ำตาลอ้อยน่ะหรือ? ที่บ้านมีก็มีจริง แต่มีประโยชน์อะไร?”หลี่หลงหลินร้อนใจ พูดว่า “เจ้าอย่าถามอีกเลย! อย่างไรเสียก็มีประโยชน์มาก!”ซูเฟิ่งหลิงไม่ถามมากอีก รีบกลับไปนำถ่านกัมมันต์มาจากจวนสกุลซูอีกด้านหนึ่งหลี่หลงหลินให้ซุนชิงไต้ช่วยเหลือ นำไข่ขาวออกมา จากนั้นเริ่มกรอกใส่ปากฮ่องเต้หวู่แท้จริงแล้ว ฮ่องเต้หวู่ดื่มน้ำมูลเข้าไปมาก ฟื้นคืนสติกลับมาตั้งนานแล้วเพียงแต่อาเจียนออกไปหลายครั้ง ทำให้ฮ่องเต้หวู่คล้ายถูกสูบพลังไปจนหมด ร่างกายไม่มีแรงหลงเหลือเลยสักนิด เปลือกตาหนักคล้ายถูกกรอกตะกั่วตอนนี้เอง ปากของฮ่องเต้หวู่ถูกบีบเปิดออก กลิ่นคาวของไข่ขาวผสมนมวัว ถูกกรอกเข้ามา“เจ้าเก้า...”“เจ้าลูกอกตัญญู!”“เราใกล้จะตายอยู่แล้ว!”“เจ้าถึงขั้นยังให้เราดื่มของพรรค์นี้!”ภายในใจของฮ่องเต้หวู่ เปี่ยมความไม่พอใจคล้ายมีม้าโคลนหญ้านับหมื่นตัวว