หลี่จือและเซียวเม่ยเอ๋อร์มาถึงห้องทรงพระอักษร คุกเข่าคารวะ “ลูก ถวายบังคมเสด็จพ่อ!”ฮ่องเต้หวู่ขมวดคิ้ว “ลุกขึ้นเถอะ!”เขาปฏิบัติต่อหลี่จือ อย่างมีอคติมาโดยตลอดองค์หญิงชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือคนนี้ ฮ่องเต้หวู่ชอบไม่ลงเลยแม้แต่น้อยฮ่องเต้หวู่ตัดสินใจอย่างว่องไวเช่นนี้ ให้พวกเขาเข้าเฝ้า ก็เพราะมีแผนของตน“เจ้าสี่!”ฮ่องเต้หวู่ทอดสายตามองหลี่จือ เปล่งเสียงแผ่วเบา “เรื่องเจ้าเก้าถูกลอบสังหาร เจ้าได้ยินแล้วหรือไม่?”หลี่จือพยักหน้าเร็วรี่ “ทูลเสด็จพ่อ ลูกได้ยินแล้วพ่ะย่ะค่ะ”สีหน้าฮ่องเต้หวู่เข้มขึ้น ตวาดเสียงเฉียบ! “ได้ยิน? ทั้งๆ ที่เจ้าส่งมือสังหารไป ลอบสังหารเจ้าเก้า! อยู่ต่อหน้าเรา เจ้าเสแสร้งเลอะเลือนอะไร!”หลี่จือคิดไม่ถึงเลยว่าเพียงเอ่ยปากไม่เข้าหูคำเดียว เสด็จพ่อก็เปลี่ยนสีหน้าแล้ว ตกใจจนขาสองข้างอ่อนยวบ คุกเข่ากับพื้น เปล่งเสียงสั่นๆ “เสด็จพ่อ ไม่ใช่ลูกจริงๆ! ลูกไม่ได้ส่งมือสังหาร ไปลอบสังหารเจ้าเก้าจริงๆ พ่ะย่ะค่ะ!”“ลูกถูกปรักปรำ!”สายตาฮ่องเต้หวู่ตกลงบนตัวเซียวเม่ยเอ๋อร์ ยิ้มเย็น “ไม่ใช่เจ้าสี่ เช่นนั้นก็เป็นเรื่องดีที่พวกเจ้าชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือทำแล้ว!”เซ
“ท่านอาจารย์!”ในวันนี้ จางอี้ผู้มีหน้าที่การงานก้าวหน้า ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นรองผู้บัญชาการกองกำลังองครักษ์เสื้อแพร แต่ก็ยังไม่ลืมความเคารพอาจารย์ โดยเฉพาะซูเฟิ่งหลิงจางอี้ทั้งเคารพและเกรงกลัว รีบก้าวเข้าไปพร้อมคารวะอย่างนอบน้อมซูเฟิ่งหลิงพยักหน้าเล็กน้อย “วันนี้มีใครที่ดูน่าสงสัย เข้าออกเมืองหลวงบ้างหรือไม่?”จางอี้ตอบ “ศิษย์ได้ทำการตรวจตราอย่างเข้มงวด แต่ไม่พบผู้ใดน่าสงสัยเลยขอรับ! เพียงแต่ว่า...มีคนจากชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือจำนวนไม่น้อย ซึ่งได้รับราชโองการจากฝ่าบาท เพิ่งออกจากเมืองหลวงไปหมาดๆ! พวกเขาใช้รถม้าหลายคัน ข้าเองก็ไม่รู้ว่าพวกเขาทำอะไร แต่ดูแล้วช่างแปลกนัก”ซูเฟิ่งหลิงถึงกับตกใจ “เจ้าว่าอะไรนะ? คนของชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือขับรถม้ามากมายออกจากเมืองหลวงอย่างนั้นหรือ? แล้วเจ้าตรวจดูรถม้าเหล่านั้นหรือไม่?”จางอี้ถอนหายใจด้วยความจนใจ “พวกเขามีราชโองการของฝ่าบาท อีกทั้งเป็นทูต ข้าเป็นแค่รองผู้บัญชาการกองกำลังองครักษ์เสื้อแพร จะกล้าเข้าไปตรวจค้นได้อย่างไร? อีกอย่าง ข้าก็ได้ไปขอคำสั่งจากเว่ยกงกงแล้ว เขาบอกว่าให้ปล่อยผ่านไป!”สีหน้าของซูเฟิ่งหลิงเปลี่ยนไปอย่างมาก นา
บาดแผลของหลี่หลงหลินปวดแปลบขึ้นมา ทำให้เขากลับมาสงบและมีสติอีกครั้ง“จางอี้!”หลังจากเงียบคิดอยู่ครู่หนึ่ง หลี่หลงหลินจึงเอ่ยขึ้นมา “เจ้าบรรยายสถานการณ์ตอนที่เหยลวี่เกอออกจากเมืองให้ข้าฟังให้ละเอียดที่สุดเท่าที่จะทำได้...”จางอี้รู้สึกแปลกใจไม่น้อยองค์ชายเก้าไม่ใช่กำลังเป็นห่วงซูเฟิ่งหลิงอยู่หรือ? แล้วเหตุใดถึงกลับมาถามเรื่องตอนที่เหยลวี่เกอออกจากเมืองแทน?อย่างไรก็ตาม เขายังคงบรรยายทุกอย่างตามความจริงโดยละเอียดให้หลี่หลงหลินฟังดวงตาของหลี่หลงหลินเป็นประกายวูบหนึ่ง “เจ้าหมายความว่า... ตอนที่เหยลวี่เกอออกจากเมือง เขาทำตัวโอ้อวดใหญ่โต เดินขบวนอย่างไม่เกรงกลัวใคร แถมยังทำท่าทางเหมือนอยากให้ทุกคนรู้หรือ?”จางอี้พยักหน้ารัวๆ พลางเอ่ยด้วยความโกรธ “ใช่ขอรับ! ไอ้พวกเผ่าหมานนั่น หยิ่งผยองอะไรนักหนา!”หลี่หลงหลินยิ้ม “ไม่เลว! วันใดที่ข้ากรีธาทัพนับหมื่นบุกไปเหยียบท้องพระโรงของฮ่องเต้ชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือ ข้าจะทำให้พวกเขาร้องไห้จนไม่มีน้ำตาให้ไหล!”ความจริงแล้ว เมื่อครู่หลี่หลงหลินเองก็รู้สึกแปลกใจอยู่ไม่น้อยต่อให้ชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือมีราชโองการจากฝ่าบาทที่อนุญาตให้ออก
หลังจากที่เหยลวี่เกอพักฟื้นมาได้หลายเดือน บาดแผลบนร่างกายของเขาหายดีแล้ว แต่เมื่อเดินยังคงกะโผลกกะเผลกอยู่ด้วยเหตุนี้เหยลวี่เกอจึงโกรธแค้นซูเฟิ่งหลิงจนสุดเข้ากระดูก ดวงตาคู่นั้นฉายประกายอันตรายออกมา“โจรภูเขา?”ซูเฟิ่งหลิงหัวเราะเยาะเย้ย “ช่างน่าขันเสียจริง! เจ้าซึ่งเป็นถึงยอดนักรบอันดับหนึ่งของชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือ กลัวโจรภูเขาอย่างนั้นหรือ! ที่สำคัญ แถวใกล้เมืองหลวงเช่นนี้ จะมีโจรภูเขาได้อย่างไร? ข้าว่า เจ้านั่นแหละที่ทำผิดแล้วรู้สึกผิดเอง!”เหยลวี่เกอเลิกคิ้วสูง “พวกเราทำตามพระราชโองการของฝ่าบาท!” ซูเฟิ่งหลิงจ้องมองเหยลวี่เกอ “อย่าเอาพระราชโองการของฝ่าบาทมาข่มขู่ข้า! ตอนนี้ ข้าสงสัยว่าบนรถของพวกเจ้า กำลังซ่อนตัวนักฆ่าอยู่!”“ทหาร!”“ตรวจค้นให้ข้า!”เหล่าทหารแห่งเขาทิศประจิมที่เฝ้ารอจนแทบทนไม่ไหว ได้กรูกันเข้าไปทันทีเหล่าทหารของชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือก็ไม่ได้เป็นเพียงพวกที่กินแรงเปล่า พวกเขาจะยอมมอบตัวโดยดีได้อย่างไร?ทหารแต่ละคนชักดาบโค้งออกมา ใบหน้าเต็มไปด้วยความดุดัน ในเวลาเพียงเสี้ยวอึดใจ บรรยากาศระหว่างทั้งสองฝ่ายตึงเครียดถึงขีดสุด จวนเจียนจะกลายเป็นการส
“น่าโมโหชะมัด!”ซูเฟิ่งหลิงเตะประตูพรวดพราดเข้ามา คว้าถ้วยชาจากมือของหลี่หลงหลิน และดื่มรวดเดียวจนหมด“นี่มันชาบ้าอะไร!”“ขมแบบนี้!”ซูเฟิ่งหลิงดื่มหมดในรวดเดียวก่อนจะแลบลิ้นออกมา ขมจนต้องแลบลิ้น พร้อมกับสูดลมเข้าลึกๆ หลายครั้งหลี่หลงหลินได้แต่บ่นอยู่ในใจชาอะไรกัน นั่นมันยาของข้าเอาเถอะ ดื่มยาไปก็ดี ช่วยดับไฟโทสะได้หน่อย“น่าโมโหชะมัด!”ซูเฟิ่งหลิงเห็นหลี่หลงหลินเงียบขรึมไม่พูดอะไร ก็ยิ่งโกรธจนกระโดดโหยง “ทำไมเจ้าไม่ถามข้าว่าเกิดอะไรขึ้น?”หลี่หลงหลินยักไหล่เล็กน้อย “มีอะไรให้น่าถาม? ก็แค่รถม้าเปล่า พวกชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือไม่ได้ลอบขนเสบียงออกไปเลย”ตั้งแต่ซูเฟิ่งหลิงก้าวเข้ามา หลี่หลงหลินก็ยืนยันความคิดของตัวเองได้แล้วเด็กสาวคนนี้ มองท่าทางโกรธเช่นนี้ก็รู้ว่าถูกหยามจนเสียหน้าไม่น้อยแน่ซูเฟิ่งหลิงยืนอึ้งอยู่กับที่ มองหลี่หลงหลินด้วยสีหน้าราวกับเห็นผี เสียงของนางสั่นไหว “เจ้า...เจ้ารู้ได้ยังไง?”หลี่หลงหลินถอนหายใจ “มันไม่ชัดเจนหรือไง? ถึงพวกชนเผ่าป่าเถื่อนจะโง่แค่ไหน ก็ไม่มีทางใช้วิธีที่เห็นชัดขนาดนี้ในการลอบขนเสบียงออกจากเมืองหลวง! เจ้านั่นแหละ โดนกลอุบายล่อเ
หลี่หลงหลินสีหน้าจริงจังขึ้น “ไม่มีเลยสักเม็ดจริงหรือ?”ซูเฟิ่งหลิงขมวดคิ้ว “ไม่มีจริงๆ! เจ้าคงจะเข้าใจอะไรผิดแล้ว! คนที่ขโมยเสบียงไป อาจจะไม่ใช่องค์ชายสี่ก็ได้”หลี่หลงหลินหัวเราะเย็นชา “ตรงกันข้ามเลย! ข้ามั่นใจว่าหลายสิ่งหลายอย่างนี้เกี่ยวข้องกับชนเผ่าป่าเถื่อนทางเหนือและองค์ชายสี่อย่างแน่นอน! และเสบียงเหล่านั้น ก่อนหน้านี้ก็ถูกซ่อนอยู่ในจวนขององค์ชายสี่!”ซูเฟิ่งหลิงมีสีหน้างุนงง กล่าวอย่างไม่เข้าใจ “ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น?”หลี่หลงหลินอธิบาย “เหตุผลง่ายมาก! จวนขององค์ชายสี่มีคนอยู่กี่คนในแต่ละวัน ทั้งกิน ทั้งดื่ม ทั้งขับถ่าย? ไม่ถึงพัน ก็ต้องมีแปดร้อยใช่หรือไม่?”ซูเฟิ่งหลิงพยักหน้าเห็นด้วยองค์ชายสี่ไม่เหมือนหลี่หลงหลิน ที่เป็นคนโดดเดี่ยว อยู่ในจวนตระกูลซูแบบสภาพต้องพึ่งพาอาศัยผู้อื่น ข้างกายไม่แม้แต่จะมีสาวใช้หรือนายบ่าวสักคนชีวิตขององค์ชายสี่หรูหราและฟุ่มเฟือยยิ่งนัก ภายในจวนเต็มไปด้วยคนรับใช้และสาวใช้จำนวนมาก ซึ่งนับรวมแล้วมีหลายร้อยคนเลยทีเดียวคนจำนวนมากเช่นนี้ ทั้งอาหาร การแต่งกาย และของใช้ ย่อมต้องเป็นจำนวนที่น่าตกใจหลี่หลงหลินหัวเราะเย็นชาและกล่าวต่อ “ช่วงที่ผ่านมา
ในช่วงหลายวันถัดมาซูเฟิ่งหลิงทุ่มเทกำลังกายและใจในการค้นหาเบาะแสภายในเมืองหลวงภายใต้คำแนะนำของหลี่หลงหลิน นางได้กลับไปตรวจสอบยุ้งฉางและคลังเก็บเสบียงที่เคยค้นมาก่อนหน้านี้อีกครั้ง เพื่อหลีกเลี่ยงการมองข้ามจุดสำคัญแต่การตรวจสอบเพียงครั้งเดียวไม่พอ ผ่านไปไม่กี่วันก็ตรวจสอบซ้ำอีกครั้ง การกระทำเช่นนี้ย่อมสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนบ้างอย่างไรก็ตาม ชาวบ้านไม่ได้ต่อต้าน กลับให้การสนับสนุนเป็นอย่างดีเพราะหลี่หลงหลินได้ทำการปรับลดราคาข้าว ทำให้ประชาชนสามารถซื้อข้าวกินได้ในราคาที่จับต้องได้ ความดีนี้ทำให้ชื่อเสียงของเขาในหมู่ประชาชนพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นที่ยกย่องอย่างไม่เคยมีมาก่อนเมื่อชาวบ้านได้ยินว่าหลี่หลงหลินถูกลอบสังหารจนบาดเจ็บหนัก พวกเขาต่างเดือดดาลด้วยความโกรธแค้น ส่งของพื้นบ้านอย่างไข่ไก่ น้ำผึ้ง และหมูแห้งมาให้เขา หวังให้เขาหายดีในเร็ววันด้วยเหตุนี้ ชาวบ้านในเมืองหลวงจึงปรารถนาให้ผู้ลอบสังหารถูกจับตัวได้ในเร็ววัน เพื่อนำตัวมาลงโทษตามกฎหมายผู้ที่ลำบากใจอย่างแท้จริงและแสดงการคัดค้านอย่างรุนแรงกลับเป็นเหล่าชนชั้นสูงและขุนนางพวกเขาครอบครองทรัพย์สมบัติมหาศา
“เดี๋ยวจะมีแขกสำคัญมาที่จวน ในครัวกำลังเตรียมอาหารอยู่ เจ้าไปหาอะไรกินก่อนเถอะ”ลั่วอวี้จู๋ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่ดวงตาจะสว่างวาบขึ้นอาหาร เป็นสุดยอดวิธีที่ไม่พลาดในการจัดการกับซุนชิงไต้เสมอ“ได้เลย!”ซุนชิงไต้ส่งหลี่หลงหลินให้ลั่วอวี้จู๋ดูแล จากนั้นก็วิ่งกระโดดโลดเต้นออกไปอย่างร่าเริงลั่วอวี้จู๋ก้าวเข้ามาพยุงหลี่หลงหลิน ร่างกายของนางแนบชิดเขา ใบหน้างามของนางค่อยๆ แดงขึ้น“พี่สะใภ้ใหญ่”“เกิดอะไรขึ้นหรือ?”“ทำไมดูเหมือนเจ้ากังวลใจนัก?”หลี่หลงหลินมองออกถึงความไม่สบายใจของลั่วอวี้จู๋ จึงถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนลั่วอวี้จู๋ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดออกมาเบาๆ คล้ายเสียงยุง “ท่านพ่อของข้าจะมาที่จวนตระกูลซู...”หลี่หลงหลินเข้าใจในทันที “ที่เจ้าว่าแขกคนสำคัญเมื่อครู่นี้ ก็คือนายท่านผู้เฒ่าลั่วหรือ? มาก็ไม่เห็นเป็นไรนี่! หากข้าไม่ได้บาดเจ็บ ข้าคงได้ดื่มเหล้ากับเขาสักสองสามจอก! เจ้ามากังวลเรื่องอะไร?”ลั่วอวี้จู๋ถอนหายใจยาว สีหน้าเต็มไปด้วยความโศกเศร้าและอัดอั้น “องค์ชาย ท่านไม่เข้าใจหรอก! แท้จริงแล้ว ตั้งแต่ข้าแต่งเข้าตระกูลซูมา ความสัมพันธ์ระหว่างข้ากับท่านพ่อก็ไม่ค่อยดี!
“ตงอิ๋ง? ก็แค่แคว้นเล็กๆ เท่านั้น ไม่ควรค่าให้เอ่ยถึง!”สายตาหลี่หลงหลินเผยแววหมิ่นแคลน“ตงอิ๋งเล็กๆ เป็นเพียงเกาะแห่งหนึ่งเท่านั้น เดิมทีก็ไม่คู่ควรต่อคำว่าทวีปใหม่สองคำนี้”ทุกคนตกตะลึงภายในความรู้ของเหล่าสะใภ้ ตงอิ๋งก็คือจุดสิ้นสุดของมหาสมุทรอันเวิ้งว้าง เหนือตงอิ๋งก็ไม่มีอันใดอีกคำพูดของหลี่หลงหลินทำให้ความรู้ที่พวกนางมีอยู่เปลี่ยนไปทั้งหมด!กงซูหว่านพูดเสียงสั่นๆ “องค์ชาย ความนัยของท่านคือนอกจากตงอิ๋งแล้วยังมีทวีปใหญ่อีกหรือ?”หลี่หลงหลินพยักหน้าและพูดว่า “ไม่เพียงมีทวีปใหญ่ แต่ยังเป็นดินแดนอันอุดมสมบูรณ์อย่างมากอีกด้วย!”พูดไป สายตาหลี่หลงหลินก็ทอดมองไปยังทิศทางหนึ่งกงซูหว่านพูดด้วยความแปลกใจ “อุดมสมบูรณ์อย่างมาก? อุดมสมบูรณ์มากเพียงใด เทียบกับต้าเซี่ยแล้วเป็นเช่นไร?”สายตาทุกคนล้วนเปี่ยมความแปลกใจ วางตะเกียบและชามข้าวในมือลงรับฟังหลี่หลงหลินเล่าเรื่องทวีปใหม่เงียบๆหลี่หลงหลินส่ายหน้าและพูดว่า “แผ่นดินต้าเซี่ยกว้างใหญ่และอุดมสมบูรณ์ มีผลผลิตและทรัพยากรมากมาย เป็นดินแดนอันอุดมสมบูรณ์แห่งหนึ่ง แต่ทวีปใหม่มีที่ราบมาก แผ่นดินอันอุดมสมบูรณ์ทอดยาวนับพันลี้ ทุกหนแห่งล้วนค
น้ำ...น้ำ!หลิ่วหรูเยียนถูกความเผ็ดทำให้หน้าแดงก่ำ มุกเหงื่อผุดพราวเต็มหน้าผาก ทำให้ผิวพรรณขาวดุจหิมะถูกแต้มด้วยสีแดงเรื่อหลี่หลงหลินยื่นน้ำเย็นที่เตรียมไว้ดีแล้วให้หลิ่วหรูเยียนหลิ่วหรูเยียนดื่มลงไปหนึ่งอึก จากนั้นเอ่ยปากชม “องค์ชาย! อร่อยเหลือเกิน หม่อมฉันไม่เคยกินของอร่อยถึงเพียงนี้มาก่อนเลย มีความสุขยิ่งนัก!”เวลาเพียงชั่วพริบตา หัวปลาจานใหญ่ก็หายไปจนหมดเหล่าสะใภ้แต่ละคนหน้าแดงก่ำ เหงื่อเม็ดเล็กผุดพราวเต็มศีรษะ ปอยผมติดบนหน้าผาก ขับให้ดูมีเสน่ห์มากเป็นพิเศษซูเฟิ่งหลิงถูกความเผ็ดทำให้ริมฝีปากแดงเจ่อ ความสงสัยที่มีต่อหลี่หลงหลินเมื่อครู่มลายหายไปราวกับหมอกผ่านตาซุนชิงไต้ยกชามข้าว จับจ้องหลี่หลงหลินและเอ่ยถาม “องค์ชาย ยังมีหัวปลาอีกหรือไม่ เมื่อครู่กินเร็วเกินไป ยังไม่รู้รสเพคะ”หลี่หลงหลินเผยสีหน้าเอือมระอาพี่สะใภ้สามคิดว่ากำลังกินโสมกระมัง จึงกินได้ไม่รู้รสก็แค่ตะกละเท่านั้นหลี่หลงหลินพยักหน้าและตอบว่า “พี่สะใภ้สาม ท่านวางใจได้ หากท่านชอบ ภายภาคหน้าจะทำให้พวกพี่สะใภ้กินจนพอใจ!”ซุนชิงไต้เผยสีหน้าดีใจ คีบผลสีแดงเข้าปาก จากนั้นถูกความเผ็ดทำให้หน้าบิดเบี้ยว แต่นาง
ที่ต้าเซี่ย นับตั้งแต่โบราณมาไม่คุ้นชินกับการกินหัวปลา ปกติแล้วจะตัดหัวตัดหางเลือกเพียงลำตัว หัวปลาย่อมถูกทิ้งไปแต่บัดนี้หลี่หลงหลินถึงขั้นนำหัวปลาที่เหลือมาทำอาหารหนึ่งชนิดทำให้ทุกคนรู้สึกเหลือจะเชื่ออยู่บ้างยิ่งไปกว่านั้นหัวปลาหวงฮื้อใหญ่ยังมีขนาดใหญ่มาก ขนาดเล็กที่สุดก็ราวฝ่ามือ มองดูแล้วน่ากลัว ชนิดที่ว่าทำให้คนรู้สึกขนหัวลุกอยู่บ้างเหล่าสะใภ้ตกใจจนใบหน้างดงามเผือดซีดนิ้วเรียวยาวของซูเฟิ่งหลิงปิดปากไว้ อุทานออกมาด้วยความตกตะลึง “องค์ชาย เจ้าสิ่งนี้กินเยี่ยงไร? มองดูแล้วน่ากลัวมากเหลือเกิน!”ลั่วอวี้จู๋เผยสีหน้าลำบากใจ “หัวปลานี้กินได้แน่หรือ?”ตอนนี้ทุกคนไม่เพียงสงสัยหลี่หลงหลิน แต่ยังสงสัยต่อหัวปลานี้หลี่หลงหลินหัวเราะเบาๆ “ปลาหวงฮื้อล้ำค่าทั้งตัว หัวปลาย่อมสามารถกินได้ ไม่เพียงแค่นี้ หัวปลายังเป็นส่วนที่มีคุณค่าทางอาหารมากที่สุด!”“จริงหรือ?” ซูเฟิ่งหลิงยังสงสัยดังเดิม ในสายตาของนาง หลี่หลงหลินกำลังปลอบตน ต้องการเห็นเรื่องตลกของตนซุนชิงไต้มองซูเฟิ่งหลิงด้วยสีหน้าจริงจังและเปล่งเสียงเคร่งขรึม “องค์ชายไม่พูดความเท็จ หัวปลาหวงฮื้อใหญ่นี้กินได้จริงๆ ยิ่งไปกว่านั้นยัง
ลั่วอวี้จู๋พูดอยู่ทางด้านข้าง “ใช่แล้ว องค์ชาย เรื่องเหล่านี้ยกให้สะใภ้สามเถอะเพคะ”หลี่หลงหลินกลับยืดอกตรงดุจต้นไผ่ พูดเสียงเรียบๆ ว่า “พวกพี่สะใภ้วางใจก็พอ ถึงตอนนั้นจะต้องถูกปากพวกพี่สะใภ้แน่”.....พลบค่ำเหล่าสะใภ้และซูเฟิ่งหลิงรอในห้องอาหารนานแล้ว ล้วนแปลกใจตกลงหลี่หลงหลินจะนำความแปลกใจอันใดมาอีกแต่ไหนแต่ไรมาหลี่หลงหลินไม่เคยทำให้ทุกคนผิดหวัง เรื่องที่เขาทำล้วนไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่ก็แปลกใหม่ไม่เหมือนผู้ใดสองมือของซูเฟิ่งหลิงยกขึ้นเท้าคาง คนหิวแทบแย่ “ก็ไม่รู้ว่าองค์ชายเล่นพิเรนทร์อันใดอีก จะต้องลงมือเข้าครัวด้วยตนเองให้ได้ สำคัญที่สุดคือองค์ชายทำอาหารเป็นแน่หรือ?”ซูเฟิ่งหลิงรู้จักหลี่หลงหลินดีมาก แม้พูดว่าฉลาดหลักแหลม แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเชี่ยวชาญทุกอย่าง ยิ่งไปกว่านั้นนับตั้งแต่เกิดก็มีคนคอยปรนนิบัติ จนกระทั่งตอนนี้ก็ไม่เคยมีเรื่องให้กังวล น่ากลัวว่าแม้แต่ประตูห้องครัวก็ไม่เคยเฉียดเข้าไป นับประสาอะไรกับฆ่าปลาทำอาหารเล่า?ซูเฟิ่งหลิงส่ายหน้า สีหน้าหมดอาลัยตายอยาก “ดูท่าแล้ว คืนนี้ข้าจะต้องหิวตาย”ลั่วอวี้จู๋อ่านความคิดของซูเฟิ่งหลิงออกจึงเอ่ยปลอบ “น้องหญิงเล็ก ผ
หลังผ่านไปหนึ่งชั่วยามหลี่หลงหลินเปิดฝาโอ่งน้ำใหญ่ด้วยใบหน้าลึกลับเหล่าสะใภ้ต่างคาดหวัง เตรียมเป็นพยานความอัศจรรย์ซี้ด!ไอเย็นเสียดแทงกระดูกสายหนึ่งส่งเข้ามา ทำให้เหล่าสะใภ้ไม่เพียงตัวสั่น ภาพเบื้องหน้ายังชวนให้คนตกตะลึงพรึงเพริด!มองเห็นน้ำในโอ่งน้ำใหญ่ทั้งหมดกลายเป็นก้อนน้ำแข็ง เย็นจนคนรู้สึกหนาว!ทุกคนกลับหายใจเย็นเฮือกหนึ่ง หันมองทางหลี่หลงหลินด้วยสายตาตกตะลึงพรึงเพริด สีหน้าเผือดซีด!ใบหน้ากงซูหว่านล้วนคือความตกตะลึง ในสายตาของนางหลี่หลงหลินไม่ต่างอันใดจากตำนานเสกหินให้เป็นทอง เพียงใช้เกลือหมางเซียวก็สามารถทำให้น้ำกลายเป็นน้ำแข็งได้แล้วหรือ? นี่เหลือจะเชื่อเกินไปแล้ว!กงซูหว่านเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ “องค์ชาย นี่ทำได้เยี่ยงไร? นี่หรือว่าเป็นวิชาเซียนจริง?”หลี่หลงหลินหยิบถุงเกลือหมางเซียวในมือออกมาและพูดว่า “ตอนผสมเกลือหมางเซียวนี้กับน้ำจะสามารถดูดความร้อนมหาศาลได้ สามารถทำให้อุณหภูมิลดลงจนเหลือศูนย์องศา ดังนั้นภายใต้สถานการณ์เช่นนี้น้ำย่อมกลายเป็นน้ำแข็ง”หลี่หลงหลินไม่ปกปิด เล่าหลักการทั้งหมดให้กงซูหว่านฟัง อย่างไรเสียภายภาคหน้ายังต้องการให้มีคนไปสอนราษฎร์ตงไห่ทำน้ำแข็
ทุกคนล้วนตกตะลึง ไม่เคยได้ยินมาก่อน ทั้งยังไม่เคยพบเห็นแต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยได้ยินผู้ใดเอ่ยถึงเจ้าสิ่งนี้ซูเฟิ่งหลิงแปลกใจอยู่บ้าง “องค์ชาย เหตุใดคนสามารถทำน้ำแข็งได้เล่า? ไม่ใช่ขุดมาจากพื้นที่หนาวแดนเหนือหรอกหรือ หรือว่าสามารถทำให้อุณหภูมิของตงไห่ลดลงได้?”ซูเฟิ่งหลิงรู้ว่าน้ำแข็งเป็นผลผลิตของฤดูหนาว แต่นางนึกไม่ออกว่าคนทำน้ำแข็งที่หลี่หลงหลินพูดคือสถานการณ์เช่นไร ในสายตานางมันเป็นเรื่องเพ้อฝัน และไม่มีวันเป็นจริงได้หลี่หลงหลินยิ้มน้อยๆ และพูดว่า “อีกเดี๋ยวเจ้าจะได้รู้”ทุกคนมองหลี่หลงหลินด้วยสายตาตกตะลึง คิดว่าเขาอาจเป็นเทพเซียนกลับชาติมาเกิด หาไม่แล้วจะทำเรื่องชวนให้คนรู้สึกเหลือจะเชื่อได้เยี่ยงไร?หลี่หลงหลินมองซุนชิงไต้และพูดว่า “พี่สะใภ้สาม ไม่รู้ท่านที่นั่นมีเกลือหมางเซียวหรือไม่?”เกลือหมางเซียวหรืออีกชื่อคือดินประสิว เป็นของสำคัญที่หลี่หลงหลินใช้รักษาโรคอยู่ที่ต้าเซี่ย เกลือหมางเซียวมิใช่ของหายาก เพียงแต่ถูกคนนำมาทำเป็นยาระบายขับพิษ ชนิดที่ว่ามีคนนำไปให้สัตว์ใช้แรงกิน สามารถเพิ่มความแข็งของเปลือกไข่ในสัตว์ปีกได้ สามารถพบเห็นได้ทั่วไปและราคาถูกมากซุนชิงไต้มองหลี่หลง
จวนอ๋องตงไห่ ลั่วอวี้จู๋มองเหล่าทหารที่ลำเลียงปลาหวงฮื้อใหญ่เข้ามาในวังทีละคันรถ ในดวงตาเต็มไปด้วยความยินดี “องค์รัชทายาท ท่านช่างยอดเยี่ยมจริงๆ! มีวิธีการจับปลานี้แล้ว ชาวบ้านทะเลตงไห่ทุกครัวเรือนก็จะได้กินเนื้อ ไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารอีกต่อไป” ความกังวลก่อนหน้านี้ของลั่วอวี้จู๋มลายหายไปสิ้น ขอเพียงชาวบ้านมีกินมีใช้ ก็จะไม่เกิดเรื่องราววุ่นวายขึ้นอีก ทุกคนอยู่อย่างสงบสุข ทะเลตงไห่ก็จะปรองดองสามัคคี การก่อกบฏก็จะสงบลงไปเอง มิเช่นนั้นหากมีคนชั่วก่อความวุ่นวาย คอยขัดขวางอยู่เบื้องหลัง สุดท้ายผู้ที่ได้รับผลกระทบก็คือเหล่าชาวบ้านอยู่ดี ซุนชิงไต้จ้องมองปลาหวงฮื้อใหญ่รถแล้วรถเล่าตาไม่กะพริบ น้ำลายไหลออกมาอย่างควบคุมไม่ได้: “ปลาหวงฮื้อใหญ่นี้ทั้งอ้วนทั้งอร่อย ชาวทะเลตงไห่คราวนี้จะได้ลิ้มรสของอร่อยแล้ว!” หลังจากได้ปลาหวงฮื้อใหญ่กลับมา ซุนชิงไต้ก็ลงครัวด้วยตนเอง ไม่ว่าจะทอด ผัด ต้ม ตุ๋น ล้วนเป็นรสเลิศแห่งโลกมนุษย์ เพียงแต่หากปลาหวงฮื้อใหญ่ไม่ได้รับการเก็บรักษาที่ดี ด้วยอุณหภูมิของทะเลตงไห่ในตอนนี้ ยิ่งปลาอ้วนเท่าใด ปริมาณโปรตีนในตัวก็ยิ่งสูง อัตราการเน่าเสียก็ยิ่งเร็วขึ้นเท่านั้น
“เปิดยุ้งฉางแจกข้าวหรือขอรับ?” พ่อบ้านชราประหลาดใจอย่างยิ่ง ข้าวสารเหล่านี้ซื้อมาเป็นพิเศษเพื่อปั่นราคา หลายวันก่อนหลู่จงหมิงเพิ่งจะกำชับไว้ว่า หากไม่มีคำสั่งของตน ห้ามผู้ใดเปิดฉางข้าวเป็นอันขาด เพียงไม่กี่วัน สถานการณ์ก็พลิกผัน การเปลี่ยนแปลงรวดเร็วจนน่าตกใจ ทำให้คนตั้งตัวไม่ติด พ่อบ้านยังไม่เข้าใจเจตนาของหลู่จงหมิง หลู่จงหมิงเอ่ยเสียงเข้ม: “ฉวยโอกาสตอนที่พวกตระกูลขุนนางยังไม่เริ่มเทขายข้าวสารในมือ ชิงลงมือก่อนได้เปรียบ! มิฉะนั้นราคาจะยิ่งต่ำลงไปอีก!” “บัดนี้จงนำข้าวสารในมือพวกเราทั้งหมดเทขายออกไปในราคาต่ำสุด! ขอเพียงขายออกไปได้ จะต่ำเพียงใดก็ได้!” หลู่จงหมิงกลัวสถานการณ์เช่นนี้ที่สุด หลี่หลงหลินสอนชาวบ้านจับปลา ไม่เพียงแต่ได้ใจประชาชน แต่ยังแก้ปัญหาเรื่องอาหารที่คับขันได้อีกด้วย สุดท้าย ก็เหลือเพียงตนเองที่ขาดทุนย่อยยับไม่เหลือแม้แต่กางเกงใน หลู่จงหมิงเอ่ยเสียงเข้ม: “ไม่ได้! ข้าจะไปขายข้าวด้วยตนเอง!” ผู้ได้ใจประชาชนย่อมได้ครอบครองแผ่นดิน ในความคิดของหลู่จงหมิง บัดนี้ขอเพียงยอมขายข้าวให้ชาวบ้าน ก็จะเป็นผู้ช่วยให้รอดในใจของชาวบ้านแล้วแม้ว่าจะช้ากว่าหลี่หลงหลิ
หญิงชรามองสุ่ยเซิง เอ่ยอย่างจริงจัง: “สุ่ยเซิง เจ้าบอกความจริงกับแม่มา เจ้าไปลักขโมยปลาของผู้อื่นมาพร้อมกับเถี่ยจู้ใช่หรือไม่?” ในความคิดของหญิงชรา หากไม่ใช่การลักขโมย วันเดียวจะหาปลาได้มากมายเช่นนี้ได้อย่างไร? สุ่ยเซิงยิ้มแล้วชี้ไปยังชาวประมงที่บรรทุกปลาเต็มลำกลับมา: “ท่านแม่! ลูกจะไปลักขโมยปลาของผู้อื่นได้อย่างไร ปลาเหล่านี้ล้วนจับมาได้จากทะเลตามวิธีที่องค์รัชทายาททรงสอนด้วยพระองค์เอง ท่านดูสิ ทุกคนก็จับมาได้ไม่น้อย” หญิงชรามองไป พบว่าชาวประมงที่กลับมาต่างก็มีปลาหวงฮื้อใหญ่ติดมือมาไม่มากก็น้อย เพียงแต่สุ่ยเซิงโชคดีกว่า จับปลาได้มากกว่าเล็กน้อย “องค์รัชทายาททรงสอนพวกเจ้าด้วยพระองค์เองหรือ?” หญิงชรามีสีหน้าลังเล สุ่ยเซิงพยักหน้า ชี้ไปยังท่าเทียบเรือที่ไม่ไกลนัก: “เมื่อวานก็ที่ตรงนั้น องค์รัชทายาทไม่เพียงแต่แบ่งปลาให้พวกเรา ยังทรงสอนวิธีการจับปลาให้พวกเราโดยเฉพาะ ถ่ายทอดเคล็ดวิชาให้พวกเราอย่างไม่ปิดบัง” ฟุบ! หญิงชราทรุดตัวลงนั่งกับพื้น พนมมือ ดวงตาพร่ามัวด้วยน้ำตา: “สวรรค์มีตา สวรรค์มีตาโดยแท้! ต้าเซี่ยมีองค์รัชทายาทเช่นนี้ วันคืนอันแสนลำบากของพวกเราชาวบ้าน ในที่สุดก็จ